Home > Science > สวทช.จับมือ กรมสรรพากร , สรอ. เปิด “ระบบ RDC Online” พลิกโฉมรับรองเอกชนทำวิจัยยกเว้นภาษี 200%

สวทช.จับมือ กรมสรรพากร , สรอ. เปิด “ระบบ RDC Online” พลิกโฉมรับรองเอกชนทำวิจัยยกเว้นภาษี 200%

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช. ) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ กรมสรรพากร และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ( สรอ. ) จัดงานแถลง ข่าว “เปิดตัวระบบ RDC Online” ให้บริการยื่นขอรับรองโครงการวิจัยฯ ยกเว้นภาษี 200% ผ่านอินเทอร์เน็ต ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ง่ายต่อการตรวจสอบและติดตามผลพร้อมรองรับการ
เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC ) ทั้งนี้เพื่อเร่งส่งเสริมภาคเอกชนทำวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีให้สร้างสรรค์ นวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันจะทำให้เกิดเพิ่มมูลค่าเพิ่มและ การลงทุนของภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่าง ประเทศ
Info_RDC-Online_Create-outline-A4-12-03-57
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. ) กล่าวว่าเนื่องจากผู้ประกอบการภาคเอกชนมีความตื่นตัวของการทำงานวิจัยและ พัฒนาเทคโนโลยี มากขึ้น ซึ่งจากข้อมูลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ในปีงบประมาณ 2554-56) มีมูลค่า โครงการที่ได้รับการพิจารณารับรองเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าของมูลค่าโครงการที่ได้รับรองของปีงบ
ประมาณ 2552 การนี้ สวทช.ร่วมกับ กรมสรรพากร และ สรอ. จึงได้พัฒนาระบบสนับสนุนการ ดำเนินงานรับรองโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ของผู้ประกอบการภาคเอกชน ที่เรียกว่า “ระบบ RDC Online” เพื่อนำมาให้บริการและอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะทำให้เกิดความคล่องตัว มีความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินการมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังจะ สามารถติดตามและตรวจสอบผลการดำเนินงานการขอรับรองโครงการของ ผู้ประกอบการภาค เอกชนได้ตามความต้องการทันที อีกทั้งตัวระบบได้ออกแบบให้มีส่วนช่วยป้องกันและการรักษาข้อมูล ความลับของ โครงการวิจัยที่มีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐานสากล

สำหรับการใช้บริการยื่นขอรับรองโครงการวิจัย ฯ ยกเว้นภาษี 200 % ผ่านอินเทอร์เน็ต ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย โดยเข้าไปใช้บริการได้ที่ https://www.rdconline.nstda.or.th ซึ่ง ระบบดังกล่าวจะช่วยร่นระยะเวลาในการพิจารณารับรองผลโครงการจากเดิมได้ ไม่น้อยกว่า 1-2 เดือน อย่างไรก็ตาม การนำระบบ RDC Online มาให้บริการจะสามารถเป็นแรงจูงใจ สร้างความมั่นใจในการบริการและความปลอดภัยข้อมูล และเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการยื่นขอรับรอง โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของ ผู้ประกอบการภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การเพิ่มมูลค่า การลงทุนและความเข้มข้นด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ในภาคเอกชนให้สร้างสรรค์นวัตกรรม อันจะทำให้ภาคอุตสาหกรรมของประเทศมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่ทัดเทียม สากลและเติบโต ได้อย่างยั่งยืนและตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นการ ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่ม ขึ้นเป็น 1% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ในประเทศไทยภายในปี 2559 คาดว่าเมื่อระบบ เริ่มเปิดใช้งานในปี 57 นี้แล้ว จะมีการขอใช้บริการไม่ต่ำกว่า 100 บริษัท กว่า 600 โครงการ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทขึ้นไป

View :1765

Related Posts

Categories: Science Tags:
  1. No comments yet.
  1. No trackbacks yet.
You must be logged in to post a comment.