Home > Press/Release > เอชพีส่งโซลูชั่น FlexNetwork สมรรถนะสูง รองรับระบบวิดีโอ และโมบาย คอมพิวติ้ง

เอชพีส่งโซลูชั่น FlexNetwork สมรรถนะสูง รองรับระบบวิดีโอ และโมบาย คอมพิวติ้ง

เอชพีเปิดตัวโซลูชั่นใหม่บนสถาปัตยกรรม  HP FlexNetwork ล้ำสมัย และอุปกรณ์สวิตช์ HP A-series 10500 ซึ่งเป็นอุปกรณ์คอร์สวิตช์ (core switch) ในแคมปัสเน็ตเวิร์ค โดยสนับสนุนแอพพลิเคชั่นแบบมีเดียริช (media-rich) (1) ให้มีประสิทธิผลและประสิทธิภาพการทำงาน และมีการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

โซลูชั่น HP FlexManagement ใหม่คือการผนวกรวมระบบการบริหารจัดการเครือข่ายแบบปกติและแบบเวอร์ช่วลเข้าไว้ด้วยกันบนการบริหารจัดการระบบเดียว ทั้งยังมีระบบป้องกันการบุกรุก (IPS : intrusion prevention system)
ทั้งบนเครือข่ายแบบเวอร์ช่วลและแบบคลาวด์ จึงเพิ่มการรักษาความปลอดภัยภายในศูนย์ข้อมูลต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

โซลูชั่น HP FlexManagement พัฒนาบนสถาปัตยกรรม HP FlexNetwork ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบผนวกเพียงระบบเดียวในอุตสาหกรรมไอที เหมาะสำหรับองค์กรที่มีทั้งศูนย์ข้อมูล แคมปัสเน็ตเวิร์ค และสำนักงานสาขา เพื่อควบคุมและบริหารจัดการคอนเท้นท์แบบมีเดียริช การทำงานแบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น
การทำงานแบบเคลื่อนที่หรือโมบาย และระบบคลาวด์คอมพิวติ้งให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สถาปัตยกรรม HP FlexNetwork จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบเครือข่ายทั่งทั้งองค์กรจะมีเสถียรภาพและพร้อมสำหรับให้บริการ ซึ่งนับว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) ดังนั้น บริการหรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่มีอยู่ทั้งในศูนย์ข้อมูล แคมปัสเน็ตเวิร์ค และสำนักงานสาขาต่างๆ จะทำงานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น ตลอดจนขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

คุณศักดิ์ชัย ปัญญจเร ผู้อำนวยการ หน่วยธุรกิจ เอชพี ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบัน ลูกค้ามองหาผู้ให้บริการระบบที่มีความยืดหยุ่น เพื่อให้การทำงานมีความซับซ้อนลดลง แต่มีประสิทธิภาพและคล่องตัวยิ่งขึ้น ทั้งนี้ อุปกรณ์สวิตช์ใหม่สำหรับแคมปัสเน็ตเวิร์คทุกรุ่นของเอชพีมีประสิทธิภาพเหนือกว่าผลิตภัณฑ์สวิตช์ประเภทเดียวกันของซิสโก้มาก และที่เหนือกว่านั้นคือ เอชพีใช้การบริหารจัดการเพียงระบบเดียว เมื่อเทียบกับซิสโก้ที่ต้องใช้ระบบที่แตกต่างกันถึง 30 ชุด”

อุปกรณ์สวิตช์ HP A10500 ใหม่มีประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่าอุปกรณ์สวิตช์ของซิสโก้ สำหรับตลาดอุปกรณ์สวิตช์ในแคมปัสเน็ตเวิร์ค ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์อีเทอร์เน็ตสวิตช์ทั่วโลก คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 13,700 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2554 เพิ่มขึ้นจาก 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2553 (2) การพัฒนาวิทยาการใหม่ๆ สำหรับสถาปัตยกรรมอุปกรณ์สวิตช์เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการมานาน โดยมุ่งเน้นให้เครือข่ายลดความซับซ้อนลง ใช้เวลาในการเข้าถึงข้อมูลเร็วขึ้น และมีประสิทธิผลในการทำงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับคอนเท้นท์มัลติมีเดียที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อุปกรณ์สวิตช์ HP A10500 ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรได้อย่างครบถ้วน เนื่องจากสนับสนุนการให้บริการมัลติมีเดีย อาทิ ระบบวิดีโอความละเอียดสูง ทั้งยังมีความหน่วงของเวลา (latency) เพียง 3 ไมโครวินาที ซึ่งเร็วกว่าอุปกรณ์สวิตช์ Catalyst 6509 ของซิสโก้ถึงร้อยละ 75 นอกจากนี้ ยังสนับสนุนพอร์ทขนาด 10GbE แบบ wire-speed อีก 128 พอร์ท จึงให้สมรรถนะเหนือกว่าอุปกรณ์สวิตช์ Catalyst 6509 ของซิสโก้ถึงร้อยละ 270 (3)

ในแคมปัสเน็ตเวิร์คขนาดใหญ่ที่ต้องการสมรรถนะสูงในระดับซูเปอร์คอร์ สามารถตอบโจทย์ความต้องการเครือข่ายขนาด 208 พอร์ท แบบ 10 GbE wire-speed ได้ด้วยผลิตภัณฑ์ HP A10500 จำนวน 2 ตัวเชื่อมต่อกัน โดยใช้โซลูชั่น HP Intelligent Resilient Framework ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเอชพีที่รองรับอุปกรณ์สวิตช์หลายตัวให้มีการทำงานเสมือนหนึ่งเป็นอุปกรณ์สวิตช์ตัวเดียวในรูปแบบเวอร์ช่วล ทั้งยังสนับสนุนพอร์ทขนาด 100GbE ด้วยการเพิ่มเติมการ์ดใหม่

การเชื่อมต่อในระดับ access layer ของ FlexCampus ซึ่งใช้การ์ดใหม่ที่ใช้ติดตั้งในอุปกรณ์สวิตช์ E5400 และ E8200 ของเอชพีจะใช้เวลาในการเข้าถึงข้อมูลลดลงถึงร้อยละ 90 ทั้งยังให้ประสิทธิผลการทำงานเหนือชั้นกว่าอุปกรณ์สวิตช์ Catalyst 4506 (4) ของซิสโก้ร้อยละ 600 นอกจากนี้ โซลูชั่นอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบไร้สายความเร็วสูง HP E-MSM460 และ E-MSM466 wireless access points ของเอชพี ยังให้ความเร็วสูงเกือบเทียบเท่าระบบเครือข่ายแบบมีสายซึ่งมีสมรรถนะการทำงานแบบวิดีโอสตรีมความละเอียดสูงถึง 15 เส้นทางต่อ 1 access point เหนือกว่า access point ในซีรี่ส์ 1140 และ 3500 ของซิสโก้ร้อยละ 50 โดยมีประสิทธิภาพเหนือกว่าทั้งในเรื่องสมรรถนะและระยะทาง (1)

ผนวกระบบบริหารจัดการเครือข่ายปกติและเสมือนเข้าไว้ด้วยกันจากปัญหาการขยายตัวของระบบไอทีอย่างไร้ระเบียบ ความซับซ้อนในการใช้ระบบเครือข่ายแบบหลายชั้น และความต้องการปรับไปสู่การทำงานแบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าสามารถมาเลือกใช้สถาปัตยกรรม HP FlexNetwork เพื่อบริหารระบบเครือข่ายของตนให้ทำงานอย่างง่ายดาย และเตรียมองค์กรให้มีความพร้อมรองรับความต้องการและให้บริการต่างๆ อาทิ คลาวด์ โมบายล์คอมพิวติ้ง และเวอร์ช่วลไลเซชั่น

ในขณะที่ซิสโก้ต้องใช้ระบบการบริหารจัดการที่แตกต่างกันถึง 30 ระบบใน
การบริหารเครือข่ายของศูนย์ข้อมูล(5) แคมปัสเน็ตเวิร์ค และสำนักงานสาขาต่างๆ นั้นเอชพีได้ทำการคิดค้นและพัฒนาระบบการจัดการที่เหนือกว่าด้วยการใช้เพียงระบบเดียวโดยใช้เทคโนโลยี HP Intelligent Management Center (IMC) ที่ครอบคลุมทุกองค์ประกอบหลักในสถาปัตยกรรม HP FlexNetwork

โซลูชั่น HP IMC เวอร์ชั่น 5 ใหม่สามารถจัดการพอร์ทโฟลิโอเครือข่ายของเอชพีทั้งหมด ทั้งยังบริหารอุปกรณ์เครือข่ายอีกกว่า 2,600 ชนิดจากผู้ผลิตกว่า 35 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นของซิสโก้จำนวนมากกว่า 1,000 ชนิด จึงช่วยขจัดความเสี่ยงในการย้ายระบบจากเครือข่ายแบบมีโปรโตคอลที่ปิดกั้นเฉพาะแบบเดิมๆ ไปยังเครือข่ายมาตรฐานแบบเปิดที่ใช้สถาปัตยกรรม FlexNetwork ของเอชพี

นอกจากนี้ โซลูชั่น HP IMC เวอร์ชั่น 5 ยังสนับสนุนการเข้าดูระบบเครือข่ายศูนย์ข้อมูลแบบเสมือนและปกติได้พร้อมกันจากจุดเดียว ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้เร็วขึ้น มีการดำเนินงานที่ง่ายดายยิ่งขึ้น และมีระบบเครือข่ายที่พร้อมใช้งานมากขึ้น โดยจะทำหน้าที่ค้นหาอุปกรณ์แบบเสมือน (Virtual Machine) อุปกรณ์สวิตช์เสมือน (Virtual Switch) และการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายแบบกายภาพได้โดยอัตโนมัติ จึงสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการเพิ่มขึ้นของระบบที่เน้นการบริการแบบเสมือนเป็นหลักได้เป็นอย่างดี

เร็วๆ นี้ เอชพีเตรียมเปิดโซลูชั่น HP IMC รุ่นใหม่ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีฟีทเจอร์ใหม่ คือ การผสานข้อมูลการเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าไว้ด้วยกันอย่างอัตโนมัติ โดยใช้เทคโลยี HP Virtual Connect ที่ทำงานบนเครื่องเบลดเซิร์ฟเวอร์ ทั้งยังสนับสนุนการจัดทำโปรไฟล์เครื่องเซิร์ฟเวอร์อย่างอัตโนมัติ นับเป็นการก้าวสู่ระบบคลาวด์ โพรวิชั่นนิ่ง (cloud provisioning) ที่ควบคุมการทำงานด้วยปุ่มเดียว

มร. เฮนรี่ ฟาสเติร์ท ประธานด้านเทคโนโลยี บริษัท เอสเอชไอ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลชั้นนำระดับโลกที่มียอดขาย 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เปิดเผยว่า “เพื่อตอบสนองระบบเครือข่ายต่างๆ ที่ต้องการบริการระบบโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure as a service) รุ่นใหม่สำหรับคลาวด์เซ็นเตอร์ เราจึงต้องการสถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบเดี่ยวและปรับขยายได้ ซึ่งสามารถจัดการบนโดเมนการทำงานแบบเสมือนและปกติได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้ โซลูชั่น HP IMC จะช่วยให้เราสามารถบริหารเครือข่ายให้มีการทำงานอย่างอัตโนมัติและล้ำสมัยจากแพลทฟอร์มเดียว ส่งผลให้มีการประสานการให้บริการอย่างรวดเร็วและง่ายดาย”

สำหรับลูกค้าที่ต้องการขยายสมรรถนะการบริหารจัดการเครือข่ายที่ทรงประสิทธิภาพที่สามารถครอบคลุมระบบโครงสร้างพื้นฐานระดับองค์กรในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน โซลูชั่น HP Network Management Center 9.1 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ทโฟลิโอซอฟต์แวร์ HP Business Service Management มีประสิทธิภาพเป็นเลิศทั้งทางด้านการทำงานแบบอัตโนมัติ การเข้ากันกับระบบต่างๆ และการปรับขยายระบบ จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมากกว่าร้อยละ 90 (6)

ยกระดับระบบรักษาความปลอดภัยบนสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลและคลาวด์ สมรรถนะการทำงานของแอพพลิเคชั่นศูนย์ข้อมูลได้รับการพัฒนาให้เป็นระบบการทำงานแบบเสมือนหรือเวอร์ช่วลเพิ่มมากขึ้น ขณะที่โซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยแบบเดิมๆ ทั้งหลายจะทำหน้าที่ปกป้องเฉพาะสภาพแวดล้อมแบบปกติเท่านั้น แต่ด้วยผลิตภัณฑ์แอพพลายแอนซ์ HP TippingPoint S6100N IPS ใหม่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ  มีระบบการรักษาความปลอดภัยเพียงระบบเดียวและสามารถปรับขยายได้ โดยจะทำหน้าที่เป็นเกราะรักษาความปลอดภัยให้แก่อุปกรณ์เวอร์ช่วลที่สร้างขึ้นและนำไปใช้งานทั่วทั้งองค์กรอย่างอัตโนมัติและต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์แอพพลายแอนซ์ HP TippingPoint S6100N IPS ใหม่จะช่วยปรับขยายโซลูชั่น HP Secure Virtual Framework ให้เป็นโซลูชั่นเดียวที่ทำงานได้ทั้งในสภาพแวดล้อมแบบปกติ เวอร์ช่วล และคลาวด์ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์แอพพลายแอนซ์ HP TippingPoint S6100N IPS มีสมรรถนะเหนือกว่ารุ่นเดิมถึงร้อยละ 60 (7) ทั้งยังสามารถตรวจสอบปริมาณการใช้แอพพลิเคชั่นที่มีแบนด์วิธสูงแบบเรียลไทม์ได้ถึง 16 Gbps จึงช่วยปรับปรุงบริการสำคัญระดับ mission-critical ให้มีความพร้อมในการใช้งานมากขึ้น

มร. จอห์นนี่ เฮอร์นานเดซ รองประธานด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล บริษัท ไพรม์เลนดิ้ง ในเครือของเพลนส์แคปปิตอล กล่าวว่า “การใช้เครือข่ายแบบเวอร์ช่วลช่วยให้ธุรกิจของเรามีการดำเนินงานอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น หากไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยหรือการเสริมสร้างความพร้อมในการใช้งานของ     แอพลิเคชั่นต่างๆ จะทำให้ธุรกิจของเราไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ ด้วยโซลูชั่น HP TippingPoint S6100N IPS ใหม่ซึ่งมีฟีทเจอร์ในการตรวจสอบความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ จะทำให้เราสามารถสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการทำงานแบบเวอร์ช่วลที่มีความปลอดภัยอย่างอัตโนมัติ และทำให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงสุด”

อุปกรณ์คอร์สวิตช์ HP A10500 คาดว่าจะพร้อมนำออกจำหน่ายในครึ่งหลังของปี 2554 โซลูชั่น HP Intelligent Management Center 5.0 มีกำหนดจะนำออกจำหน่ายในเดือนมิถุนายน ศกนี้ ขณะที่โซลูชั่น HP IMC 5.1 คาดว่าจะนำออกจำหน่ายในปลายปีนี้

ผลิตภัณฑ์แอพพลายแอนซ์ HP TippingPoint S6100N IPS มีวางจำหน่ายแล้ว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่น HP Networking สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.hp.com/networking

ระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) เป็นองค์ประกอบหลักขององค์กรแบบ Instant-On Enterprise ทั้งนี้ ในโลกที่มีการเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง แนวคิดแบบ Instant-On Enterprise คือ
การนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกกิจกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พนักงาน พันธมิตร และประชาชนได้อย่างตรงจุดและโดยทันที

ทั้งนี้ เอชพีมีกำหนดจัดงาน HP DISCOVER เพื่อแนะนำเทคนิคการเตรียม
ความพร้อมเพื่อก้าวขึ้นเป็นองค์กรแบบ Instant-On Enterprise ในวันที่ 6 – 10 มิถุนายน 2554 ณ เมืองลาสเวกัส  สหรัฐอเมริกา และวันที่ 29 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม ศกนี้ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

View :1705

Related Posts

Categories: Press/Release Tags:
  1. No comments yet.
  1. No trackbacks yet.
You must be logged in to post a comment.