Home > Press/Release, Tablet > ไอดีซีฟันธงตลาดมีเดียแท็บเล็ตในเอเชียแปซิฟิกจะโตขึ้นจากปีที่แล้ว 10 เท่าในปี 2558

ไอดีซีฟันธงตลาดมีเดียแท็บเล็ตในเอเชียแปซิฟิกจะโตขึ้นจากปีที่แล้ว 10 เท่าในปี 2558

สิงคโปร์และฮ่องกง 7 กรกฎาคม 2554 – ไอดีซี บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยตลาดชั้นนำระดับโลก เผยแนวโน้มอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของตลาดอุปกรณ์ประเภทมีเดียแท็บเล็ตในช่วง 5 ปีข้างหน้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นนั้นอาจขึ้นไปแตะถึงระดับ 54% ซึ่งหมายความว่ายอดจำหน่ายอุปกรณ์ชนิดนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น  21 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าจากยอดจำหน่ายของปี 2553 ที่มีเพียง 2 ล้านเครื่องเท่านั้น โดยไอดีซีเชื่อว่าจะมีผู้บริโภคที่ใช้มีเดียแท็บเล็ตในการเล่นเกม เข้าชมเว็บไซต์ และเชื่อมต่อเครือข่ายสังคมออนไลน์แบบทุกที่ทุกเวลามากขึ้น

ในประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ออสเตรเลีย และไต้หวันนั้นมีความต้องการอุปกรณ์พกพาอย่างเช่นมีเดียแท็บเล็ตในระดับสูง ส่วนประเทศจีนเองก็มีกำลังซื้อสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ สูงเช่นกัน แต่ประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างอินโดนีเซียและมาเลเซียยังมีความนิยมในตัวมีเดียแท็บเล็ตในระดับต่ำเมื่อเทียบกับความนิยมในสินค้ามินิโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงกันแต่มีคีย์บอร์ดที่ใช้งานสะดวกกว่า

ส่วนอุปกรณ์ประเภทอีรีดเดอร์จะมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีอยู่เพียงแค่ 18% ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ อันเนื่องมาจากฟังก์ชันการทำงานที่มีเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่มีเดียแท็บเล็ตก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน และความจริงนั้นมีเดียแท็บเล็ตกลับมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าได้ด้วยซ้ำ เพราะผู้ใช้สามารถอ่านนิตยสารที่มีภาพสีโดยใช้มีเดียแท็บเล็ตได้

นายดิ๊กกี้ ชาง นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มงานวิจัยอุปกรณ์ต่อพ่วง ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของไอดีซีกล่าวว่า “ปัญหาของอีรีดเดอร์คือการที่ไม่มีคอนเทนต์ในภาษาท้องถิ่น ยกตัวอย่างเช่นประเทศจีน ที่ผู้ใช้งานหลายคนเลือกที่จะทำการดาวน์โหลดคอนเทนต์ซึ่งละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านอินเทอร์เน็ต ร้านขายหนังสือออนไลน์เองก็ไม่ได้ทำกำไรจากการขายคอนเทนต์ที่มากพอให้กับผู้ผลิตอุปกรณ์ อีกทั้งยังได้รับความกดดันจากราคาของไอแพดที่ลดลงมาอีกด้วย”

สำหรับในตลาดมีเดียแท็บเล็ต แอ๊ปเปิ้ลได้ให้ความสำคัญกับเอเชียมากขึ้นดังเห็นได้จากการเปิดตัวไอแพด2 และไอโฟน3G ในช่วงก่อนหน้านี้ ด้วยภาพลักษณ์ที่ดีและราคาที่ไม่แพงเกินไปนักทำให้แอ๊ปเปิ้ลสามารถช่วงชิงความเป็นเจ้าตลาดเหนือคู่แข่งได้ ในขณะที่ซัมซุงซึ่งโฟกัสไปที่มีเดียแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วนั้นใช้ชื่อเสียงของแบรนด์ที่แข็งแรงในภูมิภาคนี้ในการเพิ่มจำนวนยอดจำหน่าย โดยมีผู้ผลิตรายย่อยในประเทศจีนเกาะกลุ่มตามมาห่างๆ ซึ่งหากผู้ผลิตเหล่านี้สามารถพัฒนาสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ก็อาจจะอยู่รอดในตลาดเฉพาะกลุ่มได้

ตลาดอีรีดเดอร์ในปัจจุบันถูกผลักดันโดยฮันวอนและซินดาในตลาดประเทศจีน เนื่องจากผู้ผลิตทั้ง 2 รายนี้กระโดดเข้ามาเล่นในตลาดตั้งแต่ช่วงแรก อีรีดเดอร์ยังคงเป็นหนึ่งในของขวัญยอดนิยมที่ชาวจีนเลือก แต่ในระยะหลังกระแสของมีเดียแท็บเล็ตก็มาแรงเช่นเดียวกัน แต่สำหรับคินเดิ้ล ของอเมซอนนั้นยังคงได้รับความนิยมจำกัดอยู่แค่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักเช่นออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น ถึงแม้ว่าคินเดิ้ลจะมีวางจำหน่ายอยู่ในหลายประเทศในภูมิภาคนี้ก็ตาม

นางสาวเมลิซา เชา ผู้จัดการกลุ่มงานวิจัยอุปกรณ์ต่อพ่วง ประจำเอเชียแปซิฟิคของไอดีซีเสริมว่า “ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ แอ๊ปเปิ้ลจะเป็นผู้กำหนดความเร็วการเติบโตของตลาดมีเดียแท็บเล็ต ซึ่งเหล่าคู่แข่งจะต้องหาวิธีที่จะพัฒนาในสินค้าของตนโดดเด่นขึ้นมาให้ได้ ทั้งนี้เพื่อช่วยดึงไม่ให้ความสนใจของผู้บริโภคต่อแก็ดเจ็ทเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลงด้วย โดยความต้องการต่ออุปกรณ์ชนิดนี้อาจได้รับการกระตุ้นโดยภาคการศึกษา ดังเห็นได้จากตัวอย่างเมื่อเร็วๆ นี้ที่ว่าที่รัฐบาลใหม่ของประเทศไทยได้ประกาศนโยบายแจกแท็บเล็ตแอนดรอยด์จำนวน 8 แสนเครื่องให้กับนักเรียนในระดับประถมศึกษา ถึงแม้ว่าไอดีซีจะยังไม่ได้นำปัจจัยตัวนี้มาใช้ประกอบการคาดการณ์ก็ตาม”

รายงานการศึกษาตลาดมีเดียแท็บเล็ตและอีรีดเดอร์ทั่วโลกรายไตรมาสของไอดีซีนั้นได้รวบรวมข้อมูลของตลาดในเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่น ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย มาเลเซีย และเวียดนามไว้ด้วยเช่นกัน
แผนภาพ 1: การคาดการณ์ตลาดมีเดีย แท็บเล็ตและอีรีดเดอร์ในเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่น ในปี 2553 – 2558

ที่มา: IDC Worldwide Quarterly Media Tablet and eReader Tracker, 1Q11

View :1582

Related Posts

  1. No comments yet.
  1. No trackbacks yet.
You must be logged in to post a comment.