Home > Press/Release > แซส คว้าผู้นำตลาดซอฟต์แวร์วิเคราะห์การป้องกันการฟอกเงิน

แซส คว้าผู้นำตลาดซอฟต์แวร์วิเคราะห์การป้องกันการฟอกเงิน

ได้รับการยกย่องถึงความสามารถที่เหนือกว่าในด้านการวิเคราะห์และการทำสถิติสำหรับลูกค้า

รายงานการประเมินผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ด้านการป้องกันการฟอกเงิน ทั่วโลก: ตลาดที่มีความตื่นตัวอย่างมาก (Global Anti-Money Laundering Vendor Evaluation: A Reinvigorated Market) ของบริษัท ไอต์ กรุ๊ป (Aite Group) จัดอันดับให้ SAS Anti-Money Laundering จากการเป็นผู้นำตลาดซอฟต์แวร์และบริการด้านการวิเคราะห์เชิงธุรกิจให้กลายเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านซอฟต์แวร์การป้องกันการฟอกเงิน (AML) โดยบริษัท ไอต์ กรุ๊ป ได้ดำเนินการสัมภาษณ์สถาบันการเงิน 36 แห่ง และกลุ่มผู้ขายชั้นนำในตลาด AML ทั่วโลกจำนวน 18 รายระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน 2554 โดยองค์กรทางการเงินได้ครอบคลุมใน 5 ทวีปและมีมูลค่าสินทรัพย์ตั้งแต่ 800 ล้านดอลลาร์ถึงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายงานดังกล่าว ได้กล่าวถึงคุณสมบัติด้านการวิเคราะห์ การผสานรวมข้อมูลแบบภาพ สถานการณ์จำลองที่มีการจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า และความสามารถในการปรับขนาดได้ว่า เป็นความแข็งแกร่งที่มีอยู่ในแซส โดยได้รับคะแนนสูงทั้งในด้านประสิทธิภาพและการตอบสนองการบริการของลูกค้า จะเห็นได้ว่า SAS Anti-Money Laundering ใช้การวิเคราะห์ เพื่อแจ้งเตือนได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาลให้กับธนาคาร โดยการลดผลบวกลวงและไม่มีการใช้ทรัพยากรด้านการสืบสวนสอบสวน

“บริษัท แซสได้นำขีดความสามารถด้านการวิเคราะห์ที่มีพลังอย่างมากให้กับตลาดแห่งนี้ ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งให้กับรากฐานของโซลูชั่นทางด้านสถิติ” นางจูลี คอนรอย แมคเนลลีย์ นักวิเคราะห์อาวุโสด้านแนวทางปฏิบัติสำหรับธนาคารเพื่อรายย่อย บริษัท ไอต์ กรุ๊ป กล่าว และว่า “บริษัท แซส มีสถานการณ์จำลองที่มีการเตรียมไว้ล่วงหน้า ได้อย่างครอบคลุมและมาพร้อมกับโซลูชั่นที่ง่ายต่อการปรับใช้ตามต้องการของสถาบันทางการเงิน โดยสถาปัตยกรรมของโซลูชั่นดังกล่าวยังเหมาะอย่างยิ่งกับสถาบันที่มีขนาดเล็กซึ่งไม่มีคลังข้อมูล (Data Warehouse) เนื่องจากมีโครงสร้างของข้อมูลในการสร้างข้อมูลขนาดเล็ก(Data Mart) และสามารถรองรับจำนวนของข้อมูลที่มีความแตกต่างแต่มีความสัมพันธ์กันได้”

บริษัท ไอต์ กรุ๊ป ตั้งข้อสังเกตว่า “บริษัท แซส ยังพร้อมให้บริการโซลูชั่นของเทราดาต้าสำหรับ [สถาบัน] ขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยจะเห็นได้จากการพิสูจน์แนวคิดนี้ผ่านลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง และบริษัท แซส ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประมวลผลทรานแซคชันได้ถึง 2.5 พันล้านรายการภายในหน้าต่างการประมวลผลแบบแบ่งส่วน”

รายงานฉบับนี้ยังได้กล่าวว่าตลาดซอฟต์แวร์ AML ทั่วโลกปัจจุบันมีมูลค่า 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะขยายตัว ในอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ระดับ 9% และในอีก 5 ปีนับจากนี้มีมูลค่าถึง 690 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 โดยปัจจัยสำคัญที่ผลักดันตลาดให้เติบโต ได้แก่ อัตราการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ตะวันออกกลางและแอฟริกา สถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่หกำลังเปลี่ยนโซลูชั่นรุ่นเก่า และสถาบันการเงินขนาดเล็กที่ดำเนินการเปลี่ยนกระบวนการดำเนินงานแบบทำด้วยตนเองมาเป็นโซลูชั่นแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า โซลูชั่น AML ครอบคลุมถึงการตรวจสอบทางธุรกิจของลูกค้า การติดตามตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัย การจัดการกรณีต่างๆ และการกรองรายชื่อที่ต้องได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ ซึ่งทั้งหมดนี้มีพร้อมให้บริการใน SAS Anti-Money Laundering

ทั้งนี้ SAS Anti-Money Laundering เป็นส่วนหนึ่งของ SAS Enterprise Financial Crimes Framework for Banking ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีด้านการป้องกัน ตรวจหา และจัดการอาชญากรรมทางการเงินที่ครอบคลุมสายธุรกิจภายในแวดวงธนาคารปัจจุบัน

สำหรับสถาบันการเงินที่เลือกใช้ SAS Anti-Money Laundering แล้วในขณะนี้มีจำนวนกว่า 114 แห่ง อาทิ ธนาคารแบนโก เดอ โอโร ยูนิแบงก์ (ฟิลิปปินส์) ธนาคารควีนส์แลนด์ (ออสเตรเลีย) ธนาคารไชน่าคอนสตรัคชั่น (ฮ่องกง) คอสทัล เฟเดอรัล เครดิต ยูเนียน (สหรัฐอเมริกา) ธนาคารคอมมอนเวลธ์แห่งออสเตรเลีย (ออสเตรเลีย), ธนาคารเพื่อการพัฒนาฟิลิปปินส์ (ฟิลิปปินส์) ธนาคาอีออน (มาเลเซีย) ธนาคารฟุบอน(ฮ่องกง), ธนาคารฮานา (เกาหลี) ธนาคารอุตสาหกรรม (เกาหลี) ธนาคารคุคมิน (เกาหลี) ธนาคารที่ดินแห่งฟิลิปปินส์ (ฟิลิปปินส์) ธนาคารทหารผ่านศึกฟิลิปปินส์ (ฟิลิปปินส์) บริษัท ซัมซุง ซีเคียวริตีส์ (เกาหลี) และ ธนาคารซอฟเวอเรน (สหรัฐอเมริกา)

นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย ขณะนี้ธนาคารหลายแห่งกำลังศึกษาโซลูชั่นป้องกันการฟอกเงิน เนื่องจากพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้มีการออกเป็นกฎหมายเรียบร้อยแล้ว โดยแซส ได้ติดตั้งโซลูชั่นป้องกันการฟอกเงินให้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อนำไปใช้ตรวจสอบและติดตามบัญชีลูกค้าทั้งในส่วนของบัญชีเดิมที่มีความเคลื่อนไหวรวมทั้งบัญชีใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของธนาคารเป็นที่เรียบรอยแล้ว และขณะนี้ยังธนาคารอีกหลายแห่งที่แซสได้เข้าไปนำเสนอโซลูชั่นดังกล่าว

View :1567

Related Posts

  1. No comments yet.
  1. No trackbacks yet.
You must be logged in to post a comment.