Home > E-Commerce, Press/Release, Technology > กทท. จัดเสวนาเตรียมความพร้อมใช้ระบบ e-Gate เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ

กทท. จัดเสวนาเตรียมความพร้อมใช้ระบบ e-Gate เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ

September 19th, 2011 Leave a comment Go to comments

การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดเสวนาการผ่านเข้า-ออกประตูตรวจสอบอัตโนมัติ () สำหรับผู้ประกอบการ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และพนักงาน กทท. รวมกว่า 250 คน ในวันที่ 20 กันยายน 2554 นี้ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติงานร่วมกัน รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นายเฉลิมชัย มีคุณเอี่ยม ผู้อำนวยการการท่าเรือฯ เปิดเผยว่า กทท.จะจัดเสวนาการผ่านเข้า-ออกประตูตรวจสอบอัตโนมัติ (e-Gate) สำหรับผู้ประกอบการหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและพนักงาน กทท. รวมกว่า 250 คน ในวันที่ 20 กันยายน 2554 นี้ ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารที่ทำการ กทท.เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในระเบียบ ประกาศที่เกี่ยวข้องกับระบบ e-Gate และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งเพื่อให้การปฏิบัติงานมีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมี ผศ.ดร.สมนึก คีรีโต ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและ อ.สุรชัย กรีวัชรินทร์ ผู้จัดการโครงการสถาบันฯ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรือตรี ทรงธรรม จันทประสิทธิ์ นักบริหาร 15 ประจำผู้อำนวยการ กทท. และเจ้าหน้าที่ระดับสูง กทท. ร่วมเป็นวิทยากรในการเสวนาฯ

สำหรับการพัฒนาและติดตั้งระบบควบคุมการผ่านเข้า-ออก (e-Gate) ที่ ทกท. ตามโครงการพัฒนาสู่การบริการในระบบท่าเรืออิเล็กทรอนิกส์ () นั้น ขณะนี้ระบบฯ ดังกล่าวผ่านการทดสอบความพร้อมในการปฏิบัติงานและได้ทดลองระบบฯ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ควบคู่กับการเปิดลงทะเบียนทำบัตรอนุญาตบุคคลและยานพาหนะผ่านเข้า-ออก ทกท. สำหรับผู้ใช้บริการ โดยมีกำหนดเปิดใช้งานระบบ e-Gate เต็มรูปแบบทุกช่องทางในวันที่ 1 ตุลาคม 2554 นี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริการตามมาตรฐานสากลและสอดคล้องตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของเรือและท่าเรือระหว่างประเทศ หรือ ISPS Code (International Ship and Port Facilities Security Code)

ทั้งนี้ ได้มีการดำเนินการติดตั้งระบบ e-Gate ดังกล่าวที่ประตูด่านตรวจสอบจำนวน 3 ประตู และประตูด่านควบคุมภายในเขตรั้วศุลกากร ทกท. จำนวน 4 ประตู โดยเป็นการทำงานระบบอัตโนมัติด้วยการใช้เทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) ในการอ่านหมายเลขตู้สินค้าและ RFID (Radio Frequency Identification) ในการตรวจสอบสิทธิบุคคลและยานพาหนะที่ผ่านเข้า-ออก ทกท. ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถตรวจสอบหมายเลข สภาพความชำรุดเสียหายของตู้สินค้า รวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ของยานพาหนะที่ผ่านเข้า-ออกตามบัตร RFID ได้ทันที ซึ่งเจ้าของสินค้าจะต้องแจ้งข้อมูลทั้งหมดล่วงหน้า และมีการบันทึกลงบัตร RFID โดยกระบวนการตรวจสอบโดยผ่านบัตร RFID ดังกล่าว จะใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที/คัน ซึ่งจะสามารถลดขั้นตอนด้านเอกสาร เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการตรวจสอบข้อมูล การจราจรมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น เพิ่มศักยภาพด้านการรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการ

View :1633

Related Posts

  1. No comments yet.
  1. No trackbacks yet.
You must be logged in to post a comment.