Home > Press/Release, Technology > ฟูจิตสึเปิดแผนรุกตลาดครึ่งปีหลังมุ่งเจาะตลาดองค์กรพร้อมเน้นเพิ่มยอดขายต่างจังหวัดยิ่งขึ้น

ฟูจิตสึเปิดแผนรุกตลาดครึ่งปีหลังมุ่งเจาะตลาดองค์กรพร้อมเน้นเพิ่มยอดขายต่างจังหวัดยิ่งขึ้น

ฟูจิตสึเชื่อกำลังซื้อกลับมาแน่หลังสถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้น พร้อมเปิดแผนเดินหน้าลุยทำตลาดครึ่งปีหลัง โฟกัสตลาดองค์กรเน้นการขายแบบโปรเจค ปูพรมเพิ่มยอดขายตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น มั่นใจสร้างธุรกิจเติบโต 30-40% พร้อมประกาศแคมเปญ 123 ตอกย้ำความเป็นผู้นำทางธุรกิจโน้ตบุ๊กระดับโลก หลังครองผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์พกพาอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น

นายวรวุฒิ โกศลกิจวงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกนั้นผลการดำเนินธุรกิจ (เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2554) ที่ผ่านมาของฟูจิตสึ โน้ตบุ๊ก ในตลาดเมืองไทยนั้นมีการเติบโตขึ้นถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินธุรกิจช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยฟูจิตสึมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 1-2% สำหรับแผนการรุกตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง ทางบริษัทจะเน้นไปเจาะตลาดองค์กรในลักษณะของโปรเจคมากขึ้น รวมทั้งเน้นการขายผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นด้วย

นายวรวุฒิ โกศลกิจวงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด


สำหรับกลยุทธ์และกิจกรรมทางการตลาดที่จะใช้เจาะตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง ในส่วนของรีเทลทางบริษัทจะเน้นทำยอดขายโน้ตบุ๊กรุ่นหน้าจอ 14 นิ้วเป็นหลัก และจะมีการขยายช่องทางใหม่ๆ มากขึ้น ส่วนตลาดองค์กรจะเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่น MIJ (Made in Japan) ทั้งหมด รวมไปถึงการทำตลาดแท็บเลต ซึ่งตอนนี้เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง พร้อมทั้งวางแผนการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มขึ้น และเน้นในส่วนของโรดโชว์ตามตึกไอที โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด

ในด้านของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายอีกหลากหลายรุ่น โดยมีรุ่นไฮไลต์ที่กำลังจะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย คือ ฟูจิตสึ ไลฟ์บุ๊ก SH771 โน้ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด จนกลายเป็นโน้ตบุ๊กที่บางเบามากขึ้น ด้วยน้ำหนักเพียง 1.22 กิโลกรัม ยิ่งไปกว่านั้นยังตอบสนองการทำงานได้ยาวนานกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้นานถึง 18 ชั่วโมง ที่สำคัญฟูจิตสึยังคงยึดมั่นในเรื่องของรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะวัตถุดิบที่นำมาทำแบตเตอร์รี่เป็นรีไซเคิล รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ยังคงประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

“เราตั้งเป้าหมายในช่วงครึ่งปีหลังจะต้องรักษาอัตราการเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 30-40% และมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 2%” นายวรวุฒิ กล่าวและเพิ่มเติมว่า “แนวโน้มการแข่งขันครึ่งปีหลังในตลาดคอนซูเมอร์โน้ตบุ๊กหน้าจอ 14 นิ้ว จะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของราคาที่จะลดลงต่ำมาก ทางฟูจิตสึจึงมีการเพิ่มน้ำหนักให้กับตลาดองค์กรมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้”

ส่วนผลกระทบที่เกิดจากภาวะน้ำท่วมใหญ่นั้น นายวรวุฒิ กล่าวว่าอาจจะมีผลกระทบกับยอดขายโดยรวมของฟูจิตสึบ้าง เนื่องจากตลาดหลักอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทำให้กำลังซื้อของลูกค้าลดลงประมาณ 20% อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากำลังซื้อจะกลับมาดีขึ้นในไตรมาสถัดไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้ผลกระทบจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ จะมีผลให้ค่ายคอมพิวเตอร์มีการปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ในอนาคตอันใกล้นี้ แม้ว่าปัจจุบันยังคงราคาจำหน่ายเดิมอยู่ก็ตาม แต่เนื่องจากฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟขาดตลาด ทำให้การผลิตโน้ตบุ๊กได้ไม่เพียงพอกับความต้องการตลาด

จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในประเทศครั้งนี้ ทางฟูจิตสึได้มีการช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยสามารถนำเครื่องโน้ตบุ๊กเข้ามารับบริการได้ที่ศูนย์บริการฟูจิตสึ อาคารคิวเฮ้าส์ เพลินจิต ซึ่งจะไม่คิดค่าบริการซ่อมสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

นอกจากนี้นายวรววุฒิ ยังได้กล่าวถึงแคมเปญใหม่ล่าสุดของฟูจิตสึ คือแคมเปญ 123 ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กของโลกในโอกาสที่ฟูจิตสึได้ครองอันดับ 1 ในญี่ปุ่น โดยฟูจิตสึได้รับรางวัลให้เป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น จากสถาบัน International Data Corporation หรือ IDC และฟูจิตสึยังมีประวัติศาสตร์ด้านการผลิตแท็บเลต ตั้งแต่สมัยแรกที่คอมพิวเตอร์แบบพกพาเพิ่งเป็นที่นิยม โดยในปี 1991 ฟูจิตสึได้ออกผลิตภัณฑ์พ็อกเก็ตพีซีเป็นเครื่องแรก และในปี 2011 นี้ฟูจิตสึได้เปิดตัว พีซีพกพาหน้าจอสัมผัส STYLISTIC Q550 เครื่องคอมพิวเตอร์แบบ slate ยิ่งไปกว่านั้นในปี 2011 ถือเป็นปีครบรอบที่ฟูจิตสึได้ผลิตและพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาครบ 30 ปี ตั้งแต่ปี 1981 ฟูจิตสึได้เติบโตเคียงข้างกับลูกค้าและได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองทุกความต้องการ ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีระดับแนวหน้าและที่สำคัญเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในตอนท้ายนายวรวุฒิ ยังได้แนะนำ นางสาวบริจิต ผลดี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ของ บจก.ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิค ที่จะมาทำหน้าที่ดูแลเรื่องการตลาดทั้งหมดและกิจกรรมส่งเสริมการขาย รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะผลักดันและเพิ่มยอดขายให้กับฟูจิตสึ

View :1400

Related Posts

  1. No comments yet.
  1. No trackbacks yet.
You must be logged in to post a comment.