Home > Press/Release, Technology > ไอดีซีคาดตลาดพรินเตอร์ไทยจะโตเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในปีหน้า

ไอดีซีคาดตลาดพรินเตอร์ไทยจะโตเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในปีหน้า

ไอดีซีเปิดเผยการคาดการณ์ทิศทางของตลาดพรินเตอร์ในประเทศไทย ว่าผลกระทบต่างๆ ที่มาจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมและกำลังซื้อโดยรวมที่อ่อนตัวลงในช่วงสิ้นปีนี้ จะทำให้ตลาดพรินเตอร์ในปี 2555 ขยายตัวขึ้นเล็กน้อยเพียงแค่ 2% เท่านั้น โดยกำลังซื้อจากภาคครัวเรือนจะเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากต้องแบกรับภาระรายจ่ายในเรื่องของการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและข้าวของเครื่องใช้ที่เสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนน่าจะกลับมาเป็นปกติได้ในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 แต่อย่างไรก็ตามกำลังซื้อจากภาคธุรกิจและรัฐบาลยังอยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลให้ตลาดรวมไม่ชะลอตัวลงมากนัก

นายสุรเดช สุวรรณโชติรัศมี นักวิเคราะห์สายงานศึกษาตลาดเครื่องพิมพ์ประจำไอดีซีประเทศไทยระบุว่า “ในปีหน้าน่าจะมีปริมาณจัดส่งเครื่องพรินเตอร์อยู่ที่ 1.76 ล้านเครื่อง โดยจะเป็นพรินเตอร์ชนิดอิงค์เจ็ทประมาณ 70% ส่วนชนิดเลเซอร์จะมีประมาณ 26% ตลาดอิงค์เจ็ทมีแนวโน้มจะขยายตัว 4% เมื่อเทียบกับปีนี้ ซึ่งเป็นเพราะมีแรงซื้อจากกลุ่มเอสเอ็มอีที่ต้องซื้อพรินเตอร์ไปทดแทนเครื่องเก่าที่เสียหายจากน้ำท่วม แต่ในทางกลับกัน ตลาดเลเซอร์นีแนวโน้มที่จะหดตัวลงในปีหน้า เป็นเพราะสินค้าบางส่วนที่เคยถูกนำมาจัดโปรโมชันขายควบคู่กับโน็ตบุ๊คนั้นจะลดลงตามยอดจัดส่งของโน็ตบุ๊คที่ชะลอตัวอันเนื่องมาจากปัญหาเรื่องฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ขาดตลาดด้วย”

สำหรับภาพรวมของสถานกาณ์ตลาดพรินเตอร์ล่าสุดในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้นั้น ไอดีซีพบว่ามียอดจัดส่งพรินเตอร์เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 โดยตลาดเลเซอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ถึง 25% อันเป็นผลมาจากการใช้จ่ายงบประมาณของธุรกิจในภาคเอกชนที่มักจะมีการใช้จ่ายสูงในช่วงนี้ของปีอยู่แล้ว ในขณะที่ตลาดอิงค์เจ็ทที่มีอัตราความต้องการซื้อพรินเตอร์แบบมัลติฟังก์ชันเพื่อทดแทนพรินเตอร์แบบซิงเกิลฟังก์ชันเพิ่มสูงขึ้น ก็เติบโตได้ถึง 19% ส่วนพรินเตอร์แบบด็อทเมตริกซ์มียอดจัดส่งที่ลดลงตามการขาดตลาดของสินค้าบางรุ่นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสายการผลิตที่เสียหายจากเหตุการณ์ซึนามิที่ญี่ปุ่น

ยอดการจัดส่งพรินเตอร์ในประเทศไทยปี 2554

ที่มา: IDC’s Asia/Pacific Quarterly HCP Tracker, 3Q 2011

นอกเหนือจากนี้ ไอดีซียังพบว่าส่วนต่างของราคาระหว่างพรินเตอร์อิงค์เจ็ทแบบมัลติฟังก์ชันและซิงเกิ้ลฟังก์ชันลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในรุ่นที่มีราคาระหว่าง 3,000 – 4,500 บาท เป็นเพราะผู้บริโภคหันมานิยมซื้อแบบมัลติฟังก์ชันมากกว่า และนี่เองป็นเหตุให้ตลาดพรินเตอร์อิงค์เจ็ทแบบมัลติฟังค์ชันในไตรมาสที่ 3 เติบโตขึ้น 27% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2

นายสุรเดชยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “เราคาดว่าในปีหน้าพรินเตอร์ไร้สายจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคทั้งภาคครัวเรือนและเอสเอ็มอีมากขึ้น ในไตรมาสที่ 3 พรินเตอร์ไร้สายมียอดจัดส่งเพิ่มขึ้น 345% และกระแสความนิยมน่าจะเพิ่มขึ้นเช่นนี้ต่อไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า”

“เราอาจจะได้เห็นเวนเดอร์ลงทุนในเรื่องของการพัฒนาสินค้าและทำการตลาดอย่างจริงจัง เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่อย่างเทคโนโลยีการพิมพ์ผ่านคลาวด์เกิดขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ก็เพื่อขยับแซงหน้าคู่แข่ง ซึ่งจริงๆ แล้วบางเวนเดอร์ได้เริ่มนำพรินเตอร์ที่สามารถสั่งพิมพ์ผ่านคลาวด์ได้มาทำตลาดในประเทศไทยในช่วงสิ้นปีนี้แล้วด้วยซ้ำ”

View :1425

Related Posts

  1. No comments yet.
  1. No trackbacks yet.
You must be logged in to post a comment.