Archive

Archive for the ‘3G’ Category

ทรูมูฟ เอช จับมือ ซัมซุง รุกตลาดซิมเติมเงิน 3G+ บนสมาร์ทโฟน

April 15th, 2012 No comments

จัดโปรโมชั่นแนวใหม่ไม่ซ้ำใคร ให้ลูกค้ารับค่าเครื่องคืน 100% เมื่อซื้อ Samsung Galaxy Y พร้อมเปิดใช้ซิมทรูมูฟ เอช 3G+ แบบเติมเงิน

เดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง บุกตลาดสมาร์ทโฟนแบบเติมเงิน ตอบรับเครือข่าย 3G+ ครอบคลุมทั่วประเทศ ประกาศจับมือกับ จัดโปรโมชั่นแนวใหม่ ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด ด้วยแนวคิด “รับค่าเครื่องคืนเต็ม 100%” เพียงซื้อสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Y มูลค่า 4,790 บาท พร้อมเปิดใช้ซิมทรูมูฟ เอช 3G+ แบบเติมเงินที่มาพร้อมในแพ็คเกจ โดยทุกครั้งที่เติมเงิน ลูกค้าจะได้รับโบนัสคืนเท่ากับมูลค่าที่เติมเงินในแต่ละครั้ง สูงสุด 4,790 บาท คุ้มสุดๆ เหมือนได้รับค่าเครื่องคืน 100% สัมผัสชีวิตอิสระผ่านเครือข่าย 3G+ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ Samsung Galaxy Y พร้อมซิมทรูมูฟ เอช แบบเติมเงิน ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2555 ที่ร้านทรูช็อปและร้านตัวแทนจำหน่าย Samsung ทั่วประเทศ

นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ ธุรกิจโมบายล์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรูมูฟ เอช ขยายฐานลูกค้าแบบเติมเงิน ให้คนไทยทั่วประเทศเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมออนไลน์เต็มสปีดบนเครือข่าย 3G+ ที่ใช้งานได้จริงครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดในไทย ด้วยโปรโมชั่น ‘รับค่าเครื่องคืน 100%’ แนวคิดใหม่ครั้งแรกของตลาดโทรคมนาคมไทยที่จำหน่ายสมาร์ทโฟน 3G พร้อมซิมเติมเงิน แถมคืนโบนัสใช้งานเต็มจำนวนเท่ากับมูลค่าเครื่องที่ลูกค้าซื้อ ล่าสุดร่วมกับ ซัมซุง นำ Samsung Galaxy Y สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กสเป็คแรงที่ขายดีที่สุดในปัจจุบัน มาจำหน่ายพร้อมกับซิมทรูมูฟ เอช 3G+ แบบเติมเงิน โดยทุกครั้งที่เติมเงิน ลูกค้าจะได้รับโบนัสคืนเท่ากับมูลค่าที่เติมเงินในแต่ละครั้ง จนครบ 4,790 บาท ซึ่งสามารถใช้เป็นทั้งค่าโทร SMS MMS และดาต้า ได้เต็มมูลค่า จึงเหมือนลูกค้าได้รับค่าเครื่องคืน 100% ทั้งนี้ การทำตลาดพร้อมกับสมาร์ทโฟนที่รองรับ 3G ครั้งนี้ ยังเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้บริการได้สัมผัสประสบการณ์ 3G เต็มรูปแบบ ด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมมากที่สุด โปรโมชั่นโดนใจ รวมถึงแพ็กเกจเสริมหลากหลายสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ทั้งโทรและเล่นเน็ต ทรูมูฟ เอช จึงมั่นใจว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าแบบเติมเงินได้ทั่วประเทศ พร้อมๆ ไปกับการขยายการให้บริการ 3G+ เช่นกัน”

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุงได้สร้างและบุกเบิกตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนในวันนี้เราได้ก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการแข่งขันในปัจจุบันค่อนข้างเข้มข้น ทั้งนี้เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยี 3G ในประเทศไทยทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจเลือกใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น ผนวกกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งจากเดิมการใช้งานโทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคเป็นเพียงแค่อุปกรณ์สำหรับ การติดต่อสื่อสารเท่านั้น แต่ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือได้ขยายไปสู่การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น เรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ต่อเนื่องสังคม และเอ็นเตอร์เทนเมนท์ผ่านดีไวซ์เพียงเครื่องเดียว ซัมซุงได้นำเสนอ ‘ซัมซุง กาแล็คซี่ วาย (Samsung Galaxy Y)’ สมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก สเป็คแรงที่รองรับ 3G และ WiFi พร้อม CPU ความเร็วสูงถึง 832 MHz ซึ่งสามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ในราคาเพียง 4,790 บาท โดยทางซัมซุงหวังว่าจะสามารถเจาะกลุ่มวัยรุ่นและผู้เริ่มลองใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ซึ่งการที่ซัมซุงได้จับมือกับทรูมูฟ เอช ผู้ให้บริการเครือข่าย 3G+ ในครั้งนี้ จะช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น ทั้งยังส่งเสริมให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายทั่วประเทศได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งซัมซุงมองว่าจะเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาสมาร์ทโฟนในเมืองไทย เพื่อมอบประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้บริโภคที่มีความต้องการด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

‘รับค่าเครื่องคืน 100%’ ให้ลูกค้ารับสิทธิ์สะสมโบนัสได้ภายในระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่เปิดใช้บริการ และสามารถตรวจสอบยอดโบนัสได้ด้วยตัวเองง่ายๆ เพียงโทร #123*9# ฟรี โดยสามารถใช้โบนัสเป็นค่าโทรและบริการต่างๆ จาก ทรูมูฟ เอช 3G+ ได้ ดังนี้
• โทรทุกเครือข่าย นาทีละ 2 บาท ตลอด 24 ชั่วโมง คิดตามจริงเป็นนาที เศษของนาทีคิดเป็นหนึ่งนาที
• SMS, MMS ข้อความละ 2 บาท
• 3G+/EDGE/GPRS เมกะไบท์ละ 5 บาท
สำหรับการใช้บริการอื่นนอกจากที่แจ้งข้างต้น หรือกรณีที่ใช้โบนัสหมดแล้ว จะคิดค่าบริการตามอัตรารายการส่งเสริมการขายที่ลูกค้าเลือกใช้อยู่ในขณะนั้น ๆ

ทรูมูฟ เอช 3G+ มอบประสบการณ์การเชื่อมต่อไร้สายที่เร็วและแรงกว่าด้วยความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps* ที่ใช้ได้จริงวันนี้ ครอบคลุมครบ 77 จังหวัด 843 อำเภอ 5,158 ตำบล และจะครบ 928 อำเภอ 7,235 ตำบล 71,567 หมู่บ้าน ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงบริการ WiFi ความเร็วสูงสุด 8 Mbps* ครอบคลุม 100,000 จุด ในไทยกลางปีนี้ และมากกว่า 200,000 จุด ในต่างประเทศ พร้อมมอบอิสระอย่างแท้จริงให้กับลูกค้าแบบเติมเงิน ภายใต้แนวคิดสุดล้ำ อิสระแบบไม่มีวันหมด ได้วันเพิ่มเป็น 60 วันทุกครั้งที่มีการใช้งาน ทั้งโทรออก เล่นเน็ต เติมเงิน หรือส่งข้อความ ไม่ว่าจะใช้มาก ใช้น้อย ก็มีวันใช้งานต่อเนื่องเหมือนไม่มีวันหมด

Samsung Galaxy Y สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ตัวเล็ก สเป็คแรงหน่วยประมวลผลรวดเร็ว 832 MHz หน้าจอกว้าง 3 นิ้ว QVGA กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล บันทึกวีดีโอได้คมชัด รองรับ 3G / WiFi / Bluetooth พร้อมสนุกกับแอพแต่งรูป แชท Social Network และอื่นๆอีกเพียบบน Play store (Android market)

* ความเร็วในการใช้บริการ 3G+ และ WiFi ขึ้นอยู่กับปริมาณผู้ใช้งาน ณ จุดที่ใช้งานและอุปกรณ์ที่รองรับ

View :2141

dtac 3G ขยายบริการโมบายอินเทอร์เน็ตในรถลีมูซีน

April 10th, 2012 No comments

ดีแทคได้รับคัดเลือกจากโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน ให้เป็นผู้ติดตั้ง อุปกรณ์กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายในรถลีมูซีนของโรงแรมเพื่อให้บริการตอบสนองความต้องการในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้กับลูกค้าคนสำคัญในระหว่างเดินทาง ให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่น บนเครือข่าย ที่ดีกว่าและเร็วกว่า ทำให้มั่นใจได้ว่าการเชื่อมต่อจะไม่มีขาดตอน ตลอดการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิและสถานที่อื่น ๆ จนถึงโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน

เพ็ตเตอร์ เพ็ดเดอร์เซน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ และลูกค้าองค์กร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น () และแซมมี่ คาโรลุส ผู้จัดการใหญ่ โรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน ร่วมกันแนะนำบริการโมบายอินเทอร์เน็ต ในรถลีมูซีนของโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน


ความร่วมมือของผู้ให้บริการจากทั้ง 2 อุตสาหกรรมกันในครั้งนี้ช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของทั้งสองฝ่ายโดยทำให้โรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน เป็นโรงแรมแรกในหัวหินที่ริเริ่มให้ และช่วยให้ดีแทคขยายการบริการออกไปมากยิ่งขึ้นในช่วงที่กำลังขยายบริการ dtac 3G ให้ครอบคลุมทุกอำเภอทั่วทั้งประเทศ

สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือธุรกิจโรงแรม dtac goood business มีโซลูชั่นเทคโนโลยีไร้สายครบวงจรที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจแต่ละประเภทอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ และ dtac goood business ยังมีทีมบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพที่พร้อมจะตอบข้อสงสัย เยี่ยมเยียน และให้คำปรึกษาลูกค้าโดยตรงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกอย่างง่าย สบายใจ และเสมือนเป็นเพื่อนแท้ที่ดูแลธุรกิจของกลุ่มลูกค้าองค์กรอย่างแท้จริงอีกด้วย

View :1560

ดีแทค ขยายเครือข่ายให้บริการ 3จี ครอบคลุมสถานีฐานเพิ่มขึ้น 3,000 สถานี ภายในปี 2555

March 22nd, 2012 No comments

ตอกย้ำคำมั่นสัญญาที่จะให้บริการ 3จี ครอบคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศไทยได้เร็วยิ่งขึ้น

ตอกย้ำคำมั่นสัญญา และความมุ่งมั่นสู่การเป็นเครือข่ายดาต้าที่ดีที่สุด โดยขยายสถานีฐานเพื่อให้บริการ 3จี เพิ่มอีกจำนวน 3,000 สถานีทั่วประเทศ ภายในปี 2555 ทั้งนี้ มุ่งที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า และสัมผัสได้ถึงคุณภาพของบริการสื่อสารที่ดีขึ้น และเร็วขึ้นด้วยเครือข่าย 3จี ที่ครอบคลุมสถานีฐานทั้งหมด 5,000 แห่งทั่วประเทศ สอดคล้องกับคำมั่นสัญญาของบริษัทฯ ที่จะให้บริการ 3จี ครอบคลุมพื้นที่ทุกอำเภอทั่วประเทศไทย รวมทั้ง ความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาสู่ผู้บริโภคในวันนี้

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ดีแทค มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดด้านการสื่อสารให้แก่ลูกค้า โดยการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้านเทคโนโลยีเพื่อการขยายเครือข่ายให้บริการ 3จี บนคลื่น 850 เมกะเฮิร์ตซ์ โดยในเดือนมีนาคมนี้ เราจะขยายการให้บริการ 3จี ครอบคลุม 2,000 สถานีฐานในพื้นที่บริการ 45 จังหวัด และด้วยความต้องการด้านการใช้บริการดาต้าที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เราจึงตั้งเป้าที่จะขยายการให้บริการ 3จี ครอบคลุมเพิ่มขึ้นอีก 3,000 สถานีฐาน ภายในปี 2555 ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าของเราได้รับบริการด้านเสียง และบริการดาต้าที่มีคุณภาพ ด้วยเครือข่ายให้บริการที่ดียิ่งขึ้น การขยายการให้บริการ 3จี สู่สถานีฐานทั้งหมด 5,000 แห่ง ทั่วประเทศ ทำให้ดีแทคมั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสามารถให้บริการ 3จี ได้ครอบคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศไทย ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ทั้งนี้ งบลงทุนครั้งนี้ได้รวมอยู่ในแผนรายจ่ายเพื่อการลงทุน หรือ CAPEX ในปี 2555 ที่ได้ประมาณการไว้เป็นจำนวน 8-9 พันล้านบาท”

ขณะเดียวกัน แผนการปรับปรุงยกระดับเครือข่าย 2จี มากกว่า 10,000 สถานีฐานทั่วประเทศ ก็มีความคืบหน้าตามแผน และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2555 นี้ โดยผู้ใช้บริการจะสัมผัสได้ถึงคุณภาพของบริการด้านเสียงที่ดีขึ้น และบริการดาต้าที่รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การปรับปรุงยกระดับเครือข่ายครั้งนี้ ยังเป็นการนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุดในโลกมาสู่ประเทศไทย ซึ่งจะส่งให้ดีแทคก้าวสู่ระดับแนวหน้าด้านความพร้อมทางเทคโนโลยีสำหรับบริการ 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ และเทคโนโลยี LTE (4จี) ในอนาคตอีกด้วย

“ดีแทค มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการประมูล 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ในปีนี้ ในระหว่างนี้ เราได้รับการอนุญาตจาก บมจ. กสท. โทรคมนาคม สำหรับการทดสอบให้บริการเทคโนโลยี LTE โดยรอการพิจารณาอนุญาตจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อเริ่มทดสอบการให้บริการ LTE ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2555 นี้ เราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานผู้กำกับดูแลในเรื่องของการนำคลื่นความถี่มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น เราจึงสนับสนุน กสทช. อย่างยิ่งที่จะจัดการประมูลสำหรับบริการ 4จี ไปพร้อมๆ กับ การประมูลบนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ การเปิดให้บริการ 3จี และ 4จี จะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุด ทั้งสู่ผู้บริโภค หน่วยงานผู้กำกับดูแล รัฐบาล และประเทศโดยรวม” นายอับดุลลาห์ กล่าว

View :1371

ดีแทคร่วมกับคณะบัญชี จุฬาฯ ให้นิสิตใช้แพ็กเกจ 3G ฟรี

March 21st, 2012 No comments


นายชัยยศ จิรบวรกุล (ที่ 4 จากขวา) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มลูกค้า บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น () มอบแพ็กเกจ ให้ รองศาสตราจารย์ ดร.พสุ เดชะรินทร์ (ที่ 5 จากซ้าย) คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำหรับให้นิสิตและบุคลากรของคณะได้ใช้ฟรี เป็นการต่อยอดการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ในการสนับสนุนด้านการเรียน การศึกษา โดยดีแทคได้มอบสิทธิพิเศษในการทดลองใช้ ฟรี เป็นระยะเวลา 90 วัน สามารถใช้ได้ทั้งระบบเติมเงิน และระบบรายเดือน

View :2287

ทรูมูฟ เอช จัดโปรโมชั่น ไอโฟน สมาร์ทโฟน และแอร์การ์ด สุดคุ้มในงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2012

March 21st, 2012 No comments

ผู้นำบริการ 3G ตัวจริง และผู้นำด้านสมาร์ทโฟน ชวนลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ผ่านบริการทรูมูฟ เอช 3G+ ที่ใช้ได้จริงวันนี้ ครอบคลุมครบ 77 จังหวัด 843 อำเภอ 5,158 ตำบล และจะครบทุกอำเภอ (928 อำเภอ) 7,235 ตำบล ภายในสิ้นปีนี้ ออนไลน์เต็มสปีดเร็วและแรงกว่า ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps* มอบข้อเสนอสุดพิเศษ รับลมร้อนสำหรับลูกค้าที่ซื้อ ไอแพด และอื่นๆ ในงาน “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2012” พร้อมแพ็กเกจสุดคุ้มทั้งแบบรายเดือนและแบบเติมเงินให้เลือกมากมาย พบกันที่บูธทรูมูฟ เอช วันที่ 22-25 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ข้อเสนอสุดพิเศษจากทรูมูฟ เอช ในงาน “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2012” ได้แก่

· อิสระเต็มที่ทุกไลฟ์สไตล์กับทรูมูฟ เอช iPhone 4 และ iPhone 4S มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อทรูมูฟ เอช iPhone 4 หรือ iPhone 4S พร้อมสมัครแพ็กเกจรายเดือน XL 899 หรือแพ็กเกจ XXL 999 รับส่วนลดค่าเครื่องเพิ่ม 1,000 บาท พร้อมสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 12 เดือน และรับเงินคืนสูงสุด 20% ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ พิเศษ! รับฟรี ฟิล์มกันรอย Autozkin film protection มูลค่า 590 บาท (ของมีจำนวนจำกัด)

· สาวก iPad 2 เล่นเน็ตเต็มสปีดบนเครือข่าย 3G+ จากทรูมูฟ เอช เพียงซื้อทรูมูฟ เอช iPad 2 พร้อมสมัครแพ็กเกจ Net(i) 899 บาท/เดือน รับส่วนลดค่าเครื่อง 2,400 บาท พร้อมสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 12 เดือน และรับเงินคืนสูงสุด 20% ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ พิเศษ! รับส่วนลดซื้ออุปกรณ์เสริมสำหรับ iPad 2 ในราคาลดสูงสุด 30% (ของมีจำนวนจำกัด)

· แฟนพันธุ์แท้ พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ ซื้อ Samsung Galaxy Tab 7.7, Samsung Galaxy Tab 7.0 + และ Samsung Galaxy Note รับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ และรับฟรี ฟิล์มกันรอย Autozkin film protection มูลค่าสูงสุด 690 บาท รวมทั้งของสมนาคุณอื่นๆ มากมาย พร้อมสนุกกับรายการโปรดจากทรูวิชั่นส์มากกว่า 32 ช่องรายการได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอพพลิเคชั่น “ทีวี เอนิแวร์” (TV Anywhere) ดูฟรี นาน 12 เดือน

· ทรูมูฟ เอช แอร์การ์ด มีให้เลือกทุกรุ่น รองรับทุกความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

- Ultra Surf แอร์การ์ดใหม่ล่าสุด รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ความเร็วสูงถึง 42 Mbps. ราคา 3,990 บาท พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อแอร์การ์ด Ultra Surf พร้อมสมัครแพ็กเกจรายเดือน Net 899 รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 200 บาท/เดือน นาน 6 เดือน

- Power Surf รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ความเร็วสูงสุด 21 Mbps. ราคา 2,590 บาท และ Surf รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps. ราคาพิเศษเพียง 1,190 บาท (ราคาปกติ 1,390 บาท) พิเศษสุด! สำหรับลูกค้าที่ซื้อแอร์การ์ด Power Surf หรือ Surf พร้อมสมัครแพ็กเกจรายเดือน Net 899 รับส่วนลดค่าแอร์การ์ด 50% และส่วนลดค่าบริการรายเดือน เดือนละ 50% นาน 4 เดือน

· Mi-Fi รุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ความเร็วสูงสุดถึง 21 Mbps (จากปกติรองรับการเชื่อมต่อที่ความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps) กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สายให้ใช้งานพร้อมกันได้สูงสุด 5 เครื่อง ราคา 3,590 บาท เมื่อซื้อพร้อมสมัครแพ็กเกจรายเดือน Net 899 รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 200 บาท/เดือน นาน 6 เดือน

* ความเร็วในการใช้บริการ 3G+ และ WiFi ขึ้นอยู่กับปริมาณผู้ใช้งาน ณ จุดที่ใช้งานและอุปกรณ์ที่รองรับ

View :1764

เอไอเอส update ความคืบหน้าผลการทดสอบ 4G

March 6th, 2012 No comments

นายปรัธนา  ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวถึงความคืบหน้าในการทดสอบเทคโนโลยี 4G ว่า “จากการที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้อนุมัติให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) , บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) , บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด ทำการติดตั้งอุปกรณ์ดำเนินการทดสอบ เทคโนโลยี LTE-Long Term Evolution หรือ ที่รู้จักกันในชื่อของ 4G ใน 2 เทคโนโลยี และ 2 พื้นที่ ประกอบด้วย

1.       โครงการทดสอบและทดลองระบบบรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูง Broadband Wireless Access-BWA  ในย่านความถี่ 2300 MHz (20 MHz)ด้วยเทคโนโลยี Long Term Evolution ซึ่งใช้คลื่นความถี่ในลักษณะ Time Division Duplex หรือ TDD ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งในเขตพื้นที่ชั้นใน บริเวณถนนพระรามหนึ่ง ตั้งแต่ มาบุญครองถึงเซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงชั้นนอกจากศูนย์ราชการ กระทรวงไอซีที และ สำนักงานทีโอที แจ้งวัฒนะ โดยมีจำนวนสถานีฐาน 20 แห่ง เปิดให้ทดสอบถึงช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2555 และ

2.       โครงการทดสอบและทดลองระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 4 ในย่านความถี่ 1800 MHz (10 MHz D/L + 10 MHz U/L) ด้วยเทคโนโลยี Long Term Evolution ซึ่งใช้คลื่นความถี่ในลักษณะ Frequency Division Duplex หรือ FDD ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ในเขตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม โดยเบื้องต้นมีจำนวนสถานีฐาน 8 แห่ง เปิดให้ทดสอบถึงช่วงประมาณต้นเดือนมีนาคม 2555

โดยเป็นการทดสอบรูปแบบของการทดสอบเชิงเทคนิคชั่วคราว หรือ Technical Trial  ซึ่งมิได้แสวงหากำไรเชิงพาณิชย์ หรือ Non Commercial นั้น  ผลจากการทดสอบในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจและได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเตรียมการเปิดประมูลของ  กสทช. เป็นอย่างยิ่ง อาทิ

- ความเร็วและความเสถียร

                                TDD        Download           50-80 Mbps        Upload                 5-15 Mbps

                                FDD        Download           50-60 Mbps        Upload               20-30 Mbps

- รัศมีในการส่งสัญญาณ (Coverage Area) อยู่ที่รัศมี 1 กิโลเมตร

- ลักษณะการใช้งานในขณะเคลื่อนที่ Handover ภายใต้ Coverage ที่มีความต่อเนื่อง (เฉพาะการทดสอบที่ จ.มหาสารคาม) พบว่าสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

- ความสัมพันธ์ของย่านความถี่และช่วงกว้างความถี่ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานเทคโนโลยี LTE นั้นพบว่า  โดยทั้งสองย่านสามารถทำงานได้ดี แต่จำเป็นต้องใช้ความกว้างของแถบความถี่มากกว่า 20 MHz หากต้องการความเร็วเกิน 100 Mbps

- ความเร็วของการเข้าถึง Content ด้าน Multi Media แบบ HD  สูงกว่า 3G ถึง 5-10 เท่า (20 ms latency)

- รูปแบบของ Applicationที่เหมาะสมและตรงใจผู้บริโภค ในประเภท video interactive, 4G to wifi และ multimedia content

โดยเอไอเอสได้เริ่มเปิดจุดทดสอบเทคโนโลยี LTE ในกรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตนเอง   และได้ผสมผสานเอาเทคโนโลยี Real Time Video Interactive เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อให้เห็นภาพของประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต  หากโครงสร้างพื้นฐานมีความแข็งแรง

สำหรับจุดทดสอบเทคโนโลยี 4G เบื้องต้นมี 2 จุด คือ

1.    บริเวณชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ ช่วงทางเชื่อมกับศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยเปิดจุดทดสอบภายใต้แนวคิด “Beauty Consult on 4G” ให้ประชาชนได้โต้ตอบกับกูรูช่างออกแบบทรงผมจากร้าน TO B 1 ซึ่งตั้งอยู่ ณ สยามแสควร์ ซอย 2 ที่จะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับทรงผมที่เหมาะสมผ่าน Video Interactive บนเครือข่าย 4G
2.    บริเวณชั้น 1 วัน-ทู-คอล! ช็อป @Digital Gateway ที่เปิดให้ประชาชนทดสอบและสัมผัสกับความเร็วของเทคโนโลยี 4G เมื่อท่องโลกอินเตอร์เน็ต

นายปรัธนา กล่าวในตอนท้ายว่า “เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลที่ได้จากการทดลอง ทดสอบในทั้ง 2 พื้นที่  จะทำให้การเตรียมพิจารณาเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆของประเทศไทยเป็นไปอย่างละเอียด รอบคอบ เสริมมุมมองได้อย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้นจากการผนึกกำลังกันของเอกชนและภาครัฐ”

View :2475
Categories: 3G, Press/Release, Telecom Tags:

TVC: “เครือข่ายที่ดีที่สุดของเรา เอไอเอส 3G”

February 22nd, 2012 No comments

ในช่วงเวลาที่โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเป็นผู้ช่วยและ Support การใช้ชีวิตได้ในทุกๆด้าน ความคาดหวังของผู้บริโภคในแต่ละ Segment บ่งบอกถึง Lifestyle ที่แตกต่างและการเลือกใช้ชีวิตในแบบที่แต่ละคนชื่นชอบ

ภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุดจากเอไอเอสภายใต้แคมเปญ “เครือข่ายที่ดีที่สุดของเรา 3G” นำเสนอเรื่องราวจากมุมมองของผู้บริโภคถึง 15 Segment ที่ต่างบอกเล่าถึง Lifestyle และการเติมเต็มความต้องการได้ดังใจจากบริการของเอไอเอส ประกอบไปด้วย


- Voice ในเมือง
- Voice ต่างจังหวัด
- Voice/Data สถานที่ท่องเที่ยว
- Data
- Application Search
- Application Chat
- Data Roaming Unlimited Package
- mPAY
- Privilege
- Application Twitter
- Application AIS Book Store
- Wifi@Coffee Shop
- Application Facebook
- Application Instragram

ทั้งหมดเป็นการตอกย้ำและสะท้อนถึงความตั้งใจของเอไอเอส ในฐานะ Brand ผู้นำว่า “เครือข่ายที่ดี และเชื่อมั่นได้มากที่สุด” จะต้องมีการเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆด้าน เพราะความต้องการของผู้บริโภคมิใช่เพียง 3G มิใช่เพียง Data มิใช่เพียงการใช้งาน Voice มิใช่เพียงการใช้ Application และมิใช่เพียง…….ฯลฯ หากแต่ต้องผสมผสานบริการทุกรูปแบบอย่างลงตัวเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ในทุกๆ Segment สนับสนุนให้สามารถเลือกใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองชื่นชอบได้อย่างไร้ข้อจำกัดตามแนวคิด “ชีวิตในแบบคุณ”

View :1400

เอไอเอส รุกเดินหน้าต่อเนื่อง เน้นตอบโจทย์และมอบประสบการณ์คุณภาพครบทุกด้าน พร้อมยืนยันเข้าสู่สังเวียนประมูล 3G เต็มที่

February 22nd, 2012 No comments

ประกาศความสำเร็จผลการดำเนินงานปี 2011 ที่เติบโตในภาพรวมถึง 12 % ยืนยันให้เห็นถึงความต้องการใช้งานทั้ง Voice และ Data ที่ยังคง เพิ่มอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าพัฒนาคุณภาพบริการทุกด้านเพื่อสร้างประสบการณ์คุณภาพสมบูรณ์แบบ ตอกย้ำฟิตเต็มร้อย สำหรับการประมูล 3 จี 2.1 GHz ที่จะเกิดขึ้น ในปีนี้

นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม ในปีที่ผ่านมาเติบโตราว 9% ทั้งในส่วนของการให้บริการที่โต 11% และการจำหน่ายสมาร์ทดีไวส์ ที่เติบโต15% เช่นกัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความต้องการใช้งานระบบสื่อสารไร้สายของ คนไทยอย่างชัดเจน”

นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)


“ในส่วนของเอไอเอส สำหรับปี 2554 ที่ผ่านมา ยังคงครองความเป็นผู้นำใน ส่วนแบ่งการตลาด ด้วยการเติบโตในภาพรวม 12% โดยมีจำนวนลูกค้า ณ สิ้นปี 2554 ถึง 33.5 ล้านราย มีการใช้งาน Voice ที่เติบโต 8% และ มีลูกค้าที่ใช้งานดาต้า 10 ล้านราย โดยในจำนวนนี้ 1.2 ล้านราย คือ ผู้ที่ใช้งาน 3 จี ซึ่งการเติบโตดังกล่าวเชื่อว่าเป็นผลที่เกิดจากการยึดมั่นเรื่องคุณภาพในการให้บริการทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายที่พร้อมตอบสนองทั้ง Voice และ Data, แพ็คเกจการใช้บริการที่หลากหลาย สำหรับทุก Segment ,การนำ Smart Device คุณภาพเข้ามาจำหน่าย , การพัฒนาหลากหลาย Application อาทิ AIS Book Store ที่ได้รับการตอบอย่างดียิ่ง ตลอดจนการยกระดับบุคลากรที่ส่งมอบบริการ รวมไปถึงการผนึกกำลังกับพันธมิตรตามหลัก Ecosystem มอบประสบการณ์สุดพิเศษ ให้แก่ลูกค้า”

“ปี 2555 ในภาพใหญ่ถือเป็นปีแห่งความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ของประเทศ ในการก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น จากตัวเลข GDP ที่คาดว่าจะเติบโตราว 3-5% รวมถึงนโยบาย ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งให้ความสำคัญแก่การขยายโอกาส ในการเข้าถึงโลกแห่ง online ผ่านโครงการ Smart Thailand รวมไปถึง โครงการ One Tablet per Child และการเตรียมเปิดประมูล 3จี 2.1 GHz ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ยืนยันว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปีนี้ ทั้งหมด จะนำมาซึ่งโอกาสที่คนไทยจะได้สัมผัสกับบริการทางด้านสื่อสารโทรคมนาคมที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น”

นายวิเชียร คาดการณ์ภาพของอุตสาหกรรมในปี 2555 ว่า “การเติบโตของการใช้งาน Voice, Data และยอดจำหน่ายของ Smart Device จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด มากกว่า 100% ซึ่งแน่นอนเราจะได้เห็นภาพการแข่งขันระหว่าง Operator ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง โดยกลยุทธ์ในส่วนของเอไอเอสนั้นยังคงมุ่งให้ความสำคัญกับ “การส่งมอบประสบการณ์คุณภาพสมบูรณ์แบบ” ในทุกด้าน ควบคู่กับการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อผนึกกำลังส่งมอบความพิเศษที่มากยิ่งขึ้นไปยังลูกค้าตลอดปีนี้ นอกจากนี้เอไอเอสยังมีความพร้อมเต็มที่ใน การเข้าร่วมประมูล 3จี ไม่ว่าจะเป็น เงินลงทุน, ความรู้ ความสามารถของบุคลากร, งบประมาณ รวมไปถึงความสามารถในการให้บริการได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับใบอนุญาต”

ด้าน นายมาร์ค ชอง ชิน ก๊อก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เอไอเอส กล่าวว่า “คุณภาพ” ยังคงเป็นหัวใจหลักในการส่งมอบประสบการณ์จากทุกมิติ ผ่าน Devices, Networks, Applications รวมถึง Customer Services โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ Network ซึ่ง เอไอเอสจะใช้งบประมาณลงทุนด้านเครือข่ายเป็นเงินเบื้องต้น 8 พันล้านบาท ซึ่งจะมีทั้งการขยายพื้นที่การให้บริการ, ปรับปรุงคุณภาพเครือข่าย, เพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้งานของ 2G ในส่วนของ Voice และ Data อย่าง EDGE Plus ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้ดาต้า ของ 3 G 900 MHz รวมไปถึงการขยายจุดให้บริการ Wifi ใน Community Mall ใหม่ๆ พร้อมด้วยประสบการณ์พิเศษที่จับมือกับพาร์ทเนอร์มอบให้แก่ลูกค้าเอไอเอสเท่านั้น”

“ในส่วนของ Smart Device จะมุ่งเน้นการขยายตลาดไปยังตลาดต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตระดับโลก นำ Smart Device คุณภาพระดับสากลในราคาสุดคุ้มมามอบให้แก่ลูกค้า พร้อมแพ็คเกจการใช้งานที่เหมาะสม คุ้มค่าทั้ง Voice , Data ก่อนใคร และพิเศษกว่าใครเสมอ”

นายมาร์ค ย้ำถึงแนวทางการพัฒนา Applications และ Service ว่า “เรายังมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนา Applications ที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในทุกๆ Segment ทั้งลูกค้าทั่วไปเพื่อให้ Digital Lifestyle เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ผ่าน Innovative Application ต่างๆรวมไปถึง การมุ่งพัฒนา Mobile Business Solution และการผสมผสานเทคโนโลยี Fix และ Wireless เข้าด้วยกันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้า SMEs และลูกค้าองค์กรที่มีความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติอุทกภัย ที่ผ่านมาซึ่งสามารถทำให้การทำงานยังคงเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง”

ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานการตลาดเอไอเอส กล่าวว่า “เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนที่และเทคโนโลยีไร้สาย เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตอย่างชัดเจน เพราะเป็นทั้งผู้ช่วยและ Support กิจวัตรต่างๆพร้อมตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคในแต่ละ Segment ที่มี Lifestyle แตกต่างกันออกไป”

“สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาดในปีนี้ เรายังคงมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการใช้งาน Voice และ Data ผ่านทาง Promotion Package ที่หลากหลายและคุ้มค่า ควบคู่กับ การนำ Device คุณภาพและ Application เพื่อส่งมอบให้ลูกค้าในแต่ละ Segment ที่ละเอียดยิ่งขึ้น โดยจุดแข็งของเอไอเอสที่เหนือกว่า คือ การพัฒนา Innovative Service อย่างต่อเนื่อง ที่จะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับผู้ใช้บริการ อาทิ ช่วงที่ผ่านมาได้เปิดตัวความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ให้ลูกค้าเอไอเอสถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มได้เพียงใช้รหัส ซึ่งนอกเหนือจากจะเป็นประโยชน์แก่ลูกค้าแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสทางการเติบโตให้แก่พาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมอื่นๆตามแนวคิด Ecosystem โดยจะมีการทยอยเปิดบริการใหม่ๆตามแนวคิดนี้อย่างต่อเนื่อง”

“อย่างไรก็ตามสิ่งที่เอไอเอสยืนยันและต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค คือ“เครือข่ายที่ดี และ เชื่อมั่นได้มากที่สุด” จะต้องมีการเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆด้าน เพราะความต้องการของผู้บริโภคมิใช่เพียง 3G มิใช่เพียง Data มิใช่เพียงการใช้งาน Voice มิใช่เพียงการใช้ Application และมิใช่เพียง…….ฯลฯ หากแต่ต้องผสมผสานบริการ ทุกรูปแบบอย่างลงตัวเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกๆ Segment สนับสนุนให้สามารถเลือกใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองชื่นชอบได้อย่างไร้ข้อจำกัดตามแนวคิด “ชีวิตในแบบคุณ” ล่าสุดจึงได้ส่งผ่านแนวคิดดังกล่าวผ่าน Communication Campaign ที่นำเสนอมุมมองของผู้บริโภคถึง 15 กลุ่ม ซึ่งต่างบอกเล่าถึง Lifestyle และการเติมเต็มความต้องการได้ดังใจจากบริการของเอไอเอส โดยเรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเดินข้างหน้า นำบริการที่ดีที่สุดมามอบให้แก่ลูกค้า พร้อมประสบการณ์คุณภาพที่สมบูรณ์แบบตลอดไป” นายสมชัยกล่าวในตอนท้าย

View :2097

ทรูมูฟ เอช ร่วมกับ WBA และซิสโก้ เปิดให้ทดสอบ Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) ครั้งแรกในเอเชีย

February 15th, 2012 No comments

ผู้นำบริการ WiFi และ 3G สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศ ประกาศความร่วมมือกับ สมาพันธ์ (Wireless Broadband Alliance) และซิสโก้ นำ () มาเปิดให้ลูกค้าทดลองสัมผัส เป็นครั้งแรกในเอเชีย โดย Next Generation Hotspot () เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีจาก WBA ที่ปรับปรุงการเชื่อมโยงสัญญาณระหว่าง WiFi และ 3G ได้อัตโนมัติ พร้อมความปลอดภัยของข้อมูลสูง ผู้สนใจสามารถทดลองใช้บริการได้ ณ ทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 และทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งแต่วันนี้ ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2555

นายสุพจน์ มหพันธ์ ผู้อำนวยการ ด้านธุรกิจบริการระหว่างประเทศ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เทคโนโลยี Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) เกิดจากความร่วมมือของสมาชิกสมาพันธ์ WBA ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ให้บริการโซลูชั่นเครือข่าย และผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารชั้นแนวหน้า ที่ออกแบบขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้าในการใช้งานโมบายล์ อินเทอร์เน็ต โดยจะเชื่อมโยงสัญญาณระหว่าง WiFi และ 3G อย่างอัตโนมัติ ทำให้สามารถออนไลน์ไร้สายได้ตลอดเวลา ราบรื่นไม่ติดขัดแม้ขณะปรับเปลี่ยนการเชื่อมโยงสัญญาณ อีกทั้งยังส่งผลให้มีพื้นที่บริการครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้กำลังทดสอบนวัตกรรมดังกล่าวในประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และฮ่องกง ขณะที่ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ผ่านมา จะถูกนำไปเสนอในการประชุม GSMA World Congress ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน

“ทรูมูฟ เอช ในฐานะสมาชิกสมาพันธ์ Wireless Broadband Alliance (WBA) และหนึ่งในคณะผู้บริหารของสมาพันธ์ ที่เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งเป็นผู้นำบริการ WiFi และ 3G เพียงรายเดียวของไทยที่มีส่วนร่วมในโครงการ Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีบทบาทสำคัญในโครงการนำร่องทดสอบนวัตกรรมเทคโนโลยีนี้ ยิ่งไปกว่านั้น โครงการดังกล่าวยังสอดคล้องกับกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู ที่มุ่งมั่นเพิ่มความสะดวกสบาย ให้ใช้ชีวิตอิสระยิ่งขึ้นผ่านการเชื่อมโยงบรอดแบนด์ไร้สายอย่างราบรื่น และมีความปลอดภัยสูงในการรับส่งข้อมูล”

ดร. ธัชพล โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สมาร์ทโฟนกำลังเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารไร้สายในปัจจุบัน และ WiFi ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์เชื่อมโยงไร้สายความเร็วสูง จากรายงานการประเมินผลของ Cisco Visual Networking Index ประจำปี 2554 คาดว่าจะมีเครื่องมือสื่อสารไร้สายมากกว่า 7.1 พันล้านเครื่องในปี 2558 ซึ่งเกือบจะเท่ากับจำนวนประชากร 7.2 พันล้านคนในปีเดียวกัน เรารู้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สาย คือ สมาพันธ์ WBA (Wireless Broadband Alliance) และ ทรูมูฟ เอช ในการทดลองให้บริการเชื่อมโยงไร้สายความเร็วสูงที่สมบูรณ์แบบในประเทศไทย”

นายนนท์ อิงคุทานนท์ ผู้จัดการทั่วไป สายงานบริการบรอดแบนด์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จุดเด่นของเทคโนโลยี Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) คือเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งาน เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์เชื่อมโยงบรอดแบนด์ไร้สายผ่านซิมการ์ด และโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ ที่จะทำการเลือกโครงข่าย WiFi Hotspot ให้อัตโนมัติ ลูกค้าไม่ต้องจำ SSID (Service Set IDentifier) ไม่ว่าจะใช้งานที่ใดทั่วโลก และด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ระบบจะจดจำข้อมูลผู้ใช้ผ่านซิมการ์ด จึงล็อกอินใช้งานได้โดยไม่ต้องพิมพ์ Username และ Password ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ายังมั่นใจได้ว่าการใช้งานจะปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากล เพราะเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลด้วยระบบ WPA2-Enterprise (WiFi Protected Access 2) ที่นำคุณลักษณะในระบบเครือข่ายองค์กรแบบส่วนตัว (Private Enterprise Network) มาไว้ในระบบเครือข่ายฮอตสปอตสาธารณะ เพื่อลดการโจมตีจากภายนอกได้ เช่น การปลอมแปลง SSID เป็นชื่อเดียวกัน การเจาะดูข้อมูล และการบุกรุกเข้ามาในระบบ เป็นต้น โดยทรูมูฟ เอช ขอเชิญผู้สนใจทดลองสัมผัสประสบการณ์ดังกล่าวได้แล้วที่ทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 และ ทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งแต่วันนี้ ถึง 29 กุมภาพันธ์นี้”

ทั้งนี้ นวัตกรรมเทคโนโลยี Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) ยังมีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการสื่อสารเคลื่อนที่ โดยจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถบริหารจัดการช่องทางของการรับส่งข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงนับเป็นโอกาสสำคัญของกลุ่มทรู ที่ได้ร่วมมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมบรอดแบนด์ไร้สายระดับโลก

View :1574

รัฐ ผนึกกำลังภาคเอกชน สร้างปรากฏการณ์ 4G บรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูงครั้งแรกในประเทศไทย

February 1st, 2012 No comments

ครั้งแรกของประเทศไทยที่ภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ , ทีโอที, กสท.โทรคมนาคม, และดีพีซี ผนึกกำลังเปิดประสบการณ์ บรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูงครั้งแรกในประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 4G หรือ Long Term Evolution-LTE ยืนยันศักยภาพความพร้อมเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดให้ผู้บริโภคได้สัมผัสเทคโนโลยี 4G ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ก่อนเตรียมเปิดประมูลอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร กล่าวในพิธีเปิดงาน “ The First 100 Mbps” ว่า “จากแนวนโยบาย “สมาร์ท ไทยแลนด์” ของกระทรวง ICT ซึ่งนอกเหนือจากการเร่งเดินหน้านำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารของประเทศ สร้างการเติบโตของอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของคนไทยแล้ว อีกด้านคือ การหาเทคโนโลยีใหม่ๆที่มีความทันสมัยสร้างโอกาสในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม อันจะเป็นการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศด้วยอีกทางหนึ่ง นำไปสู่ที่มาของการจัดทดสอบเทคโนโลยี 4G หรือ Long Term Evolution-LTE ในวันนี้ ภายใต้การผนึกกำลังระหว่างภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในฐานะมีบทบาทสำคัญที่สุดในการอนุมัติให้เกิดการทดสอบครั้งนี้ , บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) , บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) , บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการ อันถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกและเป็นนิมิตรหมายอันดียิ่งถึงความร่วมมือที่จะนำพาให้ประเทศเดินหน้าอย่างเข้มแข็งโดยมีเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัยที่สุดสนับสนุน”

ด้าน พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และ พันเอกเศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติและประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ในฐานะองค์กรผู้กำกับดูแลและอนุมัติให้เกิดการทดสอบทดลองในครั้งนี้ได้ร่วมกันเปิดเผยถึงรายละเอียดการทดสอบครั้งนี้ว่า “บทบาทหน้าที่ของ กสทช. นอกเหนือจากหน้าที่ในการจัดสรรคลื่นความถี่ ตลอดจนเทคโนโลยี ทั้งในส่วนของกิจการโทรคมนาคม กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการและประเทศชาติได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกต้อง เกิดประโยชน์ และสร้างความเท่าเทียมกันแล้ว เรายังมีหน้าที่ติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เล็งเห็นว่าจะเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน และประเทศ จากนั้นนำมาทดลอง ทดสอบเพื่อกำหนดมาตรฐานก่อนที่จะเปิดประมูลอย่างเป็นทางการในอนาคต”
“เทคโนโลยี LTE-Long Term Evolution หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อของ 4G เป็น 1 ในเทคโนโลยีอนาคต ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถตอบสนองการใช้งานบรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูง การเรียนรู้เพื่อเข้าใจถึงคุณสมบัติของเทคโนโลยีนี้อย่างถ่องแท้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น กสทช.จึงได้อนุมัติให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) , บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด ได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์ดำเนินการทดสอบใน 2 เทคโนโลยี และ 2 พื้นที่ ประกอบด้วย

1. โครงการทดสอบและทดลองระบบบรอดแบนด์ไร้สายความเร็วสูง Broadband Wireless Access-BWA ในย่านความถี่ 2300 MHz ด้วยเทคโนโลยี Long Term Evolution ซึ่งใช้คลื่นความถี่ในลักษณะ Time Division Duplex หรือ TDD ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้งในเขตพื้นที่ชั้นใน บริเวณถนนพระรามหนึ่งตั้งแต่ มาบุญครองถึงเซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงชั้นนอกจากศูนย์ราชการ กระทรวงไอซีที และ สำนักงานทีโอที แจ้งวัฒนะ โดยมีจำนวนสถานีฐาน 20 แห่ง เปิดให้ทดสอบถึงช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2555

2. โครงการทดสอบและทดลองระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 4 ในย่านความถี่ 1800 MHz ด้วยเทคโนโลยี Long Term Evolution ซึ่งใช้คลื่นความถี่ในลักษณะ Frequency Division Duplex หรือ FDD ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ในเขตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม โดยเบื้องต้นมีจำนวนสถานีฐาน 8 แห่ง เปิดให้ทดสอบถึงช่วงประมาณต้นเดือนมีนาคม 2555

โดยการทดสอบครั้งนี้เป็นรูปแบบของการทดสอบเชิงเทคนิคชั่วคราว หรือ Technical Trial ซึ่งมิได้แสวงหากำไรเชิงพาณิชย์ หรือ Non Commercial ทั้งนี้จะได้มีการเปิดโอกาสให้ทั้งกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค พร้อมทั้งกลุ่มตัวอย่างของประชาชน นักเรียนนักศึกษา ได้ทำการทดสอบด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการและเข้าใจถึงรูปแบบ

ความต้องการใช้งานของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างครอบคลุม ก่อนที่ทางกสทช.จะได้นำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบการจัดการประมูลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ต่อไป”

ทั้งนี้ คุณธนวัฒน์ อัมพุนันทน์ รักษาการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ,คุณขจรศักดิ์ สิงหเสนี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกัน กล่าวว่า “ทั้ง ทีโอที และ กสท.นอกเหนือจากบทบาทของผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าแล้ว เรายังพร้อมร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง เอไอเอส และ ดีพีซี ซึ่งทำงานร่วมกันมายาวนานและสร้างความสำเร็จมาด้วยกันในฐานะคู่สัญญาสัมปทาน เพื่อสรรหาและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ในอันที่จะเพิ่มพูนประสบการณ์และเตรียมความพร้อมก่อนที่ภาครัฐจะเปิดการประมูลอย่างเป็นทางการ”

“เรากำลังพูดถึงการเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมของ “Smart Thailand” ซึ่งส่วนหนึ่งคือการขยาย Broadband ให้ประชาชนมีโอกาสในการเข้าถึงโลอินเตอร์เน็ต หรือ การใช้งาน Data ผ่าน High Speed Internet ได้ง่ายๆการมาถึงของเทคโนโลยี 4G นอกเหนือจากการใช้งานส่วนบุคคลแล้ว เรายังมองถึงการสร้างโอกาสทางการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต ไร้สายความเร็วสูงผ่าน Wifi ได้ง่ายๆเพียงใช้ Aircard 4G และ WiFi Adaptor ซึ่งจะส่งผลทำให้ภาพของ National Broadband ตามนโยบายของกระทรวงICT มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นอีกทางหนึ่ง” นายธนวัฒน์ กล่าว

“นอกจากนี้การเรียนรู้เชิงวิศวกรรมในพื้นที่หลากหลายก็สำคัญ วันนี้ตลาดต่างจังหวัด มีอัตราการเติบโตของ Data มากขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งจ.มหาสารคามมีคุณสมบัตินี้อยู่ครบ จึงเป็นที่มา ของการเลือกเป็นจุดทดสอบ รวมถึงคลื่น 1800 MHz เองก็มีเพียงพอที่จะทำการทดสอบได้อย่างไม่เป็นอุปสรรคต่อการให้บริการปัจจุบัน เราจึงคาดหวังว่าจะได้ผลการทดสอบในภาพรวมอย่างครบถ้วนทั้งด้านเทคนิคและมุมมองความต้องการของผู้บริโภค”นายขจรศักดิ์กล่าว

ส่วนที่มาของการเปิดทดสอบรวมถึงรายละเอียดการทดสอบจากภาคเอกชนนั้น นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส และนายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร กรรมการผู้อำนวยการ ดีพีซี กล่าวว่า “วันนี้ผู้ใช้บริการ Data โดยเฉพาะในเครือข่ายของเรามีมากกว่า 10 ล้านราย แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความต้องการด้านนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเวลาอันใกล้ การมองหาเทคโนโลยีอนาคตที่จะตอบโจทย์ดังกล่าวจึงเป็น เรื่องสำคัญที่ต้องทำควบคู่กับการให้บริการปัจจุบันอย่างดีที่สุด เอไอเอสและดีพีซี ในฐานะเอกชนที่มีความพร้อม และมีประสบการณ์ในการให้บริการเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายมากกว่า 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ความชำนาญ ด้านวิศวกรรม, ทักษะในการปรับจูนเครือข่าย ตลอดจนความเข้าใจถึงการนำเสนอ Application ไปยังกลุ่มเป้าหมาย ที่จะเป็นไปในลักษณะของการส่งมอบประสบการณ์องค์รวม จึงเสนอขอทดลองทดสอบเทคโนโลยี 4G

ใน 2 รูปแบบ 2 คลื่นความถี่ และ 2 สถานที่ ดังกล่าวข้างต้น เพื่อจะได้เสริมทักษะ และเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ตลอดจนมองถึงการผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีที่ให้บริการในปัจจุบัน เพื่อจะได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่รับกับการประมูลที่เชื่อมั่นว่าจะมาถึงในอนาคตอันใกล้”

“วัตถุประสงค์หลักอีกประการคือ เราตั้งใจทำเพื่อประเทศโดยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาให้คนไทยได้สัมผัส ก่อนใคร อันจะทำให้มองเห็นถึงประโยชน์ที่จะปรับประยุกต์ใช้ในกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการศึกษา, ด้านการแพทย์, ด้านความบันเทิง ตลอดจนอุตสาหกรรมหลักทุกๆด้าน ที่ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยระบบสื่อสารไร้สายความเร็วสูงเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการต่อยอดการเติบโต ซึ่งเราเองเชื่อมั่นว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่จากทุกมุมมองที่จะทำให้เมื่อมีการประมูลเกิดขึ้น ทุกภาคส่วนจะพร้อมเริ่มงานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอที่จะเรียนรู้”

นายวีรวัฒน์ กล่าวถึงรูปแบบการทดสอบในครั้งนี้ว่า “เอไอเอสและดีพีซีเน้นศึกษา 4G ในด้านความเร็วและความเสถียร, รัศมีในการส่งสัญญาณ (Coverage Area), ลักษณะการใช้งานในขณะเคลื่อนที่ การ Handover ภายใต้ Coverage ที่มีความต่อเนื่อง (เฉพาะการทดสอบที่ จ.มหาสารคาม) , ความสัมพันธ์ของย่านความถี่และช่วงกว้างความถี่ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของเทคโนโลยี LTE, ความเร็วของการเข้าถึง Content ด้าน Multi Media แบบ HD , รูปแบบของ Application ที่เหมาะสมและตรงใจผู้บริโภค, ฯลฯ ทั้งนี้จากการศึกษาดูงานในต่างประเทศพบว่า การให้บริการ 3G และ 4G จะดำเนินควบคู่กัน โดย 3G จะเป็นโครงสร้างหลักที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ตอบโจทย์คนที่ใช้งาน Data ใน Daily Life และ Lifestyle ในขณะที่ 4G จะเหมาะกับกลุ่มเฉพาะที่มีการใช้งานเชิงลึก เช่น สถาบันการศึกษา ที่ต้องเข้าถึงข้อมูลทางวิชาการ, โรงพยาบาล หรือศูนย์วิจัยทางการแพทย์ต่างๆผ่านทาง Telemedicine หรือแม้แต่กลุ่ม ที่ทำธุรกิจด้านความบันเทิงที่ต้องใช้งาน Multimedia มากๆ ซึ่งการทดลองทดสอบครั้งนี้จะช่วยยืนยันถึง Trend ดังกล่าวได้อย่างชัดเจน”

นายวิเชียร กล่าวตอนท้ายว่า “การทดสอบครั้งนี้เป็นไปในลักษณะของ Technology Trial ซึ่งภาครัฐได้ให้ความสำคัญและร่วมมือกับเราอย่างดียิ่ง โดยเราได้รับการสนับสนุนจากพาร์ทเนอร์ ผู้ผลิต ประกอบด้วย Cisco, Huawei, Nokia-Siemens Network โดยเราคาดหวังว่าผลจากการทดสอบที่ครบถ้วนในทุกมุมมองครั้งนี้ จะเป็นการยืนยันถึงความพร้อมของผู้ประกอบการอย่างเราที่มีความรู้ความสามารถในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้งาน รวมถึงความพร้อมในระดับประเทศที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง 4G หรือ แม้แต่ 3G ที่ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาคน สังคม และระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศเข้ามาเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการผ่านการเปิดประมูลอย่างเป็นธรรม สำหรับภาคเอกชนอย่างเอไอเอส และ ดีพีซีนั้น ขอยืนยันผ่านการทำงานครั้งนี้ว่าเรามีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในทุกด้านที่จะดำเนินการและส่งมอบบริการแก่คนไทย

ไม่ว่าจะเป็น 3G หรือ 4G รวมถึงเทคโนโลยีอนาคตอื่นๆ ให้แก่คนไทยเสมอ หากเวลาที่ภาครัฐเปิดโอกาสผ่านการประมูลใบอนุญาตมาถึง”
การจัดทดสอบ 4G Thailand The First 100 Mbps นั้น เปิดให้ประชาชนได้ร่วมทดสอบเทคโนโลยี 4G ด้วยเช่นกัน โดยจะมีการตั้งจุดทดสอบในพื้นที่ซึ่งมี Coverage เพื่อจะได้รับมุมมอง ความเห็นของผู้บริโภคตัวจริงอันจะถือได้ว่าเป็นเสียงสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งในการนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาให้บริการอย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้จะมีการเผยแพร่จุดทดสอบ 4G ทั้งในกรุงเทพ และ จ.มหาสารคามให้ได้ทราบเพื่อร่วมทดสอบต่อไป

View :1882
Categories: 3G, Press/Release Tags: