Archive

Archive for the ‘Application’ Category

“เอไอเอส 3G” จับมือ พรีเซนเตอร์ “เจมส์ จิ” ปั้นแอพฯ “AIS James’ Life”

October 21st, 2013 No comments

(21 ตุลาคม 2556) : โชว์หมัดเด็ด มัดใจสาวกโซเชียล เดินหน้าตอกย้ำกลยุทธ์การทำงานร่วมกับ Presenter “เจมส์ จิรายุ” ก้าวไปอีกขั้น สู่การเป็น Partner จับมือกันพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ “AIS James’ Life” จัดเต็มคอนเทนต์โดนใจ ให้สาวกได้ฟินเฟ่อร์กับเจมส์ จิ ทั้งวันทั้งคืน! ทั้งสติ๊กเกอร์เวอร์ชั่นใหม่ มาเต็ม ในสไตล์ภาพจริง ครั้งแรกในเมืองไทย และโฟโต้เฟรมสุดน่ารัก ให้ควงแขนเจมส์ จิ ได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมตามติดชีวิตเจมส์ จิ ส่งตรงจากแดนกิมจิก่อนใคร! แถมยังลุ้นชิงรางวัลบินไปเที่ยวเกาหลีกับเจมส์ จิ แบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ

นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขายเอไอเอส กล่าวว่า “นอกเหนือจากการพัฒนาเครือข่าย 3G 2100 ที่ขณะนี้ ครอบคลุมหัวเมืองทั้ง 77 จังหวัด และจะขยายต่อเนื่องไม่หยุดยั้งแล้ว สิ่งที่เอไอเอสมุ่งมั่นทำงานอย่างต่อเนื่องควบคู่กัน คือการพัฒนาบริการเพื่อตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มได้อย่างรอบด้านและตรงใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคโซเชียลฯ ที่แอพพลิเคชั่นกลายเป็นสิ่งสามัญที่ทุกคนใช้งานกันอย่างคุ้นเคย รวมถึงดิจิตอลคอนเทนต์ที่มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันแอพฯ ที่เป็น Local Content กำลังได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 100% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพราะมีเนื้อหาและวิธีการนำเสนอที่ตรงใจผู้บริโภค ชาวไทย ซึ่งเอไอเอสเข้าใจในจุดนี้เป็นอย่างดี จึงมุ่งพัฒนาแอพฯ Local Content มอบให้กับผู้ใช้บริการมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น AIS Bookstore, AIS Movie Store, AIS Music Store ฯลฯ โดยเทรนด์ของดิจิตอลคอนเทนต์จะมีลักษณะเฉพาะ (Unique) และหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความสนใจของคนแต่ละกลุ่ม ดังเช่น เจมส์ จิ ถือเป็นเจ้าของคอนเทนต์ที่มี Value มีฐานแฟนคลับที่ชื่นชมเป็นจำนวนมาก จึงมีศักยภาพในการพัฒนาไปสู่ดิจิตอลคอนเทนต์ ในขณะเดียวกัน ก็มีบทบาทเป็นคนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นโซเชียล จึงเข้าใจถึงความต้องการของชาวโซเชียล และสามารถนำเสนอคอนเทนต์ที่จะโดนใจสาวกได้อย่างแน่นอน ดังนั้นแอพฯ AIS James’ Life จึงถือเป็นอีกสิ่งดีๆ ที่เข้าใจ ที่เอไอเอสตั้งใจสร้างสรรค์ออกมาให้ผู้ใช้บริการ”

ล่าสุด เอไอเอสจึงเดินหน้าไปอีกขั้น ด้วยการยกระดับการทำงานร่วมกับ Presenter “เจมส์ – จิรายุ ตั้งศรีสุข” ก้าวสู่การเป็น Partner ร่วมมือกัน สร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นใหม่ “AIS James’ Life” เพื่อสาวกชาวโซเชียลและขาแชท ได้สนุกกับสติ๊กเกอร์, โฟโต้เฟม และวีดิโอคลิปสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเจมส์ จิ ซึ่งนับเป็นมิติใหม่ของวงการโทรคมนาคม เป็นครั้งแรกที่ Presenter มีส่วนร่วมในการพัฒนาบริการเพื่อผู้ใช้มือถือ โดยเจมส์ จิ ได้เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกไอเดีย การผลิตชิ้นงาน การคัดสรรคอนเทนต์ ฯลฯ ทั้งนี้ ในแง่ของแบรนด์ นอกจากจะเป็นการขยายฐานในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเอไอเอส 3G ในระดับ Mass ได้มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างบรรทัดฐานในการทำงานแบบ Teamwork เพื่อเสริมซึ่งกันและกันในเชิงการตลาดอีกด้วย”

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล กล่าวเสริมว่า “สำหรับเจมส์ จิ ถือเป็นดาราและพรีเซนเตอร์คนแรกของวงการ ที่ขยับมาเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมสร้างบริการกับโอเปอเรเตอร์ ภายใต้ Business Model เดียวกับ Content Partner ที่ร่วมทำธุรกิจกับเอไอเอส ซึ่งเป็นแอพฯ ที่รวบรวมดิจิตอลคอนเทนต์ยอดฮิตอันดับต้นๆ แห่งยุค ทั้งโซเชียล แชท และวีดิโอคลิป ไว้ในแอพฯ AIS James’ Life ที่นี่ที่เดียว ประกอบด้วย

1. สติ๊กเกอร์เจมส์ จิ เวอร์ชั่นใหม่ กับแอ็คติ้งสดใส ขี้เล่น ประกอบคำยอดฮิตที่คนนิยมส่งแชทหากัน เช่น รักนะ, สู้สู้, ห่วงนะ, กู้ดไนท์, OMG ฯลฯ รวมถึงธีมน่ารักตามเทศกาลต่างๆ อาทิ ฮัลโลวีน,ลอยกระทง ซึ่งเป็นสติ๊กเกอร์รูปแบบใหม่ครั้งแรกของเมืองไทย ที่เป็นภาพจริง ไม่ใช่คาแรกเตอร์การ์ตูนเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งสามารถส่งหาเพื่อนๆ ได้ทุกแชท ทั้ง LINE, Whatapps, We Chat, Facebook ฯลฯ เบื้องต้น มีกว่า 17 ลาย และจะปล่อยลายใหม่ตามออกมาเรื่อยๆ

2. โฟโต้เฟรมสุดน่ารัก ให้ลูกค้าได้ครีเอทภาพหรือสติ๊กเกอร์ที่ถ่ายคู่กับเจมส์ด้วยตัวคุณเอง ใครอยากแอ็คชั่นแบบไหน จัดเต็มได้เลย แล้วก็สามารถส่งเป็นสติ๊กเกอร์หรือแชร์ภาพสนุกๆ ให้เพื่อนบนโซเชียลได้เลย

3. ภาพและวีดิโอคลิป อัพเดทชีวิตเจมส์ จิ ทั้งในเมืองไทยและที่เกาหลีแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ก่อนใคร ในแฟนๆ ได้หายคิดถึงระหว่างที่เจมส์ จิ ไปเข้าคอร์สเรียนร้องเพลงที่ประเทศเกาหลีเป็นเวลา 6 สัปดาห์
“แอพฯ AIS James’ Life รองรับทั้งบน iOS และ Android ดาวน์โหลดง่ายๆ เพียงกด *303*3# โทรออก รอรับลิงค์เพื่อติดตั้งแอพฯ บนมือถือ ในราคาพิเศษ! เพียง 29 บาท จากปกติ 59 บาท (จ่ายค่าบริการเพียงครั้งเดียว) เฉพาะลูกค้าเอไอเอส 3G รายเดือน และเอไอเอส 3G วัน-ทู-คอล! เท่านั้น

พร้อมกันนี้ เรายังจัดกิจกรรมพิเศษตอบแทนลูกค้า 2100 ให้ลุ้นชิงรางวัลเที่ยวเกาหลีฟรี! กับเจมส์ จิ 5 วัน 3 คืน จำนวน 28 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง ร่วมสนุกง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอพ AIS James’ Life ตั้งแต่วันนี้ – 8 พ.ย. 2556 เดินทางวันที่ 27 พ.ย. – 1 ธ.ค. 2556 ซึ่งในอนาคต จะทยอยเพิ่มคอนเทนต์เจมส์ จิ ที่สดใหม่และหลากหลายเข้ามาเรื่อยๆ อย่างแน่นอน” นายปรัธนากล่าวสรุป

เจมส์ – จิรายุ ตั้งศรีสุข ในฐานะพรีเซนเตอร์ AIS 3G และ Content Partner ผู้ร่วมพัฒนาบริการ เปิดเผยว่า “สำหรับโปรเจ็กท์แอพฯ AIS James’ Life นี้ ผมรู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจมาก ที่มีโอกาสร่วมพัฒนาแอพฯ บนมือถือให้ลูกค้าเอไอเอส 3G ได้ใช้ ได้เล่นกัน ซึ่งถือเป็นการทำงานที่ก้าวไปอีกขั้นของผมกับเอไอเอส 3G เดิมเราทำงานด้วยกันในฐานะพรีเซนเตอร์ แต่วันนี้เราพัฒนามาเป็นพาร์ทเนอร์กัน ซึ่งผมได้มีส่วนร่วมในการคิด ออกไอเดีย ร่วมกันสร้างสรรค์บริการ จึงถือเป็นก้าวใหม่และก้าวที่สำคัญในชีวิตผมเลย
อย่างที่ทราบกันดีว่า ยุคนี้เป็นยุคของ 3G ยุคของโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่คนติดต่อสื่อสารกันผ่านแอพฯ บนมือถือ แม้ว่าจะอยู่ไกลกัน ก็ยังทำให้รู้สึกใกล้ชิดกันได้ตลอดเวลา สำหรับอาชีพนักแสดงอย่างผม ก็อยากจะมีช่องทางในการสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มแฟนคลับ ก็เลยมาลงตัวที่แอพฯ ที่จะทำให้แฟนๆ ได้อัพเดทชีวิตของผมได้มากยิ่งขึ้น ทั้งที่เมืองไทย และที่เกาหลี รวมถึงได้สนุกกับคอนเทนต์ ที่ผมตั้งใจทำเต็มที่จริงๆ

อย่างในส่วนของสติ๊กเกอร์ ก็เป็นครั้งแรกเลยที่เป็นรูปภาพจริงๆ ไม่ได้เป็นตัวการ์ตูนอย่างที่ผ่านมา เพราะเราอยากสื่อตัวตนของเราจริงๆ ก็เป็นแอ็คขี้เล่นๆ สไตล์ผม ส่วนโฟโต้เฟรมนี่ แฟนๆ จะได้ครีเอทภาพถ่ายน่ารักๆ ด้วยกัน เพื่อส่งเป็นสติ๊กเกอร์หรือแชร์เป็นภาพสนุกบนโซเชียลก็ได้ แล้วก็พรุ่งนี้แล้ว ที่ผมต้องไปเรียนร้องเพลงที่เกาหลีกว่า 6 สัปดาห์ ผมก็จะคอยอัพเดทชีวิตที่เกาหลีอัพขึ้นแอพฯ นี้ให้แฟนๆ ได้ติดตามชมทุกวัน เรียกว่าพิเศษสุดๆ บนแอพฯ AIS James’ Life ที่นี่ที่เดียวเลย
ที่สำคัญต้องขอบคุณเอไอเอส 3G มากๆ ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ที่มอบโอกาสให้ผมได้ทำอะไรสนุกๆ ได้ไปเดินสายโรดโชว์พบปะลูกค้าทั่วประเทศ และวันนี้ ก็ได้จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กัน ทำแอพฯ เพื่อแฟนๆ สาวกโซเชียล 3G”

View :1252
Categories: Application Tags:

เอไอเอส เดินหน้าจับมือ Noonswoon เตรียมปล่อยของให้ลูกค้า AIS 3G ได้ใช้บริการ ภายใน ต.ค. นี้

October 21st, 2013 No comments

เดินหน้าจับมือ ยอดทีม Startup สร้างความสำเร็จในสนามจริง
เผยได้รับ Funding จากกลุ่มนักลงทุนจาก Silicon Valley แล้ว
เตรียมปล่อยของให้ลูกค้า ได้ใช้บริการ ภายใน ต.ค. นี้
ais
เอไอเอส โดย นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล เปิดเผยถึงความสำเร็จของทีม Noonswoon ว่า “ภายหลังจากทีม Noonswoon กับผลงานแอพพลิเคชั่นแนว Match Maker ได้รับรางวัลชนะเลิศจากโครงการ AIS The Startup Weekends 2013 แล้ว เราก็ได้ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเอไอเอสได้ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ Noonswoon ในฐานะ Startup Partner เจ้าแรก ที่ก้าวสู่การเป็น ICP (Incubated Content Partner) หรือคอนเทนต์พาร์ทเนอร์ที่ได้รับการบ่มเพาะ ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจากเอไอเอสอย่างเต็มที่ ภายใต้ Business Model ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อกลุ่ม Startup โดยได้เตรียมเปิดตัวแอพพลิเคชั่นออกสู่ตลาดจริงให้ลูกค้าเอไอเอส 3G ได้ใช้บริการ ภายในเดือนตุลาคมศกนี้

พร้อมกันนี้ เอไอเอสยังร่วมเป็น Back up ผลักดัน Noonswoon สู่เวทีนักลงทุนระดับโลกมาโดยตลอดด้วยศักยภาพของ Noonswoon ที่พร้อมต่อการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต ทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งขณะนี้ Noonswoon ได้รับการลงทุน นำโดย Golden Gate Venture และ 500 Startups กลุ่มนักลงทุนชื่อดังจาก Silicon Valley และผู้ร่วมทุนรายอื่นๆ อีก
เหล่านี้ จึงนับเป็นเป็นความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมก้าวแรกของทีม Noonswoon ที่เอไอเอสตั้งใจสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ยั่งยืนให้กับกลุ่ม Startup พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างแข็งแรง” นายปรัธนากล่าว

View :1614

เอไอเอส 3G จับมือ โรส มีเดียฯ เปิดแอพ “AIS Gang Cartoon” จัดแพ็กบุฟเฟ่ท์ ให้ดูไม่อั้น ทั้งบนมือถือและพีซี

October 3rd, 2013 No comments

1

(3 ตุลาคม 2556) : ย้ำภาพผู้นำแอพพลิเคชั่น เดินหน้าจับมือพาร์ทเนอร์ตัวจริงทุกด้าน มอบประสบการณ์ใช้งานมือถือยุค 3G ตอบสนองทุกเซกเมนต์ ล่าสุด ผนึกกำลัง “โรส มีเดียฯ” เจ้าตลาดลิขสิทธิ์การ์ตูนอันดับหนึ่งของไทย ขยายตลาดคอนเทนต์มูฟวี่ เปิดให้บริการแอพ เจาะกลุ่มสาวกคนรักการ์ตูนแอนิเมชั่น จัดเต็มคอนเทนต์ลิขสิทธิ์พรีเมี่ยมจากญี่ปุ่นกว่า 1,000 ตอน จาก 40 เรื่องยอดฮิต พร้อมขยายช่องทางการรับชมรูปแบบใหม่ สมัครแพ็กเดียว ดูได้ไม่อั้น ทั้ง 2 จอ บนมือถือและพีซี! ในราคาสุดคุ้ม อีกสิ่งดีๆ เพื่อลูกค้าเอไอเอส 3G

นายปรัธนา ลีลพนัง รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล กล่าวว่า “หลังจากที่เอไอเอสได้เปิดให้บริการ 3G 2100 จนกระทั่งถึงวันนี้ที่เครือข่ายครอบคลุมทุกหัวเมือง 77 จังหวัดแล้วนั้น ด้วยศักยภาพของเครือข่าย 3G 2100 ที่มีความเร็วอินเตอร์เน็ตสูงขึ้น ทำให้สามารถขยายประสบการณ์ใช้งานเน็ตบนมือถือของลูกค้าไปอีกขั้น ก้าวสู่ยุคของคอนเทนต์ดิจิตอลมัลติมีเดียอย่างจริงจัง โดยพบว่าเทรนด์ของการรับชมภาพยนตร์และวิดีโอคลิปผ่านมือถือ มีอัตราเติบโตเป็นอันดับต้นๆ รองจากโซเชียลฯ และแชท ดังเช่น แอพ AIS Movie Store ที่ขณะนี้มีจำนวนภาพยนตร์ให้เลือกดูกว่า 2,000 เรื่องทั้งไทยและเทศ และมียอดดาวน์โหลดแอพสูงถึง 500,000 โหลด ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 250 % เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 ก่อนที่จะมี 3G 2100

ล่าสุด เพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลายให้กับคอบันเทิง เอไอเอสจึงได้จับมือกับค่ายโรส มีเดียฯ ผู้ถือลิขสิทธิ์การ์ตูนแอนิเมชั่นอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดให้บริการแอพพลิเคชั่น “AIS Gang Cartoon” เจาะกลุ่มเซกเมนต์สาวกการ์ตูนแอนิเมชั่นโดยเฉพาะ ขนทัพการ์ตูนลิขสิทธิ์พรีเมี่ยม ส่งตรงจากญี่ปุ่น ให้ลูกค้าเอไอเอสได้ชมบนมือถืออย่างสะดวกสบาย ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ พร้อมขยายช่องทางการรับชมรูปแบบใหม่ เป็นครั้งแรกของเมืองไทย กับแพ็กเกจบุฟเฟ่ท์แบบเหมาจ่าย สมัครแพ็กเดียว ดูได้ไม่จำกัดจำนวนเรื่อง ทั้งบนมือถือและพีซี โดยสามารถเข้าดูผ่านทางแอพพลิเคชั่นบนมือถือ และผ่านเว็บไซต์บนพีซี ในราคาสุดคุ้ม เพียง 59 บาท/7 วัน และ 119 บาท/30 วัน พิเศษ! สมัครวันนี้ – 3 พ.ย. 2556 ฟรี! 2 เท่า คือ ซื้อแพ็ก 7 วัน ฟรีอีก 7 วัน หรือซื้อแพ็ก 30 วัน ฟรีอีก 30 วัน

ความร่วมมือพัฒนาแอพ AIS Gang Cartoon ในครั้งนี้ ก็เพื่อมุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งกลุ่มผู้รักการ์ตูนแอนิเมชั่นในเมืองไทย ถือเป็นตลาดที่คึกคักมาก มีฐานผู้ชมที่เหนียวแน่นอยู่เป็นจำนวนมาก ครอบคลุมช่วงอายุตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยทำงาน และจากการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างโรส มีเดีย ซึ่งเป็นตัวจริงด้านลิขสิทธิ์การ์ตูน ทำให้เราเข้าใจถึงพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ที่มีแนวโน้มใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่รับชมแอนิเมชั่นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นที่มาของการขยายขีดความสามารถในการรับชมคอนเทนต์ให้แฟนการ์ตูนแอนิเมชั่น สามารถเลือกรับชมทางมือถือแบบออน เดอะ มูฟ บนสมาร์ทโฟนและสมาร์ทแท็บเล็ต หรือผ่านทางเครื่องพีซี เมื่ออยู่ที่บ้านก็ได้ เป็นความตั้งใจในการออกแบบบริการมาเพื่อประโยชน์ของลูกค้าเฉพาะกลุ่มอย่างชัดเจน” นายปรัธนากล่าว

ด้าน ดร. อรพรรณ มนต์พิชิต บวรวัฒนะ รองประธานสายงานลิขสิทธิ์และกลุ่มทีวี บริษัท โรสมีเดียแอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “โรสมีเดียและเอไอเอสถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับวงการแอนิเมชั่นมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับความร่วมมือล่าสุดในการให้บริการ “AIS Gang Cartoon” นี้ จึงเป็นการ Cross แพลตฟอร์มกันครั้งแรก ระหว่างโมบายและออนไลน์ ทำให้แฟนการ์ตูนสามารถเลือกรับชมได้ทั้ง 2 จออย่างไร้ข้อจำกัด ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงสมัครแพ็กเดียว ก็สามารถนำ Account ไปลงทะเบียน รับชมได้ทั้งบนมือถือและพีซี เป็นการเพิ่มช่องทางใหม่ๆ ในการเข้าถึงคอนเทนต์ให้กับกลุ่มเป้าหมายของเรา

โดยปีที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งการเติบโตของตลาดแอนิเมชั่นและทีวีดาวเทียมช่องแก๊งการ์ตูน โดยเฉลี่ยเติบโตสูงขึ้น 20% และคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2556 จะเติบโตขึ้นอีก 15-20% ด้วยการแข่งขันที่หลากหลายของธุรกิจแอนิเมชั่น ทำให้เราต้องการสร้างโอกาสในการแข่งขันใหม่ๆ นำไปสู่การพัฒนาในทุกด้าน ทั้งการเลือกซื้อการ์ตูน, การสร้างกิจกรรมอันหลากหลาย รวมถึงการมองหาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ใหม่ๆ ในการรับชมเพื่อรองรับต่อการขยายตัวของตลาดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อ 3G เกิดขึ้นในประเทศไทย การร่วมมือกับเอไอเอส ผู้นำด้านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศ จึงเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาด และตอบรับกระแสดังกล่าวได้เป็นอย่างดี” ดร. อรพรรณกล่าว

“AIS Gang Cartoon” รองรับบน iOS และ Android สำหรับมือถือ, Windows และ Mac สำหรับพีซี ลูกค้าเอไอเอสดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นได้ผ่านทาง App Store และ Google Play Store หรือทางเว็บไซต์ www.ais.co.th/gangcartoon โดยเบื้องต้น มีการ์ตูนแอนิเมชั่นให้เลือกชมกว่า 1,000 ตอน จาก 40 เรื่องยอดฮิต อาทิ Hyouka, Date a live, Naruto, Sword Art Online, Accel World, Hunter X Hunter

View :1962

เอไอเอส 3G 2100 จับมือ 3 พาร์ทเนอร์ เปิดปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกของประเทศไทย กับบริการ “AIS mPAY MasterCard”

September 26th, 2013 No comments

_AEW0009_1

24 กันยายน 2556 : 2100 ตอกย้ำกลยุทธ์ Ecosystem จับมือ 3 พาร์ทเนอร์ชั้นนำ ได้แก่ มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ , ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด มอบอีกสิ่งดีๆ ที่เข้าใจลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบการช้อปออนไลน์ เปิดตัวบริการ “” บัตรช้อปปิ้งบนโลกออนไลน์ ภายใต้แนวคิด “ช้อปออนไลน์ ปลอดภัย ใครๆ ก็ช้อปได้” เป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่นำนวัตกรรมพรีเพดมาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อให้ลูกค้าเอไอเอส ทุกคนสามารถซื้อของออนไลน์จากเว็บไซต์ที่รับชำระผ่านบัตร MasterCard ได้ เพียงเติมเงินเข้าตามจำนวนที่ต้องการใช้ พร้อมทั้งมีความปลอดภัยสูงด้วยมาตรฐาน 3D Secure ที่จะส่ง SMS ให้ลูกค้าทราบเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของทุกครั้งก่อนชำระเงิน ลูกค้าเอไอเอสสามารถใช้บริการ “” ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพียงดาวน์โหลด mPAY App จาก App Store หรือ Play Store มาไว้บนมือถือ พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการและซื้อสินค้าออนไลน์ครั้งแรก ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2557 รับเงินคืน 50% สูงสุด 300 บาท ทันที

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวว่า “หลังจากเอไอเอสเปิดให้บริการ 2100 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556 นอกเหนือจากการพัฒนาบริการในรูปแบบที่แตกต่าง เพื่อตอบโจทย์ในทุกๆ ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่องแล้ว เอไอเอสยังมีบริการ “เอ็มเปย์” ซึ่งมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจที่เน้นการให้บริการธุรกรรมทางการเงินบนมือถือแบบครบวงจร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า
เอไอเอส ในการชำระค่าสินค้าและบริการ รวมทั้งโอนเงินและถอนเงินได้อย่างง่ายๆ ผ่านมือถือ โดยที่ผ่านมาบริการเอ็มเปย์ประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เห็นได้จากมีจำนวนรายการธุรกรรมทางการเงิน (Transaction) ถึงกว่า 1.2 ล้านรายการ / วัน ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมากว่า 30% โดยปัจจุบันมีจำนวนลูกค้ากว่า 1 ล้านราย และตั้งเป้าการเติบโตจนถึงสิ้นปีนี้ไว้ที่ 25%
_AEW9869_1
และเนื่องจากปัจจุบันตลาด e-commerce มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีผู้บริโภคอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่นิยมซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ โดยมีสาเหตุหลักมาจาก (1) ยังไม่สามารถทำบัตรเครดิตได้ และ (2) ไม่มั่นใจในความปลอดภัยของการใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้าออนไลน์ ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าว ให้สามารถช้อปออนไลน์ได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล เอไอเอส 3G 2100 จึงมีนโยบายในการขยายตลาดบริการ e-commerce ภายใต้กลยุทธ์ Ecosystem โดยการผสานความร่วมมือกับ 3 พาร์ทเนอร์ชั้นนำ ได้แก่ (1) มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ บริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมและการชำระเงินระดับโลก (2) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ผู้นำทางด้านนวัตกรรมการเงินใหม่ๆ และ (3) บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยในการชำระเงินออนไลน์ ร่วมกันเปิดตัวปรากฏการณ์ใหม่ของการช้อปปิ้งออนไลน์กับบริการ “AIS mPAY MasterCard” บัตรช้อปปิ้งบนโลกออนไลน์ ภายใต้แนวคิด“ช้อปออนไลน์ ปลอดภัย ใครๆ ก็ช้อปได้” เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถซื้อของออนไลน์จากเว็บไซต์ที่มีสัญลักษณ์ MasterCard ได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล โดยไม่ต้องมีบัตรเครดิต ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่นำนวัตกรรมพรีเพดมาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน

โดยใน Phase แรก “AIS mPAY MasterCard” เปิดให้บริการรับชำระค่าสินค้าออนไลน์กับร้านค้าที่ใช้ระบบการชำระเงินในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 100,000 ร้าน และจะขยายการให้บริการไปยังทุกร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกที่มีสัญลักษณ์ MasterCard ต่อไปในราวต้นปีหน้า

สำหรับวิธีการใช้งาน ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลด mPAY App จาก App Store หรือ Play Store มาไว้บนมือถือ จากนั้นเปิดใช้งานบัตร “AIS mPAY MasterCard” โดยลูกค้าจะได้รับเลขบัตร 16 หลัก , เลข CVC (Card Verification Code) ซึ่งเป็นรหัสความปลอดภัย 3 หลัก และวันหมดอายุ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการชำระค่าสินค้าออนไลน์ ที่มีราคาเริ่มตั้งแต่ 300 – 30,000 บาท / ครั้ง พร้อมทั้งเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินที่มีความปลอดภัยสูง ด้วยมาตรฐาน 3D Secure ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล ที่จะส่ง SMS ให้ลูกค้าทราบเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของบัตรซื้อสินค้าดังกล่าวก่อนชำระเงินทุกครั้ง

ลูกค้าเอไอเอสเปิดใช้งานบัตร “AIS mPAY MasterCard” ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการเปิดบัตร และไม่ต้องใช้เอกสารใดๆ และ พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการและซื้อสินค้าออนไลน์ครั้งแรก ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2557 รับเงินคืน 50% สูงสุด 300 บาท ทันที

_AEW9840_1
ทางด้าน มร. แอนโทนิโอ คอร์โร ผู้จัดการประจำประเทศไทยและพม่า มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “มาสเตอร์การ์ดเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี และมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาระบบการชำระเงินโดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือ และด้วยนวัตกรรม virtual card นี้ จะช่วยให้ลูกค้าของเอไอเอสสามารถลงทะเบียนและใช้เลขบนบัตร “AIS mPAY MasterCard” สำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์เช่นบนเว็บไซต์ต่างๆ ที่รับบัตรมาสเตอร์การ์ดได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ทั้งยังเป็นการช่วยให้ธุรกิจร้านค้าเติบโตได้อีกด้วย นอกจากนี้ การร่วมมือนี้จะเป็นการตอบสนองความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ให้แก่ผู้บริโภคไทย อย่างเช่นกลุ่มวัยรุ่นที่มีความสนใจในการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเหมือนกระเป๋าสตางค์”

ด้าน มร. ฌอง มาร์ค ดาแลร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “พฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 15 – 30 ปี พบว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินในตลาดในปัจจุบันยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครบถ้วนให้กับกลุ่มผู้บริโภคในช่วงวัยดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ยังไม่มีบัตรเครดิต กลุ่มพนักงานที่ไม่พร้อมสมัครบัตรเครดิต และกลุ่มที่ต้องการควบคุมวงเงินในการซื้อสินค้าออนไลน์เป็นต้น ดังนั้น ธนาคารธนชาต ภายใต้แนวคิด “คิดได้ ก็ทำได้” จับมือร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ เปิดตัวให้บริการบัตร Virtual Prepaid Card สู่ตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรก เพื่อตอบสนองผู้บริโภคในการช้อปปิ้งออนไลน์อย่างไร้ขีดจำกัดได้อย่างสะดวก สบาย และปลอดภัยอย่างไม่เคยมีมาก่อน”

และ คุณปิยชาติ รัตน์ประสาทพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ทูซีทูพีหันมาพัฒนาและให้บริการด้านการออกบัตรร่วมกับพันธมิตรทั้ง3 โดยเชื่อมโยงความแข็งแกร่งของ MasterCard ในการเข้าถึงร้านค้าทั่วโลก ธนาคารธนชาต ในด้านการเป็นผู้นำเรื่องนวัตกรรมการเงินใหม่ๆ ทูซีทูพี ในด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยในการใช้บัตร และเอไอเอส ที่มีฐานลูกค้าที่กว้างขวาง เพราะพวกเรามีความเชื่อว่าบัตรนี้จะช่วยกระตุ้นยอดการซื้อสินค้าออนไลน์ได้เป็นอย่างดี เนื่องด้วยด้านความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้บัตร ซึ่งมีมาตรฐาน 3D Secure เช่นเดียวกับบัตรเครดิต และบัตรเดบิตของ MasterCard รวมทั้งผู้ใช้ยังสามารถควบคุมวงเงินในบัตรได้ด้วยตนเอง บัตรนี้จึงเหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการซื้อของออนไลน์ทุกคน โดยเฉพาะคนที่ไม่มีบัตรเครดิต หรือคนที่ต้องการความมั่นใจในการชำระเงินออนไลน์มากขึ้น”

View :2023
Categories: 3G, Application Tags:

ดีแทคจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจบันเทิง ทีวี และภาพยนตร์ชั้นนำกว่า 29 ราย เปิดตัวพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบ บนแอพพลิเคชั่น Watchever

September 6th, 2013 No comments

Resize of _AEW8401 (1)
5 กันยายน 2556 แอพพลิเคชั่น เริ่มเปิดให้ลูกค้าได้ใช้งานอย่างไม่เป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยมียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 300,000 ครั้ง และผู้ใช้งานมากกว่า 120,000 คนต่อเดือน วันนี้พร้อมแล้ว ประกาศจับมือกับพันธมิตร อาทิ บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) , บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด, บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด, บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด(มหาชน),บริษัท พระนครฟิล์ม จำกัด ,บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด และอีกหลายพันธมิตรชื่อดังกว่า 29 ราย ให้บริการความบันเทิงเต็มรูปแบบบนแอพพลิเคชั่น Watchever

ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ กล่าวว่า ดีแทคเห็นโอกาสเติบโตจากยอดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีอยู่กว่า 9 ล้านคน และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของจำนวนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เชื่อมั่นว่าการเปิดตัวเต็มรูปแบบของแอพพลิเคชั่น Watchever ในครั้งนี้จะสามารถเพิ่มศักยภาพให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการนำภาพยนตร์ดัง ละครยอดฮิต ซีรี่ย์สุดฮอต การ์ตูน และสารคดี มาให้ความบันเทิงอย่างสะดวกสบาย และเป็นการผลักดันธุรกิจด้านบันเทิง ทีวี และภาพยนตร์ ให้เจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่งในยุคดิจิตอล โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตร ในการรวบรวมคอนเทนต์เพื่อตอบโจทย์ทุกความบันเทิงให้กับลูกค้า

ปัจจุบันในแต่ละเดือนมียอดการใช้งานวิดีโอสตรีมมิ่งผ่าน Watchever กว่า 350,000 ครั้ง ซึ่งจัดอยู่ในอันดับ 1 ใน 30 สุดยอดแอพพลิเคชั่น ที่มีผู้ดาวน์โหลดสูงสุด Google play และติดอันดับ Top 10 ใน App Store ภายในสัปดาห์แรกที่เปิดให้บริการ ทั้งนี้คาดว่าในช่วงปลายปีนี้ จะมีลูกค้าที่สนใจเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว สำหรับ Watchever”

นายฉัตรชัย ตั้งจิตตรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดรีมเบส อินเตอร์แอ็คทีฟ จํากัดผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น Watchever ให้กับดีแทคกล่าวว่า ”เราไม่หยุดที่จะพัฒนาคุณภาพการใช้งานและเนื้อหาความบันเทิงให้กับลูกค้าอย่างครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อนำเสนอสิ่งที่ตรงใจลูกค้าทุกคน โดยเฉพาะให้ชมทีวีสดๆ กว่า 40 ช่อง ภาพยนตร์ทั้งไทยและเทศกว่า 2,000 เรื่อง การ์ตูน สารคดีสุดฮิตนับสิบๆเรื่อง และ
ซีรี่ส์ลิขสิทธิ์ยอดนิยมกว่า 500 episodes ได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น iOS, Android, BlackBerry, Smart TV และ Windows phone นอกจากนี้เรายังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำ “Social TV” ที่สามารถ แชร์ และแชทไปพร้อมๆ กับเพื่อนใน Social Network ขณะชมรายการต่างๆ อีกทั้งเพื่อไม่ให้พลาดรายการสุดโปรด ผู้ใช้งานสามารถตั้งเตือนเมื่อรายการนั้นมาถึงผ่านฟีเจอร์ “My Schedule” ได้อีกด้วย” นายฉัตรชัยกล่าว

ทั้งนี้ dtac Watchever ก็ได้เตรียมแพ็กเกจสุดคุ้มให้กับลูกค้าเป็นพิเศษ คือ แพ็กเกจ Buffet รายวัน วันละ 4 บาท และแพ็กเกจ Buffet รายเดือนลดราคาพิเศษเหลือแค่ 69 บาท สามารถดูได้ทั้งภาพยนตร์ดัง ละครยอดฮิต ซีรี่ย์สุดฮอต การ์ตูน และสารคดี แบบไม่จำกัด ลูกค้าแฮปปี้และดีแทคสามารถยังสามารถรับชมทีวีสดๆ กว่า 40 ช่องได้ฟรี แค่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Watchever ได้ทั้ง App Store และ Google play หรือ กด *197*5#โทรออกเพื่อรับ link download

View :1649

Ericsson Connected Vehicle Cloud ได้รับชัยชนะในการประกาศรางวัลของ CTIA E-Tech

September 4th, 2013 No comments

· โซลูชั่น Connected Vehicle Cloud ของอีริคสันได้รับรางวัลชนะเลิศ สาขา Enterprise Solution – General Business

· การแข่งขันในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมส่งผลงานเกือบ 300 ชิ้น โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนทั้งในด้านความแปลกใหม่ ความสามารถในการใช้งาน ความสำคัญทางเทคโนโลยี การนำไปใช้งานได้จริง และ ความรู้สึก ‘ว้าว’โดยรวม

· โซลูชั่นด้านการขนส่งและยานยนต์นี้ จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ดีสำหรับผู้ประกอบการในตลาดยานยนต์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถเข้าถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ผ่านแนวทางใหม่

อีริคสันได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะในการแข่งขัน 2013 CTIA Emerging Technology (E-Tech) Awards ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับนวัตกรรมใหม่ล่าสุดทางการสื่อสารไร้สายที่โดดเด่น ทั้งสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น mobile apps, ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภค, ตลาดองค์กรและ vertical markets รวมทั้งเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โซลูชั่น Connected Vehicle Cloud ของอีริคสัน ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขา Enterprise Solution – General Business โดยผ่านเกณฑ์การให้คะแนนทั้งในด้านความแปลกใหม่ ความสามารถในการใช้งาน ความสำคัญทางเทคโนโลยี การนำไปใช้งานได้จริง และ ความรู้สึก ‘ว้าว’ โดยรวม

“เกณฑ์การตัดสินในปีนี้ เน้นไปที่ผลกระทบและแรงบันดาลใจที่ได้จากอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สาย ที่มีต่ออุตสาหกรรมประเภทอื่น และต่อวิถีชีวิตประจำวันโดยทั่วไป เรามีความยินดีที่ได้แสดงวิสัยทัศน์และการประดิษฐ์คิดค้นใหม่ๆจากอุตสาหกรรมของเรา ในงาน CTIA 2013 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือสำหรับตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ เราขอแสดงความยินดีกับอีริคสันที่ได้รับรางวัล E-Tech Award สำหรับโซลูชั่น Connected Vehicle Cloud ในครั้งนี้” คุณโรเบิร์ต เมสิโร รองประธาน และ Show Director ของ CTIA กล่าว

Connected Vehicle Cloud ของอีริคสันได้เปิดโอกาสสำคัญ ทั้งสำหรับผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยานยนต์และเทคโนโลยีด้านอื่นๆ ให้สามารถเข้าถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ ผ่านแนวทางใหม่ จากการใช้งานผ่าน Ericsson Service Enablement Platform โซลูชั่นนี้จะสามารถเชื่อมต่อสู่กลุ่มผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น, องค์กรของรัฐ, ผู้ผลิตรถยนต์, และกลุ่มผู้บริโภคได้ โดยตั้งเป้าหมายที่จะรองรับความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งในด้านการปรับเปลี่ยนขนาดของระบบ, ความปลอดภัย และความยืดหยุ่นให้เหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก ส่งผลให้เกิดประสบการณ์ในการขับขี่ยุคใหม่และโอกาสทางธุรกิจจำนวนมากสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยานยนต์

“อุตสาหกรรมยานยนต์ได้กลายเป็นธุรกิจระดับโลกมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และการสร้างการเชื่อมต่อระหว่างยานยนต์ จำเป็นต้องใช้โมเดลทางธุรกิจใหม่ที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลกำไรที่ดีและช่วยพัฒนาศักยภาพที่มีอยู่ภายในอุตสาหกรรมนี้ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น รวมทั้งเชื่อมต่อรถยนต์เหล่านี้เข้ากับอุตสาหกรรมอื่นที่มีการเชื่อมโยงในลักษณะเดียวกันได้ต่อไป” กล่าวโดย คุณเพอร์ บอร์กคลินท์ ประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่าย Business Support Solutions ของอีริคสัน “โซลูชั่น Connected Vehicle Cloud ถูกสร้างขึ้นบนความสามารถของเครือข่ายโทรคมนาคมที่ก้าวหน้า จึงทำให้เกิดการพัฒนาอย่างมากเพื่อประสบการณ์การขับขี่ยุคใหม่ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่นวัตกรรมของเราได้รับการยอมรับถึงศักยภาพที่จะช่วยพัฒนาตลาด ‘connected car’ ให้ประสบความสำเร็จได้ยิ่งขึ้นไป”

นวัตกรรมจำนวนเกือบ 300 ผลงานได้เข้าร่วมแข่งขัน และมีการคัดเลือกโดยคณะกรรมการของ CTIA E-Tech ที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอันเป็นที่นับถือ ผู้สื่อข่าว และนักวิเคราะห์ การประกาศผลรายนามผู้ชนะในสาขาต่างๆ ได้จัดขึ้นในระหว่างงาน CTIA Conference ที่ Sands Expo & Convention Center ณ เมืองลาสเวกัส

ข้อมูลเพิ่มเติมของ Ericsson Vehicle Cloud solution และ Ericsson Operations Support and Business Support Solutions สามารถดาว์โหลดได้ที่

http://www.ericsson.com/ourportfolio/transport-and-automotive-industry/connected-vehicle-cloud

View :1792

เทรนด์ไมโครจับมือเอสไอเอสรุกตลาดคลาวด์ ซิเคียวริตี้สมบูรณ์แบบครั้งแรกในไทย

September 4th, 2013 No comments

Trend Micro & SiS
บริษัท (ประเทศไทย) เปิดกลยุทธ์รุกตลาดคลาวด์ซิเคียวริตี้ครึ่งปีหลัง ผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจยักษ์ใหญ่ บริษัท ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นำเสนอโซลูชั่นเทรนด์ไมโคร ดีพ ซิเคียวริตี้ ยกระดับการรักษาความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่และเอสเอ็มบี พร้อมตั้งเป้ายอดขายโซลูชั่นคลาวด์ซิเคียวริตี้เพิ่มขึ้นประมาณ 20 %
นายวิลเลี่ยม ตัน ผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากรายงานของบริษัทวิจัยข้อมูลเทคนาวิโอ ประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 963.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2557 ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ตลาดคลาวด์ซิเคียวริตี้ทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น คือการใช้บริการคลาวด์สำหรับการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญซึ่งกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของอาชญากรไซเบอร์ที่พุ่งเป้าโจมตีไปที่ระบบคลาวด์โดยเฉพาะ และในรายงานฉบับนี้ยังระบุด้วยว่าบริษัทเทรนด์ไมโครครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้านซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ (2012 Technavio Global Cloud Security Software Market)”

บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) มีแนวทางการทำตลาดที่เน้นให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับบริษัทคู่ค้า ล่าสุดร่วมกับบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประกาศความพร้อมรุกตลาดคลาวด์ซิเคียวริตี้ครึ่งปีหลัง พร้อมเปิดตัวโซลูชั่น “เทรนด์ไมโคร ดีพ ซิเคียวริตี้ 9” โซลูชั่นแรกและโซลูชั่นเดียวในอุตสาหกรรมที่มีคุณสมบัติเด่นด้านการปกป้องบนระบบเสมือนของ VMware โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งเอเจนท์ (agentless) ก็สามารถครอบคลุมครบทั้งระบบป้องกันการบุกรุก ระบบตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบ รวมถึงทำการปรับแต่งระบบเสมือนจริงได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสใดๆ เพิ่มเติม ช่วยตอบสนองความต้องการในการรักษาความปลอดภัยสำหรับเซิร์ฟเวอร์ และนำไปปรับใช้ร่วมกับระบบคลาวด์แบบเปิด และไฮบริดได้ ที่สำคัญยังเสริมความคล่องตัวและประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยให้กลุ่มลูกค้าองค์กรสามารถปรับขยายศูนย์ข้อมูล รวมทั้งเพิ่มปริมาณโหลดของระบบไปยังระบบคลาวด์แบบที่องค์กรต้องการได้อย่างมั่นใจ โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มธุรกิจการเงิน การธนาคาร หน่วยงานราชการ และภาคอุตสาหกรรมการผลิต

นายวิลเลี่ยมกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “บริษัทเทรนด์ไมโครมีความมุ่งมั่นที่จะเสริมความแข็งแกร่งและสร้างประโยชน์ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ และมั่นใจว่าความร่วมมือระหว่างบริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) และบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าตั้งแต่องคก์กรธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดย่อม รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาโซลูชั่นคลาวด์ซิเคียวริตี้ที่สมบูรณ์แบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด ล่าสุดบริษัท เอสไอเอสฯ ยังได้รับรางวัล Asean Distributor of the year 2012″ จากทาง VMware Asean ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางด้าน Virtualization อย่างแท้จริง และจากความร่วมมือของทั้งสองบริษัทคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายในส่วนของคลาวด์ซิเคียวริตี้ให้เพิ่มขึ้นได้ประมาณ 20%”

นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือในการรุกตลาดคลาวด์ซิเคียวริตี้ครั้งนี้ว่า “เนื่องจากปัจจุบันมีการนำอุปกรณ์ไอทีมาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ รวมถึงเริ่มมีการปรับใช้ระบบคลาวด์ในองค์กรที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่และทุกเวลา ดังนั้นองค์กรธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดย่อมต่างก็ตระหนักถึงความสำคัญในด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลขององค์กรกันเพิ่มมากขึ้น”

“บริษัท เอสไอเอส มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรธุรกิจร่วมกับบริษัท เทรนด์ไมโครในครั้งนี้ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าองค์กรที่กำลังก้าวไปสู่ระบบคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกลุ่มสินค้าที่ทำตลาดร่วมกับเทรนด์ไมโคร คือ โซลูชั่นดีพ ซิเคียวริตี้ โซลูชั่นรักษาความความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ที่สมบูรณ์แบบ และเป็นกลุ่มสินค้าชั้นนำในตลาด มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 1 และด้วยความเชี่ยวชาญของเอสไอเอสซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายในกลุ่มสินค้าเวอร์ช่วลไลซ์ (Virtualized) ที่ครบสมบูรณ์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ระบบวีเอ็ม (VM), ระบบรักษาความปลอดภัยบนวีเอ็ม และแบ็คอัพบนวีเอ็ม จึงมั่นใจว่าธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดได้ และส่งผลให้ยอดขายในส่วนการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน”

View :1544

ดีแทคประกาศผลผู้ชนะเลิศทีม ฟาสอินโฟล (Fastinflow) จากโครงการ dtac Accelerate คว้าชัยลัดฟ้าสู่ ซิลิคอน แวลลีย์

September 4th, 2013 No comments

Resize of IMG_4063
28 สิงหาคม 2556 – ดีแทคประกาศผลทีม ฟาสอินโฟล (Fastinflow) ผู้ชนะเลิศในโครงการ ประกวดผลงานโมบายแอพพลิเคชั่น ในธีม Wizard of Apps เฟ้นหาสุดยอดนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น หลังขับเคี่ยวกับหลายทีมและผ่านเวิร์คช้อปจากนักธุรกิจชื่อดังที่บินตรงมาจากซิลิคอน แวลลีย์อย่างเข้มข้น ตั้งแต่เปิดโครงการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จนได้ ทีมฟาสอินโฟล ที่ชนะใจกรรมการ ด้วยแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับ การวิจัยการตลาดที่ง่ายต่อการใช้งาน ภายใน 5 นาที กับ 3 ขั้นตอน คือ 1. สร้างแนวคำถามที่ต้องการถามลูกค้า 2. ส่งคำถามไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ และ 3. รับผลสรุปจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ฟาสอินโฟลเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดให้กับนักวิจัยการตลาดที่ต้องการเจาะลึกถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
Resize of IMG_4138 (1)
รางวัลสำหรับผู้ชนะ จะได้เข้าร่วมโปรแกรม Blackbox Connect ที่ซิลิคอน แวลลีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเข้าคอร์สติวเข้ม ระยะเวลา 2 สัปดาห์ ภายใต้แนวคิด “Half-a-year Silicon Valley experience condensed in a two-week immersion program” ด้วยเนื้อหาจากประสบการณ์จริงของ ผู้บริหาร นักพัฒนา นักลงทุน และนักธุรกิจชั้นนำของซิลิคอน แวลลีย์ เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับโลก และสำหรับผู้ผ่านเข้ารอบโครงการ dtac Accelerate จะได้รับการสนับสนุนการพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์จากดีแทคอีกด้วย

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับทีมที่ชนะเลิศ และทีมที่เข้ารอบทั้งหมดในวันนี้ซึ่งได้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและพลังสร้างสรรค์ ที่อยากทำงานอย่างอิสระ มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีอนาคตไกล ผลงานที่แต่ละทีมนำเสนอเข้ามา ทำให้มองเห็นเทรนของการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายรองรับการดำเนินชีวิต mobility lifestyle ในอีก 3-5 ปี ข้างหน้า

โครงการ dtac Accelerate เกิดขึ้นจากการที่ดีแทคมีความเชื่อมั่นในความสามารถของคนไทย และต้องการสร้างแรงกระตุ้นให้คนไทยเป็นผู้ริเริ่มสร้างนวัตกรรม แอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ ร่วมปฏิวัติอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เพิ่มพื้นที่เรียนรู้และแสดงศักยภาพให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

ดีแทคให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจสู่โมบายคอนเทนท์และแอพพลิเคชั่น ที่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการทรานฟอร์มบริษัทสู่ธุรกิจโมบายล์ อินเทอร์เน็ตอย่างเต็มตัว เพื่อสร้าง application ecosystem ที่สมบูรณ์แบบขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางด้านการส่งเสริมการตลาดกับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นในประเทศไทย เพื่อนำแอพพลิเคชั่นดีๆ สู่ผู้ใช้บริการ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นไทยก้าวสู่เวทีระดับโลก”

โครงการ dtac Accelerate ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม ด้วยจำนวน Like กว่า 8,000 บน Facebook Fan Page มีผู้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกว่า 2,500 คน มีไอเดียที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกมากกว่า 200 ไอเดียจากผู้เข้าแข่งขันประมาณ 1,000 คน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา dtac Accelerate เป็นโครงการที่สร้างความโดดเด่นและแตกต่าง ด้วยการจัด Workshop กับผู้บริหารดีแทค นักพัฒนา นักลงทุนและนักธุรกิจชื่อดังที่บินตรงมาจาก ซิลิคอน แวลลีย์ เพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ เช่น Matt Monday อดีต editor จาก Apple App Store และ Paul Jastrzebski ผู้เชี่ยวชาญด้าน Business Development ที่นำเกมดังมากมายเช่น Grand Theft Auto 3, Shadowgun มาสู่ Google Play Fadi Bishara ผู้ก่อตั้ง Blackbox Accelerator เป็นต้น

และในที่สุดก็มาถึงวันเดโมเดย์ รอบชิงชนะเลิศที่ทั้ง 10 ทีมที่เข้ารอบจะได้พรีเซ้นท์ผลงานต่อคณะกรรมการ 5 ท่าน ซึ่งประกอบไปด้วย 1. Stephanie Palmeri, Principal จาก SoftTech VC ที่ลงทุนในบริษัท Startup กว่า 15,000 ล้านบาท 2. Benjamin Ranck, CTO แห่ง Jetabroad บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการสำรองตั๋วเครื่องบิน และการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวในอนาคต 3. Matt Walters, Principal จาก Ardent Capital ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsNew และ Topicmarks 4. ชวภาส องค์มหัทมงคล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร PrimeStreet Advisory บริษัทที่ปรึกษาด้านการร่วมทุน อาจารย์พิเศษ และที่ปรึกษาให้กับองค์กรธุรกิจและการศึกษาหลายแห่ง และ 5. ปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย Business Support System ดีแทค
Resize of IMG_4096 (1)
โดยมีรายชื่อทีมผู้เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายและแอพพลิเคชั่นดังนี้
· DietParty: แอพพลิเคชั่นที่จะทำให้คุณสนุกกับการลดน้ำหนัก ด้วยวิธีการที่น่าสนุกและลดน้ำหนักไปพร้อมกับเพื่อนๆ
· Evrdi, Social Diary ไดอารี่ออนไลน์แนวใหม่ ที่จะช่วยเก็บความทรงจำของคุณ ไม่หล่นหายไปตามกาลเวลา
· Facecard: แอพพลิเคชั่นที่จะทำให้ นามบัตรของคุณ ไม่เป็นเพียงบัตรกระดาษใบเล็กอีกต่อไป
· Fastinflow: แอพพลิเคชั่นที่จะทำให้นักการตลาด สามารถหา consumer insight ของลูกค้าได้ ในเวลา 5 นาที!
· Shopsuke: แอพพลิเคชั่นที่จะรวมร้านค้าที่ถูกใจใน Facebook พร้อมช่องทางสื่อสารกับร้านค้าโดยตรง มาอยู่ในมือคุณ
· Haamor: นวัตกรรมทางการแพทย์ ที่จะช่วยให้ปัญหาสุขภาพของคุณมีคำตอบ ด้วยคำถามง่าย ๆ จากแพทย์ชั้นนำ
· Packlink: ทริปท่องเที่ยวของคุณ จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป กับแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้คุณไม่พลาดของสำคัญในการเดินทาง
· Quest: แอพพลิเคชั่นที่จำช่วยให้ startups ค้นหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ และสร้างความสัมพันธ์เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน
· sabuy.me: แอพพลิเคชั่นที่ช่วยสร้างช่องทางให้กับร้านค้าออนไลน์ พร้อมระบบการซื้อขายที่สะดวกยิ่งขึ้น
· Storylog: การแบ่งปันเรื่องสนุกของคุณ จะไม่เป็นเพียงเรื่องเล่าธรรมดาๆ อีกต่อไป กับแอพพลิเคชั่น Storylog

View :1337
Categories: Application Tags:

ลูกค้าดีแทคยิ้มรับโบนัสพิเศษสุด ใช้เฟซบุ๊คเมสเซนเจอร์และสติ๊กเกอร์ฟรี เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

August 28th, 2013 No comments

27 สิงหาคม 2556 – ดีแทคเปิดตัวเฟซบุ๊คเมสเซนเจอร์และสติ๊กเกอร์ในเฟซบุ๊คฟรีเฉพาะลูกค้าดีแทค พร้อมประกาศเป็นผู้ให้บริการเฟซบุ๊คบนมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ในแต่ละเดือนมีลูกค้าดีแทค ประมาณ 7.5 ล้านคน ที่ใช้เฟซบุ๊คบนโทรศัพท์มือถือ โดยตามสถิติ 50% ของผู้ใช้เฟซบุ๊คบนมือถือในประเทศไทยเป็นลูกค้าดีแทค ซึ่งมากกว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายอื่นๆ

สติ๊กเกอร์ประสบความสำเร็จในเอเชีย เนื่องจากการแข่งขันที่สูงของแอพลิเคชั่นแชท (Chat) ตัวอย่างเช่น ไลน์ (Line) และวอทส์แอพพ์ (WhatsApp) ทำให้เฟซบุ๊คต้องหันมาให้ความสำคัญกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถืออย่างดีแทค เมื่อต้นปี 2556 เฟซบุ๊คเปิดตัวบริการแชทใหม่ชื่อว่า และเลือกให้ดีแทคเป็นพาร์ทเนอร์ในประเทศไทย บริการนี้ได้เปิดใช้งานเมื่อเดือนกรกฎาคม 2556 และเฟซบุ๊คได้เปิดตัว “” เป็นครั้งแรก โดยเป็นส่วนหนึ่งของเฟซบุ๊คเมสเซนเจอร์ ที่ให้บริการฟรีนานถึง 90 วัน ซึ่งถือเป็นโบนัสพิเศษสำหรับลูกค้าดีแทค

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “คนไทยชอบใช้บริการโซเชียลมีเดียและแชท ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้แอพพลิเคชั่นอย่างเฟซบุ๊ค ว็อทสแอพพ์ และไลน์เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมากกว่า 80% ของผู้ใช้บริการดีแทคใช้บริการโซเชียลมีเดียและบริการแชททุกวัน ความนิยมในแอพพลิเคชั่นไลน์สูงขึ้นกว่าว็อทสแอพพ์อย่างเห็นได้ชัดเป็นเพราะสติ๊กเกอร์ วัยรุ่นและเด็กชอบที่จะแสดงความรู้สึกผ่านสติ๊กเกอร์ ที่เพิ่มความสนุกในการแชทและการแสดงความรู้สึกได้ชัดเจน เพราะบางครั้งการสื่อด้วยสติ๊กเกอร์จะดีกว่าการใช้คำ ดีแทคเป็นผู้ให้บริการมือถือรายแรกในประเทศไทยที่นำเสนอสติ๊กเกอร์บนเฟซบุ๊ค และดีแทคยังเป็นผู้ให้บริการแห่งที่สองของโลกที่จัดเฟซบุ๊คสติ๊กเกอร์ให้แก่ลูกค้า”

สติ๊กเกอร์เป็นสัญญลักษณ์ที่แสดงอารมณ์ (Emoticon) ซึ่งมันสื่อถึงบางสิ่งบางอย่างผ่านทางรูปภาพ ไอคอนเหล่านั้นเป็นได้ทั้งลักษณะภาพสะท้อนสมัยนิยมขณะนั้น หรือเป็นรูปสัตว์ทำท่ากอด หรือภาพถ้วยกาแฟง่ายๆรูปหนึ่ง ที่ผ่านมาแอพพลิเคชั่นไลน์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการนำเสนอสติ๊กเกอร์สู่ผู้ใช้งานในทวีปเอเชีย และตอนนี้เฟซบุ๊คกำลังตอบโจทย์การแข่งขันนี้ด้วยการมีสติ๊กเกอร์ของเฟซบุ๊คเองบ้าง
ความน่าดึงดูดของตลาดในประเทศไทย ช่วยสร้างความเป็นพันธมิตรที่ดีระหว่างดีแทคและเฟซบุ๊คให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น โดยในขณะนี้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอันดับหนึ่งของโลกในการใช้เฟซบุ๊ค และตำแหน่งทางการตลาดของดีแทครวมถึงฐานลูกค้าที่ใช้เฟซบุ๊คด้วย และเหนือสิ่งเหล่านั้นกลุ่มบริษัทเทเลนอร์ ได้คงความเป็นพันธมิตรระดับโลกกับทางเฟซบุ๊ค สิ่งนี้ทำให้ยักษ์ใหญ่แห่งโซเชียลมีเดียมีจุดเดียวที่สามารถเข้าถึงทุกตลาด (single point of entry) ผ่านทางเครือข่ายของเทเลนอร์ที่มีผู้ใช้บริการกว่า 150 ล้านรายทั่วโลก

View :1505

ลูกค้าดีแทคยิ้มรับความสะดวก ปลอดภัยเหนือระดับ ด้วยบริการ “ Operator Billing” ซื้อแอพพลิเคชั่นชำระผ่านบิลดีแทคได้แล้ว

August 26th, 2013 No comments

26 สิงหาคม 2556 – ดีแทคมอบความสะดวก และปลอดภัยเอาใจลูกค้าผู้ใช้สมาร์ทโฟน ที่ต้องการซื้อแอพพลิเคชั่นได้ดาวน์โหลดมาใช้บนมือถือ ด้วยบริการ “” บริการซื้อแอพพลิเคชั่นแล้วชำระเงินโดยตัดบิลดีแทคได้เลย เริ่มแล้ววันนี้สำหรับผู้มือถือบนระบบปฏิบัติการ วินโดว์โฟน และจะทยอยเปิดให้บริการสำหรับระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ ไอโอเอส และแบล็คเบอรี่ได้ครบภายในสิ้นปีนี้ ให้ผู้ใช้งานเลือกดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ชื่นชอบได้สะดวก ปลอดภัยมั่นใจได้และง่ายยิ่งขึ้น

นายปกรณ์ มโนรมย์ภัทรสาร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดธุรกิจโพสต์เพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคได้ตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้นำบริษัทที่ให้บริการ ทางด้านโมบายล์ อินเตอร์เน็ต เพื่อส่งเสริมให้คนไทยทุกคน สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตจากโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์พกพาต่างๆได้ทุกที่ ทุกเวลาอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ เพื่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและโอกาสต่าง ๆ ในการใช้งานที่เท่าเทียมกัน โดยการสร้างสรรค์รูปแบบการให้บริการเป็น One Digital dtac ที่ผสมผสานการใช้เทคโนโลยี แอพพลิเคชั่น และบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวก เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

ล่าสุดเปิดบริการใหม่ สำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ วินโดว์โฟน ให้ได้รับความสะดวกในการซื้อแอพพลิเคชั่นและชำระเงินผ่านบิลของดีแทค โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยและความยุ่งยากในการชำระเงินอีกต่อไป และยังสามารถตรวจสอบได้ง่ายจากบิลใบเดียว เรียกว่าเป็นการจัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายให้ง่ายต่อการควบคุมจัดการ

พฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคเป็นมัลติฟังก์ชั่นมากขึ้น การใช้บริการดาต้าจึงเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะโมบายคอนเทนต์ และโซเชียลเน็ตเวิร์ค ซึ่งมีการวิจัยระบุว่าลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนจะใช้แอพโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างน้อยหนึ่งแอพ และมีการติดต่อสื่อสารผ่านแอพพลิเคชั่นมากขึ้น โดยปัจจุบัน ลูกค้าดีแทคมีการใช้งานดาต้าในแต่ละวัน มีการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คกว่า 70% และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆทำให้มีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนหนึ่งของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น เป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ที่ยังไม่มีบัตรเครดิตสำหรับซื้อแอพพลิเคชั่น ดังนั้นบริการ Operator Billing จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเลือกซื้อแอพพลิเคชั่นดีๆ มีประโยชน์มาใช้บนสมาร์ทโฟนได้ง่ายขึ้น

นอกจากนั้น Operator Billing จะช่วยเรื่องการเติบโตของอุตสาหกรรมแอพพลิเคชั่นในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีนักพัฒนาแอพดีๆ ชาวไทยอยู่จำนวนไม่น้อย การที่เราสามารถอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยได้อุดหนุนแอพพลิเคชั่นดีๆ ของคนไทยด้วยกันเอง จะทำให้ระบบนิเวศน์สื่อสารไร้สายของไทยแข็งแกร่งขึ้น”

View :1262
Categories: Application Tags: