Archive

Archive for the ‘Application’ Category

แอพพลิเคชั่นสำหรับอุทยานแห่งชาติบนมือถือ A-Eye แอพพลิเคชั่นเจ๋งบนมือถือสมาร์ทโฟนฝีมือเด็ก มจธ.

April 19th, 2013 No comments

A-Eye แอพพลิเคชั่นเจ๋งบนมือถือสมาร์ทโฟนฝีมือเด็ก มจธ. ทำหน้าที่เสมือนรุกขเทวดา เปิดโซเชียลเน็ตเวิร์กให้นักท่องเที่ยว แค่ถ่ายและกดแชร์ภาพเหตุร้ายในป่า ทั้งการตัดไม้ ไฟป่า น้ำป่า ก่อนเจ้าหน้าที่อุทยานแจ้งเหตุฉุกเฉินเตือนนักท่องเที่ยว ลดการสูญเสีย ช่วยสอดส่องธรรมชาติ ลดปริมาณโบว์ชัวร์เพราะทำหน้าที่เสมือนไกด์นำเที่ยวเส้นทางธรรมชาติได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ

การดูแลรักษาป่าใช่เพียงเป็นงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกต่อไป คนเมืองหัวใจสีเขียวที่ดูห่างไกลเกินไปเมื่อพูดถึงเรื่องดูแลรักษาป่าก็สามารถมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าได้โดยตรง เมื่อมีแอพพลิเคชั่น “A-Eye” แอพพลิเคชั่นฝีมือนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ที่ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์ป่าไม้ที่นับวันยิ่งมีจำนวนลดลง

แอพพลิเคชั่นบนมือถือที่ว่านี้เป็นผลงานของ ภัทรวุฒิ เรืองกนกมาศ ชณิดา ดีโรจนเดช จิตนันท์ มีนไชยอนันต์ และ ศุภัชญา พวงพรทิพ 4 นักศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มจธ.ที่เพิ่งคว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย 2013 (NSC 2013) ในมหกรรมประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 ประเภท Environment App Contest มาหมาดๆ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ผลงานชิ้นนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า A-Eye (Extra eyes assisting in the environmental surveillance of the national parks) เป็นระบบอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่รักษาป่าไม้ในอุทยานแห่งชาติรวมทั้งเป็นตัวช่วยในการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยระบบถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการลดลงของพื้นที่ป่าไม้อันมีสาเหตุมาจากการทำลายพื้นที่ป่าไม้ที่เป็นแหล่งรวบรวมทรัพยากรธรรมชาติ และจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ไม่เพียงพอในการสอดส่องดูแลเหตุการณ์ผิดปกติต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม เช่น การเกิดไฟป่า การลักลอบตัดไม้ทำลายสัตว์ป่า A-Eye เป็นแอพพลิเคชั่นที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าไม้ระหว่างการท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติ ผ่านการใช้งานแอพพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟน

ภัทรวุฒิ เรืองกนกมาศ นักศึกษาวิศวคอมพิวเตอร์ ชั้นปี 4 มจธ.หนึ่งในทีมผู้คิดค้น กล่าวว่า เหตุผลที่พวกเขาพัฒนาระบบดังกล่าวบนมือถือสมาร์ทโฟน เนื่องจาก มีคนจำนวนมากนิยมใช้อีกทั้งยังสะดวกต่อการพกพา หลังจากที่พวกเขาคิดที่จะตอบโจทย์ของสังคมเรื่องป่าไม้ ต่อมาก็คิดวิธีการช่วยในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ต่างๆอันเป็นสาเหตุที่ทำให้ป่าไม้ลดลง ทั้งการลักลอบตัดไม้และไฟป่า พวกเขาคิดว่านอกจากเจ้าหน้าที่รักษาป่าแล้วคนทั่วไปก็น่าจะมีส่วนร่วม โดยมีนักท่องเที่ยวเป็นจุดเน้นเพราะบุคคลกลุ่มนี้มีโอกาสพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวได้เช่นกัน จึงคิดให้นักท่องเที่ยวโหลดแอพพลิเคชั่น A-Eye และสามารถถ่ายภาพและระบุรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งข้อมูลไปยังศูนย์เฝ้าระวัง ซึ่งการถ่ายภาพจะบอกพิกัดที่เกิดเหตุดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่มอนิเตอร์ข้อมูลจะทราบทันทีว่าเหตุเกิดที่จุดใด”

“สมมติว่านักท่องเที่ยวเจอไฟป่า หรืออุบัติเหตุอื่น ก็สามารถถ่ายรูปแล้วส่งไปยังศูนย์ควบคุมซึ่งมีเจ้าหน้าที่อุทยาน มอนิเตอร์ข้อมูลผ่านเว็บแอพพลิเคชั่น ถ้าหากตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าเป็นความจริง จะมอบหมายงานนั้นๆให้แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไปดำเนินการแก้ไข แต่หากเป็นเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ เช่น ไฟป่า ที่มีความอันตรายต่อทุกชีวิตในบริเวณกว้าง ในฟังกัชั่นแผนที่ของแอพพลิเคชั่นจะแจ้งพิกัดขอบเขตพื้นที่อันตรายเป็นวงกลมสีแดง เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นนี้บนมือถือสามารถเดินทางออกจากพื้นที่อันตรายไปยังพื้นที่สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย แต่ในเหตุการณ์ปกตินักท่องเที่ยวที่พบเห็นพันธุ์ไม้หรือสัตว์ป่าหายากที่น่าสนใจ ก็สามารถถ่ายรูปแล้วแชร์ขึ้นบนแอพพลิเคชั่นให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงสามารถเดินทางมาดูได้เช่นกัน ซึ่งเป็นการสร้างโซเชียลเน็ตเวิร์คของนักเดินป่าได้อีกด้วย

นางสาวชณิดา ดีโรจนเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเป็นแอพพลิเคชั่นช่วยเหลือสังคมแล้วผู้ใช้ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในแง่ของการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีส่วนเพิ่มเติม (features) ที่เป็นการจำลองแผนที่เสมือนจริงทำหน้าที่แทนไกด์แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวภายในอุทยาน บอกเส้นทางการเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยแสดงรูปภาพตัวอย่างของสถานที่ท่องเที่ยวนั้น แผนที่และรายละเอียดประวัติความเป็นมา รวมถึงข้อมูลสำคัญของสถานที่นั้นๆ โดยอุทยานไม่ต้องเสียงบประมาณในการจัดพิมพ์แผ่นพับ แก้ไขปัญหาแผ่นพับไม่เพียงพอโดยเฉพาะในช่วงฤดูการท่องเที่ยว และเป็นการช่วยอนุรักษ์ป่าไม้จากการถูกทำลายจากการผลิตแผ่นพับได้อีกด้วย นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นนี้ยังช่วยแบ่งเบาภาระงานของเจ้าหน้าที่ในด้านการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยการนำเสนอคำแนะนำทั้งภาพและเสียงเป็นภาษาสากล โดยเพิ่มรายละเอียดข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวให้ครบถ้วนมากกว่าแผ่นพับ อีกทั้งยังดึงดูดผู้ใช้ด้วยการนำโซเชียลเน็ตเวิร์กมาผสมผสาน โดยสามารถถ่ายรูปแล้วแชร์ได้อีกด้วย

รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล รองคณบดีฝ่ายพัฒนาการศึกษา ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. ที่ปรึกษาโครงการกล่าวเพิ่มเติมว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีและคณะวิศวกรรมศาสตร์ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการรู้นอกห้องเรียน เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์จากสถานที่จริง มุ่งสู่ความโกอินเตอร์ไปพร้อมกับการมีจิตสาธารณะต่อส่วนรวม ใช้ความรู้ความสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างสร้างสรรค์ช่วยเหลือสังคม และประสานงานได้ดีกับอุตสาหกรรมให้ความช่วยเหลือทั้งในแง่เทคนิคและคำปรึกษา

“โดยเฉพาะนักศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์โอกาสที่เข้าจะออกไปทำงานอย่างนี้น้อยมาก นี่เป็นครั้งแรกของนักศึกษา 4 คนนี้ ที่เขาต้องลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลในป่า เพราะการทำแอพพลิเคชั่นนี้จะต้องสำรวจพื้นที่จริง โดยต้องเก็บพิกัดสถานที่ท่องเที่ยว ต้องออกแบบแผนที่ให้น่าดึงดูดต่อการใช้งานด้วยตนเอง ต้องเขียนบท ต้องอัดเสียง ซึ่งมากเกินกว่านักพัฒนาระบบอย่างพวกเขาจะต้องทำ แต่เราต้องการให้เขาเข้าใจและเรียนรู้ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาทำได้แม้ว่าเขาจะไม่ถนัดก็ตาม” รศ.ดร.ธีรณี กล่าวและเพิ่มเติมว่า แม้ว่าปัจจุบันแอพพลิเคชั่นนี้จะมีการวางพิกัดและมีพื้นที่ดำเนินงานเฉพาะอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย จังหวัดเชียงใหม่ แต่แอพพลิเคชั่นดังกล่าวถูกออกแบบให้สามารถเปลี่ยนข้อมูลอุทยาน(Content) โดยจะมีส่วนของการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลเพื่อรองรับข้อมูลของอุทยานอื่นๆ เพื่อให้อุทยานที่มีความสนใจสามารถจัดทำข้อมูลและอัพโหลดข้อมูลของอุทยานของตนมาใช้งานบนแอพพลิเคชั่น A-Eye ได้

View :1187
Categories: Application Tags:

ทรู เพิ่มช่องทางตามติด สามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 2 ชมสด ทุกที่ ทุกเวลา ฟรี ผ่านมือถือ ทั้ง iOS และ Android พร้อมชวนร่วมแชทสนทนาธรรมผ่านหน้าจอ

April 10th, 2013 No comments


กรุงเทพฯ 5 เมษายน 2556 – บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น โดยโครงการทรูปลูกปัญญา เสริมช่องทางรับชมการถ่ายทอดสด รายการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปี 2 แนวคิด “จากสิ่งที่เป็น สู่สิ่งที่เปลี่ยน” ให้ติดตามชีวิต 9 สามเณรน้อย ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านระบบมือถือ รองรับผู้ใช้งานทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

• สำหรับผู้ใช้ iOS ทั้ง iPhone, iPad, iPod touch และผู้ใช้ Andriod เพียงเข้าเว็บไซต์ www.trueplookpanya.com/truelittlemonk และเลือกฟังก์ชั่น Add to Home Screen บนหน้าจอ Pop Up เพื่อติดตั้ง เว็บ แอพพลิเคชั่น บนมือถือ

• สำหรับผู้ใช้ iPhone ยังสามารถชมรายการผ่านแอพพลิเคชั่น เพียงค้นหาคำว่า trueplookpanya.com ใน App Store และดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าทรูมูฟ และทรูมูฟเอช มีส่วนร่วมในรายการ สามเณร ปลูกปัญญาธรรม ด้วยการส่ง SMS เพื่อแสดงความคิดเห็น และแบ่งปันข้อคิด คติธรรมให้แก่ผู้ร่วมชมรายการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ด้วยการพิมพ์ข้อความ และส่งมาที่ 4827299


รายการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม เป็นการถ่ายทอดสดเรื่องราวการใช้ชีวิตจริงและกิจวัตรประจำวันของสามเณรภาคฤดูร้อน 9 รูป ในการเรียนรู้ ปฏิบัติธรรม ทดสอบความอดทนและสมาธิ รวมทั้งความสามารถแสดงธรรมเทศน์ ตลอด 1 เดือน ณ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก โดยออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ช่อง 60 และ ทรูวิชั่นส์ HD ช่อง 120 พร้อมเปิดเป็นฟรีทูแอร์ ให้รับชมรายการผ่านอุปกรณ์และจานรับสัญญาณระบบ KU Band ได้แก่ PSI True TV ช่อง 16 และ PSI OK ช่อง 52 รวมทั้งระบบ C Band ได้แก่ PSI O2 และ PSI S-X ช่อง 144 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามชมรายการออนไลน์ได้ที่ www.trueplookpanya.com/truelittlemonk ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 เมษายน 2556

View :2130
Categories: Application Tags:

กระทรวง วิทย์ฯ ส่งแอพ TVIS รายงานสภาพจราจรด้วยเสียงพูด พร้อมให้ดาวน์โหลดฟรี

April 10th, 2013 No comments

วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สั่งการ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค/สวทช.) ส่ง แอพพลิเคชั่น Traffic Voice Information System : TVIS รายงานข้อมูลสภาพจราจรอัจฉริยะแบบเรียลไทม์ (Real Time) ช่วยประชาชนวางแผนการเดิน ทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ คาดประชาชนจะได้รับทราบข้อมูลข่าวสารทางด้านการจราจรเพื่อช่วย วางแผนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา ช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดจากปริมาณการใช้รถใช้ถนนที่มีจำนวน มาก พร้อมเปิดให้ประชาชนดาวน์โหลดไปใช้งานฟรี เพื่อรองรับปริมาณความต้องการข้อมูลข่าวสารทางด้านการจราจร

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโลยี กล่าวว่า “ปัญหาจราจรในประเทศไทยเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงขึ้นทุก ปี ผู้คนที่ประสบเหตุการณ์รถติด อยู่ทุกๆ วัน ทราบกันดีว่าเป็นความทุกข์ยาก ที่แสนสาหัสกับ การจราจรที่ติดขัดอย่างมาก เป็นผลเสียต่อการดำเนินชีวิตของคนหลายล้านคน ที่จะต้องประสบกับความทุกข์ยากลำบากทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เป็นเหตุที่ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนตกต่ำเป็นอย่างมากกับการ ที่ต้องทนอยู่กับ อากาศเป็นพิษ ซึ่งเป็นมลพิษที่เกิดมาจากปัญหาการจราจรเป็นหลัก เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาจราจรเป็นสิ่งที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง ทุกฝ่ายพยายามหาวิธีขจัดปัญหาหรือทุเลาปัญหานี้ กระทรวงวิทย์ฯ จึงได้สั่งการให้ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกและคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(เนคเทค/สวทช.) นำผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขการจราจรทั้งทาง ตรงและทางอ้อมมาบูรณาการร่วมกัน เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดในการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งแอพพลิเคชั่น TVIS นี้ สามารถรายงานสภาพจราจรด้วยแบบออนไลน์ ซึ่งดึงข้อมูลสภาพการจราจรจากแหล่งข้อมูลต่างๆ แบบอัตโนมัติ โดยผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้โดยการพูดชื่อถนนที่ต้องการ เพราะมีระบบรู้จำเสียงพูดภาษาไทย และสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ ด้วยตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้หรือชื่อตำแหน่งใดๆ ที่ผู้ใช้ต้องการได้ แอพพลิเคชั่น TVIS นั้น สร้างความเชื่อมั่นและถูกต้องแม่นยำให้กับผู้ใช้ เนื่องจากประกอบด้วยระบบการรายงานผลการจราจรแบบต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น ข้อมูลภาพจากกล้อง CCTV,ข้อมูลข่าวสารจราจรจากสังคมออนไลน์,ป้ายจราจร อัจฉริยะสามารถดูได้ผ่านแอพพลิเคชั่นของ TVIS หรือโทรผ่านฟังก์ชัน Smart IVR ของแอพพลิเคชั่นไปที่ FM99.5 เพื่อฟังข้อมูลสภาพจราจร หรือผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ AIS (12call), True และ DTAC สามารถโทรได้ฟรี เป็นต้น อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนดาวน์โหลดได้ฟรีที่รองรับการใช้งาน ในระบบปฎิบัติการ iOS และ Android อาทิ Android https://play.google.com/store/apps/details?id=hlt.tvis&hl=th และ iOS : https://itunes.apple.com/app/id606945936 เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่กระทรวงวิทย์ฯ นำผลงานวิจัยเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

View :1439
Categories: Application Tags:

ทรูมูฟ เอช ผนึก สมิติเวช และบีเอ็นเอช เปิดแอพพลิเคชั่นเชื่อมโยงสุขภาพ ให้คนไข้ใกล้โรงพยาบาลเพียงคลิกเดียว ผ่าน 3G+ ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

April 3rd, 2013 No comments


กรุงเทพฯ 2 เมษายน 2556 – ทรูมูฟ เอช ผู้นำบริการ 3G+ ร่วมกับ ทรูแอพเซ็นเตอร์ ศูนย์กลางการพัฒนาแอพพลิเคชั่นครบวงจร และ 4 โรงพยาบาลชั้นนำในเครือสมิติเวช และบีเอ็นเอช เปิดตัวแอพพลิชั่น “Samitivej Connect by TrueMove H” และ “BNH Connect by TrueMove H” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Connected Heath” ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับแอพพลิเคชั่นที่เชื่อมโยงสุขภาพ เพื่อดูแลชีวิตทุกเสี้ยวนาทีให้อบอุ่น ปลอดภัย เพียงคลิกเดียว ผ่านเทคโนโลยี 3G+ จากทรูมูฟ เอช

แพทย์หญิงสมสิริ สกลสัตยาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช กล่าวว่า “วิถีคนเมืองวันนี้ชีวิตมีภารกิจรัดตัว เร่งรีบท่ามกลางการจราจรติดขัด การมาโรงพยาบาลในแต่ละครั้งไม่ได้ทำได้โดยง่าย มิติใหม่ของโรงพยาบาลสมิติเวชและบีเอ็นเอช คือการออกไปหาคนไข้ ไปดูแลให้เขาอุ่นใจในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ เสมือนได้รับการดูแลจากสมิติเวช และบีเอ็นเอช ทุกเสี้ยววินาที ในแบบที่เป็นส่วนตัวจริงถือได้ว่าเป็น Innovative Personal Care ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราจะเป็นผู้แนะนำขั้นตอนที่ถูกต้องเช่น ควรจะมาพบแพทย์ หรือการส่ง ambulance ไปรับเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน คนไข้จึงมั่นใจได้ว่าอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญตลอด 24/7 เราจึงได้ร่วมกับ ทรูมูฟ เอช ผู้นำบริการ 3G+ และทรูแอพเซ็นเตอร์ ในการนำเทคโนโลยี 3G+ ที่มีความเร็วสูง สามารถส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์มาใช้กับทางการแพทย์ โดยพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อเพิ่มความสามารถในการดูแลคนไข้ได้ดียิ่งขึ้น ผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือให้คนไข้สามารถติดต่อแพทย์หรือพยาบาลได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสาร เพราะความรวดเร็วในการดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยเป็นเรื่องสำคัญมาก เพียงเสี้ยววินาทีอาจหมายถึงชีวิตได้ ซึ่งแอพพลิเคชั่น “Samitivej Connect by TrueMove H และ BNH Connect by TrueMove H” นี้ นับว่าเป็น Healthcare Innovation มิติใหม่ของการให้บริการทางการแพทย์ในโลกยุคดิจิตอล โดยการนำเทคโนโลยีด้านไอทีมาเชื่อมโยงระบบงานโรงพยาบาลเพื่อการให้บริการแบบไร้ข้อจำกัด โดยการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุดนี้ ซึ่งสมิติเวช และบีเอ็นเอช รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเปิดให้บริการนี้”

นางสาวมนสินี นาคปนันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ และผู้จัดการทั่วไป ทรูไลฟ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การพัฒนาแอพพลิเคชั่น “Samitivej Connect by TrueMove H และ BNH Connect by TrueMove H” เป็นความร่วมมือระหว่างทรูมูฟ เอช และ ทรูแอพเซ็นเตอร์ กับเครือโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลบีเอ็นเอช ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ได้นำเทคโนโลยี 3G+ ของทรูมูฟ เอช มาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพ ทั้งยังช่วยยกระดับบริการทางการแพทย์ เพิ่มความสะดวกให้คนไข้สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วไม่ว่าอยู่ที่ไหน ทั้งนี้ โดยทรูมูฟ เอช ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครือข่าย 3G+ ที่ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดทั่วไทย และมีจุดเด่นที่เป็นไลฟ์สไตล์เน็ตเวิร์ค มุ่งเน้นพัฒนาและผสมผสานเทคโนโลยีหลากหลายคลื่นความถี่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นและเต็มประสิทธิภาพ ช่วยตอบโจทย์การสื่อสารระหว่างกันได้ทุกที่ทุกเวลา”

แอพพลิเคชั่น “Samitivej Connect by TrueMove H และ BNH Connect by TrueMove H” เชื่อมโยงสุขภาพ เพื่อชีวิตสมาร์ท ผ่านเทคโนโลยี 3G+ มีฟังก์ชั่นดังนี้
· ผู้ช่วยส่วนตัว Personalized Health Secretary มีทีมเจ้าหน้าที่รู้ใจตอบทุกคำถามเรื่องสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน

· โทรหาเพื่อนรู้ใจของคุณ หรือ คนที่คอยดูแลคุณเช่น สามี ภรรยา หรือ ลูก

· เตือนนัดหมายแพทย์

· เรียกรถพยาบาลฉุกเฉิน รู้ตำแหน่งของคุณอย่างอัจฉริยะ

ทั้งนี้ ในเฟสแรก จะมอบสิทธิพิเศษแก่ผู้รับบริการของโรงพยาบาลในเครือสมิติเวช และบีเอ็นเอชในภาพรวมของคนไข้ทั่วไปกว่า 5,000 ราย และในเฟส 2 จะร่วมกันพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อดูแลกลุ่มคนไข้เฉพาะโรค โดยเฉพาะ โรคเรื้อรังที่ต้องสามารถเข้าถึงข้อมูล และการดูแลอย่างใกล้ชิด ได้แก่ คนไข้โรคไต เบาหวาน และหัวใจเป็นต้น โดยแอพพลิเคชั่น “Samitivej Connect by TrueMove H และ BNH Connect by TrueMove H” จะเป็นสื่อกลางระหว่างคนไข้และแพทย์พยาบาล ใช้งานง่ายเพียงคลิกเดียว โดยออกแบบมาให้ใช้งานได้กับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

View :1304
Categories: Application Tags:

เอไอเอสเผย 5 ทีมนักพัฒนาเลือดใหม่ พร้อมไอเดีย 5 แอพฯ สุดขีด จากเวที AIS The StartUp Weekends 2013

April 3rd, 2013 No comments


(3 เมษายน 2556) เอไอเอสเผยกิจกรรม AIS The StartUp Weekends 2013 ประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับจากนักพัฒนาและคนรุ่นใหม่ ตบเท้าร่วมประลองไอเดีย สร้างโมบายแอพพลิเคชั่น กว่า 500 คน บูมกระแส Startup ดิจิตอลให้คึกคักอีกครั้ง พร้อมแนะนำ 5 ทีมนักพัฒนาเลือดใหม่ที่ผ่านการคัดเลือก เตรียมพกไอเดียครีเอทแอพฯ สุดบรรเจิด เข้าสู่ Boot Camp เพื่อพัฒนาต่อยอดบริการอย่างเป็นรูปธรรม ออกสู่ตลาดจริง ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้ายุค 3G ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ภายใต้การสนับสนุนเต็มที่จากเอไอเอสและบริษัทพันธมิตร ร่วมสร้างโอกาสและความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนให้กับกลุ่ม Tech Startup ไทย

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล เอไอเอส เปิดเผยว่า“สำหรับกิจกรรม AIS The StartUp Weekends 2013 ที่เปิดโอกาสให้เหล่านักพัฒนาได้แสดงพลังความคิดสร้างสรรค์ แข่งขันสร้างโมบายแอพพลิเคชั่นออกสู่ตลาดในครั้งนี้ นับว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยมี Startup ให้การตอบรับสมัครเข้าร่วมกว่า 500 คน หรือ 116 ทีมได้ร่วมPitching Idea และคัดเลือกทีมที่ผ่านเข้ารอบแรก จำนวน 25 ทีม มาร่วมกันพัฒนา Product Prototype และนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากแวดวงไอทีและออนไลน์ได้ร่วมตัดสิน จนในที่สุดได้ 5 ทีมที่ผ่านการคัดเลือก เตรียมก้าวสู่หลักสูตรอบรม Boot Camp ในเดือนพฤษภาคม ศกนี้ต่อไป

โดย 5 ทีมดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ทีม Close Tag กับผลงาน Mini CRM Platform ที่จะมาพลิกรูปแบบใหม่ของการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า 2. ทีม Noonswoon กับแอพพลิเคชั่นแนว Match Maker ที่มาพร้อมไอเดียสุดหวือหวา คอนเนคคนโสดในเมืองใหญ่ 3. ทีมOctogon กับแนวคิด Social Second Screen สร้างมิติใหม่ของจอบันเทิงส่วนตัว ให้สนุกไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน โดยเชื่อมต่อกับจอหลักด้วยลูกเล่น Interactive. 4. ทีม Stock Guru แอพพลิเคชั่นเพื่อคอหุ้นรุ่นหนุ่มสาว มาในมาดใหม่สไตล์ Virtual Trading ที่ทำให้การซื้อขายหุ้นเป็นเรื่องง่ายและสนุก และ 5. ทีม TripPacker แอพพลิเคชั่นนำเที่ยวแนวใหม่ เอาใจคนชอบลุย ที่เบื่อการท่องเที่ยวจำเจแบบเดิมๆ ซึ่งผลงานของทั้ง 5 ทีมต่างก็มีแนวคิดและคอนเทนต์ที่โดดเด่น แตกต่าง และมีศักยภาพในการพัฒนาออกสู่ตลาดได้ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้มือถือยุค 3G ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง” นายปรัธนากล่าว

โดยแต่ละทีมได้รับเงินรางวัลจากเอไอเอส จำนวน 100,000 บาท, จาก SIPA จำนวน 100,000 บาท รวมทั้งการสนับสนุนด้านต่างๆ อาทิ Bizspark แพ็กเกจจาก Microsoft, WP Workshop จาก NOKIA, บริการที่ปรึกษาด้านธุรกิจจาก EggIdea, Co-working Space จาก Hubba รวมมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท รวมถึงรางวัลพิเศษในการเข้าร่วม Boot Camp ซึ่งเอไอเอสจัดขึ้นโดยเฉพาะเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจดิจิตอลหน้าใหม่ โดยได้รวมเหล่า “Hero Mentor” กูรูดังจากหลากหลายวงการ เข้าร่วมเป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษา ให้ความรู้แบ่งปันประสบการณ์ ทั้งในเชิงเทคโนโลยีและเชิงธุรกิจการลงทุน ในรูปแบบ Virtual Lab ที่บ่มเพาะทั้งตัวเจ้าของกิจการเองและผลิตภัณฑ์ไปพร้อมๆ กัน จนกระทั่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นออกสู่ตลาดได้ทันทีหลังจบคอร์ส และทีมชนะเลิศ 1 ทีม จาก Boot Camp จะได้รับทุนพัฒนาเป็นเงิน 600,000 บาท พร้อมการสนับสนุนด้านแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์จากเอไอเอส

“อย่างไรก็ตาม ผลงาน Product Prototype ของอีก 20 ทีมที่ไม่ผ่านการคัดเลือก เอไอเอสก็ยังเปิดกว้าง พร้อมให้การสนับสนุนตลอดเวลา ทุกทีมสามารถนำไอเดียเข้ามาพัฒนาต่อยอดร่วมกัน เพื่อก้าวสู่การเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมทำธุรกิจกับเอไอเอสในอนาคต ทั้งนี้ ตลอด 3 วันของการจัดกิจกรรม ที่เหล่า Startup ได้มารวมตัวกัน เพื่อสร้างสรรค์โมบายแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ทำให้พบว่าคนไทยมีความสามารถและศักยภาพในการพัฒนานวัตกรรมที่น่าสนใจ และควรได้รับการส่งเสริมอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุค 3G ใหม่อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการใช้งาน DATA และแอพพลิเคชั่นของผู้ใช้มือถืออีกจำนวนมหาศาล จึงเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจให้กับกลุ่มนักพัฒนาได้อย่างไร้ขีดจำกัด เอไอเอสจึงขอเป็นกำลังสำคัญในการร่วมผลักดันกลุ่ม Startup ดิจิตอลของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นายปรัธนาสรุป

View :1329
Categories: Application Tags:

กลุ่มทรู จับมือ มูลนิธิออทิสติกไทย สร้างสรรค์นวัตกรรม “Autistic Application”เพื่อพัฒนาศักยภาพเด็กออทิสติก

April 1st, 2013 No comments


เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีแล้ววันนี้ ทั้ง iOS และ Android

กลุ่มทรูและมูลนิธิออทิสติกไทย ผนึกกำลังพัฒนาศักยภาพเด็กออทิสติกและครอบครัว แนะนำผลงานนวัตกรรมของกลุ่มทรู “Autistic Application” ที่ติดหนึ่งใน 10 แอพพลิเคชั่นการศึกษาที่ได้รับความนิยมใน 25 ประเทศทั่วโลกซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อช่วยเสริมทักษะและเพิ่มสมรรถภาพทั้งทางร่างกาย สติปัญญา และจิตใจแก่เด็กออทิสติกโดยเฉพาะ พร้อมดำเนินการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ของกลุ่มทรูอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลเด็กออทิสติก ให้ได้รับการเลี้ยงดูที่ถูกต้องเพื่อมีโอกาสพัฒนาตนเองและสามารถดำเนินชีวิตในสังคม ตลอดจนประชาสัมพันธ์งานสัปดาห์วันออทิสติกโลก 1-4 เมษายน 2556 ณ โรงแรมทีเค พาเลซ ถ.แจ้งวัฒนะ ทั้งนี้ ผู้สนใจ สามารถดาวน์โหลด Autistic Application ได้แก่ Daily Tasks, Trace & Share และ Communications โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้แล้ววันนี้ ทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ดร. กันทิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการด้านสื่อสารองค์กร ประชาสัมพันธ์การตลาด และกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคม บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “กลุ่มทรู ในฐานะองค์กรของคนไทยตระหนักถึงความสำคัญในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศโดยมุ่งมั่นนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการสื่อสารเพื่อพัฒนาการศึกษาของเยาวชนและช่วยเหลือสังคมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับมูลนิธิออทิสติกไทย นำศักยภาพเทคโนโลยีการสื่อสารของกลุ่มทรู เข้ามาร่วมพัฒนาศักยภาพเด็กออทิสติก ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรม Autistic Application ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นการศึกษาที่คิดค้นโดยพนักงานชาวทรู เพื่อช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้ เสริมสมรรถภาพทั้งทางร่างกาย สติปัญญา และจิตใจแก่เด็กออทิสติก รวมทั้ง ดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเด็กออทิสติก ตลอดจนสนับสนุนการประชาสัมพันธ์งานสัปดาห์วันออทิสติกโลก เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลเด็กกลุ่มนี้ โดยเชื่อว่าการเผยแพร่ข้อมูลที่น่าสนใจดังกล่าวผ่านสื่อต่างๆ ของกลุ่มทรู จะช่วยผลักดันให้คนในสังคมเกิดการรับรู้และให้ความใส่ใจแก่เด็กออทิสติกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครอบครัวซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นในการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ส่งเสริมให้เด็กกลุ่มนี้ สามารถพัฒนาตนเอง และฝึกทักษะการเรียนรู้ในด้านต่างๆ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติ”

ดร. ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ รองผู้อำนวยการและหัวหน้าศูนย์นวัตกรรม บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “กลุ่มทรู ให้ความสำคัญด้านการส่งเสริมนวัตกรรม ผ่านหน่วยงาน True Innovation ด้วยเชื่อมั่นว่าการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ จะนำมาซึ่งคุณค่าและคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ จึงมีความยินดีที่จะแนะนำผลงานนวัตกรรม Autistic Application ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นการศึกษาเพื่อช่วยพัฒนาทักษะและเพิ่มศักยภาพเด็กพิเศษ รวมถึงเยาวชนทั่วไป ซึ่งกลุ่มทรู พร้อมที่จะสนับสนุนและผลักดันผลงานชิ้นนี้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนขยายผลให้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวสามารถใช้งานได้หลายภาษา เพื่อช่วยเหลือสังคมในวงกว้าง โดยเข้าถึงเด็กพิเศษทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น และในอนาคตกลุ่มทรู ก็พร้อมสนับสนุนเวทีแห่งโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องต่อไปด้วย”

นายพิชิต ธันโยดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ผลงานนวัตกรรม Autistic Application ได้คิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยนายปรีดิ์ หวังเจริญ พนักงานกลุ่มทรู ฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยผลงานดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นแอพพลิเคชั่นการศึกษาที่ติดอันดับหนึ่งในประเทศแถบตะวันออกกลาง อาทิ ซาอุดิอาระเบีย, กาตาร์, คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกทั้ง ยังติดหนึ่งใน 10 แอพพลิเคชั่นการศึกษาที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน 25 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบัน มียอดดาวน์โหลดถึง 198,200 ดาวน์โหลด ติดหนึ่งใน iTunes What’s Hot Education ในประเทศสหรัฐอเมริกา, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และกาตาร์ ซึ่งชุด Autistic Application ประกอบด้วย
· Daily Tasks – สอนกิจวัตรประจำวัน อาทิ การแปรงฟัน อาบน้ำ เพื่อส่งเสริมให้เกิดทักษะความสนใจ, ทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก และทักษะการเลียนแบบ
· Trace & Share – สอนทักษะการลากเส้น ส่งเสริมให้รู้จักการรอคอยและการแบ่งปัน อันเป็นพื้นฐานของการเข้าสังคม ซึ่งช่วยเสริมทักษะด้านวิชาการ, ทักษะทางสังคม และทักษะการเลียนแบบ
· Communications – สอนหลักการสื่อสารขั้นพื้นฐานโดยใช้สมุดภาพเพื่อสื่อความต้องการของเด็ก ส่งเสริมทักษะภาษาและการสื่อสาร

นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย กล่าวว่า “มูลนิธิออทิสติกไทย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ กลุ่มทรู เห็นความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพเด็กออทิสติก ซึ่งในประเทศไทยมีจำนวนประมาณ 370,000 คน โดยคิดค้นนวัตกรรม Autistic Application ที่ได้ทดลองใช้แล้วในกลุ่มเด็กที่อยู่ในความดูแลของเครือข่ายมูลนิธิ ซึ่งพบว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวช่วยให้เด็กมีพัฒนาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือ 1.ชุดฝึกทักษะ (Daily Tasks และ Trace & Share) ช่วยพัฒนาการประสานสัมพันธ์กลไกกล้ามเนื้อ และเรียนรู้การปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน และ 2. ชุดเครื่องมือการฝึกการพูดและภาษา (Communications) ซึ่งเป็นระบบฝึกการเรียนรู้ผ่านการมองเห็นที่มีมาตรฐาน ช่วยให้เด็กเข้าใจศัพท์ในชีวิตประจำวัน และสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นฐานทางภาษาของเด็กได้เป็นอย่างดี โดยมูลนิธิ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการใช้ Autistic Application ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวในการนำบุตรเข้ารับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพอีกด้วยนอกจากนี้ มูลนิธิ ยังขอขอบคุณกลุ่มทรูที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ทั้งการร่วมรณรงค์สร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลเด็กออทิสติก และปรับมุมมองใหม่ว่า “บุคคลออทิสติกไทย มีศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด” หากได้รับโอกาสและการช่วยเหลือที่ถูกต้องเหมาะสม อีกทั้ง ยังสนับสนุนการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้ที่สนใจไปร่วมงานสัปดาห์วันออทิสติกโลก ในวันที่ 1-4 เมษายน นี้ ณ โรงแรม ทีเค พาเลซ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย อาทิ การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับออทิสติกและการใช้การแพทย์ทางเลือกสำหรับเด็กออทิสติก, การแสดงความสามารถของเด็กออทิสติก และการจัดเวิร์คช็อปสอนเทคนิคการดูแลเด็กพิเศษ เป็นต้น”

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดาวน์โหลด Autistic Application โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Andriod ดังนี้
สำหรับผู้ใช้ iPad ในระบบปฏิบัติการ iOS เพียงค้นหาคำว่า True Autistic หรือ Thai Autistic ใน App Store หรือ iTunes และดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Andriod เพียงค้นหาคำว่า True Thai Autistic ใน Google Play Store และดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Autistic Application ได้ที่ iphonesupport@truelife.com หรือ TrueMove iPhone Care Center โทร. 08-200-3333

View :2022
Categories: Application Tags:

ทรูมูฟ เอช ดึงกลยุทธ์ Segmentation ขยายตลาดลูกค้าเฉพาะกลุ่ม จัดแคมเปญ “ทรูมูฟ เอช ชวนคนมีบัตรมาสนุกกับ 3G+ ได้มากยิ่งขึ้น”

March 26th, 2013 No comments


เปิดตัวดีไวซ์ใหม่ 4 รุ่น พร้อมพรีเซ็นเตอร์ “บอย-ปกรณ์” และ “มาร์กี้” ร่วมชวนสนุกกับ 3G+

กรุงเทพฯ 26 มีนาคม 2556 – ทรูมูฟ เอช เดินหน้าชวนคนไทยเปลี่ยนเป็น 3G+ ต่อเนื่อง จัดแคมเปญ “ทรูมูฟ เอช ชวนคนมีบัตรมาสนุกกับ 3G+ ได้มากยิ่งขึ้น” ให้ครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ ทหาร และตำรวจ ได้ใช้บริการ 3G เพื่อการศึกษาและการทำงาน จัดเต็มสิทธิพิเศษ ด้วยแพ็กเกจ 3G+ ราคาเบาๆ เพียงเดือนละ 199 บาท พร้อมรับโบนัสใช้ฟรีสูงสุด 1,200 บาท หรือ รับโบนัสใช้ฟรีเท่าราคาเครื่อง เมื่อซื้อเครื่องพร้อมเปิดเบอร์ใหม่ และให้อินเทรนด์สุดๆ กับโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ทั้ง myLife by True, Facebook, LINE และ Gmail ใช้ฟรีไม่อั้น พร้อมเปิดตัวดีไวซ์ใหม่ 4 รุ่น เอาใจทั้งผู้เริ่มต้นใช้ 3G และสมาร์ทโฟน เสริมความแรงด้วยพรีเซ็นเตอร์คู่สุดฮอต “บอย-ปกรณ์” และ “มาร์กี้” ร่วมชวนสนุกกับ 3G+

นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทรูมูฟ เอช ย้ำความเป็นผู้ให้บริการ 3G ที่ดีที่สุดและครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด เดินหน้าชวนคนไทยเปลี่ยนเป็น 3G+ อย่างต่อเนื่อง ให้คนไทยทั่วประเทศได้ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี 3G เต็มประสิทธิภาพ จัดแคมเปญ “ทรูมูฟ เอช ชวนคนมีบัตรมาสนุกกับ 3G+ ได้มากยิ่งขึ้น” มอบสิทธิพิเศษให้คนมีบัตรเปลี่ยนมาใช้ 3G+ ได้ง่ายกว่าใคร ทั้งครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ ทหาร และตำรวจ ด้วยแพ็กเกจค่าบริการสุดพิเศษ และดีไวซ์ที่มีให้เลือกหลากหลายรุ่นตามความต้องการใช้งาน พร้อมให้เชื่อมต่อโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คทั้ง myLife by True, Facebook, LINE และ Gmail ได้ไม่จำกัด เพิ่มศักยภาพและความสะดวกสบายให้กับกลุ่มอาชีพต่างๆ ให้สามารถติดต่อสื่อสาร และนำ 3G+ ไปใช้ประโยชน์ในการทำงานหรือการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แคมเปญ “ทรูมูฟ เอช ชวนคนมีบัตรมาสนุกกับ 3G+ ได้มากยิ่งขึ้น” มอบสิทธิพิเศษสำหรับครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เพียงแสดงบัตรประจำตัว จะได้รับสิทธิ์ ดังนี้
§ สมัครใช้แพ็กเกจ iSmart 299 ในราคาเพียงเดือนละ 199 บาท (ปกติ 299 บาท/เดือน) ใช้โทรได้ 100 นาที และเล่นเน็ต 500 เมกะไบต์
§ เปิดเบอร์ใหม่ทรูมูฟ เอช แบบรายเดือนหรือแบบเติมเงิน แพ็กเกจใดก็ได้ รับโบนัสใช้ฟรีสูงสุดถึง 1,200 บาท
§ ซื้อเครื่องพร้อมเปิดเบอร์ใหม่ รับโบนัสโทรและเล่นเน็ตฟรีเท่ามูลค่าเครื่อง
§ ใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ได้แก่ myLife by True, Facebook, LINE และ Gmail ได้ฟรีไม่จำกัด

นอกจากนี้ ทรูมูฟ เอช ยังเปิดตัวดีไวซ์ใหม่ ที่รองรับการใช้งาน 2 คลื่นความถี่ คือ 850 MHz และ 2100 MHz มอบประสบการณ์ในการใช้งาน 3G ที่ต่อเนื่องและดียิ่งขึ้น

§ GO Live 2 ฟีเจอร์โฟน 3G ราคาเบาๆ เพียง 1,290 บาท สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ 3G ให้สนุกกับ H Application ทั้งดูหนัง ทีวี ฟังเพลง และฟังวิทยุ
§ GO Live S2 สมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1 ดีไซน์สปอร์ต สีเหลืองสดใสรับซัมเมอร์ ราคา 2,990 บาท มาพร้อมกับคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นพิเศษจาก บอย-ปกรณ์ และ มาร์กี้
§ GO Live Dual Core สมาร์ทโฟนที่เร็วแรงด้วยระบบประมวลผลแบบ Dual-Core 1.2 GHz ในราคาเพียง 4,290 บาท อัดแน่นลูกเล่นและฟังก์ชั่นเพียบ สนุกครบเครื่องกว่ากับ บอย-ปกรณ์ มาร์กี้ และ ญาญ่า
§ แอร์การ์ด 3G+ รุ่นใหม่ รองรับสปีดสูงขึ้น 21 Mbps ราคา 1,290 บาท

ชาว H จะสนุกกับคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นโดนใจเพียบที่มาพร้อมเครื่อง GO Live S2 และ GO Live Dual Core ไม่ว่าจะเป็น H Theme, H Camera ตกแต่งภาพด้วย Photo Frame, H Interactive เกาะติดข่าวซุป’ตาร์คนโปรด, H Hunt เกมจับผิดภาพ, H Club ให้ใกล้ชิดกับดาราที่ชื่นชอบ และ H Quiz คำถามแบบเจาะลึกพิสูจน์ความเป็นแฟนพันธุ์แท้ ซึ่งดีไวซ์รุ่นใหม่ทั้งหมดนี้ จะทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2556 ที่ร้านทรูช้อป ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือ ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อออนไลน์ก่อนได้ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมนี้ ที่ www.truemove-h.com

พร้อมกันนี้ ทรูมูฟ เอช จัดเต็ม 4 พรีเซ็นเตอร์สุดฮอต เพื่อโปรโมทสิทธิพิเศษสำหรับคนมีบัตรให้สนุกกับ 3G+ มากยิ่งขึ้น พร้อมแนะนำดีไวซ์ใหม่ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณา โดย “ณเดชน์” และ “ญาญ่า” รับบทชวนคนมีบัตรมาเป็นชาว H ด้วยกัน ส่วน “บอย-ปกรณ์ และ มาร์กี้” แนะนำสมาร์ทโฟน GO Live S2 และ GO Live Dual Core เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ยังเตรียมกิจกรรมโรดโชว์ไปยังโรงเรียนและสถานที่ราชการต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย

“ทรูมูฟ เอช จะยังคงสานต่อแคมเปญที่จะชวนคนไทยทั่วประเทศเปลี่ยนมาใช้ 3G+ อย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าสิทธิพิเศษในแคมเปญ “ทรูมูฟ เอช ชวนคนมีบัตรมาสนุกกับ 3G+ ได้มากยิ่งขึ้น” จะได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี และเรายังคงเดินหน้าพัฒนาบริการในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น เครือข่าย ที่เร็ว แรง ทั้งโทรและเล่นเน็ตบนเครือข่าย 3G+ ที่มีคุณภาพและครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ดีไวซ์ มีให้เลือกหลากรุ่น หลายราคา ตามความต้องการใช้งาน คอนเทนต์และแอพพลิเคชั่น ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานของสมาร์ทดีไวซ์ทุกแพลตฟอร์ม มีให้เลือกมากกว่า 400 แอพพลิเคชั่น บริการหลังการขาย ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญที่ร้านทรูช้อปกว่า 250 สาขาทั่วประเทศ และยังมีเพื่อนคู่ค้าและทรูพาร์ตเนอร์อีกกว่า 13,000 ราย และสิทธิพิเศษมากมายที่จะมีเพิ่มขึ้น รวมถึงส่วนลดร้านค้าที่ร่วมรายการมากกว่า 15,000 ร้าน ครบทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งกิน ดื่ม เที่ยวและช้อปปิ้ง เพื่อให้ชาวเอชสนุกมากยิ่งขึ้นทุกที่ทุกวัน” นายอติรุฒม์ กล่าวสรุป

View :1858
Categories: 3G, Application Tags:

เปิดฉาก AIS The Startup Weekends คึกคัก คนรุ่นใหม่ตบเท้า แข่งสร้างโมบายแอพฯ กว่า 500 คน

March 26th, 2013 No comments

เอไอเอสเดินหน้าเปิดฉากกิจกรรม “AIS The Startup Weekends” มีนักพัฒนาและคนรุ่นใหม่กว่า 500 คน ตบเท้าเข้าประลองไอเดีย สร้างโมบายแอพพลิเคชั่นสุดคึกคัก เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา ก่อนแบ่งกลุ่มเป็นทีมได้ Startup หน้าใหม่ จำนวน 116 ทีม ร่วมระดมสมอง ใช้เวลาตั้งแต่เช้าถึงค่ำ สร้างแผนธุรกิจพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น (Business Canvas) นำเสนอต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ โดยจะประกาศผล 25 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเป็นทางการ ในวันพุธที่ 27 มี.ค. 2556 ทางเว็บไซต์ www.ais.co.th/thestartup เพื่อมาร่วมแข่งขันพัฒนา Product Prototype ต่อไป ในวันที่ 30, 31 มี.ค. 2556

View :1842
Categories: Application Tags:

สแปมเมอร์ล่อหลอกเหยื่อด้วยโปรแกรม “X-Ray” มองทะลุเสื้อผ้า

March 26th, 2013 No comments


เคยได้ยินเกี่ยวกับโปรแกรมที่ช่วยให้คุณมองทะลุเสื้อผ้าบ้างหรือเปล่า?

ทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัยของไซแมนเทคตรวจพบโปรแกรมอันตรายที่มีชื่อว่า Android.Uracto ซึ่งส่งข้อความสแปมทาง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่เก็บไว้ในรายชื่อติดต่อของอุปกรณ์ โดยผู้รับจะถูกล่อหลอกได้อย่างง่ายดาย เพราะข้อความเชิญชวนให้ดาวน์โหลดโปรแกรมดังกล่าวถูกส่งมาจากคนรู้จัก ไม่ได้ส่งมาจากคนแปลกหน้า

ไซต์ (ตามที่แสดงในรูปภาพด้านล่าง) ปลายทางของลิงค์เชื่อมโยงจะแนะนำโปรแกรม “Infrared X-Ray” ให้แก่ผู้ใช้ พร้อมระบุว่าโปรแกรมดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้มองทะลุเสื้อผ้า เมื่อดูผ่านกล้องถ่ายรูปในอุปกรณ์ และแน่นอนว่าผู้ใช้จะสามารถถ่ายภาพนั้นได้ด้วย และไม่แปลกใจเลยที่ในความเป็นจริงแล้ว โปรแกรมดังกล่าวไม่สามารถใช้งานได้จริง อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ใช้ติดตั้งโปรแกรม รายละเอียดต่างๆ ที่เก็บไว้ในรายชื่อติดต่อของอุปกรณ์จะถูกอัพโหลดไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่กำหนด

ไซแมนเทคได้ดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมและพบว่ามีโปรแกรมในลักษณะเดียวกันนี้ราว 10 โปรแกรม ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยสแปมเมอร์กลุ่มเดียวกัน ส่วนเซิร์ฟเวอร์ที่โฮสต์โดเมนดังกล่าวดูเหมือนว่าจะตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

แม้ว่าโปรแกรมจะมีลักษณะแตกต่างกัน แต่ก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบหลักๆ คือ:
1. ขโมยข้อมูลที่เก็บไว้ในรายชื่อติดต่อของอุปกรณ์
2. ขโมยรายละเอียดติดต่อ แต่ส่งข้อความ SMS ที่ประกอบด้วยลิงค์สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรมอันตรายให้แก่ทุกคนในรายชื่อติดต่อ
3. ขโมยรายละเอียดติดต่อและพยายามล่อลวงเหยื่อให้จ่ายเงินสำหรับบริการปลอม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูบล็อกโพสต์ของทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัยของไซแมนเทคดังต่อไปนี้:
· มัลแวร์บน Android เจาะระบบของเหยื่อ ส่งสแปมล่อลวงตามรายชื่อผู้ติดต่อ
· AAndroid.Uracto แพร่ระบาด ล่อลวงผู้ปกครอง แฟนการ์ตูน นักเล่นเกม ฯลฯ

รับทราบข่าวคราวล่าสุดเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ติดตามได้ที่ @SymantecASEAN

ไซแมนเทคแนะนำว่าผู้ใช้ไม่ควรคลิกลิงค์ในข้อความต่างๆ เช่น อีเมล์ และข้อความ SMS ที่ส่งมาจากคนแปลกหน้า รวมถึงข้อความที่น่าสงสัยจากคนรู้จัก นอกจากนี้ ควรดาวน์โหลดเฉพาะโปรแกรมจากบริษัทที่ไว้ใจได้ ผู้ใช้ที่ติดตั้งโปรแกรมรักษาความปลอดภัยของไซแมนเทค เช่น Norton Mobile Security หรือ Symantec Mobile Security จะได้รับการปกป้องให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามนี้ ซึ่งมีชื่อว่า Android.Uracto

View :2789
Categories: Application, Software Tags:

ดีแทค ปั้นโครงการ dtac Accelerate พลิกเส้นทางลัดสุดยอดนักพัฒนาแอพ สู่ซิลิคอน แวลลีย์ ศูนย์กลางนวัตกรรมไฮเทคของโลก

February 28th, 2013 No comments

ดีแทคเปิดตัวโครงการ ประเดิมกิจกรรมแรกด้วยการจัดประกวดผลงานโมบายแอพพลิเคชั่น ในธีม Wizard of App เฟ้นหาสุดยอดนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อคว้าเส้นทางลัดสู่โอกาสในการเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ทำงานกับนักสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก นำเสนอผลงานกับกลุ่มนักลงทุนที่ “ซิลิคอน แวลลีย์” ศูนย์กลางธุรกิจไฮเทคซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก พร้อมรางวัลอื่นๆ มูลค่ารวม 50 ล้านบาท

ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น () กล่าวว่า “ดีแทคเป็นผู้นำในด้านนวัตกรรม การเลือกใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่ดีที่สุด ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจสู่โมบายคอนเทนท์และแอพพลิเคชั่น เพื่อสร้าง application ecosystem ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางด้านการส่งเสริมการตลาดกับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นในประเทศไทย เพื่อนำแอพพลิเคชั่นดีๆ สู่ผู้ใช้บริการ โดยตอนนี้ ทางดีแทคได้ผู้บริหารหน้าใหม่ คือคุณกระทิง เรืองโรจน์ พูลผล มาร่วมงานเพื่อดูแลฝ่ายผลิตภัณฑ์ และ application ecosystem”

กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย เราจึงริเริ่มโครงการ dtac Accelerate เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้คนไทยลุกขึ้นมาสร้างนวัตกรรม แอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ และเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยร่วมปฏิวัติอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เพิ่มพื้นที่เรียนรู้และแสดงศักยภาพให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จากการที่เคยผ่านประสบการณ์ทำงานที่ ซิลิคอน แวลลีย์ มาก่อน ผมเชื่อว่าที่นั่นคือศูนย์กลางนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ เป็นจุดเริ่มต้นขององค์กรด้านเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักทั่วโลกมากมาย แต่ก็ไม่ใช่ที่ที่ใครๆ สามารถประสบความสำเร็จได้ง่ายๆ และวันนี้ ดีแทคได้นำโอกาสนั้นมาสู่คนไทยที่มีความสามารถ มีความกล้าที่จะคิด ทำในสิ่งที่แตกต่าง และเป็นไปได้ โครงการนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นเส้นทางลัดนำทีมนักพัฒนาไทยไปสู่ซิลิคอน แวลลีย์ เพื่อมุ่งมั่นสร้างฝันให้เป็นจริงบนเวทีการแข่งขันระดับโลก”

ซิลิคอน แวลลีย์ คือศูนย์กลางนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมไฮเทคระดับโลก ได้รับการขนานนามว่าเป็นเสมือนดินแดนมหัศจรรย์ ที่ซึ่งความคิด ความฝัน เทคโนโลยี และธุรกิจมาสอดประสานกันและสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ให้กับโลกได้เสมอ ตั้งอยู่ที่เมืองซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เป็นแหล่งกำเนิดของบริษัทชั้นนำที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก อาทิ กูเกิ้ล ยูทูป แอปเปิ้ล เอชพี ซิสโก้ อินสตาแกรม ฯลฯ

ประสบการณ์ของเรืองโรจน์ที่ซิลิคอน แวลลีย์ มีทั้งการทำงานและการร่วมลงทุนก่อตั้งบริษัท โดยทำงานที่บริษัทกูเกิ้ล และเป็นหนึ่งในทีมผู้พัฒนากูเกิ้ลเอิร์ธ โปรแกรมแสดงแผนที่ เส้นทาง และภาพภูมิทัศน์จากทั่วโลก และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Technology Startup สามารถระดมเงินทุน 1.1 ล้านดอลลาร์จาก Angel Investor และเริ่มต้นตั้งบริษัทของตัวเองที่นั่น โดยเรืองโรจน์จะนำเอาประสบการณ์ทำงานที่นั่นกว่า 7 ปี มากลั่นกรองและถ่ายทอดสู่ทีมนักพัฒนาที่เข้าร่วมโครงการ dtac Accelerate ภายในระยะเวลาไม่ถึงปี

กิจกรรมแรกของโครงการ dtac Accelerate คือการจัดประกวดผลงานโมบายแอพพลิเคชั่น ภายใต้ธีม Wizard of App เพื่อหาทีมสุดยอดนักพัฒนาแอพไปสัมผัสบรรยากาศการทำงานแบบองค์กรพัฒนาเทคโนโลยีระดับโลกที่ “ซิลิคอน แวลลีย์” ศูนย์กลางธุรกิจไฮเทคของโลก และผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันแคมเปญนี้คือ กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล ซึ่งจะนำเอาประสบการณ์ในการทำงานที่ซิลิคอน แวลลีย์มาบอกเล่าเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าร่วมโครงการ พร้อมทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการประสานงานกับบริษัทต่างๆ ที่นั่นเพื่อนำทีมนักพัฒนาไทยไปเรียนรู้การทำงานแบบนักพัฒนานวัตกรรมระดับโลก โดยโครงการ dtac accelerate ได้พันธมิตรระดับโลกมาสนับสนุนโครงการ อาทิ Blackbox Connect ซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก

ทีมนักพัฒนาแอพที่ชนะเลิศในโครงการ dtac Accelerate จะได้เดินทางไปซิลิคอน แวลลีย์ เพื่อเข้าร่วมโครงการ Blackbox Accelerate เป็น 1 ใน 12 ทีมจากทั่วโลก และมีโอกาสได้นำเสนอผลงานกับกลุ่มนักลงทุน ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งในโลกธุรกิจปัจจุบันที่มีองค์กรพัฒนาเทคโนโลยีจำนวนมากมายและภาวะการแข่งขันอันรุนแรง และนอกจากนี้ทีมรองชนะเลิศจะได้รับโอกาสร่วม Accelerator program ในระดับภูมิภาค ซึ่งโครงการ dtac Accelerate นี้มีของรางวัลมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 50 ล้านบาท

การจัดประกวดการพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น ในโครงการ dtac Accelerate เปิดรับสมัครผู้แข่งขันเป็นทีมจำนวนไม่เกิน 5 คน ผู้สมัครจะต้องส่งข้อเสนอโครงการพัฒนาแอพ ภายในวันที่ 30 เมษายน 2556 จากนั้นคณะกรรมการประกวดจะคัดเลือกให้เหลือ 30 โครงการและประกาศผู้ผ่านการคัดเลือกรอบแรกในเดือนพฤษภาคม จะมีการจัดโค้ชชิ่งเวิร์คช็อปโดยทีมนักพัฒนาเทคโนโลยีระดับโลกให้กับทีมที่ได้รับการคัดเลือกระหว่างเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2556 จากนั้นจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่เข้ารอบสุดท้าย 10 โครงการเพื่อทำการพัฒนาจริง และตัดสินหาทีมผู้ชนะเลิศในเดือนกันยายน 2556

การประกวดโมบายแอพเพื่อคว้าโอกาสในการเรียนรู้ประสบการณ์ทำงานที่ซิลิคอน แวลลีย์ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางลัดสู่ความสำเร็จ ดีแทคยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมที่สร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ภายใต้โครงการ dtac Accelerate ตามมาอย่างต่อเนื่อง

View :1914