Archive

Archive for the ‘E-Commerce’ Category

ทรูไลฟ์ เปิดตัว WeLoveShopping App แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน

May 30th, 2012 No comments

ทรูไลฟ์ เปิดประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์รูปแบบใหม่ ผ่าน App แอพพลิเคชั่นสุดล้ำ ที่ยกเว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาให้ช้อปเพลิน ทุกที่ ทุกเวลา บนสมาร์ทโฟนทั้งแพลตฟอร์ม iOS และแอนดรอยด์ ตอบสนองไลฟ์สไตล์นักช้อปรุ่นใหม่ โดนใจกับสินค้ามากมายให้เลือกครบทุกความต้องการกว่า 7 ล้านรายการ จาก 300,000 ร้านค้า ช้อปปลอดภัยผ่าน WeTrust ระบบการจ่ายเงินออนไลน์ที่เชื่อถือได้ พร้อม 4 ฟีเจอร์เด่น อัพเดทเทรนด์ใหม่สุดฮิต กับ Guru Picks, ค้นหาร้านค้าใกล้ตัวผ่าน Shop by Location, 10 Deals Everyday พบสินค้าราคาสุดพิเศษทุกวัน และ Promotion News โปรโมชั่นสุดฮอตจากทุกแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำในไทย App พร้อมให้ ดาวน์โหลดฟรีแล้ววันนี้

นางสาวมนสินี นาคปนันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด กล่าวว่า “WeLoveShopping เป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์อันดับ 1 ในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยยอดการเข้าชมสินค้าสูงถึงกว่า 60 ล้านหน้าต่อเดือน ล่าสุดก้าวสู่มิติใหม่ในโลกของการช้อปปิ้ง มอบประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่สะดวกและง่ายกว่าเดิม เปิดตัว WeLoveShopping App ให้นักช้อปเลือกชม เลือกซื้อสินค้ามากมายได้ง่ายๆ บนสมาร์ทโฟนทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง iOS และแอนดรอยด์ เพิ่มอิสระในการช้อปปิ้งทุกที่ ทุกเวลา ผ่านเครือข่ายทรูมูฟ เอช 3G+ ที่เร็วและแรงกว่า ทั้งยังปลอดภัยด้วย WeTrust ระบบการจ่ายเงินออนไลน์ที่เชื่อถือได้ รับรองได้ของชัวร์ ถ้าไม่ได้ยินดีคืนเงิน มั่นใจว่า WeLoveShopping App จะตอบสนองไลฟ์สไตล์นักช้อปรุ่นใหม่ ให้เลือกชมและช้อปสินค้ามากมายได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และง่ายเพียงปลายนิ้ว”

WeLoveShopping App อัดแน่นด้วย 4 ฟีเจอร์เด่น เอาใจนักช้อปยุคดิจิตอล ดังนี้

1. Guru Picks อัพเดทเทรนด์ใหม่สุดฮิต โดยกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม แฟชั่น IT & Gadget, Home & Living DIY ไลฟ์สไตล์ผู้ชายและผู้หญิง ฯลฯ

2. Shop by location เพิ่มความสะดวกให้นักช้อปค้นหาร้านค้าที่อยู่ใกล้ได้ง่ายๆ โดยใช้เทคโนโลยี Location Based เป็นรายแรกของเว็บอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ตอบสนองความต้องการในการช้อปได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์

3. 10 Deals Everyday รวบรวมสินค้าราคาสุดพิเศษที่คัดสรรมาให้นักช้อปชาว WeLoveShopping ได้เป็นเจ้าของก่อนใคร

4. Promotion News อัพเดทข่าวโปรโมชั่นพิเศษจากทุกแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของเมืองไทยทุกวัน

WeLoveShopping App เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีได้แล้ววันนี้ ที่ App Store และ Google Play สำหรับนักช้อปออนไลน์ สามารถติดตามอัพเดทข่าวสารและกิจกรรมจาก WeLoveShopping ที่จะเติมเต็มไลฟ์สไตล์และ
การช้อปปิ้งอย่างต่อเนื่องได้ที่ www.weloveshopping.com, Weloveshopping Magazine, รายการ Shopping Gang ช่องทรูวิชั่นส์ 67 และ WeLoveShopping แอพพลิเคชั่น

View :1639
Categories: E-Commerce Tags:

เอเชียเพย์ แนะนำเทคโนโลยีล่าสุดด้านอีเพย์เม้นท์ เสริมความปลอดภัยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

May 29th, 2012 No comments


ข้อมูลจากรายงานของบริษัท ผู้ให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ และจัดทำระบบ ชำระเงินออนไลน์ชั้นนำในเอเชียเปิดเผยว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูงถึง 15 – 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ด้วยระบบ และบริการเสริมต่างๆด้านการชำระเงินออนไลน์ที่หลากหลาย ทำให้ในปัจจุบันคนไทยมีความพร้อมมากขึ้นที่จะสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ อีกทั้งด้วยค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบที่ถูกลงกว่าในอดีต ทำให้บริษัททุกขนาดขยายธุรกิจและเพิ่มยอดขายออกไปได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจห้างสรรพสินค้าไปจนถึงธุรกิจประกันภัยต่างก็เปิดให้มีบริการชำระเงินออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่บริษัท และอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าซึ่งสามารถเข้ามาซื้อสินค้าออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา

นายโจเซฟ ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียเพย์ กล่าวว่า “สิ่งที่นักช้อปออนไลน์ให้ความสำคัญมากที่สุด คือ “ความปลอดภัย” ดังนั้นร้านค้าออนไลน์ที่มีชื่อเสียงด้านความปลอดภัยจะสร้างความเชื่อมั่น และประสบความสำเร็จได้มาก เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเลือกซื้อสินค้ากับเว็บไซต์ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ดังนั้นการตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีเพย์เม้นท์ (ePayment) ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง และน่าเชื่อถือจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซควรให้ความสนใจ”

ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นที่จะให้บริการและจัดหาโซลูชั่นด้านการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย ครบวงจร ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งมีความปลอดภัยสูงให้แก่ธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทย และทั่วโลก บริษัท เอเชียเพย์ จึงเปิดให้บริการระบบ “สยามเพย์” (SiamPay) ซึ่งเป็นบริการด้านการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความล้ำหน้า และความปลอดภัยสูง ระบบสยามเพย์ยังได้รับมาตรฐาน PCI compliant และมี SSL data encryption ในระบบตรวจสอบผู้ซื้อ buyer authentication capacity เพื่อให้ทุกการดำเนินการและการเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้เพื่อช่วยป้องกันร้านค้าจากการทุจริตออนไลน์ สยามเพย์ได้ทำการติดตั้งโซลูชั่นในการป้องการทุจริตบนแพลทฟอร์มชำระเงินสยามเพย์ ซึ่งจะทำหน้าที่ตรวจสอบรายการชำระเงินที่เกิดขึ้นทุกรายการอย่างละเอียด และจะส่งผลลัพธ์การแจ้งเตือนไปยังร้านค้าออนไลน์ทันทีที่พบว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการทุจริตในรายการนั้นๆ โดยที่ผ่านมาบริษัท เอเชียเพย์ ยังได้รับการรับรองให้เป็นผู้ทำระบบ 3D-Secure สำหรับธุรกรรมระหว่างประเทศให้กับวีซ่า มาสเตอร์การ์ดอเมริกันเอ็กซ์เพรส และเจซีบี

นายโจเซฟยังกล่าวอีกว่า “ในการพัฒนาระบบควบคุมความเสี่ยงให้ตรงตามความต้องการของธนาคาร, สถาบันการเงินต่างๆ และธุรกิจในกลุ่มเสี่ยงนั้น เรามีความยินดีที่จะนำเสนอบริการล่าสุดที่ชื่อว่า สยามเพย์ ePayAlert (ระบบบริหารจัดการความเสี่ยง) ซึ่งจะมีกลไกการควบคุมความเสี่ยงเต็มรูปแบบ และยืดหยุ่นได้ตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ ระบบป้องกันการทุจริตแบบใหม่นี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าระบบความเสี่ยงในแบบเดิม โดยระบบของเราเปิดโอกาสให้เจ้าของธุรกิจสามารถออกแบบกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยงได้เองเพื่อให้ตรงกับปัญหาที่ตนเองกำลังประสบอยู่”

นอกจากนี้ สยามเพย์ยังเป็นผู้ให้บริการที่มีช่องทางการชำระเงินกว้างขวางและครอบคลุมที่สุดในเอเชีย ด้วยการรองรับการชำระเงินได้จากบัตรเครดิตนานาประเทศ, บริการหักบัญชีออนไลน์ (Debit Payment) และบริการกระเป๋าเงินออนไลน์ (ewallets) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย จีน และประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซ์ ได้แก่ บริการ China UnionPay, AliPay, MyClear, POLi, BancNet และอื่นๆ ที่จะทำให้ร้านค้าประสบความสำเร็จในธุรกิจระหว่างประเทศ

และสยามเพย์ยังมีระบบการบริหารจัดการแบบวันสต็อปเซอร์วิส (one stop service) ที่รวมการจัดการต่างๆมาไว้ที่เดียว สามารถทำให้ร้านค้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดยอดธุรกรรมต่างๆ ได้ในหน้าเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการรับเงินจากช่องทางไหนก็ตาม และสามารถดาวน์โหลดรายงานได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงการวิเคราะห์ยอดขายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขายแก่ร้านค้า ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสยามเพย์เยี่ยมชมได้ที่ www.siampay.com หรืออีเมล enquiry@siampay.com

View :1568

“โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย” เขย่าวงการออนไลน์ เปิดเว็ปไซต์ “HereiLike.com” ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ

May 10th, 2012 No comments

บริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด เขย่าวงการออนไลน์เมืองไทย เปิดตัว HereiLike.com (เฮียร์ไอไลค์ดอทคอม) ด้วยคอนเซ็ปต์ “ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ” ศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งที่รวบรวมข้อมูลแฟชั่น ร้านอาหาร การศึกษา ความงาม รวมถึง Gadget เทคโนโลยีต่างๆ และข่าวสารบันเทิงที่นำเทรนด์ก่อนใครในรูปแบบ เทรนดี้ไลฟ์สไตล์ หวังเจาะตลาดธุรกิจออนไลน์ให้อยู่หมัด
พร้อมอัพเดทเทรนด์สุดฮิตใน HereiLike Magazine ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจที่เจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นประเดิม “สยาม” แหล่งช้อปปิ้งสุดชิค ตลอดกาลของวัยรุ่นเป็นแห่งแรก

คุณรุจิรพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ www.hereilike.com หรือ เฮียร์ไอไลค์ดอทคอม เปิดเผยว่า บริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด เป็นบริษัทฯภายใต้การบริหารงานของทายาทบริษัท ไทย ซัมมิท กรุ๊ป และเป็นบริษัทคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่จะมาเจาะตลาดและเอาใจวัยรุ่นสุดชิคด้วยการเปิด HereiLike.com “ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ” แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัย เน้นไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น ร้านอาหาร การศึกษา ความงาม รวมถึง Gadget เทคโนโลยีต่างๆ และข่าวสารความบันเทิงที่นำเทรนด์ก่อนใคร พร้อมด้วยกิจกรรมเกมสนุกๆ และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิก ที่จะตอบสนองการสื่อสารแบบ Multi Communication โดยเน้นการสร้างสังคม Online ผ่าน Social Network ซึ่งช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร กิจกรรม และโปรโมชั่นต่างๆ ระหว่างสมาชิก

โดยกลุ่มเป้าหมายของเว็ปไซต์ “HereiLike” จะเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นที่มีไลฟ์สไตล์สะท้อนถึงตัวตนที่มีความทันสมัย รักอิสระ มั่นใจในตัวเอง และชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมออย่างไม่หยุดนิ่ง และหวังว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์จะได้รับความรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความสนุกสนาน พร้อมอัพเดททุกเรื่องราวผ่านโลกออนไลน์ เสมือนเดินช้อปปิ้งอยู่ ณ สถานที่จริง

“HereiLike” ยังเป็นช่องทางและตัวกลางในการสื่อสาร ที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การโปรโมท รวมถึงการมอบบริการต่างๆ ให้แก่เจ้าของธุรกิจ ให้สามารถเชื่อมถึงกลุ่มเป้าหมายในแหล่งสุดโปรดนั้นๆ แบบโดนใจวัยรุ่นได้อย่างง่ายดายผ่านเนื้อหาที่เข้าถึงเทรนดี้ไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น และกิจกรรมต่างๆ ที่ทางบริษัทฯจัดทำขึ้น โดยมีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษา แนะนำและบริการอย่างใกล้ชิด ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจุดแข็งของธุรกิจ

คุณรุจิรพรรณ กล่าวเสริมว่า นอกจากเราจะมีเว็ปไซต์ HereiLike ที่เป็นสื่อออนไลน์แล้ว บริษัทฯยังได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารโดยจัดทำนิตยสาร (Free Magazine) ราย 2 เดือน ภายใต้ชื่อ HereiLike Magazine วางกระจายตามแหล่งสุดฮิป สามารถส่งมอบข้อมูล ข่าวสาร โปรโมชั่นของเจ้าของธุรกิจต่างๆ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นหน้าที่และพันธกิจหลักของบริษัทฯ”

“การเปิดตัวเฮียร์ไอไลค์ดอทคอม (www.hereilike.com) ในครั้งนี้ทางบริษัทฯได้ตั้งใจทำการตลาดทั้ง Above the line และ Below the line ด้วยหวังสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ได้ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งมองว่าการแข่งขันทางการตลาดค่อนข้างมีความเข้มข้น แต่เราก็หวังว่า HereiLike จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการค้นหาที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ และโปรโมชั่นโดนๆ ที่เข้ากับยุคสมัยนี้มากที่สุด” คุณรุจิรพรรณ กล่าวสรุปในตอนท้าย

View :1704

เดนท์สุ มีเดียเปิดตัว ไอบัตเตอร์ฟลาย (iButterfly)

May 1st, 2012 No comments

(ประเทศไทย) จำกัด ปฏิวัติวงการสื่อสารการตลาดเมืองไทยครั้งใหญ่ ล่าสุดประกาศเปิดตัว “ ()” แอพพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน ประเทศญี่ปุ่นและฮ่องกง ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาให้ชาวไทยได้สัมผัส บริษัทยักษ์ใหญ่ทุกวงการ ตอบรับอย่างคับคั่ง คาดจะกลายเป็นกระแสเทรนด์ฮิตล่าสุดแห่งปี

มร.มิตสึยูกิ นากามูระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์แอพพลิเคชั่น “ไอบัตเตอร์ฟลาย (iButterfly)” ในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ เดนท์สุ อิงค์ ได้ทำการเปิดตัว แอพพลิเคชั่น “ไอบัตเตอร์ฟลาย (iButterfly)” ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2553 ปรากฎว่าได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเริ่มต้นจากการใช้เป็นแอพพลิเคชั่นเพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆ และต่อมาได้ถูกพัฒนาเพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดอย่างเต็มรูปแบบทั้งเรื่องแบรนด์และการทำ โปรโมชั่นส่งเสริมการขาย จนกระทั่งในปี 2554 เดนท์สุ มีเดีย ฮ่องกง จึงได้นำเอากระแสฮิต “ไอบัตเตอร์ฟลาย” ดังกล่าวเข้ามาเปิดตัวและใช้เป็นช่องทางสร้างกลยุทธ์สื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ ท่ามกลางกระแสตอบรับไม่น้อยไปกว่าประเทศญี่ปุ่น

“ในปี 2555 เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล็งเห็นถึงพัฒนาการของผู้บริโภค ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสาร และจากการเติบโต ตลอดจนความนิยมของสมาร์ทโฟน ทั้งในระบบ IOS และระบบ Android ได้เข้ามามีบทบาท ในชีวิตประจำวันของคนไทยทั้งเรื่องความบันเทิง การเล่นเกมส์ โซเชียล เน็ตเวิร์ค และแอพพลิเคชั่นอื่นๆมากมาย ทำให้เราเห็นศักยภาพของตลาดที่มีความพร้อม และตอบรับกับการแนะนำ ไอบัตเตอร์ฟลาย สู่มือผู้บริโภคชาวไทย และมีแนวโน้มจะขยายตัว อย่างต่อเนื่องในอนาคต เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า แอพพลิเคชั่น ไอบัตเตอร์ฟลาย จะเข้ามาทดแทนการทำการตลาด โปรโมชั่น รูปแบบเดิมๆได้ ปัจจุบันหลังจากการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เราได้รับการตอบรับดีมากจากแบรนด์สินค้าชั้นนำ อาทิ สก๊อต โซนี่ ฮอนด้า ทรู คอฟฟี่ เดอะ ไพรม์ SKII วีจีไอและที่สำคัญคือกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งเรามองพัฒนาการของธุรกิจ E-promotion ในประเทศไทยว่าจะได้เห็น การพัฒนาที่ต่อเนื่อง ในรูปแบบที่สนุกและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงสิทธิประโยชน์ ส่วนลด ของแถม และของรางวัลอีกมากมาย เพื่อสร้างความสนใจให้แก่กลุ่มเป้าหมาย” มร.มิตสึยูกิ นากามูระ กล่าว

ด้าน ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงสีสันล่าสุดแห่งกลยุทธ์การตลาดยุคดิจิตอลในครั้งนี้ว่า ด้วยความที่ซีพีเอ็นเป็นผู้นำในตลาดรีเทล เรามุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ มามอบให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ โดยนำเครื่องมือด้านการตลาดมาใช้แบบ 360 องศาครอบคลุมทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ให้ครอบคลุมได้ทุกกลุ่ม ซึ่งเราถือเป็นศูนย์การค้ารายแรกๆ ที่รุกการทำตลาดด้าน Digital Marketing อย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ที่แปลกใหม่และยิ่งใหญ่กว่าเดิม เราได้จับมือกับ เดนท์สุ นำแอพพลิเคชั่น iButterfly ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมการตลาดล่าสุด มาใช้ในการทำตลาดที่ศูนย์การค้าของซีพีเอ็น โดยจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในช่วง Annual Sale ที่จะถึงนี้ โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษ รางวัล และส่วนลดพิเศษสุดจากร้านค้ามากมาย จากภายในศูนย์ฯ

ที่สำคัญ แอพพลิเคชั่นใหม่นี้ ยังจะเป็นการขยายฐานลูกค้า และเป็นการต่อยอดกลยุทธ์การตลาดของซีพีเอ็นในรูปแบบ FUN FAST FREE ซึ่งมีทั้งความสนุกสนาน รวดเร็ว และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งถือเป็นการตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่น “ไอบัตเตอร์ฟลาย (iButterfly)” ถือเป็นแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโฟนล่าสุดที่สามารถ มอบทั้งความบันเทิงผ่านการสะสมลวดลายของผีเสื้อที่โดดเด่นสวยงามและยังได้รับสิทธิ ประโยชน์ ส่วนลด ในการใช้บริการหรือซื้อสินค้าต่างๆ อีกด้วย โดยได้นำเอาแนวความคิดของ Digital Coupon เข้ามาใช้เพื่อสร้างสีสัน และที่สำคัญยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ธรรมชาติโดยลดการ ใช้กระดาษ ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องพกพาหรือตัดคูปองกระดาษจากใบปลิว หรือหนังสือพิมพ์ เนื่องจากแอพพลิเคชั่น ไอบัตเตอร์ฟลาย สามารถรวบรวมสิทธิพิเศษต่างๆไว้ได้ในสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว นอกจากนี้ยังเอื้ออำนวยให้แบรนด์ หรือสินค้าที่มาใช้บริการสามารถโฆษณาผ่านการสร้างลิงค์ต่อเนื่องไปรับชมวิดีโอคลิปหรือต่อเข้า facebook, twitter หรือ website ได้ทันที ซึ่งจะเป็น กลยุทธ์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของ mobile application ที่นอกจากจะสร้างความบันเทิงแล้ว ยังใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวันอีกด้วย

View :1520

เอ็นโซโก้ ส่ง Ensogo Top Up Credit ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มอิสระในการช้อปปิ้งให้ลูกค้าซื้อดีลสะดวกและประหยัดยิ่งขึ้น แม้ไม่มีบัตรเครดิต

April 15th, 2012 No comments

บริษัทในเครือลีฟวิ่งโซเชียล ผู้นำเว็บไซต์ธุรกิจโซเชียลคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งของไทย ออกนวัตกรรมใหม่เอาใจขาช้อปออนไลน์ตัวจริง เพิ่มอิสระในการช้อปปิ้งให้ลูกค้าจับจ่ายซี้อดีลไหนๆ บน www.ensogo.com ได้ตามใจต้องการอย่างสะดวก ง่ายดายแม้ไม่มีบัตรเครดิต ประหยัดทั้งเวลาและค่าธรรมเนียมในการชำระเงินยิ่งขึ้น ด้วย ‘’ ช่องทางการซื้อและเติมเครดิตเอ็นโซโก้เข้าบัญชีของสมาชิกผ่านทางออนไลน์ ที่มีสองราคาให้เลือกช้อป คือ มูลค่า 300 เครดิต ราคา 300 บาท และมูลค่า 500 เครติด ราคา 500 บาท โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อและเติมเครดิตได้ไม่จำกัดจำนวน พิเศษ! รับเครดิตเอ็นโซโก้เพิ่มอีก 3% ของมูลค่ายอดซื้อฟรีทันที เมื่อซื้อ ‘’ ราคาเดียวกัน จำนวน 2 คูปองขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายนเท่านั้น

นายทอม ศรีวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์เอ็นโซโก้ บริษัทในเครือลีฟวิ่งโซเชียล กล่าวว่า “ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าเอ็นโซโก้ที่ชำระเงินในการจับจ่ายดีลพิเศษของเราผ่านบัตรเครดิตมีประมาณ 78% แล้ว แต่ก็ยังมีลูกค้าจำนวนไม่น้อย ที่เลือกชำระเงินผ่านช่องทางการเงินอื่นๆ เนื่องด้วยไม่มี บัตรเครดิตหรือไม่สะดวกใช้บัตรเครดิต บริษัทฯ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ ‘Ensogo Top Up Credit’ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงดีลสินค้าและบริการต่างๆ บนเว็บไซต์เอ็นโซโก้ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เครดิตที่ได้มาจาก ‘Ensogo Top Up Credit’ จะสามารถนำมาใช้จับจ่ายดีลที่ต้องการบน www.ensogo.com ได้เหมือนกับการใช้เงินสด โดย 1 เครดิตเอ็นโซโก้ มีมูลค่าเทียบเท่าเงินสด 1 บาท”

“Ensogo Top Up Credit จะมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของเอ็นโซโก้ ช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าธรรมเนียมในการชำระเงิน รวมถึงหมดปัญหาเรื่องการชำระเงินไม่ทันเวลาที่กำหนด และไม่พลาดซื้อสุดยอดดีลที่มีจำหน่ายในจำนวนจำกัด บริษัทฯ มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายสินค้าบนเว็บไซต์ เอ็นโซโก้มากยิ่งขึ้น” นายทอม กล่าวเพิ่มเติม

View :1503

เว็ลธ์ เปิดตัว WealthMagik เว็บไซต์บริการการเงินส่วนบุคคล รับเทรนด์ใหม่ของโลกออนไลน์

April 5th, 2012 No comments

เผยนำซอฟต์แวร์หลักล้านเปิดให้ใช้ฟรี เชื่อมีคนเข้าใช้กว่าแสนในห้าปี ชูจุดเด่นเชื่อมต่อทุกสถาบันการเงินการลงทุน พร้อมระบบจำลองการลงทุน

คุณสมเกียรติ ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เว็ลธ์ แมเนจเม้นท์ ซิสเท็ม หรือ Wealth เปิดเผยว่า จากแนวโน้มใหม่ของคนไทยที่เริ่มทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้จัดทำเว็บแอพพลิเคชันที่มาช่วยบริหารจัดการด้านการเงินส่วนบุคคลสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ ทำให้ Wealth ได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำซอฟต์แวร์บริหารการเงินของสถาบันการเงินสำคัญๆ หลายที่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาสร้างเป็นเว็บไซต์ www..com ขึ้น ซึ่งถือเป็นรายแรกที่เน้นเฉพาะคนไทย และมีบริการทางด้านการเงินอย่างครบครัน

กลุ่มเป้าหมายของ WealthMagik คือ กลุ่มนักลงทุนอายุตั้งแต่ 25-55 ปี ที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการหาข้อมูลการลงทุน และลงทุนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ต่อจากนั้นจะขยายการรับรู้ไปยังกลุ่มใหม่ๆ โดยคาดว่าจะมีสมาชิกเข้ามาใช้ระบบประมาณ 1 แสนรายภายใน 5 ปี
จุดเด่นของ WealthMagik คือ การที่ Wealth ได้นำประสบการณ์ ข้อมูลและโปรแกรมการวางแผนทางด้าน Private Wealth Management ของสถาบันการเงินและหน่วยลงทุนต่างๆ มาไว้อย่างครบถ้วนถูกต้อง โดยมีการจัดระบบให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งง่ายต่อการวางแผนและทำให้ผู้เข้ามาใช้งานสามารถเข้าใจภาพรวมและกำหนดทิศทางเรื่องการวางแผนการใช้เงินและการลงทุนได้ในคราวเดียวกัน ที่สำคัญคือผู้ใช้งานสามารถจำลองการลงทุนก่อนการตัดสินใจจริงได้

“WealthMagik เป็นสิ่งที่ Wealth ต้องการมอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคม ประการแรกคือไม่มีการคิดค่าบริการ ประการที่สองคนไทยจะได้รู้เรื่องการบริหารการเงินและการลงทุนส่วนบุคคลได้ตามนโยบายของหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. ประการที่สามตอบสนองวัฒนธรรมองค์กรของ Wealth คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ซึ่งเน้นการให้ความรู้กลับคืนสู่สังคม” คุณสมเกียรติกล่าว

รูปแบบการนำเสนอของ WealthMagik จะเน้นการใช้งานที่ง่าย โดยพัฒนาในรูปแบบของ Private Wealth Online ซึ่งเน้นขั้นตอนการลงทุนที่ถูกต้องแต่เข้าใจได้ง่าย ออกแบบให้ดูสบายตาเป็นกันเอง แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยข้อมูลการลงทุนที่เป็นกลาง ด้วยระบบการทำงานเบื้องหลังจากซอฟต์แวร์ทางการเงินที่มีมูลค่าหลายสิบล้านบาท โดยในช่วงแรกภายในเว็บไซด์จะมี 4 กลุ่มหลักของการใช้งานที่จะช่วยนักลงทุนในการตัดสินใจ คือ My IOS, My Plan, My Screener และ My SimPort

สำหรับ My IOS หรือ Investment Objective Setting ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแนวคิดว่านักลงทุนแต่ละคนสามารถรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน นักลงทุนบางคนอาจรับความเสี่ยงได้มากและสามารถลงทุนได้ภายใต้ความผันผวนของตลาด แต่บางคนยอมรับความเสี่ยงได้น้อย ต้องการผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ทาง Wealth จึงได้พัฒนาระบบ My IOS เพื่อประเมินระดับการยอมรับความเสี่ยง และแนะนำสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของผู้ใช้งาน

ส่วน My Plan นั้นทาง Wealth ได้วิเคราะห์แล้วว่าคนส่วนใหญ่ต้องการความมั่นคงในชีวิต การวางแผนทางการเงินจึงมีความจำเป็น My Plan จะเป็นตัวช่วยสำคัญให้กับผู้ใช้งาน ที่ต้องการวางแผนการลงทุนด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น แผนการออมเงิน, การซื้อบ้าน, การศึกษาบุตร, เพื่อการเกษียณ รวมถึงแผนสำหรับลดหย่อนภาษี และหากแผนการลงทุนที่กำหนดไว้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ระบบ My Plan ก็จะแนะนำแผนอื่นๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบรรลุเป้าหมายได้

อีกจุดหนึ่งที่ทำให้การวางแผนด้านการเงินของผู้ใช้งานง่ายก็คือ My Screener ผู้ใช้งานที่ต้องการหากองทุนที่ตรงใจ และสอดคล้องกับเงื่อนไขที่ผู้ใชงานเป็นผู้กำหนด My Screener จะเข้ามาดูแลในส่วนนี้ ด้วยการนำเสนอรูปแบบที่เน้นความง่าย และสะดวกในการค้นหา ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไข และจัดเรียงลำดับความต้องการได้เอง อีกทั้งยังเพิ่มอำนาจการตัดสินใจให้กับผู้ใช้งานโดยสามารถคัดกรองกองทุนที่น่าสนใจด้วยเงื่อนไขที่มากกว่าเดิม และสามารถเข้าไปดูข้อมูลโดยละเอียดของกองทุนนั้นๆ ได้ทันที

ส่วนสุดท้ายคือ My SimPort หรือ Simulation Portfolio ถือเป็นจุดสำคัญของการใช้งานในระบบนี้ ผู้ใช้งานที่เป็นผู้เริ่มต้นลงทุน หรือผู้มีแผนที่จะลงทุนในอนาคต ทางระบบนี้จะจำลองพอร์ตการลงทุนให้ทดลอง ซื้อ-ขาย ตามราคาซื้อขายจริงของตลาด เพื่อเป็นการทดสอบ หรือหาแนวทางการลงทุนที่เหมาะสม และสามารถนำมาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพในการลงทุนของตัวนักลงทุนได้
แผนงานเร่งด่วนของ WealthMagik คือการเปิดตัวแอพพลิเคชันที่ใช้งานกับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต โดยระบบโปรแกรมจะมุ่งเน้นผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกซ์ SSL ที่รับรองโดย VeriSign ซึ่งเป็นที่ยอมรับของธนาคารชั้นนำ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงเข้าไปสู่ธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ได้โดยทันที

ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือซอฟต์แวร์พาร์ค เปิดเผยว่า แนวโน้มด้านแอพพลิเคชันการเงินส่วนบุคคลบนอินเทอร์เน็ต ถือเป็น life style แบบใหม่ของยุคนี้ เนื่องจากคนเริ่มมั่นใจระบบว่ามีความปลอดภัยสูง และระบบนี้ให้ความสะดวกสบายในการจัดการอย่างมาก อย่างไรก็ตามผู้ที่จะสร้างแอพพลิเคชันออนไลน์เช่นนี้ต้องมีประสบการณ์และต้องนำองค์ความรู้ที่จากเดิมเคยนำเสนอองค์กรใหญ่ๆ และสร้างรายได้จำนวนมหาศาลมาปรับระบบให้กับผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้อย่างไม่คิดมูลค่า การคิดในเชิงธุรกิจต้องเปิดใจกว้างก่อนแล้วรายได้จึงจะตามเข้ามา

ในส่วนของซอฟต์แวร์พาร์คนั้นเห็นว่าโอกาสที่ซอฟต์แวร์ไทยที่ได้รับการยอมรับจากวงการการเงินการลงทุนอยู่แล้วจะเข้าสู่ระดับ Mass หรือตลาดแนวกว้างนั้น มีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่มีศักยภาพ เช่น บริษัทเว็ลธ์ แมเนจเม้นท์ ซิสเท็ม จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนามาตรฐานซอฟแวร์ CMMI ระดับ 5 และเป็นตลาดเปิดที่ต่างประเทศไม่สามารถเจาะเข้ามาได้ เนื่องจากตลาดการเงินของแต่ละประเทศก็มีระเบียบและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงิน การคลังหรือระบบภาษี ดังนั้นซอฟต์แวร์พาร์คจึงต้องการส่งเสริมอย่างยิ่งให้มีซอฟต์แวร์ของคนไทยเพื่อมารองรับกฎระเบียบและพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยโดยเฉพาะ

View :1614

คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ออกใบอนุญาตแก่ผู้ให้บริการ e-Payment เพิ่ม 1 ราย

April 5th, 2012 No comments

นางจีราวรรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะรองประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้เป็นประธานการประชุมพิจารณาออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประเภทบัญชี ค. ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2552 ซึ่งได้กำหนดให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้ควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชกฤษฎีกาฯ ธปท. จึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 12 พิจารณาการขอรับใบอนุญาตของผู้ให้บริการตามประเภทบัญชี ค. ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว และนำเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้พิจารณาออกใบอนุญาต

โดยปัจจุบันคณะกรรมการธุรกรรมฯ ได้ออกใบอนุญาตให้กับผู้ให้บริการไปแล้ว 74 ราย แบ่งเป็นผู้ให้บริการที่เป็นสถาบันการเงินจำนวน 31 ราย และผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงินอีก 43 ราย รวมเป็นใบอนุญาตจำนวน 113 ฉบับ และในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมฯ ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประเภทบัญชี ค. เพิ่มเติมอีก 1 ราย คือ บริษัท เทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ยื่นขอรับใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจตามบัญชี ค. (3) คือ การให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือผ่านทางเครือข่าย

ธปท.ได้มีการพิจารณาการขอรับใบอนุญาตฯ ของผู้ประกอบการรายดังกล่าวแล้ว เห็นว่าผู้ให้บริการได้ยื่นเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง รวมทั้งมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนมีความพร้อมในการให้บริการและมีแนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ จึงเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมฯ เพื่อให้พิจารณาออกใบอนุญาตแก่ผู้ให้บริการที่ยื่นขออนุญาตไว้ ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมฯ ได้พิจารณาอนุมัติออกใบอนุญาตดังกล่าว ภายใต้เงื่อนไขที่ผู้ให้บริการจะต้องเปิดให้บริการตามที่ได้รับอนุญาตภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งต้องทำหนังสือแจ้ง ธปท. ให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนเริ่มการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการขออนุญาตโดยไม่ประกอบธุรกิจบริการ

สำหรับการจัดแบ่งประเภทบัญชีของผู้ให้บริการตามพระราชกฤษฎีกาฯ นั้น ธปท. ได้พิจารณาจากความเหมาะสมในการป้องกันความเสียหายตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่อาจเกิดจากการประกอบธุรกิจเอาไว้ 3 บัญชี เพื่อให้ผู้ให้บริการได้ทราบว่าธุรกิจของตนจะต้องดำเนินการในลักษณะใด โดยประเภทแรก คือ บัญชี ก เป็นธุรกิจที่ต้องแจ้งให้ทราบ ซึ่งได้แก่ การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการจากผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ยกเว้น การให้บริการที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคโดยมิได้แสวงหาผลกำไร เช่น บัตรแลกซื้ออาหารในศูนย์อาหาร เป็นต้น ประเภทที่สอง คือ บัญชี ข เป็นธุรกิจบริการที่ต้องขอขึ้นทะเบียน ซึ่งได้แก่ บริการเครือข่ายบัตรเครดิต บริการเครือข่ายอีดีซี (EDC) บริการสวิตช์ชิ่งในการชำระเงินระบบใดระบบหนึ่ง และการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ให้บริการหลายราย ณ สถานที่ที่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายและการให้บริการรายเดียวกัน เช่น บัตรเติมน้ำมันของบริษัทน้ำมัน เป็นต้น

และประเภทที่สาม คือ บัญชี ค เป็นบัญชีที่ต้องขอรับใบอนุญาต ซึ่งได้แก่ บริการสวิตช์ชิ่งในการชำระเงินหลายระบบ บริการหักบัญชีบริการชำระดุล บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือผ่านเครือข่าย บริการรับชำระเงินแทน และการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ให้บริการหลายราย โดยไม่จำกัดสถานที่และไม่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายและการให้บริการเดียวกัน เช่น บัตรเงินสดของร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น

View :1651

เปิดตัวเว็บไซต์เอ็มเอฟจีดอทคอม (MFG.com)ศูนย์รวมธุรกิจอุตสาหกรรมออนไลน์ระดับโลก

March 27th, 2012 No comments

เพื่อผู้ประกอบการไทยและอาเซียน ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมในประเทศฝั่งตะวันตก

เว็บไซต์เอ็มเอฟจีดอทคอม (MFG.com)


เปิดตัวเว็บไซต์เอ็มเอฟจีดอทคอม (MFG.com) ศูนย์รวมธุรกิจอุตสาหกรรมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมขยายช่องทางสำหรับการซื้อขายสินค้าในปัจจุบัน ซึ่งจะครอบคลุมถึงผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในประเทศไทย

มิตช์ ฟรี ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเอฟจี ดอทคอม กล่าวว่า “ประเทศไทยมีซัพพลายเออร์ด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีคุณภาพสูงและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งหลายบริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในธุรกิจด้านการส่งออก แต่ว่ายังมีบริษัทผู้ผลิตระดับโลกอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในไทยและยังไม่มีโอกาสได้เข้าสู่ธุรกิจด้านการส่งออก ในขณะที่กลุ่มผู้ซื้อจากประเทศฝั่งตะวันตกเป็นจำนวนมากกำลังมองหาสินค้าคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม และมีความต้องการที่จะติดต่อกับซัพพลายเออร์ในไทยมากขึ้น เว็บไซต์เอ็มเอฟจีดอทคอม (MFG.com) รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นสื่อเชื่อมโยงระหว่างซัพพลายเออร์ในไทยและกลุ่มผู้ซื้อจากประเทศฝั่งตะวันตก เราคิดว่านี่คือ ความสำเร็จทางธุรกิจสำหรับทุกๆ คน”

มร.ฟรีกล่าวต่อว่าเนื่องด้วยฐานอุตสาหกรรมการผลิตที่แข็งแกร่งของไทยผนวกกับการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2558 ซึ่งจะส่งผลดีกับเว็บไซต์เอ็มเอฟจีดอทคอม (MFG.com) ที่จะช่วยเปิดโอกาสด้านการขายและการจัดหาแหล่งผลิตด้านอุตสาหกรรมระดับโลกไปยังนานาประเทศที่เป็นสมาชิกในกลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ซึ่งมีประชาชนมากกว่า 500 ล้านคน และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศมากกว่า 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และมีฐานการค้าทั้งหมดรวมมากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

เว็บไซต์เอ็มเอฟจีดอทคอม (MFG.com) ให้บริการในรูปแบบออนดีมานด์ที่มีการรวบรวมข้อมูลด้านอุตสาหกรรมการผลิตที่กระจายอยู่ทั่วโลกให้เข้าสู่ตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นแหล่งจัดหาข้อมูลสินค้าสำหรับธุรกิจอุตสาหกรรมที่สะดวกง่ายดาย รวดเร็ว มีคุณภาพสูง และราคาเหมาะสม ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถคลิกดูได้ที่ www.MFG.com

ประเทศไทยนับเป็นผู้ผลิตที่มีความสำคัญมากในอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก และมีชื่อเสียงด้านการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร และชิ้นส่วนยานยนต์ ดังนั้นเว็บไซต์เอ็มเอฟจีดอทคอม (MFG.com) จึงนับเป็นแพลตฟอร์มที่ดีในการแสดงความสามารถของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมของไทยไปสู่อุตสาหกรรมระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว

ล่าสุดเว็บไซต์เอ็มเอฟจีดอทคอม (MFG.com) ศูนย์รวมธุรกิจอุตสาหกรรมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจัดงาน “เอเชีย ซัพพลายเออร์ ดิสคัฟเวอรี่ ทัวร์” (Asia Supplier Discovery Tour) เพื่อจัดหาซัพพลายเออร์ในกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งจากประเทศไทย เวียตนาม อินเดีย มาเลเซีย ไต้หวัน และฮ่องกง

มิตช์ ฟรี เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมระดับโลก ด้วยการบริหารจัดการอย่างสร้างสรรค์และเป็นที่ยอมรับด้านความรอบรู้ มีวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ โดยนิตยสาร INC มอบรางวัล “ผู้ประกอบการแห่งปี” ให้ในปีพ.ศ. 2548 และยังได้รับรางวัล “ผู้ประกอบการแห่งปี” จาก Ernst & Young ในปีพ.ศ. 2551 ภายใต้การบริหารงานของมร.ฟรีทำให้บริษัทเอ็มเอฟจีดอทคอมได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตทางด้านเทคโนโลยีสูงสุดในประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน มร.ฟรีเป็นวิทยากรพิเศษบรรยายในการประชุมด้านเทคโนโลยีที่โรงเรียนธุรกิจเคลลอกที่มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น โรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ด โรงเรียนวาร์ทัน และสมาคมวิศวกรรมด้านการผลิต

View :1562

กรุ๊ปปอน รุกตลาดประเทศไทย ผู้บุกเบิกของอุตสาหกรรมสยายปีกสู่เอเชีย

February 29th, 2012 No comments

(Groupon, NASD: GRPN) ผู้บุกเบิกและผู้นำในตลาดโลกด้านการพาณิชย์ระดับท้องถิ่น ประกาศในวันนี้ถึงการเปิดตัว ประเทศไทย () อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ลูกค้าในประเทศไทยสามารถค้นหาและ มีส่วนร่วมกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในรูปแบบที่หลากหลาย ด้วยวิธีง่ายๆ ซึ่งรวมไปถึงสิ่งที่ดีที่สุดในการชม ชิม และช้อปอย่างจุใจผ่านเว็บไซต์ www.mygroupon.co.th

ปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 47 ที่กรุ๊ปปอนเปิดให้บริการภายนอกสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทจะเปิดตัว ดีลพิเศษที่กรุงเทพฯ เป็นแห่งแรก และมีแผนจะขยายการให้บริการไปยังจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทยต่อไป ในอนาคต

เดเมียน เคมเนอร์ ประธานกรรมการบริหาร กรุ๊ปปอน ประเทศไทย

นาย เดเมียน เคมเนอร์ ประธานกรรมการบริหาร กรุ๊ปปอน ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่มี โอกาสได้นำสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของกรุ๊ปปอน เข้ามานำเสนอให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งกรุ๊ปปอนจะช่วยให้ลูกค้าชาวไทยได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายจากข้อเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจและ ประสบการณ์ที่ไม่อาจหาได้จากที่อื่น เพราะเราได้จับมือกับคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อสร้างสรรค์แคมเปญระดับ เอ็กซ์คลูซีฟ ที่ช่วยให้คู่ค้าสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าของเราที่มีคุณภาพมากกว่า รวมทั้งยังสามารถเปิดตัวใน ตลาดได้ดีขึ้นและน่าสนใจยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยผลักดันธุรกิจใหม่ๆ ให้คู่ค้าได้เติบโตไปพร้อม กับเรา”

นับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 กรุ๊ปปอนได้ปฏิวัติรูปแบบการค้าในระดับท้องถิ่น ด้วยการช่วยให้คู่ค้าทางธุรกิจทั่วโลกมีแพลตฟอร์มการตลาดที่สามารถดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าใหม่ พร้อมกับการบริหารจัดการและการขยายธุรกิจได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนกรุ๊ปปอนได้ร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ หลายแสนรายทั่วโลก และปัจจุบันมีฐานลูกค้าที่ใช้งานอย่างต่อเนื่องกว่า 33 ล้านคน ซึ่งซื้อสินค้าและ บริการผ่านกรุ๊ปปอนอย่างน้อย 1 ครั้งในปีที่ผ่านมา

ผู้สนใจสามารถสัมผัสความหลากหลายของข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ได้แล้ววันนี้ โดยสามารถลงทะเบียนกับ กรุ๊ปปอน ประเทศไทย ทางเว็บไซต์ www.mygroupon.co.th สำหรับธุรกิจที่สนใจจะนำเสนอบริการบน เว็บไซต์ ของกรุ๊ปปอน ประเทศไทย สามารถส่งรายละเอียดมาได้ที่ b2b@mygroupon.co.th

View :1570

เอ็นโซโก้เปิดตัวเว็บไซต์โฉมใหม่

February 8th, 2012 No comments

บริษัทในเครือลีฟวิ่งโซเชียล ผู้นำเว็บไซต์ธุรกิจโซเชียลคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งของไทย ปรับโฉมเว็บไซต์ใหม่ (www.ensogo.com) ให้ทันสมัยและโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม พร้อมช่วยสร้างสรรค์ประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนานยิ่งกว่าที่เคย ด้วยการใช้งานที่เร็วขึ้นถึงสองเท่าและลุคแอนด์ฟีลที่ดูง่ายสบายตา เว็บไซต์เอ็นโซโก้ดีไซน์ใหม่ยังโดดเด่นด้วยการทำงานที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ช่วยให้สมาชิกค้นพบดีลใหม่ๆ ได้ในทุกๆ วัน ด้วยฟีเจอร์การแบ่งดีลตามเขตและจังหวัด รวมถึงการแบ่งดีลตามหมวดหมู่ต่างๆ ค้นพบและเพลิดเพลินไปกับดีลใหม่ๆ ในราคาสุดคุ้มได้ที่ www.ensogo.com

เอ็นโซโก้ บริษัทในเครือลีฟวิ่งโซเชียล ผู้นำเว็บไซต์ธุรกิจโซเชียลคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งในประเทศไทย รวบรวมประสบการณ์ไลฟ์สไตล์สุดคุ้มทั้ง กิน เที่ยว ช้อป จากผลิตภัณฑ์และบริการชั้นนำทั่วประเทศมาจำหน่ายในราคาลดพิเศษมากกว่า 50% โดยผู้สนใจสามารถสมัครสมาชิกเว็บไซต์ www.ensogo.com เพื่อรับข่าวสารดีลใหม่ๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงแบ่งปันข้อมูลดีลสุดคุ้มให้เพื่อนๆ ได้รับทราบผ่านทางเครือข่ายสังคมต่างๆ ได้ในทุกๆ วัน นอกจากนี้ สมาชิกยังจะได้รับเครดิตเพิ่มขึ้นแทนคำขอบคุณหากชักชวนให้เพื่อนสมัครเป็นสมาชิกและซื้อดีลครั้งแรกบนเว็บไซต์เอ็นโซโก้

View :1561