Archive

Archive for the ‘Press/Release’ Category

ไอซีทีร่วมสรอ.เปิดคลาวด์ภาครัฐเวอร์ชันสมบูรณ์ ดึง 30 หน่วยงานรัฐประเดิม ระดมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เน็ตเวิร์ค ฯลฯ รองรับ มั่นใจระบบง่ายถึงยากเอาอยู่

May 3rd, 2012 No comments

พร้อมเจรจาสำนักงบประมาณหวังให้หน่วยงานรัฐขอใช้งบไอที ต้องพิจารณาสาธารณูปโภคส่วนกลางก่อน

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ทางกระทรวงไอซีทีร่วมกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรือสรอ. ได้ร่วมเปิดตัวระบบ Government Cloud Service ในเวอร์ชันสมบูรณ์แบบครั้งแรก ถือเป็นการดำเนินการแบบเต็มตัว ทั้งทางด้านเทคโนโลยี แผนงานการบริการเต็มรูปแบบ การเพิ่มโครงสร้างสาธารณูปโภค งบประมาณ และการเข้าไปร่วมแก้ไขกฎระเบียบทางด้านการจัดซื้อจัดจ้าง กฎหมาย ให้รองรับมากที่สุด เพื่อนำไปสู่การสร้างความเข้าใจและเพิ่มปริมาณการให้บริการมากยิ่งขึ้นในปีต่อๆ ไป จนทำให้ระบบนี้กลายเป็นระบบหลักทางด้านไอทีของประเทศในอนาคตอันใกล้
โครงการนี้ได้เลือกแอพพลิเคชันจาก 30 หน่วยงานในการเข้าร่วม Government Cloud Service เป็นจำนวนที่สมเหตุสมผล ทั้งในเงื่อนของเวลา ความเชี่ยวชาญจากฝ่ายไอทีของสรอ.และฝ่ายไอทีของหน่วยงานนั้นๆ การติดตั้งเพิ่มเติมของโครงสร้างพื้นฐานและระบบต่างๆ ของระบบคลาวด์ การเลือกดาต้าเซ็นเตอร์รายอื่นๆ เข้ามาเป็นพันธมิตร ทั้งหมดจะนำไปสู่ความพร้อมก่อนที่จะเร่งเครื่องให้บริการมากกว่านี้ได้ในปีต่อๆ ไป

ภาพรวมที่จะได้เห็นในปีนี้ก็คือ จะมีแอพพลิเคชันใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยถูกพัฒนามาก่อนของหน่วยงานรัฐ จะถูกผลักดันขึ้นสู่ระบบคลาวด์ตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะการเขียนแอพพลิเคชันนั้นรองรับอยู่แล้ว ขณะเดียวกันแอพพลิเคชันเดิมที่เคยทำงานอยู่แล้ว จะมีการทยอยนำเข้าสู่ระบบคลาวด์แบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งในกรณีต้องใช้เวลา และไม่กระทบกับการปฎิบัติงานเดิม ซึ่งคาดว่าระบบคลาวด์จะยังเป็นแค่ส่วนน้อยอยู่ แต่คาดว่าภายใน 5 ปีแอพพลิเคชันที่ทำงานผ่านระบบคลาวด์ของภาครัฐจะมีมากกว่า 50% และนั่นจะทำให้ลดการลงทุนทางด้านไอทีของภาครัฐไปได้จำนวนมาก

สำหรับเวอร์ชันทดลองเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในครั้งนั้นได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ขึ้นในระบบไอทีราชการไทย มีการติดต่อเพื่อที่จะนำระบบแอพพลิเคชันต่างๆ ของแต่ละหน่วยงานมาเข้าโครงการ แต่เนื่องจากในเวอร์ชันทดลองนั้นทางสรอ.มีความสามารถเปิดรับในเบื้องต้นเพียงแค่ 10 ระบบเท่านั้น ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต., กรมปศุสัตว์, โครงการชัยพัฒนา, สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือสพธอ., กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, กรมธนารักษ์, สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือสสวท., สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISDA, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมการพัฒนาชุมชน

และเมื่อทำการสำรวจการใช้งานจริง ผลสำรวจของสรอ. จาก 9 ใน 10 ของหน่วยงานที่เข้ามาใช้ระบบพบว่า คะแนนรวมความพึงพอใจเท่ากับ 69% แบ่งเป็น 1. ด้านคุณภาพบริการ คะแนนเฉลี่ย 78% ประเด็นที่ได้คะแนนสูงที่สุด คือ ความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานบริการ 89% 2. การใช้งานบริการ Government Cloud คะแนนเฉลี่ย 73% ประเด็นที่ได้คะแนนสูงที่สุด คือ ความสะดวกในการใช้งานผ่านหน้าเว็บไซต์สำหรับจัดการ 78% และ ความสามารถดูแลและตรวจสอบการใช้งานของผู้ใช้บริการเว็บไซต์สำหรับจัดการ 78%
จากการสำรวจทั้งหมด ส่วนใหญ่ไม่เคยใช้บริการคลาวด์กับผู้ให้บริการรายอื่นมาก่อน มีเพียงรายเดียวที่เคยใช้บริการของ AMAZON EC2 โดยรายนี้ให้คะแนนสรอ. เท่ากับ 3 คะแนน และ AMAZON เท่ากับ 5 คะแนน ซึ่งทำให้เห็นว่าภาครัฐเองยังไม่มีความคุ้นเคยกับการใช้คลาวด์มาก่อน ดังนั้นจึงมีถึง 5 หน่วยงานที่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้บริการ Government Cloud Service ต่อไปหรือไม่ ส่วนหน่วยงานที่จะนำระบบขึ้นใช้บริการต่อไปจำนวน 4 หน่วยงานได้แก่ กรมธนารักษ์, สำนักส่งเสริมและพัฒนาการใช้ ICT, กรมป้องกันและบรรเทาฯ, สวทช. โดยหน่วยงานที่สนใจยังต้องการได้รับการสนับสนุนหลายด้านเกี่ยวกับการบริการคลาวด์ เช่น ความรู้ด้านรายละเอียดเกี่ยวกับการบริการทั้งหมดของคลาวด์ และการสนับสนุนด้านความช่วยเหลือในการถ่ายโอนข้อมูลและโอนย้ายระบบขึ้นใช้บริการคลาวด์
สรุปภาพรวมที่จะเห็นได้ในปีนี้ก็คือ ระบบ GIN เข้าสู่เวอร์ชัน 2.0, ระบบ Government Cloud Service ที่เริ่มใช้งานจริง, เกิดระบบ Smart Province รุ่นแรกๆ มีระบบ Application Market Place รองรับทั้งภาครัฐ ภาคการศึกษา และอื่นๆ เพื่อเป็นที่รองรับการพัฒนาแอพพลิเคชันและ Content ของประเทศ โดยมีระบบโทรคมนาคมที่ทันสมัยที่จะเริ่มมีการประมูลในปลายปีนี้มารองรับ จะทำให้ภาพไอทีของประเทศมีความเด่นชัดมากขึ้น และจะนำไปสู่การก้าวกระโดดในไม่ช้า

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือสรอ. เปิดเผยว่า จากการที่สรอ.ได้ดำเนินการระบบ Government Cloud Service ในชั้นทดลอง และได้ข้อมูลความต้องการ และได้ประเมินระบบทั้งหมดออกมา เมื่อเข้าสู่ระบบจริงตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางสรอ.ได้พัฒนาระบบคลาวด์ขึ้นมาให้เทียบกับมาตรฐานสากลมากขึ้น โดยได้เสริมตั้งแต่ระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เน็ตเวิร์ค ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ เข้ามาอย่างมาก

ในส่วนของฮาร์ดแวร์นั้นมีการเพิ่มเติมเข้ามาอย่างมาก ตั้งแต่ระบบสภาพแวดล้อมใหม่ จากเดิมจะเน้นใช้ระบบภายในของสรอ.เอง ขณะนี้ได้กระจายเข้าใช้ใน IDC หรือศูนย์อินเทอร์เน็ตแหล่งต่างๆ ในประเทศมากขึ้น ดังนั้นฮาร์ดแวร์ที่ใส่ไปยังศูนย์เหล่านี้สรอ.ได้เพิ่มประสิทธิภาพ และมีความทันสมัย โดยในขั้นต้นมีการเพิ่มทั้งความเร็ว และความจุของระบบมากกว่า 2 เท่า

นอกจากนั้นแล้วทางสรอ.ยังได้วางสถาปัตยกรรมให้การเพิ่มความจุของฮาร์ดดิสก์ หรือความสามารถในการทำงานของระบบเพิ่มขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา ซึ่งในชั้นนี้สรอ.ยังให้บริการเพียงแค่ IaaS หรือ Infrastructure as a Service หรือการทำให้หน่วยงายรัฐสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลากับแอพพลิเคชันของตนเอง แต่ยังไม่ถึงขั้น SaaS หรือ Software as a Service ซึ่งเป็นมาตรฐานของระบบ Cloud Service ทั่วไป เนื่องจากทางสรอ.ยังไม่ได้ทำความตกลงกับหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วม โดยทั้งหมดต้องกำหนดมาตรฐานร่วมกัน ซึ่งคาดว่าเมื่อหน่วยงานรัฐมีความคุ้นเคยกับระบบ IaaS แล้วภายในปีนี้ ในปีหน้าสรอ.จะสามารถเริ่มต้นเข้าสู่ระบบ SaaS ได้

สำหรับแผนดำเนินการของ Government Cloud Service ในรุ่นนี้ทางสรอ.จะรับระบบของหน่วยงานเข้ามาดูแลประมาณ 30 ระบบ โดยเฉลี่ยจะมีเซิร์ฟเวอร์รองรับในแต่ละระบบประมาณ 3 เครื่อง ตามแผนที่วางไว้จะมีการขึ้นเซิร์ฟเวอร์ในแต่ละเดือนประมาณ 20 เครื่อง หรืออย่างน้อย 5 หน่วยงาน ซึ่งจะทำให้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ขึ้นกับระบบในปีนี้จะมีสูงถึง 80-100 เครื่องเลยทีเดียว

ปัจจุบันมีหน่วยงานที่แจ้งจะเข้าร่วมแล้วเกินกว่า 30 หน่วยงาน มากกว่าที่ทางสรอ.กำหนดเอาไว้ ดังนั้นหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกช่วงนี้จะเน้นรายที่นำเสนอเข้ามาก่อน และจะมีการพิจารณาถึงความพร้อมในการนำระบบขึ้นสู่อินเทอร์เน็ตของหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งในขณะนี้การพิจารณาและการนำระบบขึ้นทั้งหมดเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ ส่วนรายที่พลาดจากปีงบประมาณนี้ ทางสรอ.ก็พร้อมจะให้คำปรึกษาในการเตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาระบบให้สามารถขึ้นสู่คลาวด์ได้ในปีงบประมาณต่อๆ ไป

ส่วนระบบคลาวด์ในเวอร์ชันใหม่ของสรอ.ในครั้งนี้ มีตั้งแต่การมอบหมายให้ระบบคลาวด์ทำงานเป็น Backup Site หรือเป็นระบบสำรองของหน่วยงานทั้งหมด, การเป็น Web Hosting หรือการเป็นเซิร์ฟเวอร์หลักของเว็บไซต์หน่วยงานนั้นๆ, การสร้างระบบเฉพาะกิจเร่งด่วน ซึ่งเป็นระบบใหม่ที่ยังไม่เคยติดตั้งในหน่วยงานนั้นมาก่อน, การตั้งให้ระบบคลาวด์เป็นฐานข้อมูลหลักและสำรองของหน่วยงาน และสุดท้ายคือเป็นแอพพลิเคชันบนเว็บให้กับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งระบบทั้งหมดมีทั้งความยาก ที่ซับซ้อนอย่างมาก เช่น การเป็น Backup Site ไปจนถึงระบบที่ง่ายๆ อย่างการเป็น Web Hosting ซึ่งการได้ดูแลทั้งหม

View :1190
Categories: Press/Release Tags:

เอชพี เปิดตัวโซลูชั่น Application Transformation ใหม่

May 2nd, 2012 No comments

มอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าให้กับองค์กรธุรกิจ ผนวกแอพพลิเคชั่นแบบเดิมเข้ากับแอพพลิเคชั่นระดับองค์กรสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

เอชพี ประกาศเปิดตัวโซลูชั่น Application Transformation ใหม่ ช่วยองค์กรธุรกิจต่างๆ สร้างสุดยอดประสบการณ์การใช้งานให้กับลูกค้าของตน โดยผนวกรวมแอพพลิเคชั่นระดับองค์กรสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้เข้ากับการทำงานในสภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบเดิม

การขยายตัวของการใช้สมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการที่องค์กรธุรกิจต่างๆ นำมาใช้สร้างคุณค่าและขับเคลื่อนธุรกิจของตนให้มีความแตกต่างและโดดเด่นเพื่อเพิ่มแต้มต่อในการแข่งขัน ทั้งนี้ การอยู่รอดทางเศรษฐกิจของธุรกิจต่างๆ สามารถวัดได้จากขีดความสามารถขององค์กรนั้นๆ ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค ที่ส่งผ่านมาทางแอพพลิเคชั่นต่างๆ ขององค์กร รวมถึงแอพพลิเคชั่นโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และลิงค์อิน (LinkedIn)

พอร์ทโฟลิโอของโซลูชั่น HP Application Transformation มีการพัฒนาต่อยอดขึ้นมาใหม่ โดยมุ่งเน้นในการช่วยองค์กรธุรกิจออกแบบ สร้าง และบริหารแอพพลิเคชั่นที่รองรับการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้คนและองค์กรต่างๆ โดยสามารถใช้สภาพแวดล้อมการทำงานแบบเดิมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า

มร. ไมค์ อึ้ง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์ เอชพี ประจำภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “แอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรรุ่นใหม่และล้ำสมัยต้องการระบบการออกแบบและทดสอบที่แตกต่างจากแอพพลิเคชั่นแบบเดิม ทั้งนี้ เอชพีพร้อมสร้างความมั่นใจว่า แอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรที่นำเสนอโดยเอชพีมีคุณภาพสูง มีความพร้อมในการใช้งาน และมีความสามารถในการปรับขยายได้สูงสุด โดยจะพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าสู่มาตรฐานใหม่ที่ดีกว่า”

ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ใหม่ รองรับการบริหารจัดการไอทีและการทำงานร่วมกันแบบโซเชี่ยล

โซลูชั่น HP Application Lifecycle Intelligence (ALI) รุ่นใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันของทีมต่างๆ พร้อมทั้งลดรอบเวลาการทำงาน โดยสามารถเข้าดูและติดตามการทำงานแบบเรียลไทม์ภายในกระบวนการทำงานของแอพพลิเคชั่นทั้งหมด

เอชพี ผนึกกำลังกับบริษัท เพอร์เฟคโต โมบายล์ (Perfecto Mobile) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทดสอบโซลูชั่นและการทำงานอัตโนมัติบนเทคโนโลยีคลาวด์ ในการปรับขยายโซลูชั่น HP Unified Functional Testing ซึ่งเป็นโซลูชั่นภายใต้ระบบ IT Performance Suite เพื่อรองรับการใช้แอพพลิเคชั่นแบบมัลติฟังก์ชั่น โดยเปิดให้นักพัฒนาระบบเลียนแบบและทดสอบประสบการณ์การใช้แอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่บนทั่วทุกอุปกรณ์และเครือข่ายการสื่อสาร

นอกจากนี้ เอชพี ยังมีผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ใหม่ที่สนับสนุนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันแบบโซเชี่ยลให้มีความสะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น ดังนี้

· โซลูชั่น HP Anywhere เพิ่มกำลังการผลิตและช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถบริหารจัดการระบบไอทีได้ทุกที่แม้ในระหว่างเดินทาง แอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ใหม่ทำงานได้หลากหลายประเภท ทั้งการจัดการคำขอข้อมูลการดำเนินงาน การติดตามสภาวะที่ผิดปกติ การติดตามสถานะของบริการ และการรวบรวมดัชนีวัดประสิทธิผล (Executive Scorecard)

· โซลูชั่น HP Enterprise Collaboration เพิ่มประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนความรู้และเร่งการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้เร็วขึ้นในสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันแบบโซเชี่ยล (social collaboration) ที่สนับสนุนการสนทนาหารือเพื่อติดตามกิจกรรมและงานย้อนหลังต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์

บริการใหม่ๆ รองรับการออกแบบ ใช้งาน และจัดการแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

เอชพีนำเสนอการเพิ่มประสิทธิภาพของพอร์ทโฟลิโอโซลูชั่นซอฟต์แวร์ HP Application Transformation ด้วยโซลูชั่นบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรที่เปี่ยมคุณภาพ สำหรับพอร์ทโฟลิโอโซลูชั่น HP Mobile Application Services ประกอบด้วยโซลูชั่นที่โดดเด่น ดังนี้

· โซลูชั่นบริการ HP Testing for Mobility Services เร่งเวลาในการจัดส่งแอพพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น โดยลดรอบการทดสอบและสนับสนุนการทดสอบบนอุปกรณ์ต่างๆ ให้ทำงานอย่างอัตโนมัติ โดยใช้โซลูชั่นชั้นนำจาก HP Software และ Perfecto Mobile

· โซลูชั่นบริการ HP Enterprise Mobility Services for SAP® Applications เพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน สนับสนุนผู้ใช้งานแบบเคลื่อนที่ให้ได้รับข้อมูลจากแอพพลิเคชั่น SAP ที่มีความสำคัญระดับ mission-critical ทั้งนี้ เอชพีมีการจัดทำโซลูชั่นระดับองค์กรสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างครบวงจร โดยมีการขยายสมรรถนะการทำงานให้รองรับแพลทฟอร์มเทคโนโลยี SAP NetWeaver® และ Sybase® Unwired เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าใช้ข้อมูลสำคัญๆ ระดับองค์กรได้อย่างสะดวกง่ายดาย

นอกจากนี้ เอชพียังจัดเวิร์คช้อปเรื่อง HP Applications Transformation Experience ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของการกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการนำแอพพลิเคชั่นระดับองค์กรสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และเทคโนโลยีการประมวลผลแบบคลาวด์มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

เอชพี มีกำหนดจัดงาน HP Discover ระหว่างวันที่ 4 – 7 มิถุนายน 2555 ณ เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

View :1291
Categories: Press/Release Tags:

เอชพีผนึกกำลังกับสมาคม Dscoop เพื่อขยายการเติบโตทางธุรกิจให้กับผู้ให้บริการด้านการพิมพ์

May 2nd, 2012 No comments

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมทั่วโลกกว่า 30 ท่าน และตัวแทนกว่า 850 คนรวมตัวกันในงาน Dscoop at drupa 2012 ในเยอรมนี

มร.กิโด แวน ปาร์ค รองประธาน ฝ่ายธุรกิจกราฟิกโซลูชั่นส์ กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และเพอร์ซันแนลซิสเต็ม เอชพี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น


โอกาสทองของผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ (Print Service Providers: PSPs) จากภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและญี่ปุ่นที่จะได้เรียนรู้วิธีการคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากระบบการพิมพ์แบบอะนาล็อกไปสู่ระบบการพิมพ์แบบดิจิตอลไปกับเอชพีที่งาน Dscoop at drupa 2012 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2555 ในเมืองบอนน์ ประเทศเยอรมนี

จากความร่วมมือระหว่างสมาคม Dscoop และเอชพี ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ตัวแทนของสมาคม Dscoop จากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่นจะมาเข้าร่วมงานประชุมระดับโลกของ Dscoop ที่จัดขึ้นพร้อมกับมหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแวดวงอุตสาหกรรมการพิมพ์

สมาคม Digital Solutions Cooperative (Dscoop) เป็นสมาคมดำเนินกิจการเองโดยอิสระ และก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 สำหรับลูกค้าในธุรกิจกราฟฟิกของเอชพีในอเมริกาเหนือ ปัจจุบันได้ขยายตัวครอบคลุมสมาชิกในภูมิภาคต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก/ญี่ปุ่น ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

มร.กิโด แวน ปาร์ค รองประธาน ฝ่ายธุรกิจกราฟิกโซลูชั่นส์ กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และเพอร์ซันแนลซิสเต็ม เอชพี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า “เรามีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงที่จะช่วยให้เหล่าผู้ให้บริการด้านการพิมพ์สามารถ ตักตวงโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโตทางธุรกิจ พร้อมมอบมูลค่าที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า นอกจากนี้ ช่วงเวลาของการจัดงาน Dscoop at drupa 2012 นับว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด ตัวแทนผู้เข้าร่วมสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากชุดผลิตภัณฑ์โซลูชั่นการพิมพ์กราฟฟิกอาร์ตที่ครบครันมากที่สุดในแวดวงอุตสาหกรรม พร้อมทั้งมีโอกาสในการสร้างเครือข่าย และร่วมแบ่งปันประสบการณ์ทางธุรกิจพร้อมกับเพื่อนร่วมอาชีพจากทั่วโลก”

เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เอชพีได้เปิดตัว10 โซลูชั่นใหม่ด้านการพิมพ์ในระบบดิจิตอล ที่ตอบโจทย์และตรงใจ ของตลาดการพิมพ์ออฟเซ็ตได้อย่างตรงจุด เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านของอุตสหกรรมการพิมพ์จากระบบอะนาล็อกไปสู่การพิมพ์ระบบดิจิตอล

ไฮไลท์ของงงาน Dscoop at drupa 2012
งานนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 6 วันในภายใต้แนวคิด “Time to Grow Your Business” โดยผู้เข้าร่วมงานจะสามารถเลือกฟังและชมหาประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองได้ในงาน Dscoop at drupa 2012 นับตั้งแต่การเลือกสถานที่ที่จะไปเยี่ยมชมธุรกิจการพิมพ์ดิจิตอลของลูกค้าที่ประสบความสำเร็จ การเข้าร่วมการประชุมหลัก และการเลือกสัมมนาย่อยกว่า 20 สัมมนาภายในงานที่สัมพันธ์กับความสนใจทางด้านธุรกิจของตนเอง

เพื่อช่วยให้เหล่าผู้ให้บริการงานพิมพ์ได้รับประโยชน์ สามารถแข่งขันได้ และ ได้เปรียบในการเปลี่ยนโฉมธุรกิจของตนเอง ที่ไฮไลท์ของงานครอบคลุมไปถึง

การอภิปรายกลุ่มในหัวข้อ
· “ถึงเวลาของการเติบโตในธุรกิจของคุณ” – ว่าด้วยเรื่องนวัตกรรมและ การตัดสินใจ” (“Time to Grow Your Business” – About Innovation and Decision Making”
· “เคล็ดลับการขายงานพิมพ์ดิจิตอลให้กับบริษัทผู้พิมพ์โฆษณา” (How to sell digital printing services to publishers”)
· “เส้นทางแห่งความสำเร็จที่แตกต่างกัน กลยุทธ์เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ” (”Different Paths for Success, Strategies for Business Growth”)

รอบการนำเสนอผลงาน รวมไปถึง
· “การจัดการช่วงการเปลี่ยนแปลงจากระบบอ็อฟเซทไปสู่การระบบดิจิตอลในการพิมพ์เชิงพาณิชย์ทั่วไป” (“Managing the transition from Litho to Digital in General Commercial Printing”) (วุฒิสมาชิกปีเตอร์ ซอมเมอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีแลนเดอร์ เยอรมนี และ แกรี่ พีลลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีซิสชั่น พริ้นติ้ง)
· “การรักษาความปลอดภัยของแบรนด์ในป้ายฉลากและบรรจุภัณฑ์สินค้า” “Brand Security in Labels and Packaging” (คริสเตียน เมนกอน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ของเอชพี อินดิโก และ มาร์ค จาคอบเซ่น สถาปนิกระบบเครือข่าย เอชพี ไอร์แลนด์)
· “Wide Horizons – วิวัฒนาการของแอพพลิเคชั่นสำหรับการพิมพ์หน้ากว้าง” “Wide Horizons – Evolving Applications For Wide-Format Printing” (บาร์นีย์ คอกซ์ ที่ปรึกษาอาวุโส อินโฟเทรนด์ส์ ยูเปียน ออน ดีมานด์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง เซอร์วิสเซส)

นอกจากนี้ ตัวแทนที่ร่วมงานยังมีโอกาสได้เลือกเยี่ยมชมบริษัทของลูกค้า 13 แห่งทั่วยุโรป โดยจะได้ทราบเกียวกับการดำเนินธุรกิจในเชิงลึกของลูกค้า ตามความสนใจทางธุรกิจของตนเอง บริษัทดังกล่าวนี้ ยังรวมไปถึง
· Jeppesen บริษัทโบอิ้งที่ให้ข้อมูลด้านการเดินทาง โซลูชั่นด้าน การบริหารจัดการ การฝึกอบรมด้านผลิตภัณฑ์และการบริการกับสายการบิน
· Elanders บริษัทด้านการพิมพ์ระดับโลกที่ผลิตหนังสือและนิตยสาร ผลิตภัณฑ์ด้านภาพถ่าย บรรรจุภัณฑ์ ข้อมูลและสื่อด้านการตลาด รวมทั้งคู่มือและข้อมูลผลิตภัณฑ์
· Vila Etiketten เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตป้ายฉลากที่เติบโตเร็วที่สุดของเนเธอร์แลนด์ โดยมีลูกค้ากว่า 2,000 ราย ซึ่งรวมถึงแบรนด์ขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียง ผู้ค้าปลีก และผู้พิมพ์โฆษณาในประเทศ

“งาน Dscoop at drupa 2012 เป็นงานที่รวมเอาเจ้าของธุรกิจด้านกราฟฟิกอาร์ต และเหล่ามืออาชีพทางด้านเทคนิคจากทั่วโลกมาไว้ด้วยกัน และถือเป็นเครือข่ายและเป็นฐานทางด้านการศึกษาที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในแวดวงอุตสาหกรรม เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ขึ้นก่อนที่งาน drupa 2012 จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ การเข้าร่วมงาน Dscoop at drupa 2012 คณะผู้เข้าร่วมยังจะได้รับประโยชน์เพิมเติ่มเพื่อนำไปต่อยอดความรู้ สร้างพันธมิตร และความสัมพันธ์กันก่อนที่งานมหกรรมการพิมพ์และการพิมพ์โฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะเริ่มขึ้น” เดวิด มินเน็ตต์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการ ของสมาคม Dscoop เอเชียกล่าว

นอกจากนี้ยังจะมีการประกาศผลผู้ชนะรางวัล Asia Pacific and Japan (APJ) HP Indigo Digital Print Awards 2012 ปีที่ 5 รางวัลดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูความสำเร็จและนวัตกรรมอันโดดเด่นในอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ โดยครอบคลุม 15 ประเภทรางวัล รวมไปถึง การพิมพ์สมุดภาพ (Photo Books) การพิมพ์เชิงพาณิชย์ทั่วไป การพิมพ์สื่อโฆษณาทางไปรษณีย์ (ไดเร็คเมลล์) และ ทรานสโปรโมชั่น ไปจนถึงการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ชนิดยืดหยุ่น (Flexible Packaging)

ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมงาน และการลงทะเบียนของงาน Dscoop at drupa 2012 สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hpindigo-events.com/Dscoop-at-drupa/

เอชพีจะออกบูธในงาน drupa 2012 ตั้งแต่วันที่ 3-16 พฤษภาคมนี้ ในเมืองดูสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี โดยจะแสดงชุดผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด โซลูชั่นเวิร์กโฟลว์ใหม่ของการพิมพ์ระบบดิจิตอล การพัฒนาธุรกิจทรัพยากร และทางเลือกด้านการเงินที่จะช่วยให้เหล่าผู้ให้บริการงานพิมพ์สามารถบรรลุเป้าหมายในการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีกำไร

View :1623
Categories: Press/Release Tags:

ทรูมูฟ เอช มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้า The New iPad ที่ทรูช็อปทั่วประเทศ

May 2nd, 2012 No comments

ลูกค้าทรูการ์ดรับส่วนลดค่าเครื่อง 2,000 บาท (ทุกรุ่น) ผ่อน 0% นาน 10 เดือน

ทรูมูฟ เอช นำโดย นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมคณะผู้บริหาร ประกาศศักดาผู้นำบริการ 3G และผู้จำหน่าย Gadget สุดล้ำของ Apple ตัวจริงเสียงจริง จัดงานจำหน่าย The New iPad ในไทยอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง มอบอิสระตามสไตล์ FreeYou ที่เหนือกว่าทั้งคุณภาพเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย HSPA+ ด้วยความเร็วสูงสุด 42 Mbps* ที่ใช้ได้จริงวันนี้ ครอบคลุมครบ 77 จังหวัด 843 อำเภอ 5,158 ตำบล และบริการ WiFi ความเร็วสูงสุด 100 Mbps* ครอบคลุม 100,000 จุดในไทยกลางปีนี้ และมากกว่า 200,000 จุดในต่างประเทศ เต็มอิ่มกับหลากหลายเอ็กซ์คลูซีฟไลฟ์สไตล์คอนเทนต์ระดับโลกคุณภาพระดับ HD จาก H TV และ H MUSIC ที่ให้ทุกประสบการณ์ความบันเทิงตามติดไปทุกที่ โดยทรูมูฟ เอช เปิดจำหน่ายล็อตแรกในเวลา 0.00 น. เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2555 ณ ทรู สเตเดี้ยม สยามพารากอน

นอกจากนี้ ทรูมูฟ เอช ยังมอบสิทธิพิเศษให้เป็นเจ้าของ The New iPad ได้ที่ร้านทรูช็อป ทั่วประเทศ ดังนี้

· สำหรับผู้ถือบัตรทรูการ์ด รับส่วนลดค่าเครื่อง 2,000 บาท พร้อมผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือผ่อนสบายๆ นานสูงสุด 24 เดือน ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต เมื่อซื้อเครื่องพร้อมจดทะเบียนรายเดือนเบอร์ใหม่และสมัครแพ็กเกจ iPad หรือ Net(i) แพ็กเกจใดก็ได้ และใช้บริการนาน 3 เดือนต่อเนื่องกัน และพิเศษ! รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นาน 4 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจ Net(i) 899

· สำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็กเกจ iPad หรือ Net(i) รับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือผ่อนสบายๆ นาน 24 เดือน ผ่านบัตรซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต และพิเศษ! รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นาน 4 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจ Net(i) 899

· สำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องเปล่า รับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงค์ หรือผ่อน 0% นาน 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

ผู้สนใจสามารถซื้อ The New iPad พร้อมรับสิทธิพิเศษจากทรูมูฟ เอช ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2555 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove-h.com ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad สามารถค้นหาได้ที่ www.apple.com/ipad

* ความเร็วในการใช้บริการ 3G+ ด้วยเทคโนโลยี HSPA+ และ WiFi ขึ้นอยู่กับปริมาณผู้ใช้งาน ณ จุดที่ใช้งานและอุปกรณ์ที่รองรับ

View :1816
Categories: Press/Release Tags:

ฟูจิตสึไลฟ์บุ๊ก ไลน์ใหม่เปิดตัว 2 รุ่นแรก พร้อมขุมพลังอินเทล เจนฯ 3

May 2nd, 2012 No comments

ฟูจิตสึเปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ลุยตลาดปี 2555 ที่ออกแบบยึดหลักปรัชญาญี่ปุ่น “ทาคูมิ” ที่ผสมผสานทั้งความงามและความลงตัวด้านฟังก์ชั่นการใช้งาน พร้อมขุมพลังใหม่จากอินเทล เจนเนอเรชั่น 3 ล่าสุดเปิดตัวไลฟ์บุ๊ก 2 รุ่นแรกเจาะตลาดไทย คือ Fujitsu LIFEBOOK LH532 ที่มาพร้อมกับสีสันสไตล์สุดล้ำ ด้วยหน้าจอ 14 นิ้ว และ Fujitsu LIFEBOOK AH532 ทางเลือกใหม่ทดแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหน้าจอ กับขนาดจอ 15.6 นิ้ว

นายเชาวนะ สุนทรพฤกษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่าในปี 2555 นี้ ทางฟูจิตสึเตรียมส่งไลน์ผลิตภัณฑ์ฟูจิตสึไลฟ์บุ๊กรุ่นใหม่ลงตลาดประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยไลฟ์บุ๊กรุ่นใหม่ได้รับการออกแบบตามปรัชญาญี่ปุ่น “ทาคูมิ” ซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่น มีสไตล์เป็นของตนเอง รวมถึงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม จึงตอบสนองได้ทั้งด้านการใช้งานและความบันเทิงที่เหมาะสำหรับทุกไลฟ์สไตล์

“ฟูจิตสึมีความภูมิใจในการเป็นบริษัทแบรนด์ญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักและยอมรับไปทั่วโลกในเรื่องการสร้างสรรค์เครื่องพีซี ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ รวมถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากกว่า 30 ปี” นายเชาวนะ กล่าว

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ไลฟ์บุ๊กใหม่ของฟูจิตสึที่ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดตามปรัชญา “ทาคูมิ” จะประกอบด้วยสิ่งสำคัญ 4 ประการ คือ 1. The Infinity Mark สัญลักษณ์ของความเป็นเลิศและนวัตกรรม 2. F-Line ขอบของแป้นพิมพ์คีย์บอร์ด ที่แสดงให้เห็นถึงฝืมือและความใส่ใจในทุกรายละเอียด 3. Zen-like Rounded Profile เส้นโค้งที่สะท้อนถึงความเป็น “เซน” ซึ่งเน้นความเรียบง่ายและความเป็นเลิศด้านคุณภาพ และ 4. User-Centric Shared Details สื่อถึงการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก ลงลึกในทุกรายละเอียดเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายที่สุด และสะท้อนถึงความคลาสสิกอย่างหรูหรา

นายเชาวนะ กล่าวว่าฟูจิตสึได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไลฟ์บุ๊ก 2 รุ่นล่าสุดสู่ตลาดเมืองไทย ได้แก่ Fujitsu LIFEBOOK LH532 ที่มาพร้อมกับสีสันสไตล์สุดล้ำ และ Fujitsu LIFEBOOK AH532 ทางเลือกใหม่ทดแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยทั้ง 2 รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบตามแบบฉบับของปรัชญา “ทาคูมิ”

สำหรับ Fujitsu LIFEBOOK LH532 เน้นการออกแบบ “น้อยแต่มาก” กับขุมพลังอินเทลคอร์โปรเซสเซอร์ เจเนอเรชั่น 3 การ์ดจอ NVIDIA® ที่มาพร้อมกับ 2GB VRAM และ DTS Boost™ เต็มประสิทธิภาพเหนือระดับทั้งด้านภาพและเสียง ตัวเครื่องออกแบบมาอย่างสวยงามตามแบบฉบับของปรัชญา “ทาคูมิ” ด้วยน้ำหนักเพียง 2.1 กิโลกรัมและ คีย์บอร์ด F-line ที่สามารถกันน้ำได้ ทัชแพดทรงมนเน้นความสะดวกสบายในการใช้งาน มีสีสันให้เลือกระหว่างสีดำประกายและสีแดงการ์เน็ตเสมือนตัวเครื่องถูกหุ้มด้วยกำมะหยี่ชั้นดี

Fujitsu LIFEBOOK LH532 ยังมาพร้อมกับกล้องความละเอียดสูงที่สามารถตรวจจับใบหน้าของผู้ใช้งาน และสั่งงานให้เครื่องหรือโปรแกรมที่เปิดใช้งานอยู่หยุดพักเมื่อผู้ใช้งานไม่ได้อยู่หน้าเครื่อง รวมถึงคุณสมบัติ USB Anytime Charge ที่ผู้ใช้งานสามารถชาร์จอุปกรณ์ภายนอกต่างๆได้ทุกที่ทุกเวลา แม้ว่าเครื่องจะปิดอยู่ก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้นทางฟูจิตสึได้วางจำหน่าย Fujitsu LIFEBOOK LH532 AP คือรุ่น Limited Edition ที่ยังคงคุณสมบัติอันโดดเด่นเช่นเดียวกันกับไลฟ์บุ๊ก LH532 ด้วยการเพิ่ม 4 สีสันสดใสเหมาะกับรสนิยม ได้แก่ สีดำประกาย สีแดงทับทิม สีม่วงลาเวนเดอร์ และสีดำเนื้อแมตต์ โดย Fujitsu LIFEBOOK LH532 AP มีวางจำหน่ายเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเท่านั้น

ส่วน Fujitsu LIFEBOOK AH532 เป็นโน้ตบุ๊กทางเลือกใหม่ทดแทนเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ดีที่สุด โดยมาพร้อมกับอินเทลคอร์โปรเซสเซอร์ เจเนอเรชั่น 3 ที่อัดแน่นด้วยโมดูลหน่วยความจำความเร็วสูง 1600MHZ เพื่อใช้ในการประมวลผล ไร้การสะดุดแม้จะเปิดใช้หลายโปรแกรมพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนด้วยการ์ดจอ NVIDIA® GeForce GT620M ที่มาพร้อมกับ 2GB VRAM ด้วยขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว แสดงผลแบบ SuperFine High Definition TFT back-light LED wide screen เต็มอิ่มกับเสียงทรงพลังด้วย DTS Boost™ ที่ให้คุณภาพด้านภาพและเสียงเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์

Fujitsu LIFEBOOK AH532 ยังมี Modular bay device ที่สนับสนุน Dual Layer DVD Super Multi Writer และ Dual Layer Blu-Ray ทำให้ผู้ใช้งานสามารถชมภาพยนตร์จากแผ่น Blu-Ray บนเครื่อง Fujitsu LIFEBOOK AH532 ได้ อีกทั้งยังสนับสนุน CD-R และ CDR-W เพื่อความสะดวกสบายในการจัดเก็บข้อมูล

นอกจากนี้ Fujitsu LIFEBOOK AH532 นำเอาปรัชญา “ทาคูมิ” เป็นหลักในการออกแบบ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบายแก่ผู้เป็นเจ้าของเครื่อง โดย Fujitsu LIFEBOOK AH532 มาพร้อมกับคุณสมบัติของคีย์บอร์ดกันน้ำ แบบ full-sized พร้อมกับแป้น numeric pad เพิ่มความสะดวกสำหรับการเล่นเกมส์และการพิมพ์งานให้รวดเร็ว Fujitsu LIFEBOOK AH532 มีความหนาเพียง 36.5 มิลลิเมตร และหนักเพียง 2.4 กิโลกรัมเท่านั้น

นอกจากนี้ Fujitsu LIFEBOOK AH532 ยังเป็นอุปกรณ์แบบ all-in-one ที่มาพร้อมกับกล้องความละเอียดสูง ดิจิตอลไมโครโฟน และลำโพงแบบ stereo รวมทั้ง Bluetooth® v4.0 พอร์ต USB 3.0 ถึง 3 พอร์ต และ 1 พอร์ตแบบ 2.0 พอร์ต HDMI และ การเชื่อมต่อไร้สาย 802.11n จึงถือว่า Fujitsu LIFEBOOK AH532 เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อที่สะดวกสบายทั้งภายในบ้านและที่สำนักงาน Fujitsu LIFEBOOK AH532 จึงเป็นทางเลือกใหม่ขององค์กรที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊กที่มีคุณสมบัติเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ

ฟูจิตสึยึดมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูงให้แก่ผู้บริโภคด้วยการปฏิบัติตามกฎของ European Union’s Restriction of Hazardous Substances directive (RoHS) ที่ฟูจิตสึนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ทุกชนิด นอกจากนี้ฟูจิตสึยังได้ตั้งข้อปฏิบัติที่เกินกว่ามาตรฐานที่ RoHs กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ของลูกค้าของฟูจิตสึอย่างแท้จริง และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ฟูจิตสึได้ปฏิบัติตามแนวคิดเรื่องเทคโนโลยีสีเขียวอย่างเคร่งครัด โดยการผลิตเครื่องที่ประหยัดพลังงาน ฟูจิตสึยังได้เข้าร่วมขบวนการต่อสู้เพื่อรักษ์โลกโดยการเป็นสมาชิกของ Climate Servers อีกด้วย

View :1819

www.hereilike.com “ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ”

May 2nd, 2012 No comments


บริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ เฮียร์ ไอ ไลค์ ดอท คอม (www.hereilike.com) พร้อมแล้วที่จะประกาศเปิดตัว เฮียร์ ไอ ไลค์ ดอท คอม แหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ดีที่สุดเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น ร้านอาหาร การศึกษา ความงาม รวมถึง Gadget เทคโนโลยีต่างๆ และข่าวสารความบันเทิงที่นำเทรนด์ก่อนใคร พร้อมด้วยกิจกรรม เกมสนุกๆ และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิกด้วยคอนเซ็ปต์ “ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ” เน้นการสร้างสังคม Online ผ่าน Social Network อีกทั้งเป็นตัวกลางในการสื่อสาร ที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โปรโมท รวมถึงการมอบบริการต่างๆ ให้แก่เจ้าของธุรกิจให้สามารถเชื่อมถึงกลุ่มเป้าหมายในแหล่งสุดโปรดนั้นๆได้อย่างง่ายดาย

View :1466
Categories: Press/Release Tags:

โนเกียยกทัพ Nokia Lumia สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone บุกตลาดไทย

May 2nd, 2012 No comments

โนเกียยกทัพ Nokia Lumia สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone ลุยตลาดในประเทศไทยพร้อมกัน 4 รุ่น ได้แก่ Nokia Lumia 900 ที่กวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลก Nokia Lumia 800 สมาร์ทโฟนเพื่อสังคมออนไลน์ดีไซน์โดดเด่น Nokia Lumia 710 สมาร์ทโฟนโดนใจ เปลี่ยนฝาหลังได้ และ Nokia Lumia 610 สมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา ตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการแตกต่างกัน

“การเปิดตัว Nokia Lumia ทั้ง 4 รุ่นในวันนี้ ถือเป็นการเริ่มประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทย ผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์การสื่อสารเคลื่อนที่บนสมาร์ทโฟนที่ดียิ่งขึ้น ระบบนิเวศน์การสื่อสารที่ยากจะหาคู่แข่ง
และบริการหลากหลายที่เหนือชั้น” มร.แกรนท์ แมคบีธ กรรมการผู้จัดการ โนเกีย ประเทศไทย และตลาดเอเชียเกิดใหม่ กล่าว “การเปิดตัวครั้งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเสนอโนเกียสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone ซึ่งจะเป็นระบบปฏิบัติการหลักของโนเกียสมาร์ทโฟนในประเทศไทย”

Nokia Lumia 900

Nokia Lumia 900 เป็นสมาร์ทโฟนที่กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย มาในระบบ Dual Carrier HSPA 42.2 Mbps และแบตเตอรี่ 1830 mAH ใช้งานได้ยาวนานทั้งวัน มอบประสบการณ์ด้านคอนเทนท์ที่เหนือกว่าบนหน้าจอ ClearBlack Amoled ขนาด 4.3 นิ้ว แสดงภาพได้สดใสคมชัดทั้งการใช้งานภายในอาคารและกลางแจ้ง กล้องหลักมาพร้อมเลนส์
Carl Zeiss รูรับแสงขนาดใหญ่ (F2.2) ระยะโฟกัสมุมกว้าง (22mm) เพื่อการเก็บภาพที่สมบูรณ์ไม่หลุดเฟรม และมีคุณภาพสูงแม้ในที่แสงน้อย Nokia Lumia 900 ยังมีกล้องหน้าที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่และเลนส์มุมกว้างช่วยให้ภาพคมชัดสดใสขณะใช้งาน video call

Nokia Lumia 800

Nokia Lumia 800 มาในดีไซน์โดดเด่น สีสันสุดโดน (ชมพู ฟ้า ดำ) ทรงประสิทธิภาพในการใช้งานสังคมออนไลน์และอินเตอร์เน็ต เข้าถึงสังคมออนไลน์ได้ง่ายเพียงสัมผัสเดียว จัดกลุ่มรายชื่อผู้ติดต่อ (contact) กลุ่มข้อความสื่อสาร (threads) และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตบน Internet Explorer 9 ได้ง่ายดาย หน้าจอ AMOLED ClearBlack 3.7 นิ้วของ Nokia Lumia 800 เชื่อมต่อกับตัวเครื่องที่เพรียวบางได้อย่างสวยงามลงตัว processor 1.4 GHz เสริมด้วยเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพ
การทำงานของฮาร์ดแวร์และระบบประมวลผลกราฟฟิคให้ทำงานได้เร็วขึ้น Nokia Lumia 800 มอบประสบการณ์
การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมด้วยเลนส์ Carl Zeiss แชร์ภาพได้ทันที เล่นวิดีโอคุณภาพ HD หน่วยความจำภายใน 16 GB
และฟรี SkyDrive หน่วยความจำออนไลน์เพื่อเก็บรูปภาพและเพลงโปรด

Nokia Lumia 710

Nokia Lumia 710 สร้างขึ้นโดยให้ความสำคัญกับการใช้งาน และให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแอพ เปลี่ยนสีบน Live Tiles เปลี่ยนฝาหลังได้ถึง 5 สีให้คุณได้ปลดปล่อยความเป็นศิลปินในตัวคุณ Nokia Lumia 710 ได้รับการออกแบบให้เพื่อการใช้งานสังคมออนไลน์และแชร์รูปภาพได้ทันที ท่องเว็บว่องไวด้วย IE9 และหลายหมื่นแอพบน Windows Phone Market Place นอกจากนี้ Nokia Lumia 710 ยังมอบการทำงานที่ทรงประสิทธิภาพบน processor 1.4 GHz พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฮาร์ดแวร์ และระบบประมวลผลกราฟฟิค ให้ทำงานได้เร็วยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับ Nokia Lumia 800

Nokia Lumia 610

Nokia Lumia 610 มาในดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยสีสันเมทัลลิค Nokia Lumia 610 สร้างขึ้นเพื่อมอบทั้งคุณภาพ
และความสวยงาม โดยมีเป้าหมายที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเข้าถึงสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone ในราคาที่ย่อมเยา Nokia Lumia 610 มอบการเข้าถึงสังคมออนไลน์ การท่องเว็บ เพลง เกมส์ ระบบนำทาง
และแอพหลายหมื่นบน Windows Phone MarketPlace ท่องเว็บได้ง่ายขึ้นด้วย Internet Explorer และมันส์ไปกับเกมส์
Xbox Live

Nokia Lumia ทั้ง 4 รุ่นมาพร้อม Nokia Maps และ Nokia Drive สามารถเลือกแอพหลายหมื่นบน Windows Phone MarketPlace เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานของตนเอง นอกจากนี้ ยังมี PeopleHub บริการจากโนเกียและแอพดีๆ โดยมี interface ที่รวดเร็วและใช้งานง่าย ทั้งหมดนี้จะช่วยมอบประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนใหม่ๆ และเปี่ยมประสิทธิภาพให้กับผู้บริโภค

พร้อมกันนี้ โนเกียยังได้เปิดตัว Lumia Center ให้ผู้บริโภคได้เปิดประสบการณ์สมาร์ทโฟนกับ Nokia Lumia ทั้ง 4 รุ่น
พร้อมกิจกรรมเซอร์ไพรส์ทุกวัน เช่น มินิคอนเสิร์ต เกมส์ ความบันเทิง และของที่ระลึกมากมาย นอกจากนี้ โนเกียยังกล้าท้าให้คุณนำสมาร์ทโฟนของคุณมาประลองความเร็วในการอัพเดตสังคมออนไลน์กับกิจกรรมที่ชื่อว่า Blown Away by Nokia Lumia เปิดประสบการณ์ใหม่กับ Nokia Lumia ทั้ง 4 รุ่นได้ที่ Lumia Center ที่เซ็นทรัล เวิลด์ ระหว่างวันที่ 3-15 พฤษภาคม, เซ็นทรัลลาดพร้าว ระหว่างวันที่ 17-23 พฤษภาคม และ สยามเซ็นเตอร์ ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2555 พร้อมพบกับ Nokia Amazing Free Ride ขบวนรถมินิสุดเก๋ให้คุณได้โบกนั่งฟรีรอบสยามสแควร์ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 5 พฤษภาคมนี้

Nokia Lumia 900 วางจำหน่าย 3 สี ได้แก่ ดำ ขาว และฟ้า ราคา 18,000 บาท
Nokia Lumia 800 วางจำหน่าย 4 สี ได้แก่ ดำ ขาว ฟ้า และชมพู ราคา 15,400 บาท
Nokia Lumia 710 วางจำหน่าย 2 สี ได้แก่ ดำ ขาว พร้อมฝาหลังที่เปลี่ยนได้ถึง 5 สี ราคา 9,000 บาท
Nokia Lumi 610 วางจำหน่าย 4 สี ได้แก่ ดำ ขาว ฟ้า และชมพู ราคา 7,400 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nokia Lumia กรุณาติดต่อ โนเกียช็อป หรือ โนเกียแคร์ไลน์ โทร 02 255 2111 หรือ www.nokia.co.th/lumia

View :2114

แคนนอนต่อยอดความสำเร็จ ส่งเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง 4 รุ่นใหม่ล่าสุด

May 1st, 2012 No comments


ชูประสิทธิภาพเหนือระดับ สามารถตอบสนองต่อทุกความต้องการในเครื่องเดียว
เจาะกลุ่มธุรกิจองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อม

เมื่อเร็ว ๆ นี้ – แคนนอนหนึ่งในผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์สำหรับธุรกิจและกลุ่มองค์กร เปิดตัว “เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง ดีไซน์ล้ำ รูปทรงทันสมัย Canon imageFORMULA 4 รุ่นใหม่ล่าสุด” ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติโดนเด่นทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น P-215 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ พกพาไปได้ทุกที่ที่คุณต้องการ รุ่น DR-C125 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงขนาดเล็ก ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถปรับทางเดินเอกสารได้ทั้งแบบทางตรงและทางโค้ง เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ในการทำงาน รุ่น DR-M140 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงอเนกประสงค์ เพื่อการใช้งานที่ยืดหยุ่นและคล่องตัว และ รุ่น DR-M160 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงทรงประสิทธิภาพ ให้ความแม่นยำเหนือระดับ ตอบสนองต่อทุกความต้องการภายในเครื่องเดียว โดยมี มิสเตอร์ วาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ให้เกียรติเป็นประธานในงาน

“การแข่งขันในตลาดของเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกลุ่มธุรกิจองค์กรปีนี้มีการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง ซึ่งในปีนี้แคนนอนเตรียมบุกตลาดโดยเน้นกลุ่มธุรกิจองค์กรขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นหลัก โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้เราได้ส่งเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง Canon imageFORMULA 4 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เน้นความสะดวกรวดเร็ว ครบทุกฟังก์ชั่นการทำงาน ให้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยผมเชื่อมั่นว่าเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงจากแคนนอนจะสามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในตลาดปีนี้ได้อย่างแน่นอน” ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคล ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้งโซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าว
ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคล ยังกล่าวเสริมอีกว่า “การแข่งขันในกลุ่มของเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง เรื่องราคายังเป็นเรื่องหลักๆ ที่ต้องพิจารณาให้ดี เพราะสินค้าในไลน์เดียวกันของคู่แข่งทางการตลาดมีการดึงราคาลงมาเพื่อดึงดูดใจลูกค้า ย้อนกลับมาดูที่เราในปีนี้ เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูง เราเน้นด้านคุณภาพมากกว่าที่จะเน้นในเรื่องราคาของสินค้า”

โดยสินค้าที่นำมาเปิดตัวในช่วงครึ่งปีแรกมี 4 รุ่นด้วยกันคือ Canon imageFORMULA รุ่น DR-C125 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงขนาดเล็ก สามารถสแกนเอกสารความเร็วสูงต่อเนื่องที่ 25 แผ่น/นาที ทั้งเอกสารสีและขาวดำ สแกนทั้งสองด้านพร้อมกันในครั้งเดียว ให้ความละเอียดสูงถึง 600 dpi ตัวเครื่องแบบแนวตั้ง-บางเฉียบ สามารถปรับทางเดินเอกสารได้ 2 แบบทั้งแบบทางตรงและทางโค้ง เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ในการทำงาน รองรับการทำงานบน Windows และ Mac สามารถสแกนนามบัตร บัตรพลาสติก รวมไปถึงบัตรพลาสติกแบบมีอักษรนูนได้อีกด้วย พร้อมด้วยฟังก์ชั่น Full Auto Mode ที่สามารถสแกนเอกสารหลากหลายประเภทพร้อมกันได้อย่างง่ายดาย โดยจะกำหนดค่าต่างๆ ที่เหมาะสมกับเอกสารต้นฉบับแต่ละประเภทให้โดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กหรือ Home Office ที่มีพื้นที่จำกัด ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำนักงานที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้เรายังส่งเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงอีก 3 รุ่น ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ได้แก่ Canon imageFORMULA รุ่น P-215 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงรุ่นพกพา สามารถสแกนเอกสารความเร็วสูงต่อเนื่องที่ 15 แผ่น/นาที ขนาดเล็กกระทัดรัดเท่าฝ่ามือเพียง 11.2×3.7 นิ้ว และน้ำหนักเบาเพียง 1 กิโลกรัม สามารถสแกนบัตรชนิดพาสติกด้วยช่องเสียบบัตรด้านหน้าตัวเครื่อง เชื่อมต่อการทำงานแบบ Plug-and-Play ผ่านสาย USB โดยไม่ต้องมีการติดตั้งซอฟต์แวร์ใดๆ อีกรุ่นคือ Canon imageFORMULA รุ่น DR-M140 เครื่องสแกนเอกสารอเนกประสงค์ สามารถสแกนเอกสารความเร็วสูงต่อเนื่องที่ 40 แผ่น/นาที สามารถกำหนดรูปแบบการสแกนที่ใช้งานเป็นประจำได้มากถึง 9 รูปแบบผ่านทางแผงควบคุมการสั่งงานบนตัวเครื่อง เพื่อการใช้งานที่ง่าย สะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และสุดท้าย Canon imageFORMULA รุ่น DR-M160 เครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงทรงประสิทธิภาพ สามารถสแกนเอกสารความเร็วสูงต่อเนื่องที่ 60 แผ่น/นาที ให้คุณภาพงานเยี่ยม แม่นยำเหนือระดับ สามารถขยายที่รับกระดาษและถาดรองรับกระดาษได้ เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดหรือความยาวของตันฉบับ โดยทุกรุ่นทุกรุ่นเน้นความสะดวกรวดเร็วต่อการใช้งาน ครบทุกฟังก์ชั่นการทำงาน และสามารถตอบสนองต่อทุกความต้องการในเครื่องเดียว

ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันของเครื่องสแกนเอกสารความเร็วสูงนี้ คงไม่แปลกใจที่จะทำให้แคนนอนก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในตลาด และเปิดพร้อมให้ทดลองประสิทธิภาพของตัวเครื่องแล้ววันนี้ ณ ตัวแทนจำหน่ายของแคนนอนทั่วประเทศ

View :2009
Categories: Press/Release Tags:

รมว.ไอซีที แถลงข่าว “กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับที่ 3 เพื่อเตรียมพร้อมอนุวัติการอนุสัญญา e-Contracts และรองรับ AEC 2015”

May 1st, 2012 No comments

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธาน แถลงข่าว “กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับที่ 3 เพื่อเตรียมพร้อมอนุวัติการอนุสัญญา e – Contracts และรองรับ AEC 2015” ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 8 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ สำหรับการรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้ มีเป้าหมายให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว รวมทั้งสามารถเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิตระหว่างประเทศในประชาคมได้อย่างเสรี จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานในด้านต่างๆ โดยเฉพาะทางกฎหมายที่ส่งผลถึงการกำหนดสิทธิหน้าที่และความผูกพัน ระหว่างบุคคล ตลอดจนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามกรอบของ AEC Blueprint ก็ได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกเร่งปรับปรุงหรือจัดให้มีกฎหมายภายในให้สอดคล้องและเอื้อต่อการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ประชาชนผู้ใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น

View :1560
Categories: Press/Release Tags:

เจ.ไอ.บี. คอมพิวเตอร์ กรุ๊ปฉลองครบ 120 สาขาจัดมหกรรม “J.I.B.Maga Sale 2012” คืนกำไรให้ลูกค้า

May 1st, 2012 No comments

เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป ฉกโอกาสวันแรงงาน 1 พฤษภาคม ฉลองเปิดสาขาครบ 120 สาขาทั่วประเทศ เปิดมหกรรม “ “J.I.B.Maga Sale 2012” ลดราคาสินค้าไอทีครั้งยิ่งใหญ่คืนกำไรให้ลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ ที่พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ พร้อมเชิญ “อั้ม” พัชราภา ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังร่วมเปิดงาน แจกรางวัลลูกค้าผู้โชคดี “สมยศ เชาวลิต” กรรมการผู้จัดการ เผยงานนี้จัดต่อเนื่องถึง 10 วัน ตั้งแต่ 1-10 พฤษภาคม 2555 มั่นใจลูกค้าตอบรับคับคั่ง กวาดรายได้ทะลุ 30 ล้านบาทตามเป้าได้สำเร็จ

นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกสินค้าไอทีครบวงจรภายใต้ชื่อ เจ.ไอ.บี. (J.I.B.) กล่าวว่าในโอกาสที่บริษัทขยายสาขาร้าน J.I.B. ครบ 120 สาขาทั่วประเทศ จึงได้จัดงานมหกรรมลดราคาสินค้าไอทีครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ “J.I.B.Maga Sale 2012” ขึ้นเพื่อคืนกำไรให้กับลูกค้าที่ได้ให้การสนับสนุนบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถขยายสาขาได้ครบ 120 สาขาในปัจจุบัน โดยภายในงานนอกจากจะจัดจำหน่ายสินค้าในราคาลดพิเศษกว่า 30% แล้ว ยังเปิดให้มีการประมูลสินค้าในราคาประมูลเริ่มต้นเพียง 1 บาท และผู้ที่ซื้อสินค้าครบตามที่กำหนดยังมีสิทธิ์รับคูปองลุ้นโชคแลกซื้อสินค้าลดราคาสูงสุดถึง 50% ด้วย พร้อมกับมีของสมนาคุณอีกมากมาย โดยงานนี้ถือเป็นมหกรรมลดราคาสินค้าที่ใหญ่ที่สุดใน ไตรมาสที่ 2 ของปี ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าแฟนสินค้าไอทีทุกคน

“งานนี้ถือเป็นงานใหญ่ของไตรมาสที่ 2 หลังจากที่ในไตรมาสแรกมีงานคอมมาร์ทไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า เจ.ไอ.บี.ในโอกาสเปิดสาขาครบ 120 สาขา เพราะเราไม่ได้ลดราคาสินค้าแต่เพียงอย่างเดียว แต่ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ ทั้งมินิคอนเสิร์ต และการแสดงโชว์ต่างๆ ต่อเนื่องตลอด 10 วันของการจัดงาน และที่พิเศษในวันเปิดงานวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 ยังได้เชิญคุณพัชราภา ไชยเชื้อ ดาราชื่อดังมาเป็นแขกพิเศษร่วมเปิดงานและร่วมกิจกรรมแจกรางวัลพร้อมถ่ายรูปกับลูกค้าผู้โชคดีด้วย ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าของ เจ.ไอ.บี.ได้ใกล้ชิดดาราที่เขาชื่นชอบด้วย” นายสมยศ กล่าว

สำหรับมหกรรมลดราคาสินค้าไอที “J.I.B.Maga Sale 2012” ครั้งนี้ เขามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งในปีนี้บริษัท คาดว่าจะมีรายได้จากการจัดจำหน่ายสินค้าในงานไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนให้รายได้รวมของบริษัททั้งปีเติบโตในอัตรา30% จากปีก่อนที่ทำได้ 5,400 ล้านบาทได้สำเร็จ และบริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป ยังมีเป้าหมายจะขยายสาขาให้ครบ 150 สาขาในปีนี้ด้วย

View :1399
Categories: Press/Release Tags: