Archive

Archive for the ‘Social Media/ Social Network’ Category

ไอบีเอ็มเผยผลสำรวจผู้บริหารฝ่ายการตลาดในอาเซียน 60 เปอร์เซ็นต์ ไม่พร้อมรับมือกับการทำตลาดในยุคดิจิตอล

March 12th, 2012 No comments

ไอบีเอ็ม เผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารฝ่ายการตลาด กว่า 1,700 คนจาก 64 ประเทศใน 19 กลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงผู้บริหารการตลาด 70 คนจากอาเซียน พบว่าส่วนใหญ่ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเรื่องของการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า แต่ยังไม่มีความพร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และยอมรับว่า ไม่สามารถเข้าถึงการแสดงความเห็นแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับแบรนด์ได้อย่างเพียงพอ โดยยังคงมุ่งเน้นการศึกษาตลาดในวิธีเดิม แทนที่จะทำเข้าใจเกี่ยวกับลูกค้าเพื่อกำหนดกลยุทธ์ และยังประสบปัญหาในการยืนยันเรื่องผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาด เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดความพร้อม ผู้บริหารฝ่ายการตลาดระบุถึงส่วนที่จะต้องปรับปรุงใน 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ การให้ความสำคัญกับลูกค้าซึ่งมีอำนาจต่อรองมากขึ้น การส่งเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว และการตรวจวัดคุณประโยชน์และผลลัพธ์การดำเนินงาน

ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารฝ่ายการตลาดทั่วโลก (Global Chief Marketing Officer Study) ประจำปี 2011 ดำเนินการโดยไอบีเอ็ม ซึ่งพัฒนาโดยสถาบันการศึกษาคุณค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็ม ( Institute for Business Value) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน 2011 ไอบีเอ็มได้สัมภาษณ์ผู้บริหารฝ่ายการตลาดจำนวน 1,734 คนใน 19 กลุ่มอุตสาหกรรมและ 64 ประเทศ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเป้าหมายและปัญหาท้าทายที่บริษัทเหล่านี้ต้องเผชิญ โดยผู้ตอบแบบสอบถามมาจากองค์กรที่หลากหลาย ครอบคลุมแบรนด์ชั้นนำ 48 แบรนด์จาก 100 อันดับแบรนด์สูงสุดจากการจัดอันดับของอินเตอร์แบรนด์ประจำปี 2010 ไปจนถึงองค์กรชั้นนำในระดับท้องถิ่น

ทุกวันนี้ ลูกค้ามักจะแบ่งปันประสบการณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ส่งผลให้ลูกค้ามีอำนาจควบคุมและมีอิทธิพลต่อแบรนด์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ขณะที่จุดศูนย์กลางของอำนาจเปลี่ยนจากองค์กรไปสู่ลูกค้า ทำให้บริษัทต่างๆ จำเป็นที่จะต้องปรับใช้แนวทางใหม่ๆ ด้านการตลาด รวมไปถึงเครื่องมือและทักษะต่างๆ เพื่อรักษาขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ผู้บริหารฝ่ายการตลาดตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ แต่กลับประสบปัญหาในการรับมือกับสถานการณ์

นางอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวว่า “จุดเปลี่ยนที่เป็นผลมาจากความแพร่หลายของโซเชียลมีเดียก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำตลาด โดยเฉพาะในส่วนของงานด้านลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ราว 90 เปอร์เซ็นต์ของข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่สร้างขึ้นในปัจจุบันเป็นข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง ผู้บริหารฝ่ายการตลาดที่ใช้แหล่งข้อมูลเชิงลึกนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถเพิ่มรายได้ ปรับปรุงความสัมพันธ์กับลูกค้า และสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ได้อย่างแท้จริง”

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นถึงปัญหาท้าทาย 4 ประการ ซึ่งผู้บริหารฝ่ายการตลาดจะต้องเผชิญ และก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางสำหรับฝ่ายการตลาดในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าคือ 1. การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของข้อมูล 2. โซเชียลมีเดีย 3. การเลือกช่องทางและอุปกรณ์ และ 4. ความเปลี่ยนแปลงในแง่ประชากรศาสตร์

เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดความพร้อม ผู้บริหารฝ่ายการตลาดระบุถึงส่วนที่จะต้องปรับปรุงใน 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ การให้ความสำคัญกับลูกค้าซึ่งมีอำนาจต่อรองมากขึ้น การส่งเสริมความสัมพันธ์ในระยะยาว และการตรวจวัดคุณประโยชน์และผลลัพธ์การดำเนินงาน

การให้ความสำคัญกับลูกค้าซึ่งมีอำนาจต่อรองมากขึ้น
เหตุผลประการหนึ่งที่องค์กรส่วนใหญ่ประสบปัญหาในการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าที่จำเป็นก็คือ องค์กรยังคงมุ่งเน้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด แทนที่จะพยายามเข้าใจตัวบุคคล แม้ว่าผู้บริหารฝ่ายการตลาดจะระบุว่าความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกค้าคือสิ่งสำคัญสูงสุด และตระหนักว่าข้อมูลแบบเรียลไทม์จะช่วยเสริมสร้างวิธีการแบบเดิมๆ ในการทำตลาดและการรวบรวมข้อมูลการตอบรับจากตลาด แต่ผู้บริหารส่วนใหญ่กล่าวว่าตนเองยังคงพึ่งพาแนวทางแบบเก่าที่ใช้กันในศตวรรษที่ 20

ผู้บริหารฝ่ายการตลาดส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสอบถามยังคงมุ่งเน้นแหล่งข้อมูลแบบเดิมๆ เป็นหลัก เช่น การวิจัยตลาด ข้อมูลเปรียบเทียบกับคู่แข่ง และการวิเคราะห์แคมเปญด้านการขาย เพื่อทำการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ แน่นอนว่าแหล่งข้อมูลแบบเดิมๆ มีความสำคัญ แต่ส่วนใหญ่แล้ว มักจะมีข้อเสียประการหนึ่งที่สำคัญ นั่นคือ ข้อมูลนี้แสดงถึงลักษณะของลูกค้าโดยรวม โดยแทบไม่มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการหรือความจำเป็นของลูกค้าเลยแม้แต่น้อย

มีผู้บริหารฝ่ายการตลาดเพียงไม่กี่คนที่ใช้ประโยชน์จากแหล่งข้อมูลดิจิตอลได้อย่างเต็มศักยภาพ แม้ว่าเกือบ 3 ใน 4 ของผู้บริหารฝ่ายการตลาด ใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Customer Analytics) เพื่อกลั่นกรองข้อมูล แต่มีผู้บริหารฝ่ายการตลาดเพียง 29 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ตรวจสอบติดตามบล็อกต่างๆ ขณะที่ 41 เปอร์เซ็นต์ ตรวจสอบคำวิจารณ์ของบุคคลที่สาม และ 46 เปอร์เซ็นต์ ตรวจสอบคำวิจารณ์ของลูกค้า เพื่อนำมาปรับกลยุทธ์ด้านการตลาด ทั้งนี้เพราะเครื่องมือ กระบวนการ และดัชนีชี้วัดที่ใช้อยู่ไม่ได้รับการออกแบบอย่างเหมาะสมเพื่อรวบรวมและประเมินข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

การที่ลูกค้าทุกกลุ่มปรับใช้โซเชียลมีเดียกันอย่างจริงจังและกว้างขวางย่อมหมายถึงโอกาสสำหรับนักการตลาดในการเพิ่มยอดรายได้ ขยายมูลค่าของแบรนด์ และปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับผู้ซื้อ นักการตลาดที่สามารถกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกจากโซเชียลมีเดียได้อย่างเหมาะสมจะมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการคาดการณ์และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดและเทคโนโลยีในอนาคต

การส่งเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว

ผู้บริหารฝ่ายการตลาดที่ดำเนินการอย่างจริงจังจะสามารถกระชับความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับลูกค้าหลังการขาย พร้อมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้ด้วยการสร้างคุณลักษณะขององค์กรผ่านการกระทำและคำพูดของพนักงาน 83 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริหารฝ่ายการตลาดในอาเซียน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากกว่าผู้บริหารทั่วโลก เล็งเห็นกว่าการเสริมสร้างความภักดีและการสนับสนุนของลูกค้าคือภารกิจสำคัญสำหรับการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิตอล

แม้ว่าจะเป็นภารกิจสำคัญ แต่ผู้บริหารฝ่ายการตลาดส่วนใหญ่ยังคงมุ่งเน้นที่ธุรกรรมเป็นหลัก แทนที่จะสนใจข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการสร้างสัมพันธ์ในระยะยาวกับลูกค้า ผู้บริหารฝ่ายการตลาดในอาเซียน 70 เปอร์เซ็นต์ ใช้ข้อมูลเพื่อแบ่งเซกเมนต์และเสนอขายสินค้า/บริการเป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อโปรโมตแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก กระตุ้นความสนใจ และเสริมสร้างความภักดีและการสนับสนุนของลูกค้า

การตรวจวัดคุณประโยชน์และผลลัพธ์การดำเนินการ
ในอดีต ผู้บริหารฝ่ายการตลาดส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องจัดหาข้อมูลด้านการเงินที่หนักแน่นและชัดเจนเพื่อยืนยันถึงผลตอบแทนการลงทุน แต่เนื่องจากความผันผวนทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ประกอบกับแรงกดดันในการสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจ องค์กรต่างๆ จึงไม่สามารถใช้งบประมาณด้านการตลาดอย่างสิ้นเปลืองอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดจึงต้องประเมินให้ได้ว่ากิจกรรมด้านการตลาดช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจได้มากน้อยเพียงใด ทั้งในส่วนของการลงทุนในด้านโฆษณา เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือกิจกรรมอื่นๆ

ที่จริงแล้ว 59 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริหารฝ่ายการตลาด เชื่อว่าผลตอบแทนจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดคือดัชนีที่สำคัญที่สุดในการชี้วัดความสำเร็จของฝ่ายการตลาดภายในปี 2015 แต่ผู้บริหารบางส่วน รู้สึกว่าตนเองยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบเรื่องผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาด อย่างไรก็ดี ผู้บริหารฝ่ายการตลาดในอาเซียน ดูเหมือนว่าจะมีความพร้อมมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้บริหารทั่วโลก ดัชนีที่สำคัญอื่นๆ สำหรับการชี้วัดความสำเร็จด้านการตลาดได้แก่ ประสบการณ์ในแง่บวกของลูกค้า ความสามารถในการโน้มน้าวและดึงดูดลูกค้ารายใหม่ๆ และยอดขายโดยรวม

หากผู้บริหารฝ่ายการตลาดรับผิดชอบเรื่องผลตอบแทนด้านการตลาด ก็จะมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นต่อปัจจัย 4 พี (“Four Ps”) ซึ่งได้แก่ โปรโมชั่น (Promotion), ผลิตภัณฑ์ (Product), สถานที่ (Place) และราคา (Price) แต่ผลการศึกษาชี้ว่าในความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ผู้บริหารฝ่ายการตลาดกล่าวว่าตนเองมีอิทธิพลอย่างมากต่อกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น โฆษณา การสื่อสารภายนอกองค์กร และโครงการริเริ่มเกี่ยวกับโซเชียลมีเดีย แต่โดยรวมแล้ว ผู้บริหารเหล่านี้มีบทบาทน้อยกว่าในการจัดการอีก 3 พี นั่นคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การกำหนดราคา และการคัดเลือกช่องทางจัดจำหน่าย

# # #

หากต้องการดูผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารฝ่ายการตลาดทั่วโลกประจำปี 2011 คลิกไปที่ http://ibm.com/cmostudy

หากต้องการร่วมสนทนาเกี่ยวกับผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารฝ่ายการตลาดทั่วโลกประจำปี 2011 ติดตาม @IBMIBV, #IBMCMOStudy และ #cmosg บน Twitter หรือเข้าร่วมกับเราบน LinkedIn

หมายเหตุสำหรับสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์: หากต้องการดูและดาวน์โหลดวิดีโอและภาพกราฟิกข้อมูลเกี่ยวกับผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารฝ่ายการตลาดทั่วโลกประจำปี 2011 คลิกไปที่ http://www.thenewsmarket.com/ibm ภาพและวิดีโอทั้งหมดที่จัดหาให้มีความละเอียดและคุณภาพสตรีมมิ่งในระดับมาตรฐาน

View :1470

สยามคูโบต้าเปิดตัว “Kubota Smart Farm” ชวนชาวสังคมออนไลน์ เล่นเกมผ่าน Facebook

December 15th, 2011 No comments

สยามคูโบต้าท้าประลองคนเมืองเล่นเกมออนไลน์ “Kubota Smart Farm”
แข่งขันบริหารฟาร์มในฝัน ผ่าน Facebook ชิงรางวัลกว่า 2 แสนบาท

สยามคูโบต้าเปิดตัว “Kubota Smart Farm” ชวนชาวสังคมออนไลน์ เล่นเกมผ่าน Facebook ที่ www.facebook.com/siamkubotaclub ระหว่าง 13 ธ.ค. 2554 – 3 ม.ค. 2555 ชิง iPad2 6 เครื่อง และเช็คของขวัญรวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท หวังกระตุ้นคนเมืองให้เข้าถึงกระบวนการบริหารจัดการฟาร์มในรูปแบบการทำการเกษตรสมัยใหม่

นายโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่สยามคูโบต้าได้ร่วมจัด Kubota Pavilion ในงาน BOI Fair 2011 ระหว่างวันที่ 5-20 มกราคม 2555 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานีนั้น ด้วยความที่บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตร จึงได้จัดแข่งขันเกม “Kubota Smart Farm” โดยเลือกใช้ Social Network เป็นช่องทางในการสื่อสาร เพื่อดึงให้คนเมืองเข้ามามีส่วนร่วมและทำกิจกรรมเล่นเกมร่วมกับสยามคูโบต้า อันจะนำไปสู่การเข้าใจถึงกระบวนการทำการเกษตรว่าไม่ได้เป็นเรื่องยากอย่างที่คิด เนื่องจากในปัจจุบันเครื่องจักรกลการเกษตรจะเข้ามาช่วยทำให้การทำการเกษตรสมัยใหม่ง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากจะสามารถทดแทนแรงงานคนที่หายากแล้ว ยังช่วย “ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต” และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของภาคการเกษตรของไทย

ผู้ร่วมสนุกจะต้องทำการแข่งขันโดยเลือกปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดต่าง ๆ อาทิ ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง และอ้อย แล้วทำการพัฒนาบริหารฟาร์มของตนเองให้มี Level และเงินสะสมสูงสุด ผ่านทาง www.facebook.com/siamkubotaclub ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตในขั้นตอนต่าง ๆ ได้ตามต้องการ อาทิ การใช้แทรกเตอร์ติดอุปกรณ์ต่อพ่วงในการเตรียมดิน(พรวนดิน), การปลูกด้วยมือหรือใช้รถดำนาในการปลูกข้าว, การเก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยมือหรือรถเกี่ยวนวดข้าว เป็นต้น ซึ่งผู้เล่นยังต้องทำการบริหารเงินที่ได้จากการค้าขายผลผลิต โดยสามารถนำเงินไปซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรสมัยใหม่ รวมถึงพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ อาทิ การเพิ่มทักษะในการเพาะปลูกพืชให้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และการขายผลผลิตให้ได้ราคาสูงสุด นอกจากนี้เกมจะมีภารกิจพิเศษต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางในการเพิ่มเงินสะสม

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถใช้ Facebook ID ลงทะเบียนเล่มเกมได้ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2554 – 3 มกราคม 2555 โดยผู้ร่วมสนุกที่มี Level และยอดเงินสะสมสูงสุด 30 อันดับแรก จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในรอบ

สุดท้ายที่ KUBOTA Pavilion ในช่วงงาน BOI Fair 2011 ระหว่างวันที่ 7-8 มกราคม และ 12-15 มกราคม 2555 เพื่อร่วมชิงรางวัล Apple iPad WiFi + 3G ขนาด 32GB จำนวน 6 เครื่อง และเช็คของขวัญจากห้างเซ็นทรัลรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร พูดคุยออนไลน์ และร่วมกิจกรรม สนุก ๆ ได้ที่ www.facebook.com/siamkubotaclub และ www.siamkubotaboifair.com

View :3603

บริษัทดีเอชเอ สยามวาลาจับมือกับบริษัท ICE Solution เปิดตัวเว๊บไซต์สังคมออนไลน์รูปแบบใหม่ www.iamtrend.com

December 6th, 2011 No comments

คณะผู้บริหารบริษัทดีเอชเอ สยามวาลา ผู้นำในธุรกิจเครื่องเขียน, เครื่องใช้สำนักงานและ บริษัทให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาทางด้าน IT จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเว๊บไซต์สังคมออนไลน์ในรูปแบบใหม่ที่เกิดจากการรวมตัวของทั้งสองบริษัทในวันที่ 1 ธันวาคม 2554

ความเป็นมา
ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจของบริษัทดีเอชเอ สยามวาลา บริษัทสร้างผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้คนเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีเลิศจากผลิตภัณฑ์ของเรา มาจนถึงปัจจุบันที่ยุคสมัยได้เปลี่ยนมาเป็นยุคแห่งการใช้ชีวิตกับอินเตอร์เน็ทอย่างเต็มตัว คนเรามีชีวิตบนโลกออนไลน์มากขึ้นอย่างก้าวกระโดด นั่นทำให้เครือข่ายสังคมออนไลน์กลายเป็นส่วนสำคัญกับชีวิตคนในปัจจุบันมากอย่างไม่น่าเชื่อ จากความน่าสนใจและพลังของสังคมออนไลน์ต่อธุรกิจทำให้ทั้งดีเอชเอ สยามวาลาและ ICE Solution บริษัทดูแลทางด้านซอฟท์แวร์ร่วมมือกันสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบเว็บไซต์เพื่อให้คนได้สัมผัสปรากฎการณ์ใหม่ที่จะนำทุกคนไปสู่อีกระดับของการใช้เว๊บไซต์รูปแบบเครือข่ายสังคมออนไลน์

ที่มาของโอกาสการทำเว๊บไซต์จากช่องว่างในตลาด

ในปัจจุบันเรารับข้อมูลจากสิ่งต่างๆมากมายจนมากเกินไปเนื่องจากมีช่องทางหลากหลายที่จะรับรู้ข่าวสารซึ่งบางครั้งเราไม่สามารถตัดสินใจเชื่อข้อมูลที่มากมายเหล่านั้นได้ เช่นคุณคงเคยพบปัญหาการเลือกร้านอาหารทานกับเพื่อนซึ่งคุณอาจต้องปวดหัวไม่น้อยกว่าจะตัดสินใจได้ ด้วยความต้องการจะช่วยให้คนได้ใช้ชีวิตที่สนุกและง่ายที่สุดเราจึงสร้างแหล่งข้อมูลเพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจในหลายๆอย่างได้ ช่วยลดความเสี่ยงเวลาจะตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้ และเมื่อถามว่าอะไรที่มีอิทธิพลมากที่สุดกับการตัดสินใจของคนในปัจจุบัน สิ่งนั้นก็คือเพื่อนของเราและสิ่งที่เป็นเทรนด์

เราเชื่อเครือข่ายคนที่เรารู้จักโดยเฉพาะเพื่อน บ่อยครั้งที่เราตัดสินใจไปร้านอาหารหรือจะดูหนัง, ฟังเพลงเราจะถามเพื่อนก่อนเสมอ เราเชื่อในเครือข่ายสังคมของเราในการช่วยตัดสินใจทำอะไรหลายๆอย่างในชีวิตประจำวัน แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าที่เราตัดสินใจไปนั้นดีและเป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด

จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลที่จะช่วยคุณหาสิ่งที่เพื่อนและเครือข่ายของคุณกำลังพูดถึงและให้ความสนใจมากที่สุด จากนั้นเราจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างเทรนด์จากการที่สิ่งๆนั้นมีคนเข้ามาสนใจจากหลายๆการแสดงออกเช่น คนเข้ามา check-in ร้านอาหารนั้นๆมากสุด, มาเขียนรีวิวมากสุด, มากด love มากสุด สิ่งนั้นจะขึ้นเป็นเทรนด์ทันที หากคุณสนใจจะหาร้านอาหารญี่ปุ่นซักร้านคืนนี้ เข้ามาที่ iamtrend.com ภายใน 30 วินาทีคุณจะพบร้านอาหารที่เป็นที่นิยมที่สุดจากการที่เครือข่ายของคุณชอบและให้ความเห็นไว้แล้วมากมาย เราทำให้ชีวิตคุณง่ายและสะดวกที่สุด ที่นี่ยังเป็นที่ที่คุณจะมาแชร์สิ่งที่คุณรักและสนใจ ถ้าคุณมีร้านกาแฟในดวงใจ แชร์ร้านนั้น,สร้างให้ร้านนั้นเป็นเทรนด์และสร้างตัวคุณให้เป็นผู้นำเทรนด์ คุณจะได้พบคนที่ชอบสิ่งเดียวกันกับคุณด้วย นี่คือช่องทางที่เยี่ยมสุดๆในการพบสิ่งใหม่ๆที่คุณรักกับคนใหม่ๆที่หลงรักสิ่งเดียวกับคุณ

i.am.trend คือที่ที่คุณจะได้อัพเดทสิ่งที่คุณรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ ติดตามคนที่สนใจเรื่องเดียวกับคุณและสนุกไปกับการค้นพบสิ่งที่คุณรักซึ่งจะเป็นอะไรก็ได้ที่คุณสนใจเช่น อาหาร, เพลง, หนัง, รูปภาพ, แฟชั่น, กีฬาและอีกมากมาย เรื่องที่ทุกคนชอบได้ถูกรวมไว้ให้คุณค้นหาได้อย่างง่ายที่สุด

อาจจะมีคำถามว่าเราต่างจากเว๊บไซต์ social media อื่นๆเช่น facebook, twitter, Google+ และ foursquare อย่างไร เว๊บไซต์ที่ว่าเหล่านั้นก็มีการแชร์ข้อมูลในลักษณะเดียวกันเพียงแต่ที่ iamtrend.com นั้น ทุกอย่างที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของคนจะถูกรวมไว้ทั้งหมด คุณจะสามารถเข้ามาค้นพบสิ่งที่คุณรักไม่ว่าจะเป็นเพลง, หนัง, แฟชั่น, คลิปวิดีโอได้ตลอดเวลา เราสร้างเว๊บไซต์ให้คุณสามารถแชร์ข้อมูลไปบนเว๊บไซต์อื่นๆได้เพียงแต่การแชร์, โพสท์ข้อมูลกับเราจะสามารถสร้างเทรนด์ให้เกิดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, ให้คุณได้รางวัลจากกิจกรรมสนุกๆ, และที่สำคัญจะเชื่อมคุณกับคนอื่นๆที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกับคุณ

ทำไมคุณถึงอยากใช้ i.am.trend

เราทำให้การแชร์สนุกมากขึ้น, คุณสามารถได้สติ๊กเกอร์หลายแบบจากการเขียนรีวิว, สะสมสติ๊กเกอร์จากการทำภารกิจสนุกๆเสร็จสิ้นพร้อมรับรางวัลมากมาย นอกเหนือไปจากความสนุกที่คุณได้รับอยู่แล้วจากการค้นพบสิ่งที่ตัวคุณอยากค้นหา

มาร่วมสนุกกับการรู้จักคนใหม่ที่รักและสนใจในเรื่องเดียวกับคุณ, ติดตามแบรนด์หรือคนดังที่คุณชื่นชอบ, ไม่มีตกเทรนด์ในสิ่งที่คุณรักหรือเรื่องใดๆก็ตามและในที่สุดประกาศตัวเองขึ้นเป็นผู้นำเทรนด์

View :1909

วีเอ็มแวร์ อิงค์ เปิดตัวแอพฯ SlideRocket และ Socialcast เพิ่มความคล่องตัวองค์กร

October 3rd, 2011 No comments

โมบายล์แอพพลิเคชั่นใหม่จาก SlideRocket และ Socialcast นำเสนอเครื่องมือการสื่อสารและการทำงานร่วมกันสำหรับองค์กรที่เชื่อมโยงถึงกัน

วีเอ็มแวร์ อิงค์ เปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่สำหรับ iPad และแอพพลิเคชั่นรุ่นอัพเดตสำหรับ Android จาก SlideRocket และ Socialcast จะช่วยให้องค์กรธุรกิจรุ่นใหม่เพิ่มความคล่องตัว ประสิทธิภาพการทำงาน และการเชื่อมโยงถึงกันภายในองค์กร

“ผู้ใช้ในองค์กรธุรกิจที่ทันสมัยกำลังมองหาหนทางที่มีประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นและแบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนร่วมงาน พาร์ทเนอร์ และลูกค้าบนโมบายล์แพลตฟอร์ม” มร.ไบรอัน บียุน รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายคลาวด์แอพพลิเคชั่นของวีเอ็มแวร์ กล่าว “SlideRocket และ Socialcast รองรับการทำงานรูปแบบใหม่ในลักษณะที่เชื่อมโยงถึงกันมากขึ้นในอนาคต”

องค์กรต่างๆ ปรับใช้ iPad และอุปกรณ์พกพาอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นในรูปแบบของเครื่องมือธุรกิจที่สำคัญ รายงานผลประกอบการล่าสุดของ Apple ระบุว่า 86 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 กำลังปรับใช้หรือทดสอบ iPad โดยเพิ่มขึ้นจาก 75 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่แล้ว ทั้งนี้ โมบายล์แอพพลิเคชั่นของ SlideRocket และ Socialcast ตอบสนองความต้องการในการจัดหาเครื่องมือสำหรับการสื่อสารและการทำงานร่วมกันให้แก่ผู้ใช้เพื่อปรับปรุงผลประกอบการธุรกิจ

พรีเซนเทชั่นอัจฉริยะสำหรับบุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่
SlideRocket พัฒนาพรีเซนเทชั่นเพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรในปัจจุบัน ด้วยความสามารถทางด้านกราฟฟิกที่เหนือชั้น พร้อมระบบวิเคราะห์ข้อมูล แบบแผนการแสดงผล การแสดงความคิดเห็นแบบเรียลไทม์ การผนวกรวมสื่อทางสังคม และฟังก์ชั่นการทำงานแบบโมบายล์ รองรับการติดต่อสื่อสารเชิงลึก การมีส่วนร่วมและการดึงดูดผู้ชม ด้วยโปรแกรมใหม่ SlideRocket Player™ iPad เปิดให้ใช้งานได้ฟรี ผู้ใช้จะสามารถแชร์พรีเซนเทชั่นที่สวยงาม ไม่ว่าจะนำเสนอแก่ผู้ชมที่นั่งรอบโต๊ะประชุมหรือในทุกที่ทั่วโลก นอกจากนี้ยังสามารถเชิญให้คนอื่นเข้าดูพรีเซนเทชั่นผ่านทางลิงค์ได้อย่างง่ายดาย แอพพลิเคชั่นใหม่สำหรับ iPad นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดพรีเซนเทชั่น SlideRocket หรือ PowerPoint ที่สามารถแชร์ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นแบบออฟไลน์หรือออนไลน์ก็ตาม

การเพิ่มเติม SlideRocket Player ช่วยให้ผู้ใช้ iPad มีเครื่องมือพรีเซนเทชั่นที่พร้อมสรรพ ช่วยให้บุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ดาวน์โหลด SlideRocket Player สำหรับ iPad ได้แล้ววันนี้

แอพพลิเคชั่นโซเชียลระดับองค์กรเพื่อการเชื่อมโยงภายในองค์กรอย่างทั่วถึง
โปรแกรม Socialcast รุ่นใหม่สำหรับ iPad และโปรแกรมรุ่นอัพเดตสำหรับ Android จะพร้อมใช้งานในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเครือข่าย Socialcast ในขณะเดินทาง โดยพนักงานจะสามารถประสานงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานจากทุกๆ ที่ พร้อมทั้งโพสต์ข่าวอัพเดต แชร์ไฟล์ และเชื่อมต่อถึงกันสำหรับการดำเนินโครงการสำคัญๆ นอกจากนี้ Socialcast สนับสนุนการล็อกอินอย่างปลอดภัยผ่านทาง OAuth 2.0 โดย Socialcast จัดหาวิธีที่ง่ายดายและปลอดภัยสำหรับองค์กรต่างๆ ในการขยายประสบการณ์เดสก์ท็อปไปสู่อุปกรณ์พกพา ขณะที่เว็บไซต์อื่นๆ จะมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะปลอดภัยอยู่เสมอ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์โมบายล์ของ Socialcast และการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์

GigaOM Mobilize 2011
และที่งาน Mobilize 2011 ในนครซานฟรานซิสโก มร.สตีฟ เฮอร์รอด ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์ ได้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นที่ว่าเทคโนโลยีจะสามารถรองรับการทำงานในรูปแบบใหม่ในยุคหลังพีซีได้อย่างไร โดยผู้ร่วมสนทนาได้แก่ มร.สเตซีย์ ฮิกกินโบแธม นักเขียนอาวุโสจาก GigaOM ระหว่างเซสชั่นที่ใช้ชื่อว่า “กุญแจสำคัญของระบบโมบิลิตี้ในองค์กร: แอพพลิเคชั่น, ข้อมูล และบุคลากร” (Three Key Pillars of Enterprise Mobility: Applications, Data and People)

ทรัพยากรเพิ่มเติม
· ข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบพรีเซนเทชั่น (PNR)
· อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม SlideRocket สำหรับ iPad
· อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์โมบายล์ของ Socialcast และการสนับสนุน OAuth2
· ดูภาพหน้าจอของโมบายล์แอพพลิเคชั่นใหม่
· เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของวีเอ็มแวร์สำหรับระบบประมวลผลของผู้ใช้
· ติดตาม SlideRocket บนทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ค
· ติดตาม Socialcast บนทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ค

View :3070

เคทีซีรุกต่อโซเชียล มีเดีย สร้างคอมมูนิตี้ผ่านแอพพลิเคชั่น instagram ชวนสาวกไอโฟนที่ชอบถ่ายภาพร่วมติดตามและติดแท็ก “igktc” บนภาพประทับใจ

September 29th, 2011 No comments


“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์ผ่านแอพพลิเคชั่น “” (อินสตาแกรม) บนเครือข่ายโซเชียล มีเดีย ชวนสมาชิกเคทีซีกว่า 2.3 ล้านบัญชี และสาวกไอโฟนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ร่วมติดตาม (follow) “igktc” บนแอพพลิเคชั่น และโพสต์ภาพประทับใจในมุมต่างๆ แบบไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็นภาพอาหาร สถานที่ บุคคล สัตว์เลี้ยง ดอกไม้ หรือธรรมชาติ และติดแท็ก “igktc” เพื่อแบ่งปันภาพกับกลุ่มเพื่อน รวมทั้งยังสามารถติดตามภาพสวยๆ และแสดงความคิดเห็น หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับเพื่อน โดยการให้และรับ Likes เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนได้ภายในคลิ๊กเดียว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรวมกลุ่มคน ไลฟ์สไตล์เดียวกันเข้าไว้ด้วยกันในโลกออนไลน์ เพื่อความสะดวกในการจัดสรรสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมให้ตรงกับความต้องการของสมาชิกเคทีซีแต่ละไลฟ์สไตล์ในอนาคต

แอพพลิเคชั่น “instagram” ได้รับความนิยมสูงมาก บนไอโฟน 3G, 3Gs, ไอโฟน 4 เพราะมีฟิลเตอร์ตกแต่งภาพให้ผู้ใช้ได้เลือกมากมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และยังสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้หลายช่องทางโดยผ่านเฟซบุ๊ค / ทวิตเตอร์ / Flickr / Tumblr / foursquare และ Posterous ทำให้มีผู้ใช้งาน instagram ทั่วโลกแล้วถึงกว่า 9 ล้านคน

ผู้สนใจสามารถเข้ารวมกลุ่มได้ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “instagram” จาก App Store และค้นหา “igktc” นอกจากนี้ยังสามารถติดตามสิทธิประโยชน์ พร้อมร่วมแบ่งปันความคิดเห็น และเรื่องราวดีๆ ได้ที่ www.facebook.com/ktcrealprivilege ปัจจุบันเคทีซีมีแฟนเพจในเฟซบุ๊คแล้วกว่า 30,000 คน

View :2077

กลุ่มทรู เปิดตัว Ultra Wi-Fi by TrueMove H ความเร็วสูงสุด 100 Mbps

September 13th, 2011 No comments

กลุ่มทรู เปิดตัว โชว์ศักยภาพเน็ตเร็วสูงไร้สายที่ให้ความเร็วสูงสุดถึง 100 Mbps ครั้งแรกในไทยที่สยามพารากอน พันธมิตรศูนย์การค้าชั้นนำระดับโลก ด้วยนวัตกรรม ครอบคลุมทั่วพื้นที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน กว่า 500,000 ตารางเมตร มอบชีวิตอิสระ FREEYOU ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าเทรนด์เซตเตอร์ของสยามพารากอน ทั้งนักธุรกิจ นักช็อป นักท่องเที่ยว ให้เพลินใจกับโลกออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ย้ำผู้นำโมบายล์ ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต และโครงข่าย Wi-Fi ที่ใหญ่ที่สุด ด้วยจำนวนฮอตสปอตคุณภาพที่มากถึง 100,000 จุดทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า กลุ่มทรูไม่หยุดนิ่งในการสรรหาและเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้าผู้ใช้บริการที่ต้องการอิสระ ทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันได้รวดเร็ว สะดวกสบาย ทุกที่ ทุกเวลา ไร้ขีดจำกัด ล่าสุด ผสานยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ เปิดตัวนวัตกรรมเทคโนโลยีไร้สาย Ultra Wi-Fi by TrueMove H ความเร็วสูงสุดถึง100Mbpsครั้งแรกของไทยที่สยามพารากอนแหล่งรวมเทรนด์เซตเตอร์ตอบโจทย์แนวคิดFREEYOU อิสระ…ให้เร็วยิ่งกว่า ได้ทุกที่ ตรงใจไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ เพิ่มสปีดชีวิตอิสระไร้สาย ด้วยศักยภาพเน็ตเร็วสูงสุดถึง 100 Mbps ครอบคลุมพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตร ทั่วศูนย์การค้าสยามพารากอน นายศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเปิด Ultra Wi-Fi by TrueMove H ครั้งนี้ ย้ำความแตกต่างที่เหนือกว่าของกลุ่มทรูผู้นำบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง ซึ่งเป็นรายแรกที่ให้ความเร็วได้สูงสุดถึง 100 Mbps และมีโครงข่าย Wi-Fi คุณภาพที่ใหญ่ที่สุด ตลอดจนพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมสูงสุด โดยมีจำนวนฮอตสปอตคุณภาพที่มากถึง 100,000 จุดทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งจะตอบโจทย์ชีวิตไร้สายของคนยุคดิจิทัลให้อิสระ…ได้เร็วยิ่งกว่า ทุกที่ทุกเวลา”

นางชฎาทิพ จูตระกูล ผู้บริหารสูงสุด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอบเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า สยามพารากอน ศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบของกรุงเทพมหานคร ที่ครบครันด้วยอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ชั้นนำระดับโลกและร้านค้าชั้นแนวหน้าของเมืองไทยกว่า 300 ร้านค้า และเป็น World Class Destination ของทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลก และด้วยกลุ่มเป้าหมายของสยามพารากอนและกลุ่มทรู เป็นกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตตามวิถีคนเมืองที่เกาะติดตามโลกแห่งเทคโนโลยีการสื่อสาร จึงมีแนวความคิดร่วมกันกับกลุ่มทรู ในการนำเสนอ Ultra Wi-Fi by TrueMove H ให้บริการนวัตกรรมอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง 100 Mbps ครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 500,000 ตารางเมตรภายในศูนย์การค้าขนาดใหญ่เป็นแห่งแรก ในไทย

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงการยกระดับการบริการด้านการสื่อสารของศูนย์การค้าสยามพารากอนที่แตกต่างเหนือใคร โดยผสานเทคโนโลยีออนไลน์เข้าสู่ศูนย์การค้าอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อเติมเต็มไลฟสไตล์ของกลุ่มลูกค้าของสยามพารากอน ที่เข้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการหมุนเวียนภายในศูนย์การค้าในแต่ละวันจำนวนกว่า 1 แสนคน ให้สามารถใช้ชีวิตแบบออนไลน์อิสระไร้สายได้ทุกที่ทุกเวลาและไม่พลาดทุกการสื่อสาร อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงแหล่งรวมข้อมูลสาระบันเทิงได้ทุกพื้นที่ในศูนย์การค้าสยามพารากอนเพียงแห่งแรกในประเทศไทย

ทั้งนี้ ผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truewifi.net พิเศษสุด แพคเก็จเสริม Ultra Wi-Fi by TrueMove H “ใช้ได้ไม่จำกัด” เพียง 300 บาทต่อเดือน (ต่ออายุอัตโนมัติ) สำหรับลูกค้าทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช เท่านั้น สมัครผ่าน *9000

View :2048

เอ็มบี โมบาย รุกตลาดประเทศไทย เจาะกลุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊ค มั่นใจ ได้ลูกค้ากว่า 2 ล้านคนภายในปี 2556

August 24th, 2011 No comments

จับมือ เอ็ม ซี เอ็น ไทยแลนด์ เปิดตัว ไทยแลนด์ ให้กลุ่มเป้าหมายร่วมกิจกรรม-รับแต้ม แลกค่าโทรศัพท์ฟรีเป็นเจ้าแรก และเจ้าเดียวในประเทศไทย จับมือ3 โอเปอร์เรเตอร์ยักษ์ใหญ่ ทั้งเอไอเอส และทรูมูฟ ตั้งเป้ากวาดผู้ใช้โซเชียลมีเดียสุดฮิตอย่างเฟซบุคเป็นลูกค้ากว่า 2 ล้านคน

นาย มาร์ค บุ๊คแมนต์ ประธานบริหาร บริษัท โมบายล์ คอนเทนท์ เน็ทเวิร์ค จำกัด หรือ เอ็ม ซี เอ็น (MCN) ผู้ให้บริการโซลูชั่นค้นหาข้อมูล และการโฆษณา ทางโทรศัพท์มือถือ เปิดเผยว่า เอ็ม ซี เอ็น ร่วมกับ เอ็มบี โมบายล์ (Embee Mobile) บริษัทผู้ให้บริการจัดหาบริการทางโทรศัพท์มือถือ และเนื้อหาบนโทรศัพท์มือถือ เปิดตัว “เอ็มบีเปย์ ไทยแลนด์” ( Thailand) บริการใหม่ล่าสุด เป็นครั้งแรกในประเทศไทยหลังประสบความสำเร็จมาแล้วในกว่า 90 ประเทศ ทั่วโลก

“จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็วมาก และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตแล้วถึงกว่า 20 ล้านคน (ข้อมูลจากทรูฮิต) และมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักมาโดยตลอดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนผู้ใช้เฟซบุคที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยในครึ่งปีแรกของปี 2554 อัตราการเติบโตของผู้ใช้เฟซบุคในประเทศไทยสูงถึง 53.89% ดังจะพบว่าในเดือนมิถุนายน 2554 มีผู้ใช้เฟซบุคในประเทศสูงถึง 10,361,120 คน (ข้อมูลจาก www.Socialbakers.com) นอกจากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชาวไทยยังมีแนวโน้มที่จะรับเทคโนโลยีหรือบริการใหม่ๆ บนโลกอินเตอร์เน็ตได้มากขึ้นอีกด้วย ทำให้เป็นประเทศไทยเป็นตลาดที่น่าจับตามองอย่างมาก และทำให้เอ็มซีเอ็น ตัดสินใจดึง เอ็มบี โมบายล์ มาร่วมลงทุนในตลาดนี้” นาย มาร์ค บุ๊คแมนต์ กล่าว

“เอ็มบีเปย์” (EmbeePay) เป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ใช้โซเชียลเน็ทเวิร์คทั่วโลก เนื่องจากเป็นบริการที่ใช้งานง่าย ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยผู้ใช้เพียงแค่มีเฟซบุค และลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์มือถือกับ EmbeePay Thailand ก็สามารถทำคะแนน สะสมแต้มกับกิจกรรมต่างๆ บน EmbeePay Thailand และสามารถนำแต้มที่ได้นั้นมาใช้เปลี่ยนเป็นค่าโทรศัพท์ หรือ SMS, MMS หรือแม้แต่การค้นหาข้อมูลต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต ผ่านโทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน (พรีเพด) ของ 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ ได้แก่ เอไอเอส ดีแทค และ ทรูมูฟ” นายอีริค ชาน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอ็มบี โมบาย กล่าว

“ผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย โดย Asia Digital Marketing Association ยังพบว่า 85% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยใช้โซเชียลเน็ทเวิร์คหลายครั้งต่อสัปดาห์ และมีค่าเฉลี่ยการใช้งานโซเชียลเน็ทเวิร์คสูงถึงกว่า 7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทจึงมีความมั่นใจว่าบริการของ EmbeePay Thailand จะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในกลุ่มผู้ใช้โซเชียล เน็ทเวิร์ค เพราะบริการของ EmbeePay นั้นผู้ใช้จะใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับเวลาของพวกเขา โดยคาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนใช้งานกับ EmbeePay อย่างน้อย 2 ล้านคนภายในปี 2556 นี้” ดร.มนตรี วีรยางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมบายล์ คอนเทนท์ เน็ทเวิร์ค จำกัด กล่าวเพิ่มเติม

ผู้ใช้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ http://bit.ly/embee-thailand

View :1825

ดีแทคจับมือบัตรเครดิตชั้นนำของเมืองไทย จัดแคมเปญใหญ่คืนเงินสูงสุด 15% เป็นครั้งแรก เพื่อลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นรองรับ 3G พร้อมสมัครแพ็กเกจกับดีแทคโดยเฉพาะ

August 23rd, 2011 No comments

ดีแทคร่วมกับบัตรเครดิตชั้นนำของเมืองไทย บัตรเครดิตกรุงศรี เซ็นทรัล เครดิตคาร์ด โรบินสันวีซ่า คาร์ด บัตรกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ และบัตรเครดิตชั้นนำอื่นๆ มอบข้อเสนอพิเศษเป็นครั้งแรก ให้ลูกค้ารับเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นรองรับ 3G พร้อมแพ็กเกจตามที่บริษัทฯ กำหนด ที่ดีแทคเซ็นเตอร์และสำนักงานบริการลูกค้าดีแทคที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ต.ค. 2554

แคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นรองรับ 3G ทางช่องทางจำหน่ายของดีแทคนี้ เป็นการจัดการส่งเสริมการขายเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้ออุปกรณ์รองรับการใช้งาน dtac 3G ได้อย่างคุ้มค่า โดยดีแทคได้จัดแคมเปญกับสมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยมทั้งหมดคือ iPhone, Blackberry, Samsung, HTC, และ Nokia ความร่วมมือกันในครั้งนี้ของดีแทคและพันธมิตรบัตรเครดิตยังเป็นแคมเปญใหญ่ที่ยังไม่เคยจัดมาก่อน ลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนพร้อมสมัครแพ็กเกจที่ร่วมรายการ จะได้รับรับเงินเครดิตคืน 5% เมื่อชำระเต็มจำนวน หรือเลือกผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือนหรือผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ย 0.69% 20 เดือนกับบัตรกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ นอกจากนั้น ลูกค้ายังสามารถใช้คะแนนสะสมของบัตรเครดิตนั้น ๆ แลกรับเงินเครดิตคืนได้อีกรวมมูลค่าคืนเงินสูงสุดถึง 15%

ลูกค้าสามารถตรวจสอบรุ่น ราคาสมาร์ทโฟน แพ็คเกจและบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ รวมทั้งข้อเสนอพิเศษ เงื่อนไขและรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ 1678 ดีแทคคอลล์เซ็นเตอร์ หรือที่ดีแทคเซ็นเตอร์ และสำนักงานบริการลูกค้าดีแทคที่ร่วมรายการ
ในภาพ

แถวหน้า – จากซ้ายไปขวา ณญาณี เผือกขำ – ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด, เพ็ตเตอร์ เฟอร์เบิร์ก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (), มนตรี สิทธิญาวณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส จำกัด และ ปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร
แถวหลัง – จากซ้ายไปขวา อมฤต ศุขะวณิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด ดีแทค, ชัยยศ จิรบวรกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มลูกค้า ดีแทค และธาดา จารุกิจไพศาล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด

View :1556

ทรูไลฟ์ เปิดตัว “iRu Day” เพื่อชีวิตไม่ตกเทรนด์ ระดมเหล่ากูรูขั้นเทพ อัพเดทเทคโนโลยี พร้อมแอพพลิเคชั่นล้ำต่อเนื่อง

August 18th, 2011 No comments

แนะนำ 3 แอพใหม่โดนใจ myLife, TrueLife TV และ Guru Daily

ทรูไลฟ์ ต่อยอดสร้างคอมมูนิตี้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นไทย เปิดงาน เพื่อชีวิต “ไม่ตกเทรนด์” ครบวงจร รวมกูรูหลากหลายไลฟ์สไตล์อัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ อาทิ เทคโนโลยี Gadget แอพพลิเคชั่น ให้บล็อกเกอร์ Web Developer และผู้สนใจได้พบปะสังสรรค์ แชร์ประสบการณ์ และเสนอผลงาน ณ ทรูมูฟ สแควร์ (สยามสแควร์ ซอย 2) คอมมูนิตี้คนอินเทรนด์ เชิญชวนร่วมเป็นสมาชิก iRU Foundation Member รับสิทธิพิเศษสัมผัสนวัตกรรมจากทรูก่อนใคร พร้อมเปิด 3 แอพพลิเคชั่นใหม่อินเทรนด์ myLife, TrueLife TV และ Guru Daily (Beta Test) ที่รวมคอนเทนต์คุณภาพเชื่อมต่อโซเชียล เน็ตเวิร์ค สะดวก คุ้มค่า มั่นใจเติมเต็มหลากหลายไลฟ์สไตล์ เพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่และคนไทยโดยเฉพาะ

นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ คอนเวอร์เจนซ์ กลุ่มบริษัททรู และกรรมการผู้จัดการ กลุ่มลูกค้าธุรกิจ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ทรูไลฟ์ ผู้ให้บริการดิจิตอลคอนเทนต์ ภายใต้กลุ่มทรู เล็งเห็นการเติบโตของการใช้งานคอนเทนต์ และดาต้าบนสมาร์ทโฟนทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อสนองตอบความต้องการของคนไทยที่ไม่ยอมตกเทรนด์ จึงนำกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ ผสมผสานเทคโนโลยีและคอนเทนต์ เปิดงาน “iRu Day” วันนัดพบของคนอินเทรนด์ คอมมูนิตี้แหล่งใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้น เปิดโอกาสให้นักพัฒนา บล็อกเกอร์ และผู้สนใจทั่วไป พบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อต่อยอดคอมมูนิตี้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นเลือดไทย จาก “ App Center” สถาบันศูนย์กลางการศึกษาเพื่อการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับมือถือทุกแพลตฟอร์ม ณ ทรูมูฟ สแควร์ (สยามสแควร์ ซอย 2) ทั้งยังรวมกูรูจากหลากหลายไลฟ์สไตล์ อาทิ บัญชา ชุมชัยเวทย์, โจ๊กเกอร์-นพชัย มัททวีวงศ์, ประภัสสร เสวิกุล, นรเศรษฐ์ หมัดคง, ซี-ฉัตรปวีร์, วงลิปตา, แจ๊คกาลีน-ทีวีพูล, แป้งโกะ และ Jediyuth เป็นต้น มาอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ ทั้งสาระ และบันเทิงครบวงจร เพื่อจุดประกาย เพิ่มแรงบันดาลใจสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาคอนเทนต์ ตลอดจนแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ให้ตอบสนองตรงใจคนไทยยิ่งขึ้น พร้อมเชิญชวนร่วมเป็นสมาชิก iRu Foundation Member เพื่อรับสิทธิพิเศษสัมผัสนวัตกรรมจากทรูไลฟ์ก่อนใคร

“iRu” มาจากคำว่า “ฉันรู้” แสดงถึงคนอินเทรนด์ ที่อัพเดทข้อมูลจากผู้รู้และผู้นำเทรนด์ตลอดเวลา ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ทั้งยังได้รู้ประเด็นฮอตที่อยู่ในกระแส เรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ครอบครัว และคนรอบข้าง สามารถรับข้อมูลข่าวสารทุกเรื่องที่อยากรู้ได้สะดวก รวดเร็ว ง่ายดาย และส่งตรงถึงมือทันที อินเทรนด์ตลอดไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์คอนเทนต์ต่างๆ อาทิ ภาพยนตร์, รายการโทรทัศน์, ดนตรี, กีฬา, เทคโนโลยีและ Gadget, ครอบครัว เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเปิดให้ทดลอง 3 แอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด (Beta Test) ให้อินเทรนด์ก่อนใคร พัฒนาโดยคนไทยเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนไทยโดยเฉพาะ ได้แก่

myLife แอพพลิเคชั่นที่เชื่อมโซเชียล เน็ตเวิร์ค กับโลกสาระและบันเทิงต่างๆ ให้สามารถอัพเดทเรื่องส่วนตัว และอัพเดทเรื่องราวต่างๆ ในโลก ได้พร้อมๆ กัน ด้วยคอนเทนต์หลากหลายไลฟ์สไตล์ถึง 14 หมวด ให้ผู้ใช้เลือกได้ตามต้องการ ซึ่งนอกจากจะไม่ตกเทรนด์แล้ว ยังเป็นคนแรกที่แชร์เทรนด์ให้เพื่อนฝูงในกลุ่ม

TrueLife TV แอพพลิเคชั่นสำหรับคนที่ติดทีวีให้สนุกมากขึ้น สามารถดูและแชตได้ทันทีกับเพื่อนที่ชื่นชอบรายการเดียวกัน ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยมีช่องรายการให้เลือกกว่า 500 ช่อง

Guru Daily แอพพลิเคชั่นที่รวบรวมคอนเทนต์มากมาย จัดแบ่งไว้ 14 ไลฟ์สไตล์ โดย 40 กูรู ที่สามารถเข้าถึงได้ในทุกช่องทาง ทั้งโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค แล็บท็อป ไอแพด ผ่านเครือข่าย 3G / Wi-Fi / EDGE โดยผู้ใช้โทรศัพท์พื้นฐาน สามารถฟังข้อมูลข่าวสาร อัพเดทจากกูรู ได้ที่ *873# เลือกฟัง Tech & Gadget หรือสมัครแพ็คเกจ Guru Daily ที่ www.truelife.com สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนสามารถดาวน์โหลด Guru Daily ไว้บนมือถือ (ค่าบริการเพียง 9 บาทต่อวันเท่านั้น) ทดลองใช้ได้ฟรีตั้งแต่ 1 – 30 กันยายน 2554

“iRu Day” จะเปิดมิติใหม่ของคนรุ่นใหม่และคนไทยได้อินเทรนด์ พร้อมติดตามกระแสไลฟ์สไตล์ที่สนใจ เกาะติดทุกความเคลื่อนไหวได้ทุกที่ทุกเวลา ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถแบ่งปันเรื่องราว ข่าวฮอต ช็อตเด็ด ให้กลุ่มเพื่อนในโซเชียล เน็ตเวิร์คไม่ตกเทรนด์ มั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู จะสามารถเติมเต็มการใช้ชีวิตของคนยุคดิจิตอลได้อย่างแน่นอน” นายอติรุฒม์ กล่าวสรุป

View :1831

สนุกดอทคอม ส่งสนุก! เพลย์ทาวน์ สร้างโซเชียลแพลตฟอร์ม สัญชาติไทย ตั้งเป้าผู้นำโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

August 18th, 2011 No comments

สนุกดอทคอม เว็บไซต์อันดับหนึ่งของประเทศไทย จับกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์ก หวังสร้างชุมชนแห่งใหม่บนโลกออนไลน์

บริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์สนุกดอทคอม เดินหน้าสานต่อความเป็นผู้นำในโลกออนไลน์ มุ่งโซเชียลเน็ตเวิร์กมากขึ้น เน้นพัฒนาเว็บไซต์ให้เป็นแพลตฟอร์มแบบเปิด ตอบสนองพฤติกรรมกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน พร้อมเปิดตัว “สนุก! เพลย์ทาวน์” โซเชียลเน็ตเวิร์กแพลตฟอร์มใหม่ รายแรกของประเทศไทย เอาใจคนชอบเล่นเกมส์โซเชียล ชูจุดเด่นเล่นเกมส์ปลอดภัย ด้วยระบบแยกเพื่อนเกมส์-เพื่อนสนิท พร้อมผลักดันอุตสาหกรรมเกมส์โซเชียลฝีมือคนไทยสู่เวทีระดับโลก

นายต่อบุญ พ่วงมหา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สนุกออนไลน์ จำกัด เปิดเผยว่า “สนุกดอทคอม เล็งเห็นถึงการเติบโตของโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ทางเราในฐานะเว็บไซต์อันดับหนึ่งของประเทศไทย ที่ปัจจุบันให้บริการเว็บพอร์ทัล คอมมูนิตี้ อีคอมเมิร์ซ และบริการด้านมือถือ ได้ทำการพัฒนาเว็บไซต์ให้เป็นแพลตฟอร์มระบบเปิด (Open Platform) เพื่อรองรับการติดต่อสื่อสารแบบโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งตอบสนองต่อความต้องการและพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไทย ในการเชื่อมโยงถึงกันได้หลากหลายเครือข่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบเฟซบุ๊คคอนเนค (Facebook Connect) ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ใช้บริการสนุก! ไม่ต้องสร้างอีเมล์ใหม่ให้ยุ่งยาก และยังมีระบบสนุก! เว็บแชท (Sanook! Webchat) ที่ผู้ใช้บริการสามารถคุยข้ามเครือข่ายได้ทุกโปรแกรม อยู่บนหน้าเว็บสนุก! ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ค, เอ็มเอสเอ็น, จีทอล์ก และ คิวคิว นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถแบ่งปันเนื้อหาข่าวสารต่างๆ ที่อยู่ในทุกบริการของสนุก! ไปให้เพื่อนๆ ได้ง่ายขึ้นด้วยระบบแชร์คอนเท้นท์ (Share Contents) ไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ อย่างเฟซบุ๊ค, ทวิตเตอร์ หรือ กูเกิ้ลพลัสได้ตามสะดวก

และวันนี้ นับเป็นก้าวย่างสำคัญทางธุรกิจของสนุกดอทคอม ที่ได้ขยายขอบข่ายการให้บริการ ซึ่งพัฒนาด้วยฝีมือคนไทย ในรูปแบบโซเชียลเน็ตเวิร์กใหม่! สำหรับคนรักเกมส์แห่งแรกในประเทศไทย นั่นคือ สนุก! เพลย์ทาวน์”

นายพงส์ระพี ทองศรีนุ่น รองประธานฝ่ายโซเชียลเน็ตเวิร์กและเกมส์ กล่าวว่า “การเปิดตัว สนุก! เพลย์ทาวน์ ในวันนี้ เราวางเป้าหมายให้เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กแพลตฟอร์ม สำหรับคนที่ชอบเล่นเกมส์โซเชียล หรือเรียกง่ายๆ ว่าเกมส์แนวเฟซบุ๊คนั่นเอง ซึ่งการวางโครงสร้างแพลตฟอร์ม จะคำนึงถึงความพึงพอใจและประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ การพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ จะต้องสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างตรงจุด อาทิเช่น ระบบแยกเพื่อนอัจฉริยะ ที่ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะให้ใครเป็นเพื่อนสนิท หรือเป็นแค่เพื่อนเล่นเกมส์ด้วยกัน โดยระบบจะแบ่งแยกความแตกต่างระหว่างเพื่อนเกมส์ กับ เพื่อนสนิทอย่างชัดเจน ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีระบบเชื่อมต่อข้อมูลอัตโนมัติกับเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์ ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่ชอบแชร์ข้อความถึงเพื่อนๆ ที่อยู่ต่างเครือข่ายสังคมออนไลน์ แต่ไม่อยากโพสต์ซ้ำหลายที่ให้ยุ่งยาก แค่เชื่อมต่อข้อมูลอัตโนมัติเพียงครั้งเดียว เมื่อโพสต์ข้อความที่สนุก! เพลย์ทาวน์ ก็จะไปขึ้นที่เฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์ทันที ใช้ง่าย สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น

ในส่วนของเกมส์โซเชียล สนุก! เพลย์ทาวน์ อัดแน่นด้วยเกมส์คุณภาพ ไม่มีพิษภัย เล่นสนุกเข้าใจง่ายไม่ต้องแปล เพราะทุกเกมส์เป็นภาษาไทย มีให้เลือกเล่นหลากหลายแนว ประกอบด้วย เกมส์ฟาร์มเกษตรสุขสันต์ (Farm World 2) เกมส์ทำฟาร์มที่มีสารพัดสิ่งให้เล่น ไม่ใช่แค่ปลูกผัก, เกมส์แอร์พอร์ท สนามบินหรรษา (Airport) เกมส์บริหารสายการบินรูปแบบใหม่ ไม่ซ้ำใคร, เกมส์เทรนเวิลด์ เมืองรถไฟมหาสนุก (Train World) เกมส์สไตล์คาวบอยตะวันตก ใช้รถไฟสร้างกำไรให้พอกพูน และ เกมส์แอนิมอล บลิทซ์ (Animal Blitz) เป็นเกมส์แนวเรียงเพชรที่ให้จับคู่สัตว์ป่าน่ารัก มีทั้งเวอร์ชั่นบนสนุก! เพลย์ทาวน์ และ เฟซบุ๊ค เป็นเกมส์ฝีมือคนไทยที่สามารถพัฒนาระบบเกมส์ให้เป็นโซเชียลกราฟ (Social Graph) ถือเป็นเกมส์แรกในโลกที่สามารถรวมเพื่อนต่างเครือข่ายสังคมออนไลน์ไว้ด้วยกัน

นอกจากนี้ สนุก! เพลย์ทาวน์ ยังเปิดรับและสนับสนุนซอฟแวร์เกมส์แอนิเมชั่นของไทย ให้ใช้ที่นี่เป็นช่องทางในการโปรโมทตัวเกมส์ให้เป็นที่รู้จักได้ง่ายขึ้น อีกทั้งผู้ใช้บริการที่ชอบลองเล่นเกมส์ใหม่ๆ ก็จะได้มีโอกาสร่วมทดสอบเกมส์ไปด้วยกัน เป็นการผลักดันผู้สร้างซอฟต์แวร์เกมส์แอนิเมชั่น ให้เกิดการพัฒนาไปในทิศทางที่ตรงใจผู้ใช้บริการชาวไทย และมีโอกาสเติบโตสู่เวทีระดับโลกอีกด้วย

เป้าหมายในอนาคตของ สนุก! เพลย์ทาวน์ จะมีการพัฒนาให้เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กแพลตฟอร์มที่รวมความบันเทิงครบวงจร โดยเพิ่มแอพลิเคชั่นที่สามารถปลั๊กอินคอนเท้นท์ยอดนิยมต่างๆ จากทุกบริการของสนุกดอทคอม ไม่ว่าจะเป็น ข่าวเด่น ข่าวดารา ดูดวง ฟังเพลง คลิปวิดีโอ ฯลฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น

View :1402