Archive

Archive for the ‘Tablet’ Category

ดีแทคเปิดตัว iPad 2 ชูจุดเด่น “เร็วกว่าด้วย dtac 3G ดีกว่าด้วยซิมเสริม (Multi SIM) และใส่ใจกว่าด้วยบริการ iPad Tour”

September 23rd, 2011 No comments

ดีแทคเปิดตัว iPad 2 รุ่น Wi-Fi + ให้ความใส่ใจกว่ากับการใช้งานของลูกค้า ด้วยแพ็กเกจใหม่และบริการรูปแบบพิเศษ รับฟรี “ซิมเสริม” (Multi SIM) พร้อมแพ็กเกจใหม่ราคาดีที่สุด พิเศษในช่วงเปิดตัวจัด iPad Tour by iBuddy นำทีมผู้เชี่ยวชาญแนะนำการใช้งานลูกค้าถึงบ้าน ให้ความมั่นใจใช้บริการได้อย่างรวดเร็วบนเครือข่าย dtac ที่ความเร็วสูงสุด 42 Mbps พร้อมข้อเสนอพิเศษผ่อน 0% นาน 10 เดือนและรับเงินคืนสูงสุดถึง 15% พร้อมเปิดตัวแพ็กเกจดีแทคอินเทอร์เน็ตหลากหลายเพื่อการใช้งานสำหรับ iPad โดยเฉพาะ

นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ดีแทคเปิดจำหน่าย iPad 2 ในวันนี้ ด้วยความพร้อมของบริการและข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าของเรา และยังคงแนวความคิด “เร็วกว่า ดีกว่า ใส่ใจกว่า” เราเข้าใจถึงไลฟ์สไตล์และความต้องการในการใช้งานของลูกค้า จึงมอบฟรี “ซิมเสริม” หรือ Multi SIM เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้งานมือถืออยู่แล้วได้รับความสะดวกในการใช้งาน iPad 2 ด้วยโดยไม่ต้องเปลี่ยนซิมหรือเปิดเลขหมายใหม่ ซึ่งลูกค้าที่ใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตไม่จำกัดอยู่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตบน iPad ไม่จำกัดด้วยซิมเสริม โดยมีค่าบริการรายเดือนของซิมเสริมเพียง 250 บาท ในช่วงเปิดตัวนี้เรายังจัด iPad Tour by iBuddy ไปพบลูกค้า 100 ท่านแรกที่ซื้อ iPad 2 ถึงที่บ้าน เพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำแอพพลิเคชั่นที่เป็นประโยชน์เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ทำให้การใช้งาน iPad2 สนุกและเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทคและดีแทคเซ็นเตอร์ก็ยังสามารถใช้บริการจากทีม iBuddy ที่ประจำอยู่ที่จุดบริการคอยแนะนำการใช้งานให้ด้วยเช่นกัน”

“ทั้งนี้ ลูกค้าที่ซื้อ iPad 2 จากดีแทค ยังสามารถเลือกชำระด้วยข้อเสนออัตราดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือนและรับเงินเครดิตคืน (cash back) สูงสุดถึง 15% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ โดยเราได้จัดแพ็กเกจ ดีแทคอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมอีกมาก เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้งาน iPad 2 ของดีแทคได้รับความสะดวกรวดเร็วบนเครือข่าย dtac 3G ที่ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ และ EDGE ที่มีอยู่ทั่วประเทศด้วย” นายปภาพรตกล่าวปิดท้าย

ลูกค้าที่ซื้อ iPad2 ที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทคและดีแทคเซ็นเตอร์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคมนี้ รับฟรี ซิมเสริม (Multi SIM) และรับสิทธิ์ในการใช้บริการ iPad Tour by iBuddy โดยลูกค้าสามารถโทรเข้ามาที่หมายเลข 082 497 7706 เพื่อขอรับบริการได้ ทีม iPad Tour by iBuddy จะเดินทางไปพบลูกค้าถึงสถานที่ และให้คำแนะนำการใช้งานแอพพลิเคชั่น ตามไลฟ์ไตล์ของลูกค้าแต่ละท่าน (จำนวนจำกัด 100 ท่านแรก) หลังจากนั้นลูกค้าสามารถพบกับบริการ iPad Tour by iBuddy ได้ที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทคที่กำหนด

แพ็กเกจดีแทคอินเทอร์เน็ตบนเครือข่าย dtac 3G สำหรับ iPad ประกอบด้วย

§ แพ็กเกจซิมเสริม (Multi SIM) – สำหรับลูกค้าแบบจดทะเบียนของดีแทคที่มีแพ็กเกจการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบไม่จำกัด สามารถออกซิมเสริม และใช้งานดีแทคอินเทอร์เน็ตสำหรับ iPad ด้วยค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นเพียง 250 บาท
§ แพ็กเกจ iPad 550 – สำหรับลูกค้าใหม่ ใช้งานดีแทคอินเทอร์เน็ตสำหรับ iPad ได้ไม่จำกัด พร้อมรับหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ ค่าบริการรายเดือน 650 บาท พร้อมรับส่วนลดพิเศษสำหรับค่าบริการ จ่ายเพียง 550 บาทสำหรับ 6 เดือนแรก
§ แพ็กเกจ Happy Internet 790 – สำหรับลูกค้าแฮปปี้ จ่ายเพียง 790 บาท ใช้งานดีแทคอินเทอร์เน็ตสำหรับ iPad ได้ 5 กิกะไบต์ นาน 3 เดือน

ดีแทคพร้อมจำหน่าย และแพ็กเกจดีแทคอินเทอร์เน็ตสำหรับ iPad 2 แล้ววันนี้ ที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทค ดีแทคเซ็นเตอร์ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อ iPad 2 พร้อมกับแพ็กเกจดีแทคอินเทอร์เน็ต เลือกผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน และรับเงินเครดิตคืน (cash back) สูงสุดถึง 15% กับ 10 บัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจและบริการได้ที่ www.dtac.co.th/ipad

View :1614

ทรูมูฟ เอช ประกาศจำหน่าย iPad 2 ในไทย เริ่ม 23 กันยายนนี้

September 23rd, 2011 No comments

ประกาศจำหน่าย ในไทย ทุกรุ่นทุกสี เริ่ม 23 กันยายน 2554 พร้อมนำเสนอแพ็กเกจหลากหลายเลือกได้ทั้งแบบมีสัญญาและไม่มีสัญญา

iPad 2 ปฏิวัติโฉมหน้าอุปกรณ์ไอทีอีกครั้ง โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยการออกแบบใหม่ทั้งหมด บางกว่าเดิมถึง 33% และเบากว่ารุ่นก่อนถึง 15% แต่ให้ความคมชัดด้วยจอ LCD แบบ LED-backlit ขนาด 9.7 นิ้ว แสดงภาพกราฟฟิคได้สมจริง ทรงพลังด้วยระบบประมวลผล Dual-Core A5 ใหม่ล่าสุดของ Apple ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้เร็วและแรงยิ่งขึ้น พร้อมกล้อง 2 ตัว โดยกล้องด้านหน้าเป็นแบบ VGA รองรับ Facetime และการถ่ายภาพแบบ Photo Booth กล้องด้านหลัง รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ HD ความละเอียด 720p ซึ่งทำให้สามารถใช้ FaceTime บน iPad ได้เป็นครั้งแรก และแม้ว่า iPad 2 จะบางกว่า เบากว่า เร็วกว่า และอัดแน่นด้วยฟีทเจอร์ใหม่ๆ อีกเพียบ แต่ยังใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมง* โดนใจผู้ใช้เหมือนเช่นเคย

“ลูกค้าทรูมูฟ เอช สามารถใช้งาน iPad 2 ได้เต็มประสิทธิภาพผ่านเครือข่ายใหม่ +** และ Wi-Fi ทั้งยังสามารถเลือกใช้แพ็กเกจได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองอีกด้วย” นายปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองหัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าว “การประกาศจำหน่าย iPad 2 ของทรูมูฟ เอช ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำภาพผู้นำตลาดสื่อสารไร้สายในไทย”

ผู้สนใจเป็นเจ้าของ iPad 2 สามารถซื้อได้ที่ร้านทรูช็อป สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว และอีก 50 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 23 กันยายนนี้ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับราคาและการวางจำหน่าย ติดตามได้ที่ www.truemove-h.com

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad 2 ค้นหาได้ที่ www.apple.com/ipad/

View :1581

เอไอเอส เดินหน้าขยาย 3G ต่อเนื่อง เผยยอดการใช้ Mobile Internet โตก้าวกระโดด

September 21st, 2011 No comments

ผู้บริหารเอไอเอสโดย นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาด และนายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการบริการเสริม ร่วมกันเปิดเผยความคืบหน้าการติดตั้งเครือข่าย , ผลการตอบรับของลูกค้าและการเติบโตของตลาด Smart Device โดยเฉพาะ Tablet ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดสอดคล้องกับอัตราการขยายตัวของ Mobile Internet

“ปัจจุบันมีลูกค้าเอไอเอสที่ใช้ Mobile Internet มากกว่า 8 ล้านราย เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 43% โดยรูปแบบการใช้งานของลูกค้ากลุ่มนี้ ราว 45% มาจาก Smart Phone ที่มีปริมาณการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 800 MB/เดือน, 49% จาก Feature Phone ที่มีปริมาณการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100 MB/เดือน , 5% จาก Aircard และ 1% จาก Smart Tablet ที่มีปริมาณการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 GB ซึ่งพบว่าปัจจัยหลักของการเติบโตดังกล่าว เกิดจาก

1. พัฒนาการของตลาด Smart Device และ Smart Tablet อาทิ
- การเติบโตของตลาด Smart Phone ที่ในฐานลูกค้าเอไอเอสมีอยู่ราว 3.7 ล้านเครื่อง โดยถือเป็นสัดส่วนที่มากกว่า 55% Market Share ซึ่งเอไอเอสเองยังคงมุ่งมั่นทำงานกับ Partner ชั้นนำอย่างต่อเนื่องในการนำ Variety of Smart Phone ในทุก OS ในทุก Level เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุก Segment
- การเติบโตของการใช้งานในลักษณะของ Wireless PC to internet (เชื่อมต่อผ่าน Aircard) ที่ปัจจุบันมีอยู่ถึง 350,000 ราย เติบโตมากกว่า 350% ของช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
- ตลาดใหม่ของ Smart Device อย่าง Tablet ที่เติบโตมากกว่า 50% ของช่วงเวลาเดียวกัน โดยในช่วงปีที่ผ่านมาเอไอเอสได้เริ่มนำ Smart Tablet ที่เป็น Branded เข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ล่าสุดที่นำ Samsung Galaxy Tab 10.1 เข้ามาทำตลาดในลักษณะ Exclusive ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ในปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้อุปกรณ์ประเภท Tablet ในเครือข่าย เอไอเอสมากกว่า 5 หมื่นเครื่อง
2. ความหลากหลายของ Data SIM และ Data Package ที่สอดคล้องในทุกๆ Segment ของ Smart Device
3. Customize Application เพื่อชาวเอไอเอสโดยเฉพาะ เช่น AIS Book Store ที่หลังจากเปิดตัวได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยมีลูกค้าดาวน์โหลดหนังสือไปแล้วมากกว่า 250,000 เล่ม จาก Devices 70,000 เครื่อง
4. พัฒนาการของเครือข่ายเอไอเอสที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการติดตั้งเครือข่าย 3G ที่เอไอเอสได้ประกาศในช่วงที่ผ่านมาในพื้นที่กรุงเทพและอีก 7 จังหวัด และมีลูกค้าใช้งานแล้วถึงกว่า 890,000 ราย ซึ่งการขยายเครือข่าย 3G ของเอไอเอสที่กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯและปริมณฑล
- เชียงราย
- พัทยา
- นครปฐม
- ขอนแก่น
ทั้งนี้รวมไปถึงความร่วมมือกับ 3BB ที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยสิ้นปีจะครบ 70,000 จุด ด้วยความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 6 Mbps ซึ่งเชื่อมั่นว่าด้วยเครือข่าย Data ที่ใหญ่ที่สุด ตอบโจทย์ในทุก Solutions และความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการเพื่อลูกค้าอย่างครบถ้วน จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงใจแน่นอน

View :1996

ดีแทค-อมรินทร์ จับมือวางแผงโมบายแมกกาซีน ก้าวนำในตลาดโมบายคอนเทนต์

September 3rd, 2011 No comments

ดีแทคจับมืออมรินทร์ ร่วมเป็นพันธมิตรสร้างคอนเทนต์สำหรับผู้อ่านนิตยสารคุณภาพบนแอพพลิเคชั่น ขยายบริการเพื่อรองรับกับ เทคโนโลยี มุ่งเป็นผู้นำดาต้า ในงาน dtac Expo ที่เผยศักยภาพและความพร้อมของเครือข่าย dtac เทคโนโลยีจากพันธมิตร และมหกรรมโทรศัพม์มือถือที่รองรับเครือข่าย พร้อมข้อเสนอพิเศษ

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น () กล่าวว่า “หลังจากการเปิดให้บริการ dtac 3G ตั้งแต่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา อัตราการใช้งานดาต้าบนเครือข่าย ทั่วประเทศเติบโตประมาณ 20% ขณะที่การใช้งานดาต้าบนเครือข่ายดีแทคในพื้นที่ให้บริการ 3G เพิ่มขึ้นถึง 50% และที่สำคัญคือ อัตราการใช้งานเว็บไซต์โซเชียลมีเดียต่าง ๆ บนเครือข่ายดีแทคอินเทร์เน็ต ก็เติบโตขึ้นอย่างมหาศาล ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ เว็บ You Tube ที่การใช้งานพุ่งขึ้นถึง 200% การเปิดให้บริการ dtac 3G ทำให้เราได้รับข้อมูลเชิงลึกมากมายเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจและศึกษาโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ”

“ดีแทคมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) นำเสนอคอนเทนต์นิตยสารที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าเพื่อเข้าถึงผู้อ่านได้มากยิ่งขึ้นในรูปแบบของโมบายแอพพลิเคชั่นบน iPhone และ iPad
เราคาดว่าแอพพลิเคชั่นด้านไลฟ์สไตล์นี้จะได้รับความนิยมจากลูกค้าของดีแทคและอมรินทร์ในหลากหลายเซ็กเม้นท์ เนื่องจากมีเนื้อหาที่ครอบคลุมลูกค้าหลายกลุ่ม ประกอบกับการเข้าถึงคอนเทนต์ ของลูกค้าก็เป็นไปได้ ง่ายขึ้นตามตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่เติบโตขึ้นด้วย”

นางระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง กล่าวว่า “การร่วมมือกับดีแทคเป็นอีกก้าวที่สำคัญของเราในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และสาระความรู้ต่าง ๆ บนแพลทฟอร์มและช่องทางการสื่อสารแบบดิจิตอลในรูปแบบที่หลากหลายยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน ผู้บริโภคในทุกวัยต่างหันมาใช้เวลาบนสื่อออนไลน์มากขึ้น เราในฐานะผู้ประกอบการสำนักพิมพ์และเจ้าของคอนเทนต์จึงจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อสามารถนำเนื้อหาสาระที่มีคุณภาพแก่ผู้บริโภค และเรายังคงมองหาโอกาสในการขยายความร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายการสื่อสารเพื่อสร้างบริการรูปแบบใหม่ ๆ ที่ตอบสนองแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคต่อไปในอนาคต”

“เราเชื่อมั่นว่าคอนเทนต์ของนิตยสารต่าง ๆ ในเครืออมรินทร์จะตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ เหล่านี้ได้เป็นอย่างดีและได้รับความสนใจจากผู้อ่านในรูปแบบดิจิตอลจำนวนมาก เนื่องจากความหลากหลาย ของเนื้อหาที่ครอบคลุมทุกไลฟ์ไสตล์ซึ่งน่าจะตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่างๆ ของดีแทคได้ เป็นอย่างดี ในเร็ว ๆ นี้ ลูกค้าดีแทคยังจะได้พบกับเนื้อหาดี ๆ ของนิตยสารต่าง ๆ ในเครืออมรินทร์ทั้งใน รูปแบบแอพพลิเคชั่นบน iPhone และ iPad และในรูปแบบอื่น ๆ เช่น SMS ด้วย” นางระรินกล่าว
บริการโมบายคอนเทนท์นำร่องจากความร่วมมือระหว่างเครืออมรินทร์และดีแทคคือ แอพพลิเคชั่นนิตยสารบน iPhone และ E-magazine บน iPad ซึ่งพร้อมจะเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2554 ซึ่งประกอบด้วยนิตยสารต่าง ๆ ในเครืออมรินทร์ ครอบคลุมกลุ่มผู้อ่านทุกกลุ่ม นอกจากนั้น ยังมีแอพพลิเคชั่นบน iPhone สำหรับ Real Parenting และ Room Directory ที่จะตามมาในอนาคต ซึ่งผู้อ่านจะได้พบกับเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์ และโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ มากมาย

View :1972

“ขายหัวเราะ” แอพพลิเคชั่นฮาใหม่ เจ้าแรกในเมืองไทย ในรูปแบบอี-แมกกาซีน

August 31st, 2011 No comments

” ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดการ์ตูน เปิดตัว “แอพพลิเคชั่น” สำหรับสมาร์ทโฟนและ iPad ในรูปแบบนิตยสารการ์ตูนดิจิตอล อ่านได้ทั้งใน iPad, iPhone และสมาร์ทโฟน Android พร้อมกันเป็นเจ้าแรกในเมืองไทย ยกขบวนความฮาในแบบฉบับขายหัวเราะ ใส่ลูกเล่นในแบบดิจิตอล ตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตออนไลน์ของคนรุ่นใหม่ พร้อมให้ดาวน์โหลดฟรี ทั่วโลกแล้ววันนี้ผ่าน “ ฮา แอพ” (Kai Hua Roh)หรือในชื่อเต็มว่า “ แฮพพลิเคชั่น” () แอพพลิเคชั่นใหม่ที่สร้างสรรค์ตามแนวคิดที่ว่าขายหัวเราะคือสัญลักษณ์ของความสุขและความฮาในรูปแบบแอพพลิเคชั่นที่ทันสมัย คลิกที่ไหนฮาที่นั่น

นายวิธิต อุตสาหจิต เจ้าของและบรรณาธิการนิตยสารการ์ตูน “ขายหัวเราะ” นิตยสารการ์ตูนยอดนิยมที่ ครองใจนักอ่านทุกเพศทุกวัยยาวนานกว่า 38 ปี กล่าวว่า “ที่ผ่านมานิตยสารการ์ตูน ขายหัวเราะ ได้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของการนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบแก๊กสดใหม่ที่ทันสมัยอยู่เสมอ และช่องทางในการนำเสนอทั้งในแบบรูปเล่มและโมบายคอนเทนท์ไปสู่กลุ่มผู้อ่านที่มีมากกว่า 10 ล้านคนทั่วประเทศ สำหรับในวันนี้ถือว่าเป็นการพัฒนาไปสู่ในรูปแบบแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟนและ iPad โดยการนำนิตยสารการ์ตูน “ขายหัวเราะ” ที่เป็นรูปเล่มไปใส่ลูกเล่นในแบบดิจิตอลในบางส่วนให้มีความน่าสนใจและสร้างความแตกต่างจากรูปเล่มกระดาษ ทำให้สามารถสร้างความสุขและเสียงหัวเราะให้กับผู้อ่านได้มากยิ่งขึ้น โดยเราได้ทำการเปิดตัว “ขายหัวเราะ ฮา แอพ” (Kai Hua Roh Happlication) แอพพลิชั่นตัวแรกของไทยที่เปิดตัวพร้อมกันบน สมาร์ทโฟนและแทบเลต ยอดนิยมที่มีผู้ใช้จำนวนมาก ได้แก่ iPad, iPhone และ Android ด้วยความตั้งใจขยายอาณาจักรความฮาให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นและครอบคลุมแฟนผู้อ่านที่อยู่ในต่างประเทศทั่วโลกเพื่อเป็น การกระจายเสียงหัวเราะไปสู่คนไทยในต่างแดนรวมทั้งชาวต่างชาติที่มีความสนใจในภาษาไทยและเริ่มต้นศึกษาภาษาไทยง่ายๆ ผ่านแก๊กการ์ตูนในขายหัวเราะ”
ปัจจุบันมีอัตราผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบต่างๆ ทั่วโลกมีมากกว่า 1,500 ล้านเครื่อง นอกจากนี้แทบเลตยอดนิยมอย่าง iPad ก็มีผู้ใช้มากกว่า 80 ล้านเครื่อง และยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยการขยายตัวที่รวดเร็วของสื่อใหม่ๆทำให้บรรดาแวดวงธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับสื่อเหล่านี้มากขึ้น สังเกตง่ายๆจากแอพพลิเคชั่น (Application) จำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงการใช้เม็ดเงินโฆษณาของสินค้าแบรนด์ต่างๆในสื่อดิจิตอลก็เติบโตเฉลี่ยแล้ว 30-40% ต่อปี แสดงให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ของคนอ่านที่เปลี่ยนจากสิ่งพิมพ์มาสู่ดิจิตอลเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

นายวิธิต กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับ “ขายหัวเราะ ฮา แอพ” นี้จะอำนวยความสะดวกให้กับแฟนนิตยสารการ์ตูนขายหัวเราะทั่วโลกที่มีอุปกรณ์ทั้ง 3 ประเภทนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถสั่งซื้อ “ขายหัวเราะ” ในเล่มอดีตและอนาคตได้ในราคาพิเศษ เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “Kai Hua Roh” ลงบนอุปกรณ์ของท่านก็จะได้อ่านนิตยสารการ์ตูน “ขายหัวเราะ” ในรูปแบบใหม่ที่มีคุณภาพความคมชัดของภาพและตัวอักษรดีเยี่ยมได้ และพิเศษสำหรับทุกท่านที่อินสตอลแอพพลิเคชั่นในช่วงนี้จะได้รับฟรี “ขายหัวเราะ ฉบับกระเป๋า เล่มแรก” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเล่มประวัติศาสตร์ที่มีคนถามหามากที่สุด เนื่องจากได้รับเกียรติจากพิธีกรชื่อดังคุณปัญญา นิรันดร์กุล และคุณบุญสม รดาเจริญ อดีตหัวหน้าข่าวบันเทิง หนังสือพิมพ์เดลินิวส์และนักเขียนชื่อดังสมัยนั้นมาเป็นนักเขียนรับเชิญ นอกจากนี้ยังมีการนำมาพัฒนาใส่ลูกเล่นลงบนคาแรกเตอร์การ์ตูนและเพิ่มเทคนิคพิเศษในหน้าโฆษณาให้ผู้อ่านได้เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้นอีกด้วย”

นอกจากการเปิดตัวขายหัวเราะรูปแบบใหม่ข้างต้นแล้ว ในอนาคตกลุ่มบริษัทบันลือกรุ๊ปยังมีโครงการที่จะพัฒนาสินค้า และบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองผู้อ่านในโลกดิจิตอลเพิ่มอีกมากมาย

View :2211

เลอโนโวเปิดตัว ThinkPad Tablet และ IdeaPad Tablet K1

August 31st, 2011 No comments

เปิดตัวแท็บเล็ตดีไซน์ทันสมัยอย่าง สำหรับผู้บริโภค และThinkPad Tablet ดีไซน์วัสดุทนทานเหมาะสำหรับนักธุรกิจ พร้อมขีดความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทั้ง 3 รูปแบบ อาทิ , Wifi และ Bluetooth พร้อมปฏิบัติการเหนือชั้นด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 3.1 ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงมากกว่า 250,000 แอพพลิเคชั่น โดยผู้ใช้สามารถทดลองใช้, ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชั่นลงผลิตภัณฑ์ของเลอโนโวเพียงคลิกบน Lenovo App Shop

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในขณะที่ผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เราเชื่อว่าผู้บริโภคจะหันมาใช้แท็บเล็ตกันอย่างต่อเนื่อง โดยแท็บเล็ตของเลอโนโวทั้งตระกูล IdeaPad และThinkPad ที่เปิดตัวในประเทศไทย ในวันนี้ แท็บเล็ตมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นครบครันและคอนเทนท์ระดับพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็น แอพพลิเคชั่นสำหรับความบันเทิงระหว่างการเดินทาง หรือแอพพลิเคชั่นที่เหมาะสำหรับคนทำงาน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ทั้งนี้ เรามุ่งสร้างสรรค์แท็บเล็ตให้ตรงกับความต้องการผู้ใช้งานทุกไลต์สไตส์ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์อันสูงสุดของผู้ใช้งาน ทั้งด้านความบันเทิงส่วนตัวและธุรกิจ”

สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงแบบฉบับพกพาไปกับผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดของเลอโนโว ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผลของ NVIDIA Tegra 2 dual-core สุดยอดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้คุณทำงานได้หลากหลายในเวลาเดียวกัน อีกทั้ง ขีดประสิทธิภาพรวดเร็วยิ่งขึ้นในการเข้าถึงเว็บไซด์ที่ติดตั้งโปรแกรม Flash และเกมส์ รวมถึง โปรแกรมประหยัดพลังงาน เพื่อระยะการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานยิ่งขึ้น

เปิดสัมผัสประสบการณ์สนุกไปกับ IdeaPad K1 Tablet
IdeaPad K1 Tablet มีน้ำหนักเพียง 0.74 กิโลกรัม สุดยอดแห่งการพกพา ซึ่งมาพร้อมหน้าจอความละเอียดสูงแบบ HD และกล้องด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมขีดสามารถการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth และ Wi-Fi 802.11 ด้วยดีไซน์การผสมผสานความพิเศษของปุ่ม “Home” กับเลอโนโว Launcher แอพพลิเคชั่น ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าฟังก์ชั่นที่ใช้งานบ่อยสุดได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น อีเมล์ ฟังเพลง หรือ ค้นหาเว็บไซด์ โดย IdeaPad K1 Tablet มาพร้อมกับคุณสมบัติโดดเด่น ดังนี้:

• ประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย: เลอโนโว IdeaPad Tablet K1 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งติดตั้งมาพร้อมแอพพลิเคชั่นยอดนิยมมากกว่า 30 รายการจากบริษัทพันธมิตรชั้นนำ เช่น Amazon, Adobe, Electronic Arts, Rovio, Zinio, Dataviz รวมมูลค่ากว่า 1,500 บาท รวมถึงเกมส์สุดฮิตอย่าง Angry Birds และโปรแกรม Document to go แบบเต็มรูปแบบ

• สุดยอดความบันเทิงฉบับพกพา: ผู้ใช้สามารถเข้าทุกเว็บไซด์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด รวมทั้งการชมวิดีโอออนไลน์ผ่านโปรแกรม Flash 10.3

• อัพเดทสังคมออนไลน์ : ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อโลกสังคมออนไลน์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนด้วย Social Touch แอพพลิเคชั่นที่ออกแบบเฉพาะจากเลอโนโว ให้คุณต่อติดทุกความเคลื่อนไหวบนหน้าต่างเดียว เพราะภาพบอกเล่าเรื่องราวได้เป็นร้อยพันคำ เลอโนโว IdeaPad K1 Tablet จึงมาพร้อมกับความละเอียด ของกล้องด้านหน้าถึง 2 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

• เหนือชั้นด้วยภาพคมชัดระดับ HD: ผู้ใช้งานจะได้สัมผัสประสบการณ์กับการดูหนังและวิดีโอด้วยภาพที่คมชัด บนหน้าจอแบบ HD ความละเอียด 1280 x 800 และการเชื่อมต่อด้วย มินิ HDMI ซึ่งสามารถชมได้ที่ความละเอียดสูงถึง 1080 พิกเซล เมื่อเชื่อมต่อไปยังจอ HDTV หรือเครื่องมอร์นิเตอร์ เพื่ออรรถรสความบันเทิงของการดูหนังอย่างแท้จริง

• รองรับการเชื่อมต่อบนคลาวด์: ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ เก็บข้อมูลและแชร์ไฟล์ เพลงและรูปได้ถึง 2GB ฟรีบนระบบคลาวด์ โดยไม่ต้องพึ่งฮาร์ดไดรฟ์

• แอพพลิเคชั่นครบครัน: นอกเหนือจากตัวเลือกความสนุกเพื่อการใช้งานมากกว่าพันแอพพลิเคชั่นในร้านค้าในแอนดรอยด์มาร์เก็ตแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดทดลองใช้แอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้บน Lenovo App Shop

นำระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์สู่โลกธุรกิจ

ThinkPad Tablet ผสานคุณสมบัติด้านมัลติมีเดียและความบันเทิงที่เหนือชั้นของ IdeaPad Tablet K1 กับคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และความสะดวกในการบริหารจัดการที่ขึ้นชื่อของธิงค์แพดไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งนี้ เพื่อสร้างแท็บเล็ตรุ่นแรกที่ตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้อย่างแท้จริง โดย แท็บเล็ตใหม่นี้ได้รับการออกแบบให้เป็นคอมพิวเตอร์คู่กายนักธุรกิจที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ โดย ThinkPad Tablet มาพร้อมปากกาดิจิตอล (ออปชั่น) พอร์ต USB และช่องเสียบ SD card ขนาดมาตรฐาน และ mini-HDMI สำหรับต่อเชื่อมกับโปรเจ็คเตอร์และจอภาพ รวมถึงกระเป๋าใส่คีย์บอร์ด Keyboard Folio Case ของแท้จากธิงค์แพด พร้อม Track Point (ออปชั่น)

คุณสมบัติเด่นอีกด้านหนึ่งของ ThinkPad Tablet คือ มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้วยระบบปกป้องข้องมูลหลายชั้น ทั้งยังมาพร้อมโซลูชั่นจากพันธมิตรธุรกิจของเลอโนโวที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่ไอทีบริหารจัดการทรัพยากรได้ง่าย อย่างเช่น ซอฟต์แวร์ป้องกันการโจรกรรมเครื่องและฟังก์ชั่นปิดการทำงานเครื่องกรณีเครื่องสูญหายหรือถูกขโมยด้วยระบบ Computrace* นอกจากนี้ คุณสมบัติด้านความปลอดภัยยังรวมถึง virtual application support with Citrix*, simple zero-touch deployment with LanDesk* และรองรับการใช้งานอีเมล์อย่างปลอดภัยด้วย Good Technology*

ThinkPad Tablet มาพร้อมจอไวด์สกรีน ความละเอียด WXGA (1280×800) ขนาด 10.1 นิ้ว น้ำหนักเพียง 0.75 กิโลกรัม โดดเด่นด้วยจอแบบ IPS กับมุมมองที่กว้างสุดถึง 178องศา วัสดุเป็น Corning* Gorilla* Glass ทนและป้องกันรอยขีดข่วน นับเป็นแท็บเล็ตสำหรับธุรกิจอย่างแท้จริง ให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างคล่องตัว ในการเชื่อมต่อ ทำงานได้มากขึ้น และเพลิดเพลินกับฟังก์ชั่นด้านความบันเทิงมากขึ้น ไม่ว่าจะใช้งานที่บ้านหรือที่ทำงาน

เลอโนโว ThinkPad Tablet มาพร้อมขีดความสามารถสำหรับคู่ใจนักธุรกิจ ดังนี้:

• ธุรกิจเดินหน้า คล่องตัวทุกเวลา: กรณีต้องทำงานระหว่างเดินทาง ThinkPad Tablet ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดดูและแก้ไขไฟล์ Microsoft Office ด้วยแอพพลิเคชั่น Documents to Go จาก DataViz ที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่อง นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถจดบันทึกซึ่งจะเปลี่ยนเป็นตัวอักษรแบบลายมือเขียนโดยอัตโนมัติด้วย ThinkPad Tablet Pen (ออปชั่น) และหากต้องการความคล่องตัวสูงและประโยชน์ใช้สอยเพิ่มเติม ผู้ใช้สามารถใช้คีย์บอร์ด Keyboard Folio และเมาส์ เพื่อให้พิมพ์ได้รวดเร็ว สะดวก และถูกต้องได้อีกด้วย

• เชื่อมต่อได้สะดวกยิ่งขึ้น: ด้วยคุณสมบัติที่รองรับการใช้งาน WiFi รวมถึง 2GB of free cloud storage และพอร์ต USB และช่องเสียบ SD Card Reader ขนาดมาตรฐาน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายโอนหรือทำสำเนาไฟล์ รวมทั้งแบ่งปันไฟล์มัลติมีเดียและเอกสารรูปแบบต่างๆ กับคนอื่นๆ หรือเครื่องอื่นได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังสามารถต่อเชื่อมกับจอภายนอกผ่านพอร์ต mini-HDMI แบบ built-in เพื่อฉายสไลด์พรีเซ็นเทชั่นได้อีกด้วย ผู้ใช้สามารถ sync ไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วด้วยแท็บเล็ตเมื่อใดก็ได้เมื่อต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 และเมื่อต่อกับแอพพลิเคชั่นอย่าง ooVoo ก็สามารถประชุมผ่านระบบ video conferencing ผ่านกล้อง HD สองตัวได้อย่างชัดเจน ผู้ใช้จะไม่พลาดการติดต่อกับเพื่อนๆ หรือคู่ค้าโดยใช้แอพพลิเคชั่น SocialTouch ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะเลอโนโว ซึ่งเชื่อมโยงเครือข่ายสังคมออนไลน์ อีเมล์ และปฏิทินอิเล็คทรอนิกส์จากผู้ให้บริการทุกรายไว้ใน interface เดียวกันที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน

• สะดวกเชื่อมต่ออุปกรณ์สำนักงาน: ThinkPad Tablet สามารถต่อเชื่อมกับอุปกรณ์และเครือข่ายเน็ตเวิร์คของบริษัทด้วยตัวเอง และผู้ใช้ยังกำหนดรหัสผ่านเฉพาะสำหรับองค์กร เพื่อให้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์และใช้งานอีเมล์ของบริษัทหรืองค์กรนั้นๆ ด้วยแอพพลิเคชั่นเฉพาะที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มธุรกิจ ในขณะฝ่ายจัดการแผนกไอทีก็สามารถสร้างกลุ่มโปรแกรมเฉพาะสำหรับการพรีโหลดลงเครื่องได้จากส่วนจัดการ Lenovo Image Technology Center ได้อย่างสะดวกง่ายดาย รวมทั้งแชร์และแจกจ่ายแอพพลิเคชั่นที่บริษัทซื้อมาหรือพัฒนาเองไปยังอุปกรณ์จำนวนมากผ่านร้านค้า app storeที่บริษัทออกแบบและควบคุมได้เองตามความต้องการ เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ใช้สามารถปกป้องข้อมูลสำคัญได้ด้วยคุณสมบัติด้าความปลอดภัยที่รัดกุม ซึ่งได้แก่ ระบบเข้ารหัส SD card ระบบปิดการทำงานเครื่องกรณีเครื่องหาย และซอฟต์แวร์ป้องกันการโจรกรรมเครื่อง


•  อุ่นใจกับระบบป้องกันภัยที่เข้มแข็ง: ลูกค้าของ ThinkPad Tablet สามารถเข้าถึงบริการระดับเอ็นเทอร์ไพรซ์อันหลากหลายจากเลอโนโว เช่น ThinkPlus Support ซึ่งช่วยให้ลูกค้าธุรกิจสามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคผู้ชำนาญการได้โดยตรงจากเครื่องแท็บเล็ตและระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Tablet Protection ซึ่งเสนอความคุ้มครองครอบคลุมในส่วนของความเสียหายที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน เช่นความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานและความเสียหายเชิงโครงสร้างอันมีสาเหตุจากการหล่น น้ำหกใส่ ไฟฟ้าช็อต และความเสียหายจากอุบัติเหตุอื่นๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้สภาพการใช้งานปกติทั่วไป นอกจากนี้ Imaging Services จากเลอโนโวยังช่วยฝ่ายไอทีให้ไม่ต้องเสียเวลาสร้าง custom images สำหรับเครื่องแต่ละเครื่อง และช่วยให้แน่ใจว่า even with flash images ยังได้รับความคุ้มครองจากเงื่อนไขการประกัน และเครื่องแท็บเล็ตพร้อมใช้งานนับตั้งแต่แกะออกมาจากกล่อง

Lenovo App Shop บริการด้านแอพพลิเคชั่นและคอนเทนท์ระดับพรีเมี่ยม

นอกเหนือจากแอพพลิเคชั่นนับกว่า1,000 รายการที่มีให้โหลดในโลกของผู้ใช้แอนดรอยด์แล้ว ผู้ใช้แท็บเล็ตของเลอโนโวยังสามารถเข้าไปเลือกดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นใน Lenovo App Shop ซึ่งเป็นแหล่งรวมแอพพลิเคชั่นชั้นนำที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งได้อีกด้วย โดยแอพพลิเคชั่นเหล่านี้ผ่านการทดสอบแล้วว่าได้ได้ดีกับทั้งแท๊บเล็ตตระกูล IdeaPad และตระกูล ThinkPad ทั้งยังครอบคลุมหมวดหมู่แอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย อาทิ เพลง ภาพยนตร์ หนังสือ รวมถึง แอพพลิเคชั่นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เครือข่ายสังคมออนไลน์ สภาพอากาศ การพิมพ์เอกสาร และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ Lenovo App Shop ยังรองรับ enterprise applications และแอพสโตร์ขององค์กรต่างๆ อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ธุรกิจทั้งหลายสามารถต่อเชื่อมแท็บเล็ตเพื่อใช้ปฏิบัติงานประจำวันได้อย่างง่ายดาย ไม่เพียงเท่านั้น เลอโนโวยังมีแอพพลิเคชั่น สกุลเงิน และภาษาเฉพาะของแต่ละประเทศให้เลือกใช้อีกด้วย

ราคาและการจัดจำหน่าย

เลอโนโว แท๊บเล็ต จะมีจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่ายของเลอโนโวทั่วประเทศ
IdeaPad Tablet K1 Wifi 32 GB ราคา 16,990 บาท วางจำหน่ายประมาณเดือนกันยายน 2554
IdeaPad Tablet K1 3G+Wifi 32 GB จะวางจำหน่ายประมาณสิ้นเดือนตุลาคม 2554
ThinkPad Tablet 32GB WIFI + 3G จะวางจำหน่ายประมาณสิ้นเดือนกันยายน 2554
ThinkPad Tablet 64GB WIFI + 3G จะวางจำหน่ายประมาณสิ้นเดือนกันยายน 2554
โดยผลิตภัณฑ์จะมาพร้อมการรับประกัน 1 ปี ซึ่งสามารถอัพเกรดระยะเวลาการรับประกันและความคุ้มครองสำหรับผลิตภัณฑ์ตระกูล IdeaPad เพิ่มเติมอีก 2 ปี และผลิตภัณฑ์ตระกูล ThinkPad เพิ่มเติมอีก 1 ปี

View :2273

โซนี่ มิวสิค นำร่องพัฒนาคอนเทนต์บันเทิงรองรับ 3G เน็ตเวิร์ก พร้อมเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่สุดล้ำกับ “Sony Music SLIDE” เอาใจคอสมาร์ทโฟน

July 25th, 2011 No comments

บริษัท (ประเทศไทย) จำกัด นำร่องพัฒนาคอนเทนต์บันเทิงรองรับการใช้งาน เน็ตเวิร์กก่อนใคร!! ด้วยการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่สุดล้ำกับ “โซนี่ มิวสิค สไลด์” “(Sony Music SLIDE) ภายใต้คอนเซ็ปต์ ““โซเชี่ยลมิวสิคแอพของเมืองไทย”” เน้นการเป็นโซเชี่ยลมิวสิคแอพพอลทัลของโซนี่มิวสิคที่เน้นการใช้งานที่ง่ายจะช่วยให้กลุ่มลูกค้าสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆได้รวดเร็วขึ้น และสามารถแชร์คอนเทนต์ที่ตัวเองชื่นชอบไปให้กับเพื่อนๆผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กของคุณและศิลปินที่คุณชื่นชอบทั้งไทยและต่างประเทศได้อย่างลงตัว มั่นใจสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

นายพอล มนัสถาวร ผู้อำนวยการกลุ่มงานดิจิตอล บริษัท โซนี่ มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจดิจิตอลถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทางโซนี่มิวสิคให้ความสำคัญมากในปีนี้ โดยมีแผนที่จะปรับทิศทางการดำเนินงานของธุรกิจเพลงของโซนี่มิวสิคทั้งหมดให้สอดรับกับยุคดิจิตอลได้อย่างลงตัว ซึ่งในเบื้องต้นเราได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายของโซนี่มิวสิคพบว่า กลุ่มคนฟังเพลงของโซนี่มิวสิคส่วนใหญ่นิยมใช้สมาร์ทโฟนที่หลากหลาย โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนในตระกูล iOS อาทิ ไอโฟน , ไอแพด เป็นต้น และจากกระแสความแรงของตลาดสมาร์ทโฟน ประกอบกับกระแสความแรงของโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กในปัจจุบันที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ผนวกกับการมาของ 3G เน็ตเวิร์กทำให้โซนี่มิวสิคไม่รอช้ารุกพัฒนาคอนเทนต์เพื่อเตรียมรองรับกับจำนวนผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด โซนี่ มิวสิค ได้พัฒนาคอนเทนต์บันเทิงรองรับการใช้งาน 3G เน็ตเวิร์กก่อนใคร!! ด้วยการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นใหม่สุดล้ำกับ ““Sony Music SLIDE” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “โซเชี่ยลมิวสิคแอพของเมืองไทย” เน้นการเป็นโซเชี่ยลมิวสิคแอพพอลทัลของโซนี่มิวสิคที่เน้นการใช้งานง่ายจะช่วยให้กลุ่มลูกค้าสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆได้รวดเร็วขึ้น และสามารถแชร์คอนเทนต์ที่ตัวเองชื่นชอบไปให้กับเพื่อนๆผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กของคุณและศิลปินที่คุณชื่นชอบทั้งไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Facebook และ Twitter ได้อย่างลงตัว ทำให้แฟนเพลงของโซนี่มิวสิคที่ต้องการติดตามผลงานของศิลปินที่ชื่นชอบได้จากบริการดังกล่าว ด้วยวิธีง่ายๆเพียงคุณดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า ““Sony Music SLIDE” จาก App Store ลงมาไว้ในมือถือหรือไอแพดของตัวเอง เพียงเท่านี้ท่านก็จะสามารถเข้าสู่โลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กของศิลปินที่คุณต้องการได้ทันที ทั้งนี้เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้งาน 3G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ มั่นใจสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

“ผมเชื่อมั่นว่าเมื่อ 3G เน็ตเวิร์กมาถึงก็จะเป็นการเปิดตลาดรูปแบบใหม่และทำให้คนสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคอนเทนต์ของโซนี่มิวสิคถือได้ว่าเป็นพรีเมี่ยมคอนเทนต์ที่มีคุณภาพที่สุดในตลาดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น เพลง , มิวสิควีดีโอ รวมถึงศิลปินในสังกัดโซนี่มิวสิคซึ่งเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งไทยและต่างประเทศ ดังนั้น ทางบริษัทฯจึงมั่นใจว่าโซนี่มิวสิคจะเป็นผู้นำทางด้าน 3G มิวสิคแอพพลิเคชั่นได้อย่างแน่นอน” นายพอลกล่าวทิ้งท้าย

View :1914

ไอดีซีฟันธงตลาดมีเดียแท็บเล็ตในเอเชียแปซิฟิกจะโตขึ้นจากปีที่แล้ว 10 เท่าในปี 2558

July 12th, 2011 No comments

สิงคโปร์และฮ่องกง 7 กรกฎาคม 2554 – ไอดีซี บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยตลาดชั้นนำระดับโลก เผยแนวโน้มอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของตลาดอุปกรณ์ประเภทมีเดียแท็บเล็ตในช่วง 5 ปีข้างหน้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นนั้นอาจขึ้นไปแตะถึงระดับ 54% ซึ่งหมายความว่ายอดจำหน่ายอุปกรณ์ชนิดนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น  21 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าจากยอดจำหน่ายของปี 2553 ที่มีเพียง 2 ล้านเครื่องเท่านั้น โดยไอดีซีเชื่อว่าจะมีผู้บริโภคที่ใช้มีเดียแท็บเล็ตในการเล่นเกม เข้าชมเว็บไซต์ และเชื่อมต่อเครือข่ายสังคมออนไลน์แบบทุกที่ทุกเวลามากขึ้น

ในประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ออสเตรเลีย และไต้หวันนั้นมีความต้องการอุปกรณ์พกพาอย่างเช่นมีเดียแท็บเล็ตในระดับสูง ส่วนประเทศจีนเองก็มีกำลังซื้อสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ สูงเช่นกัน แต่ประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างอินโดนีเซียและมาเลเซียยังมีความนิยมในตัวมีเดียแท็บเล็ตในระดับต่ำเมื่อเทียบกับความนิยมในสินค้ามินิโน๊ตบุ๊คที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงกันแต่มีคีย์บอร์ดที่ใช้งานสะดวกกว่า

ส่วนอุปกรณ์ประเภทอีรีดเดอร์จะมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปีอยู่เพียงแค่ 18% ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ อันเนื่องมาจากฟังก์ชันการทำงานที่มีเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่มีเดียแท็บเล็ตก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน และความจริงนั้นมีเดียแท็บเล็ตกลับมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าได้ด้วยซ้ำ เพราะผู้ใช้สามารถอ่านนิตยสารที่มีภาพสีโดยใช้มีเดียแท็บเล็ตได้

นายดิ๊กกี้ ชาง นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มงานวิจัยอุปกรณ์ต่อพ่วง ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของไอดีซีกล่าวว่า “ปัญหาของอีรีดเดอร์คือการที่ไม่มีคอนเทนต์ในภาษาท้องถิ่น ยกตัวอย่างเช่นประเทศจีน ที่ผู้ใช้งานหลายคนเลือกที่จะทำการดาวน์โหลดคอนเทนต์ซึ่งละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านอินเทอร์เน็ต ร้านขายหนังสือออนไลน์เองก็ไม่ได้ทำกำไรจากการขายคอนเทนต์ที่มากพอให้กับผู้ผลิตอุปกรณ์ อีกทั้งยังได้รับความกดดันจากราคาของไอแพดที่ลดลงมาอีกด้วย”

สำหรับในตลาดมีเดียแท็บเล็ต แอ๊ปเปิ้ลได้ให้ความสำคัญกับเอเชียมากขึ้นดังเห็นได้จากการเปิดตัวไอแพด2 และไอโฟน3G ในช่วงก่อนหน้านี้ ด้วยภาพลักษณ์ที่ดีและราคาที่ไม่แพงเกินไปนักทำให้แอ๊ปเปิ้ลสามารถช่วงชิงความเป็นเจ้าตลาดเหนือคู่แข่งได้ ในขณะที่ซัมซุงซึ่งโฟกัสไปที่มีเดียแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วนั้นใช้ชื่อเสียงของแบรนด์ที่แข็งแรงในภูมิภาคนี้ในการเพิ่มจำนวนยอดจำหน่าย โดยมีผู้ผลิตรายย่อยในประเทศจีนเกาะกลุ่มตามมาห่างๆ ซึ่งหากผู้ผลิตเหล่านี้สามารถพัฒนาสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ก็อาจจะอยู่รอดในตลาดเฉพาะกลุ่มได้

ตลาดอีรีดเดอร์ในปัจจุบันถูกผลักดันโดยฮันวอนและซินดาในตลาดประเทศจีน เนื่องจากผู้ผลิตทั้ง 2 รายนี้กระโดดเข้ามาเล่นในตลาดตั้งแต่ช่วงแรก อีรีดเดอร์ยังคงเป็นหนึ่งในของขวัญยอดนิยมที่ชาวจีนเลือก แต่ในระยะหลังกระแสของมีเดียแท็บเล็ตก็มาแรงเช่นเดียวกัน แต่สำหรับคินเดิ้ล ของอเมซอนนั้นยังคงได้รับความนิยมจำกัดอยู่แค่ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักเช่นออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น ถึงแม้ว่าคินเดิ้ลจะมีวางจำหน่ายอยู่ในหลายประเทศในภูมิภาคนี้ก็ตาม

นางสาวเมลิซา เชา ผู้จัดการกลุ่มงานวิจัยอุปกรณ์ต่อพ่วง ประจำเอเชียแปซิฟิคของไอดีซีเสริมว่า “ในช่วง 5 ปีนับจากนี้ แอ๊ปเปิ้ลจะเป็นผู้กำหนดความเร็วการเติบโตของตลาดมีเดียแท็บเล็ต ซึ่งเหล่าคู่แข่งจะต้องหาวิธีที่จะพัฒนาในสินค้าของตนโดดเด่นขึ้นมาให้ได้ ทั้งนี้เพื่อช่วยดึงไม่ให้ความสนใจของผู้บริโภคต่อแก็ดเจ็ทเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลงด้วย โดยความต้องการต่ออุปกรณ์ชนิดนี้อาจได้รับการกระตุ้นโดยภาคการศึกษา ดังเห็นได้จากตัวอย่างเมื่อเร็วๆ นี้ที่ว่าที่รัฐบาลใหม่ของประเทศไทยได้ประกาศนโยบายแจกแท็บเล็ตแอนดรอยด์จำนวน 8 แสนเครื่องให้กับนักเรียนในระดับประถมศึกษา ถึงแม้ว่าไอดีซีจะยังไม่ได้นำปัจจัยตัวนี้มาใช้ประกอบการคาดการณ์ก็ตาม”

รายงานการศึกษาตลาดมีเดียแท็บเล็ตและอีรีดเดอร์ทั่วโลกรายไตรมาสของไอดีซีนั้นได้รวบรวมข้อมูลของตลาดในเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่น ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย มาเลเซีย และเวียดนามไว้ด้วยเช่นกัน
แผนภาพ 1: การคาดการณ์ตลาดมีเดีย แท็บเล็ตและอีรีดเดอร์ในเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่น ในปี 2553 – 2558

ที่มา: IDC Worldwide Quarterly Media Tablet and eReader Tracker, 1Q11

View :1582

มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เลือก CHIP ‘Digital Magazine’ เป็นสื่อความรู้ด้านไอทีนอกห้องเรียนสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาโท

July 11th, 2011 No comments

บริษัท วีบีที คอมมิวนิเคชั่น ผู้ผลิตนิตยสาร CHIP ฉบับภาษาไทย และ ให้การสนับสนุนการศึกษา โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดับปริญญาโททุกคณะเข้าถึงข่าวสารความรู้ด้านไอทีผ่านเทคโนโลยี E-Magazine ที่ทันสมัยไร้ขีดจำกัด

ดร.สุนทร พิบูลย์เจริญสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เลือก CHIP Digital Magazine เป็นสื่อความรู้ข่าวสารด้านไอทีที่ทันสมัยสำหรับให้กับนักศึกษาระดับปริญญาโท โดยมองว่า CHIP Digital Magazine สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวกในการอ่านได้บนอุปกรณ์ทุกแพลตฟอร์ม ไม่จำกัดเฉพาะเพียงอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง ที่สำคัญคือข้อมูลเนื้อหามีความทันสมัย เจาะลึก มีประโยชน์ ซึ่งถือเป็นอาหารสมองชั้นดีสำหรับนักศึกษา

โดยความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้นักศึกษาระดับปริญญาโทจำนวนกว่า 2,000 คนของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญสามารถเปิดอ่านนิตยสาร CHIP ในรูปแบบ Digital Magazine ได้จากเครื่องพีซี โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ทุกรุ่นทุกยี่ห้อเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม

CHIP Digital Magazine เป็นนิตยสารในรูปแบบดิจิตอลที่สามารถเปิดอ่านได้บนทุกอุปกรณ์ ทั้งเดสก์ทอปพีซี โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต iPhone iPad ด้วยรูปแบบการนำเสนอแบบอินเทอแรคทีฟที่สวยงาม ทันสมัย ใช้งานง่าย ให้ความรู้สึกเพลิดเพลินกว่าการอ่านหนังสือจริง นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกเก็บไว้บนเครื่องพีซี โน้ตบุ๊ก ในรูปแบบไฟล์ PDF หรือสั่งพิมพ์เนื้อหาที่ต้องการออกมาอ่านได้อีกด้วย

CHIP Digital Magazine สามารถรองรับปริมาณผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเก็บข้อมูลไว้บนคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ EC2 ที่มีความปลอดภัย มีเสถียรภาพ และมีความเร็วสูง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าผู้อ่านจะสามารถเข้าถึงและอ่านเนื้อหาที่ต้องการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ทุกเวลาที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

สำหรับผู้สนใจ CHIP Digital Magazine สามารถสมัครสมาชิกได้ในราคา 600 บาท (จากราคารูปเล่มปกติ 1,140 บาท) จะได้รับ 12 เครดิต สำหรับเลือกอ่าน CHIP Digital Magazine ฉบับใดก็ได้เป็นจำนวน 12 ฉบับ หรือสามารถเลือกอ่านเล่มใดเล่มหนึ่งได้ในราคา 60 บาท (1 เครดิต) ทั้งนี้ หลังจากสมัครแล้วสมาชิกจะได้รับ Username, Password และ Credits สำหรับล็อกอินเพื่ออ่าน CHIP Digital Magazine โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งและระยะเวลาในการอ่าน สำหรับผู้สนใจ สามารถทดลองอ่าน CHIP Digital Magazine ได้ที่ http://chip.in.th/e_magazine/preview

View :1828

เอไอเอสแจ้งเกิด “ดิจิตอล แมกกาซีน”บนแท็บเล็ต

July 6th, 2011 No comments

เอไอเอสฉีกกรอบ ครีเอทกลยุทธ์ CRM รูปแบบใหม่ แจ้งเกิดดิจิตอล แมกกาซีนบนแท็บเล็ต ในชื่อ “” นิตยสารไลฟ์สไตล์สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ตอบสนองทุกสไตล์การใช้ชีวิตด้วยสิทธิพิเศษหลากหลายจากเอไอเอส ซึ่งออกแบบด้วยเทคนิคพิเศษในการผลิต เน้นสร้าง Interactive Experience ให้กับผู้อ่าน พร้อมวางแผงบนดิจิตอลสโตร์ให้ลูกค้าและผู้ที่สนใจดาวน์โหลดฟรี! ได้แล้ววันนี้ ในรูปแบบของแอพพลิเคชั่น รองรับทั้งบน iPad และ Android พร้อมยกเป็น Showcase แรกของวงการดิจิตอล แมกกาซีน ฉบับแรกและฉบับเดียวในภูมิภาคที่ผลิตโดยโอเปอร์เรเตอร์มือถือ หวังสร้างเป็นอาวุธใหม่ เจาะใจผู้บริโภคยุคดิจิตอล


นางวิลาสินี พุทธิการันต์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ เอไอเอส เปิดเผยว่า “เอไอเอสเราให้ความสำคัญและพิถีพิถันในการบริหารงานลูกค้า หรือ S (Service) หนึ่งใน Quality DNAs มาโดยตลอด ด้วยการมุ่งมั่นสรรหาสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษหลากหลาย มอบให้กับลูกค้าของเอไอเอสทุกท่าน ผ่านโปรแกรมการดูแลลูกค้ารูปแบบต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และด้วยเทรนด์ของสมาร์ทเก็ทเจ็ทที่กำลังมาแรงและเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทำให้เรามองเห็นช่องทางใหม่ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย และส่งมอบสิทธิพิเศษจากเอไอเอส เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ยิ่งขึ้น

ล่าสุด เอไอเอสจึงได้สร้างสรรค์ดิจิตอลแมกกาซีนแนวใหม่ ภายใต้ชื่อ “Serenade Magazine” นิตยสารไลฟ์สไตล์สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ตอบสนองทุกสไตล์การใช้ชีวิตสุดอินเทรนด์ ที่มาพร้อมสุดยอดสิทธิพิเศษอันหลากหลายจากเอไอเอส ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับบนสมาร์ทเก็ทเจ็ท ทั้ง iPad และ Android เพื่อให้ผู้อ่านได้รับอรรถรสและความเพลิดเพลินเหมือนกำลังอ่านนิตยสารเล่มโปรดสักเล่ม โดยวางแผงบนดิจิตอลสโตร์เท่านั้น พร้อมเปิดให้ลูกค้าเอไอเอสและผู้ที่สนใจดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “Serenade Magazine” ได้ฟรี! แล้ววันนี้ ผ่านทาง App Store บน iPad 1, iPad 2 และผ่านทาง Android Market สำหรับ Tablet อาทิ Samsung Galaxy Tab โดย Search คำว่า “Serenade Magazine”

“Serenade Magazine” เป็นดิจิตอลแมกกาซีนฉบับแรกและฉบับเดียวในภูมิภาคที่ผลิตโดยโอเปอร์เรเตอร์ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเอไอเอสตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเป็น Showcase แรกของวงการ ในการนำสื่อดิจิตอลมาพัฒนาเป็นเครื่องมือในการดูแลลูกค้า (CRM) ในรูปแบบที่แตกต่างจากเดิม ซึ่งนอกจากผู้อ่านจะได้รับสิทธิพิเศษสุดคุ้มพร้อมประสบการณ์ใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตแล้ว ยังเป็นการสร้าง Value เพิ่มให้กับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ร่วมจัดแคมเปญสิทธิพิเศษกับเอไอเอสอีกด้วย “Serenade Magazine” นี้ถือเป็นการผสมผสานทั้ง 3 เรื่อง สิทธิพิเศษ, ไลฟ์สไตล์ และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันอย่างลงตัวที่สุด” วิลาสินีกล่าว

ด้านนายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริการเสริม เอไอเอส กล่าวเสริม “ด้วยกระแสความนิยมของตลาด Tablet ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วนั้น ส่งผลให้สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการสรรหาตามมาก็คือ Application ที่ตอบโจทย์ตรงใจต่อการใช้งาน และหนึ่งในเทรนด์ใหม่ที่มาแรงในขณะนี้ คือ ดิจิตอลแมกกาซีน ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มีรูปแบบการเปิดตัวข้อมูลข่าวสารเปลี่ยนไปตามลักษณะของดีไวซ์ข้างกาย

สำหรับ Serenade Magazine เล่มนี้ จึงไม่ได้เพียงอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาคอนเทนต์ที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังโดดเด่นและแตกต่างตรงที่มีความเป็น Interactive Experience มีการใส่ลูกเล่นและกิมมิคสนุกๆ มาเซอร์ไพรส์ผู้อ่านตลอดเวลา โดยใช้เทคนิคพิเศษในการผลิต ด้วยการซ่อนไฟล์ดิจิตอลประเภทต่างๆ ให้ผู้อ่านได้มี Interactive กับเนื้อหา ได้คลิกค้นหาออกมาชม, ฟัง และเล่นได้ในทุกๆ คอลัมน์ อาทิ คลิปหนัง, เพลง รวมถึง Google Map แผนที่เดินทางไปร้านอาหารที่แนะนำ

นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคในการจัดวางเลย์เอาท์ ให้สามารถอ่านได้ทั้งแบบแนวนอนและแนวตั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับฟังก์ชั่นของ Tablet เอง อันเป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้อ่านด้วย ที่สำคัญ เมื่อโหลดมาเก็บไว้ที่เครื่องแล้ว จะเปิดอ่านที่ไหน เมื่อไรก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อออนไลน์ตลอดเวลา ยกเว้นเมื่อต้องการ Interactive เช่น เสิร์ช Google Map หรือเล่นเกมชิงรางวัล ต้องเชื่อมต่อเน็ตด้วย

ซึ่งปัจจุบัน เอไอเอสมีเครือข่ายที่มีศักยภาพและครอบคลุมมากที่สุด ทั้ง EDGE Plus, คลื่น 900 ด้วยความเร็วสูงสุด 21.6 Mbps. และล่าสุดกับเครือข่าย Wifi by AIS-3BB ที่ครอบคลุมกว่า 25,000 จุดทั่วประเทศ ทำให้ปัจจุบันลูกค้าเอไอเอสมีเครือข่ายคุณภาพให้เลือกใช้งานได้อย่างหลากหลายตามความเหมาะสม เราจึงมั่นใจว่าผู้อ่าน Serenade Magazine ฉบับนี้ จะได้รับอรรถรสในการอ่านอย่างเต็มที่ สามารถเชื่อมต่อชีวิตออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ” นายปรัธนากล่าว

“สำหรับโปรเจ็กท์ Serenade Magazine นี้เป็นการตอกย้ำการทำงานภายใต้แนวคิด Quality DNAs ที่สมบูรณ์แบบ เพราะต้องอาศัยศักยภาพความพร้อมทั้งในด้าน Device, Network, Application และ Service เข้าด้วยกัน ออกมาเป็นนวัตกรรมที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง” นางวิลาสินีกล่าวสรุป

Serenade Magazine เป็นนิตยสารราย 3 เดือน ฉบับแรกเป็นเล่มเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2554 ในคอนเซ็ปท์ “ความพิเศษเกิดขึ้นได้ทุกวัน” ประกอบด้วยคอลัมน์ทั้งหมด 13 คอลัมน์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการกิน ดื่ม ช้อปปิ้ง แฟชั่น ท่องเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ และสมาร์ทเก็ทเจ็ท รวมถึงบทสัมภาษณ์ของสไตล์ไอคอนที่น่าสนใจ ที่หลากหลายและเต็มอิ่มมาก โดยในแต่ละคอลัมน์จะมีสิทธิพิเศษจากเอไอเอสสอดแทรกเข้าไปเพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบ อีกทั้งยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ร่วมเล่นเพื่อลุ้นรางวัลท้ายเล่มอีกด้วย

ข้อมูล Serenade Magazine

“Serenade Magazine” เรียกได้ว่าเป็นไลฟ์สไตล์ดิจิตอลแมกกาซีนเล่มแรกและเพียงเล่มเดียวในภูมิภาคที่ผลิตโดยโอเปอร์เรเตอร์ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งวางแผงบนดิจิตอลออนไลน์เท่านั้น โดยวัตถุประสงค์ในการจัดทำแมกกาซีนเล่มนี้ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อ่านที่ชื่นชอบและเกาะติดเทคโนโลยี Smart Phone หรือ Tablet ต่างๆ ได้รับความบันเทิงได้ทุกที่ทุกเวลา

แนวคิด Serenade Magazine คือ “ความพิเศษเกิดขึ้นได้ทุกวัน” นั่นคือตอบทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตด้วยสิทธิพิเศษที่หลากหลายจากเอไอเอส และการจัดวางเลย์เอ้าท์ที่ให้สามารถอ่านได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รวมทั้งมีกิมมิคพิเศษ ตรงลูกเล่น Interactive ต่างๆ ที่ฝังไว้ภายในแต่ละคอลัมน์ อาทิ ลิงค์วีดีโอ, ลิงค์ฟังเพลง หรือแม้กระทั่ง Google Map แผนที่เดินทางไปร้านอาหารที่แนะนำภายในเล่ม ผู้อ่านก็สามารถเดินทางไปได้เลย

เนื้อหาภายใน Serenade Magazine ประกอบไปด้วยคอลัมน์ทั้งหมด 13 คอลัมน์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ กิน ดื่ม ท่องเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ แฟชั่น บทสัมภาษณ์ไลฟ์สไตล์ไอคอนที่น่าสนใจที่หลากหลายและเต็มอิ่มมาก นอกเหนือจากนั้นแล้ว ในแต่ละคอลัมน์จะมีการสอดแทรกสิทธิพิเศษเพื่อให้ผู้อ่านได้รับทราบ และยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้เล่นชิงรางวัลท้ายเล่มอีกด้วย

Serenade Magazine ไม่ได้จัดทำขึ้นมาสำหรับลูกค้าเอไอเอสเท่านั้น เพียงแค่ท่านมี Gadget ที่รองรับก็สามารถดาวน์โหลดได้ เพราะเอไอเอสมุ่งหวังให้ท่านได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และรับทราบถึงความตั้งใจของ    เอไอเอสในการมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า เพื่อในอนาคตเอไอเอสจะได้มีโอกาสรับใช้ท่านทุกคน

How to :
Gadget ที่รองรับ Serenade Magazine ได้แก่
o    iPad1, iPad2 ตั้งแต่ iOS 4.1 ขึ้นไป
o    Samsung Galaxy Tab ตั้งแต่ Firmware 2.2 ขึ้นไป
ขั้นง่ายๆ ของการดาวน์โหลด Serenade Magazine สำหรับ iPad
1.    เข้าไปที่ App Store
2.    Search คำว่า Serenade Magazine
3.    กดที่ปุ่ม Free เพื่อทำการ download แล้ว Install Application
4.    Icon Serenade Magazine จะปรากฏที่หน้าจอ ipad ของคุณ
ขั้นง่ายๆ ของการดาวน์โหลด Serenade magazine สำหรับ Samsung Galaxy Tab
1.    เข้าไปที่ Android Market
2.    Search คำว่า Serenade Magazine
3.    กดที่ปุ่ม Install เพื่อทำการ Install Application
4.    Icon Serenade Magazine จะเข้าไปอยู่ในหน้า Application ของคุณ

คอลัมน์ภายใน Serenade Magazine
ประกอบไปด้วยความพิเศษที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่หลากหลายเพื่อตอบรับกับทุก Lifestyle พร้อมด้วยสิทธิพิเศษมากมาย ประกอบด้วยคอลัมน์ต่างๆ ดังนี้
    Editor’s Talk: สาส์นจากบรรณาธิการ
    Socialize : ภาพข่าวกิจกรรมต่างๆ
    Style : สัมภาษณ์ Celeb เกี่ยวกับ Lifestyle ของตัวเองในด้านต่างๆ
    Take a Seat : รีวิวเรื่องเกี่ยวกับหนังในด้านต่างๆ พร้อมแนะนำหนังใหม่
    Book on Shelf : แนะนำหนังสือน่าอ่านทั้งแบบ Online และ Offline
    Sounds Good : รวมเพลงสุดฮิตหรือ Calling Melody สุดฮอต พร้อม Tips ในการ Download Calling Melody
    Smart Gadget : แนะนำ Gadget และ Smart Phone พร้อมแพ็คเกจสุดคุ้ม
    Everyday Special : ช่วงเวลาพิเศษในชีวิตของ 5 บุคคลจากหลากหลายอาชีพ
    SClub : แนะนำ Serenade Club
    Savoury : แนะนำร้านอาหาร พร้อมรับส่วนลดพิเศษ
    Special Moments : แนะนำแหล่งท่องเที่ยวสุดพิเศษ พร้อม Tips & Trick เกี่ยวกับการใช้งานมือถือเมื่ออยู่ต่างประเทศ
    Surprize : ร่วมเล่นเกมส์ง่ายๆ พร้อมรับขอรางวัลมากมาย
    All Privileges : สรุปรวมสิทธิพิเศษจาก AIS

View :1994