Archive

Archive for the ‘Telecom’ Category

WiFi จากทรูมูฟ เอช คว้ารางวัลนวัตกรรมระดับโลก Best Next Generation Hotspot (NGH) Initiative Award จาก WBA Wi-Fi Global Congress ประเทศสหรัฐอเมริกา

November 21st, 2012 No comments

กรุงเทพฯ 21 พฤศจิกายน 2555 – กลุ่มทรูโดย ทรูมูฟ เอช ผู้นำบริการ WiFi และ 3G ในประเทศไทย ได้รับรางวัล WBA WiFi Industry Awards 2012 ประเภท “Best Next Generation Hotspot (NGH) Initiative Award” จากบริการ Next Generation Hotspot ในงานประชุม WBA Wi-Fi Global Congress ระดับโลกที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ตอกย้ำความเป็นผู้นำของทรูมูฟ เอช ที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเครือข่ายการสื่อสารไร้สายให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

มร. ชริแคนต์ เฌนวาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไวร์เลส บรอดแบนด์ อัลไลแอนซ์ (Wireless Broadbrand Alliance) หรือดับเบิลยูบีเอ กล่าวว่า “ดับเบิลยูบีเอ รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้มอบรางวัลแห่งความสำเร็จดังกล่าวให้แก่สมาชิกของดับเบิลยูบีเอจากทั่วโลก ที่ได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนตลาดการสื่อสารไร้สายแบบไว-ไฟยุคใหม่ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต”

สำหรับรางวัล WBA Wi-Fi Industry Award 2012 เป็นรางวัลที่เปิดให้สมาชิกผู้ให้บริการสื่อสารทุกรายจากทั่วโลก ส่งโครงการเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการของดับเบิลยูบีเอ ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ได้แก่ นักวิเคราะห์ สื่อมวลชน และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการสื่อสาร โดยมี มร.โจ แมดเด็น หัวหน้านักวิเคราะห์ กลุ่มธุรกิจการสื่อสารไร้สาย บริษัท โมบายล์ เอ็กซ์เพิร์ทส์ แอลแอลซี เป็นประธาน ซึ่งรางวัลทั้งหมดมี 5 ประเภท ได้แก่ Best Next Generation Hotspot (NGH) Initiative Award, Best Wi-Fi Service Innovation Award, Best Wi-Fi Technology Innovation Award, Most Innovative Hotspot Venue และ Best New Ventures or Business Plan”

นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “เป็นความภูมิใจของทรูมูฟ เอช ที่เป็นบริษัทสื่อสารไทยเพียงรายเดียวที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล และได้รับรางวัล WBA Wi-Fi Industry award 2012 ประเภท “Best Next Generation Hotspot (NGH) Initiative Award” ซึ่งรางวัลนี้ จะเป็นกำลังใจให้กลุ่มทรูมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและประสิทธิภาพในการสื่อสาร เพื่อสร้างความสะดวกและความปลอดภัยสูงสุดในการใช้งานของลูกค้า อีกทั้งยังตอกย้ำความเป็นผู้นำการสื่อสารไร้สายและผู้นำทางด้านกลยุทธคอนเวอร์เจนซ์เพียงรายเดียวของไทย ให้ลูกค้าใช้ชีวิตอิสระยิ่งขึ้น ผ่านการเชื่อมโยงบรอดแบนด์ไร้สายระหว่างเทคโนโลยี 3G และ WiFi อย่างราบรื่น”

นายสุพจน์ มหพันธ์ ผู้อำนวยการ ด้านธุรกิจบริการระหว่างประเทศ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า โครงการนำร่องทดสอบนวัตกรรมเทคโนโลยี Next Generation Hotspot ที่ WiFi by TrueMove H ร่วมกับ ซิสโก้ ออกแบบโครงข่ายและทดสอบใช้งานจริงเป็นครั้งแรกในเอเชีย จะเชื่อมโยงสัญญาณระหว่าง WiFi และ 3G อย่างอัตโนมัติ ซึ่งจุดเด่นของเทคโนโลยี Next Generation Hotspot คือ เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งาน เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์เชื่อมโยงบรอดแบนด์ไร้สายผ่านซิมการ์ด และโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ โดยเลือกโครงข่าย WiFi Hotspot ให้อัตโนมัติ ลูกค้าไม่ต้องจำ SSID (Service Set IDentifier) ไม่ว่าจะใช้งานที่ใดทั่วโลก และด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ระบบจะจดจำข้อมูลผู้ใช้ผ่านซิมการ์ด จึงล็อกอินใช้งานได้โดยไม่ต้องพิมพ์ Username และ Password ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ายังมั่นใจได้ว่าการใช้งานจะปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากล เพราะเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลด้วยระบบ WPA2-Enterprise (WiFi Protected Access 2) ที่นำคุณลักษณะในระบบเครือข่ายองค์กรแบบส่วนตัว มาไว้ในระบบเครือข่ายฮอตสปอตสาธารณะ เพื่อลดการโจมตีจากภายนอกได้ เช่น การปลอมแปลง SSID เป็นชื่อเดียวกัน การเจาะดูข้อมูล และการบุกรุกเข้ามาในระบบ เป็นต้น ทั้งนี้ ทรูมูฟ เอช ได้เปิดให้ผู้สนใจทดลองสัมผัสประสบการณ์ดังกล่าวที่ทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 และ ทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับรางวัลดับเบิลยูบีเอ อวอร์ด ประจำปี 2555 (WBA Awards 2012) สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.wballiance.com/awards

View :1263

บริการดาต้าโรมมิ่งจากดีแทคเปิดบริการสมัครครั้งเดียว สนุกได้ทั่วโลก

November 21st, 2012 No comments


ด้วยแพ็กเกจสบายใจไม่ต้องเลือกเครือข่าย 350 บาทต่อวัน พร้อมฟรี WiFi roaming

21 พฤศจิกายน 2555 – แนะนำบริการดาต้าโรมมิ่งใหม่ สมัครครั้งเดียว สนุกได้ทั่วโลก รายแรกที่อำนวยความสะดวกลูกค้าที่ใช้บริการดาต้าโรมมิ่ง เพื่อเพิ่มความสบายใจร่วมกับการใช้แพ็กเกจอัตราเดียวไม่ต้องเลือกเครือข่าย 350 บาทต่อวัน

นายปกรณ์ มโนรมย์ภัทรสาร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดธุรกิจโพสต์เพด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า “ช่วงปลายปีนี้ ดีแทคเปิดตัวบริการใหม่ด้านดาต้าโรมมิ่งเพื่อเอาใจลูกค้าที่นำสมาร์ทโฟนไปใช้งานในต่างประเทศ โดยเราเป็นรายแรกที่แนะนำบริการ สมัครครั้งเดียว สนุกได้ทั่วโลก เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าที่เดินทางบ่อยครั้งและไม่สะดวกที่จะสมัครบริการก่อนเดินทางทุกครั้ง บริการของเรานอกจากจะให้ความสะดวกแล้วยังจะให้ประโยชน์กับลูกค้าในการช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย โดยลูกค้าสามารถใช้แพ็กเกจดาต้าโรมมิ่ง 350 บาทต่อวันได้อย่างต่อเนื่องจากการสมัครเพียงครั้งเดียว และใช้งานดาต้าได้วันละ25 เมกกะไบต์ (MB) ทุกเครือข่ายใน 50 ประเทศทั่วโลก พร้อมกันนั้นยังสามารถใช้บริการฟรี wifi ในต่างประเทศแบบไม่จำกัดได้ด้วย หากลูกค้าใช้งานเกิน 25MB ค่าบริการดาต้าส่วนเกินเพียงเมกกะไบต์ละ 12 บาทเท่านั้น หรือในกรณีที่ใช้งานไม่ถึงราคาของแพ็กเกจ ลูกค้าชำระค่าบริการตามที่ใช้งานจริง”

สำหรับลูกค้าที่เดินทางต่อเนื่องเป็นเวลานาน ลูกค้ายังสามารถเลือกใช้แพ็กเกจดาต้าโรมมิ่ง 2,599 บาท สำหรับการใช้งาน 500 MB ในระยะเวลา 7 วัน โดยลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจก่อนการเดินทางได้ที่ดีแทคฮอลล์ทั่วประเทศ หรือ โทร 1678 ดีแทคคอลเซ็นเตอร์ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th

View :1502

เตือนผู้บริโภครู้ทันบริการ 3G

October 19th, 2012 No comments

อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เตือนผู้บริโภคไทยให้รู้ทันบริการ 3G เผยแพ็คเกจที่ขึ้นป้าย Unlimited แท้จริงแล้วจำกัดเงื่อนไขบริการด้วยนโยบาย Fair Use Policy แนะผู้ประกอบการลบคำว่า Unlimited ออกจากแพ็คเกจ 3G เพื่อป้องกันความสับสน พร้อมเสนอว่าค่าบริการ 3G ของไทยควรถูกสุดในอาเซียน เพราะตั้งราคาประมูลไว้ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน

ภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2555 ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ พร้อมด้วยอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม อีกจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับสภาพปัญหาที่พบจากบริการ 3G ของไทยในปัจจุบัน โดยระบุว่า เรื่องร้องเรียนที่เข้ามายังกลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (รท.) สำนักงาน กสทช. ในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ผู้ใช้บริการได้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับอัตราความเร็วของบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบริการ 3G อย่างต่อเนื่อง แต่มักได้รับคำอธิบายจากผู้ประกอบการว่าบริการ 3G มีเงื่อนไขเรื่อง หรือนโยบายในการบริหารจัดการให้ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสามารถใช้บริการได้อย่างเท่าเทียม ซึ่งเงื่อนไขนี้มีการแจ้งต่อผู้ใช้บริการแล้ว

อย่างไรก็ดี การให้บริการ 3G ในปัจจุบันพบว่าแพ็คเกจที่ให้บริการมักมีคำว่า Unlimited หรือไม่จำกัด พ่วงท้าย ทำให้ผู้ใช้บริการเข้าใจว่าสามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ไม่จำกัด ทั้งที่ในอเท็จจริงกลับมีเงื่อนไขของบริการ กล่าวคือ สามารถใช้อินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูงสุดได้ในปริมาณข้อมูลที่จำกัดไว้ในแต่ละแพ็คเกจ เช่น 2GB หรือ 5GB หลังจากนั้นความเร็วของการส่งผ่านข้อมูลของอินเทอร์เน็ตจะลดลงในระดับ EDGE คือ 384 kbps หรือ 64 Kbps เป็นต้น

ดร.เดือนเด่น กล่าวอีกว่า จากการศึกษาพบว่า นโยบาย FUP นั้นมีใช้กันในทุกประเทศที่ให้บริการ 3G หรือ 4G ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาที่ผู้ใช้บริการกลุ่มหนึ่งจะใช้ข้อมูลจำนวนมาก เช่น การดาวน์โหลดวีดีโอทั้งวัน การแชร์ข้อมูลตลอดเวลา จนทำให้ผู้ใช้บริการรายอื่นไม่สามารถใช้บริการได้ แต่ในต่างประเทศนั้นมีการกำหนดนโยบาย FUB ในรูปแบบที่หลากหลายและไม่แก้ปัญหาด้วยวิธีการให้ผู้ใช้บริการทุกคนออกจาก 3G ไปเป็น EDGE โดยรูปแบบ FUB ที่ใช้ในต่างประเทศมีดังนี้

1. หากผู้ใช้บริการใช้ปริมาณข้อมูลจนครบกำหนด เช่น 10GB แต่ก็ยังสามารถใช้บริการ 3G ได้ในบริการ อินเทอร์เน็ต บราวเซอร์ แต่จะห้ามใช้ในกิจกรรมที่ใช้ข้อมูลจำนวนมาก เช่น VDO Streaming, peer to peer sharing เป็นต้น

2. มีการกำหนดระยะเวลาสำหรับผู้บริโภคที่ใช้บริการประเภท high data ในช่วง peak time เช่น ช่วงเวลา 18.00-20.00 น. เป็นช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากห้ามใช้บริการประเภท high data

สำหรับแนวทางแก้ปัญหาที่ต่างประเทศใช้กันนั้น ดร.เดือนเด่น กล่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมในประเทศอังกฤษ คือ ออฟคอม ได้กำหนด Code of Conduct หรือหลักการปฏิบัติในการให้บริการ 3G ไว้ชัดเจนว่า 1.) ผู้ให้บริการต้องใช้ตัวอักษรในขนาดที่เท่ากันกับคำว่า “unlimited” ในการให้ข้อมูลกับผู้บริโภค ทั้งส่วนที่เป็นข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ หมายถึงการไม่มี * และตามด้วยตัวอักษรขนาดเล็ก 2.) ในเนื้อหาของโฆษณา 3G จะต้องบอกเงื่อนไขรายละเอียดและข้อจำกัดของบริการ และห้ามไม่ให้ใช้คำว่า “ไม่จำกัด”หรือ Unlimited เพื่อผู้บริโภคจะได้แยกออกได้ระหว่าง แพ็คเกจบริการ ที่ไม่จำกัดจริงๆ กับแพ็คเกจที่ไม่จำกัดแต่มีเงื่อนไขที่จำกัดการใช้งาน 3.) การโฆษณาอัตราความเร็วสูงสุด เช่น 42 Mbps ต้องให้ข้อมูลด้วยว่า จำนวนผู้ใช้บริการที่สามารถดาวน์โหลดด้วยความเร็วดังกล่าวนั้นคิดเป็นร้อยละเท่าไหร่ของจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด 5.) ต้องแจ้ง Typical Speed Range (TSR) หรืออัตราความเร็วมาตรฐานกลางที่คนส่วนมากจะสามารถดาวน์โหลดได้สูงสุดไว้ในโฆษณา 6.) ในกรณีที่มีการตัดผู้ใช้บริการออกจากระบบ 3G หรือ4G ต้องบอกด้วยว่า TSR ที่ผู้ใช้บริการจะใช้ได้คือเท่าใด

“ในประเทศไทยเราคงต้องมาคิดกันว่า การให้บริการ 3G ควรที่จะใช้คำว่า Unlimited อีกหรือไม่ ทั้งที่ความเร็วมีจำกัด แต่แพ็คเกจใช้ Unlimited แล้วมีเงื่อนไขที่ตัวเล็กมาก ประการที่สองการแจ้งรายละเอียดเงื่อนไขบางประการ ผู้ให้บริการไม่ได้แจ้งเมื่อโฆษณา เช่น อัตราความเร็วสูงสุด 42 Mbps ที่ผู้ใช้บริการจะได้รับ ก็ควรแจ้งไปด้วยว่า จะได้ใช้จริงตอนตี3 และบ้านต้องอยู่ใกล้เสาไม่เกิน 500 เมตร ก็ต้องบอกผู้บริโภค“ ดร.เดือนเด่นกล่าว

View :1856
Categories: 3G, Telecom Tags:

ดีแทค ประกาศผลประกอบการไตรมาสสาม ปี 2555

October 19th, 2012 No comments

บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ มีรายได้รวมของไตรมาสสามปี 2555 เท่ากับ 21.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งร้อยละ 8.2 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากการเพิ่มขึ้นของรายได้บริการเสริมและรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์ ซึ่งเป็นผลจากความนิยมอย่างต่อเนื่องในการใช้บริการอินเทอร์เน็ต เครื่องสมาร์ทโฟน และแอพพลิเคชั่นเครือข่ายสังคมออนไลน์

EBITDA ของไตรมาสสามปี 2555 เท่ากับ 6.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.4 จากไตรมาสก่อน จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง แต่ลดลงร้อยละ 5.1 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักยังคงเป็นอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิของไตรมาสนี้เท่ากับ 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 จากไตรมาสก่อน แต่ลดลงร้อยละ 6.3 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

การเติบโตของผู้ใช้บริการของดีแทคปรับตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากไตรมาสก่อน และจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสสามปี 2555 นี้ ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิ 256,706 ราย ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสสามปี 2555 ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 23.9 ล้านราย โดยมีผู้ใช้บริการรายเดือนคิดเป็นร้อยละ 10.8 ของผู้ใช้บริการทั้งหมด

ณ สิ้นไตรมาสสามปี 2555 ดีแทคมีจำนวนสถานีฐานสำหรับการให้บริการ 3G บนคลื่น 850 MHz ประมาณ 3,500 สถานีฐานในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และในอีก 42 จังหวัด ทั้งนี้ ยังคงมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสถานีฐานเป็นกว่า 5,000 สถานีฐาน ให้ครอบคลุมทั่วประเทศสำหรับการให้บริการ 3G บนคลื่น 850 MHz ภายในสิ้นปี 2555 และคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าเป็นอย่างมากสำหรับโครงการเปลี่ยนอุปกรณ์เครือข่าย (Network Swap) โดยได้ดำเนินการแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 70

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2555 บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด (บริษัทในเครือของดีแทค) ได้เข้าร่วมประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับย่าน 2.1 GHz ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และต่อมา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ศกนี้ บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด ได้รับแจ้งจาก กสทช. ว่า บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด เป็นหนึ่งในผู้ชนะการประมูลอย่างเป็นทางการ โดย บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด มีสิทธิที่จะได้รับใบอนุญาตให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับจากวันที่ประกาศผู้ชนะการประมูล

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “เรามีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจในไตรมาสที่สามของปีนี้ โดยมีรายได้รวมที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึงร้อยละ 8.2 เรามีจำนวนผู้ใช้บริการสุทธิเพิ่มขึ้นอีกกว่า 250,000 คน ในขณะเดียวกัน แผนงานการขยายโครงข่าย 3G และโครงการยกระดับอุปกรณ์เครือข่ายทั่วประเทศก็ก้าวรุดหน้าเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่า เราจะสามารถดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ตามแผนได้ภายในสิ้นปีนี้ และที่สำคัญคือ เรารู้สึกตื่นเต้นกับการที่บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด ชนะการประมูลสำหรับใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2.1 GHz ด้วยเหตุนี้ เราค่อนข้างที่จะเล็งผลเลิศสำหรับไตรมาสที่เหลืออีกหนึ่งไตรมาสของปีนี้ และมีความมุ่งมั่นยิ่งขึ้น ที่จะใช้ความพยายามมากขึ้นในการมอบบริการและประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา”

View :1361

คำชี้แจงจากดีแทค เรื่องมาตรการการชดเชยให้กับลูกค้าผู้ถูกผลกระทบจากเหตุการณ์วันที่ 28 สิงหาคม 2555

August 30th, 2012 No comments

ตามที่ได้มีผู้สอบถามเกี่ยวกับมาตรการของดีแทคในการชดเชยให้กับลูกค้าผู้ถูกผลกระทบจากเหตุขัดข้องในการใช้บริการ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2555 นั้น บริษัทฯ ใคร่ขอชี้แจง ดังต่อไปนี้

· บริษัทฯ กราบขออภัยเป็นอย่างยิ่งต่อลูกค้าของบริษัทฯ ผู้ถูกผลกระทบ สำหรับความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น
· ลูกค้าของเรามีความสำคัญเป็นอันดับแรก และบริษัทฯ มีความมุ่งมั่น ที่จะให้บริการที่ดีที่สุด เพื่อความพึงพอใจของลูกค้าของเราในทุกเวลา
· บริษัทฯ เห็นว่า มาตรการการชดเชยที่บริษัทฯ ได้กำหนดขึ้น พร้อมวิธีการปฏิบัติ มีความเหมาะสมตามสมควร สำหรับ ความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นต่อลูกค้าของเรา
· ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้าของบริษัทฯ จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ศกนี้ มีวงจำกัด รวมเวลาทั้งสิ้นที่ส่งผลกระทบต่อลูกค้า ประมาณ 65 นาที โดยสามารถแบ่งออกเป็นช่วงเวลาคร่าวๆ ช่วงละประมาณ 30 นาที ระหว่างเวลา 11.06 น. ถึง 11.20 น. และอีกครั้งหนึ่งระหว่างเวลา 12.00 น. ถึง 12.45 น.
· จำนวนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้นมีประมาณไม่เกินร้อยละ 20 ของหมายเลขของลูกค้าทั้งหมด ซึ่งบริษัทฯ ตระหนักว่า มีลูกค้าเพียงบางส่วนในจำนวนดังกล่าว ที่พยายามทำการโทรออก หรือรับสายในช่วงเวลาดังกล่าว
· ได้คำนึงถึงข้อมูลข้างต้น ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าว มิได้เลือกปฏิบัติ หากแต่ต้องการมุ่งชดเชยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
· การมอบเวลาโทรฯ ฟรี ให้กับลูกค้าของเรา ทั้งลูกค้าประเภทรายเดือนและเติมเงิน นั้น เป็นการชดเชย โดยเฉลี่ยประมาณ 10 เท่าของการใช้งานตามปกติของลูกค้าทั้งสองกลุ่ม ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่า เป็นการชดเชยที่ยุติธรรมและสมเหตุผล ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทฯ จำเป็นต้องจำกัดเวลาสำหรับการใช้เวลาโทรฯ ฟรีดังกล่าว โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าประเภทเติมเงิน นั้น ก็เนื่องด้วยลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เป็นกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯ และบริษัทฯ ต้องการให้แน่ใจว่า การใช้เวลาโทรฯ ฟรี ของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว จะไม่ก่อผลกระทบต่อการใช้งานโทรศัพท์ของลูกค้ากลุ่มอื่น ในช่วงเวลาการใช้บริการแออัด
· นอกจากนี้ มาตรการชดเชยของบริษัทฯ ยังได้คำนึงถึง กลุ่มลูกค้าที่ใช้ซิมการ์ดอินเทอร์เน็ตอีกด้วย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ จะได้รับการชดเชยในลักษณะที่ใกล้เคียงกันกับกลุ่มลูกค้าประเภทซิมการ์ดเพื่อการโทรฯ เข้าออก
· บริษัทฯ ต้องกราบขออภัยเป็นอย่างยิ่งสำหรับการโทรฯ ที่หนาแน่นในช่วงเช้าของวันที่ 29 สิงหาคม ศกนี้ สำหรับหมายเลขบริการลูกค้า ที่บริษัทฯ ขอให้ลูกค้า โทรฯ แจ้งความประสงค์เพื่อรับการชดเชย หมายเลขบริการลูกค้าดังกล่าวสามารถรองรับการใช้งานของลูกค้าได้วันละประมาณ 1.2 ล้านรายต่อวัน ซึ่งเราเชื่อว่า ภายในวันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม ศกนี้ บริษัทฯ น่าจะสามารถรองรับความประสงค์ของลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบได้อย่างครบถ้วน อย่างไรก็ดี บริษัทฯ จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาว่า จะมีความจำเป็นหรือไม่ที่จะยืดเวลาการโทรฯ เข้าให้กับลูกค้าออกไปอีก
· บริษัทฯ ใคร่ขอความกรุณาให้ลูกค้า โทรฯ เวลาใดก็ได้ตามแต่ที่ท่านสะดวก ระหว่างวันที่ 29 ถึง 31 สิงหาคม ศกนี้ โดยไม่มีความจำเป็นต้องรีบเร่งแต่อย่างใด พนักงานของบริษัทฯ พร้อมที่จะให้บริการแก่ท่านตลอด 24 ชั่วโมง บริษัทฯ เชื่อว่า เราน่าจะสามารถดูแลความต้องการของลูกค้าทุกท่านได้อย่างทั่วถึง
· สุดท้ายนี้ พวกเราที่ ขอกราบขออภัยลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบ และความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณสำหรับอุปการคุณของทุกท่าน บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ต่อ คุณภาพของระบบเครือข่าย และบริการของบริษัทฯ รวมทั้งเชื่อมั่นในพนักงานทุกคนของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นในการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดของบริษัทฯ คือการให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา ด้วยความหวังว่า ลูกค้าของเราในวันนี้ จะเป็นลูกค้าของเราตลอดไป

View :1584

ศาลยกฟ้องคดี 107 บาท คำสั่ง กทช. ชอบแล้ว ผู้บริการโทรศัพท์ไม่มีสิทธิเก็บเงินค่าเชื่อมต่อสัญญาณใหม่จากผู้บริโภค

August 16th, 2012 No comments

ศาลปกครองกลางพิพากษายกฟ้องคดีที่เอไอเอสเป็นโจทย์ฟ้อง กทช. ตุลาการผู้แถลงคดีชี้การออกคำสั่งห้ามเรียกเก็บค่าเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์ภายหลังถูกระงับบริการ จำนวน 107 บาท ชอบด้วยเหตุผลและกฎหมายแล้ว กสทช. ประวิทย์เรียกร้องผู้ให้บริการปฏิบัติตามคำสั่งที่ถูกต้อง

สืบเนื่องจากกรณีที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทช. ได้ออกคำสั่งที่ 08/2552 เรื่อง ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตเรียกเก็บค่าบริการการขอเปิดใช้บริการภายหลังถูกระงับการให้บริการ จำนวน 107 บาท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2552 และ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ของประเทศ เห็นว่าคำสั่งของ กทช. ออกโดยไม่ชอบ จึงฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 เป็นคดีดำที่ 1808/2552 ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา องค์คณะตุลาการศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาคดีดังกล่าวแล้ว โดยมีคำตัดสินเป็นที่สุดว่าให้ยกฟ้อง เนื่องจากโจทก์ยื่นฟ้องพ้นกำหนดระยะเวลา

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านั้น ตุลาการผู้แถลงคดีได้พิจารณาในส่วนเนื้อหาคดี และชี้ว่า คำสั่งของ กทช. ชอบทั้งเหตุผลและกฎหมายแล้ว

“นั่นหมายถึงว่า ตุลาการผู้แถลงคดีเห็นด้วยกับ กทช. ว่า ผู้ประกอบกิจการไม่มีสิทธิเรียกเก็บค่าเชื่อมต่อสัญญาณใหม่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเท่าใด ส่วนศาลนั้นไม่ได้พิจารณาเนื้อหา เนื่องจากเพียงพิจารณาประเด็นแรกเรื่องเงื่อนไขการฟ้องก็ไม่ผ่านแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ผมก็หวังว่า ผู้ประกอบการจะยอมรับและทำตามกติกา เพราะก่อนหน้าที่ กทช. จะมีคำสั่งนี้ออกมา ต้องถือว่าผู้ประกอบการเรียกเก็บเงินอันไม่ควรได้จากผู้บริโภคไปมากแล้ว” นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. กล่าว

นายประวิทย์ กล่าวถึงความเป็นมาของเรื่องนี้ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาก่อนปี พ.ศ. 2552 นั้น ทางผู้ให้บริการโทรศัพท์ ทั้งประเภทพื้นฐานและเคลื่อนที่ ต่างมีการเรียกเก็บค่าเปิดบริการใหม่หลังระงับบริการ หรือค่า reconnection charge จากผู้ใช้บริการหรือผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่ทราบกันว่าเสมือนเป็นบทลงโทษสำหรับผู้บริโภคที่ชำระค่าบริการล่าช้าจนกระทั่งเกิดการระงับบริการหรือตัดสัญญาณโทรศัพท์ ดังนั้นเมื่อนำเงินไปชำระและขอต่อสัญญาณใหม่ ก็จะมีการเรียกเก็บเงินจำนวน 100 บาท หรือบางรายเรียกเก็บถึง 200 บาท รวมภาษีมูลเพิ่มแล้วเป็นจำนวน 107 บาท และ 214 บาท ตามลำดับ

ทั้งนี้ คำสั่งของ กทช. ที่ห้ามเก็บเงินดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากมีกรณีร้องเรียนจากผู้บริโภค ที่เห็นว่า การเรียกเก็บเงินนี้เป็นการทำผิดกฎหมาย เพราะอยู่นอกกรอบค่าบริการที่ กทช. อนุญาต อีกทั้งในข้อเท็จจริงแล้ว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเปิดสัญญาณใหม่ให้ใช้บริการโทรศัพท์นั้นแทบไม่ต้นทุนใดๆ เนื่องจากเป็นการต่อผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ กทช. ต้องวินิจฉัยเรื่องนี้และออกคำสั่งห้ามดังกล่าวเป็นการทั่วไป

View :1681
Categories: Telecom Tags:

ร้องเรียนครึ่งปี 55 ย้ำสัญญาณมือถือมีปัญหา

July 31st, 2012 No comments

ผลร้องเรียนโทรคมนาคมครึ่งแรกปี 55 ชี้ชัด ปัญหาด้านคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการพุ่งขึ้นครองอันดับหนึ่ง โดยพบการร้องเรียนมากในทุกประเภทบริการ รองลงมาคือปัญหาการคิดค่าบริการผิดพลาดที่เคยครองแชมป์ในปีก่อนๆ รวมสองปัญหานี้มียอดร้องเรียนเกินครึ่ง เฉพาะด้านบริการมือถือนั้น ปัญหาหลักคือเรื่องการกำหนดอายุการใช้งานโทรศัพท์ระบบเติม ซึ่งมีผู้ร้องเรียนมากถึง 1 ใน 4 ของเรื่องร้องเรียนด้านมือถือทั้งหมด ในขณะที่ปัญหา SMS และปัญหาการแจกซิมฟรีที่ทำให้เกิดค่าบริการภายหลัง ยังคงมีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก

จากสถิติการร้องเรียนปัญหาจากการใช้บริการด้านโทรคมนาคม ตั้งแต่ 1 ม.ค.- 30 มิ.ย 2555 พบว่า มีเรื่องร้องเรียนเข้ามายังสำนักงาน กสทช. จำนวน 993 เรื่อง ในจำนวนนี้เป็นปัญหาจากการใช้บริการโทรศัพท์มือถือมากที่สุด จำนวน 724 เรื่อง หรือประมาณร้อยละ 73 ที่เหลือเป็นปัญหาจากการใช้บริการอินเทอร์เน็ต 160 เรื่อง ปัญหาจากการใช้บริการโทรศัพท์พื้นฐาน 82 เรื่อง ปัญหาเกี่ยวกับสถานีวิทยุคมนาคม 24 เรื่อง และเรื่องอื่นๆ อีก 3 เรื่อง

นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวถึงประเด็นที่เป็นข้อร้องเรียนหลักในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ว่า เมื่อมองในภาพรวมจากบริการ 4 ประเภท เรื่องร้องเรียนที่มีปริมาณมากที่สุดคือคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ โดยมีสัดส่วนการร้องเรียนสูงถึงร้อยละ 26 ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด ส่วนเรื่องการคิดค่าบริการผิดพลาดมีสัดส่วนการร้องเรียนประมาณร้อยละ 24

“เรื่องคิดค่าบริการผิดพลาดเคยเป็นข้อร้องเรียนอันดับหนึ่งในช่วงปีก่อนๆ และในข้อเท็จจริงก็ยังเป็นเรื่องร้องเรียนหลัก เพียงแต่เมื่อมองในภาพรวม ประเด็นคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการอาจจะมีความหมายกว้างกว่า และพบการร้องเรียนได้ในทุกประเภทบริการ ซึ่งความหมายในส่วนของโทรศัพท์มือถือจะครอบคลุมตั้งแต่ปัญหาเรื่องสัญญาณ เช่น ล่ม หลุด ไม่ชัด ต่อติดยาก จนถึงปัญหาคุณภาพเน็ตผ่านมือถือไม่ดี ใช้บริการที่สมัครไม่ได้ ซึ่งก็ตรงกับความรู้สึกของผู้ใช้บริการทั่วไปที่ในระยะหลังมีการบ่นกันมากในเรื่องคุณภาพสัญญาณ เช่นเดียวกับบริการอินเทอร์เน็ตก็จะเป็นปัญหาเรื่องความเร็วและคุณภาพสัญญาณ ในขณะที่โทรศัพท์พื้นฐานจะเป็นเรื่องโทรศัพท์เสีย ส่วนในกรณีสถานีวิทยุคมนาคมหมายถึงปัญหาความกังวลในเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ”

อย่างไรก็ตาม หากดูเฉพาะบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จะพบว่า ประเด็นที่เป็นข้อร้องเรียนหลักยังคงมาจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือระบบเติมเงินที่เดือดร้อนจากการถูกกำหนดวันหมดอายุ ทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้ทั้งที่ยังมีเงินเหลืออยู่ในระบบ และกรณีเติมเงินช้ากว่ากำหนดก็จะถูกยึดเงินพร้อมถูกระงับบริการ ติดตามด้วยการยึดเลขหมายด้วย ซึ่งพบว่า มีผู้บริโภคร้องเรียนในประเด็นเหล่านี้ทั้งหมด
“ปัญหาเรื่องการกำหนดอายุการใช้งานโทรศัพท์ระบบเติมเงิน หรือพรีเพด เป็นเรื่องร้องเรียนอันดับหนึ่งของเรื่องร้องเรียนด้านบริการมือถือในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 เช่นเดียวกัน โดยในช่วงนั้นมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด ส่วนในปีนี้มี 184 เรื่อง หรือประมาณ 1 ใน 4 ของเรื่องร้องเรียนมือถือ แต่ถึงแม้น้ำหนักของปัญหาจะลดลงไปมาก จากการที่ทางผู้ประกอบการมีมาตรการผ่อนปรนต่างๆ เช่น การเปิดให้ใช้เงินแลกวัน การออกโปรโมชั่นที่ให้ระยะเวลานาน แต่จะเห็นได้ว่าเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นปัญหาร้องเรียนอันดับหนึ่ง ที่สำคัญคือ ปัญหานี้เป็นเรื่องของการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย ดังนั้นจะแก้ปัญหาให้ได้ผลจะต้องบังคับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างจริงจัง” นายประวิทย์กล่าว

นอกจากนี้ นายประวิทย์ชี้ว่า ยังมีประเด็นปัญหาเฉพาะในส่วนของบริการโทรศัพท์มือถือที่น่าสนใจคือ ปัญหาบริการข้อความสั้น หรือ SMS ที่ผู้บริโภคร้องเรียนในแง่การถูกรบกวน การถูกคิดค่าบริการโดยไม่ได้สมัคร รวมทั้งปัญหาการไม่สามารถยกเลิกบริการได้ ซึ่งยอดการร้องเรียนมีประมาณร้อยละ 13 ของเรื่องร้องเรียนมือถือ ขณะที่กรณีการแจกซิมฟรีพบว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกคิดค่าบริการในภายหลัง ทั้งที่ไม่มีการใช้บริการ และปัญหาการให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน โดยมีสัดส่วนการร้องเรียนประมาณร้อยละ 8 ของเรื่องร้องเรียนมือถือ

สถิติเรื่องร้องเรียนโทรคมนาคม 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2555 แยกตามประเภทบริการ

ประเด็นเรื่องร้องเรียน 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2555 รวมทุกประเภทบริการ

ประเด็นเรื่องร้องเรียน 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2555 เฉพาะบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่

View :1875

ทรู ชี้แจงเจตนารมณ์ชัดเจน เดินหน้าปรับแก้ 6 ประเด็นในสัญญาตามมติ กทค.

July 30th, 2012 No comments

27 กรกฎาคม 2555 – บมจ. ทรูคอร์ปอเรชั่น ขอแสดงเจตจำนงในการดำเนินการแก้ไขสัญญา
3G ระบบ HSPA ระหว่าง บมจ. กสท โทรคมนาคม และกลุ่มทรูให้เป็นไปตามมติของคณะ
กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) แต่ในกรณีเรื่องการทำสัญญาฉบับใหม่ บริษัทยังมิ
ได้รับทราบอย่างเป็นทางการ และไม่เคยมีการหารือกันในกรณีนี้มาก่อน บริษัทในฐานะ
คู่สัญญาเห็นว่าไม่ควรทำ เพราะว่าสัญญาที่ได้ตกลงร่วมกันมานั้นได้ดำเนินการ
ผ่านกระบวนการต่างๆ อย่างถูกต้อง และผ่านการตรวจสอบจากหลายหน่วยงานอย่างครบถ้วน
แล้ว รวมทั้ง กทค. เองได้มีความเห็นให้ปรับแก้ในสัญญา 6 ประเด็นเท่านั้น

ทั้งนี้ บริษัทมีความต้องการที่จะเป็นคู่ค้าที่ดีกับ กสท ในการประกอบธุรกิจ 3G
กับ กสท ต่อไป และจะมุ่งมั่นดำเนินการตามสัญญาที่ได้ตกลงไว้แล้วกับ กสท อย่าง
ต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ของประเทศ และต่อ กสท ตลอดจนลูกค้าที่บริษัทให้บริการ
อยู่

บริษัทมีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ กสท ในการแก้ไขสัญญาทั้ง 6 ข้อ ตามที่
กทค. มีมติให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

View :1381

ดีแทค ประกาศผลประกอบการไตรมาสสอง ปี 2555

July 23rd, 2012 No comments

กรุงเทพฯ – 23 กรกฎาคม 2555 – บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ มีรายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2555 รวมทั้งสิ้น 21.6 พันล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งร้อยละ 9.8 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) ซึ่งปัจจัยหลักของการเติบโตเหนือทิศทางรายได้ตามฤดูกาล คือรายได้จากบริการด้านข้อมูลและรายได้จากการขายเครื่อง เนื่องจากความนิยมอย่างต่อเนื่องในการใช้งานอินเทอร์เน็ต เครื่องสมาร์ทโฟน และแอพพลิเคชั่นเครือข่ายสังคมออนไลน์

ทั้งนี้ ดีแทคมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเลื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของไตรมาสสองปี 2555 เท่ากับ 6.6 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.5 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักคืออัตราส่วนแบ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิของไตรมาสนี้เท่ากับ 2.8 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.5 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาสสองปี 2555 นี้ ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มสุทธิ 166,699 ราย ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสสองปี 2555 ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 23.6 ล้านราย

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “การดำเนินงานเพื่อยกระดับคุณภาพเครือข่ายทั้งหมดภายใต้แคมเปญ Life Network หรือเครือข่ายเพื่อชีวิตที่ดีกว่านั้นกำลังไปได้อย่างรวดเร็ว ดีแทคได้ดำเนินการเปลี่ยนอุปกรณ์เครือข่ายเสร็จสิ้นเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และภาคใต้ ยกเว้น 3 จังหวัดชายแดน โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนอุปกรณ์เครือข่ายทั้งหมดทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในปี 2555”

View :1480

Ericsson เข้าซื้อธุรกิจบรอดแคสติ้งของบริษัท Technicolor ได้สำเร็จ

July 23rd, 2012 No comments

· การเข้าซื้อธุรกิจครั้งนี้ ทำให้ สามารถขยายฐานลูกค้าชั้นนำในธุรกิจสื่อสารมวลชน และพนักงานที่มีความสามารถสูงกว่า 900 คน ในประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์

· Ericsson มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลฐานลูกค้าเดิมอย่างดีที่สุด และตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตเป็นผู้นำระดับโลกในการให้บริการ Managed Services สำหรับธุรกิจบรอดแคสติ้งโดยเฉพาะ

· ธุรกิจด้านบรอดแคสติ้งของบริษัท เดิมทั้งหมด จะทำงานภายใต้แบรนด์ Ericsson นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

· ราคาที่ตกลงซื้อขายกัน คือ 19 ล้านยูโร ในขณะที่รายได้ของบริษัทในธุรกิจบรอดแคสติ้งที่คาดว่าจะได้รับในปี 2015 อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 9 ล้านยูโร

นายแม็กนัส แมนเดอร์สัน (Magnus Mandersson) รองประธานบริหารและหัวหน้าหน่วยธุรกิจ Global Services ของ Ericsson


Ericsson ผู้นำด้านเทคโนโลยีและบริการสื่อสารโทรคมนาคมระดับโลก ได้ประกาศว่า การเข้าซื้อธุรกิจ บรอดแคสติ้งของบริษัท Technicolor ได้เสร็จสิ้นลงแล้ววันนี้ บริษัท Technicolor เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจเทคโนโลยีมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ อันมีบริษัทแม่ตั้งอยู่ในประเทศฝรั่งเศส โดยการประกาศครั้งนี้เป็นไปตามแถลงการณ์ที่มีมาก่อนหน้า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555
นายแม็กนัส แมนเดอร์สัน (Magnus Mandersson) รองประธานบริหารและหัวหน้าหน่วยธุรกิจ Global Services ของ Ericsson กล่าวว่า “ด้วยการซื้อกิจการครั้งนี้ Ericsson จะมีความเข้มแข็งมากขึ้นในการให้บริการ Managed Services สำหรับธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเติบโตของบริษัทให้มั่นคงยิ่งขึ้น โดยธุรกิจ Managed Services นี้ ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของ Ericsson ที่เราต้องการจะขยายการลงทุนและเพิ่มกิจการที่เกี่ยวข้องอีกด้วย”

Ericsson พร้อมรองรับพนักงานที่มีความสามารถสูงจำนวนกว่า 900 คน จาก Technicolor เข้าสู่หน่วยธุรกิจ Global Services และทำงานร่วมกันภายใต้แบรนด์ Ericsson ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Ericsson เป็นผู้นำในการให้บริการ Managed Services สำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม และได้ลงทุนในการพัฒนาเครื่องมือและกระบวนการต่างๆเพื่อใช้ในบริการนี้ จากการซื้อกิจการครั้งนี้ Ericsson จะสามารถขยายบริการ Managed Services เข้าสู่ธุรกิจสื่อสารมวลชนได้อีกทางหนึ่ง และเป็นการยืนยันจุดยืนของบริษัทที่ต้องการสนับสนุนธุรกิจบริการนี้อย่างแท้จริง

Ericsson ยังเป็นหมายเลขหนึ่งในฐานะผู้ให้บริการกระจายสัญญาณอิสระ ภายในกลุ่มประเทศนอร์ดิกอีกด้วย แนวทางการพัฒนาธุรกิจ Managed Services ของ Ericsson นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเริ่มต้นสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ สำหรับผู้ประกอบการโทรคมนาคมมากว่า 15 ปี และต่อยอดด้วยการขยายธุรกิจรูปแบบเดียวกันสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ในธุรกิจสาธารณูปโภค และ ธุรกิจด้านสื่อ เป็นต้น

View :1423
Categories: Telecom Tags: ,