Archive

Archive for July, 2010

HP LaserJet Pro P1606dn พิมพ์ได้เต็มพิกัด ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ

July 28th, 2010 No comments

เอชพีแนะนำ LaserJet Pro P1606dn มาพร้อมดีไซน์กะทัดรัด รองรับการทำงานของธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกันโดยการเชื่อมต่ออย่างง่ายดาย มอบประสิทธิภาพในการพิมพ์ด้วยความเร็วสูงถึง 26 แผ่นต่อนาที (letter) และ 25 แผ่นต่อนาที (A4) และประหยัดคุ้มค่าด้วยการพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ

นอกจากนี้ มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำที่ช่วยลดพลังงานได้ถึงร้อยละ 50 ครอบคลุมทั้งเทคโนโลยี Instant-On และ HP Auto-On-Auto-Off ช่วยเปิดปิดเครื่องอัตโนมัติ ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจได้อย่างลงตัว

View :1497

เทรนด์ ไมโคร เตือนระวังภัยอาชญากรไซเบอร์โจมตีเครื่องเอทีเอ็ม

July 27th, 2010 No comments

เครื่องบริการเงินด่วนอัตโนมัติหรือเอทีเอ็ม (Automatic Teller Machine: ATM) กำลังตกเป็นเป้าโจมตีของเหล่าอาชญากรทุกรูปแบบอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากเป็นแหล่งที่มีเงินเป็นจำนวนมาก

นายโรแลนด์ เดลา แพซ วิศวกรด้านภัยคุกคาม บริษัท เทรนด์ ไมโคร เปิดเผยว่า วิธีทั่วไปที่อาชญกรไซเบอร์ใช้ในการโจมตีเครื่องเอทีเอ็ม คือ การดำเนินการผ่านสกิมเมอร์ () ซึ่งเป็นอุปกรณ์ขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสไว้บนแถบแม่เหล็กของบัตรเอทีเอ็ม โดยสกิมเมอร์นั้นจะมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่แบบง่ายๆ ไปจนถึงแบบที่ซับซ้อนอย่างมาก ตัวอย่างหนึ่งที่เทรนด์ ไมโครเคยแจ้งเตือนไปก่อนหน้านี้ คือ อุปกรณ์เครื่องบันทึกเงินสด (POS) ปลอมที่ถูกใช้เพื่อสกิมข้อมูลจากบัตรเครดิตและเดบิต ซึ่งปัจจุบันภัยคุกคามรูปแบบนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังมีการตรวจพบรูปแบบที่เหมือนกันนี้ในประเทศจีนอีกด้วย

รูปแบบการโจมตีขั้นสูง (และมีราคาแพง) ในลักษณะนี้จะทำการส่งข้อมูลที่ได้มาไปให้อาชญากรไซเบอร์ผ่านทางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่ โดยอาชญากรที่ต้องการประหยัดเงินอาจใช้วิธีเช่าสกิมเมอร์ด้วยการแบ่งรายได้ 50 ต่อ 50 กับเจ้าของผู้ให้เช่าได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเครื่องเอทีเอ็มกำลังถูกมัลแวร์โจมตีเพิ่มมากขึ้น โดยมื่อช่วงช่วงต้นปี 2547 พบว่า 70% ของเครื่องเอทีเอ็มใหม่จะใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส (Windows) และบริษัท ดายโบลด์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องเอทีเอ็มในสหรัฐอเมริกาคาดว่า 90% ของเครื่องเอทีเอ็มในปัจจุบันกำลังใช้งานระบบปฎิบัติการวินโดว์สอยู่ และสิ่งนี้เองที่ทำให้เครื่องเอทีเอ็มอาจมีช่องโหว่ให้มัลแวร์โจมตีได้เช่นเดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป

ทั้งนี้ มัลแวร์ในตระกูล TSPY_SKIMER รวมถึง TSPY_SKIMER.A และ TSPY_SKIMER.B เป็นตัวอย่างของภัยคุกคามจากมัลแวร์ที่เกิดกับเครื่องเอทีเอ็ม มัลแวร์ทั้งสองตัวถูกเขียนขึ้นโดยผู้ที่มีความรู้เป็นอย่างดีด้านสถาปัตยกรรมของเอทีเอ็ม ซึ่งระบบดังกล่าวไม่ได้รับการเปิดเผยในวงกว้าง นอกจากนี้การติดตั้งมัลแวร์เหล่านี้ยังจะต้องดำเนินการด้วยตนเองโดยผู้ที่สามารถเข้าถึงเทอร์มินอลของเอทีเอ็มได้โดยตรง

เมื่อพิจารณา TSPY_SKIMER.A จะพบว่ารหัสของมัลแวร์ดังกล่าวถูกแทรกไว้ในบริการที่เฉพาะ เจาะจงที่เกี่ยวข้องกับเครื่องเอทีเอ็มของบริษัท ดายโบลด์ (ทั้งนี้บริษัทดายโบลด์ไม่ใช่เป้าหมายเดียว เนื่องจากผู้ผลิตเครื่องเอทีเอ็มอื่นๆ ก็ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของสกิมเมอร์แบบอื่นๆ เช่นกัน) นอกจากนี้ อาชญากรไซเบอร์ยังสามารถใช้แป้นพิมพ์และหน้าจอของเครื่องเอทีเอ็มเพื่อส่งคำสั่งไปยังมัลแวร์ ตลอดจนตรวจหารุ่นซอฟต์แวร์ที่บริษัท ดายโบลท์ ได้ติดตั้งไว้ และสั่งพิมพ์ข้อมูลที่ขโมยได้ออกมาในรูปของใบเสร็จ หรือแม้แต่ถอนเงินสดก็ได้เช่นเดียวกัน

แม้ว่าการโจมตีในรูปแบบนี้จะมีแรงจูงใจทางการเงินสูง แต่เนื่องจากยังมีความยุ่งยากและความสลับซับซ้อนมาก จึงอาจไม่ได้รับความนิยมเท่ากับการโจมตีในรูปแบบอื่นมากนัก อย่างไรก็ตามผู้ใช้ไม่ควรกล่าวโทษข้อผิดพลาดของระบบรักษาความปลอดภัยเพียงอย่างเดียว แต่ควรหาความรู้เพิ่มเติมและป้องกันตัวเองให้มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของการโจมตีในลักษณะดังกล่าว

ขณะที่ธนาคารเองก็ควรให้ความสำคัญกับภัยคุกคามรูปแบบนี้ด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องปกติที่ลูกค้าจะคาดหวังให้ธนาคารปกป้องเงินของพวกเขา จะเห็นได้ว่าเครื่องเอทีเอ็มที่ติดมัลแวร์สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งของสกิมเมอร์อาจส่งผลต่อชื่อเสียง และความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อธนาคารได้ ดังนั้นมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยระดับพิเศษจึงควรได้รับการนำมาใช้ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าเครื่องเอทีเอ็มจะปลอดภัยจากภัยร้ายมัลแวร์เหล่านี้ได้

View :1193
Categories: Press/Release Tags: ,

“เอชพี” จับมือ “การ์ตูนเน็ตเวิร์ค “ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์เด็กไทยจัดกิจกรรม เอ็ดดูเทนเมนท์ Toon Creator Awards 2010

July 27th, 2010 No comments

เอชพี ร่วมกับการ์ตูนเน็ตเวิร์คเดินหน้าจัดกิจกรรมเอ็ดดูเทนเมนท์สุดสร้างสรรค์ ระเบิดพลังจินตนาการแอนิเมเตอร์รุ่นเยาว์ ในการประกวดผลงาน (www.ToonCreator Awards.com) ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพเยาวชนทั่วทั้งเอเชีย-แปซิฟิก และประเทศไทย

กิจกรรม Toon Creator Awards กลับมาอีกครั้งในปีนี้ โดยได้เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยเอชพีและการ์ตูนเน็ตเวิร์ค ขอเชิญชวนน้อง ๆ ที่อายุระหว่าง 6-14 ปี เข้าร่วมการแข่งขัน ประชันความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดการเรียนรู้ ไร้ขีดจำกัด สำหรับเยาวชนในหลากหลายประเทศ ทั้ง ออสเตรเลีย อินเดีย ไต้หวัน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ปากีสถาน และประเทศไทย

นายประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนลซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์- แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอชพี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันพัฒนาการ การเรียนรู้ของน้อง ๆ เยาวชนผ่านเทคโนโลยีที่พร้อมเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ในกิจกรรมเอ็ดดูเทนเมนท์ อย่าง Toon Creator Awards 2010 ที่เอชพีได้ร่วมมือกับการ์ตูนเน็ตเวิร์คอีกครั้ง ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก ๆ ที่จะเป็นรากฐานสำคัญของพัฒนาการในวัยเยาว์ ที่จะเป็นประตูนำไปสู่ความสำเร็จของการศึกษาในอนาคต นอกจากนี้ เอชพีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นผลงาน แอนิเมชั่นของเด็กไทยได้โลดแล่นผ่านสายตาผู้ชมนับล้านทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก พร้อมด้วยประโยชน์หลายประการจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้”

มร. เบ็นจามิน กรับบ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอินเทอร์แอคทีฟ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เทอร์เนอร์ เอนเทอร์เทนเมนท์ อินเทอร์แอคทีฟ มีเดีย กล่าวว่า “ผลตอบรับอย่างท่วมท้นจาก การจัดการแข่งขัน Toon Creator Awards ครั้งแรกในปีที่ผ่านมานั้น มีน้อง ๆ เยาวชนจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกสูงถึง 26,000 คน และมีผลงานการสร้างสรรค์จินตนาการสุดล้ำส่งเข้าร่วมมากกว่า 227,000 ชิ้น โดยในปีนี้เราได้ร่วมมือกับเอชพีในการสรรค์สร้างประสบการณ์การสร้างสรรค์การ์ตูนแอนิเมชั่นในแบบฉบับบของตนเอง ซึ่งเรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า น้อง ๆ จะได้รับประสบการณ์และความสนุก ผ่านการเรียนรู้จากกิจกรรมไปได้เป็นอย่างมาก”

กิจกรรมการประกวดผลงานแอนิเมชั่น Toon Creator Awards ในปีนี้เพิ่มความพิเศษด้วยฟังก์ชั่นการสรรค์สร้างตัวละครใหม่ไม่ซ้ำใคร ซึ่งน้อง ๆ สามารถสร้างอวาตาร์ เพื่อเป็นตัวเอกในเรื่องราว การผจญภัยในต่างแดนที่น้อง ๆ ใฝ่ฝัน หรือจินตนาการขึ้นเอง ทั้งร่วมเดินทางไปพร้อมกับ Flapjack ในการทำความสะอาดชายฝั่งเกรทแบร์ริเออร์รีฟ ประเทศออสเตรเลีย หรือไปเที่ยวประเทศไต้หวัน แล้วช่วยแก๊ง Ben 10 Alien Force ประชันความเร็วในการแข่งขันดราก้อนโบ้ทเรซซิ่ง อย่างไรก็ดี น้อง ๆ ที่เข้าร่วมประกวดผลงานแอนิเมชั่น Toon Creator Awards จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมและกิจกรรมสุดสร้างสรรค์จากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยในแต่ละฉากน้อง ๆจะได้รับไอเท็มพิเศษเพื่อเพิ่มสีสันให้แก่การสร้างสรรค์ผลงานแอนิเมชั่นในขั้นตอนสุดท้ายอีกด้วย

เยาวชนที่เข้าร่วมประกวดผลงาน จะสามารถเติมแต่งจินตนาการไร้ขีดจำกัด ผ่านตัวการ์ตูนยอดฮิตหลากหลายจากช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ค ทั้ง เบ็น เท็นนีย์สัน, เชาว์เดอร์ และพาวเวอร์พัฟฟ์ เกิลส์ โดยผลงานแอนิเมชั่นที่เสร็จสมบูรณ์สามารถโพสต์ขึ้นบนเว็บไซต์ของการ์ตูนเน็ตเวิร์ค เปิดโอกาสให้ทุกคนได้รับชม

ทั้งนี้ รางวัลสำหรับ Toon Creator Awards แบ่งออกเป็น 2 สาขา คือ รางวัลสำหรับโรงเรียนที่เข้าร่วม และรางวัลสำหรับเยาวชนที่ชนะ โดยเกณฑ์การตัดสินส่วนหนึ่งมาจากผลโหวตออนไลน์ และคณะกรรมการตัดสินที่เอชพีและการ์ตูนเน็ตเวิร์คจัดตั้งขึ้น

รางวัลชนะเลิศสำหรับเยาวชน ระดับประเทศ ได้แก่
TouchSmart PC
• รางวัลชุดพิเศษจากการ์ตูนเน็ตเวิร์ค
• มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ HP Digital Home Makeover แปลงโฉมบ้านดิจิตอลสุดทันสมัย จากการประกวดผลงานทั่วทั้งภูมิภาค

รางวัลชนะเลิศสำหรับเยาวชน ระดับภูมิภาค ได้แก่
• HP Digital Home Makeover แปลงโฉมบ้านดิจิตอลสุดทันสมัย
• จักรยาน Ben 10 Quad Bike สุดพิเศษ
• ผลงานชนะเลิศระดับภูมิภาคจะได้รับการเผยแพร่ทางช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์คสู่สายตานับล้านคู่

รางวัลสำหรับโรงเรียนที่ส่งผลงานเข้าร่วมสูงสุดพร้อมรับ
• คอมพิวเตอร์จากเอชพี จำนวน 3 ชุด

พ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู และน้อง ๆ เยาวชนที่สนใจ สามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรม Toon Creator Awards เพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.ToonCreator Awards.com

พร้อมกันนี้ การ์ตูนเน็ตเวิร์คยังได้ร่วมกันสรรค์สร้างแอพพลิเคชั่นสุดพิเศษ จำนวน 4 แอพพลิเคชั่นสำหรับโฮมพีซีระบบสัมผัสสุดอัจฉริยะอย่าง HP TouchSmart PC ที่จะมีวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป โดยแอพพลิเคชั่นสุดพิเศษบน HP TouchSmart PC ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยซัพพอร์ทการทำงานระบบมัลติทัช รองการการเลื่อน การแตะ และการสัมผัสหน้าจอแบบอื่น ๆ รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นสำหรับ RSS reader โปรแกรมอ่านข่าวที่จะมา พร้อมกับลูกเล่นสนุกสนาน ช่วยให้การติดตามข่าวสารบนดลกออนไลน์เป็นไปได้อย่างมีสีสัน ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยอีก 2 แอพพลิเคชั่นที่เหลือจะมีการเปิดตัวอีกครั้งในปีนี้
www.ben10.net /
www.cartoonnetworkasia.com

View :1661

RFID Tag ทางเลือกใหม่ของประชาชนในการชำระภาษีรถประจำปี

July 27th, 2010 No comments

ก้าวใหม่ของกรมการขนส่งทางบกกับโครงการพัฒนาเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีรูปแบบใหม่ เริ่มเปิดทดลองใช้
ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 วันที่ 11 สิงหาคมนี้

โดยกำหนดเปิดให้บริการในสำนักงานขนส่งทั่ว กทม. และปริมณฑล ภายในสิ้นเดือนกันยายน และทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้

นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดี กล่าวว่า โครงการ “พัฒนาเครื่องหมายการเสียภาษีรถประจำปีรูปแบบใหม่ Radio Frequency Identification : ซึ่งจะเริ่มทดลองเปิดให้บริการ ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 จตุจักร ในวันที่ 11 สิงหาคม 2553 และเริ่มให้บริการ ณ สำนักงานขนส่งทุกเขตใน กทม. และปริมณฑล ภายในสิ้นเดือนกันยายน ก่อนให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้

นายชัยรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความก้าวหน้า มีการนำไอทีรูปแบบใหม่ไปปรับใช้
ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จนก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศที่ไม่หยุดยั้ง เทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในเวลานี้ และเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะ ตลอดจนการพัฒนาระบบการขนส่งในภาพรวมของประเทศ กรมการขนส่งทางบกจึงได้พัฒนาโครงการพัฒนาเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีรูปแบบใหม่ RFID Tag เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะทั่วไป ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีอันล้ำสมัยได้มีโอกาสเลือกใช้บริการ และได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ (ภาคสมัครใจ) ในการติดเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีรูปแบบใหม่

สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นบริการชำระภาษีประจำปีรูปแบบใหม่ภาคสมัครใจ โดยการชำระภาษีรถประจำปี รูปแบบเดิมจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีตามปกติเท่านั้นส่วนการชำระภาษีระบบ RFID จะชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกเพียง 120 บาท จากอัตราปกติ โดยจะได้รับเครื่องหมาย 2 ส่วน ประกอบด้วย SMART TAG คือ เครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีรูปแบบใหม่ ที่มีส่วนประกอบของ RFID Chip สำหรับติดที่กระจกหน้าของยานพาหนะ หรือจุดที่มองเห็นได้ชัดเจน

และส่วนที่ 2 คือ SMART PASS ซึ่งก็คือ RFID ที่ติดตั้งบริเวณไฟหน้ายานพาหนะ เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลครบถ้วนที่สุด
โดยเทคโนโลยีระบบ RFID จะมี Transceiver ซึ่งเป็นเครื่องอ่าน (Reader) ที่ได้เชื่อมต่อด้วยระบบคลื่นวิทยุ มีทั้งการรับ-ส่งสัญญาณวิทยุ การแปลงสัญญาณวิทยุเป็นข้อมูลและทำการส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อถอดรหัสเครื่องหมายการเสียภาษีรถประจำปี Decoding ที่ติดอยู่บริเวณกระจกยานพาหนะ และในอนาคตเมื่อมีการพัฒนาเต็มรูปแบบจะสามารถนำข้อมูลไปอ้างอิงใช้เชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การทำงานมีความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำมากยิ่งขึ้น

กรมการขนส่งทางบกเปิดช่องทางเลือกให้กับประชาชนที่นิยมความล้ำสมัย ได้มีโอกาสทดลองใช้บริการการเสียภาษีรถประจำปีรูปแบบใหม่ RFID Tag หรืออาจจะเลือกใช้การเสียภาษีรถรูปแบบเดิมก็ได้แล้วแต่ความสมัครใจ ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ประชาชนได้มีโอกาสทดลองใช้ในวันที่ 11 สิงหาคม 2553 และจะทยอยเปิดให้บริการ ณ สำนักงานขนส่งทุกเขตพื้นที่ใน กทม. และปริมณฑลภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ โดยคาดว่าจะให้บริการได้ทั่วประเทศภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวทิ้งท้าย

View :2302

อัพสปีดเน็ตต่างประเทศ 350 เมก พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้ม 2 ต่อ

July 27th, 2010 No comments

บริษัท อินเตอร์เนต โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ () ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและโซลูชั่นแบบครบวงจร ได้เพิ่มศักยภาพในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายช่องสัญญาณอินเตอร์เน็ตต่างประเทศ (International Bandwidth) จาก 300 Mbps. เป็น 350 Mbps. พร้อมด้วยช่องสัญญาณอินเตอร์เน็ตภายในประเทศ (Domestic Bandwidth) ขนาด 20 Gbps. เพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้าในทุกระดับองค์กร

พร้อมกันนี้ ISSPยังได้ออกโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่ต้องการติดตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ โดยไม่ต้องการลงทุนระบบเครือข่ายเอง ด้วยบริการรับฝากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ (Co-location) ตั้งอยู่ที่ศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อาคาร กสท บางรัก ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเตอร์เน็ตทั้งภายในประเทศ (National Internet Gateway) และ ระหว่างประเทศ (International Internet Gateway) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มั่นใจได้ในประสิทธิภาพ พร้อมด้วยการจัดการสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และผู้เชี่ยวชาญดูแลระบบตลอด 24 ชั่วโมง พิเศษ!!! สำหรับลูกค้าที่สมัครบริการ Co-Location ตั้งแต่ Quarter Rack ขึ้นไป รับฟรี 2 ต่อ! ต่อที่ 1 ฟรี Gigabit Port 1 เส้น ต่อที่ 2 Upload Inter Bandwidth เพิ่มขึ้น 3 เท่า หมดเขต 31 สิงหาคม 2553

View :1547

โนเกียประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2553 ยอดขายสุทธิ 10,000 ล้านยูโร (42,300 ล้านบาท)

July 23rd, 2010 No comments

เพิ่มขึ้น 1% ยอดจำหน่ายเครื่องคอนเวอร์เจนซ์ เพิ่มขึ้น 42%

กรุงเทพฯ 23 กรกฎาคม 2553: โนเกียผู้นำด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำของโลกแถลงผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2553 ยอดขายสุทธิ 10,000 ล้านยูโร หรือราว 42,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 และเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับไตรมาส1 ปี 2553 โดยมียอดขายอุปกรณ์สื่อสารคอนเวอร์เจนซ์ (สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่) เพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2553 โนเกียมียอดจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ทั้งหมด 111.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 2 ปี 2552 โดยโนเกียคาดว่ายอดขายอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ของทั้งอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2553 เมื่อเทียบกับปี 2552 (ยึดความหมายของตลาดอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ของโนเกียที่ปรับปรุงขึ้นใหม่เมื่อต้นปี 2553)

มร. ออลลิ-เพกกา คัลลัสวูโอ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โนเกีย กล่าวว่า “แม้ว่าจะมีความท้าทายในตลาดอย่างต่อเนื่อง ผลประกอบการของโนเกียไตรมาส 2 ได้ส่งสัญญาณที่ดีต่ออนาคตข้างหน้า อันเป็นผลพวงจากการเติบโตของตลาดโทรศัพท์มือถือที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และผลประกอบการของโนเกียไตรมาส 2 ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นผลมาจากโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ของเราในราคาที่หาซื้อได้ง่าย”

ในส่วนของอุปกรณ์สื่อสารคอนเวอร์เจนซ์ (สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่) โนเกียมียอดขายอยู่ที่ 24 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 และเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2553

มร. ออลลิ-เพกกา กล่าวต่อว่า “สำหรับสมาร์ทโฟน เรายังคงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของเราอย่างต่อเนื่องเราเชื่อว่า โนเกีย N8 ซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารรุ่นแรกบนซิมเบียน 3 จะสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่เคยมีมา และหลังจากนั้น เราจะมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการซิมเบียน 3 ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีความหลากหลายและเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้โนเกียพร้อมที่จะต่อสู้ในตลาดไฮเอนด์”

โนเกียคาดว่า ยอดขายอุปกรณ์สื่อสารคอนเวอร์เจนซ์ของทั้งอุตสาหกรรมในไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ 59 ล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับ 41 ล้านเครื่องในไตรมาส 2 ปี 2552 และ52.6 ล้านเครื่องในไตรมาส 1 ปี 2553 โดยโนเกียคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์สื่อสารคอนเวอร์เจนซ์อยู่ที่ 41%

* อัตราแลกเปลี่ยน 42.3 บาท ต่อ 1 ยูโร ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2553

View :1693
Categories: Press/Release Tags:

ทรูมูฟ รุกตลาด ปรับราคาแบล็กเบอร์รี่ อัดแคมเปญพิเศษ ผ่อนนานสูงสุด 18 เดือน

July 23rd, 2010 No comments

แบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9700 เริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,143 บาท และ
แบล็กเบอร์รี่ เคิร์ฟ 8520 เริ่มต้นเพียงเดือนละ 686 บาท

พร้อมแพ็กเกจสุดคุ้ม ครบเครื่องทั้ง BBM (แชต), Facebook, Push Mail และท่องเน็ต

กรุงเทพฯ 23 กรกฎาคม 2553 – ทรูมูฟ เพิ่มความคุ้มค่าให้ลูกค้าเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ง่ายยิ่งขึ้น ประกาศปรับราคาเครื่อง 2 รุ่นยอดนิยม ได้แก่ แบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9700 เพียง 17,500 บาท และแบล็กเบอร์รี่ เคิร์ฟ 8520 เพียง 10,500 บาท (ไม่รวม VAT) พร้อมโปรโมชั่นพิเศษผ่อนจ่ายผ่านบัตร First Choice นาน 18 เดือน เพียงเดือนละ 1,143 บาท สำหรับ

แบล็กเบอร์รี่ โบลด์ 9700 และ เดือนละ 686 บาท สำหรับแบล็กเบอร์รี่ เคิร์ฟ 8520 หรือผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงค์ และ KTC เมื่อซื้อพร้อมซิมทรูมูฟ สัมผัสประสบการณ์สื่อสารไร้ขีดจำกัดกับแบล็กเบอร์รี่แพ็กเกจสุดคุ้มจากทรูมูฟที่มีให้เลือกทั้งแบบรายเดือนและแบบเติมเงินตามรูปแบบการใช้งาน เริ่มต้นเพียงเดือนละ 350 บาท หรือ 3 วัน 60 บาท จุใจทั้งแชตผ่าน BBM เชื่อมต่อ Facebook บริการ Push Mail และท่องเน็ตผ่านเครือข่ายคุณภาพของทรูมูฟ ทั้ง 3G*, Wi-Fi ที่ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการกว่า 17,000 จุดทั่วประเทศ และ EDGE

พบกับแบล็กเบอร์รี่จากทรูมูฟในราคาเบาๆ พร้อมแบล็กเบอร์รี่แพ็กเกจสุดคุ้มได้แล้ววันนี้ที่ร้านทรูช็อป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ทรูมูฟ แคร์ โทร 1331 หรือ www..com/blackberry

View :1561

Facebook Marketing Statistics, Demographics, Reports, and News – CheckFacebook

July 23rd, 2010 No comments
Categories: Press/Release Tags:

อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรัม กลับมาอีกครั้ง 13-15 ก.ย. ที่ซานฟรานซิสโก

July 23rd, 2010 No comments

พอล โอเทลลินี ซีอีโออินเทล เตรียมแสดงวิสัยทัศน์ในวันเปิดงาน

ซานฟรานซิสโก 23 กรกฏาคม 2553 – งานสัมมนาด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของ อินเทล คอร์ปอเรชั่น จะกลับมาจัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 13-15 กันยายน ศกนี้ ในโอกาสครบรอบปีที่ 13 ของการจัดงาน อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรัม (ไอดีเอฟ) อินเทลจะแสดงวิสัยทัศน์โดยเน้นไปที่ทิศทางเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มต่างๆ ของอินเทลที่จะเปิดตัวในปีหน้าเป็นต้นไป ทั้งในกลุ่มของเอ็นเตอร์ไพรซ์ โมบิลิตี้ เอ็มเบ็ดเด็ดและการสื่อสาร ซอฟต์แวร์ การผลิต และการวิจัย

ผู้บริหารหลายท่านจากอินเทล ต่างเตรียมตัวเพื่อเปิดเผยถึงกลยุทธ์หลักๆ ในหัวขัอที่ล้วนแต่น่าสนใจทั้งสิ้นตลอดทั้งสามวันของการจัดงาน ซึ่งจะมีขึ้นที่มอสโคน เซ็นเตอร์ เวสต์ (Moscone Center West) โดยในวันแรก พอล โอเทลลินี ซีอีโอและประธานบริษัทอินเทล จะขึ้นกล่าวเปิดงานบนเวทีโดยการนำเสนอถึงมุมมองที่มีต่อ “Computing Continumm” ในปัจจุบันซึ่งมีอินเทลเป็นผู้ผลักดัน ตามด้วย เดวิด เพิร์ลมัตเตอร์ รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปของอินเทล ที่จะมาเจาะลึกถึงเรื่องที่พอล โอเทลลินิ ได้กล่าวไปตอนต้น

สำหรับการบรรยายในวันที่สอง ซึ่งจะเน้นไปที่การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของ อินเทล™ อะตอม™ โปรเซสเซอร์ จะมีสองผู้บริหารจากอินเทลมาร่วมบรรยาย ประกอบด้วย ดั๊ก เดวิส รองประธานและผู้จัดการทั่วไป อินเทล เอ็มเบ็ดเด็ด แอนด์ คอมมูนิเคชั่น กรุ๊ป และ เรอเน่ เจมส์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป อินเทล ซอฟต์แวร์แอนด์ โซลูชั่น กรุ๊ป

ส่วนการบรรยายในวันที่สาม (15 กันยายน) ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายของงาน จัสติน แรทเนอร์ รองประธานและผู้อำนวยการ อินเทล แล็บ ซึ่งเป็นประธานบริษัทด้านเทคโนโลยี และพนักงานอาวุโสของอินเทลด้วย จะขึ้นกล่าวบรรยายโดยเน้นแง่มุมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของอนาคตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ภายในงานไอดีเอฟครั้งนี้ ยังประกอบด้วยการจัดแสดงเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรม ซึ่งมีการแสดงและสาธิตนวัตกรรมล่าสุดจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของวงการ หัวข้อการบรรยายน่ารู้ในช่วง Insight กับประเด็นต่างๆ ก็มีการนำกลับมาจัดในงานนี้ด้วยเช่นกัน โดยมี โทมัส เพียซซา อดีตพนักงานอินเทล และ โอเฟอร์ คาห์น หัวหน้าวิศวกรอาวุโสของอินเทล มาร่วมสนทนาเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมอินเทลที่ใช้ชื่อรหัสว่า “แซนดี้ บริดจ์” ในช่วง Technology Insight ของแรก (13 กันยายน) ซี่งรวมถึง ช่วง Industry Insight ในวันแรก ซึ่งจะมี ไดแอน ไบรอัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของอินเทล มาร่วมสนทนากับวิทยากรท่านอื่นๆ เกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายที่โลกไอทีกำลังเผชิญอยู่ ส่วนในช่วง Technology Insight ของวันที่สองนั้น จะมีการสนทนาซึ่งเน้นในเรื่องของซอฟต์แวร์

ตลอดสามวันของการจัดงาน จะมีการบรรยายกลุ่มย่อยหลากหลายหัวข้อให้ผู้ร่วมงานเลือกเข้าฟังตามความสนใจ เช่น “แซนดี้ บริดจ์” คลาวด์ คอมพิวติ้ง อีโค-เทคโนโลยี อินเทล อะตอม และ อินเทล™ คอร์™ โปรเซสเซอร์ รุ่นต่างๆ, ไอทีสำหรับทางการแพทย์ และเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Embedded solutions, ® Solid-State Drive Technology, PCI Express, SuperSpeed USB*, Unified Extensible Firmware Interface* และ visual computing

ในช่วงบรรยายกลุ่มย่อยหัวข้อ “Intel Fellows: Live and Uncensored” ผู้ชมจะสามารถตั้งคำถามอะไรก็ได้ กับผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านเทคโนโลยีของอินเทล โดยจะเป็นการตอบคำถามโดยไม่ปิดบัง

มาร์ก เออร์สัน ผู้จัดการที่ดูแลการจัดงาน ไอดีเอฟ ทั่วโลก กล่าวว่า “ผมเชื่อว่า คุณจะต้องการเข้าร่วมงานไอดีเอฟแน่ๆ เพราะงานไอดีเอฟคือจุดเริ่มต้นของอนาคต และเป็นงานที่เปิดโอกาสให้คุณได้ร่วมงานกับเพื่อนฝูงที่อยู่ในวงการเดียวกัน ได้สัมผัสกับเทคโนโลยีล่าสุด รวมถึงได้แลกเปลี่ยนไอเดียใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอนาคตทั้งสิ้น งานประชุมไอดีเอฟในแต่ละวันจะอัดแน่นไปด้วยข้อมูลด้านเทคโนโลยีที่สำคัญและแง่มุมความรู้ใหม่ๆ ที่จะได้รับจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง”

ผู้สนับสนุนระดับโกลด์ของงานไอดีเอฟ ประกอบด้วย ซิสโก ซิสเต็มส์ ซิตริกซิสเต็มส์ อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น ไอบีเอ็ม ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชัน แรมบัส ซัมซุง ซูเปอร์ไมโคร และ วิน ริเวอร์ ส่วนผู้สนับสนุนระดับซิลเวอร์ ประกอบด้วย ดีทีเอส อิงก์ ไฮนิกซ์ เซมิคอนดักเตอร์ อิงก์ เลอโนโว กรุ๊ป ลิมิเต็ด ไซแมนเทค และ วีเอ็ม แวร์

ผู้สนใจร่วมงานไอดีเอฟ สามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าชมงานได้ที่ www.intel.com/

View :1575

อีเบย์ อิงค์ เผยผลประกอบการไตรมาสสองโตต่อเนื่องและแข็งแกร่ง

July 23rd, 2010 No comments

ซาน โฮเซ่ แคลิฟอร์เนีย – 23 กรกฎาคม 2553 — — (หรือมีชื่อในตลาดหลักทรัพย์แนสแดคว่า ) เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2553 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 โดยในไตรมาสสองของปีนี้ มีรายได้เท่ากับ 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นร้อยละ 15 เมื่อคำนวณโดยไม่นับรวมสไกพ์ เมื่อคำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (GAAP) สำหรับไตรมาส 2/2553 อีเบย์ อิงค์ มีรายได้สุทธิ 412.2 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 0.31 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นปรับลด ขณะเดียวกันในไตรมาส 2/2553 อีเบย์ อิงค์ มีรายได้สุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) คิดเป็น 530.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 0.40 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นปรับลด เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อคำนวนโดยไม่นับรวมสไกพ์

สำหรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของอีเบย์ อิงค์ในไตรมาส 2/2553 เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเติบโตอย่างโดดเด่นของธุรกิจเพย์พาล ซึ่งมียอดการเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นถึงล้านบัญชีต่อเดือนในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งยังมีส่วนแบ่งในตลาดอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึงมากกว่าร้อยละ 40 ต่อปีติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 นอกจากนี้ การดำเนินงานตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาของอีเบย์ยังคงมีการเติบโตที่รุดหน้าติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในภูมิภาคยุโรป ขณะที่ผลการดำเนินงานในเอเชียคาดว่าจะมีการเติบโตที่ชะลอตัวเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา ความสำเร็จดังกล่าวทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงปณิธานของอีเบย์ที่มุ่งให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้ลูกค้ามีความไว้วางใจในการเลือกซื้อขายสินค้าที่มีให้เลือกหลากหลายประเภทบนอีเบย์ซึ่งเป็นตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด

มร. จอห์น โดนาโฮ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีเบย์ อิงค์ กล่าวว่า “อีเบย์มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2/2553 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่โดดเด่นและหลากหลายของธุรกิจอีเบย์ทั่วโลก โดยมีเพย์พาลเป็นธุรกิจที่นับวันจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งยังเป็นรากฐานอันแข็งแกร่งรองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลก นอกจากนี้ อีเบย์ยังมีการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมในภูมิภาคยุโรป และมีการเติบโตที่รุดหน้าในตลาดสหรัฐอเมริกา อีเบย์มุ่งเดินหน้าพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อขายที่คุ้มค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า ภายใต้นโยบายของบริษัทที่มุ่งสร้างสรรค์ผลประกอบการทางการเงินและงบดุลที่เปี่ยมเสถียรภาพ และขยายการลงทุนใหม่ๆ เพื่อเพิ่มแต้มต่อในการแข่งขัน สร้างความสำเร็จทางธุรกิจ และมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า”

เมื่อคำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (GAAP) สำหรับไตรมาส 2/2553 อีเบย์ อิงค์ มีผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21.9 เทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.6 ขณะเดียวกันในไตรมาส 2/2553 อีเบย์ อิงค์ มีรายได้ผลกำไรจากการดำเนินงานที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป (non-GAAP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 29.1 จากร้อยละ 28.7 ในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีเพย์พาลเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

อีเบย์ อิงค์ คาดว่า เพย์พาลจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งตลอดปีนี้ โดยคาดว่าจะมีรายได้สุทธิทั้งปีประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 0.06 ถึง 0.08 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นปรับลด สำหรับธุรกิจมาร์เก็ตเพลซ คาดว่า จะยังคงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องในภูมิภาคยุโรป แต่มีการเติบโตแบบชะลอตัวในสหรัฐอเมริกา

View :1433