ITBiz | lekasina.com

นายวิริยะ มงคลวีราพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิด เผยว่า ภายหลังจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงไอซีที ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้จัดการฝึกซ้อมระบบเตือนภัยเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาภัย จากสึนามิในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ประจำปี 2553 ขึ้นในวันที่ 13 กันยายน 2553 ระหว่างเวลา 09.00-11.00 น. ในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งการซักซ้อมแผนอพยพหลบภัยในปีนี้นับว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

สำหรับ การฝึกซ้อมในครั้งนี้เป็นการซ้อมเตือนภัยและอพยพหลบภัยสึนามิแบบเต็มรูปแบบ โดยสมมติเหตุการณ์ให้เกิดแผ่นดินไหวในทะเลบริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ขนาด 8.5 ริกเตอร์ ระยะห่างจากชายฝั่งทะเลอันดามัน 449 กิโลเมตร และคาดว่ามีโอกาสเกิดคลื่นสึนามิ ซึ่งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ฝึกซ้อมระบบการแจ้งเตือนภัยตามแผนที่ได้ กำหนดไว้ คือ กดสัญญาณระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพื่อพร้อมปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ รวมถึงเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล รวมทั้งได้ส่ง SMS และ FAX แจ้งเตือนภัยถึงผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนส่งข่าวตัววิ่ง ส่งโทรสารประกาศแจ้งเตือนภัยผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

หลัง จากนั้นศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจึงได้เปิดเสียงไซเรนผ่านหอเตือนภัยทั้ง 127 หอ ในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อแจ้งประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมการซ้อมอพยพตามแผนปฏิบัติการไปสู่ พื้นที่ปลอดภัย จากนั้นรอฟังการประกาศยกเลิกสถานการณ์จากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติผ่านหอ เตือนภัยในพื้นที่และผ่านสื่อต่างๆ พร้อมทั้งประกาศยุติการฝึกซ้อม

“อย่าง ไรก็ตาม แม้ว่ากิจกรรมฝึกซ้อมแผนอพยพหลบภัยจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ประชาชนทุกภาคส่วนก็ได้ให้ความร่วมมือในการร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง โดยทันทีที่มีเสียงไซเรนดังขึ้นพร้อมกันทั้ง 127 หอ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจุดต่างๆ ได้ปฏิบัติงานตามแผน เพื่อเร่งอพยพประชาชนทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ไปยังพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งนอกจากซ้อมหลบภัยแล้วยังมีการซ้อมกู้ภัยในกรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้วย

จึง นับว่าการฝึกซ้อมฯ ในปีนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ที่มุ่งเน้นมาตรการป้องกันภัยมากกว่าการบรรเทาภัยเพื่อลดความสูญเสียที่ไม่ ควรจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งมุ่งเป้าหมายหลักไปที่ชุมชนและพื้นที่เสี่ยงภัยโดยการให้ความรู้แก่ ประชาชนได้ตระหนักถึงภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งจัดระบบการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า การจัดทำแผนเตรียมพร้อมรองรับในการอพยพ และการฝึกซ้อมการปฏิบัติตามแผน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิด ภัย ตลอดจนช่วยสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในประสิทธิภาพของสัญญาณเตือนภัยที่ พร้อมใช้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดในอนาคตได้” นายวิริยะ กล่าว

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดงาน “ICT ชุมชนร่วมใจ จับมือ ก้าวไกล สู่สากล ” ว่า จากยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่พยายามผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ ( Knowledge Based Society) ประกอบ กับสังคมโลกที่มีการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างแพร่หลาย กระทรวงฯ ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ และเป็นแกนหลักในการผลักดันให้เกิดสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ดัง กล่าว จึงได้ดำเนินโครงการศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนในสถานที่ราชการ ศาสนสถาน มูลนิธิ และชุมชนในท้องถิ่นที่มีความพร้อมและความเหมาะสมมาตั้งแต่ปี 2550 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสารแก่ชุมชน เยาวชน และประชาชนทั่วไป สามารถสืบค้นและเรียนรู้ได้ด้วยตนเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาไปสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนบรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ กระทรวงฯ จึงได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย และ Telecentre.org Foundation จัดทำข้อตกลงร่วมกันในการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ระหว่างสถาบันหลัก และสถาบันอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โครงการ Telecentre.org Academy Program ในนามของ Telecentre.org Foundation ที่เป็นความร่วมมือระหว่างหลายหน่วยงาน องค์กร เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับ ThaiTelecentre.org หรือศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนของประเทศไทย

“การ ทำจัดข้อตกลงครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานหลัก 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโอกาสการเรียนรู้ที่เท่าเทียมผ่านเครือ ข่ายอินเทอร์เน็ต โดยกระทรวงไอซีทีนั้น เป็นองค์กรหลักในการพัฒนาและบูรณาการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ ประเทศไทยอย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพ ขณะที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นมหาวิทยาลัยเปิดที่ใช้ระบบการศึกษาทางไกลชั้นนำของโลก ให้การศึกษาตลอดชีวิตสำหรับทุกคน ส่วนมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย เป็นหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่ให้บริการและการเรียนรู้ผ่านสื่อ อิเล็กทรอนิกส์แก่ประชาชนทุกระดับ ผ่านเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาการศึกษา และ Telecentre.org Foundation เป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่ให้การสนับสนุนศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนทั่วโลก และเป็นผู้ดำเนินการสถาบัน Telecentre.org Academy ซึ่งเป็นสถาบันที่จัดทำหลักสูตรการศึกษาเพื่อการพัฒนาและสร้างศักยภาพผู้ดูแลศูนย์ฯ อันเป็นการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนทั่วโลก” นายจุติ กล่าว

สำหรับข้อตกลงในความร่วมมือกันนั้น ได้กำหนดรายละเอียดให้ Telecentre.org Foundation สนับสนุนการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับเครือข่ายศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน และองค์กรที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วโลก เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลศูนย์ฯ และเครื่องมือการเรียนการสอนทางไกลเพื่อประโยชน์ของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนในประเทศไทย และให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ Telecentre.org Academy นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกันส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนการสอนทางไกลหลักสูตรของ Telecentre.org Academy ในประเทศไทยและกลุ่มประเทศต่างๆ ภายใต้ความร่วมมือของ Global Telecentre.org Academy และ Telecentre.org Foundation โดยร่วมกันพัฒนาและจัดทำหลักสูตรให้เหมาะสมกับชุมชน ท้องถิ่นในการเรียนรู้ผ่านระบบเปิดและระบบทางไกลในรูปแบบของการเรียนการสอน แบบเดิมที่เป็นชั้นเรียน ( Offline) และที่เป็นระบบออนไลน์ ( Online) ทั้งแบบที่เป็นหลักสูตรทางการ ( Formal) และหลักสูตรนอกระบบต่างๆ ( Non-Formal) ซึ่งสามารถนำเข้าไปปรับใช้ในการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยภาคปกติได้ พร้อมกันนี้ยังร่วมมือกันสร้างเสริมความรู้ ความสามารถ ทักษะ ที่จำเป็นให้ชุมชนเพื่อให้สามารถเป็นผู้ประกอบการชุมชน หรือเป็นวิทยากรชุมชน ได้ตามความต้องการและความพร้อมของชุมชน

“การจัดทำข้อตกลงครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือระดับสากล ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้เกิดการพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง รวมทั้งทำให้สามารถขยายขอบข่ายงานได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่สังคมโลก และต้อนรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้สังคมไทยก้าวสู่ความก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ” นายจุติ กล่าว

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส ระดมทีมพนักงานและผู้บริหารโชว์ความพร้อมการให้บริการและอำนวยความสะดวกให้แก่สาวกไอโฟนชาวเอไอเอส ที่จองซื้อผ่านทางเว็บไซต์และจะมารับเครื่องในไอโฟน 4 จากเอไอเอสอย่างเต็มที่ ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน 1 นาทีของวันที่ 24 กันยายน

ทรูมูฟ ประกาศเปิดตัว iPhone 4 ให้ชาวไทยเป็นเจ้าของสุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งยุค วันที่ 24 กันยายนนี้ พร้อมนำเสนอแพ็กเกจค่าบริการ ออกแบบเพื่อผู้ใช้ไอโฟนโดยเฉพาะ

iPhone 4 อัดแน่นด้วยฟีทเจอร์ล้ำสมัยโดนใจ อาทิ FaceTime ลูกเล่นใหม่กับฝันที่เป็นจริงในการใช้งาน Video Call บนมือถืออย่างสมบูรณ์แบบที่สุด, หน้าจอแบบ Retina Display แสดงผลบนมือถือด้วยความละเอียดสูงสุดในตลาด คมชัดทั้งภาพ วิดีโอ และตัวหนังสือ, กล้องดิจิตอลความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED, การบันทึกภาพวิดีโอแบบ HD, ทรงพลังมากขึ้นด้วยหน่วยประมวลผล Apple A4, เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3-Axis Gyro, และคุยได้นานขึ้นถึง 40% พบกับ iPhone 4 ในดีไซน์ใหม่ถอดด้าม โฉบเฉี่ยวด้วยตัวเครื่องที่ผสมผสานระหว่างกระจกและสเตนเลสอย่างลงตัว เป็นสมาร์ทโฟนที่บางเฉียบที่สุดในโลก มาพร้อมกับ iOS4 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือที่ทันสมัยที่สุดในโลก เพิ่มฟีทเจอร์ใหม่ๆ รวมกว่า 100 ฟีทเจอร์ พ่วงท้ายด้วย App Store ศูนย์รวมแอพพลิเคชั่นเด็ดๆ ทั่วโลกกว่า 200,000 แอพ รวมถึง iMovie แอพพลิเคชั่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ iPhone 4 โดยเฉพาะเท่านั้น

“ลูกค้าทรูมูฟไม่ต้องรอคอย iPhone 4 อีกแล้ว” นายปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองหัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทรูมูฟ เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำไอโฟนเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย และสร้างยอดขายสูงสุดในประเทศ ซึ่งทรูมูฟเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่สามารถมอบประสบการณ์การใช้งาน iPhone 4 ที่เหนือกว่า ด้วยเครือข่ายที่รองรับหลากหลายแพลตฟอร์ม รวมถึง Wi-Fi ฮอตสปอตอีกกว่า 18,000 จุดทั่วประเทศ ทำให้สามารถใช้งาน FaceTime ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมระบบล็อกอินเชื่อมต่อบริการ Wi-Fi by TrueMove อัตโนมัติ โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องใส่ username และรหัสผ่านใหม่ทุกครั้งที่ต้องการเชื่อมต่อในพื้นที่ให้บริการของ Wi-Fi by TrueMove นอกจากนี้ ทรูมูฟยังสร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นและคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่หลากหลากเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”

ทรูมูฟจะจัดงานเปิดตัว iPhone 4 อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ณ รอยัล พารากอน ฮออล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยาม พารากอน โดยเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่นาทีแรกของวันที่ 24 กันยายน 2553 และจะเปิดประตูให้สาวกไอโฟนเข้างาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของวันที่ 23 กันยายนนี้

ราคาและตารางแพคเกจ
เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัว iPhone 4 ในประเทศไทย ทรูมูฟขอมอบข้อเสนอพิเศษสุดแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน คุ้มค่ากับแพ็กเกจ 24 เดือน ที่ออกแบบมาเพื่อโทรศัพท์รุ่นนี้โดยเฉพาะ ราคาข้อเสนอพิเศษเหล่านี้ ประกอบด้วยหลากหลายทางเลือกตามความต้องการและการใช้งานของลูกค้า ทั้งการใช้งานสำหรับ
การโทร การเข้าถึงข้อมูล รวมทั้งการเชื่อมต่อ Wi-Fi
Model ราคาเครื่องเปล่า ราคาเครื่อง พร้อมแพ็กเกจ iPhone 4
iPhone 4 16GB 22,250 บาท 20,650 บาท
iPhone 4 32GB 26,000 บาท 23,900 บาท

ผู้สนใจสามารถเลือกสมัครแพ็กเกจทรูมูฟ iPhone 4 ได้ตามไลฟ์สไตล์การใช้งาน เริ่มต้นด้วยค่าบริการ
รายเดือนต่ำที่สุด เพียงเดือนละ 399 บาท ซึ่งรวมค่าโทร 100 นาทีทุกเครือข่าย, SMS 50 ครั้ง, MMS 20 ครั้ง, ใช้บริการด้านข้อมูลผ่านเครือข่าย 2G ได้ 200 MB, 3G* ได้ 200 MB, Wi-Fi by TrueMove ได้ 10 ชั่วโมง, รับโบนัสโทรฟรี มูลค่า 1,197 บาท และแถมฟรีค่าบริการ 6 เดือน มูลค่า 2,394 บาท (ราคาที่ระบุไว้ข้างต้น ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

โปรโมชั่น ค่าบริการ
รายเดือน (บาท)
บริการที่ได้รับในส่วนเหมาจ่าย / เดือน ฟรีค่าบริการ 3G*
ค่าโทรทุกเครือข่าย (บาท) ฟรีโบนัสค่าโทรในเครือข่าย (นาที) SMS MMS EDGE
/GPRS Wi-Fi ฟรีค่าบริการรายเดือน
S 399 100 30 50 20 200 MB 10 ชม 6 รอบบิล หลังใช้ครบ 18 รอบบิล 200 MB
M 579 250 100 300 50 ไม่จำกัด 20 ชม 500 MB
L 799 450 140 400 100 ไม่จำกัด ไม่จำกัด 1 GB
แพ็กเกจ Free Size พิเศษสำหรับผู้ใช้เครื่อง iPhone จากเครือข่ายใดก็ได้
Free Size 599 300 – 300 50 ไม่จำกัด ไม่จำกัด – ไม่จำกัด***

ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove.com/iphone4
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPhone สามารถค้นหาได้ที่ www.apple.com/iphone

*บริการ 3G (บนมือถือหรืออุปกรณ์สื่อสารที่รองรับคลื่นความถี่ 850 เมกะเฮิร์ตซ์) เป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงและพัฒนาโครงข่ายในบางพื้นที่ เพื่อให้บริการของทรูมูฟดีขึ้น
*** รับสิทธิ์ใช้ 3G* โดยไม่คิดค่าบริการได้ไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน ตามนโยบายการใช้งานส่งข้อมูลอย่างเหมาะสมของทรูมูฟ (Fair Usage Policy) รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.truemove.com

ดีแทคแนะนำซิม XL รุ่นใหม่บันทึกเลขหมายติดต่อได้ 1,000 รายชื่อในซิมเดียว ตอบสนองผู้ใช้งานที่ต้องการเก็บรายชื่อในซิมรุ่นเดิมที่จุได้เพียง 250 รายชื่อ แถมรองรับรุ่นโทรศัพท์มือถือได้มากกว่า ทั้งระบบ 3G และรุ่นอื่นๆ โดยผู้ใช้งานซิม XL กับโทรศัพท์ที่รองรับระบบ 3G สามารถเรียกดูหมายเลยที่บันทึกไว้ผ่านสมุดรายชื่อ ( phonebook) ทันที หรือโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ สามารถเรียกผ่านเมนูซิม XL ที่ออกแบบการใช้งานไว้โดยเฉพาะให้รองรับการใช้งานได้อย่างสะดวก สามารถรองรับกับโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้โดยทั่วไปไม่จำกัดรุ่นและยี่ห้อ และสามารถนำไปใช้ต่างประเทศผ่านทางบริการข้ามแดนอัตโนมัติได้อีกด้วย ลูกค้าดีแทคปัจจุบันที่สนใจสามารถนำซิมทั้งแบบรายเดือนและเติมเงินมาเปลี่ยนเป็นซิม XL ได้ทันทีในราคา 99 บาท โดยใช้แพ็กเกจเดิม ที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทคทุกสาขา สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1678 dtac call center ( ครั้งละ 3 บาท) หรือ www.dtac.co.th/simxl

“To Be Professional อีกระดับของการถ่ายภาพ”

บริษัท เวิล์ดคาเมร่ากรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายขายกล้อง เลนส์ และอุปกรณ์การถ่ายภาพ ของแบรนด์ชั้นนำ จะจัดกิจกรรม “WORLD CAMERA DAY 2010 – To Be Professional อีกระดับของการถ่ายภาพ” เพื่อให้ผู้ที่รักการถ่ายภาพได้มีโอกาสพบปะ และแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องเทคนิคการถ่ายภาพของกลุ่มชมรมผู้รักการถ่ายภาพ ภายในงาน มีกิจกรรมพิเศษเกี่ยวกับการถ่ายภาพมากมาย อาทิ การจัดเสวนาเกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายภาพรูปแบต่างๆ โดยช่างภาพมืออาชีพ อาทิ คุณธนนนท์ ธนากรกานต์ ช่างภาพแฟชั่นอิสระ, คุณคัมภีร์ ภาติเสนะ ช่างภาพสารคดีจาก National Geographic พร้อมร่วมทำกิจกรรมเวิร์กช้อปการถ่ายภาพจากการแสดงแฟชั่นโชว์, การแสดงโชว์ Flat land/Bike Extreme, กิจกรรมการตัดสินการประกวด World Photo Contest for University, การประกวดภาพถ่ายจากงาน World Camera Day 2010 จากผู้เข้าชมงาน, การแสดงมินิคอนเสิร์ตจากวง PARADOX นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงและจำหน่ายกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์ต่างๆ จากแบรนด์ชั้นในราคาพิเศษ

งาน “WORLD CAMERA DAY 2010 – To Be Professional อีกระดับของการถ่ายภาพ” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 ตุลาคม 2553 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 ณ ลานพาร์ค พารากอน ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน งานนี้เข้าชมฟรี!!!

รีเสิร์ช อิน โมชั่น หรือ ริม ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ เตรียมจัดกิจกรรมโรดโชว์สนุกสุดมันส์ เพื่อสานสัมพันธ์กับผู้บริโภค ตามศูนย์การค้าหลักๆ ใจกลางกรุงเทพฯ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของเดือนกันยายนถึงตุลาคมนี้ กิจกรรมดังกล่าว ภายใต้ชื่อ PhotoMe นับเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการนำเสนอข้อมูลที่จำเป็นต่อผู้บริโภค ให้ทราบถึงประโยชน์อันมากมายเกี่ยวกับการซื้อสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่จากช่องทางจัดจำหน่ายที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง ซึ่งจะสามารถให้ Peace of Mind หรือความวางใจแก่ผู้บริโภคชาวไทยได้ ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสนุกไปกับกิจกรรมด้วยการส่งรูปถ่ายร่วมกับมาสคอตเข้าแข่งขันเพื่อให้ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด จะมีสิทธิ์ลุ้นรับสมาร์ทโฟน แบล็กเบอร์รี่ เคิร์ฟ 3จี 9300 จำนวน 5 รางวัล

งานนี้ บรรดาแฟน ‘ บีบี ’ นอกจากจะได้ร่วมสนุกไปกับกิจกรรมโรดโชว์ PhotoMe เพื่อลุ้นรับสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ฟรี ! ยังจะได้พบกับดาราสาวสวย ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ และ หนุ่มน้อยขวัญใจสาวๆ เก้า จิรายุ ละอองมณี ที่จะหมุนเวียนกันมาร่วมสร้างสีสันให้กับกิจกรรมตลอด 4 สัปดาห์ ตามกำหนดการดังต่อไปนี้

· วันที่ 25 – 26 กันยายน 2553 เวลา 14.00 – 1 8 .00 น. ณ ลานชั้น 1 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ (พบกับ ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ)

· วันที่ 2 – 3 ตุลาคม 2553 เวลา 15.00 – 17.00 น. ณ งาน Thailand Mobile Expo ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ (พบกับ ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ)

· วันที่ 9 – 10 ตุลาคม 2553 เวลา 14.00 – 1 8 .00 น. ณ บริเวณลาน ชั้น 7 เอสเอฟ ซีนีม่า ศูนย์การค้า เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ (พบกับ เก้า จิรายุ ละอองมณี)

· วันที่ 16 – 17 ตุลาคม 2553 เวลา 14.00 – 1 8 .00 น. ณ ดิจิตอล เกทเวย์ สยามสแคว์ (พบกับ ก้อย รัชวิน

วงศ์วิริยะ)

รีเสิร์ช อิน โมชั่น หรือ ริม ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ เตรียมจัดกิจกรรมโรดโชว์สนุกสุดมันส์ เพื่อสานสัมพันธ์กับผู้บริโภค ตามศูนย์การค้าหลักๆ ใจกลางกรุงเทพฯ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของเดือนกันยายนถึงตุลาคมนี้ กิจกรรมดังกล่าว ภายใต้ชื่อ PhotoMe นับเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการนำเสนอข้อมูลที่จำเป็นต่อผู้บริโภค ให้ทราบถึงประโยชน์อันมากมายเกี่ยวกับการซื้อสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่จากช่องทางจัดจำหน่ายที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง ซึ่งจะสามารถให้ Peace of Mind หรือความวางใจแก่ผู้บริโภคชาวไทยได้ ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสนุกไปกับกิจกรรมด้วยการส่งรูปถ่ายร่วมกับมาสคอตเข้าแข่งขันเพื่อให้ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด จะมีสิทธิ์ลุ้นรับสมาร์ทโฟน แบล็กเบอร์รี่ เคิร์ฟ 3จี 9300 จำนวน 5 รางวัล

งานนี้ บรรดาแฟน ‘ บีบี ’ นอกจากจะได้ร่วมสนุกไปกับกิจกรรมโรดโชว์ PhotoMe เพื่อลุ้นรับสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่ฟรี ! ยังจะได้พบกับดาราสาวสวย ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ และ หนุ่มน้อยขวัญใจสาวๆ เก้า จิรายุ ละอองมณี ที่จะหมุนเวียนกันมาร่วมสร้างสีสันให้กับกิจกรรมตลอด 4 สัปดาห์ ตามกำหนดการดังต่อไปนี้

· วันที่ 25 – 26 กันยายน 2553 เวลา 14.00 – 1 8 .00 น. ณ ลานชั้น 1 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ (พบกับ ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ)

· วันที่ 2 – 3 ตุลาคม 2553 เวลา 15.00 – 17.00 น. ณ งาน Thailand Mobile Expo ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ (พบกับ ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ)

· วันที่ 9 – 10 ตุลาคม 2553 เวลา 14.00 – 1 8 .00 น. ณ บริเวณลาน ชั้น 7 เอสเอฟ ซีนีม่า ศูนย์การค้า เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ (พบกับ เก้า จิรายุ ละอองมณี)

· วันที่ 16 – 17 ตุลาคม 2553 เวลา 14.00 – 1 8 .00 น. ณ ดิจิตอล เกทเวย์ สยามสแคว์ (พบกับ ก้อย รัชวิน

วงศ์วิริยะ)

ราคาเริ่มต้นเพียง 14,990 บาทเท่านั้น

เอชพี แนะนำผลิตภัณฑ์ HP ProLiant MicroServer รุ่นแรก ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับบริษัทขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 10 คน ให้สามารถขยายกิจการได้อย่างมั่นใจด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูง ราคาเริ่มต้นเพียง 14,990 บาท

หัวใจสำคัญของพอร์ทโฟลิโอใหม่ล่าสุด “Just Right IT” ของเอชพี คือ ผลิตภัณฑ์ HP ProLiant MicroServer โดดเด่นด้วยรูปทรงเล็กกะทัดรัด ประหยัดพลังงาน และราคาย่อมเยา เจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดเล็ก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญที่ใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดายทุกที่ แตกต่างจากการเข้าถึงข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อป หรือโน้ตบุ๊คโดยสิ้นเชิง

ผลิตภัณฑ์ HP ProLiant MicroServer ออกแบบให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดและทำงานเงียบกว่าเซิร์ฟเวอร์ระดับเริ่มต้นในตลาดรุ่นอื่นๆ ถึงร้อยละ 50 ทั้งยังประหยัดไฟ เหมาะสำหรับบริษัทที่ใส่ใจในเรื่องการประหยัดพลังงาน (1)

ด้วยศักยภาพของเอชพีในการนำเสนอนวัตกรรมชั้นนำที่เหนือกว่ามาตรฐานของอุตสาหกรรม ส่งผลให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ตระกูล HP ProLiant สามารถขึ้นแท่นผู้นำตลาดเซิร์ฟเวอร์ x86 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดด้านรายได้ถึงร้อยละ 39.2 ตามรายงาน Worldwide Quarterly Server Tracker ของไอดีซี (2)

เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มการจัดซื้อในปัจจุบันรวมทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัท AMI Partners ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการวางกลยุทธ์ระดับโลก คาดการณ์ว่า บริษัทขนาดเล็กประมาณ 1,700,000 ราย จะลงทุนซื้อเซิร์ฟเวอร์ตัวแรกภายใน 5 ปีข้างหน้า

เซิร์ฟเวอร์ระดับเริ่มต้นราคาประหยัด เพิ่มประสิทธิผลและประสิทธิภาพการทำงาน
ผลิตภัณฑ์ HP ProLiant MicroServer เพิ่มฟีทเจอร์ด้านการควบคุมพนักงานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีความสำคัญของ องค์กรได้โดยการรวมศูนย์ข้อมูลไว้ในเครือข่ายของเซิร์ฟเวอร์ คุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ได้แก่
- เข้าสู่ไฟล์ข้อมูล และแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานร่วมกันได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบด้วยไดรฟ์ที่สามารถเพิ่มขยายและถอดเปลี่ยนได้ มีการทำสำรองข้อมูลที่ยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมด้วยชิปเซ็ตและหน่วยประมวลผลรุ่นล่าสุด
- เพิ่มการควบคุมและความปลอดภัยในการเข้าสู่ข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัท
- ลดต้นทุน โดยการพัฒนาเครื่องใช้สำนักงานให้สามารถใช้งานร่วมกัน อาทิ เครื่องแฟกซ์ พรินเตอร์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ
- ลดการใช้พลังงาน ด้วยอุปกรณ์จ่ายไฟที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ประหยัดไฟมากกว่าเครื่องเซิร์ฟเวอร์ระดับเริ่มต้นรุ่นอื่นๆ ถึง 150 วัตต์ (3)
- ช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการออกแบบเครื่องให้มีขนาดเล็กกะทัดรัดเพียง 10 นิ้วเท่านั้น สามารถวางได้ทั้งบนโต๊ะหรือที่พื้น พร้อมด้วยฟีทเจอร์ไฟเรืองแสงที่โลโก้เอชพีเพื่อบอกสถานภาพการทำงานของเครื่อง มีช่องระบายความร้อน และประตูล็อคได้เพื่อป้องกันฮาร์ดไดรฟ์ที่สามารถถอดออกได้

ราคาและการจัดจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์ HP ProLiant MicroServer วางจำหน่ายแล้วทั่วโลก สามารถติดต่อผ่านพันธมิตรทางการค้าของเอชพี หรือเอชพีได้โดยตรง ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับพันธมิตรของเอชพีในการเจาะตลาดใหม่ๆ ด้วยการจำหน่ายโซลูชั่นที่สนับสนุนการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดเล็ก

ราคาเริ่มต้นที่ 14,990 บาท ราคานี้รวมค่ารับประกันผลิตภัณฑ์นาน 1 ปีครอบคลุมถึงค่าอะไหล่ แรงงาน และการให้บริการนอกสถานที่ (4)

นอกจากนี้ เอชพียังมีบริการเสริมด้านการเงิน และบริการด้านการติดตั้ง ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการในวันถัดไปเพื่อช่วยให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ HP ProLiant MicroServer เข้าชมได้ที่ http:// www.hp.com/go/proliant

ตั้งแต่เปิดตัวเมาส์ไร้สายตัวแรกในปี 91 ยอดขายพุ่งไม่หยุด
พร้อมการพัฒนานวัตรกรรมให้สอดรับการใช้คอมพิวเตอร์ในปัจจุปัน

วันนี้ ลอจิเทคประกาศว่าบริษัทสามารถทำยอดจำหน่ายเมาส์แบบไร้สาย( Wireless Mouse) ได้ทะลุ 100 ล้านตัวทั่วโลกแล้ว นับตั้งแต่ได้ลอจิเทคได้ประกาศเปิดตัวเมาส์ที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุ RF ตัวแรกของโลกในปี 1991 อันเป็นจุดเปลี่ยนแห่งการปฏิวัติให้เทคโนโลยีไร้สายได้กลายมาเป็นเทคโลยีที่แพร่หลายสู่อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน

โรรี่ ดูเลย์ รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไปของหน่วยธุรกิจอุปกรณ์ควบคุมของ Logitech กล่าวว่า “ เมาส์ของ Logitech มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์ของผู้คนนับล้าน เมาส์ไร้สายของเราถูกสร้างขึ้นจากมรดกทางเทคโนโลยี ณ จุดนั้น ทุกวันนี้เมาส์ไร้สายของลอจิเทคมอบคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมผนวกกับความสะดวกสบายในการใช้งานที่ไร้เทียมทาน พร้อมมอบความแม่นยำสูง นอกจากนี้ เมาส์รุ่นใหม่ๆ ของลอจิเทคมีดีไซน์หลายหลากสีและหลายรูปแบบ สนองตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว และสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมขณะใช้โน้ตบุ๊คและเมาส์ในการเสริชหาเนื้อหาที่ชื่นชอบ”

Logitech เลือกใช้เทคโนโลยีความถี่คลื่นวิทยุ RF ในปี 1991 เพื่อปรับปรุงในส่วนการควบคุมระยะมองเห็นที่สัมพันธ์กับเทคโนโลยีอินฟราเรด (IR) ที่พบในอุปกรณ์ต่อพ่วงไร้สายเจเนอเรชั่นก่อนๆ เทคโนโลยี RF แตกต่างจาก IR ตรงที่ผู้ใช้สามารถปรับทิศทางเมาส์ไปในทิศทางใด ๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลกับตำแหน่งของตัวรับสัญญาณ – ผู้ใช้สามารถวางไว้หลังเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่ใต้โต๊ะเพื่อไม่ให้ดูรกรุงรัง นับตั้งแต่นั้นมา Logitech ได้ทำการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีไร้สายที่ดียิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาตัวรับสัญญาณขนาดจิ๋ว nano-receiver รวมถึงการนำเสนอ Logitech® Unifying technology เทคโนโลยีที่ช่วยให้การรับส่งสัญญาณรวดเร็วและการเชื่อมต่อมีความเสถียรมากยิ่งขึ้นในระดับ 2.4 GHz

Logitech® Unifying ใช้เทคนิคการเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายด้วย Logitech® Advanced 2.4 GHz

มีขนาดเล็กมากพอที่จะเก็บไว้ในโน้ตบุ๊คแม้ระหว่างการเดินทาง และยังเป็นตัวรับสัญญาณที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทุกชนิดที่รองรับระบบ Unifying ได้ถึง 6 อุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน โดยใช้ตัวรับสัญญาณเพียงตัวเดียว ช่วยให้มียูเอสบีพอร์ตเพียงพอสำหรับการใช้งาน การเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายด้วย Logitech® Advanced 2.4 GHz นำเสนอความน่าเชื่อถือแบบเต็มร้อยเฉกเช่นการใช้งานแบบมีสาย ทว่าให้ความสะดวกสบายและอิสระเสรีด้วยเทคโนโลยีแบบไร้สาย พร้อมการส่งผ่านข้อมูลที่รวดเร็ว ไม่ดีเลย์ หรือขาดหายในระยะห่างมากกว่า 10 เมตร
ทั้งยังปลอดภัยสูงด้วยการเข้ารหัสข้อมูลแบบ 128-bit AES encryption ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลทั้งหมดจากอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ส่งตรงสู่คอมพิวเตอร์มีความปลอดภัยขั้นสูง

เมาส์ไร้สายตัวแรกของ Logitech นำเสนอในราคาแนะนำสำหรับผู้ผลิตที่ระดับหลายพันบาท ปัจจุบันลอจิเทคสามารถพัฒนาก้าวไกลมาสู่เทคโนโลยีการรับส่งสัญญาณระดับ 2.4 GHz พร้อมตัวรับสัญญาณนาโนไซส์จิ๋ว ในราคาขายต่ำกว่าพันบาท นอกจากสนนราคาที่ลดลงอย่างมากแล้ว ลอจิเทคยังนำเสนอเทคโนโลยีไร้สายที่ก้าวหน้าเพื่อเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจแก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมาส์ไร้สายของ Logitech กรุณาแวะชม www.logitech.com