ITBiz | lekasina.com

สวัสดีช้อป จัดแคมเปญเอาใจช่วยผู้ที่มีญาติ หรือผู้ประสบภัยที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเปิดบริการโทรฟรี ! โดยผ่านบริการ DeeDial ไปยังประเทศญี่ปุ่น เฉพาะสายที่โทรเข้าเบอร์บ้าน (Land Line) เท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 15 เมษายน 2554

ทั้งนี้ ผู้ที่ยังไม่มีบัญชี DeeDial สามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ www.deedial.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

วิธีการใช้งาน โดยสามารถโทรผ่านโอเปอเรเตอร์ ทางหมายเลข 0 2353 3701 หรือโทรผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยผ่าน DeeDial Application ซึ่งเหมาะสำหรับทั้ง Nokia, Blackberry, iPhone และ Android ซึ่งทำให้สามารถเลือกโทรตรงไปยังประเทศญี่ปุ่นได้ทันที

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการดาวน์โหลดโปรแกรม DeeDial หรือ วิธีการใช้งานโทรศัพท์ ได้ทาง www.deedial.com หรือ โทร. 0 2696 9500

วิธีการติดตั้ง DeeDial Application

สำหรับมือถือไอโฟน

1. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตบนเครื่อง iPhone ให้พร้อมใช้งาน และเปิดโปรแกรม “App Store” จากหน้าจอ iPhone

2. กดไปที่แถบเมนู “Search” ในโปรแกรม App Store พิมพ์คำว่า deedial ในช่องค้นหาแล้วกดปุ่ม “Search” โปรแกรม “DeeDial” จะปรากฏออกมา

3. กดปุ่ม “FREE” สองครั้งเพื่อยืนยันการดาวน์โหลดโปรแกรม

4. พิมพ์ชื่อผู้ใช้งาน iTunes และรหัสผ่าน เพื่อทำการดาวน์โหลด จากนั้นเครื่อง iPhone ของท่านจะเริ่มดาวน์โหลดโปรแกรม“DeeDial” รอประมาณ 1 นาที (ทั้งนี้ความเร็วของการดาวน์โหลดขึ้นอยู่กับความเร็วของการเชื่อมต่ออินเตอร์เนต)

สำหรับโทรศัพท์มือถือ BlackBerry

1. เปิดโปรแกรม BlackBerry App World กดไปที่แถบเมนู “Search” พิมพ์คำว่า deedial ในช่องค้นหาแล้วกดปุ่ม Enter โปรแกรม “DeeDial” จะปรากฏออกมา

2. กดเลือกที่โปรแกรม “DeeDial” จากนั้นให้กดเลือกคำว่า Install

3. พิมพ์ชื่อผู้ใช้งาน BlackBerry App World และรหัสผ่าน เพื่อทำการดาวน์โหลด จากนั้นเครื่องจะเริ่มดาวน์โหลดโปรแกรม“DeeDial” รอประมาณ 1 นาที (ทั้งนี้ความเร็วของการดาวน์โหลดขึ้นอยู่กับความเร็วของการเชื่อมต่ออินเตอร์เนต)

สำหรับโทรศัพท์มือถือระบบ Android

1. ไปที่หน้าจอ “Menu” เปิดโปรแกรม “All Apps”

2. กดเลือกไอคอน “Market” (คลิ๊กที่ icon market)

3. ไปที่ “Search” มุมบนขวามือของหน้า “Market”

4. พิมพ์ “Sawasdeeshop” (หน้าจอแสดงบริการทั้งหมดของ Sawasdeeshop)

5. กดเลือก “DeeDial Service” จากนั้นกด “Install”

6. กดเลือก “OK” เพื่อยืนยันการติดตั้งโปรแกรม

สำหรับการใช้งานและการติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือโนเกียและอื่นๆ สามารถเข้าไปดูวิธีการใช้งานได้ที่ www.sawasdeeshop.com

สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 02-696-9598 begin_of_the_skype_highlighting 02-696-9598

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมพัฒนาตลาดต่างประเทศและเสริมสร้างผู้ประกอบการดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ไทยครัง สำคัญ 3 กิจกรรม ได้แก่ การลงนามความร่วมมือระหว่างไทยกับต่างประเทศ (International MOU) และ การบรรยายพิเศษด้านดิจิทัลคอนเทนท์ (Digital Content Forum 2011)โดยความร่วมมือกับสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศิลปากร นอกจากนี้ซิป้า (SIPA) ยังร่วมกับ Multimedia Development Corporation (MDeC) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐจากมาเลเซีย ในการจัดกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching)งาน Creative Collaboration 2011 ในครั้ง นี้ถือเป็นงานความร่วมมือทางธุรกิจครั้ง สำคัญที่แสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ไทยในระดับนานาชาติ

สำหรับ การลงนามความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการของไทยกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศ ในกลุ่มธุรกิจดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ ซึ่ง รวมถึง New Media, Game, Animation, Film และ IP Licensing ใน ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์และ ซอฟต์แวร์ไทยให้เป็นทีรู้จักในวงกว้างผ่านเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยหลังจากทีซิป้า (SIPA) ได้ประกาศรับสมัครผู้ประกอบการผ่านการจัดประชุมระดมความคิดและการประชาสัมพันธ์ผ่านสมาคมวิชาชีพทีเกี่ยวข้องรวมถึงผ่านทางเว็บไซต์ww.thaidigitalcontent.com นั้นทำให้มีผู้ประกอบการทั้ง ไทยและต่างประเทศสนใจสมัครเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และหลังจากการปิดรับสมัครเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554 สรุปมีผู้เข้าร่วมโครงการจากไทย 18 ราย และจากต่างประเทศ 22 รายจาก 12 ประเทศ ประกอบด้วยประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์เวียดนาม สปป.ลาว และประเทศกัมพูชา ทำให้เกิดข้อตกลงความร่วมมือรวม 22 ฉบับ ซึ่งประมาณการว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าทางการค้าของฝั่งไทยถึงกว่าห้าร้อยล้านบาท โดยความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในครั้ง นี้ประกอบด้วย

ความร่วมมือด้านการศึกษาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านซอฟต์แวร์และดิจิทัลคอนเทนส์ 5 ฉบับ

ความร่วมมือด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เกม 6 ฉบับ

ความร่วมมือด้านการพัฒนาแอนิเมชั่นทีวีซีรีส์ 8 ฉบับ

ความร่วมมือด้านธุรกิจลิขสิทธิ์ดิจิทัลคอนเทนส์ 3 ฉบับ

นอกจากนี้ซิป้า ยังได้จัดให้มีบรรยายพิเศษโดยวิทยากรจากประเทศสิงคโปร์ภายใต้แนวคิด “Digital Ocean” ซึ่ง จะเน้นการให้ความรู้ทางการทำธุรกิจเชิงสร้างสรรค์และการปกป้องสิทธิทางปัญญา รวมถึงเทคนิคข้อพึงระวังในการบริหารสิทธิ์เชิงพาณิชย์และกรณีศึกษาทีน่าสนใจ จากผู้บรรยาย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมฟังบรรยายโดยเฉพาะผู้เข้าฟังจากกลุ่มธุรกิจ เป็นอย่างมาก ทั้งนี้มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมฟังบรรยายทั้ง จากในประเทศและต่างประเทศกว่า 100 คนใน

วันที่สองของการจัดงาน เป็นกิจกรรมการจับคู่เจรจาทางธุรกิจซึ่ง นอกจากจะมีผู้ประกอบการจากมาเลเซียที่ทาง MDeC คัดเลือกมาร่วมงานแล้ว ยังมีผู้ประกอบการทั้ง จากทีร่วมลงนาม MOU และผู้ประกอบการที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ในไทยเข้าร่วมด้วย

ไอบีเอ็มตอกย้ำผู้นำตลาด ส่งซอฟต์แวร์จัดการคลังข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล อย่างชาญฉลาด พร้อมเครื่องมือสู่สังคมออนไลน์
ช่วยองค์กรกลั่นกรองข้อมูลเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ

ไอบีเอ็มเปิดตัว “Social Business” กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ สู่สังคมออนไลน์ และช่วยบริหารจัดการคลังข้อมูลในองค์กร นำเสนอซอฟต์แวร์ บริการ และทักษะใหม่ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่ มาวิเคราะห์และใช้สนับสนุนการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องแม่นยำ พร้อมปฏิรูปการดำเนินงานและรองรับกระบวนการต่างๆ จากอุปกรณ์พกพาหลากหลายSmart Phone หลากหลายประเภท

นางเจษฎา ไกรสิงขร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า
“ไอบีเอ็มได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์สำหรับ Social Business โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ในการผสานรวมข้อมูลเชิงลึกทางด้านธุรกิจจากระบบวิเคราะห์ข้อมูลและ นำสู่สังคมออนไลน์ที่มีความปลอดภัยขั้นสูงของไอบีเอ็ม
ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่การทำให้ข้อมูลที่มีอยู่ในองค์กรเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ การกำกับใช้ข้อมูลหรือ Data Governance
และนำเข้าสูการจัดเก็บในคลังข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสามารถนำไปใช้ในการวิเคระห์ข้อมูลเชิงธุรกิจได้ พร้อมกันนี้ไอบีเอ็มมีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด คือ Netezza ซึ่งเป็น all in one ฮาร์ดแวร์ที่มีซอฟต์แวร์พร้อมใช้งานแล้ว (Appliance) สามารถใช้ในจัดทำคลังข้อมูลโดยเฉพาะ และนำมาวิเคระห์กลั่นกลองข้อมูลเชิงธุรกิจที่ให้ผลเชิงลึกได้รวดเร็ว ตั้งแต่ 10-100 เท่า เมื่อเทียบกับระบบเดิม อีกทั้งยังสามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่าย รวดเร็วจากเดือนเป็นวัน โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดต้นทุนได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ปัจจุบันจำนวนคนที่ใช้เครือข่ายทางสังคมได้ทวีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งภาคธุรกิจได้เห็นถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้งาน ทำให้ซอฟต์แวร์ทางสังคมเป็นเครื่องมือสำคัญทางด้านธุรกิจเพิ่มมากขึ้น โดยจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปรับปรุงทุกแง่มุมของการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่กิจกรรมด้านการตลาด บริการลูกค้า งานขาย ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และทรัพยากรบุคคล วันนี้ไอบีเอ็มได้เปิดตัวกรอบโครงสร้างใหม่เพื่อรองรับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นรุ่นอนาคตที่สนับสนุนการใช้งานทางด้านสังคม พร้อมทั้งแนะนำซอฟต์แวร์ใหม่ที่จะช่วยให้วิสัยทัศน์ดังกล่าวกลายเป็นจริง ตัวอย่างเช่น ไอบีเอ็มกำลังปรับเปลี่ยนกล่องอินบ๊อกซ์ด้วย “Activity Steam” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงและโต้ตอบกับเนื้อหาจาก Twitter, LinkedIn, Facebook, SAP, Microsoft และแพลตฟอร์มอื่นๆ ควบคู่ไปกับเนื้อหาของบริษัท
ไอบีเอ็มพยายามที่จะผนวกรวม Activity Stream เข้ากับแพลตฟอร์มด้านการประสานงานร่วมกันทางสังคมรุ่นอนาคตของไอบีเอ็มที่มีระบบความปลอดภัยสูงเหมาะกับการทำธุรกิจ โดยจะสามารถเข้าใช้งานได้จากอุปกรณ์พกพาสมาร์ทโฟน เช่น BlackBerry, Playbook, iPad, iPhone เพื่อช่วยให้บุคคลากรภายในองค์กรสามารถติดต่อและทำงานร่วมกันได้รวดเร็วและง่ายขึ้น เพราะผู้ใช้ไม่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยสามารถใช้อีเมล์ Instant Mesaging, การประชุมผ่านเว็บและฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ทางสังคมอื่นๆเช่น Blog, Wiki, Activity

จากภาพ กิตติณัฐ ทีคะวรรณ รองผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานการตลาดเชิงพาณิชย์และบริหารงานขาย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (ที่ 3 จากขวา) วิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) พร้อมด้วยบล็อกเกอร์ไอทีชั้นนำของไทย

ทรูมูฟ ผู้นำ Mobile Hi–Speed Internet นำโดย กิตติณัฐ ทีคะวรรณ รองผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานการตลาดเชิงพาณิชย์และบริหารงานขาย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ ซัมซุง จัดกิจกรรม “TrueMove Samsung Galaxy Tab Real Speed Testing” เชิญ3 บล็อกเกอร์ชั้นนำของไทย อาทิ คุณกิม พลวัฑ กีรติมโนชญ์ จากเว็บไซต์ droidsans.com คุณโมเล็ก ฉกาจ ชลายุทธ จากเว็บไซต์ duocore.tv และคุณอรนุช เลิศสุวรรณกิจ ทวิตเตอร์ไอทีสาวที่มีผู้ติดตามมากมาย ร่วมพิสูจน์สุดยอดความเร็วเต็มประสิทธิภาพของเครือข่ายทรูมูฟ 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ที่ทำให้ Samsung Galaxy Tab กลายเป็นแท็บเล็ต 3G แอนดรอยด์ที่เร็วที่สุดในไทย ณ ชั้น 4 ดิจิตอล พาร์ค สยามสแควร์ เมื่อเร็วๆนี้

นายปิยดรุณ กัลยาณมิตร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด แถลงข่าวเปิดตัวเด็กไทยคว้าแชมป์โลกเวที PB International Championship เป็นการแข่งขันเกมส์ออนส์ไลต์ ครั้งแรกของประวัติศาสตร์ไทยที่ เด็กอายุ 15 ปีคว้าแชมป์ระดับโลกมาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของวงการเกม E-Sport ของไทย พร้อมมอบเงินรางวัล จำนวน 100 ,000 บาท ณ อินฟินิซิตี้ ชั้น 5 สยามพารากอน พร้อมประกาศหนักแน่นผลักดันวงการ E-Sport ไทยให้ก้าวไกลสู่รับดับมืออาชีพแน่นอน เมื่อเร็วๆนี้

เริ่มแล้ว คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 มหกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทียิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศ รับกระแสยุคแอพพลิเคชันเฟื่องฟู ด้วย “Go Digital” เชื่อมติด ชีวิตดิจิตอล ยกขบวนสินค้าไอทีแข่งขันดุเดือด ประชันราคา และแอพพลิเคชัน ลุ้น โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ใครมาแรงแซงยอดขายอันดับหนึ่ง พร้อมโปรโมชันซัมเมอร์เซลล์สุดคุ้ม ราคาพิเศษสุดๆ กระหน่ำทั้งงาน ระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคม 2554 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ – 17 มีนาคม 2554 – นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอที ภายใต้ชื่อ “คอมมาร์ต” กล่าวว่า เออาร์ไอพี ร่วมกับบริษัทคู่ค้าไอทีชั้นนำทั้งในและต่างประเทศจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอที “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011” ภายใต้แนวคิด “Go Digital ” เชื่อมติด ชีวิตดิจิตอล งานคอมมาร์ต ครั้งนี้จะเป็นแหล่งรวมสินค้าไอทีราคาถูก และโปรโมชันสุดพิเศษทั้งงาน อาทิ ลงทะเบียนหน้างานหรือผ่านอินเตอร์เน็ตลดทันที 5% และโปรโมชันสุดคุ้ม ผ่อน 0% (12 เดือน) ซึ่งงานนี้คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านราย คาดว่าสินค้าไอทีที่มาแรงจะเป็นตลาดโน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต และ สมาร์ทโฟน ที่จะแข่งขันกันอย่างดุเดือดทั้งเรื่องราคาและแอพพลิเคชันใหม่ๆ

นายปฐมกล่าวต่อว่า ทั้งโน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน มีส่วนกระตุ้นตลาดไอทีให้มีความเคลื่อนไหวมากขึ้น เนื่องด้วยปัจจัยหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในลักษณะสมาร์ทไลฟ์มากขึ้น ดังนั้น เทรนด์ไอทีปีนี้ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าควบคู่กัน คือ ซื้อทั้ง แท็บเล็ต พีซี และสมาร์ทโฟน เพื่อตอบสนองการใช้งานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตลาดสมาร์ทโฟนมีการพัฒนาแอพพลิเคชันใหม่ๆ และออกสินค้ารุ่นใหม่มาทำตลาด เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่จะผลักดันให้ตลาดไอทีในปีนี้เติบโตตามเป้า 10%

“การจัดงานคอมมาร์ตครั้งนี้ จะเป็นเวทีจำหน่ายสินค้าไอทีราคาพิเศษสุดกว่าทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชันลงทะเบียนเข้าร่วมงานพร้อมรับทันทีคูปองส่วนลด 5% เพื่อซื้อสินค้าที่ร่วมรายการในงานคอมมาร์ต และยังมีโปรโมชันสุดคุ้มกระตุ้นยอดขายอื่นๆ อีกมากมาย งานคอมมาร์ตเป็นงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีที่คุ้มค่า คุ้มราคา และสามารถตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือกลุ่มธุรกิจ นอกจากนี้ ค่ายมือถือต่างๆ ได้ออกแอพพลิเคชันใหม่ๆ บนมือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นตลาดไอทีให้มีสีสันได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่คอมมาร์ตก็ได้เพิ่มแอพพิเคชันรูปแบบใหม่ป้อนข้อมูลถึงเครื่องสมาร์ทฟน Commart Check Price เช็คราคาสินค้าไอทีในงานได้ทันทีผ่าน IPHONE และ สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันรูปแบบใหม่ที่นำมาใช้ในงานอีเว้นท์เจ้าแรกและเป็นครั้งแรกในเมืองไทยซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.commartthailand.com”

สำหรับโปรโมชันโดนใจในงาน อาทิ ACER Aspire4 ราคา 13,900 บาท, ACER Aspire1 Netbook ราคา 5,990 บาท (ไม่รวม Vat) , IPAD ราคาเริ่มต้น 12,900 บาท , IPOD เริ่มต้นที่ 2,000 บาท, IPOD TOUCH เริ่มต้นที่ 7,900 บาท , Samsung Notebook ราคาเริ่มต้น 14,900 บาท , SVOA Notebook ราคา 13,600 บาท และ Accessories IPOD , IPAD , IPHONE ลดราคา 30-70% , Buy 1 Get 1 ซื้อ Libretto W100-1001U โน้ตบุ๊คจอทัชสกรีนคู่เครื่องแรกของโลก รับฟรี เน็ตบุ๊ก NB500-1003T ราคา 49,900 บาท, Buy 1 Get 1 ซื้อ Qosmio F60-BD541 โน้ตบุ๊คสำหรับคอเกมส์ รับฟรี Printer ราคา 49,900 บาท

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมอบรม Workshop ที่น่าสนใจ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น อาทิ ปะ ฉะ ดะ IPad, Samsung Galaxy Tab และ Kindle และเสวนาสาระบันเทิงในหัวข้อ “ธรรมะกับเทคโนโลยี” โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตตโต จากธรรมะเดลิเวอรี่ สนุกสุดฮาภาษาอังกฤษสไตล์ไอทีกับคริสโตเฟอร์ ไรท์ และการประมูลสินค้าไอทีสุดมันส์ เริ่มต้นที่ราคา 1 บาท พร้อมการมอบรางวัล Commart Innovation Award นวัตกรรมโปรดักส์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีในงาน โดยกองบรรณาธิการนิตยสารคอมมาร์ต สำหรับผู้ซื้อสินค้าไอทีครบทุก 3,000 บาท มีสิทธิ์ได้รับคูปองชิงโชคลุ้นรับรถยนต์ นิสสัน มาร์ซ มูลค่ากว่า 4 แสนบาท และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับบริษัทไอทีชั้นนำ และพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนการจัดงาน “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011” ประกอบด้วย บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด บริษัท ฮาร์ดแวร์ เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และมหาวิทยาลัยศรีปทุม

ชูจุดเด่นสมาร์ทแอพพลิเคชั่น โดนใจ เล่นเน็ตฟรีไม่อั้นกับซิม i-mobile 3GX

บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ตั้งเป้ารุกตลาดสมาร์ทโฟน เปิดตัว “i-note” แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 หน้าจอมัลติทัช ขนาด 7 นิ้ว ดูทีวีด้วย ออโต้ ทีวี จูนเนอร์ พร้อมกล้องหน้า-หลัง รองรับการเล่นแฟลช และ เกม 3D ชูจุดเด่น ธีมหน้าจอพร้อมเมนูลัดรูปแบบวิดเจ็ต (Widget) เข้าถึงแอพพลิเคชั่นได้ง่าย เช่น EDT Guide แนะนำสถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว HoroWorld ดูดวง ดูฤกษ์ Smart News Feed ข่าวจากสำนักข่าวชั้นนำของไทย และ Stock อัพเดตตลาดหุ้นแบบเรียลไทม์ พร้อมใช้งานอินเตอร์เน็ตแรงจริงระดับ 3G กับซิม i-mobile 3GX โปรโมชั่นพิเศษ เล่นอินเตอร์เน็ตฟรีแบบไม่จำกัด นอกจากนี้ ไอ-โมบาย ยังเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ แอนดรอยด์รุ่นใหม่ เช่น i-mobile i691 แอนดรอยด์สองซิมเครื่องแรก, i-mobile i692, และ i-mobile i693 ทั้งนี้ ไอ-โมบาย ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม สมาร์ท ซีรีส์ พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษ จอง i-note ฟรีภายในงาน และรับซิม i-mobile 3GX เล่นอินเตอร์เน็ตไม่อั้น โดยงานครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 20 มีนาคมนี้ ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม สยาม พารากอน

นายธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สำหรับปี 2554 ไอ-โมบาย ตั้งเป้ายอดขายโทรศัพท์มือถือกว่า 3.5 ล้านเครื่อง โดยการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง นอกจากการสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มฟีเจอร์โฟนแล้ว ไอ-โมบาย ยังมุ่งมั่นที่จะเพิ่มสัดส่วนการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม สมาร์ทซีรีส์ ที่รองรับการใช้งาน 3G และแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดสมารท์โฟนที่ขยายตัว เพิ่มขึ้น โดยวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่กว่า 10 รุ่น ครอบคลุมทั้งโทรศัพท์มือถือ แอนดรอยด์ และ แท็บเล็ต แอนดรอยด์ ในระดับราคาที่คุ้มค่า เน้นการใช้งานมัลติมีเดีย ดาวน์โหลด และเล่นอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ 3G พร้อมมุ่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่เพื่อให้บริการข้อมูล ทั้งด้านธุรกิจ ข่าวสาร และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ที่ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพแรงเต็มสปีดกับซิม i-mobile 3GX ทั้งนี้ ไอ-โมบาย มุ่งที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และบริการของ ไอ-โมบาย ผ่าน ไอ-โมบาย ช็อป และจุดให้บริการที่มีครอบคลุมทุก 77 จังหวัดทั่วประเทศ”

“ไอ-โมบาย เปิดตัว “i-note” แท็บเล็ต แอนดรอยด์ 2.2 หน้าจอมัลติทัช ขนาด 7 นิ้ว ใช้งานแบบมัลติทัช ที่ยังคงจุดเด่นดูทีวีด้วย ออโต้ ทีวี จูนเนอร์ พร้อมใช้งานโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ตแรงระดับ 3G ความเร็ว 7.2 Mbps รองรับการเล่นไฟล์แฟลช เกม 3D และดูวิดีโอยูทูปโดยไม่สะดุด พร้อมแอพพลิเคชั่นในเครื่องที่พร้อมใช้งานทันที โดย ไอ-โมบาย ทำตลาด i-note ในราคาเพียง 11,900 บาท พร้อม โปรโมชั่นซิม i-mobile 3GX ใช้อินเตอร์เน็ตฟรีแบบไม่จำกัด นาน 1 เดือน นอกจากนี้ ไอ-โมบาย ยังวางเผนเปิดตัวโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องในระดับราคา 4,500 ถึง 6,000 บาท ทั้งรูปแบบทัชสกรีน และปุ่มกด QWERTY เช่น i-mobile i691 มือถือแอนดรอยด์สองซิมเครื่องแรก ใช้งานทั้ง 3G และ GSM รวมทั้ง i-mobile i692 และ i-mobile i693 สนุกกับแอพพลิเคชั่น และเล่นอินเตอร์เน็ตรงระดับ 3G โดยโทรศัพท์มือถือในกลุ่มสมาร์ทซีรีส์จะมาพร้อมฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น ออโต้ ทีวี จูนเนอร์ ดูทีวีทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องจูน คุยเสียงชัดด้วยระบบตัดเสียงรบกวน (noise cancellation) หรือใช้เป็น ไวไฟ เราท์เตอร์ เพื่อแชร์สัญญาณอินเตอร์เน็ต” นายธนานันท์ กล่าว
นายสุภสิทธิ์ รักกสิกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถ มัลติมีเดีย จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านบริการคอนเทนต์แอพพลิเคชั่น โดยนำเสนอบริการที่หลากหลายเพื่อตอบสนองแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะบริการสำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโทรศัพท์มือถือแอนดรอย์ และแท็บเล็ตที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอแอพพลิเคชั่นที่เข้าถึงความต้องการผู้ใช้ และเน้นการใช้งานง่าย ทั้งกลุ่มธุรกิจ กลุ่มไลฟ์สไตล์ และ กลุ่มเอ็นเตอร์เทนเมนท์ เช่น EDT Guide แนะนำสถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว รีวิวร้านค้า และ โปรโมชั่น ส่วนลดพิเศษ HoroWorld ดูดวง ดูฤกษ์ ดูฮวงจุ้ย ปฏิทินจีน Stock อัพเดตความเคลื่อนไหวหุ้นแบบเรียลไทม์ และ Smart News Feed ข่าวจากสำนักข่าวชั้นนำของไทย ทั้งนี้ ผู้ใช้ i-note แท็บเล็ต สามารถเลือกใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ตรงตามไลฟ์สไตล์ ผ่านธีมหน้าจอ และวิดเจ็ตที่มีให้เลือก 3 แบบ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังวางแผนร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อพัฒนาคอนเทนต์ และแอพพลิเคชั่นพิเศษสำหรับผู้ใช้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย”

“ไอ-โมบาย ได้ผสานเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์มัลติมีเดีย พร้อมคอนเทนต์ และแอพพลิเคชั่น พิเศษ ควบคู่ไปกับบริการเสริมบนโครงข่ายบริการ 3G เช่น บริการ วิดีโอ คอลล์ เซ็นเตอร์ และวิดีโอ สตรีมมิ่ง พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์คู่กับแพ็กเกจซิม i-mobile 3GX ซึ่งในปี 2554 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ i-mobile 3GX จำนวน 500,000 ราย ด้วยกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการในรูปแบบที่ตรงกับความต้องการ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป และ ผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม เช่น คนรักหนัง คนรักเพลง และกีฬา พร้อมแพ็กเกจบริการ 3G ในอัตราพิเศษ เพื่อรองรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ที่จะขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้น โดย ไอ-โมบาย มุ่งมั่นที่จะสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำ ในการให้บริการโทรคมนาคมที่สมบูรณ์แบบ” นายธนานันท์ กล่าวในที่สุด

ทั้งนี้ ผู้ใช้ i-note แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือ i-mobile แอนดรอยด์ สามารถใช้งานเต็มประสิทธิภาพความเร็วระดับ 3G ไปกับ แพ็กเกจซิม i-mobile 3GX เพื่อการทำงานที่สะดวกสบายกว่าทุกที่ทุกเวลา โปรโมชั่นพิเศษภายในงาน จอง i-note ฟรี รับทันที ซิม i-mobile 3GX ใช้อินเตอร์เน็ตฟรีไม่จำกัด 1 เดือน รับฟรีที่ชารจ์แบตเตอรี่ในรถยนต์ และ Memory Card 4 GB พร้อมลุ้นรับ พลิวิเลจจาก i-club นอกจากนี้ ผู้ซื้อโทรศัพท์มือถือ i-mobile แอนดรอยด์รุ่นใหม่ รับทันที ซิม i-mobile 3GX ใช้อินเตอร์เน็ตฟรีไม่จำกัด 1 เดือน พร้อมโปรโมชั่นซิมเติมเงิน ซิมรายเดือน และบัตรเติมเงินราคาพิเศษภายในงาน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 20 มีนาคมนี้ บริเวณ ฮอลล์ ออฟ เฟม (Hall of Fame) ชั้น M ศูนย์การค้า สยาม พารากอน

· พบโปรโมชั่นสุดพิเศษ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เลอโนโวรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ รุ่นที่ 2 ในงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011

· ร่วมค้นหาโน้ตบุ๊คที่สะท้อนความเป็นตัวคุณกับแคมเปญ ‘Are you Lenovo?’

คุณขจรเกียรติ อร่ามรัศมีกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้าน ธุรกิจขนาดย่อม และ คุณวรเทพ จักรวาลวิบูลย์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีล้ำสมัย ‘Lenovo Enhanced Experience 2.0 for Windows 7’ จาก งาน แสดงสินค้าและเทคโนโลยีระดับโลก CES 2011 ลาสเวกัส โดย เทคโนโลยีดังกล่าว ส่งผลให้สามารถใช้เวลาในการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพียง 13 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวของคอมพิวเตอร์เลอโนโว ที่พัฒนาร่วมกันระหว่างเลอโนโวกับไมโครซอฟท์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบปฏิบัติการ Window 7 ให้รวดเร็วล้ำกว่าโน๊ตบุ้คทั่วไป

เลอโนโว เปิดตัว ‘Lenovo Enhanced Experience 2.0 for Windows 7’ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่างเลอโนโวและ ไมโครซอฟท์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ปฏิบัติการในคอมพิวเตอร์ และโน๊ตบุ๊คเลอโนโวเมื่อใช้คู่กับ Window 7 ที่ติดตั้งพร้อมให้คุณตั้งแต่โรงงานผลิตซึ่งนับเป็นอีกคุณสมบัติอันโดดเด่นและเป็นเอกสิทธิ์เพื่อความเร็วล้ำกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วๆไป

เลอโนโวชวนร่วมสนุกกับกิจกรรม Lenovo Enhanced Experience 2.0 Challenge พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษและสินค้าโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดในงาน “ คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 17-20 มีนาคม 2554 ที่ตั้งบูธเลอโนโวอยู่ที่บูธ P8 ห้องเพลนนารี่ ฮอลล์ และบูธ A9 ในโซนซีของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

คุณขจรเกียรติ อร่ามรัศมีกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้าน ธุรกิจขนาดย่อม บริษัท เลอโนโว ประเทศไทย กล่าวว่า “ งาน ในครั้งนี้ นอกจากเลอโนโวจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลายมาให้ทุกท่านได้สัมผัสแล้ว เรายังมีกิจกรรมเสริมเพื่อให้ผู้ที่เข้าเยี่ยมชมบูธของเลอโนโวจะได้ร่วม สัมผัสความโดดเด่นของเทคโนโลยีใหม่ๆที่เลอโนโวไม่เคยหยุดพัฒนาเพื่อความพึง พอใจสูงสุดของผู้ใช้อย่างแท้จริง และร่วมสนุกกับเกม..เราท้า..ให้คุณทาย…ประสบการณ์ความเร็ว EE 2.0 (Lenovo Enhanced Experience 2.0) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากงาน CES ที่ลาสเวกัส และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาที่สิงค์โปร์ ทั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมภายใต้แคมเปญ ‘Are you Lenovo?’ ที่ เรามุ่งหวังให้ลูกค้าได้ทำความรู้จักแบรนด์เลอโนโว เรามั่นใจว่าลูกค้าจะได้ค้นพบตัวตนและจุดเด่นที่โดนใจของผลิตภัณฑ์ที่หลาก หลายภายใต้แบรนด์ของเราด้วย 3 คุณสมบัติเด่นของเลอโนโว อันได้แก่ ‘ นวัตกรรมล้ำสมัย (Innovati ve )’ , ‘ ความน่าเชื่อถือ (Reliab le )’ และ ‘ พลังสร้างสรรค์ (Inspired)’ ที่ไม่เคยหยุด ตอบสนองทุกการใช้งาน ทั้งทำงานและเพื่อความบันเทิง สุดท้ายนี้ผมมั่นใจว่าถ้าคุณได้รู้จักเลอโนโว แล้ว คุณจะรักในผลิตภัณฑ์ของเรา .

ร่วมสนุกท้า…ทายกับ Enhanced Experience 2.0 Challenge

เลอโนโวได้เปิดตัว Lenovo Enhanced Experience 2.0 for Windows 7 ไปก่อนหน้านี้แล้วในงาน CES 2011 มหกรรมงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่ลาสเวกัส ครั้งนี่เราได้นำกิจกรรมร่วมสนุกกับ Enhanced Experience 2.0 Challenge ที่บูธเลอโนโว P8 ห้องเพลนนารี่ เพื่อให้คุณร่วมสนุกไปกับการทายระยะเวลาการเปิดและปิดเครื่องของโน้ตบุ๊คเลอโนโวที่มาพร้อมกับ “ Enhanced Experience 2.0 ” เทคโนโลยีระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม ที่มาพร้อมวิวัฒนาการขั้นที่ 2 ที่มุ่งเน้นเพื่อความพึงพอใจของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เลอโนโวด้วยประสบการณ์ใหม่ทันใจยิ่งกว่า เมื่อเทคโนโลยีเลอโนโว EE2.0 เสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบปฏิบัติการ Windows 7 ได้ดีเยี่ยมพร้อมเสริมความสมบูรณ์แบบให้หลากหลายฟีเจอร์ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในงานนี้ท่านจะได้สัมผัสเครื่องมาสเตอร์ที่ส่งตรงมาร่วมงานโดยเฉพาะ เพื่อทดสอบความเร็วพร้อมลุ้นรางวัลจากเกมส์เราท้า..คุณทาย พร้อมชมการสาธิต ความเร็วด้วยตัวเอง ตั้งแต่เปิดเครื่องเข้าสู่โหมดพร้อมทำงานจนถึงขั้นตอนปิดเครื่องซึ่งทำได้ รวดเร็วกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปสูงสุดถึง 20 วินาที

เลอโนโวจัดกิจกรรมความสนุก Enhanced Experience 2.0 Challenge ทุกวัน ร่วมสนุกทายระยะเวลาเปิดและปิดเครื่องของ ThinkPad E420s ทั้งที่บูธเลอโนโว ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมสนุกเพียงให้ชื่อและที่อยู่และร่วมเล่นเกมส์ โดยผู้ที่ทายถูกจะได้ลุ้นรับรางวัลพิเศษรอบละ 5 รางวัล อาทิเช่น Are You Lenovo มูฟวี่การ์ด บัตรดีไซน์พิเศษสำหรับแฟนเลอโนโวเท่านั้นซึ่งภายในมีตั๋วชมภาพยนตร์ 4 ที่นั่ง , เสื้อยืด หมวก เป็นต้น

ดีไซน์ใหม่สุดล้ำ พร้อมสุดยอดขุมพลังจากโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด

ผลิตภัณฑ์ รุ่นใหม่ของเลอโนโวเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ ความบันเทิงคุณภาพเหนือระดับ เพลิดเพลินไปกับการชมภาพยนตร์ ฟังเพลง และเล่นเกมส์ได้อย่างเต็มตา เต็มอารมณ์ด้วยขุมพลัง 2 nd Generation Intel Core Processor หรือรุ่นที่เสริมสมรรถนะให้แรงทันใจไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี Enhanced Experience 2.0 for Windows 7

IdeaPad Y460p อัดแน่นด้วยฟีเจอร์มัลติมีเดียครบครัน เพิ่มอรรถรสการเล่นเกมส์ ฟังเพลงและชมภาพยนตร์ได้อย่างสมจริงเต็มอารมณ์

· ตอบโจทย์ตรงใจกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการฟีเจอร์ความบันเทิงแบบเต็มพิกัดด้วยกราฟิกคุณภาพสูง พร้อมลำโพง JBL และระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby ® Home Theater™ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมาพร้อมกับความจุฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟมากถึง 750 GB และหน่วยความจำ DDR3 ความจุ 4GB พร้อมสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ

· รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวทันสมัยด้วยเส้นตัดขอบด้านนอกสีเมทัลลิกลายขนแมว และตัวแป้นด้านในสีขาวสะดุดตา

· สุดยอดขุมพลังซีพียู Intel ® Core™ i7 จากตระกูลอินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 2 เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง เพื่อการใช้งานได้อย่างคล่องตัว

IdeaPad Z470 ดีไซน์แบบสปอร์ต สุดยอดมัลติมีเดียโน้ตบุ๊คแบบพกพา มอบประสบการณ์ความบันเทิงแบบไร้ขีดจำกัด ในราคาโดนใจ พร้อม HDMI in/out เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือเกมคอนโซล

· จัดเก็บภาพยนตร์ เพลงและเกมสุดโปรดได้อย่างจุใจด้วยหน่วยความจำ DDR3 ความจุ 4GB และ ความจุฮาร์ดดิสก์มากถึง 640 GB ทั้งยังมีระบบการจัดการพลังงาน Lenovo Energy Management 5.0 ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงานสุดล้ำสมัย

· ระบบ OneKey™ Rescue System สำหรับ การแบ็คอัพและกู้คืนข้อมูลอย่างรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส

Lenovo G470 โน้ตบุ๊คราคาสุดคุ้ม มอบประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างสมบูรณ์แบบด้วยขุมพลังหน่วยประมวลผล Intel® Core™ i3 และ Core™ i5 พร้อมความจุและหน่วยความจำสูง , Lenovo Enhanced Experience 2.0 for Windows 7 และเทคโนโลยี RapidBoot เสริมการทำงานสะดวกรวดเร็วและประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม

· หน้าจอ LED ไวด์สกรีนความคมชัดสูงระดับไฮเดฟฟินิชั่น และอัตราส่วนการแสดงภาพ 16:9 ขนาด 14 นิ้ว และช่องต่อ HDMI เพื่อภาพและเสียงแบบมัลติมีเดียคมชัด สมจริง

· ดีไซน์ฝาเครื่องโค้งมนสะดุดตา พร้อม คีย์บอร์ด AccuType ที่ปุ่มออกแบบมาเพื่อการพิมพ์ที่สะดวกในรูปลักษณ์ทันสมัย

· เสริมความปลอดภัยอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า VeriFace สแกนใบหน้าเจ้าของเครื่องด้วยกล้องความละเอียด 2 เมกะพิกเซลเพื่อเข้าสู่การใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

พบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ เฉพาะในงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 สำหรับลูกค้า 300 ท่านแรกที่ซื้อโน้ตบุ๊คเลอโนโวทุกรุ่นที่มาพร้อมกับอินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 2 รับทันทีส่วนลดมากถึง 3,000 บาท ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ซื้อโน้ตบุ๊ค ThinkPad รับทันทีชุดกิฟต์เซ็ตและ 3G Net SIM มูลค่า 1,000 บาท พร้อมลุ้นรับของสมนาคุณมากมาย ที่บูธเลอโนโวอยู่ที่บูธ P8 ห้องเพลนนารี่ ฮอลล์ และบูธ A9 ในโซนซีของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ราคาและการวางจำหน่าย

โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะสำหรับงานคอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 ( จำกัดจำนวน)

IdeaPad Y460p with Intel® Core™ i 7 processor ราคาเพียง 29 ,900 บาท*

IdeaPad Z470 with Intel® Core™ i 5 processor ราคาเพียง 23 ,900 บาท*

Lenovo G470 with Intel® Core™ i3 processor ราคาเพียง 18 ,900 บาท*

Lenovo G470 with Intel® Core™ i5 processor ราคาเพียง 22 ,900 บาท*

*ราคาดังกล่าวไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

นอกจากนี้ เลอโนโวขนทัพหลากหลายสินค้าตรงใจในราคาสุดพิเศษให้ลูกค้าเลือกสรรอย่างจุใจ ร่วมค้นหาโน้ตบุ๊คที่สะท้อนความเป็นตัวคุณกับ แคมเปญ ‘Are you Lenovo?’ พร้อมร่วมทดลองสัมผัส คุณสมบัติเด่นของเลอโนโวพีซีด้านวัตกรรมล้ำสมัย (Innovative) ความน่าเชื่อถือ ( Reliable ) และสร้างสรรค์ ( Inspired ) อย่างใกล้ชิด

สำหรับ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อได้ที่เลอโนโว คอลล์ เซ็นเตอร์ โทร. 1800-060-087

สามารถติดตามข่าวสารและผลิตภัณฑ์ล่าสุดของเลอโนโวได้ที่เว็บไซต์ www.lenovo.com/th หรือสมัครดูได้ที่ Lenovo RSS Feeds (http://news.lenovo.com) หรือติดตามผ่าน Facebook ( www.facebook.com/lenovo.lover )

บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศจัดทัพธุรกิจปี 2554 ด้วยการเดินหน้ารุกตลาดสมาร์ทโฟนเต็มสูบ ตอกย้ำการเป็นแบรนด์คอมมูนิเคชั่นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของเมืองไทย ด้วยการผสมผสานนวัตกรรมความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบในการนำจอภาพแบบ Mobile BRAVIA® Engine และเซ็นเซอร์ Exmor-R ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจาก Sony มาใช้ในการถ่ายภาพ ที่จะช่วยเติมอรรถรสในการรับชมให้มีสีสันมากยิ่งขึ้น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุดจากกูเกิล พร้อมจับมือพันธมิตรทางธุรกิจในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี   

          มร.ซาโตชิ เมกะตะ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด   กล่าวว่า ภายหลังจากที่โซนี่ อีริคสันประสบความสำเร็จจากการส่งสมาร์ทโฟนลงตลาดไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากผู้ใช้เป็นอย่างดี ดังจะเห็นได้จากจำนวนยอดการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของโซนี่ อีริคสันทั่วโลกกว่า 9 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอัตราการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนโตขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคมีพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคส่วนใหญ่เน้นการใช้งานที่หลายหลากและต้องการมือถือที่ตอบโจทย์ความต้องการในทุกๆด้าน ประกอบกับราคาสมาร์ทโฟนที่มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฟนมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในปีนี้

ล่าสุด โซนี่ อีริคสัน ประกาศจัดทัพธุรกิจปี 2554 ด้วยการเดินหน้ารุกตลาดสมาร์ทโฟนอย่างเต็มรูปแบบ โดยมุ่งเน้นฟังก์ชั่นการทำงานที่คมชัดทั้งภาพและเสียง ตอกย้ำการเป็นแบรนด์คอมมูนิเคชั่นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของเมืองไทย ด้วยการผสมผสานนวัตกรรมความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบในการนำจอภาพแบบ Mobile BRAVIA® Engine และเซ็นเซอร์ Exmor-R ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดจาก Sony มาใช้ในการถ่ายภาพ และเป็นสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นล่าสุดจากกูเกิล ที่ให้คุณอัพเดทข่าวสารความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ได้อย่างทันท่วงทีผ่านโปรแกรม Timescape และสนุกเพลิดเพลินไปกับการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นฟรีกว่า 150,000 แอพพลิเคชั่นผ่านทาง “แอนดรอยด์ มาร์เก็ต” (Android Market)  ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ของสมาร์ทโฟนที่มาแรงในปีนี้

นายอิทธิพล  พันธุพงศ์  ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับแผนการตลาดของโซนี่ อีริคสันในปีนี้ เน้นการทำการตลาดร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้โซนี่ อีริคสันยังให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมทางการตลาดและโปรโมชั่นต่างๆผ่านทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ซึ่งจะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเป็นการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ได้เป็นอย่างดี” นายอิทธิพลกล่าวปิดท้าย

กระทรวงไอซีทีเผยยุทธศาสตร์ด้านงานวิจัย มุ่งพัฒนาบุคลากร และยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันด้านไอซีที พร้อมประกาศผลงานวิจัยดีเด่นประจำปี 2553  ประเภทฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เนคเทคคว้ารางวัลชนะเลิศทั้งประเภทฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
 
          ตามที่สำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการสื่อสาร    กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ดำเนินการกิจกรรมส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรม ICT ไทย ระยะที่ ๒ หรือ โครงการ “ICT Award ๒๐๑๐” ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2553 โดยกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์การยกระดับขีดความสามารถด้านการแข่งขันของอุตสาหกรรม ICT โดยมุ่งรวบรวมข้อมูลผลงานวิจัยที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ อันสามารถนำไปพัฒนาหรือต่อยอดเชิงพาณิชย์ต่อไป
 
นายวรพัฒน์ ทิวถนอม กล่าวถึง “โครงการ “ICT Award ๒๐๑๐” ว่า “เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ส่งเสริม
งานวิจัยด้านการพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพอันก่อให้เกิดผลงานวิจัยที่สร้างสรรค์ และต่อเนื่องไปสู่การสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากกิจกรรมการประกวดแล้ว กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมกับหน่วยงานภาคี อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงแรงงาน เป็นต้น ดำเนินกิจกรรมการฝึกอบรมทักษะ การศึกษาดูงาน การฝึกงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยี การสนับสนุนชุมชนเครือข่าย เช่น Open Source Embedded Software เพื่อพัฒนากำลังคนด้าน ICT และบุคคลทั่วไปด้านการสร้างสรรค์ และผลิตงานอย่างมีวิจารณญาณ”
 
“ด้านการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม ICT เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและรายได้เข้าประเทศ โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการสร้างงานวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมภายในประเทศจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคการศึกษาและภาคเอกชน ส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกิดจากงานวิจัยสู่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซอฟต์แวร์และดิจิตอลคอนเทนต์ การสนับสนุนประกอบด้วยการสนับสนุนด้านเงินทุน เงินช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ เช่น เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การจัดให้มี R & D Matching ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลงานด้านภาคการผลิตและบริการที่ประเทศไทยมีศักยภาพ การส่งเสริมธุรกิจด้าน Open Source ในภาคการศึกษาและภาครัฐ ยุทธศาสตร์ดังกล่าวข้างต้นมุ่งเน้นการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจบนพื้นฐานองค์ความรู้ เพื่อการยกระดับขีดความสามารถด้านการแข่งขันและเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” นายวรพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม
                     
 
 
            นายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวถึงกระบวนการคัดเลือกผลงานวิจัยว่า “กระบวนการคัดเลือกผลงานแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่
 
-          ขั้นตอนที่ ๑  เป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนร่วมส่งผลงานวิจัยและรวบรวมผลงานวิจัย ซึ่งแบ่งงานวิจัยออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ โดยสามารถรวบรวมผลงานวิจัย จำนวน ๒๐๒ ผลงาน
 
-                    ขั้นตอนที่ ๒ การคัดเลือกผลงานวิจัย โดยคณะกรรมการประเมินผลงานวิจัย ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้าน  ICT จากภาคการศึกษา ภาครัฐ และเอกชน โดยได้กลั่นกรองผลงานวิจัยเข้าสู่รอบสุดท้าย จำนวน ๒๐ ผลงาน
 
-          ขั้นตอนที่ ๓ การนำเสนอผลงานและการประกาศผล โดยนักวิจัยที่เข้าสู่รอบสุดท้ายจะต้องนำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการประเมินผลงานวิจัย
 
สำหรับรางวัลผลงานดีเด่น แบ่งออกเป็น
 
รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร จำนวน 2 รางวัล ประเภทฮาร์ดแวร์ 1 รางวัล
และประเภทซอฟต์แวร์ 1 รางวัล
 
รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร จำนวน 2 รางวัล ประเภทฮาร์ดแวร์ 1 รางวัลและประเภทซอฟต์แวร์ 1 รางวัล
 
          รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร จำนวน 2 รางวัล ประเภทฮาร์ดแวร์ 1 รางวัลและประเภทซอฟต์แวร์ 1 รางวัล
 
          รางวัลชมเชย ประเภทฮาร์ดแวร์และประเภทซอฟต์แวร์ จะได้รับเกียรติบัตร  
ผลการประกวดโครงการ “ICT Award ๒๐๑๐” ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ประเภทฮาร์ดแวร์
          รางวัลที่ 1 ผลงานชื่อ เครื่องตรวจบัตรเครดิตด้วยหลักการประมวลผลภาพหลายความยาวคลื่น    โดย ดร. ศรัณย์  สัมฤทธิ์เดชขจรและนายยุทธนา  อินทรวันณี  ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ                           
 
รางวัลที่ 2 ผลงานชื่อ  Development of Compact Microstrip Antennas Using
Metamaterials โดย ผศ.ดร. นันทกานต์  วงศ์เกษมและคณะ  คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
 
 
 
 
 
รางวัลที่ 3 มี 2 รางวัล ได้แก่ ผลงานชื่อ  โครงการการออกแบบและพัฒนาสายอากาศ  Radio
Frequency Identification (RFID) สำหรับระบบการลงทะเบียนสัตว์ โดย รศ.ดร. ดนัย  ต. รุ่งเรืองและคณะวิศวกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยเอเซียน
 
รางวัลที่ 3 อีกหนึ่งผลงาน ได้แก่  การสร้างสัญญาณอลวนด้วยแบบจำลองอนุพันธ์ของความเร่งที่มี
อันดับชนิดแยกลำดับส่วน โดยใช้ความไม่เป็นเชิงเส้นของ ไฮเพอร์โบลิกแทนเจนต์  โดย รศ.ดร.บรรลือ  ศรีสุชินวงศ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
 
รางวัลชมเชย มี 3 รางวัล ได้แก่
 
ผลงานชื่อ การออกแบบเครื่องวัดกระแสไฟฟ้าแบบไร้สายและพัฒนาอัลกอริทึมสำหรับวิเคราะห์เพื่อวางแผนการใช้กระแสไฟฟ้าภายในอาคารและบริเวณอาคาร โดย ดร. จักรกฤษณ์  เสน่ห์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
 
ผลงานชื่อ ระบบส่งและรับคลื่นแบบอะเรย์แปดสมาชิกผลัดกันทำงานด้วยสวิตซ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับการสร้างภาพด้วยคลื่นไมโครเวฟ โดย รศ. อนุพงศ์ สรงประภา ห้องปฎิบัติการวิจัย ไมโครเวฟประยุกต์ ภาควิชาฟิสิกส์ประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์  สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
 
ผลงานชื่อ การพัฒนาระบบโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต(VoIP) บนพื้นฐานของโพรโทคอลเริ่มต้น เซสซัน โดย รศ. ดร. วาทิต  เบญจพลกุล  ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
ประเภทซอฟต์แวร์
 
รางวัลที่ 1 ผลงานชื่อ ซอฟต์แวร์ช่วยวางแผนการผ่าตัดรากฟันเทียม นำทีมโดย ดร. เสาวภาคย์    ธงวิจิตรมณี หน่วยปฎิบัติการวิจัยเทคโนโลยีภาค ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
 
รางวัลที่ 2 ผลงานชื่อ ซอฟต์แวร์ Web Application ระบบบริหารจัดการงานบำรุงรักษาเครื่องจักรแบบทวีผลสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม โดย ทีมงานนักวิจัย บริษัท เอ็กซ์ตร้า โซลูชั่น เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
 
รางวัลที่ 3 ผลงานชื่อ ระบบจัดการข้อมูลส่วนบุคคลโดยใช้เสียงพูดบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ (VAPO) พัฒนาโดย นายธนพล นรเสฏฐ์และคณะ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล
 
รางวัลชมเชย มี 6 รางวัล ได้แก่
 
ผลงานชื่อ อับดุล เพื่อนคุยที่รู้ใจ โดย หน่วยปฏิบัติการวิจัยวิทยาการมนุษยภาษา  ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
 
ผลงานชื่อ Building a Large Scalable Internet Superserver for Academic Services with Linux Cluster Technology โดย ผศ. ดร. ภุชงค์  อุทโยภาศ  รศ.สุรศักดิ์  สงวนพงษ์  และรศ. ยืน  ภู่วรวรรณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
 
ผลงานชื่อ การสกัดความรู้กรรมวิธีจากเอกสารภาษาไทยเพื่อการแก้ไขปัญหา โดย ผศ.ดร.ฉวีวรรณ  เพ็ชรศิริและทีมงาน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
 
ผลงานชื่อ ซอฟต์แวร์ช่วยวัดอุณหภูมิร่วมกับอินฟาเรด โดย ดร.ศรัณย์  สัมฤทธิ์เดชขจร และนายโกษม ไชยถาวร ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
 
ผลงานชื่อ โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับตรวจจับเปลวไฟด้วยกล้องวงจรปิด โดย นายมิติ        รุจานุรักษ์ และนายประพิน แสงเงิน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับบริษัท พิโคเทคโนโลยีเวิลด์ จำกัด
 
ผลงานชื่อ อไลน์แบร็กเก็ต 3D พัฒนาโดยทีมงานวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีทางทันตกรรมขั้นสูง (สวทช)