Archive

Archive for April, 2011

ดีแทค 004 โทรทางไกลต่างประเทศ จัดแคมเปญ “dtac 004 miss you more contest” เ

April 27th, 2011 No comments

อาใจลูกค้าที่คิดถึงคนไกล มอบโชคลุ้นบินฟรีไปที่ไหนก็ได้ในโลก และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

ดีแทค 004 โทรทางไกลต่างประเทศ จัดแคมเปญผ่าน facebook โปรโมต บริการ เพื่อสร้างแคมเปญต่อเนื่อง หลังภาพยนตร์โฆษณาได้รับรางวัลจากมหกรรมโฆษณาภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค 2011 (ADFEST) ให้ลูกค้าดีแทค และแฮปปี้ ร่วมสนุกกับกิจกรรม “ 004 miss you more contest ” และลุ้นรางวัลตั๋วเครื่องบิน ค่าโทรทางไกลไปต่างประเทศ และรางวัลอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

เพียงส่งคลิปวิดีโอหรือภาพ ภายใต้แนวคิด “ คิดถึงมาก … อยากให้เธอรู้ ” มาร่วมประกวด ผ่าน www.facebook.com/dtacinternet ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 5 มิถุนายน 2554

โดยผลงานที่ได้รับการกด “like” สูงสุด 20 อันดับแรก จะได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการเพื่อค้นหาผลงาน 5 ชิ้น ที่จะได้รับตั๋วเครื่องบินของสายการบิน Jet Airways จำนวน 5 รางวัล และรางวัลอื่นๆ กว่า 25 รางวัล

View :1604
Categories: Press/Release Tags:

“ คิงส์ตัน เทคโนโลยี ” อวดโฉม หน่วยความจำประสิทธิภาพสูง “ ไฮเปอร์เอ็กซ์ พลั๊ก แอนด์ เพลย์ ”

April 27th, 2011 No comments

บริษัท คิงส์ตัน เทคโนโลยี ประเทศไทย ผู้ผลิตและพัฒนาหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก เปิดตัวหน่วยความจำประสิทธิภาพสูง ซีรีส์ “ ไฮเปอร์เอ็กซ์ พลั๊ก แอนด์ เพลย์ ” หรือ โมดูลหน่วยความจำรุ่นแรกที่มีขนาดความสูงมากกว่าเดิม ที่เป็นส่วนหนึ่งของ CPU เจนเนเรชั่นที่สองของอินเทลอย่าง i5 และ i7 ทั้งนี้ HyperX PnP ผ่านการโปรแกรมที่ระดับความถี่สูงมาก ส่งผลให้เมื่อนำไปเสียบ (Plug) เข้ากับระบบที่ใช้ชิปเซ็ต Sandy Bridge จะสามารถเล่นได้ที่ความถี่ 1600MHz หรือ 1866MHz โดยอัตโนมัติ ทั้งในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ก

ทั้งนี้ HyperX PnP ยังผ่านการโปรแกรมตามมาตรฐาน JEDEC รองรับการทำงานที่ความถี่ 1600MHz และ 1866MHz ใช้งานง่าย เพียงแค่เสียบหน่วยความจำแล้วเปิดเครื่อง จากนั้นระบบจะปรับแต่งความเร็วของหน่วยความจำให้สูงขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องปรับแต่ง BIOS ทำให้ผู้ใช้สัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการโอเวอร์คล็อกที่สามารถทำได้โดยอัตโนมัติด้วยโมดูล HyperX Plug and Play นอกจากนี้ยังรองรับระบบ DDR3 ที่วางจำหน่ายในท้องตลาดไปแล้วก่อนหน้านี้อีกด้วย

แอน ไบ ผู้อำนวยการฝ่ายขายหน่วยความจำ DRAM ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของคิงส์ตัน กล่าวว่า “ ทีมวิศวกร HyperX มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมโมดูลหน่วยความจำ ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องทำโอเวอร์คล็อก ด้วยการตั้งค่าตามมาตรฐาน JEDEC ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มความถี่ในการใช้งานได้ถึงระดับสูงสุดทั้งในคอมพิวเตอร์ระบบ Sandy Bridge และ DDR3”

HyperX Plug and Play วางจำหน่ายแล้ว ณ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของคิงส์ตัน คิงส์ตันรับประกันหน่วยความจำ HyperX ตลอดอายุการใช้งานและให้บริการสนับสนุนด้านเทคนิคฟรี สนใจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของคิงส์ตัน www..com/thailand

View :1254

เอสวีโอเอ ปี 2554 เดินหน้ารุกตลาดเดสก์ท็อป-โน้ตบุ๊ก ตั้งเป้าหมาย 7 , 500 ล้านบาทสร้างจุดแข็งเน้นการบริการ สร้างแบรนด์ SVOA

April 27th, 2011 No comments

เอสวีโอเอวางเป้าหมายการตลาด ปี 2554 ตั้งเป้าหมายกวาดรายได้ 7 , 500 ล้านบาท และเติบโตเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ เล็งเจาะฐานลูกค้า 2 กลุ่มหลัก ทั้งประมูลงานราชการจากภาครัฐและขายสินค้าคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กผ่านห้าง สรรพสินค้า พร้อมแตกไลน์ธุรกิจซัพพอร์ต เซอร์วิส เน็ตเวิร์คกิ้ง เจาะตลาดกลุ่มลุกค้าองค์กร เพิ่มมูลค่ารายได้องค์กร และชูคอนเซ็ปต์ใหม่ “ บริการด้วยใจไทยด้วยกัน ”

นายวีระ อิงค์ธเนศ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ทิศทางของเอสวีโอเอในปี 2554 ว่า ในปีนี้จะเน้นในเรื่องบทบาทของการสร้างแบรนด์ และขยายตลาดสินค้าประเภทเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์ไปสู่ตลาด ใหญ่ ๆ ให้มากขึ้นโดยแบ่งสายการตลาดออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. งานด้านประมูลงานราชการและองค์กรหน่วยงานของรัฐ และสถานศึกษา ซึ่งตลาดส่วนนี้ยังคงเปิดกว้างและมีความต้องการเครื่องเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์ อยู่เป็นจำนวนมาก และ 2. กลุ่มตลาด ดีพาร์ทเมนท์สโตร์และคอนวีเนียนสโตร์ อาทิ เทสโก้โลตัส แม็คโคร บิ๊กซี เป็นต้น ซึ่งมีกลุ่มตลาดลูกค้าในระดับล่าง เป็นกำลังซื้อคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กในราคาที่ไม่แพงและสามารถกำหนดสเปกได้ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กมีราคาไม่แพง เหมาะกับลูกค้าที่เป็นนักเรียนทั่วไป โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมาย มูลค่ายอดขายรวมของเอสวีโอเอเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ จากยอดขายปีที่แล้ว และจะสามารถทำรายได้ประมาณ 7 , 500 ล้านบาท

นายวีระ กล่าวว่า ตลาดของเอสวีโอเอ ยังเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ เดสก์ท็อป เครื่องเซิร์ฟเวอร์ขนาดกลางและโน้ตบุ๊ก เป็นหลัก เอสวีโอเอจะไม่เข้าไปแข่งขันตลาดตามกระแส Social Network ที่จะไปผลิตแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน เหมือนอินเตอร์แบรนด์ค่ายอื่น ๆ ที่แย่งชิงในตลาดด้านนี้รุนแรงมาก ส่วนแบ่งการตลาดของเอสวีโอเอ ในปีนี้ยังคงอยู่ที่คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก ที่เอสวีโอเอมีมาเก็ตแชร์ประมาณ 3-4 เปอร์เซ็นต์ ของตลาดรวมของประเทศ เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเชื่อมั่นว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง ถึงแม้จะไม่หวือหวาก็ตาม

ด้านนาย จักเรศ ลือวัฒนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด ( มหาชน ) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของทิศทางสินค้าเอสวีโอเอและสัดส่วนตลาดของ Server / Gaming ในปีนี้ ยังคงให้ความสำคัญกับตลาดเดสก์ท็อป เป็นหลัก ซึ่งส่วนแบ่งการตลาดของเดสก์ท็อปจะอยู่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนโน้ตบุ๊ก 30 เปอร์เซ็นต์ โดยจะเน้นการทำตลาดในต่างจังหวัดกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเป็นตลาดในกรุงเทพฯ สำหรับสินค้าอื่น ๆ นอกจากสินค้าประเภทเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กแล้ว จะเน้นสินค้าประเภทเครื่องเซิร์ฟเวอร์ หรือเครื่องแม่ข่าย SVOA Foundation Server สำหรับองค์กรขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยเจาะกลุ่มตลาดเอสเอ็มอี ทั้งในภาคเอกชน และงานประมูลทางภาครัฐ ประเภท กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี, โรงเรียน, โรงพยาบาล, หน่วยงานราชการ เช่น อบต, อบจ ที่มีผู้ใช้งานพร้อมกันไม่เกิน 15 คน

ในส่วนที่เติบโตเพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี และจะเป็นจุดแข็งแกร่งของเอสวีโอเอ คือของการให้บริการ ซึ่งป็นยูนิตหนึ่งที่สำคัญมาก เอสวีโอเอมีการบริการขายที่มีประสิทธิภาพมานานกว่า 29 ปี มีศูนย์บริการ150 แห่งทั่วประเทศ โดยในปีนี้เอสวีโอเอวางแผนมุ่งสร้างบริการหลังการขายอย่างมั่นคงให้กับ ลูกค้า โดยรับประกันสินค้าแบรนด์ SVOA นานถึง 3 ปี เต็ม พร้อมบริการรับเครื่องนำไปซ่อมฟรีถึงบ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเอสวีโอเอยังสนับสนุนการให้บริการหลังการขายกับสินค้าของลูกค้าแบรนด์ อื่น ๆ กว่า 13 แบรนด์ดัง สามารถเข้ามาใช้บริการศูนย์บริการของเอสวีโอได้ ซึ่งเอสวีโออพร้อมให้บริการในทุกรูปแบบของการบริการ ภายใต้มาตรฐานการบริการที่เป็นระบบและครบวงจรและสโลแกนใหม่ “ บริการด้วยใจไทยด้วยกัน ”

นอก จากนี้ยังรุกธุรกิจซัพพอร์ต เซอร์วิส เน็ตเวิร์คกิ้ง โดยเป็นผู้วางระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในองค์กร โดยการเจาะกลุ่มตลาดองค์กร แบงก์กิ้งและธุรกิจเน็ตเวิร์คกิ้งอื่น ๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการใหม่ ที่ยังมีตลาดรองรับและอัตราการเติบโตอีกมาก นอกเหนือไปจากการเปิดตลาดด้านซอฟต์แวร์โปรแกรม “SV I-Café Administration” หรือ เอสเวีย ( SVIA ) โดยการเป็นผู้ให้บริการร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ที่มีกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศ

View :1393
Categories: Press/Release Tags:

April 27th, 2011 No comments

ริม เผยโฉม “ แบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊ค ” เตรียมเปิดตัวในเมืองไทยเร็วๆ นี้

บรรยายภาพ : มร. แดนนี่ โบลดุค รองประธาน ประจำประเทศไทย บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น (ริม) ขณะแสดงให้กลุ่มสื่อมวลชนได้เห็นถึงศักยภาพของฟังก์ชั่นต่างๆ รวมทั้งลูกเล่นอันหลากหลายที่ผสานอยู่ในแท็บเล็ตระดับมืออาชีพรุ่นใหม่ “ แบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊ค ” ( BlackBerry® PlayBook™ ) ภายในงานสาธิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งจัดขึ้น ณ ร้านฟาลาเบลล่า ถนนราชดำริ สำหรับเครื่องแบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊คซึ่งเปี่ยมด้วยนวัตกรรมล่าสุดนี้ มาพร้อมกับประสิทธิภาพ ของ ผลิตภัณฑ์ ซึ่ง สอด คล้องกับแนวทางของตลาดแท็บเล็ตที่กำลังเติบโตได้เป็นอย่างดี แท็บเล็ตแบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊คมีวางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปและช่องทาง อื่นๆ ในสหรัฐอเมริกาแล้ว เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 และจะเริ่มจำหน่ายในตลาดนานาชาติตั้งแต่ไตรมาสที่สองเป็นต้นไป รวมถึงมีแผนจะวางจำหน่ายในเมืองไทยเร็วๆ นี้

แบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊ค ถูกออกแบบมาเพื่อมอบทุกสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ อาทิ ความสามารถในการท่องเว็บแบบไร้ช่องโหว่ ระบบการทำงานแบบ Multitasking ที่แท้จริง และระบบมัลติมีเดี ยที่มี ประสิทธิภาพ สูง นอกจากนั้นแบล็กเบอร์รี่เพลย์บุ๊ค ยังมีคุณสมบัติด้านระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย รองรับระบบงานรูปแบบองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่แหนือระดับ และเป็นแพลตฟอร์มพัฒนารุ่นล่าสุดที่เหมาะสำหรับแผนกไอทีและนักพัฒนาอย่าง ยิ่ง

View :1367

แสนสิริรับรางวัล Thailand ICT Excellence Awards 2010

April 27th, 2011 No comments

สุดยอดองค์กรเด่น ใช้ไอซีทีและซอฟต์แวร์ไทยพัฒนาองค์กรมีประสิทธิภาพ

อนงค์ลักษณ์ รัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และธุรการ บริษัท จำกัด (มหาชน) รับรางวัล Excellence ประเภท Thai Software Adoption Projects จาก ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากการนำเสนอโครงการ Service Desk ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการงานทรัพยากรมนุษย์แบบ Online รวมทั้งเป็นแหล่งรวบรวม Application ที่ตอบสนองการใช้งานของพนักงานเข้าร่วมประกวดในโครงการระดับประเทศ “” ซึ่งจัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย(TMA) เพื่อยกย่องและสนับสนุนองค์กรที่มีความเป็นเลิศ ด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และเพื่อยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กรในประเทศไทย อีกหนึ่งรางวัลแห่งความภาคภูมิใจของบริษัท จำกัด (มหาชน) นอกเหนือจากการเป็นผู้นำด้านดิจิตอล มาร์เก็ตติ้งในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย

View :1737

แคนนอน เขย่าวงการกล้องดิจิตอลซิงเกิ้ลเลนส์ เปิดตัวกล้อง DSLR สีสันใหม่ EOS 1100D

April 27th, 2011 No comments

ชูจุดเด่น “ โดนใจ ” ที่ดีไซน์ “ ถ่ายภาพแบบโปร ’ ได้ง่ายๆ ” กับฟังก์ชั่นใหม่

แคนนอน สร้างสีสันใหม่ให้วงการกล้องดิจิตอลซิงเกิ้ลเลนส์ เปิดตัว EOS 1100 D กล้องดีเอสแอลอาร์รุ่นใหม่ล่าสุด เน้นสีสันโดนใจคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ กับครั้งแรกของกล้องในตระกูล DSLR ของแคนนอน EOS ที่สามารถเลือกสีตัวเครื่อง และสายคล้องเข้าชุดได้ถึง 4 สีเมทัลลิค ได้แก่ สีแดง / เทา / น้ำตาล และ ดำ

EOS 1100 D มาพร้อมเซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล , ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 4 พัฒนาให้กล้องตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งขึ้นเพื่อลดการเกิด Noise , เปิดกล้องพร้อมใช้งานเพียง 0.1 วินาที จึงไม่พลาดทุกช๊อตสำคัญ , ช่วงความไวแสงกว้างถึง ISO100-6400 รองรับการถ่ายภาพในที่มืด พร้อมเซ็นเซอร์วัดแสงแบบมืออาชีพที่ละเอียดถึง 63 โซน เพื่อการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์

ระบบออโต้โฟกัส 9 จุด โฟกัสเร็ว ให้ภาพคมชัดแม่นยำ , หน้าจอ LCD กว้าง 2.7 นิ้ว เพิ่มองศาการมองภาพผ่านหน้าจอให้กว้างเป็นพิเศษ , บันทึกภาพเคลื่อนไหวความละเอียดสูงระดับ HD ใช้งานสะดวก เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์กล้องที่วางตำแหน่งของปุ่มตั้งค่าต่างๆ ให้ใช้งานง่าย แม้ถือกล้องด้วยมือเดียว และ ใหม่ ! โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ Basic+ ให้ผู้ใช้สร้างอารมณ์ภาพและแสงตามต้องการได้อย่างง่ายดาย , เมนูภาษาไทย พร้อม Feature guide อธิบายการใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เข้าใจง่าย รวมถึง ปุ่ม Quick Control เพื่อเลือกใช้เมนูต่างๆที่ต้องการได้สะดวกยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ และอุปกรณ์เสริมของกล้อง EOS ได้กว่า 60 รุ่น กล้อง EOS 1100 D วางจำหน่ายพร้อมเลนส์ EFS 18-55 IS II ในราคาเพียง 19 ,900 บาท เริ่มวางจำหน่าย ปลายเดือนเมษายน เป็นต้นไป ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายแคนนอนทั่วประเทศ

คุณสมบัติเด่น

• เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล
• ชิปประมวลผลภาพ DIGIC 4 ปรับระดับการลดสัญญาณรบกวน (Noise) ได้ถึง 4ระดับ
• กล้องตอบสนองรวดเร็ว เปิดกล้องพร้อมใช้งานด้วยเวลาเพียง 0.1 วินาที
• ช่วงความไวแสงกว้างถึง ISO100-6400 รองรับการถ่ายภาพในที่มืด
• หน้าจอ LCD กว้าง 2.7 นิ้ว เพิ่มองศาการมองภาพผ่านหน้าจอกว้างขึ้น ความละเอียดหน้าจอ 230,000 พิกเซล ปรับความสว่างจอได้ 7 ระดับ
• ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง 3 ภาพต่อวินาที (JPEG) หรือ 5 ภาพ (RAW) ต่อเนื่องกันจนกว่าเม็มโมรี่การ์ดเต็ม
• บันทึกภาพเคลื่อนไหวระดับ HD movie (1280 x 720) เพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยเมนูสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวโดยเฉพาะ
• ระบบเซ็นเซอร์วัดแสงแบบมืออาชีพ 63 โซน ปรับชดเชยแสงได้ ± 5 ระดับเพื่อการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์
• เซ็นเซอร์โฟกัสอัตโนมัติ 9 จุด เพื่อการจับโฟกัสรวดเร็ว แม่นยำ
• ใหม่! โหมดถ่ายภาพอัตโนมัติ Basic+ พร้อมคำอธิบายวิธีการสร้างบรรยากาศของภาพ (Pictures Style) และการตั้งค่า white balance อย่างง่ายๆ เพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการ
-บรรยากาศภาพแบบ Picture Style ; (ค่ามาตรฐาน / สดใส / นุ่มนวล / อบอุ่น/ หนักแน่น / เยือกเย็น / สว่างขึ้น / มืดลง / ภาพขาวดำ)
-เลือกค่าแสง White Balance ; (ค่ามาตรฐาน/แสงแดด/แสงในร่ม/เมฆครึ้ม/หลอดไฟทังสเตน/หลอดฟลูออเรสเซนต์/พระอาทิตย์ตก)
• ใหม่! โหมดการถ่ายภาพอัตโนมัติแบบสร้างสรรค์ (Creative Auto: CA Mode) ปรับค่าความมืดสว่าง และบรรยากาศภาพ รวมถึงการปรับหน้าชัด-หลังเบลอได้ง่าย
• ใหม่! เมนูภาษาไทย พร้อม Feature guide อธิบายการใช้งานที่เข้าใจง่าย
• ใหม่! ปุ่ม Quick Control เพื่อเลือกใช้เมนูต่างๆที่ต้องการได้สะดวกยิ่งขึ้น
• จัดลำดับภาพ ด้วยการให้คะแนน (Ratings) จัดลำดับภาพด้วยการให้คะแนน (1-5 ดาว)
• รองรับการใช้งานหน่วยความจำรูปแบบใหม่ SDXC card
• รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ และอุปกรณ์เสริมของกล้อง EOS ได้กว่า 60 รุ่น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Canon Call Center 02-344-9888 หรือที่ www.canon.co.th และ Facebook EOSdigital

View :2787
Categories: Press/Release Tags:

Mobile Technology for Thailand is set to drive mobile app development ecosystem

April 27th, 2011 No comments

With attempt to build up the ecosystem of mobile application development inThailand and to bring Thailand’s mobile application software industry onto the world’s software map, the nine organizations including government, private, and education sectors have officially joined hand to form the groups called ‘’ (MT2 pronounced as MT Square).

The nine organizations as the founding members are Telecommunications Research and Industrial Development Institute (TRIDI), Software Park Thailand, National Electronic and Computer Technology Center (Nectec), Kasetsat University, King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang, Microsoft (Thailand), Intel Microelectronics (Thailand), Samart Corporation, and Spring Telecom.

MT2 will play role as the center for all stakeholders in mobile application development ecosystem in Thailand with the pool resource and contributions from the first nine founder members. The group will provide since technology know-how, development facility, training, and assistant to commercial software.

The group aims to increase mobile application developers in Thailand to meet the critical mass at around 30,000-40,000 people in the next 4 years.

According to TRIDI director Supot Tiarawut, the total mobile application market value in Thailand this year is expected to reach around Bt9.8 billion increased from Bt6.3 billion last year.

He added MT2 will develop Thai mobile application developers database, to provider them the facility such as technology tools, training & workshop, mobile application testing center service, business matching, and market place as well as helping on commercial in both local and global market.

“This collaboration is to lead the country’s mobile application development with the direction and plan as we will provide the trend of new technologies to guide them to develop applications which are demanded,” said Supot.

He added that TRIDI supports Bt5 million as the start-up budget for the establiment of mobile application testing center located at Software Park Thailand. Here, latest mobile phone devices and technologies will be available for developer’s testing. The center is expected to be official lunched next month.

Thanachart Numnonda director of Software Park Thailand said that mobile application software is the very huge market and big opportunity for Thai developers as its market is beyond domestic market. But it means the global market opportunity which is expected be around US$7 billion.

“Now, we do not have the information how many mobile application developers in Thailand therefore we hope this collaboration will be the good staring point to develop developer database and pool them with the government, private, and education supports and resources,” said Thanachart.

He added that mobile application software is the huge market for Thai developers should do not miss. Mobile devices do not mean only mobile phone but it also mean tablets and the future mobile devices in new form factors, and it does not mean only Hai market but it also mean the worldwide market.

The group aims to recruit both corporate and individual (software developers) members to join the group.

Meanwhile, private sectors both Intel Microelectronics (Thailand) and Microsoft (Thailand) also provide technologies and training for Thai developers. They also help developers to bring their application onto the market place for worldwide commercial.

Intel Microelectronics (Thailand)’s Strategist-Emerging Market Enabling Software Solution Group Jirawat Maeprasert said that Intel will offer Thai developers to develop application to serve Windows and MeeGo platforms and bring the application to be sold on Intel’s application store via appUp.com.

“Currently, there are 500 Thai developers join Intel AppUp Developer Program and there are 10 Thai-developed applications are available on Intel appUp.com. He added that joining MT2 will help Intel to increase more number of Thai developers to 1,000 people to join Intel mobile application developer community and aims to increase Thai-app to be 50 applications,” said Jirawat.

View :2704

เออาร์ไอพีเครื่องร้อนลุยต่อ “คอมมาร์ต ซีมาร์ต 2011” เอาใจสาวกไอที ช้อปต้อนรับเปิดเทอม

April 27th, 2011 No comments

 
เออาร์ไอพี เดินเครื่องเต็มสูบเตรียมจัด “คอมมาร์ต ซีมาร์ต ไทยแลนด์ 2011” ตามกระแสเรียกร้องของเว็นเดอร์ และผู้บริโภคที่พลาดงานต้นปี ต้อนรับเทศกาลแบ็ค ทูสคูล เน้นเปิดตัวสินค้าที่หลากหลายด้วยนวัตกรรมเน็ตเวิร์ค ระหว่างไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ตอบรับชีวิตดิจิตอลที่ต้องการสมาร์ทโปรดักส์มากขึ้น อัดแน่นด้วยโปรโมชันพิเศษสุด และกิจกรรมเวิร์คชอปเสริมความรู้มากมาย ระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2554 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
 

นายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ( ที่ 3จากซ้าย ) ร่วมกับ 7 พันธมิตรจากบริษัทไอทีชั้นนำ แถลงข่าวจัดงาน “ คอมมาร์ต ซีมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 ” งานแสดงเทคโนโลยีและจำหน่ายสินค้าไอที ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “ Go More Digital” สีสันและความหลากหลายของสินค้านวัตกรรมล้ำยุค ทั้งสินค้าไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ภายในครัวเรือน พร้อมกับโปรโมชันสุดพิเศษ ต้อนรับเปิดเทอม ลงทะเบียนเข้างาน รับฟรี คูปองส่วนลด 10 % เพื่อซื้อสินค้าที่เข้าร่วมรายการ โดยงาน “ คอมมาร์ต

นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอที ภายใต้ชื่อ “คอมมาร์ต” กล่าวว่า เออาร์ไอพี ร่วมกับบริษัทคู่ค้าไอทีชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอที “คอมมาร์ต ซีมาร์ต ไทยแลนด์ 2011” ภายใต้แนวคิด “Go More Digital” สีสันและความหลากหลายของสินค้านวัตกรรมล้ำยุค ทั้งสินค้าไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ภายในครัวเรือน รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการจะอัพเกรดสินค้าไอทีที่มีอยู่ให้เป็นสมาร์ทโปรดักส์มากขึ้น ด้วยโปรโมชันที่แรงขึ้นและสะใจกว่าเดิม ต้อนรับเปิดเทอมด้วยโปรโมชันส่งเสริมการขาย ลงทะเบียนเข้างาน รับฟรี คูปองส่วนลด 10% เพื่อซื้อสินค้าที่เข้าร่วมรายการในงานคอมมาร์ต ซีมาร์ต ในครั้งนี้
 
“การจัดงานในครั้งนี้ เนื่องจากเวนเดอร์จะนำสินค้าไอทีใหม่ๆ  หลากหลายแบรนด์มาเปิดตัวและจำหน่ายในงาน  อีกทั้งสินค้าไอทีใหม่ๆ หลายแบรนด์ที่ยังไม่มีการเปิดตัวในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ทำให้การสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเพื่อจะโชว์หรือจำหน่ายภายในงานทำได้ยาก  รวมทั้งเวนเดอร์ก็หวั่นเรื่องกำลังซื้อในช่วงไตรมาส 2 ที่จะลดลง  รวมทั้งปัจจัยภายใน และภายนอกประเทศรุมเร้า  โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ในขณะนี้ ประกอบกับเป็นช่วงเปิดภาคเรียนพอดี จึงได้จัดงานครั้งนี้ขึ้น และมั่นใจว่าตลาดไอที และอิเล็กทรอนิกส์จะต้องคึกคักอย่างแน่นอน และยังมีผู้ที่พลาดโอกาสจากงานครั้งที่แล้วชะลอการตัดสินใจจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ เราจึงเปิดเวทีเต็มที่ทั้งสินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย และมีโปรโมชันที่แรงกว่าเดิม”
 
ในส่วนเทคโนโลยีที่นำมาจัดแสดงในงานคอมมาร์ต ซีมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 ครั้งนี้ จะเน้นสมาร์ทโปรดักส์ ซึ่งเป็นเทรนด์ของการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ ของกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ คือ ทันสมัย ง่าย สะดวกสบาย และสามารถนำมาช่วยสนับสนุน และต่อยอดธุรกิจขององค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ได้ อาทิเช่น PC จากหลายแบรนด์ดัง และหลากหลายระบบปฎิบัติการ อย่าง Motorola Xoom, IPAD2, BB Playbook สมาร์ท ทีวี หรือ อินเตอร์เน็ตทีวี  โน้ตบุ๊กครบทุกยี่ห้อที่พร้อมจำหน่าย CPU ล่าสุด “The 2 nd Generation 2 Intel Core Processor Family ทางด้านโปรโมชันที่น่าสนใจต่างๆ สามารถเช็คราคาได้ทันทีผ่านสมาร์ทโฟนและ IPAD ได้ทันทีก่อนเข้าชมงาน กับ Commart Check Price และสำหรับผู้ที่ซื้อสินค้ายอดซื้อมากที่สุดในงานจะได้รับ IPAD 1 16 GB WiFi จำนวน 4 รางวัลทันที 
 
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเสวนา Workshop ที่น่าสนใจให้เห็นภาพการใช้ชีวิตระหว่างไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ที่ผสมผสานอย่างลงตัว โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น อาทิ Home Care เมื่อกล้องวงจรปิดช่วยเฝ้าบ้านให้กับคุณ , พัฒนาลูกรักด้วย Tablet , บันเทิง 360 องศากับ HD Player และอื่นๆ อีกมากมาย
 
สำหรับบริษัทไอทีชั้นนำ และพันธมิตรที่เข้าร่วมสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในการจัดงาน “คอมมาร์ต ซีมาร์ต ไทยแลนด์ 2011” ประกอบด้วย บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเไทย) จำกัด , บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด, บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด, บริษัท ฮาร์ดแวร์ เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)

View :1298

ดีแทคเปิดช่องทางเช็คผลแอดมิชชั่น 2554 ให้น้อง ๆ ฟรี

April 27th, 2011 No comments

ดีแทคร่วมกับสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทยขอเชิญชวนนักเรียนและผู้ปกครองที่ต้องการเช็กผลสอบแอดมิชชั่นปี 2554 จากมือถือดีแทค (ทั้งรายเดือนและเติมเงิน) กดเช็กผลได้ฟรีทันทีเมื่อสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทยประกาศผลอย่างเป็นทางการ โดยกด *751* เลขที่สมัคร 7 หลัก # แล้วโทรออก สำหรับภาษาไทย หรือ *751* เลขที่สมัคร 7 หลัก *9 # แล้วโทรออก เมื่อต้องการให้แสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ ระบบจะแจ้งผลการสอบกลับทาง SMS ให้ทราบ (ไม่คิดค่าบริการ

View :1312

ทรู ห่วงลูกค้าซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์ปัจจุบันกว่าล้านราย กระทบหนัก ประกาศจุดยืนชัดเจน สู้เพื่อประโยชน์ลูกค้า คนไทย และประเทศไทย

April 27th, 2011 No comments

    
กรุงเทพ ฯ 27 เมษายน 2554 : ทรูห่วงหนักลูกค้าซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์กว่า 1 ล้านรายทั่วประเทศ   ใช้บริการไม่ได้ หากศาลปกครองมีคำสั่งให้ กสท โทรคมนาคม หยุดดำเนินการการให้บริการสื่อสาร ย้ำชัด       ผู้ประกอบการไทยต้องสู้ เพื่อประโยชน์ลูกค้า คนไทย และประเทศไทย      
 
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ตามที่บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2554 ให้ศาลมีคำสั่งให้ กสท โทรคมนาคม ระงับการดำเนินการต่างๆ ตามสัญญาระหว่าง บมจ. กสท โทรคมนาคม และกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ในการร่วมลงทุนเพื่อให้บริการสื่อสารในระบบ          ซีดีเอ็มเอ และเอชเอสพีเอ  กลุ่มทรูรู้สึกกังวลและเป็นห่วงอย่างมากที่สุดว่า หากศาลมีคำสั่งให้หยุด       ดำเนินการให้บริการสื่อสารในระบบซีดีเอ็มเอ และเอชเอสพีเอดังกล่าว จะสร้างความเดือดร้อนต่อลูกค้า     ซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์กว่า 1 ล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ใช้บริการซีดีเอ็มเอมายาวนานเกือบ 10 ปี ทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้ตามปกติ  ซึ่งความเดือดร้อนดังกล่าวไม่ได้เป็นความผิดของลูกค้า  รวมทั้งไม่ได้เกิดจากความขัดข้องของสัญญาณ และเครือข่ายการให้บริการทั้งสิ้น
 
“ปัจจุบันการสื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิต หากลูกค้าทั้ง 1 ล้านรายไม่สามารถใช้บริการ     ติดต่อสื่อสารได้ จะเกิดผลกระทบอย่างหนักต่อลูกค้า ทั้งการใช้งานตามปกติและกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน        ซึ่งความเดือดร้อนดังกล่าวจะกระจายถึงลูกค้าที่อยู่ในทุกภาคส่วนของประเทศ กลุ่มทรู ขอย้ำว่าจะยืนหยัดต่อสู้จนถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ลูกค้าซีดีเอ็มเอของ กสท และฮัทช์ทั้ง 1 ล้านรายได้รับความเดือดร้อนอย่าง
แน่นอน ” นายศุภชัย กล่าวสรุป

View :1280
Categories: Press/Release Tags: ,