Archive

Archive for April, 2011

เอไอเอส ออกแพ็คเกจ Unlimited Data Roaming ทวีปยุโรปเป็นรายแรกในประเทศไทย”

April 7th, 2011 No comments

เอไอเอส เดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำบริการข้ามแดนอัตโนมัติ ออกแพ็คเกจใหม่ “ ทวีปยุโรป” ทั้งระบบโพสต์เพดและพรีเพดเป็นรายแรกในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าใช้งานดาต้าได้แบบไม่อั้น ใน 5 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ, เยอรมนี ,  สาธารณรัฐเช็ก , สเปน และไอร์แลนด์

นายวีรชัย พัชโรภาสวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริการข้ามแดนอัตโนมัติ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริการข้ามแดนอัตโนมัติจากเอไอเอส อยู่เคียงข้างลูกค้าทุกที่ทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเรามุ่งมั่นพัฒนาบริการ เพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจ สามารถนำโทรศัพท์มือถือไปใช้งานในต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งการโทรออก รับสาย ส่ง SMS และการใช้งานดาต้า โดยปัจจุบันสามารถใช้บริการได้ครอบคลุมถึงกว่า 211 ประเทศ 737 โอเปอร์เรเตอร์ ทั่วโลก โดยเฉพาะการใช้งานดาต้า โรมมิ่ง ที่ปัจจุบันมีปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 200%

ดังนั้นที่ผ่านมาเอไอเอสจึงได้ออกแพ็คเกจ   Unlimited Data Roaming     ทั้งระบบโพสต์เพดและพรีเพด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่า  สามารถใช้งานดาต้าโรมมิ่งได้อย่างสบายใจแบบไม่จำกัดขณะอยู่ต่างประเทศ โดยเริ่มทยอยเปิดให้บริการในทวีปเอเชียแปซิฟิก จำนวน 11 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น , เกาหลีใต้ , ออสเตรเลีย , ไต้หวัน ,  ฟิลิปปินส์ , มาเลเซีย , สิงคโปร์ , ฮ่องกง , มาเก๊า , อินเดีย และอินโดนีเซีย  ซึ่งประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

สำหรับวันนี้เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำของบริการข้ามแดนอัตโนมัติอีกครั้ง เอไอเอสจึงออกแพ็คเกจใหม่  “Unlimited Data Roaming ทวีปยุโรป”  ขึ้น  สำหรับลูกค้าทั้งระบบโพสต์เพดและพรีเพด เป็นรายแรกในประเทศไทย  เพื่อให้ลูกค้าที่เดินทางไป 5 ประเทศยอดนิยมในทวีปยุโรป

ได้แก่ อังกฤษ , เยอรมนี , สาธารณรัฐเช็ก , สเปน และไอร์แลนด์   ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากถึงกว่า 300,000 คน / ปี ได้รับความคุ้มค่า สามารถท่องโลกอินเตอร์เน็ต แชท เฟซบุ๊ค อัพโหลดรูป และส่งอีเมล์ ได้แบบไม่อั้นขณะเดินทาง  เพียงเลือกเครือข่ายตามที่กำหนดไว้ในแต่ละประเทศทุกครั้งที่ใช้งาน ซึ่งจากการขยายการให้บริการไปในทวีปยุโรปในครั้งนี้ ทำให้เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่มีจำนวนประเทศที่เปิดให้บริการแพ็คเกจ Unlimited Data Roaming ครอบคลุมมากที่สุดถึง 16 ประเทศทั่วโลก

สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสมัครแพ็คเกจดังกล่าวได้ก่อนเดินทางตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  โดยติดต่อเอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ 1175 , เอไอเอส ช็อป และร้านเทเลวิซทุกสาขาทั่วประเทศ  หรือสมัครได้ด้วยตนเองโดยการกดรหัสแพ็คเกจผ่านมือถือ โดยมีให้เลือกใช้งานได้ทั้งแพ็คเกจ  1 วัน 450 บาท ,  3 วัน 1,300 บาท และ 5 วัน 2,000 บาท

และนอกจากแพ็คเกจสุดคุ้มแล้ว เอไอเอสยังให้ลูกค้าอุ่นใจตลอดการเดินทาง ด้วยหลากหลายบริการพิเศษที่มีให้เลือกใช้งานได้ฟรีขณะอยู่ต่างประเทศ ได้แก่ บริการตรวจสอบอัตราค่าบริการ IR ขณะอยู่ต่างประเทศ กด *128# แล้วโทรออก , บริการตรวจสอบแพ็คเกจที่สมัครและวันสิ้นสุดการใช้งานสำหรับลูกค้าโพสต์เพด กด *121*4# แล้วโทรออก และลูกค้าพรีเพด กด *121*3# แล้วโทรออก , บริการตรวจสอบปริมาณการใช้งานดาต้า กด *121*5# แล้วโทรออก และบริการเปิด – ปิดการใช้งานดาต้าได้ด้วยตนเอง เพียงกด *129# แล้วโทรออก  

บริการข้ามแดนอัตโนมัติจากเอไอเอส จะเดินหน้าขยายการให้บริการ Unlimited Data Package

ไปยังประเทศต่างๆ ที่ลูกค้านิยมเดินทาง เพื่อมอบความคุ้มค่าและความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าตลอดการเดินทางในทุกที่ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องต่อไป” นายวีรชัย กล่าวสรุป

View :1405

แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ เผยผลประกอบการปี 53 ขยายตัว 44%

April 6th, 2011 No comments

กรุงเทพฯ 29 มีนาคม 2554 – แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) ผู้นำธุรกิจซอฟท์แวร์และบริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ เผยผลประกอบการปี 53 พุ่ง 44% ได้อานิสงส์จากการที่องค์กรภาครัฐและเอกชนเห็นความสำคัญของระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจขั้นสูงในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมคว้ารางวัลสำนักงานสาขาอันดับหนึ่งที่มีผลการดำเนินงานสูงสุดในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากการจัดอันดับของแซส ระดับโลก พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 54 ขยายตัวต่อเนื่องเพิ่ม

ในปีที่ผ่านมา บริษัทแซสมีรายได้ทั่วโลกรวม 2,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย 73,900 ล้านบาท ซึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาเป็นเวลา 35 ปี แซสมีผลประกอบการทั่วโลกเติบโตขึ้นต่อเนื่องทุกปี ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 อย่างแท้จริงของแซสในตลาดซอฟท์แวร์และบริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ

นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ตลาดวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงธุรกิจให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยงและอาชญากรรมทางการเงินในประเทศไทยมีมูลค่ารวมกันกว่า 5,000 ล้านบาท เนื่องมาจากหน่วยงานต่างๆ ต้องการนำเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจขั้นสูงมาประยุกต์ใช้งานมากขึ้น เพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจอย่างแม่นยำ โดยในปีที่ผ่านมาบริการของแซสถือว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี จนมีผลประกอบการปี 53 ขยายตัวสูงถึง 44% ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยลูกค้ากลุ่มที่ครองสัดส่วนการใช้บริการแซส ประเทศไทยสูงสุดคือ กลุ่มลูกค้าการเงินการธนาคาร และธุรกิจประกันภัย คิดเป็น 42% รองลงมา ได้แก่ ธุรกิจโทรคมนาคม หน่วยงานราชการ และสถาบันการศึกษา

สำหรับในปี 2554 นี้ นายทวีศักดิ์มองว่าธุรกิจการเงินและธนาคาร จะยังคงมีการลงทุนด้านบริการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะธุรกิจประเภทนี้มีอัตราการแข่งขันสูง จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือในการออกแบบสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ย และโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากที่สุด

“ในภาวะปัจจุบันที่เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอยู่เสมอ ทำให้ทุกองค์กรต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา การตัดสินใจใดๆ ต้องอยู่บนพื้นฐานของการคาดการณ์ที่แม่นยำเที่ยงตรงโดยอาศัยเทคโนโลยีจัดการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ อย่างเป็นระบบ ทำให้ตลาดโซลูชั่นวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจในประเทศไทยช่วงหลายปีมานี้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก หลายองค์กรให้ความสนใจนำระบบนี้มาใช้ในหน่วยงาน เพราะเป็นประโยชน์ในการเจาะตลาดเป้าหมาย พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากขึ้น ควบคู่ไปกับการสรรหาระบบการจัดการความเสี่ยง และระบบตรวจสอบป้องกันการทุจริตที่มีประสิทธิภาพมาใช้ร่วมกัน”

นายทวีศักดิ์ชี้ว่า จากปี 2553 ที่ผ่านมา จะเห็นว่าเริ่มมีการรายงานข่าวอาชญากรรมทางการเงินสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งจากการฉ้อโกงโดยคนในเอง หรือจากกลุ่มมิจฉาชีพที่สรรหาวิธีการโกงด้วยรูปแบบต่าง ๆ นั้น สถาบันการเงินในประเทศไทยมีความตื่นตัวในการนำระบบตรวจสอบป้องกันการทุจริตไปใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อให้เกิดการมอนิเตอร์ของการทำงานทั้งระบบอย่างละเอียดถี่ถ้วน เป็นการป้องกันการโจรกรรมข้อมูล การฟอกเงิน และการกระทำผิดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างจริงจัง

“ในปี 2554 นี้ การมาของ 3 G เป็นเรื่องที่น่าจับตามอง เพราะผู้บริโภคจะได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลนั้น ๆ จะถูกคัดกรองและส่งให้แก่ผู้บริโภคแบ่งเป็นรายบุคคล ทำให้เกิดการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ฉับไว ทั้งนี้ในส่วนของการทำธุรกรรมทางการเงิน ก็เช่นกัน จะมีการกระทำผิดในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น จากตัวเลขการฉ้อโกงในระดับ 10 ล้าน – 100 ล้านบาท อาจสูงขึ้นเป็นหลักพันล้านบาทได้ ซึ่งนอกจากสถาบันการเงินจะมีการวางระบบป้องกันอย่างจริงจังแล้ว ตัวผู้บริโภคเองก็จำเป็นต้องอ่านข้อมูลหรือตรวจสอบโปรโมชั่นล่อใจต่าง ๆ อย่างมีสติด้วยเช่นกัน”

ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาแซส ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจใหม่ๆ สู่ตลาดไทย เพื่อสร้างขีดความสามารถการแข่งขันแก่องค์กร อาทิ โปรแกรมด้านการกำกับดูแลการบริหารจัดการความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ (® Enterprise Governance, Risk and Compliance: GRC) และโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลจากสื่อสังคม (® Social Media Analytics) ที่กำลังมีบทบาทอย่างมากในเชิงธุรกิจ

ปัจจุบันแซส ประเทศไทย มีลูกค้าชั้นนำมากมาย อาทิ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่เลือกใช้โซลูชั่นของแซสพัฒนาระบบป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน ระบบบริหารจัดการทรัพย์สินและหนี้สิน พร้อมทั้งโปรแกรมเครดิต สกอร์ริ่ง รวมถึงบริษัทซิกน่า ประกันภัย เลือกใช้โปรแกรมระบบการวิเคราะห์ข้อมูลสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น และกลุ่มบริษัทแอกซ่าที่เลือกใช้โซลูชั่นวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจประกอบการกำหนดราคาและการปฏิบัติตามกฎหมาย

สำหรับทิศทางธุรกิจปี 2554 แซส ประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์อันดีกับบรรดาคู่ค้าท้องถิ่นและระดับโลก รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของทีมงาน โดยยึดถือหลัก “ความเป็นเลิศในการให้บริการ” ” สนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าด้วยความรวดเร็ว ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการใช้งานผลิตภัณฑ์ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น ไปพร้อมๆ กับนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ โดยทางบริษัทวางแผนที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าภาครัฐให้มากยิ่งขึ้น และคาดการณ์ว่ารายได้โดยรวมจะเพิ่มขึ้นอีกอีกเท่าตัวเมื่อเทียบกับรายได้ในปี 2553

และเพื่อฉลองความสำเร็จครบรอบ 10 ปีของบริษัทแซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) ทางบริษัทยังมีโครงการจัดงานเสวนา SAS Forum ขึ้นในปีนี้ด้วย โดยจะเชิญผู้นำในธุรกิจระบบวิเคราะห์ข้อมูลมาร่วมพูดคุยกันและยังถือเป็นโอกาสอันดีที่จะแสดงศักยภาพและความสำเร็จในธุรกิจนี้ของประเทศไทยให้นานาชาติได้เห็น

การเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทแซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) ทำให้ในปี 2553 ทางบริษัทได้รับคัดเลือกเป็นสำนักงานสาขาที่มีผลการดำเนินงานสูงสุดในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากการจัดอันดับของแซสระดับโลก

นอกจากความสำเร็จข้างต้น ในปีที่ผ่านมาบริษัทแซสซึ่งเป็นบริษัทแม่ ยังคว้ารางวัลอันดับหนึ่งในกลุ่มรายชื่อ “100 บริษัทที่น่าทำงานที่สุด” แห่งปีจากนิตยสารฟอร์จูน โดยได้คะแนนดีเยี่ยมในเรื่องการดูแลความเป็นอยู่ของพนักงาน ซึ่งนับเป็นปีที่สองแล้วที่ทางบริษัทได้รับเกียรตินี้ เพราะแซสยึดมั่นในหลักการว่าความเป็นเลิศทางธุรกิจจะเกิดขึ้นได้ หากพนักงานทำงานอย่างมีความสุข มีสุขภาพกายแข็งแรง สร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้เป็นอย่างดี

View :1494
Categories: Press/Release Tags:

ทริดี้ เปิดแนวทางการสร้างบุคลากรไทยด้านโทรคมนาคมและ ICTรองรับการเติบโตเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

April 6th, 2011 No comments

สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม หรือ ทริดี้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) จัดการสัมมนาเรื่อง “แนวทางการสร้างบุคลากรไทยด้านโทรคมนาคม และ ICT…รับมือประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน 2558” เพื่อระดมความเห็นและข้อเสนอแนะที่สำคัญเกี่ยวกับแนวทางการสร้างบุคลากรไทยด้านโทรคมนาคมและ ICT ให้มีความรู้และความสามารถ ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมในยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 เพื่อให้เกิดทิศทางที่ถูกต้องในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของตลาดในอนาคต
การสัมมนาในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นจุดเริ่มในการกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาในการพัฒนาบุคลากรด้านโทรคมนาคมและ ICT ของไทย

พันเอก ดร. นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและกลุ่ม ICT มีการการพัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและในสมาคมอาเซียน สิ่งสำคัญที่ภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจากนานาประเทศที่ต้องการก็คือ ทรัพยากรบุคคล ดังนั้น การสร้างบุคลากรไทยให้มีความรู้ความสามารถ มีทักษะ และศักยภาพ ต้องอาศัย “การศึกษา” ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน เพื่อต่อยอดไปถึงการมีส่วนช่วยพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในยุคของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การศึกษาต้องมีการพัฒนาเพื่อก้าวให้ทัน รูปแบบและเนื้อหาควรมีความสอดคล้องกับความต้องการของตลาดภาคโทรคมนาคมและ ICT มีความพร้อมในการรับการเปลี่ยนแปลงของโลกและคู่แข่งจากต่างประเทศ ซึ่งหากภาครัฐและเอกชนสามารถร่วมมือกันเพื่อพัฒนาบุคลากรให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และกำหนดคุณลักษณะของบุคลากรไทยด้านโทรคมนาคมและ ICT ได้ จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย เกิดการเติบโตอย่างแข็งแรงในอนาคต
“ที่ผ่านมาการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรโทรคมนาคมและ ICT ของไทย เพื่อก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558 หรือ ASEAN Economic Community 2015 (AEC 2015) เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีจาก 10 ประเทศจะมีผลต่อการจ้างงานด้านโทรคมนาคมและ ICT ของไทย ดังนั้น ประเทศไทยไม่เพียงแต่ต้องเตรียมการตั้งรับบุคลากรคุณภาพที่จะหลั่งไหลจากต่างชาติเข้ามาทำงานกับบริษัททางด้านโทรคมนาคมและ ICT ในประเทศไทย แต่ยังต้องเร่งพัฒนาบุคลากรไทยให้สามารถไปทำงานกับบริษัทของต่างชาติได้ด้วย บริษัทต่างๆ ในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน มีโอกาสและทางเลือกในการคัดสรรบุคลากรที่มีคุณภาพตามสายงานและความต้องการของตนมากขึ้น อันจะส่งผลให้เกิดการแข่งขันทางด้านแรงงานระหว่างประเทศอย่างเข้มข้น ด้วยเหตุนี้ ประเทศต่างๆ จึงต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของบุคลากรของตนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานโทรคมนาคมและ ICT ของภูมิภาคอาเซียน ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต”

พันเอก ดร. นที กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ทาง กสทช. สถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม หรือ ทริดี้ และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือ ABAC ได้ร่วมกันจัดการสัมมนาเพื่อกระตุ้นให้เกิดความเข้าใจถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในประเทศในครั้งนี้ ผมหวังว่าการสัมมนาจะช่วยจุดประกายให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศไปในทิศทางที่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ซึ่งบุคลากรที่มีศักยภาพต้องอาศัยการพัฒนาของภาคการศึกษาเป็นพื้นฐาน ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันหาอาวุธหรือยุทธวิธีที่เหมาะสมให้กับบุคลากรไทย ดังนั้น ภาคการศึกษาอาจต้องปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอน สร้างบัณฑิตให้มีความสามารถตรงตามที่ภาคอุตสาหกรรม และตลาดแรงงานระดับภูมิภาคต้องการ เพื่อรับมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่กำลังจะมาถึงในปี 2558 สามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ทั้งในอาเซียน และก้าวสู่ระดับโลกได้

ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม หรือ ทริดี้ กล่าวว่า ทริดี้ ได้ให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคลมาโดยตลอด เพราะทรัพยการบุคคลเป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศในอนาคต ความสามารถของคนไทยไม่แพ้ต่างชาติ จึงควรได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง โดยควรจัดให้มีหลักสูตรในการพัฒนาบุคลากรในด้านดังกล่าวอย่างเป็นระบบ การสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานนั้น จะต้องถูกฝึก ถูกสร้าง ให้ได้รับความรู้ ได้มีประสบการณ์ และได้มาตรฐานทางวิชาชีพต่างๆ ตามที่ตลาดต้องการ ผมเชื่อว่าในระยะยาว ภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศจะเกิดการพัฒนาและเติบโตแบบก้าวกระโดด ดังนั้นในการจุดประกายให้ทุกฝ่ายเล็งเห็นถึงความสำคัญของ “แนวทาง การสร้างบุคลากรไทยด้านโทรคมนาคมและ ICT…รับมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2558” ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพ ตรงตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเกิดมูลค่าในภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและ ICT ของประเทศในอนาคต
“การบรรยายและการเสวนาในวันนี้ ทริดี้ สำนักงานกสทช. และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ รวมถึงกลุ่มบริษัทผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับผู้บริหารและพนักงาน ได้มาร่วมนำเสนอความรู้ ความคิดเห็น และหาแนวทางการสร้างบุคลากรไทยด้านโทรคมนาคมและ ICT ร่วมกัน เพื่อสร้างบุคลากรให้มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของภาคของธุรกิจ และสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและแนวทางที่ได้รับ สามารนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาได้ต่อไป เพื่อให้เกิดการพัฒนาในภาพรวมด้านโทรคมนาคมและ ICT ในอนาคต” ดร.สุพจน์ กล่าวสรุป

View :1659
Categories: Press/Release Tags: