Archive

Archive for June, 2011

ทรูออนไลน์ เปิดตัว อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต เริ่มต้น 7 Mbps 599 บาท ทั่วประเทศ

June 18th, 2011 No comments

 

ทรูออนไลน์ พร้อมปรับเพิ่มความเร็วลูกค้า 6 Mbps ปัจจุบัน เป็น 7 Mbps ภายในเดือนตุลาคมนี้ ชู “อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต” พร้อมให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสองเทคโนโลยี     ทั้ง xDSL (ADSL2+ และ VDSL2 ) ผ่านสายโทรศัพท์พื้นฐาน และ Docsis 3.0 ผ่านโครงข่ายเคเบิ้ล พร้อมประกาศเปิด “อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต 7 Mbps เพียง 599 บาท/เดือน ” ยกระดับมาตรฐานความเร็วใหม่เป็นรายแรกของไทย  ให้ท่องเน็ตแรงสุดขีด เป็นไปได้…ในราคาพิเศษสุด หรือเลือกความเร็ว 10-100 Mbps เริ่มต้นเพียง 699 บาทต่อเดือนสำหรับโครงข่ายเคเบิ้ล ตั้งแต่วันนี้ ถึงสิ้นเดือนกันยายน พร้อมแจ้งปรับเพิ่มความเร็วลูกค้าปัจจุบันของทรูออนไลน์จาก 6 Mbps เป็น 7 Mbps ภายในเดือนตุลาคมนี้

นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ ทรูออนไลน์ และหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านปฏิบัติการโครงข่าย เทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า ด้วยความโดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพความแรงและความเร็วของทรูออนไลน์ ซึ่งเป็นรายแรกและรายเดียวในเมืองไทยที่สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุดถึง 100 Mbps   จึงประกาศใช้แบรนด์ “อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต” สำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากทรูออนไลน์ที่ให้บริการได้ทั้งสองเทคโนโลยีคือ xDSL (ADSL2+ และ VDSL2 )ผ่านสายโทรศัพท์พื้นฐาน และ Docsis3.0 ผ่านโครงข่ายเคเบิ้ล พร้อมเปิดตัวโปรโมชั่นใหม่ “อัลตร้า ไฮสปีด อินเทอร์เน็ต  7 Mbps เพียง 599 บาท/เดือน ” ยกระดับมาตรฐานใหม่สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของไทยอีกครั้ง ตอกย้ำภาพทรูออนไลน์ผู้นำตลาดบรอดแบนด์ ที่มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจของทรูออนไลน์ในไตรมาสแรกเติบโตเป็นอย่างดี ทำให้ฐานของลูกค้าโดยรวมเพิ่มเป็น 1.2 ล้านราย โดยมีการเติบโตทั้งรายได้ และจำนวนผู้ใช้บริการ 15%  พร้อมตั้งเป้าที่จะเพิ่มลูกค้าใหม่อีก 2 แสนรายในสิ้นปีนี้

นายนนท์ อิงคุทานนท์ ผู้จัดการทั่วไป สายงานบริการบรอดแบนด์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การเปิดให้บริการ by ใหม่นี้ เริ่มต้นด้วย แพ็กเกจเน็ตแรงสุดขีด เป็นไปได้…ในราคาพิเศษสุด 7 Mbps เพียงเดือนละ 599 บาท ซึ่งสามารถให้บริการได้ทั้งสองเทคโนโลยี  หรือแพ็กเกจความเร็ว 10 – 100 Mbps เริ่มต้นเพียงเดือนละ 699 บาทสำหรับโครงข่ายเคเบิ้ล ซึ่งเป็นราคาสุดคุ้มที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ และสำหรับลูกค้าเดิมที่ใช้บริการความเร็ว 6 Mbps ทรูออนไลน์จะปรับเพิ่มความเร็วอัตโนมัติเป็น 7 Mbps ภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อยกระดับมาตรฐานความเร็วให้นักท่องเน็ตทั่วประเทศ สนุกสุดขั้วกับชีวิตบนโลกออนไลน์แบบ    ไร้ขีดจำกัด เข้าถึงทุกเว็บไซต์ทั่วโลกได้รวดเร็ว ทั้งสาระ และความบันเทิงครบครัน สามารถดาวน์โหลด อัพโหลดข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ เพลง หนัง เกม ไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ และแชร์ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ค        ทวิตเตอร์หรือแชทแบบเห็นหน้าพร้อมกันรวดเร็วฉับไว ทุกที่ ทุกเวลา รวมทั้งรับชมความบันเทิงแบบ Live Streaming         ในระบบไฮเดฟินิชั่น (HD) ได้คมชัดไม่มีสะดุด ซึ่งผู้สนใจสามารถสมัครใช้ แพ็กเกจเน็ตแรงสุดขีด เป็นไปได้…ในราคาพิเศษสุด ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2554 ทั่วประเทศ โดยขณะนี้มีพื้นที่ให้บริการ ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เชียงใหม่ โคราช หาดใหญ่ ขอนแก่น ระยอง ภูเก็ต รวมไปถึงอีก 6 จังหวัด ที่จะทยอยเพิ่มขึ้นภายในไตรมาส3 นี้ ได้แก่ พัทยา-ชลบุรี อุบลราชธานี อุดรธานี สงขลา ลำปาง และนครสวรรค์

“ทรูออนไลน์ มั่นใจว่าแพ็กเกจเน็ตแรงสุดขีด เป็นไปได้…ในราคาพิเศษสุด ซึ่งเป็นแพ็กเกจเริ่มต้นสุดคุ้มของ Ultra hi-speed Internet by TrueOnline จะตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้ครบถ้วน ตรงใจ และจะยกระดับให้ผู้ใช้บริการทั่วประเทศ สามารถท่องเน็ตด้วยความเร็วสูงทัดเทียมกันในที่สุด” นายวิเชาวน์กล่าวสรุป

View :2147

เปิดตัว ๔ ผู้แทนประเทศไทยฯพร้อมลงสนามชิงชัย“คอมพิวเตอร์โอลิมปิกฯ”

June 18th, 2011 No comments

เผยเป็นครั้งแรกที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันโอลิมปิกฯวิชานี้ในประเทศ
เยาวชน ๘๒ ชาติพร้อมประชันศักยภาพระดับโลก เดือนหน้านี้ ที่เมืองพัทยา

นางพรพรรณ ไวทยางกูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เปิดเผยว่าประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๒๓ ระหว่างวันที่ ๒๒ – ๒๙ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ณ โรงแรมรอยัล คลีฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการวิชาคอมพิวเตอร์   วัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างบรรยากาศทางวิชาการกระตุ้นให้เยาวชนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนรู้วิทยาการคอมพิวเตอร์  ส่งเสริมให้เกิดการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนรวมทั้งงานวิจัยสาขานี้ให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น  ทั้งนี้เพื่อเร่งสร้างโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง รองรับความจำเป็นในการพัฒนาประเทศซึ่งยังขาดแคลนคนเก่งด้านนี้อีกมาก

การแข่งขันครั้งนี้มีประเทศผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ๘๒ ประเทศ และผู้สังเกตการณ์ ๓ ประเทศ เยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันประมาณ ๓๐๐ คน  สสวท.ได้เตรียมความพร้อมล่วงหน้าในการจัดงานระดับนานาชาตินี้ถึง ๓ ปี   โดยที่ผ่านมา สสวท.ได้ลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานหลัก ๗ หน่วยงานคือ  มูลนิธิสอวน.  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยบูรพา  มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ  สวทช. และเมืองพัทยา  เพื่อร่วมกันดำเนินงานจัดการแข่งขันดังกล่าว  ซึ่งจะมีพิธีเปิดการแข่งขันในวันที่ ๒๓ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เวลา ๙.๐๐ น. ณ โรงแรมรอยัล คลีฟ บีช  รีสอร์ท เมืองพัทยา

สำหรับผู้แทนประเทศไทยฯ ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าวในปีนี้ จำนวน ๔ คน คือ

นายพศิน  มนูรังษี               โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย    กรุงเทพฯ
นายลภนชัย  จิรชูพันธ์             โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  กรุงเทพฯ
นายวิชชากร  กมลพรวิจิตร       โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  กรุงเทพฯ
นายสรวิทย์  สุริยกาญจน์         โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์  จ.นครปฐม

พร้อมกันนี้ประเทศไทยในฐานะประเทศเจ้าภาพยังได้รับสิทธิ์ให้ส่งทีมนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอีกหนึ่งทีมจำนวน ๔ คนเป็น“ทีมร่วมแข่งขัน”ด้วย  ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนผู้มีความสามารถได้เรียนรู้ประสบการณ์และฝึกทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนจากเวทีแข่งขันระดับนานาชาติด้วย

รศ.ยืน ภู่วรวรรณ ประธานคณะกรรมการจัดงาน การแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ฯ เปิดเผยว่าการแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกเป็นการแข่งขันทางวิชาการที่ให้นักเรียนได้แสดงความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน  โดยใช้พื้นฐานความรู้ด้านคณิตศาสตร์เชื่อมโยงกับกระบวนการคิด วิเคราะห์ เพื่อออกแบบกระบวนการและขั้นตอนวิธี  แล้วเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์แก้ปัญหาโจทย์ให้คำนวณได้คำตอบภายในเวลาที่กำหนดให้  ซึ่งโจทย์ปัญหาเหล่านี้พัฒนาขึ้นโดยคณะกรรมการวิทยาศาสตร์นานาชาติ ที่รับผิดชอบด้านการออกข้อสอบโดยตรง

การสอบแข่งขันมีทั้งหมด ๒ วัน  แต่ละวันเยาวชนจากประเทศต่างๆ จะต้องเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อแก้โจทย์ปัญหาวันละ ๓ ข้อ โดยมีทั้งโจทย์ที่ง่ายและยาก  ผู้เข้าแข่งขันต้องใช้ความสามารถในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์  แก้ไขปัญหาให้คำนวณได้คำตอบภายในเวลาที่กำหนด  จากนั้นส่งโปรแกรมผ่านระบบตรวจแบบอัตโนมัติ  ซึ่งมีชุดข้อมูลต่างๆ สำหรับทดสอบโปรแกรม  และได้รับคะแนนมากน้อยแตกต่างกันไปตามขีดความสามารถของโปรแกรมที่นักเรียนส่งมา

ขณะเดียวกันเพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างสีสันให้ผู้ชมสามารถติดตามเชียร์ทีมโปรดได้แบบเดียวกับการแข่งขันกีฬายอดนิยม  ดังนั้นในปีนี้ประเทศไทยจึงจัดให้มีการเผยแพร่ผลคะแนนในเว็บไซต์ www..or.th เพื่อให้ผู้ชมทั้งชาวไทยและต่างชาติสามารถติดตามคะแนนได้ตลอดช่วงการแข่งขัน   นอกจากนี้สำหรับการแข่งขันใน แต่ละวันทางทีมงานจะมีโปรแกรมแสดงตัวอย่างโจทย์บางข้อ ให้ผู้ชมที่ติดตามอยู่ภายนอกได้ทดลองทำความเข้าใจและทดลองแก้โจทย์ปัญหา  เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและผู้สนใจสามารถมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดและมองเห็นความสำคัญของวิทยาการคอมพิวเตอร์ว่าแท้จริงแล้วเป็นเรื่องใกล้ๆ ตัว  สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้หลากหลาย

นอกจากนี้ยังได้จัดสลับวันให้เยาวชนจากนานาชาติ ไปทัศนศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามของไทยเพื่อผ่อนคลายความเครียดและเรียนรู้วัฒนธรรมไทยอีกด้วย

ขอเชิญชวนทุกท่านติดตามชมและเชียร์ผลคะแนนทีมเยาวชนคนเก่งชาติต่างๆได้ที่เว็บไซต์ www.IOI2011.or.th
และช่วยกันส่งกำลังใจให้ผู้แทนประเทศไทยฯ คว้าชัยในการแข่งขันครั้งนี้

View :2016

เอชพีเปิด HP ePrint Station มอบประสบการณ์การพิมพ์ ในรูปแบบ AirPrint ณ iStudio

June 18th, 2011 No comments

เอชพีเปิดประสบการณ์การพิมพ์รูปแบบใหม่สู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิด “” นำเสนอการพิมพ์ แบบไร้ข้อจำกัดภายใต้ชื่อ “ AirPrint” เพิ่มความสะดวกสบายด้านการพิมพ์ได้ทุกเวลา ทุกสถานที่สำหรับลูกค้าของแอปเปิ้ลโดยเฉพาะ เพื่อให้สั่งพิมพ์งานผ่านไอโฟน ไอแพ็ด หรือไอพอดได้อย่างง่ายดาย  โดยผู้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวจะได้ซอฟต์เเวร์  iOS 4.2 มาพร้อมกับเครื่อง เพื่อรับบริการงานพิมพ์แบบ “AirPrint” ให้สามารถสั่งพิมพ์ไฟล์ภาพ ไฟล์เอกสารได้โดยตรงจากอุปกรณ์เชื่อมต่อของตนเองไปยังเครื่องพิมพ์เอชพีที่รองรับระบบ ePrint โดยไม่ต้องลงไดร์ฟเวอร์หรือดาวน์โหลดโปรแกรม

“ AirPrint” เป็นระบบการพิมพ์ที่เป็นความร่วมมือของ 2 แบรนด์ดังระดับโลก อย่างเอชพีและเเอปเปิ้ลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอความสะดวกสบายสำหรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีการสื่อสารและทำงานผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อให้สามารถสั่งพิมพ์งานได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ทั่วโลก “AirPrint” ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับระบบงานพิมพ์ของ iPad / iPhone4 / iPhone 3GS และ iPod touch ไปยังเครื่องพิมพ์เอชพีที่รองรับระบบ ePrint ทุกรุ่น

สำหรับลูกค้าแอปเปิ้ลจะได้รับสิทธิ์ทดลองใช้ “AirPrint” เพื่อพิมพ์ภาพหรือเอกสารได้ที่ HP ePrint Station โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ ร้าน iStudio 5 สาขาได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (สาขาที่ให้บริการ ได้แก่ สาขาสยามดิสคัพเวอรี่ (ชั้น 4) สาขาเซ็นทรัล เวิร์ล (ชั้น 2) สาขาเกษร พลาซ่า (ชั้น 2) สาขาเจ อะเวนิว (ซอยทองหล่อ 15) และสาขาดิจิตอล เกทเวย์ (ชั้น 1)

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์  www.mustlovemac.com หรือ Facebook: http://www.facebook.com/Mustlovemac หรือ Twitter: http://twitter.com/iStudioCPW หรือ http://twitter.com/_dotlife

View :1854
Categories: Press/Release Tags:

แอลจี คว้าแบรนด์อันดับหนึ่งด้านยอดขายและความไว้วางใจจากผู้บริโภค

June 18th, 2011 No comments


การันตีด้วยรางวัลยอดขายอันดับหนึ่งใน   3 กลุ่มผลิตภัณฑ์จากจีเอฟเค
และรางวัลแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ 4 ปีซ้อนจากรีดเดอร์ส ไดเจสท์

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยรางวัลยอดขายอันดับหนึ่งจาก GfK ใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ และรางวัลแบรนด์ที่น่าเชื่อถือประเภท Gold จากนิตยสารรีดเดอร์ส ไดเจสท์ ( Reader’s Digest Trusted Brands ) ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 4 ซึ่งยืนยันถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และความไว้วางใจที่แอลจีได้รับจากผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี

คุณธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “รางวัลที่แอลจีได้รับ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพ และความเชื่อมั่นของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนความนิยมของผู้บริโภคที่มีต่อแอลจีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องตอกย้ำในการมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค

สำหรับ รางวัล ยอดขายอันดับหนึ่งจาก GfK ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า พลาสม่าทีวี และโฮมเธียเตอร์ ซึ่ง ผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าของแอลจี ได้รับการการันตีด้วยรางวัลยอดขายอันดับหนึ่งติดต่อกันถึง 10 ปีซ้อน ล่าสุดแอลจีได้เปิดตัว ‘ ซิกส์ โมชั่น อินเวอร์เตอร์ ไดเร็ค ไดร์ฟ ’ เครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมนวัตกรรมถังซักเคลื่อนที่ 6 ทิศทาง สามารถซักได้อย่างสะอาดหมดจดเสมือนซักด้วยมือ ในขณะเดียวกันก็ช่วยถนอมเนื้อผ้า ซึ่งแอลจีมั่นใจว่าด้วยเทคโนโลยี ซิกส์ โมชั่น อินเวอร์เตอร์ ไดเร็ค ไดร์ฟ จะทำให้แอลจีสามารถรักษาความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดเครื่องซักผ้าได้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ได้อ่างแน่นอน

นอกจากนี้ แอลจียังมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเธียเตอร์ โดยผลิตภัณฑ์รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ ‘ โฮมเธียเตอร์ HT805PM ลำโพง 5.1 แชนแนล ’ ซึ่งมี ฟังก์ชั่น Bass Blast ที่ให้เสียงเบสกระหึ่มทรงพลัง และมี ชุดลำโพงใน ดีไซน์พาราโบร่าซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแอลจี ที่ช่วยแยกเสียงสูง กลาง และต่ำได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างลงตัวกับทีวี 32 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้บริโภค

ส่วนรางวัล แบรนด์ที่น่าเชื่อถือแห่งปี 2011 จากนิตยสารรีดเดอร์ส ไดเจสท์ ได้แก่ กลุ่ม ผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า พลาสม่าทีวี / แอลอีดี/แอลซีดีทีวี ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ได้รับรางวัล แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 4     และในปีนี้แอลจีได้นำเสนอ ‘ CINEMA 3D TV’ เจนเนอเรชั่นใหม่แห่งโลกทีวีสามมิติซึ่งแอลจีเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยี FPR รายแรกของโลก มอบประสบการณ์สามมิติรูปแบบใหม่ ให้คุณภาพของภาพสามมิติสมบูรณ์ที่สุดในตลาด พร้อมมอบการรับชมภาพได้อย่างสบายตา โดยแอลจีเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองด้าน Flicker Free จากสถาบัน TÜV ซึ่งแอลจีมั่นใจว่าด้วยเทคโนโลยี Cinema 3D ที่นำเสนอจะได้รับการตอบรับ และความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี

“ รางวัลและความสำเร็จที่แอลจีได้รับตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายสู่การขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในปี 2555 ได้อย่างแน่นอน” คุณธันยเชษฐ์ กล่าว    ทิ้งท้าย

View :1618

ก.ไอซีที แจงแนวทางรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียม

June 18th, 2011 No comments

นางจีราวรรณ   บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยเกี่ยวกับแนวทางการรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียม ว่า กระทรวงฯ จะจัดทำรายงานสรุปผลการประชุมร่วมกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ไอทียู ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2554   เสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบในสัปดาห์หน้า หรือ สัปดาห์ถัดไปเป็นอย่างช้า ซึ่งผลการเจรจาเกี่ยวกับสิทธิวงโคจรดาวเทียมในตำแหน่ง 120 องศา ที่กำลังจะหมดอายุลงช่วงปลายปีนี้ หากประเทศไทยยังไม่จัดส่งดาวเทียมขึ้นไปประจำตำแหน่งนั้นได้ทันตามกำหนด ไอทียู ได้แนะนำให้เช่าดาวเทียมมาประจำในตำแหน่งดังกล่าว เพื่อรักษาสิทธิเอาไว้ก่อนจะจัดส่งดาวเทียมดวงใหม่ขึ้นใช้งาน

“ในการดำเนินการจองสิทธิวงโคจรดาวเทียมจนถึงการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรนั้น อายุของเอกสารการจองจะมีระยะเวลา 7 ปี โดยในช่วงแรกเป็นขั้นตอนการยื่นเรื่องขอจองตำแหน่งวงโคจรกับทางไอทียูก่อน แล้วจึงดำเนินการเจรจากับประเทศต่างๆ ที่มีตำแหน่ง   วงโคจรใกล้เคียง เพื่อพิจารณาว่าข่ายงานดาวเทียมของประเทศไทยจะมีความถี่รบกวนการใช้งานดาวเทียมของประเทศเหล่านั้นหรือไม่   เมื่อประเทศต่างๆ ยินยอมก็จะแจ้งผลการประสานงานให้ ไอทียู แล้วประเทศไทยก็จะได้สิทธิในวงโคจรที่ขอจอง หลังจากนั้นจะต้องดำเนินการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรภายใน 2 ปี ซึ่งขณะนี้ตำแหน่งวงโจรที่ 120 องศา เหลือระยะเวลาที่จะต้องส่งดาวเทียมเพียง 6 – 7 เดือน จึงต้องเร่งดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยคงต้องรักษาสิทธิที่ตำแหน่งดังกล่าว โดยทำตามคำแนะนำของ ไอทียู ที่ต้องมีดาวเทียมมาไว้ยังตำแหน่งนี้ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือมากกว่านั้น จนกว่าจะมีดาวเทียมดวงใหม่ของประเทศไทยขึ้นใช้งานต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดหาได้ภายในเดือนสิงหาคม   – กันยายนนี้เป็นอย่างช้า เพื่อให้มีการรักษาสิทธิวงโคจรในตำแหน่งนั้นๆ ไว้ไม่น้อยกว่า 3 เดือน โดยในเบื้องต้น บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้มีประสานงานหารือแนวทางการดำเนินการกับผู้ประกอบการด้านดาวเทียมไว้บ้างแล้ว   คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเช่าดาวเทียมมาจองตำแหน่งเอาไว้ หรืออาจเจรจากับบริษัทผู้ผลิตและจัดส่งดาวเทียมให้จัดหาดาวเทียมสำรองมาประจำตำแหน่งเพื่อรักษาสิทธิให้ก่อนจัดสร้างดาวเทียมดวงจริง”   นางจีราวรรณ กล่าว

สำหรับสิทธิวงโคจรดาวเทียมอื่นที่ยังไม่มีดาวเทียม 3 ตำแหน่ง ได้แก่ 50.5 องศา 126 องศา และ 142 องศา นั้นยังมีเวลาที่จะดำเนินการแต่ก็ต้องพิจารณาดำเนินการควบคู่ไปกับตำแหน่ง 120 องศา โดยเฉพาะที่ 50.5 องศานั้นก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยก็จะมีดาวเทียมไทยคม 6 อีกหนึ่งดวง ซึ่งคาดว่าน่าจะเพียงพอต่อความต้องการในระยะสั้น สำหรับการวางแผน    ระยะยาว กระทรวงฯ ได้มอบหมายให้ บมจ.กสท โทรคมนาคม ไปดำเนินการศึกษาแนวทางการใช้และรักษาสิทธิวงโคจรทั้ง 4 ตำแหน่งดังกล่าว โดยเฉพาะในตำแหน่งวงโคจรที่ 120 องศานั้น ขอให้ดำเนินการแล้วเสร็จก่อนการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อให้สามารถนำเสนอแนวทางการดำเนินการแก่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่พิจารณาได้ทันที

“ขณะนี้เหลือเวลาในการดำเนินงานเรื่องนี้น้อยมาก จึงต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการรักษาตำแหน่ง          วงโคจร ทั้งหมดไว้ให้ได้   โดยเฉพาะ กสทช. ควรให้ความร่วมมือกับกระทรวงฯ เนื่องจากในอนาคตความถี่ดาวเทียมก็จะอยู่ในการ    ดูแล ของ กสทช. ตามอำนาจหน้าที่ ส่วนวงโคจรเพื่อใช้วางดาวเทียมยังคงเป็นของรัฐบาลตามกฎหมายระหว่างประเทศด้านอวกาศ”    นางจีราวรรณ กล่าว

View :1497

เลอโนโว เปิดตัว ThinkPad X1 โน้ตบุ๊คสำหรับธุรกิจที่บางที่สุด

June 17th, 2011 No comments

ตอบสนองการใช้งานได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของธุรกิจอย่างสมบูรณ์แบบ เต็มขีดกับความสามารถในการประมวลผล ความสะดวกคล่องตัวในการพกพา และเต็มพิกัดความบันเทิง 

โน้ตบุ๊ค ถือเป็นน้องใหม่ในตระกูล ThinkPad X series ซึ่งยังคงสืบทอดความเป็นหนึ่งในด้านนวัตกรรมกับคุณสมบัติหลากหลายที่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานของกิจการทหาร ทั้งยังคงขีดความสามารถในการประมวลผลสูงในทุกสภาพแวดล้อมในการใช้งาน โดยคุณสมบัติและองค์ประกอบต่างๆ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถนำไปใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมความสะดวกในการตั้งค่าต่างๆ (configurability) เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งระยะสั้นและระยะยาว ช่วยให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น  

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เลอโนโวครองความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้มาอย่างยาวนานด้วยคอมพิวเตอร์ ThinkPad รุ่นแล้วรุ่นเล่า ซึ่งคงความโดดเด่นด้านความน่าเชื่อถือและความประทับใจในการใช้งาน โดยโน้ตบุ๊ค ThinkPad X1 มาพร้อมกับพลังการประมวลผลขั้นสูงและรูปลักษณ์ที่บางที่สุดในตระกูล ThinkPad พร้อมความสะดวกในการพกพาในแบบฉบับของโน้ตบุ๊คในกลุ่ม ultraportable ไม่เพียงเท่านั้น ยังมาพร้อมกับขีดความสามารถด้านมัลติมีเดียที่ครบครันและคุณสมบัติด้านการจัดการพลังงานที่เป็นเยี่ยม นับได้ว่าเราประสบความสำเร็จอีกขั้นกับการพัฒนาโน้ตบุ๊คด้วยการผนวกคุณสมบัติต่างๆ ที่เราเชื่อว่าจะเปลี่ยนโฉมหน้าการใช้งานโน้ตบุ๊คของกลุ่มนักธุรกิจ ไปสู่อีกระดับที่ยังไม่มีใครไปถึง”

- โน้ตบุ๊ค ThinkPad X1 มาพร้อมกับคุณสมบัติโดดเด่นเฉพาะตัว ใหม่ล่าสุด เพิ่มเติมจากรุ่นก่อนๆ ในตระกูล ThinkPad X series อาทิ จอภาพ super bright ขนาด 13.3 นิ้ว และเป็นหน้าจอแบบ Corning® Gorilla® Glass  สามารถป้องกันรอยขีดข่วน และเทคโนโลยี RapidCharge สามารถร่นระยะเวลาชาร์จแบตเตอรี่ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้ง สนุกกับความบันเทิงเต็มพิกัดด้วยฟังก์ชั่นมัลติมีเดียแบบ Dolby Home Theatre

โน้ตบุ๊ค ThinkPad X1 เป็นรุ่นที่บางที่สุดในตระกูล ThinkPad โดยมีความหนาไม่ถึง 17 มม. บรรจุอยู่ภายใน form factor ที่บางพิเศษ พร้อมเทคโนโลยีการประมวลผล Intel® Core™ i3 และ i5 จากตระกูลอินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 2 ซึ่งปกติจะเป็นคุณสมบัติมาตรฐานของโน้ตบุ๊ครุ่นจอ 14 และ 15 นิ้วของเลอโนโว ด้วยองค์ประกอบดังกล่าวทำให้ ThinkPad X1 มีขีดความสามารถในการประมวลผลของ CPU เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวและการประมวลผลกราฟิก 4 เท่า เมื่อเทียบกับ ThinkPad X300

ThinkPad X1 มีน้ำหนักเริ่มต้นเพียง 3.7 ปอนด์ หรือ 1.72 กิโลกรัม แม้จะบางเบาแต่มีความแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่ง เนื่องด้วยโครงด้านในและตัวเครื่องผลิตจากวัสดุแมกนีเซียมที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี ส่วนหน้าจอผลิตจากกระจก Corning® Gorilla® Glass เพื่อเพิ่มความทนทานเป็นพิเศษ แข็งแรง และป้องกันรอยขีดข่วน ทั้งนี้ ThinkPad X1 ผ่านการทดสอบ 8 คุณสมบัติของโน้ตบุ๊คสำหรับนำไปใช้ในทางการทหาร ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าสามารถพกพา ThinkPad X1 ไปใช้งานได้ทุกที่ และคงประสิทธิภาพทุกสภาพแวดล้อมในการใช้งาน

“แวดวงธุรกิจต่างสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้นักบริหารจำเป็นต้องเดินทางบ่อยครั้งขึ้นและใช้ระยะเวลาในการเดินทางที่ยาวนานมากขึ้น ซึ่งถ้านำ ThinkPad X1 ติดตัวไปใช้งานด้วยจะไม่พบคำว่าผิดหวัง” นายจีรวุฒิ กล่าว 

ชาร์จแบตเร็วขึ้นด้วยเทคโนโลยี RapidCharge และคงสถานะเชื่อมต่อไร้สายนานขึ้นอีก
- ครั้งแรกกับโน้ตบุ๊ค ThinkPad X1 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี RapidCharge สำหรับร่นระยะเวลาการแบตเตอรี่ โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว จาก 0 ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งรวดเร็วกว่าแบตเตอรี่ของ ThinkPad รุ่นอื่นๆ ถึง 2.5 เท่า ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานที่ต้องเดินทางเป็นประจำ ทั้งนี้ เทคโนโลยี RapidCharge ช่วยให้แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 3 ปี ด้วยคุณสมบัติผสานเซลล์แบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟได้เร็วเข้ากับคุณสมบัติของแบตที่ชาร์จได้ 1,000 ครั้ง มากไปกว่านั้น อุปกรณ์เสริม RapidCharge external slice battery ทำให้ ThinkPad X1 สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ชม. นอกจากนี้เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยประหยัดพลังงานมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อตั้งสถานะโหมด Low Power Multimedia Mode เพื่อเล่นเพลง ดูหนัง และอื่นๆ และด้วย Instant Resume ผู้ใช้สามารถคงสถานะการเชื่อมต่อไร้สายไว้ได้นานถึง 90 นาที ไม่ว่าจะเชื่อมต่อผ่าน WiFi หรือ mobile broadband หรือแม้แต่ขณะที่อยู่ในโหมด sleep mode

เลอโนโวได้ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของคีย์บอร์ดใหม่ทั้งหมดให้มีความทันสมัย โดยยังคงเอกลักษณ์และสัมผัสสุดคลาสสิกของคีย์บอร์ด ThinkPad ไว้เช่นเดิม เพียงแต่ออกแบบให้ใช้งานง่ายขึ้น เช่น ลดปุ่ม SysRq ขณะเดียวกันก็เพิ่มฟังก์ชั่นด้านการควบคุมการใช้งานมัลติมีเดียและการควบคุมการทำงานด้วยเสียง มากไปกว่านั้น ThinkPad X1 ยังมาพร้อมคียบอร์ดเรืองแสง LED backlit รองรับการทำงานในสถานที่ที่มีแสงน้อย ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติพิเศษของโน้ตบุ๊ค ThinkPad รุ่นแรกในระดับ enterprise-class นอกจากนี้ คีย์บอร์ด ThinkPad ยังคงคุณสมบัติของคีย์บอร์ดกันน้ำไว้เช่นเดิม

โดยปกติคอมพิวเตอร์สำหรับธุรกิจจะไม่ค่อยโดดเด่นเรื่องการใช้งานด้านมัลติมีเดีย ทั้งความคมชัดของภาพและเสียง แต่ ThinkPad X1 เปลี่ยนประสบการณ์เดิมๆ ด้วยพลังภาพและเสียงจากระบบ Dolby Home Theatre v4 พร้อมจอภาพความละเอียดสูง super-bright (350 NIT) ไม่ว่าจะฟังผ่านหูฟัง ลำโพงในตัวเครื่อง หรือต่อกับชุดโฮมเธียร์เตอร์ ผู้ใช้จะสามารถสัมผัสถึงประสบการณ์ความบันเทิงที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ด้วย HDMI port และเทคโนโลยี Intel Wireless Display ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกต่อเชื่อมกับโทรทัศน์หรือโปรเจ็คเตอร์แบบไร้สายได้อีกด้วย

โน้ตบุ๊ค ThinkPad X1 มาพร้อมกับแพลตฟอร์มที่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมที่มุ่งตอบสนองการใช้งานได้อย่างเต็มที่และตรงตามความต้องการของธุรกิจอย่างสมบูรณ์แบบ อาทิเช่น การสนทนาผ่านระบบ video และ voice ระบบ enterprise management และแม้แต่การใช้งานคอมพิวเตอร์ง่ายๆ การใช้กล้อง mobile broadband 720p (อุปกรณ์เสริม), ไมโครโฟนความละเอียดสูงและโหมดการโทรขั้นสูง โน้ตบุ๊ค ThinkPad X1 สามารถให้ภาพ video call ที่คมชัด พร้อมเกราะป้องกันรักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Fingerprint reader เป็นการใช้ลายนิ้วมือ เพื่อเปิดใช้งานเครื่องและตรวจสอบสิทธิ์การใช้งาน อีกทั้ง เทคโนโลยี Intel vPro จากอินเทล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำหรับการปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้ดีขึ้น รวมทั้งลดเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลระบบได้ โดย remote management support

เสริมสมรรถนะให้แรงทันใจไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี Enhanced Experience 2.0 for Windows 7 ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะผลิตภัณฑ์ของเลอโนโว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบปฏิบัติการ Windows 7 ให้ปิด-เปิดเครื่องที่รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป โดยเฉลี่ย 20 วินาที

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ บริษัท เลอโนโว จำกัด โทร. 1800-060-087 หรือเยี่ยมชมเวปไซต์ได้ที่ www.lenovo.com/th หรือ http://news.lenovo.com
หรือ www.facebook.com/lenovo.lover

View :2445
Categories: Press Conference Tags:

ทรู ไอดีซี เปิดบริการ “True Cloud Protection by Double Take”

June 16th, 2011 No comments

บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้นำบริการดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ คอมพิวติ้ง ผนึก บริษัท แซนฟินิตี้ จำกัด ผู้นำบริการด้านเทคโนโลยีระบบ Back Up และ Disaster Recovery เปิดบริการ “ Cloud Protection” by Double Take ขับเคลื่อนองค์กรยุคใหม่ด้วยบริการสำรองข้อมูลและกู้คืนระบบไอทีจากภัยคุกคามต่างๆ ( Back Up & Recovery) สร้างความมั่นใจและแต้มต่อในการแข่งขันให้กับลูกค้าองค์กรแม้ในภาวะวิกฤติ ชูจุดเด่นคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง ( Pay Per Use) สามารถเลือกใช้บริการเป็นครั้ง รายวัน หรือรายเดือน ( On Demand) ไม่ต้องซื้อไลเซ่นส์แบบเหมารวม พิเศษ โปรโมชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจที่สนใจ ทดลองใช้บริการบริการทรูคลาวด์ พร้อมระบบสำรองและกู้คืนข้อมูล นาน 20 วัน มูลค่า 6,000 บาท ฟรี สมัครทดลองใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 ตุลาคม 2554

นายเจนวิทย์ คราประยูร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ ทรู ไอดีซี เพิ่มทางเลือกใหม่ในการสำรองข้อมูลบนเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง ร่วมกับ บริษัท แซนฟินิตี้ จำกัด พัฒนาบริการ “True Cloud Protection by Double Take” ตอบสนองความต้องการขององค์กรธุรกิจในการจัดเก็บและสำรองข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันองค์กรธุรกิจเล็งเห็นความสำคัญในการปกป้องข้อมูลจากไวรัส แฮกเกอร์ ภัยคุกคามต่างๆ บนระบบไอที รวมทั้งภัยธรรมชาติและภัยพิบัติต่างๆ เช่น สึนามิ แผ่นดินไหว เป็นต้น บริการสำรองข้อมูลและกู้คืนระบบสารสนเทศจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพและความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญขององค์กร อีกทั้งยังสามารถเรียกใช้งานข้อมูลต่างๆ ได้จากทุกที่ทั่วโลกตลอดเวลาที่ต้องการ   องค์กรต่างๆ จึงสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่นแม้ในภาวะวิกฤติ ”

นาย ชาน วี เม็ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซนฟินิตี้ จำกัด ผู้นำบริการด้านเทคโนโลยีระบบ Back Up และ Disaster Recovery กล่าวว่า “ บริษัท แซนฟินิตี้ รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ ให้บริการสำรองและกู้คืนข้อมูลบนคลาวด์ คอมพิวติ้ง   ซึ่ง Double Take เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา มีความเชี่ยวชาญในระบบ High Availability และ Disaster Recovery มายาวนานกว่า 15 ปี ให้บริการรองรับระบบปฏิบัติการทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux, UNIX และเมนเฟรม โดดเด่นในการสำรอง ปกป้อง และกู้คืนข้อมูลบนคลาวด์ คอมพิวติ้ง มาตรฐานระดับโลก โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แซนฟินิตี้ คิดค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นครั้ง รายวัน และรายเดือน ทั้งนี้ แซนฟินิตี้ มั่นใจว่า บริการ “True Cloud Protection by Double Take” จะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้าในการสำรองและกู้คืนข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ มีเสถียรภาพ และสามารถกู้คืนข้อมูลให้กลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งช่วยประหยัดต้นทุนด้านไอทีขององค์กรด้วย ”

“ บริการ “True Cloud Protection by Double Take” ช่วยให้ลูกค้าสามารถสำรองและกู้คืนข้อมูลได้อย่างง่ายดายและสะดวกยิ่งขึ้น มีจุดเด่นในการคิดค่าบริการตามการใช้งานจริงแบบ On Demand สามารถเลือกใช้บริการเป็นครั้ง รายวัน หรือรายเดือน โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องเสียค่าไลเซ่นส์แบบเหมารวม จึงยืดหยุ่นและช่วยประหยัดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทรู ไอดีซี ออกแบบบริการ True Cloud Protection by Double Take สำหรับลูกค้าทรู คลาวด์ ที่ใช้บริการคลาวด์ เซิร์ฟเวอร์ และคลาวด์ สตอเรจ รวมทั้งลูกค้าที่ใช้บริการฝากเซิร์ฟเวอร์ ( Co-Location) หรือมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรเอง ให้สามารถสำรองข้อมูลไว้บนเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง   ตอบโจทย์การสำรองและกู้คืนข้อมูลขององค์กรได้อย่างสมบูรณ์และครอบคลุมครบทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ต่างๆ พื้นที่เก็บข้อมูล และซอฟต์แวร์การจัดเก็บ พร้อมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายคลาวด์ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยทรู ไอดีซี ร่วมกับ Power-All Networks พันธมิตรจากต่างประเทศที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง เชื่อมโยงโครงข่ายจากอินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ ของทรูไอดีซีไปยังหน่วยงานพันธมิตรที่กระจายอยู่ทั่วโลก ” นายเจนวิทย์ กล่าวเสริม

นอกจากนี้ ทรู ไอดีซี ยังร่วมกับ แซนฟินิตี้ จัดโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้าองค์กรทดลองใช้บริการ “ ทรู คลาวด์ ” พร้อมระบบสำรองและกู้คืนข้อมูลฟรี 20 วัน มูลค่า 6 , 000 บาท สมัครทดลองใช้บริการได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2554 ที่ cloud@trueidc.co.th หรือดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ http://www.trueidc.co.th/product_Cloud.htm

View :1524

ทรู ยื่นเอกสารต่อกระทรวงพาณิชย์

June 16th, 2011 No comments

สรุปประเด็นจากรายงานผลการพิจารณาของ คณะกรรมาธิการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร วันที่ 21 เมษายน 2554 

รายงานผลการพิจารณา เรื่องร้องเรียน กรณีปัญหาการถือหุ้น การครอบงำกิจการและการถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยคนต่างด้าวที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโทรคมนาคมของคณะกรรมาธิการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร   ประกาศ ณ วันที่ 21 เมษายน 2554   พบว่าบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ดีแทค) เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย ปัจจุบันประกอบธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมแก่บุคคลทั่วไป แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีคนไทยเป็นผู้ถือหุ้นคิดเป็นร้อยละ 28.65 ผู้ถือหุ้นต่างด้าวคิดเป็นร้อยละ 71.35 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากกว่าคนไทยที่ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว  จึงน่าเชื่อได้ว่าบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส
คอมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ดีแทค)  เป็น “คนต่างด้าว”

โดยมีรายละเอียดสรุปดังต่อไปนี้

1.       มีผู้ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (“ดีแทค”)
ที่ถือโดยนิติบุคคลเป็นลำดับชั้น และเป็นการประกอบกิจการที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 49 ตามที่พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ อนุญาต

2.       นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมของดีแทค ยังได้จดทะเบียนและมีสำนักงานอยู่ที่เดียวกัน
ย่อมแสดงให้เห็นว่าเป็นหนทางหนึ่งที่จะหลีกเลี่ยงกฎหมาย และเป็นการอำพรางสถานะที่แท้จริงของ
นิติบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้น หรือมีการแอบแฝงเพื่อเข้ามามีสิทธิ์เกินสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด

3.       จากข้อมูลมีการจ่ายเงินปันผล แต่ละลำดับชั้น ตรวจพบความผิดปกติ เช่น ผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยจะได้รับเงินปันผลเป็นสัดส่วนน้อยกว่าผู้ถือหุ้นต่างด้าวมาก เป็นต้น เป็นข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นถึงการครอบงำการบริหารกิจการของดีแทค

4.       มีการจ่ายเงินปันผลที่มีจำนวนมากกว่าทุนชำระของบริษัทที่เป็นผู้ถือหุ้นที่จดทะเบียนในประเทศไทย และกลุ่มบริษัทย่อย โดยมิได้คิดลดจำนวนเงินกู้ของกลุ่มลง แสดงให้เห็นว่ามติของกรรมการมีความผิดปกติ เชื่อได้ว่าเงินกู้ที่อ้างว่าได้รับจากนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย เพื่อเป็นเงินทุนเพิ่มเติมที่มาจากการหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของนิติบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นที่จดทะเบียนในประเทศไทยกับบริษัทย่อยจากไทยเป็นอื่น

5.       การกู้เงินมาลงทุนมากกว่าทุนจดทะเบียนของแต่ละบริษัทหลายร้อยเท่า โดยมีเงื่อนไขว่าเป็นเงินกู้แบบชำระคืนเมื่อทวงถาม (Call loan) และปลอดดอกเบี้ยนั้น เสมือนว่าผู้ให้กู้ยืมเงินเป็นบริษัทแม่และเชื่อได้ว่าเป็นหุ่นเชิด

6.       จากรายงานนี้ เงินปันผลที่ผู้ตรวจสอบบัญชีของหนึ่งในนิติบุคคลผู้ถือหุ้นในดีแทค ที่จดทะเบียนในประเทศไทย ได้ชี้แจงว่าได้รับการยกเว้นภาษีไม่ต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น เป็นเงินปันผลที่ได้รับยกเว้นนั้นขัดกับหลักของกฎหมายประมวลรัษฎากร

7.       การที่ดีแทค ได้กระจายการถือหุ้นออกเป็นลำดับชั้น ทั้งให้บุคคลธรรมดาถือ และถือผ่านนิติบุคคลหลายชั้น เป็นการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ ที่กำหนดสัดส่วนการถือหุ้นต่างด้าวให้ไม่เกินร้อยละ 49  เท่านั้น

8.       จากความเห็นของคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ได้สรุปว่าการพิจารณาว่าบุคคลหรือนิติบุคคลใดเป็นต่างด้าว จะต้องพิจารณาจากทุนหรือแหล่งเงินทุนของบุคคลหรือนิติบุคคลนั้นด้วย โดยในส่วนของดีแทค จากข้อมูลลำดับชั้นการถือหุ้น และงบการเงินของแต่ละนิติบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นแต่ละลำดับชั้น ปรากฏข้อเท็จจริงเชื่อว่ามีการส่งเงินลงทุนทั้งหมดมาจากบริษัทที่เป็นต่างด้าว โดยมีบุคคลไทยให้ความช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำความผิด

View :1633
Categories: Press/Release Tags: ,

ไอบีเอ็มฉลองครบรอบ 100 ปี รวมพลังอาสาทำกิจกรรมเพื่อสังคม

June 16th, 2011 No comments

ไอบีเอ็ม ประเทศไทยจัดงานฉลองครบรอบ 100 ปี เซเลเบรชั่นออฟเซอร์วิส Celebration of Service รวมพลังพนักงานปัจจุบัน พนักงานที่เกษียณอายุ และพันธมิตร จำนวนกว่า 300,000 คนจากทั่วโลก อุทิศเวลา และความรู้ เพื่อช่วยเหลือชุมชน และสังคมทั่วโลก สำหรับไอบีเอ็ม ประเทศไทย ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย จัดโครงการ IBM-Red Cross for Smarter Healthcare HIV/AIDS Prevention Project ทำแบบสำรวจพฤติกรรมของผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วยการจัดเก็บข้อมูลโดยใช้ซอฟท์แวร์ดีบีทู ค็อกโนส และการแสดงข้อมูลในเชิงวิเคราะห์ (Business Analytics) เพื่อการตัดสินใจ รวมไปถึงการให้คำปรึกษาในการพัฒนาฮาร์ดแวร์และระบบ IT ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้เชิญชวนพันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือสังคมด้วย

View :1494

แฮปปี้เปิดตัว “ โซเชียลแอพ ” เปลี่ยนมือถือธรรมดาให้โซเชียลได้เท่าสมาร์ทโฟน

June 16th, 2011 No comments

แฮปปี้แนะนำแอพพลิเคชั่นใหม่และซิมใหม่ “ โซเชียลแอพ ” “ ซิมแฮปปี้โซเชียล ” เปิดโอกาสให้ลูกค้าหลายสิบล้านรายที่ไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน สามารถเข้าถึงโลกโซเชียลได้สะดวกรวดเร็วด้วยบริการที่เทียบเท่าลูกค้าสมาร์ทโฟน เป็นศูนย์รวมแอพพลิเคชั่นประเภทโซเชียลยอดนิยมครบทุกรายการ Facebook, Twitter, MSN (Windows Live Messenger), Google Talk และ Hi5 มั่นใจครองตลาดโซเชียลเน็ตเวิร์กในกลุ่มวัยรุ่นด้วยบริการเอาใจ ราคาโดนใจ ชี้ตำแหน่งการตลาดชัดเจนแฮปปี้อันดับหนึ่งของโซเชียลเน็ตเวิร์ก

นายอมฤต ศุขะวณิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า เป้าหมายของแฮปปี้ในการเปิดตัวโซเชียลแอพ คือเป็นผู้นำด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ก เราคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการครบ 1 ล้านคนภายใน 1 ปี และเชื่อมั่นว่าโซเชียลแอพและซิมแฮปปี้โซเชียล ที่เปิดตัวในเวลาเดียวกันนี้จะตอบรับกับความต้องการของลูกค้าจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่อยากใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์ก คนกลุ่มนี้เป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศซึ่งยังคงใช้มือถือรุ่นธรรมดาที่รองรับอินเทอร์เน็ต แต่ยังไม่มีบริการที่เข้าถึงความต้องการใช้งาน ในระดับราคาที่เหมาะสม ด้วยส่วนประกอบที่มีอยู่ครบของโซเชียลแอพ ทั้งบริการ ราคา การจับกระแสของความนิยมของตลาด และการสร้างสรรค์สื่อเช่น ภาพยนตร์โฆษณาเพื่อให้ตรงใจวัยรุ่นเจ้าของมือถือธรรมดา ๆ เหล่านี้จะทำให้กลุ่มลูกค้าแฮปปี้โซเชียลเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ บริการดังกล่าวยังเป็นการสร้างตลาดในอนาคตเนื่องจากลูกค้าเหล่านี้ยังจะเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มลูกค้าสมาร์ทโฟนของเราต่อไปด้วย

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า ในขณะที่ตลาดกำลังให้ความสำคัญกับสมาร์ทโฟน แฮปปี้ทำให้แอพพลิเคชั่นและซิมของเราเปลี่ยนมือถือธรรมดาอื่น ๆ ที่รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้มีคุณสมบัติเทียบเท่าสมาร์ทโฟน ทำให้ใคร ๆ ก็เป็นสมาชิกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ เราสร้างบริการนี้ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ของประเทศที่ยังเข้าถึงโซเชียลเน็ตเวิร์กผ่านทางคอมพิวเตอร์จำนวนมากได้หันมาใช้บริการผ่านมือถือของแฮปปี้ที่มีราคาไม่แพงและมีบริการครบถูกใจ ลูกค้าที่มีหมายเลขแฮปปี้อยู่แล้วสามารถสมัครใช้โซเชียลแอพได้เพียงสัปดาห์ละ 19 บาท ใช้บริการได้ทั้ง Facebook, Twitter, MSN (Windows Live Messenger), Google Talk และ Hi5 อย่างไม่จำกัด

“กระแสของโซเชียลมีเดียในปัจจุบันส่งผลให้ผู้ใช้บริการในประเทศไทยเป็นสมาชิก Facebook แล้วถึงกว่า 10 ล้านราย ( Account ) สำหรับ MSN (Windows Live Messenger) และ Hi5 มีสมาชิกรายละ 6 ล้านกว่าราย ( Account ) เราเชื่อว่าการเปิดตัวโซเชียลแอพ และซิมแฮปปี้โซเชียล จะทำให้การใช้งานดาต้าบนโมบายอินเทอร์เน็ตขยายตัวได้อีกเป็นอย่างมากจากจำนวนลูกค้าที่เติบโตอยู่แล้วในปัจจุบัน โดยดีแทคมีลูกค้าใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านราย ภายใน 6 เดือนแรกของปีนี้ รวมเป็นผู้ใช้งานดาต้าทั้งหมด 5.5 ล้านราย ซึ่งทำให้เป้าหมายลูกค้าดาต้า 7 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้ใกล้ความเป็นจริงมาก” นายปกรณ์กล่าวสรุป

โซเชียลแอพ แอพพลิเคชั่นสำหรับมือถือธรรมดาทุกรุ่นที่รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ค่าบริการ 19 บาท/สัปดาห์ ให้ลูกค้าแฮปปี้และดีแทคปัจจุบันสมัครได้ที่ โทร *104*85# ลูกค้า sign in ครั้งเดียวสามารถใช้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ไม่จำกัดถึง 5 ประเภท Facebook, Twitter, MSN (Windows Live Messenger), Google Talk และ Hi5 พร้อมบริการส่ง SMS แจ้งเตือนไปยังมือถือเมื่อมีเพื่อนมาโพสท์ เม้นท์ หรือส่งข้อความถึงเจ้าของหมายเลข

ซิมแฮปปี้โซเชียล มีจำหน่ายวันนี้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายซิมแฮปปี้ทั่วประเทศ ฟรีค่าบริการโซเชียลแอพในเดือนแรก โทรหาเบอร์คนโปรด 4 หมายเลข นาทีละ 25 สตางค์ หรือคิดค่าโทรสูงสุด 3 บาท/ชั่วโมง ในช่วงเวลา 22.00 – 10.00 น. โทรนอกช่วงเวลาหรือโทรหาหมายเลขอื่น ๆ นาทีแรก 2 บาท นาทีต่อไปนาทีละ 1 บาท ส่ง SMS หาเบอร์ดีแทค 10 สตางค์/ข้อความ สำหรับลูกค้าที่เติมเงินผ่านช่องทางปกติครบ 300 บาท ภายใน 30 วันหลังเปิดใช้บริการ รับแฮปปี้ใช้ฟรี 100 บาท นาน 7 วัน เมื่อเปิดใช้บริการซิมภายในวันที่ 31 ก.ค. 54

View :2225