Archive

Archive for December, 2011

ก.ไอซีที ร่วมประชุม ASEAN TELMIN ครั้งที่ 11

December 17th, 2011 No comments

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยถึงการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 11 ว่า ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมฯ หรือ The 11th ASEAN Telecommunications and IT Ministers’ Meeting : 11th TELMIN ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า โดยที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอาเซียน (ASEAN ICT Masterplan 2015 : AIM 2015) ในปีแรก ซึ่งมีโครงการรองรับการดำเนินงานจำนวน 17 โครงการ ได้แก่ โครงการอาเซียน ซีไอโอ ฟอร์รั่ม (ASEAN CIOs Forum) โครงการรางวัลไอซีที อาเซียน (ASEAN ICT Awards) โครงการความมั่นคงปลอดภัยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Network Security) โครงการการนำไอซีทีมาใช้ในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ICT Adoption by SMEs) โครงการเขตพื้นที่กระจายสัญญาณเครือข่ายสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงในอาเซียน (ASEAN Broadband Corridor) เป็นต้น โดยโครงการเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาไอซีทีเพื่อมุ่งสู่การรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน และที่ประชุมฯ ยังได้พิจารณาอนุมัติงบประมาณจำนวน 450,000 เหรียญสหรัฐฯจากกองทุนไอซีทีอาเซียน (ASEAN ICT Fund) เพื่อใช้สำหรับดำเนินโครงการตามแผนแม่บทฯ ระหว่างปี 2555 – 2556 ด้วย

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังมีมติรับรอง แถลงการณ์เนปิดอว์ “Nay Pyi Taw Statement on ICT: an Engine for Growth in ASEAN” ซึ่งเป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ในการดำเนินความร่วมมือร่วมกันในเรื่องต่างๆ อาทิ 1.ข้อริเริ่มตามแผนแม่บท AIM 2015 2.พัฒนาสภาพแวดล้อมและนโยบายที่ยืดหยุ่นเพื่อจัดตั้ง ASEAN Broadband Corridor 3.ศึกษามาตรการเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงบริการเครือข่ายสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ระหว่างอาเซียนโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม 4.ส่งเสริมความร่วมมือที่ก้าวหน้าในเรื่องการบริหารจัดการคลื่นความถี่ 5.ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ 6.การสื่อสารในสภาวการณ์ฉุกเฉิน และ 7.การพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านไอซีที เป็นต้น

“ในส่วนของประเทศไทยได้หยิบยกความสำคัญด้านการจัดการภัยพิบัติ ด้วยการนำไอซีทีมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ ภัยพิบัติอย่างยั่งยืน โดยยกตัวอย่างกรณีศึกษาของไทยที่ได้รับอุทกภัยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทุกประเทศสมาชิกอาเซียน” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว

นอกจากนั้น รัฐมนตรีอาเซียนยังได้ประชุมหารือกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union : ITU) โดยในการหารือดังกล่าวได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนอาเซียนให้มีการพัฒนาและวิจัยด้านไอซีที รวมทั้งแนวปฏิบัติตามแผนแม่บท AIM 2015 ทั้งนี้ คู่เจรจาจะสนับสนุนอาเซียนในการถ่ายทอดความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านต่างๆ ได้แก่ 1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT Infrastructure) 2.เทคโนโลยีอุปกรณ์เคลื่อนที่ไร้สายสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง (Broadband Wireless Mobile) 3.การประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) 4.ความมั่นคงปลอดภัยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Network Security) และ 5.การประยุกต์ใช้ไอซีทีและความมั่นคงปลอดภัยด้านไอซีที (ICT Applications and Security)

“สำหรับประเทศไทยได้มีการหารือระดับทวิภาคีกับรัฐมนตรีไอซีทีจากประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึงรองเลขาธิการ ITU โดยประเด็นหลักที่หารือคือ 1.การให้ความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมกำหนดแนวทางการบริหารจัดการภัยพิบัติอย่างยั่งยืนโดยอาศัยไอซีที 2.ความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และ 3.แนวทางการพัฒนาบุคลากรด้านไอซีที ซึ่งจะมีการมอบหมาย ผู้ประสานงานให้ดำเนินการตามความร่วมมือต่างๆ ที่ได้หารือไว้กับประเทศคู่เจรจาดังกล่าวต่อไป” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว

View :1434

ก.ไอซีที จับมือ กสทช.พัฒนากิจการสื่อสารโทรคมนาคมไทยให้ก้าวหน้า

December 16th, 2011 No comments

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจการดำเนินการตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 และนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภา ระหว่าง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ () และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ว่า กระทรวงฯ และ ถือได้ว่าเป็นหน่วยงานหลักของประเทศที่มีความสำคัญในการกำหนดนโยบาย กำกับ ควบคุม รวมทั้งดูแลด้านกิจการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศให้พัฒนาไปในทิศทางที่จะให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ รวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองหน่วยงานได้ประสานและร่วมดำเนินงานเพื่อพัฒนากิจการสื่อสารโทรคมนาคมของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รวมทั้งกระแสการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีของโลกให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีมาโดยตลอด

และเพื่อให้การดำเนินงานร่วมกันระหว่างสองหน่วยงานเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 รวมทั้งสอดคล้องกับนโยบายที่คณะรัฐมนตรี แถลงไว้ต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 กระทรวงไอซีที และ กสทช. จึงได้จัดทำบันทึกความเข้าใจในการดำเนินการขึ้น เพื่อใช้เป็นหลักปฏิบัติสำหรับความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของประเทศให้มีประสิทธิภาพ โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

“การลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองหน่วยงาน จะได้ร่วมกันดำเนินการเพื่อพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน กิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของประเทศให้มีความก้าวหน้า และก่อให้เกิดเอกภาพในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศตลอดจนเพื่อผลักดันแนวนโยบายของรัฐบาลสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม อันจะก่อให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสื่อสารและโทรคมนาคมของประเทศให้เกิดเสถียรภาพ และยั่งยืนต่อไป” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว

View :1460

ดีแทคเริ่มจำหน่าย iPhone 4S ในประเทศไทย 16ธันวาคม

December 16th, 2011 No comments

ดีแทคเริ่มจำหน่าย ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2554 ที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทค และดีแทคเซ็นเตอร์ทั่วประเทศ

iPhone 4Sคือโทรศัพท์ iPhone รุ่นที่มหัศจรรย์ที่สุด อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นชิพดูอัลคอร์ A5 จาก Apple ซึ่งให้ประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วทันใจและกราฟิกที่สวยงามตื่นตา กล้องถ่ายภาพใหม่ที่ให้คุณภาพของภาพที่เหนือชั้นและสามารถบันทึกภาพวีดิโอความละเอียดสูงขนาด 1080p พร้อม iOS5 ระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือที่ล้ำสมัยที่สุดของโลกซึ่งมีคุณสมบัติใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นกว่า 200 รายการรวมถึงบริการ iCloud ที่เปิดให้ลูกค้าได้ใช้ฟรี ลูกค้าสามารถจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้ใน iCloud ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเรียกดูข้อมูลได้อย่างสะดวกสบาย ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น iPhone, iPad, iPod touch คอมพิวเตอร์แมค และพีซีผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย

นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการจำหน่าย iPhone 4S ซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่ใคร ๆ ต่างเฝ้ารอ และเชื่อมั่นว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เช่นเคย ด้วยเครือข่ายคุณภาพ 3G แพ็กเกจค่าบริการสุดคุ้ม และบริการที่ใส่ใจจากดีแทค”

View :1786

เอสวีโอเอเผยทิศทางตลาดไอทีในปีหน้า เผยแนวโน้มสินค้าไอทีราคาดีดตัวสูงขึ้น

December 16th, 2011 No comments

เผยทิศทางในปี 2555 หันมารุกตลาดดิสทริบิวชั่น เป็นผู้จัดจำหน่ายในทุกแบรนด์อย่างเต็มตัว พร้อมสร้างทีมบริการหลังการขายรองรับความต้องการของผู้บริโภคแบบไม่จำกัด เผยธุรกิจไอทีปีหน้าตลาดอาจเติบโตช้า แต่มีราคาสูงขึ้นจากผลกระทบจากอุทกภัย ส่วนสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

นายวีระ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสวีโอเอ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายคอมพิวเตอร์ไทย แบรนด์”เอสวีโอเอ” เปิดเผยว่า ธุรกิจไอทีในปี 2555 ในภาพรวมจะได้รับผลกระทบจาก 3 ปัจจัยหลักคือ หนึ่งภาวะอุทกภัยที่เกิดขึ้นนั้นทำให้สินค้าขาดตลาด โดยเฉพาะฮาร์ดดิสต์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของคอมพิวเตอร์ ซึ่งน่าจะเข้าสู่สภาพปกติประมาณสิ้นไตรมาสที่ 1 ปัจจัยที่สองคือการเติบโตของสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่มีการแข่งขันกันสูงมากในปัจจุบัน ทำให้ความต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กน้อยลงไปบ้าง ส่วนทิศทางตลาดไอทีโดยภาพรวมนั้น ขึ้นอยู่กับวางสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนและแทบเล็ตว่าอยู่ฝั่งไหน จะอยู่ในส่วนของไอที หรืออยู่ในส่วนของโมบายโฟน หากอยู่ในส่วนของตลาดไอที ก็น่าจะทำให้สามารถเติบโตได้อีก 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากนำสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต อยู่ในกลุ่มโมบายโฟน ตลาดไอทีในปีหน้าก็จะไม่เติบโตเลย ปัจจัยที่สามคือนโยบายของภาครัฐ เช่นการที่จะแจกแท็บเล็ตโรงเรียน จะทำให้ผู้บริโภครอดูสถานการณ์และยังไม่ตัดสินใจที่จะซื้อ เพื่อจะรอได้แท็บเล็ตฟรี เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกับตลาดโดยรวมในปีหน้า

นายวีระกล่าวว่า ในส่วนของเอสวีโอเอในปี 2555 นั้น ยังคงตั้งเป้าหมายว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ อันเนื่องมาจากผลกระทบจากปัจจัยทั้งสามประการที่ได้กล่าวไปแล้ว เอสวีโอเอเองจะขยายใน 2 ธุรกิจหลักคือ หนึ่งส่วนธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่าย คือการเป็นตัวแทนจำหน่ายและกระจายสินค้าไอทีแบรนด์ต่างๆ ให้มากขึ้น โดยการนำสินค้าจากแบรนด์อื่น ๆ มาจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันเอสวีโอเอได้สิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับ 15 แบรนด์ดัง และล่าสุดได้สิทธิ์การเป็นตัวแทนจำหน่ายของซัมซุง ในการจำหน่ายสินค้าไอทีเกือบทุกชนิด อาทิ โน้ตบุ๊ก , จอมอนิเตอร์ , เลเซอร์พริ้นเตอร์ , แทบเล็ต ,โปรเจคเตอร์ เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเดลล์,ฟูจิตสึ เป็นต้น ผ่านตัวแทนจำหน่ายของเอสวีโอเอกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้เอสวีโอเอจะยังคงเจรจาและเสนอให้ผู้ผลิตสินค้าไอทีทุกแบรนด์ เชื่อมั่นว่าเอสวีโอเอมีศักยภาพในการจำหน่ายสินค้าไอทีได้ดี โดยตั้งเป้าหมายที่จะก้าวไปเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดช่องทางการจัดจำหน่ายและการบริการ ส่วนที่สองคือธุรกิจบริการหลังการขาย เอสวีโอเอมีทีมเซอร์วิส ที่คอยให้คำปรึกษาและบริการประมาณ 300 กว่าคน โดยรับงานบริการให้ลูกค้าได้ทุกแบรนด์ที่เป็นเซอร์วิสโพรไวเดอร์ที่เข้ามาในประเทศไทยทั่วประเทศ

“เราสามารถทำได้สินค้าที่เราจะเซอร์วิสไม่จำกัดเฉพาะไอทีโปรดักส์ พวกโน๊ตบุ๊ก เดสต์ท๊อปหรือแม้แต่พริ้นเตอร์ เราก็ให้บริการได้ และยังจะขยายเข้าไปในสเปเชียลโปรดักส์ เช่น ตู้เอทีเอ็ม เครื่องพิมพ์บัตรคิว หรือ มัลติโปรดักส์ ที่ไม่ได้จัดจำหน่าย แต่สามารถเข้าไปเซอร์วิสให้ได้ เนื่องจากมีช่องทางที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และทำตามที่โปรดักส์ ต้องการในประเทศไทย สิ่งที่เราทำได้เพราะมีระบบรวบรัดทำธุรกิจบริการ และลิงค์กับเจ้าของโปรดักส์ ทราบถึงพื้นฐานระบบการทำงานของสินค้าอยู่แล้ว และรู้พื้นฐานของผู้บริโภคว่าต้องการสิ่งใด”

นายวีระกล่าวอีกว่า สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ แบรนด์ “SVOA” นั้น จะไม่เข้าไปทำตลาดในส่วนของโน้ตบุ๊ก ซึ่งเอสวีโอเอจะเน้นไปที่ตลาดเดสต์ท็อปมากกว่า โดยมองว่าตลาดในส่วนนี้ยังคงโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นในส่วนของการทำตลาดคอนซูมเมอร์และระบบราชการให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเจาะเข้าในไปส่วนของเวอร์ทิเคิลมาร์เก็ต เช่น ธุรกิจอินเตอร์เน็ตไอ -คาเฟ่ หรือเกมเมอร์มาร์เก็ต ที่ยังคงมีอัตราเติบโต และมีช่องทางการทำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ทิศทางของตลาดไอทีในปีหน้าผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หลาย ๆ แบรนด์จะเน้นเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีระดับไฮเอ็นด์มากขึ้น รวมถึงผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยังคงมุ่งผลิตเครื่องโน้ตบุ๊กราคาสูงเป็นหลักในไตรมาสแรก ส่วนในไตรมาสที่ 2 และ 3 จะมีสินค้าไอทีคุณภาพปานกลาง และราคาไม่สูงมากนัก เริ่มกลับเข้าสู่ตลาดมากขึ้น โดยผู้ผลิตฮาร์ดดิสต์และมอเตอร์ จะเริ่มผลิตตามไลน์การทำงานได้อย่างปกติ แต่ทั้งนี้สินค้าไอทีจะมีราคาสูงมากขึ้น
# # # # #

View :1442

TrueMove H เปิดตัว iPhone 4S อิสระหนึ่งเดียวแห่งไลฟ์สไตล์ไร้สายแบบไร้ขีดจำกัด

December 16th, 2011 No comments


ทรูมูฟ เอช เปิดโถงรอยัล พารากอน ฮอลล์ ต้อนรับแฟนพันธุ์แท้นับพันที่มาเข้าคิวรอเพื่อเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้เป็นเจ้าของ ในไทย มั่นใจความพร้อมเครือข่ายไร้สายใหม่ 3G+ เครือข่ายหนึ่งเดียว ที่สามารถมอบอิสระใหม่แห่งการสื่อสารและบันเทิงของสุดยอดสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดได้อย่างแท้จริง เข้าถึงทุกข้อมูลความบันเทิงอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมด้วยแอพพลิเคชั่นโดนใจเฉพาะลูกค้า iPhone 4S เท่านั้น

ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองหัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “ทรูมูฟ เอช มีความยินดีที่ได้นำเสนอนวัตกรรมสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่ทุกคนเฝ้ารออย่าง iPhone 4S ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีชิปประมวลผลความเร็วสูงสุดเท่าที่เคยมีมา รวมทั้งฟีเจอร์ความสามารถใหม่ๆ มากมายที่ต้องอาศัยเครือข่ายไร้สายที่มีขีดความสามารถสูง จึงจะสามารถรองรับและดึงศักยภาพของ iPhone 4S ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งทรูมูฟ เอช พร้อมแล้วที่จะนำลูกค้า TrueMove H iPhone 4S สู่อีกระดับของประสบการณ์สมาร์ทโฟนบนแพลตฟอร์มเครือข่ายไร้สาย 3G+ ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps และ Wi-Fi ความเร็วสูงสุด 8Mbps ครอบคลุม 100,000 จุดทั่วประเทศ

ทั้งนี้ TrueMove H iPhone 4S ที่ผสานบริการอันชาญฉลาดเข้ากับความโดดเด่นของเทคโนโลยีล่าสุด พร้อมมอบอิสระใหม่แห่งการสื่อสารที่ลงตัวให้กับลูกค้าทุกคน ประกอบด้วย

· อิสระเต็มสปีดด้วย Dual-core A5 หน่วยประมวลผลที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาให้ความเร็วมากกว่าถึงสองเท่าและกราฟฟิกที่เร็วกว่าถึงเจ็ดเท่า จนทำให้คุณรู้สึกได้ว่า iPhone 4S ตอบสนองได้อย่างฉับไว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดใช้งาน Apps เซิร์ฟอินเทอร์เน็ต เล่นเกม หรือกิจกรรมอื่นๆที่คุณโปรดปราน นอกจากนี้ ยังใช้งาน iPhone 4S ได้เต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลถึงแบตเตอรี่ เพราะหน่วยประมวลผล Dual Core A5 ช่วยในการประหยัดแบตเตอรี่ ทำให้ใช้งานได้นานกว่า

· Siriผู้ช่วยอัจฉริยะคนใหม่ ที่สั่งงานผ่านเสียง ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ ตั้งเตือนนัดหมาย หาข้อมูล เพียงแค่ถาม Siri เช่นเดียวกับที่ถามผู้ช่วยส่วนตัว ก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการ โดยจะคำนวณถึง App ที่เหมาะสมในการหาคำตอบที่ถูกต้องและดีที่สุดสำหรับคุณ

· อิสระเหนือกว่ากับระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด iOS5 ที่สร้างระบบส่งข้อความใหม่ด้วย iMessage ที่ให้ส่งข้อความได้ไม่จำกัดผ่าน Wi-Fi หรือ 3G ไปหาทุกคนที่ใช้อุปกรณ์ iOS เหมือนกัน พร้อมด้วย Notification Center สามารถดูทุกอย่างได้ง่ายดายแค่ลากนิ้วจากขอบบนของหน้าจอ

· อิสระแบบคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์กับ iCloud อัพเดท Syncและเชื่อมต่อข้อมูลทั้งหมดอย่างอัตโนมัติ พร้อมกันในทุกอุปกรณ์แบบไร้สายผ่าน Wi-Fi โดยสามารถเก็บข้อมูลได้ฟรีบนพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 5 GB อีกทั้งยังสามารถใช้ตามหา iPhone ในกรณีที่เครื่องหาย

นอกจากนี้ ทรูมูฟ เอช ยังมอบอิสระแห่งความสนุกกับคอนเทนต์โดนใจและแอพพลิเคชั่นอินเทรนด์ Thailand GPS by Nav Fone แอพพลิเคชั่นที่ช่วยนำทางถึงที่หมายอย่างสบายใจ Guru เจาะลึกทุกเนื้อหา ทั้งข่าวสาร ความรู้ กีฬา สาระบันเทิง และไลฟ์สไตล์ต่างๆกับ 14 ไลฟ์สไตล์คอนเทนต์จาก 40 กูรูชื่อดังทุกที่ ทุกเวลา และ My Movie TV เปลี่ยนมือถือให้เป็นโรงหนัง เพลิดเพลินกับขบวนพาเหรดหนังดังแบบไม่ซ้ำตลอด 365 วัน และทีวีกว่า 500 ช่อง ความคมชัดระดับ HDi รวมทั้งมั่นใจกับบริการหลังการขายโดย IT Friends ทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบปัญหาและข้อข้องใจในทุกการใช้งาน

ปพนธ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช เรามั่นใจว่าเครือข่าย 3G+ ที่ครอบคลุมมากที่สุดในไทย จะทำให้ทุกท่านได้ใช้ Truemove H iPhone 4S แบบเต็มประสิทธิภาพ เป็นการรวมตัวของมือถือและเครือข่ายที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของพวกเราให้ดียิ่งขึ้น”

View :1692

แคนนอนจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพ่อหลวง “84 ภาพ…ถ่ายด้วยหัวใจ ถวายในหลวง” จากน้องๆ ผู้พิการทางสายตา

December 15th, 2011 No comments

แคนนอนขอเชิญร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในนิทรรศการ “…ถ่ายด้วยหัวใจ ถวายในหลวง”จัดแสดงผลงานภาพถ่ายจากแรงบันดาลใจของน้องๆ ผู้พิการทางสายตาในโครงการ “สอนนักเรียนตาบอดถ่ายภาพ”พร้อมกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรมสอนถ่ายภาพแก่น้องๆ ผู้พิการทางสายตา โดยกลุ่มอาสาสมัครที่รักการถ่ายภาพเพื่อการแบ่งปัน Pict4All, กิจกรรมทดลองถ่ายภาพโดยจำลองสถานการณ์เป็นคนตาบอด, การแสดงจากน้องๆ ผู้พิการทางสายตา และร่วมมอบโอกาสส่งต่อความฝัน ด้วยการร่วมเป็นเจ้าของหนังสือโปสการ์ดทั้ง จากฝีมือการถ่ายภาพของน้องๆ ผู้พิการทางสายตา รายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้กับโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ “สอนนักเรียนตาบอดถ่ายภาพ” ปี 2554 ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมภาพถ่ายกิจกรรมที่ผ่านมาได้ทาง http://www.pict4all.com

ร่วมเป็นหนึ่งในนิทรรศการแห่งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ระหว่างวันที่ 20-30 ธันวาคม 2554 (ปิดวันที่ 26 ธันวาคม)
ลานสานฝัน อุทยานการเรียนรู้ TK Park ชั้น 8
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
“ แล้วคุณจะพบว่า…ความสวยงามไม่ได้จำกัดแค่เพียงสายตาที่มองเห็น”

View :1533

สยามคูโบต้าเปิดตัว “Kubota Smart Farm” ชวนชาวสังคมออนไลน์ เล่นเกมผ่าน Facebook

December 15th, 2011 No comments

สยามคูโบต้าท้าประลองคนเมืองเล่นเกมออนไลน์ “Kubota Smart Farm”
แข่งขันบริหารฟาร์มในฝัน ผ่าน Facebook ชิงรางวัลกว่า 2 แสนบาท

สยามคูโบต้าเปิดตัว “Kubota Smart Farm” ชวนชาวสังคมออนไลน์ เล่นเกมผ่าน Facebook ที่ www.facebook.com/siamkubotaclub ระหว่าง 13 ธ.ค. 2554 – 3 ม.ค. 2555 ชิง iPad2 6 เครื่อง และเช็คของขวัญรวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท หวังกระตุ้นคนเมืองให้เข้าถึงกระบวนการบริหารจัดการฟาร์มในรูปแบบการทำการเกษตรสมัยใหม่

นายโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่สยามคูโบต้าได้ร่วมจัด Kubota Pavilion ในงาน BOI Fair 2011 ระหว่างวันที่ 5-20 มกราคม 2555 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานีนั้น ด้วยความที่บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตร จึงได้จัดแข่งขันเกม “Kubota Smart Farm” โดยเลือกใช้ Social Network เป็นช่องทางในการสื่อสาร เพื่อดึงให้คนเมืองเข้ามามีส่วนร่วมและทำกิจกรรมเล่นเกมร่วมกับสยามคูโบต้า อันจะนำไปสู่การเข้าใจถึงกระบวนการทำการเกษตรว่าไม่ได้เป็นเรื่องยากอย่างที่คิด เนื่องจากในปัจจุบันเครื่องจักรกลการเกษตรจะเข้ามาช่วยทำให้การทำการเกษตรสมัยใหม่ง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากจะสามารถทดแทนแรงงานคนที่หายากแล้ว ยังช่วย “ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต” และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของภาคการเกษตรของไทย

ผู้ร่วมสนุกจะต้องทำการแข่งขันโดยเลือกปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดต่าง ๆ อาทิ ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง และอ้อย แล้วทำการพัฒนาบริหารฟาร์มของตนเองให้มี Level และเงินสะสมสูงสุด ผ่านทาง www.facebook.com/siamkubotaclub ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตในขั้นตอนต่าง ๆ ได้ตามต้องการ อาทิ การใช้แทรกเตอร์ติดอุปกรณ์ต่อพ่วงในการเตรียมดิน(พรวนดิน), การปลูกด้วยมือหรือใช้รถดำนาในการปลูกข้าว, การเก็บเกี่ยวผลผลิตด้วยมือหรือรถเกี่ยวนวดข้าว เป็นต้น ซึ่งผู้เล่นยังต้องทำการบริหารเงินที่ได้จากการค้าขายผลผลิต โดยสามารถนำเงินไปซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรสมัยใหม่ รวมถึงพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ อาทิ การเพิ่มทักษะในการเพาะปลูกพืชให้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และการขายผลผลิตให้ได้ราคาสูงสุด นอกจากนี้เกมจะมีภารกิจพิเศษต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางในการเพิ่มเงินสะสม

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถใช้ Facebook ID ลงทะเบียนเล่มเกมได้ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2554 – 3 มกราคม 2555 โดยผู้ร่วมสนุกที่มี Level และยอดเงินสะสมสูงสุด 30 อันดับแรก จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในรอบ

สุดท้ายที่ KUBOTA Pavilion ในช่วงงาน BOI Fair 2011 ระหว่างวันที่ 7-8 มกราคม และ 12-15 มกราคม 2555 เพื่อร่วมชิงรางวัล Apple iPad WiFi + 3G ขนาด 32GB จำนวน 6 เครื่อง และเช็คของขวัญจากห้างเซ็นทรัลรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร พูดคุยออนไลน์ และร่วมกิจกรรม สนุก ๆ ได้ที่ www.facebook.com/siamkubotaclub และ www.siamkubotaboifair.com

View :3603

กลุ่มทรู เปิดจำหน่าย iSIM และแพ็กเกจแอร์การ์ดคู่ iSIM

December 15th, 2011 No comments

ทั้งดาวน์โหลดเพลงรอสายส่งกำลังใจผู้ประสบภัย พร้อมรับบริจาคผ่าน SMS
นำรายได้ร่วมสมทบทุนโครงการ “พลังน้ำใจไทย Power of Thai”

กลุ่มทรูเชิญชวนคนไทยยุคดิจิตอล ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการพลังน้ำใจไทย พร้อม
ยกระดับชีวิตอินเทรนด์ออนไลน์ไร้สายอิสระ เพียงซื้อ จากทรูมูฟเอช หรือ
แอร์การ์ดพร้อม iSIM ที่ทำขึ้นเอาใจคนท่องเน็ตโดยเฉพาะ รายได้จากการจำหน่าย 20
บาทต่อชิ้นสมทบทุนโครงการ “พลังน้ำใจไทย Power of Thai” ทั้งมอบทุกการดาวน์โหลด
เพลงรอสายให้กำลังใจผู้ประสบภัยผ่าน *8000 เชิญชวนลูกค้าทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช
ร่วมบริจาคเงินผ่าน SMS พิมพ์ 100 เพื่อบริจาคครั้งละ 100 บาท ส่งมาที่หมายเลข
4567893 เพื่อนำรายได้สมทบทุนโครงการ “พลังน้ำใจไทย Power of Thai” ตั้งแต่
วันนี้ ถึงสิ้นเดือน มิถุนายน 2555

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท
ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรู 1 ใน 12 องค์กรเอกชน ที่ร่วมจัดตั้งโครงการ
“พลังน้ำใจไทย Power of Thai” เพื่อร่วมช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจาก
มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยเน้นระดมทุนช่วยเหลือฟื้นฟูการศึกษาของประเทศ ตั้ง
เป้าโรงเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือจำนวน 84 แห่ง โดยกลุ่มทรูจะนำเงินรายได้
จากการ จำหน่ายสินค้าในเครือ ที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษภายใต้สัญลักษณ์ “พลังน้ำใจ
ไทย Power of Thai” คือ iSIM by ซิมท่องเน็ตโดยเฉพาะ สำหรับผู้ใช้
งานแท็ปเล็ต แอร์การ์ด Mi-Fi รวมอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ที่รองรับบริการ 3G บน
คลื่นความถี่ 850 MHz ตลอดจนแพ็คเกจแอร์การ์ดและiSIM โดยนำเงินรายได้จากการ
ขายดังกล่าว
ซิมละ 20 บาทเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งมอบทุกการดาวน์โหลดเพลงรอสายให้กำลังใจผู้
ประสบภัยผ่าน *8000 ตลอดจนเชิญชวนลูกค้า ทรูมูฟ และ ทรูมูฟ เอช ร่วมบริจาคเงิน
ผ่าน SMS พิมพ์ 100 เพื่อบริจาคครั้งละ 100 บาท ส่งมาที่หมายเลข 4567893 เพื่อ
นำรายได้สมทบทุนโครงการ “พลังน้ำใจไทย Power of Thai” ตั้งแต่วันนี้ ถึงสิ้น
เดือน มิถุนายน 2555

สินค้าพิเศษของกลุ่มทรู ภายใต้สัญลักษณ์ “พลังน้ำใจไทย Power of Thai” จะ
เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกที่บูธทรู ในงานคอนเสิร์ตการกุศล “Power of Thai, Power
in your Hands” ซึ่งจะจัดขึ้น วันที่ 17-18 ธันวาคม ระหว่างเวลา 10.00-22.00
น. ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยงานดังกล่าว กลุ่มทรู โดยทรูแฟนเทเชีย นำ
ศิลปิน ทรู เอเอฟ อาทิ พัดชา เอเอฟ 2, ก้อ เอเอฟ 3 และ วงพาสเทลล์, พะแพง ต้อล
เอเอฟ 4, ปั๊ม เอเอฟ 5, ต้น เต๋า คชา เอเอฟ 8 ,123 Soul และ 3 สาว Lasitta
ร่วมคอนเสิร์ต และกิจกรรมการกุศลหารายได้ ตลอดจนจำหน่ายเครื่องดื่มทรู คอฟฟี่
เพื่อแบ่งรายได้สมทบกองทุนในโครงการ Power of Thai

ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มทรู ยังพร้อมเป็นศูนย์กลางจำหน่ายสินค้าพิเศษ ภายใต้
สัญลักษณ์ “พลังน้ำใจไทย Power of Thai” ภายในร้านทรูช้อป และจำหน่ายออนไลน์
ผ่าน www.weloveshopping.com, ตลอดจนสนับสนุนการเผยแพร่โครงการ เพื่อร่วมระดม
ทุนผ่านทุกช่องทาง Convergence ของกลุ่มทรู อาทิ รายการต่างๆของทรูวิชั่นส์
ทรูออนไลน์ ทรูไลฟ์ ทรูมูฟ รวมทั้งทรู คอฟฟี่ และ ทรูช้อปสาขาต่างๆ

การร่วมฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ให้กลับคืนสู่ปกติให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งด้านการศึกษาของเยาวชน โดยความร่วมมือขององค์กรระดับชั้นนำ 12 แห่ง
ในโครงการ “พลังน้ำใจไทย Power of Thai” เป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยเหลือสังคมให้
เกิดความต่อเนื่อง ดังนั้น พลังน้ำใจจากทุกภาคส่วนในการอุดหนุนสินค้าพิเศษ การ
ร่วมบริจาค และการมีส่วนร่วมตามกำลังความสามารถของแต่ละคน จะเป็นกำลังสำคัญที่
แสดงถึงพลังของคนไทย Power of Thai ที่จะสนับสนุนให้โครงการฯ ดังกล่าวประสบความ
สำเร็จอย่างแท้จริง” นายศุภชัยกล่าวสรุปในที่สุด

View :1412
Categories: Press/Release Tags: ,

4 ค่ายสื่อสารโทรคมนาคมร่วมมือให้บริการ wifi ในศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่

December 15th, 2011 No comments

เปิดตัวนวัตกรรม Wifi บริการเหนือระดับ
ครั้งแรกของความร่วมมือ 4 ค่ายสื่อสารโทรคมนาคม และ
ในศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่

สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่เมื่อศูนย์การค้าระดับโลก สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ผนึกกำลังร่วมมือกับ 4 ค่ายยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม AIS, DTAC, TOT และ TrueMove H เปิดให้บริการ mobile data service ผ่านโครงข่าย Wifi ทั่วทั้งอาคารของ 3 ศูนย์การค้าใจกลางเมืองครอบคลุมพื้นที่กว่า 600,000 ตร.ม. เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัยที่สุด สามารถใช้งานด้วยเน็ตเวิร์คที่มีความเสถียรสูงสุด ทำให้ลูกค้าไม่พลาดเชื่อมต่อออนไลน์ และสนุกกับโลกโซเซียลเน็ตเวิร์ค ในทุกรูปแบบของเทคโนโลยี และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าเทรนด์เซตเตอร์ของศูนย์การค้า ครอบคลุมจำนวนลูกค้าสูงสุดทั้งนักธุรกิจ นักช็อป นักท่องเที่ยว ให้เพลินใจกับโลกออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา

นางชฎาทิพ จูตระกูล ผู้บริหารสูงสุด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ 3 ศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบของกรุงเทพมหานคร ที่ครบครันด้วยอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ชั้นนำระดับโลกและร้านค้าชั้นแนวหน้าของเมืองไทยกว่า 500 ร้านค้า และเป็น World Class Destination ของทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลก และด้วยกลุ่มเป้าหมายของศูนย์การค้าเป็นกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตตามวิถีคนเมืองที่เกาะติดตามโลกแห่งเทคโนโลยีการสื่อสาร จึงมีแนวความคิดร่วมกันกับ 4 ค่ายยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม AIS, DTAC, TOT และ TrueMove H เป็นการตอกย้ำถึงการยกระดับการบริการด้านการสื่อสารที่แตกต่างเหนือใคร โดยผสานเทคโนโลยีไร้สายเข้าสู่ศูนย์การค้าอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อเติมเต็มไลฟสไตล์ของกลุ่มลูกค้า ที่เข้ามาซื้อสินค้าและใช้บริการหมุนเวียนภายในศูนย์การค้าในแต่ละวันจำนวนกว่า 1.5 แสนคน ให้สามารถใช้ชีวิตแบบออนไลน์อิสระไร้สายได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงแหล่งรวมข้อมูลสาระบันเทิงได้ทุกพื้นที่ของศูนย์การค้า

สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ นับเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดให้บริการ Wifi ผ่านโครงข่ายที่มีการพัฒนาและออกแบบร่วมกันระหว่าง 4 ค่ายยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม อันได้แก่ AIS, DTAC, TOT, และ TrueMove H Move โดยมีพื้นที่การให้บริการครอบคลุมทั้ง 3 อาคารกว่า 600,000 ตร.ม. โครงข่ายร่วม Wifi ดังกล่าวจะทำงานผสมผสานร่วมกันกับ โครงข่าย mobile data network ของ mobile operator ทั้งสี่รายที่มีอยู่แล้วภายในอาคาร ส่งผลให้ผู้ใช้บริการไม่ว่าจะเป็นค่ายใดที่ใช้งาน Smart Phone, Smart Device, Tablet, Notebook และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆซึ่งมีความสามารถในการรับสัญญาณ Wifi สามารถเลือกใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ใช้บริการสามารถ “Stay Connect” ด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกับบริการออนไลน์ต่างๆได้ตลอดเวลาที่ท่านเพลิดเพลินกับการพักผ่อนภายในศูนย์การค้า ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการของสังคมออนไลน์ได้อย่างแท้จริง

นายมาร์ค ชอง ชิน ก๊อก หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการไร้สายอันดับ 1 หน้าที่ของเราคือ สรรหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมามอบให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เครือข่าย” ที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นหัวใจหลักในยุคที่การใช้งาน Mobile Internet, Social Network, และ application ต่างๆ ผ่าน Smart Device จากทุกระบบปฏิบัติการเติบโตเป็นอย่างมาก ดังเช่นใน ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ใช้งานดาต้าสูงขึ้นเป็น 8 ล้านราย ซึ่งนอกเหนือจากเครือข่าย EDGE Plus ที่ครอบคลุมสูงสุดทั่วไทย และ 3G ในกรุงเทพและปริมณฑล และจังหวัดหลักทุกภาคแล้ว เรายังขยายความครอบคลุมเครือข่าย Wifi อย่างไม่หยุดยั้ง โดยปัจจุบันครอบคลุมแล้วกว่า 50,000 จุด ภายใต้มาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพสูงสุด หรือ Quality DNAs จากเอไอเอสดังเช่นความร่วมมือกับศูนย์การค้าระดับโลกอย่าง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ในครั้งนี้ ทาง AIS ได้เปิดให้บริการ AIS Wifi ความเร็วสูงสุด 100 Mbps ให้ลูกค้าเอไอเอสที่มีแพ็กเกจ Wifi อยู่แล้วสามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มใดๆ ซึ่งถือเป็นอีก 1 จุดแข็ง นอกเหนือจากความคุ้มค่าและความสะดวกจากประสบการณ์เข้าใช้อัตโนมัติหลังการสมัครและเข้าใช้งานครั้งแรก ซึ่งนอกจากจะสอดคล้องกับการใช้ชีวิตในแบบคนเมืองมากที่สุดแล้ว ยังตอกย้ำถึงความเป็น Long Term Partnership ระหว่างเอไอเอสกับทั้ง 3 สุดยอดศูนย์การค้าแห่งนี้อย่างชัดเจนอีกด้วย”

ลูกค้าเอไอเอสทั้ง GSM advance และ One-2-Call! ที่มีแพ็คเกจ Wifi สามารถใช้บริการ AIS Wifi ณ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือ สามารถสมัคร Package ใช้งานไม่จำกัดแบบรายเดือน 99 บาทต่อเดือน ได้ที่หมายเลข *388# ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/ Wifi

ดร.เกษชญง สกาวรัตนานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีแทค บรอดแบรนด์ จำกัด กล่าวว่า ดีแทคร่วมเป็นพันธมิตรในการให้บริการ wifi แก่ลูกค้าของสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่และสยามพารากอนด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากโครงการนี้จะเป็นประโยชน์แก่ลูกค้าจำนวนมากที่จะได้ใช้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนเติมเต็มให้กับชีวิตประจำวัน และยังตรงกับทิศทางในการขยายบริการด้านดาต้าของดีแทคเพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้าในทุกกลุ่ม เราเชื่อว่าลูกค้าดีแทคที่เข้ามาช้อปปิ้งและใช้บริการต่าง ๆ ที่ศูนย์การค้าสินค้าชั้นนำทั้ง 3 แห่งจะได้รับความสะดวกและสนุกสนานมากยิ่งขึ้นจากบริการ wifi ของดีแทค พร้อมกันนี้ ดีแทคขอแสดงความยินดีกับกลุ่มศูนย์การค้าสินค้าชั้นนำทั้งสามแห่งที่มีศักยภาพในการเปิดเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายการสื่อสารที่ครบครันและทันสมัยเป็นรายแรกด้วย

นายมนต์ชัย หนูสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่า “ทีโอที มั่นใจว่าบริการ TOT Wifi สำหรับผู้ใช้บริการทั้ง 3 ห้างศูนย์การค้าชั้นนำระดับโลกสยามพารากอนสยามดิสคัฟเวอรี่ และสยามเซ็นเตอร์ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีความเร็วสูงไร้สาย TOT Wifi ที่มีความเร็วสูงสุด 100 Mbps. จึงมั่นใจได้ว่าทุกท่านจะสามารถใช้งานตามแพคเก็ตที่เปิดใช้บริการ สามารถเข้าถึงการใช้งานดาต้าให้กับลูกค้าในทุกรูปแบบหลาก-หลาย สะดวก และรวดเร็ว สามารถรองรับทุกไลฟ์สไตล์ของทั้งลูกค้า นักธุรกิจ นักช็อป นักท่องเที่ยวให้เพลิดเพลินกับโลกออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลาได้อย่างไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง
จากการที่ ทีโอที ได้ขยายบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ TOT 3G ซึ่งใช้เทคโนโลยี 3.9G ด้วย ความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps. ครอบคลุมทั้ง 3 ศูนย์การค้าสินค้าห้างแล้ว การเปิดให้บริการนวัตกรรมเทคโนโลยีไร้สายTOT Wifi ครั้งนี้นับเป็นการคอนเวอร์เจนซ์ (convergence) ศักยภาพของทั้ง 2 บริการเข้าด้วยกันเพื่อรองรับการออนไลน์อย่างไร้ขีดจำกัด เพิ่มความสะดวกสูงสุดกับผู้ใช้บริการทั้งการใช้บริการ
“ในปี 54 ที่ผ่านมา ทีโอทีไวไฟได้ขยายพื้นที่บริการทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากในพื้นที่เน้นการใช้งานทางธุรกิจเช่นสนามบิน โรงแรม ศูนย์การประชุม โรงพยาบาล ร้านกาแฟ สถานที่ราชการ ทุกแห่งทั่วประเทศแล้ว ทีโอทีไวไฟยังครอบคลุมพื้นที่ท่องเที่ยวเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตปัจจุบันที่ต้องการการออนไลน์ในทุกที่ทุกเวลาแม้ในขณะพักผ่อน เช่น ชายทะเลพัทยา ชะอำ หัวหิน ปาย น้ำตกทุกแห่งของจังหวัดกาญจนบุรี รอบองค์พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม สำหรับในปี 55 นี้ มีแผนงานขยายพื้นที่บริการเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมากเพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น
ด้านการใช้งานกรณีต้องการใช้ TOT Wifi เพียงบริการเดียวสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบรายเดือนและแบบพรีเพดซึ่งสามารถซื้อได้ทั้งทางออนไลน์ที่ www.totwifi.com และจุดหน่ายกว่า 44,280 แห่ง ทั่วประเทศ อาทิ ศูนย์บริการลูกค้า ทีโอที, 7eleven, Lotus, BigC, e-pay, ตู้เติมเงินบุญเติม และ ATM ธนาคารนครหลวงไทย(ธนชาติ) เป็นต้น สำหรับลูกค้า TOT 3G ทีโอที มีแพคเกตคอนเวอร์เจนท์เพิ่มสิทธิ์การใช้ TOT Wifi ฟรี เพื่ออิสระการออนไลน์สูงสุดสำหรับลูกค้า TOT 3G เป็นต้น สนใจข้อมูลบริการ TOT Wifi หรือต้องการใช้งานสามารถเข้าชมได้ที่ www.totwifi.com ” หรือ TOT Contact Center 1100

นายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ ผู้อำนวยการบริหารด้านลูกค้าองค์กรธุรกิจขนาดใหญ์และบริการระหว่างประเทศ และหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่ม ด้านปฏิบัติการเทคโนโลยีสารสนเทศ และบริหารงานลูกค้า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ด้วยความตั้งใจที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่กลุ่มทรูโดยทรูมูฟ เอช ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือเปิดให้บริการ Ultra Wi-Fi by TrueMove H ทั้งที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าชั้นนำระดับโลกและเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ โดยกลุ่มทรูจะนำเสนอศักยภาพเน็ตเร็วสูงไร้สายบนโครงข่าย Wi-Fi คุณภาพที่ใหญ่ที่สุด ที่โดดเด่นเรื่องความเร็วในการเชื่อมต่อสูงสุดถึง 100 Mbps ในแต่ละจุดฮอตสปอต โดยติดตั้งฮอตสปอตคุณภาพกว่า 500 จุดครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทั้ง 3 อาคาร ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าเทรนด์เซตเตอร์ ทั้งนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว นักช้อป จะอิสระท่องเน็ตไร้สายได้เร็วยิ่งกว่า ทุกที่ทุกเวลา ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.truewifi.net พิเศษสุด แพคเกจเสริม Ultra-Wi-Fi by TrueMove H “ใช้ได้ไม่จำกัด” เพียง 300 บาทต่อเดือน (ต่ออายุอัตโนมัติ) สำหรับลูกค้าทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช เท่านั้น สมัครผ่าน *9000

View :2085

เอไอเอส เปิดตัวหนังสือ “สตีฟ จ็อบส์” บน AIS Bookstore แล้ว ซื้อได้ตั้งแต่นาทีแรกของวันที่ 14 ธ.ค. ศกนี้

December 14th, 2011 No comments

เอไอเอสรุกครองเจ้าตลาดอีบุ๊คส์เมืองไทย เผยยอดดาวน์โหลดผ่าน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 3 แสนเล่มต่อเดือน ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการกว่า 1.5 แสนราย และมีพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมจัดจำหน่ายหนังสือและนิตยสารผ่าน กว่า 60 สำนักพิมพ์ ราว 3,000 เล่มแล้ว (หรือนับเป็นหัวนิตยสารประมาณ 111 หัวหนังสือ ส่วน Pocket Book มีจำนวนมากกว่า 1,500 เล่ม) ซึ่งกล่าวได้ว่าครอบคลุมเกินกว่า 50% ของหนังสือในเมืองไทย

วันนี้ เอไอเอสเซอร์ไพรส์ตลาด ด้วยการเปิดตัวอีบุ๊คส์เล่มใหม่ล่าสุดที่ทั่วโลกต่างรอคอย กับ “สตีฟ จ็อบส์” ฉบับภาษาไทย สมบูรณ์แบบและเต็มอิ่มกว่า 700 หน้า ซึ่งเอ็กคลูซีฟบน Bookstore เท่านั้น! โดยลูกค้าเอไอเอสสามารถเข้ามาดาวน์โหลดได้ ตั้งแต่นาทีแรกของวันที่ 14 ธันวาคมเป็นต้นไป ในราคาเพียงเล่มละ 309 บาท (จากราคาหนังสือปกติ 395 บาท) เพียงเข้าไปที่แอพฯ Bookstore ค้นหาคำว่า “Steve Jobs” โดยอีบุ๊คส์ “สตีฟ จ็อบส์” ถือเป็นไฮไลท์คอนเทนต์ที่เอไอเอสต้องการดึงดูดกลุ่มผู้อ่านรุ่นใหม่ให้หันมาอ่านหนังสือในรูปแบบของดิจิตอล

พร้อมกันนี้ ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ เอาใจสาวกแอ็ปเปิ้ลโดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่ซื้อ iPad 2 จากเอไอเอส ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.เป็นต้นไป รับฟรีทันที! อีบุ๊คส์ “สตีฟ จ็อบส์” ฉบับนี้ ซึ่งดาวน์โหลดได้ฟรีผ่านบริการ AIS Bookstore (หรือจนกว่าของจะหมด)

มีเนื้อหาบอกเล่าถึงชีวประวัติอย่างละเอียดของเจ้าของตำนานผู้สร้างแบรนด์แอ๊ปเปิ้ล อัจฉริยะพลิกโลกที่ยังอยู่ในความทรงจำของทุกคน ที่เหล่าแฟนคลับและสาวกสตีฟ จ็อบส์ พลาดไม่ได้!

View :1821