Archive

Archive for April, 2012

ก.ไอซีที Road Show ญี่ปุ่น ประสบความสำเร็จ ดึงผู้ประกอบการรายใหญ่ร่วมลงทุนในไทย

April 15th, 2012 No comments

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้ร่วมเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นพร้อมนายกรัฐมนตรีและคณะ ระหว่างวันที่ 5 – 9 มีนาคม 2555 เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ แนบแน่นทุกระดับระหว่างไทย – ญี่ปุ่น ในโอกาสพิเศษครบรอบ 125 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ญี่ปุ่น และสร้างความเชื่อมั่นในแนวทางการแก้ปัญหาอุทกภัยของรัฐบาลไทย ซึ่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ร่วมเดินทางเพื่อไป Road Show ด้วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย รวมทั้งเพื่อให้ภาคเอกชนของญี่ปุ่นได้ทราบถึงนโยบายด้าน ICT ของไทยหรือ SMART THAILAND ซึ่งให้สิทธิพิเศษสำหรับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย จึงทำให้การไป Road Show ในครั้งนั้นได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

“ประเทศญี่ปุ่นได้ให้การยอมรับประเทศไทยว่า มีจุดเด่นในการสร้างสรรค์ผลงานและศักยภาพในการผลิตงานที่มีมาตรฐาน จนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งบริษัทหลายแห่งของไทยได้ร่วมงานกับบริษัทต่างชาติทั้งในระดับฮอลลีวูด รวมทั้งบริษัทของญี่ปุ่น มานานแล้ว อย่างไรก็ตาม ประเทศญี่ปุ่นยังคงมีความกังวลในเรื่องระบบการสื่อสาร โครงสร้างพื้นฐาน และความต่อเนื่องของนโยบายรัฐบาล จึงได้มีการชี้แจงถึงการดำเนินโครงการ SMART THAILAND ซึ่งเป็นโครงการที่สอดรับกับนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ และนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยสำหรับปี พ.ศ. 2554 – 2563 หรือ ICT 2020 ที่มีเป้าหมายในการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมประชากรร้อยละ 80 ในอีก 3 ปีข้างหน้า และร้อยละ 95 ภายในปี พ.ศ. 2563 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ฝ่ายญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงด้านมัลติมีเดียของญี่ปุ่น อาทิ Bandai, TOEI เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อร่วมกันผลิตผลงานที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยและส่งออกไปทั่วโลก รวมถึงยังได้เชิญชวนผู้ประกอบการญี่ปุ่นมาจัดกิจกรรมต่างๆ ในประเทศไทย หรือร่วมในงานแสดงสินค้าที่ประเทศไทยจัดขึ้น และจัดให้มีการจับคู่ทางธุรกิจให้มากขึ้นกว่าที่เคยทำกันมาในอดีต พร้อมกันนี้ ยังมีแนวคิดที่จะเชิญผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่นมาถ่ายทอดเทคโนโลยีและประสบการณ์แก่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยรวมทั้งผู้ประกอบการไทย เพื่อยกระดับคุณภาพและขีดความสามารถของบุคลากรไทยในการทำงานร่วมกันในอนาคตอีกด้วย” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

และในช่วงต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา บริษัท IDA (International Digital Artist) ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตผลงานต่างๆ ในรูปแบบ รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ของเล่น และเกม ชั้นแนวหน้าของประเทศญี่ปุ่น ได้ตอบรับคำเชิญและเดินทางมาเยี่ยมคารวะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยได้แสดงเจตจำนงที่จะมาลงทุนและร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยในการผลิตผลงานที่มีชื่อเสียงในระดับโลก พร้อมทั้งได้แสดงความชื่นชมที่ กระทรวงฯ ได้ให้ความสำคัญและเข้าใจในอุตสาหกรรม Digital content เป็นอย่างมาก นอกจากนั้น บริษัท IDA ยังพร้อมที่จะประสานงานในการเชิญผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่นมาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับนักศึกษาและผู้ประกอบการไทย รวมถึงยังได้ชื่นชมผลงานผู้ประกอบการไทยและตั้งใจที่จะให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต Character ในลักษณะเดียวกับไอ้มดแดงที่เคยโด่งดังมากในอดีตเพื่อนำออกเผยแพร่ทั่วโลก

“การตอบรับคำเชิญและเดินทางมาเยือนประเทศไทยของผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงจากญี่ปุ่นในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จก้าวแรกของการเดินทางไป Road Show ที่ประเทศญี่ปุ่นที่เห็นเป็นรูปธรรม และเชื่อมั่นว่าในอนาคตจะต้องมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ ให้ความสนใจเข้ามาร่วมลงทุนในประเทศไทย และนำไปสู่ความสำเร็จก้าวต่อๆ ไปของประเทศอย่างแน่นอน” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

View :1260

ก.ไอซีที ห่วงใยเด็กและเยาวชน ใช้อินเทอร์เน็ตไม่เหมาะสมช่วงปิดเทอม

April 12th, 2012 No comments

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า กระทรวงไอซีที มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเด็กและเยาวชนในช่วงอายุระหว่าง 6 – 20 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนการใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าร้อยละ 50 ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดเป็นอย่างมาก เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงระหว่างการปิดภาคเรียน จึง ทำให้เด็กและเยาวชนมีเวลาว่างในการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น และอาจนำไปสู่การใช้งานในเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เช่น เว็บลามกอนาจาร เว็บการพนัน โดยที่ผู้ปกครองไม่สามารถอยู่ควบคุมพฤติกรรมการใช้งานได้

ดังนั้น กระทรวงไอซีที จึงขอเชิญชวนให้ผู้ปกครองใช้โปรแกรมไอซีที เฮ้าส์คีปเปอร์ () เป็นเครื่องมือในการช่วยดูแลและป้องกันเด็กและเยาวชนจากเว็บร้าย รวมถึงภัยอันตรายต่างๆ จากการใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสม โดยโปรแกรมไอซีที เฮ้าส์คีปเปอร์ นี้ จะทำหน้าที่ช่วยผู้ปกครองในการกำหนดระยะเวลา และช่วงเวลาการใช้งานอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ให้กับเยาวชน นอกจากนั้นผู้ปกครองยังสามารถกำหนดเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมเพิ่มเติมลงในโปรแกรมได้ด้วยตนเอง เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจาก เว็บร้ายเหล่านั้น ขณะที่ระบบอัตโนมัติของโปรแกรมก็จะปรับปรุงฐานข้อมูลรายชื่อเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมเองอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน พร้อมกันนี้ก็ยังมีระบบบันทึกการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ผู้ปกครองสามารถติดตามข้อมูลการใช้งานของเยาวชได้ ผู้ปกครองที่สนใจ จะใช้โปรแกรมไอซีที เฮ้าส์คีปเปอร์ เพื่อดูแลและเฝ้าระวังภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ตให้กับเด็กและเยาวชนในปกครอง สามารถ ดาวน์โหลดโปรแกรมด้วยตนเองที่เว็บไซต์ www.mict.go.th หรือ www.icthousekeeper.com ซึ่งจะมีรายละเอียดวิธีการใช้ต่างๆ เพื่อป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม

สำหรับการพัฒนาโปรแกรมไอซีที เฮ้าส์คีปเปอร์ นั้น กระทรวงฯ ดำเนินการภายใต้ “โครงการจัดการดูแลและเฝ้าระวังภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสม” โดยได้ดำเนินการปรับปรุงโปรแกรมใหม่ให้สามารถรองรับ Windows7 และได้ผลิตแผ่นโปรแกรมเผยแพร่ จำนวน 10,000 แผ่น รวมทั้งจัดทำและปรับปรุงเว็บไซต์ icthousekeeper ให้ทันสมัย เพื่อให้ประชาชนสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมเวอร์ชั่นล่าลุดได้ พร้อมกันนี้ยังได้มีการจัดสัมมนาเพื่อประชาสัมพันธ์โปรแกรม และเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในการประยุกต์ใช้โปรแกรมป้องกันเว็บที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งการควบคุมระยะเวลาและช่วงเวลาการเล่นคอมพิวเตอร์หรือการใช้อินเทอร์เน็ตสำหรับประชาชนและสถานศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้ความรู้และตอบข้อซักถามต่างๆ ให้กับนักเรียน ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง ประชาชนหรือผู้สนใจทั่วประเทศ ซึ่ง ได้ดำเนินการไปแล้ว 10 ครั้งในจังหวัดต่างๆ อาทิ กรุงเทพมหานคร นครสวรรค์ พิษณุโลก ชลบุรี ระยอง ลำปาง เป็นต้น

นอกจากนั้น กระทรวงฯ อยากขอความร่วมมือผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลานในช่วงวันหยุดสงกรานต์ เพื่อให้รอดพ้น จากการเผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสมทางอินเทอร์เน็ต โดยการควบคุมดูแลไม่ให้มีการถ่ายคลิปวีดิโอต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากช่วงสงกรานต์ในปีที่ผ่านมาได้มีการอัพโหลดคลิปที่ไม่เหมาะสมต่างๆ เข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หรืออาจมีความผิดตามกฎหมายฉบับอื่นๆ ได้ และขอให้มีการเล่นสงกรานต์อย่างเหมาะสมรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมไทยอันดีงามเพื่อให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

View :1348
Categories: Press/Release Tags:

ลูกค้าเอไอเอส ใช้มือถือในแบบคุณรับช่วงสงกรานต์ได้มั่นใจสุดๆ

April 12th, 2012 No comments

นางวิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวถึง การดูแลเครือข่ายและบริการในช่วงวันหยุดนี้ว่า “เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่คนไทยจะได้ท่องเที่ยว กลับไปเยี่ยมเยียนครอบครัว และร่วมอวยพรผู้ใหญ่เนื่องในโอกาสปีใหม่ของไทย ดังนั้นนอกเหนือจากมอบสิทธิพิเศษที่จัดให้อย่างต่อเนื่องแล้ว การเป็นช่องทางสื่อสารให้ร่วมแบ่งปันความสุข อวยพรปีใหม่ได้ ทั้งผ่านการสนทนาทางมือถือ หรือ การส่งภาพ หรือ ข้อความที่บ่งบอกความสุขในแบบคุณ จึงเป็นหน้าที่ซึ่งชาวเอไอเอสทุกคนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง”

ดังนั้นเราจึงมีการเตรียมการเพื่อรองรับเทศกาลดังกล่าว ดังนี้
- จัดรถสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านดาวเทียม ซึ่งจะประจำอยู่ ณ สถานีขนส่งหมอชิตและสถานีขนส่งสายใต้ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ เพื่อร่วมส่งและต้อนรับ นักท่องเที่ยวในช่วงของการเดินทาง ทั้งไปและกลับ
- วิศวกรทุกภาคทั่วประเทศ ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที กรณีหากเกิดปัญหาเครือข่าย โดยเน้นหนักการเพิ่มความสามารถทั้ง Voice และ Data เพื่อรองรับการใช้งานในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆของทุกภาคทั่วประเทศ
- พนักงาน Call Center ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสนับสนุนลูกค้าตลอดเส้นทางท่องเที่ยว
- เตรียมความพร้อมกรณีหากเกิดเหตุภัยพิบัติ อาทิ ระบบ Back up ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์เครือข่ายสำรอง , รถโมบายล์ , อุปกรณ์เครื่องปั่นไฟพร้อมน้ำมัน รวมถึงการ ประสานกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถส่ง SMS แจ้งเตือนภัยให้กับลูกค้าเอไอเอสในพื้นที่เสี่ยงได้อย่างทันท่วงที ทั้งหมดนี้เพื่อให้คุณสนุกสนานกับเทศกาลสงกรานต์ในแบบของคุณได้อย่างไร้ข้อจำกัดตลอดช่วงวันหยุดนี้

View :1272
Categories: Press/Release Tags:

การเตรียมความพร้อมของทรูมูฟในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน

April 12th, 2012 No comments

1. ทรูมูฟได้จัดเตรียมรถสถานีเครือข่ายเคลื่อนที่ เพื่อเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุได้ภายใน 1-3 ชั่วโมง และกรณีเกิดเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้น จะนำรถสถานีเครือข่ายเคลื่อนที่จากภูมิภาคต่างๆ เข้าเสริมเพิ่มทันที เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อกับพื้นที่รอบนอกได้

2. ขณะนี้ทีมวิศวกรเข้าประจำพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าติดตามเหตุตลอด 24 ชั่วโมง และได้เตรียมสถานีเครือข่ายสำรองเพื่อเตรียมพร้อมสลับเส้นทางการเชื่อมโยง (หรือreroute) ทันทีที่มีสถานีเครือข่ายเกิดเหตุฉุกเฉิน

3. ทรูมูฟได้จัดเตรียมรถเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนทีไว้ ณ สถานีฐาน เพื่อใช้ในกรณีเกิดไฟฟ้าดับ

4. ส่ง SMS แจ้งเตือนภัยให้ลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ดังกล่าวรับทราบตลอดเวลา ทั้งเราได้แจ้งให้ลูกค้าต่างประเทศที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้รับทราบการเตือนภัยสึนามิ อีกทั้งยังได้แจ้งให้ลูกค้าชาวไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ รับทราบแล้วด้วย

View :1652

AIS เตรียมความพร้อม หากเกิดเหตุแผ่นดินไหวในภาคใต้

April 11th, 2012 No comments

นางวิไล เคียงประดู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า “ตามที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่หมู่เกาะสุมาตรา จนทำให้รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนในหลายจังหวัดของภาคใต้ในประเทศไทย อันทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก และใช้โทรศัพท์มือถือโทรหาติดต่อหากันในเวลาเดียวเป็นจำนวนมากนั้น เอไอเอสในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เราได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้การติดต่อสื่อสารสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ในกรณีเกิดภัยพิบัติ ดังนี้

เตรียมความพร้อมของระบบ Back up ทั้งหมด อาทิ ส่งทีมวิศวกรลงไปประจำและเฝ้าระวังที่สถานีฐาน, Stand by รถโมบาย และอุปกรณ์เครื่องปั่นไฟ, น้ำมัน ทั้งนี้หากกระแสไฟฟ้าดับ ระบบก็จะยังสามารถให้บริการอยู่ได้อย่างต่ำ 10 ชั่วโมง
เตรียมอพยพพนักงานและทีมงานอยู่ในที่ปลอดภัย

เตรียมความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์อพยพ ช่วยเหลือประชาชน
ส่ง SMS แจ้งเตือนภัยให้กับลูกค้าเอไอเอสในพื้นที่เสี่ยงเกิดเหตุ ในจ.สตูล, ภูเก็ต, ตรัง, กระบี่, พังงา, ระนอง
อย่างไรก็ตามขณะนี้เครือข่ายยังสามารถรองรับการติดต่อสื่อสารได้ แต่เริ่มหนาแน่น เพราะมีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ดังนั้นเอไอเอสจึงใคร่ขอแนะนำให้ประชาชนทุกท่านโปรดใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงเวลานี้เท่าที่จำเป็น เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างราบรื่น โดยเอไอเอสได้เตรียมทีมงานคอยเฝ้าระวังและ monitor สถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว

View :1458

เอปสัน บุกตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับเล่นกีฬาเปิดตัวนาฬิกาวัดอัตราการวิ่งระบบจีพีเอสที่เบาที่สุดในโลก

April 11th, 2012 No comments

ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น เปิดฉากรุกตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการเล่นกีฬา ประเดิมสินค้าตัวแรก ด้วยนาฬิกาวัดอัตราการวิ่ง น้ำหนักเบาสุดในโลก ที่ให้ข้อมูลด้านระยะทาง ความเร็ว และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับนักวิ่ง

ระบบจีพีเอส น้ำหนักเบาสุดในโลก จากเอปสัน


ปัจจุบัน อุปกรณ์สำหรับกีฬาวิ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามจำนวนนักวิ่งทางไกลและรายการแข่งขันที่มีเพิ่มขึ้นในญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา และกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก และเพื่อรองรับความต้องการที่กำลังเติบโตขึ้นนี้ เอปสันได้พัฒนานาฬิกาวัดอัตราการวิ่งระบบจีพีเอส ที่สวมใส่สบาย กินพลังงานน้อย แสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวกับการวิ่งได้อย่างแม่นยำ กันน้ำลึก และเหมาะกับการวิ่งจ๊อกกิ้งสุดสัปดาห์ หรือใช้ลงแข่งขันอย่างจริงจัง

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นาฬิกาวัดอัตราการวิ่งนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะทาง ความเร็ว และอัตราเร่ง ของการวิ่งบนทุกพื้นผิว ด้วยระบบจีพีเอสที่ติดตั้งอยู่ภายในตัวเรือน ทั้งยังมีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก ไม่ถึง 50 กรัม และบางเพียง 13 มิลลิเมตร นักวิ่งแทบจะไม่รู้สึกเลยว่าได้สวมใส่มันอยู่ ส่วนแบตเตอรี่ยังมีอายุนาน และไม่จำเป็นต้องชาร์จเป็นประจำ เมื่อชาร์จเต็มแล้ว สามารถทำงานติดต่อกันนานถึง 12 ชั่วโมง ซึ่งให้เวลามากเกินพอ แม้แต่การแข่งขันวิ่งระยะไกล อย่างมาราธอน”

นอกจากนี้ นาฬิกาวัดอัตราการวิ่งของเอปสัน ยังสามารถกันน้ำลึก 50 เมตร เมื่อเทียบกับนาฬิกาจีพีเอสทั่วไป ที่กันน้ำได้ลึกสุดไม่ถึง 1 เมตร นานได้เต็มที่เพียง 30 นาที

“ความลับในการผลิตนาฬิกาวัดอัตราการวิ่งระบบจีพีเอส ที่ทั้งเบาและบาง ใช้พลังงานน้อย ในขณะที่สามารถตรวจวัดข้อมูลการวิ่งที่ถูกต้องแม่นยำได้เป็นเวลานานได้นั้น ก็คือประสบการณ์และเทคโนโลยีที่พัฒนามาอย่างยาวนาน ทั้งทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ และกลไกทำงานระบบควอซต์”

“เอปสันกำลังจับตามองตลาดอุปกรณ์เพื่อสุขภาพและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการเล่นกีฬา ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยยึดหลักในการพัฒนาเทคโนโลยี ที่ว่าสินค้าของเอปสันจะต้องช่วยให้ผู้ใช้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ใช้พลังงานน้อย มีขนาดเล็ก สามารถสวมใส่ที่ข้อมือได้ และที่สำคัญต้องเชื่อมต่อผ่านเว็บได้” นายยรรยง กล่าวทิ้งท้าย

View :1719

วีเอ็มแวร์ เผยผลสำรวจ พนักงานในประเทศไทย เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีส่วนบุคคลในการทำงาน

April 11th, 2012 No comments

วีเอ็มแวร์ อิงค์ เผยผลผลการศึกษาเกี่ยวกับแนวทางใหม่ในการทำงาน (New Way of Work Study) ประจำปี 2555 พบว่า 9 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศไทยเลือกใช้อุปกรณ์พกพาส่วนบุคคล (personal portable device) และแอพพลิเคชั่นสำหรับการทำงาน

ผลการสำรวจในครั้งนี้ระบุว่าประเทศไทย (90%) ครองอันดับที่สามจากทั้งหมด 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น ตามหลังเกาหลีใต้ (95 เปอร์เซ็นต์) และจีน (94 เปอร์เซ็นต์)

เมื่อถามว่าพนักงานได้รับบริการสนับสนุนจากแผนกไอทีของบริษัทสำหรับอุปกรณ์พกพาส่วนบุคคลหรือไม่ ผู้ตอบแบบสอบถาม 35 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าตนเองไม่ได้รับบริการสนับสนุนใดๆ ขณะที่ 63 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่าตนเองจะยังคงใช้ซอฟต์แวร์แบบปรับแต่งหรือแอพพลิเคชั่นบนเว็บตามที่ตนเองต้องการสำหรับการทำงาน ไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนหรือคำยินยอมจากแผนกไอทีของบริษัทหรือไม่ก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวนับเป็นตัวเลขสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่มีการสำรวจ

วีเอ็มแวร์ ผู้นำด้านเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ บริษัทต่างๆ จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการจัดหาแอพพลิเคชั่นและบริการให้แก่พนักงาน และปรับใช้โซลูชั่นคลาวด์ คอมพิวติ้งที่เหมาะสม เพื่อเชื่อมโยงอุปกรณ์ที่หลากหลายที่ผู้ใช้เลือกใช้ในการทำงาน”

View :1310

อยากเป็นเถ้าแก่ใหม่ด้านไอที และอิเล็กฯห้ามพลาดเรียนจบแล้วเปิดร้านได้ทันที ในโครงการ NEC

April 11th, 2012 No comments

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับ โรงเรียนแสงทองเทคโนโลยี จัดอบรมความรู้ สาขาอิเล็กทรอนิกส์และไอที ในโครงการ “เสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่” (New Entrepreneurs Creation : NEC) จำนวน 2 หลักสูตร ประกอบด้วย 1.อบรมคอมพิวเตอร์และมือถือ 2. อบรมช่างติดตั้งจานดาวเทียม และกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นอาชีพที่ตลาดกำลังต้องการมากที่สุด สามารถสร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้ ในปัจจุบัน และอนาคต ได้เป็นอย่างดี

สำหรับสิ่งที่ผู้เรียนได้รับ คือ ทักษะการซ่อมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ และได้รับความรู้ต่อยอดด้านการบริหารจัดการร้าน เรียนจบแล้ว สามารถเป็นช่างมืออาชีพ และเป็นผู้ประกอบการใหม่ได้ทันที หรือนำความรู้ไปต่อยอดกิจการเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมถึงได้รับโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของภาครัฐได้ด้วย

สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัคร เป็นผู้ที่ต้องการมีธุรกิจส่วนตัว หรือทายาทธุรกิจที่ต้องการพัฒนาศักยภาพ จบการศึกษาระดับ ปวช. ขึ้นไป หรือเทียบเท่า และอายุไม่เกิน 60 ปี สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 เมษายน รับจำนวนจำกัด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02 304 2099 ต่อ 1207 และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.sttv.ac.th

View :1427

Honeywell เฟ้นหานักศึกษาทั่วเอเชีย แปซิฟิคเข้าร่วมการแข่งขันประจำปีบนเวที HUG 2012

April 10th, 2012 No comments

สนับสนุนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตของนักศึกษาจากทุกสถาบันการทั่วโลก

(NYSE:HON)เปิดรับสมัครนักศึกษาทั่วเอเชีย แปซิฟิคเข้าร่วมการแข่งขันประจำปีบนเวที HUG 2012 ซึ่งจะมีนักศึกษาทั้งจากเกาหลี อินเดีย ญี่ปุ่น จีน ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์หวังสนับสนุนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตของนักศึกษาจากทุกสถาบันการทั่วโลก

Honeywell คือ การแข่งขันประจำปีระดับนักศึกษาของกลุ่มผู้ใช้ Honeywell (Honeywell Users’ Group (HUG) Student Competition) ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค โดยเริ่มมีการแข่งขันครั้งแรกปี 2008 ในประเทศทางยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) ต่อมาปี 2010 สหรัฐอเมริกาได้ส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและกระบวนการผลิต จากสถาบันการศึกษาทั่วโลก และในปี 2012 นักศึกษาในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิคถูกท้าทายให้ใช้ Honeywell UniSim® Design Suite ซึ่งเป็นโซลูชั่นแบบจำลองกระบวนการการออกแบบที่สามารถแก้ปัญหาวิกฤติทางธุรกิจของโรงงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพในด้านการผลิต สร้างความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย และใช้งานง่าย ทั้งนี้ด้านสภาพแวดล้อมเป็นอีกส่วนที่สำคัญของโจทย์ในการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อการแข่งขันครั้งนี้

ส่วนการตัดสินจะมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้คัดเลือกทีมผู้ชนะ พร้อมกันนี้ผู้ชนะการแข่งขันกับผู้ฝึกสอนจะได้เข้าร่วมการประชุม HUG conference ซึ่งจะจัดขึ้น ณ เซิฟเฟอร์ส พาราไดซ์ โกล์ดโคสต์ ประเทศออสเตรเลีย ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2555 ทั้งนี้ทีมนักศึกษาผู้ชนะจะได้เข้าร่วมนำเสนอผลงานบนเวที HUG 2012 ระดับภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค

Honeywell เปิดรับสมัครนักศึกษาที่กำลังศึกษาในภาควิชาวิศวกรรม ระดับวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลี อินเดีย ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถส่งผลงานเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งนี้ผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับรางวัลชมเชย 5 รางวัล โดยทีมที่ชนะและผู้ฝึกสอนจะได้เข้าร่วมการอบรม UniSim Design ระดับแอดวานซ์ได้หนึ่งคอร์สจากสองคอร์ส

กติกาการสมัครเข้าร่วมแข่งขันโครงการฯ โดยให้นักศึกษาเขียนโครงงานไม่เกิน 300 คำและจัดทำพรีเซนเตชั่นด้วยโปรแกรม PowerPoint ซึ่งจะต้องเขียนรายละเอียดตั้งแต่วัตถุประสงค์ ขั้นตอนการทดลอง เป้าหมายโครงการ ประโยชน์ที่คาดหวัง และการประเมินโครงการ พร้อมอธิบายเหตุผลว่าทำไมจึงทำเช่นนี้ วิธีการส่งผลงานให้ส่งทางออไลน์เท่านั้น เปิดรับผลงานตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2012 ข้อมูลเพิ่มเติมในการสมัครเข้าไปที่ www.honeywellusersgroup.com ส่วนผลงานจากผู้ชนะปีที่ผ่านมาสามารถเข้าไปที่ www.facebook.com/HoneywellStudentEngineers

ราจีฟ กาลิลพัวร์, นักศึกษา สาขาวิศวกรรมเคมีและชีวโมเลกุล มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ซึ่งเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน HUG 2011 ระดับแปซิฟิค “สำหรับผลงงานของเขานั้นสร้างความประทับใจให้กับผู้ตัดสิน โดยการเขียนโครงงานแบบการจำลองของการเพิ่มประสิทธิภาพในการจับภาพคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งทำให้เขาได้รับความชื่นชมและยอมรับในไอเดียจากภาคอุตสาหกรรม”
นักศึกษาจากทั่วโลกได้นำเสนอผลงานอันโดดเด่น อาทิ นักศึกษาผู้ชนะการแข่งขัน HUG 2011 ไมรอสลาว์เปจิก กับ ฮาร์ส เจน จากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ผลงานที่ชนะครั้งนี้ได้ออกแบบระบบควบคุมการกระจายของกริด และการควบคุมแบบไร้สาย นอกจากนี้ยังมี เพดร์ เอเมอร์ และ Nahir Torres ผู้ชนะจากกมหาวิทยาลัย Universidad de Oriente เวนเนซูเอลา ในหมวด UniSim ที่ร่วมสร้างแบบจำลองกระบวนการของแรงดันสูงหม้อไอน้ำ

ส่วนการประชุม EMEA users conference, ผู้ชนะได้แก่ Igor Krylov, จากสถาบัน Moscow Institute of Physics, และโครงงานของเขาซึ่งกำหนดความมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยของกระบวนการใช้แอมโมเนีย ซึ่งมีผลทำให้มีการรวมระบบเทคโนโลยีเตือนภัยใหม่นี้ในโรงงานที่มีการผลิตแอมโมเนียจริง

“การแข่งขัน HUG ระดับนักศึกษาช่วยเปิดโอกาสในการส่งเสริมอุตสาหกรรมให้กับนักศึกษาที่มีศักยภาพและความสามารถเพื่อเสนอไอเดียในการพัฒนาเทคโนโลยีให้กับภาคอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งสิ่งสำคัญในการนำนักศึกษาให้เข้าสู่กระบวนการคิด การพัฒนาและดึงศักยภาพ ความสามารถ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ ช่วยสร้างความมั่นใจจนนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและกระบวนการคิดใหม่ๆ ให้กับภาคอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันสูง”

View :1833
Categories: Press/Release Tags:

dtac 3G ขยายบริการโมบายอินเทอร์เน็ตในรถลีมูซีน

April 10th, 2012 No comments

ดีแทคได้รับคัดเลือกจากโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน ให้เป็นผู้ติดตั้ง อุปกรณ์กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายในรถลีมูซีนของโรงแรมเพื่อให้บริการตอบสนองความต้องการในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้กับลูกค้าคนสำคัญในระหว่างเดินทาง ให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปได้อย่างราบรื่น บนเครือข่าย ที่ดีกว่าและเร็วกว่า ทำให้มั่นใจได้ว่าการเชื่อมต่อจะไม่มีขาดตอน ตลอดการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิและสถานที่อื่น ๆ จนถึงโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน

เพ็ตเตอร์ เพ็ดเดอร์เซน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ และลูกค้าองค์กร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และแซมมี่ คาโรลุส ผู้จัดการใหญ่ โรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน ร่วมกันแนะนำบริการโมบายอินเทอร์เน็ต ในรถลีมูซีนของโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน


ความร่วมมือของผู้ให้บริการจากทั้ง 2 อุตสาหกรรมกันในครั้งนี้ช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของทั้งสองฝ่ายโดยทำให้โรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน เป็นโรงแรมแรกในหัวหินที่ริเริ่มให้ และช่วยให้ดีแทคขยายการบริการออกไปมากยิ่งขึ้นในช่วงที่กำลังขยายบริการ dtac 3G ให้ครอบคลุมทุกอำเภอทั่วทั้งประเทศ

สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือธุรกิจโรงแรม dtac goood business มีโซลูชั่นเทคโนโลยีไร้สายครบวงจรที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจแต่ละประเภทอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ และ dtac goood business ยังมีทีมบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพที่พร้อมจะตอบข้อสงสัย เยี่ยมเยียน และให้คำปรึกษาลูกค้าโดยตรงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกอย่างง่าย สบายใจ และเสมือนเป็นเพื่อนแท้ที่ดูแลธุรกิจของกลุ่มลูกค้าองค์กรอย่างแท้จริงอีกด้วย

View :1560