Archive

Archive for May, 2012

รมว.ไอซีที แถลงข่าว “กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับที่ 3 เพื่อเตรียมพร้อมอนุวัติการอนุสัญญา e-Contracts และรองรับ AEC 2015”

May 1st, 2012 No comments

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธาน แถลงข่าว “กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับที่ 3 เพื่อเตรียมพร้อมอนุวัติการอนุสัญญา e – Contracts และรองรับ AEC 2015” ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 8 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ สำหรับการรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้ มีเป้าหมายให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว รวมทั้งสามารถเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิตระหว่างประเทศในประชาคมได้อย่างเสรี จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานในด้านต่างๆ โดยเฉพาะทางกฎหมายที่ส่งผลถึงการกำหนดสิทธิหน้าที่และความผูกพัน ระหว่างบุคคล ตลอดจนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตามกรอบของ AEC Blueprint ก็ได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกเร่งปรับปรุงหรือจัดให้มีกฎหมายภายในให้สอดคล้องและเอื้อต่อการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ประชาชนผู้ใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น

View :1560
Categories: Press/Release Tags:

เจ.ไอ.บี. คอมพิวเตอร์ กรุ๊ปฉลองครบ 120 สาขาจัดมหกรรม “J.I.B.Maga Sale 2012” คืนกำไรให้ลูกค้า

May 1st, 2012 No comments

เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป ฉกโอกาสวันแรงงาน 1 พฤษภาคม ฉลองเปิดสาขาครบ 120 สาขาทั่วประเทศ เปิดมหกรรม “ “J.I.B.Maga Sale 2012” ลดราคาสินค้าไอทีครั้งยิ่งใหญ่คืนกำไรให้ลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ ที่พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ พร้อมเชิญ “อั้ม” พัชราภา ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังร่วมเปิดงาน แจกรางวัลลูกค้าผู้โชคดี “สมยศ เชาวลิต” กรรมการผู้จัดการ เผยงานนี้จัดต่อเนื่องถึง 10 วัน ตั้งแต่ 1-10 พฤษภาคม 2555 มั่นใจลูกค้าตอบรับคับคั่ง กวาดรายได้ทะลุ 30 ล้านบาทตามเป้าได้สำเร็จ

นายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านค้าปลีกสินค้าไอทีครบวงจรภายใต้ชื่อ เจ.ไอ.บี. (J.I.B.) กล่าวว่าในโอกาสที่บริษัทขยายสาขาร้าน J.I.B. ครบ 120 สาขาทั่วประเทศ จึงได้จัดงานมหกรรมลดราคาสินค้าไอทีครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ “J.I.B.Maga Sale 2012” ขึ้นเพื่อคืนกำไรให้กับลูกค้าที่ได้ให้การสนับสนุนบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถขยายสาขาได้ครบ 120 สาขาในปัจจุบัน โดยภายในงานนอกจากจะจัดจำหน่ายสินค้าในราคาลดพิเศษกว่า 30% แล้ว ยังเปิดให้มีการประมูลสินค้าในราคาประมูลเริ่มต้นเพียง 1 บาท และผู้ที่ซื้อสินค้าครบตามที่กำหนดยังมีสิทธิ์รับคูปองลุ้นโชคแลกซื้อสินค้าลดราคาสูงสุดถึง 50% ด้วย พร้อมกับมีของสมนาคุณอีกมากมาย โดยงานนี้ถือเป็นมหกรรมลดราคาสินค้าที่ใหญ่ที่สุดใน ไตรมาสที่ 2 ของปี ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าแฟนสินค้าไอทีทุกคน

“งานนี้ถือเป็นงานใหญ่ของไตรมาสที่ 2 หลังจากที่ในไตรมาสแรกมีงานคอมมาร์ทไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า เจ.ไอ.บี.ในโอกาสเปิดสาขาครบ 120 สาขา เพราะเราไม่ได้ลดราคาสินค้าแต่เพียงอย่างเดียว แต่ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ ทั้งมินิคอนเสิร์ต และการแสดงโชว์ต่างๆ ต่อเนื่องตลอด 10 วันของการจัดงาน และที่พิเศษในวันเปิดงานวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 ยังได้เชิญคุณพัชราภา ไชยเชื้อ ดาราชื่อดังมาเป็นแขกพิเศษร่วมเปิดงานและร่วมกิจกรรมแจกรางวัลพร้อมถ่ายรูปกับลูกค้าผู้โชคดีด้วย ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าของ เจ.ไอ.บี.ได้ใกล้ชิดดาราที่เขาชื่นชอบด้วย” นายสมยศ กล่าว

สำหรับมหกรรมลดราคาสินค้าไอที “J.I.B.Maga Sale 2012” ครั้งนี้ เขามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งในปีนี้บริษัท คาดว่าจะมีรายได้จากการจัดจำหน่ายสินค้าในงานไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนให้รายได้รวมของบริษัททั้งปีเติบโตในอัตรา30% จากปีก่อนที่ทำได้ 5,400 ล้านบาทได้สำเร็จ และบริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป ยังมีเป้าหมายจะขยายสาขาให้ครบ 150 สาขาในปีนี้ด้วย

View :1399
Categories: Press/Release Tags:

ก.ไอซีที จับมือองค์การ APSCO พัฒนาความร่วมมือและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอวกาศ

May 1st, 2012 No comments

นายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมระหว่างประเทศเรื่อง “การประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของประเทศภาคีสมาชิกภายใต้อนุสัญญา APSCO เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการ Research on Atmospheric Effects” ว่า ในการประชุมคณะมนตรีขององค์การ APSCO ครั้งที่ 2 เมื่อเดือนธันวาคม 2552 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีมติให้ประเทศไทยเป็นแกนนำเพื่อศึกษาความเป็นไปได้โครงการ Research on Atmospheric Effects เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีศักยภาพ

ดังนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะหน่วยงานประสานงานกิจกรรมภายใต้องค์การความร่วมมือด้านอวกาศแห่งเอเชียแปซิฟิก หรือ Asia Pacific Space Cooperation Organization (APSCO) ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีในด้านกิจการอวกาศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงได้ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการ APSCO เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของประเทศภาคีสมาชิกภายใต้อนุสัญญา APSCO เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการ Research on Atmospheric Effects on Ka Band Rain Attenuation Modelling ; and Ionospheric Modelling through Study of Radio Wave Propagation and Solar Activity.

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 -3 พฤษภาคม 2555 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการฯ ด้านต่างๆ อาทิ วัตถุประสงค์และขอบเขตการดำเนินโครงการ การออกแบบและแนวทางการดำเนินโครงการ ต้นทุนการดำเนินโครงการ การมีส่วนร่วมของประเทศสมาชิกและการแบ่งปันผลประโยชน์ เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศในด้านต่างๆ ตลอดจนสามารถพัฒนาองค์ความรู้เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีในอนาคตได้
สำหรับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของประเทศภาคีสมาชิกภายใต้อนุสัญญา APSCO ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้มาจาก 9 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐตุรกี สาธารณรัฐประชาชนบังคลาเทศ ประเทศมองโกเลีย สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐเปรู และประเทศไทย โดยผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายไทย ประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)

“การประชุมฯ ในครั้งนี้จะทำให้ประเทศไทยได้รับโอกาสในการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีอวกาศ เป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเป็นการแสดงความสามารถ รวมถึงผลงานของนักวิทยาศาสตร์ไทย ตลอดจนเป็นการจัดสรรการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรร่วมกันในภูมิภาคให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาความร่วมมือและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอวกาศ รวมทั้งเกิดการประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาเทคโนโลยีและการใช้ประโยชน์จากอวกาศกับประเทศต่างๆ จากศักยภาพที่มีอยู่ร่วมกัน ภายใต้กรอบความร่วมมือและความตกลงระหว่างประเทศ อันเป็นการส่งเสริมบทบาทในเวทีโลกของประเทศไทยในฐานะสมาชิกขององค์การ APSCO ให้มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น และเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจการอวกาศให้กับบุคลากรด้านอวกาศของประเทศอีกด้วย” นายวรพัฒน์ กล่าว

View :1485

ทรูมูฟ เอช เปิดตัว H TV สัมผัสประสบการณ์การดูทีวีบนมือถือรูปแบบใหม่

May 1st, 2012 No comments

รับชมคอนเทนต์ระดับโลกจากทรูวิชั่นส์ และช่องอื่น ๆ กว่า 90 ช่อง ผ่าน 3G + บนเครือข่ายคุณภาพ ให้ภาพคมชัดระดับเอชดี ได้ทุกที่ ทุกเวลา

พิเศษ! ลูกค้าทรูมูฟ เอช ดาวน์โหลดวันนี้รับสิทธิยกเว้นค่าบริการรายเดือน นาน 12 เดือน

โดย นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บริษัท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา (ขวา)กรรมการผู้จัดการ บมจ. ทรูวิชั่นส์ ร่วมเปิดตัว “” เพื่อยกระดับประสบการณ์การดูทีวีบนมือถือรูปแบบใหม่ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทรูมูฟเอช มอบประสบการณ์ความบันเทิงที่แตกต่างกว่าที่เคย หรือที่เรียกว่า H-perience ซึ่ง จะเพิ่มอิสระการรับชมรายการโปรดได้ทุกที่ทุกเวลา ชูจุดเด่น คอนเทนต์ระดับโลก จากทรูวิชั่นส์และช่องอื่นๆ กว่า 90 ช่อง พร้อมภาพคมชัดระดับไฮเดฟฟินิชั่น* ผ่านทรูมูฟ เอช 3G+บนเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมครบ 77 จังหวัด 843 อำเภอ 5,158 ตำบล และจะครบ 928 อำเภอ 7,235 ตำบล 71,567 หมู่บ้าน ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงบริการ WiFi ความเร็วสูงสุด 100 Mbps** ครอบคลุม 100,000 จุด ในไทยกลางปีนี้ และมากกว่า 200,000 จุด ในต่างประเทศ

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช เท่านั้น! ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น H TV ฟรี ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนนี้ รับสิทธิยกเว้นค่าบริการรายเดือน นาน 12 เดือน ตั้งแต่วันลงทะเบียนครั้งแรก จากราคาปกติ 399 บาทต่อเดือน ไม่รวมค่าบริการดาต้า สำหรับสมาชิกทรูวิชั่นส์ รับชมรายการตามแพ็คเกจสมาชิก

* สำหรับลูกค้าทรูวิชั่นส์ที่สมัครแพ็คเกจ เอชดี

** ความเร็วในการใช้บริการ 3G+ และ WiFi ขึ้นอยู่กับปริมาณผู้ใช้งาน ณ จุดที่ใช้งานและอุปกรณ์ที่รองรับ

View :1775

กทม.จับมือทรูเปิดบริการ Bangkok WiFi ฟรี เพื่อสนองไลฟ์สไตล์คนเมือง

May 1st, 2012 No comments

กทม.ร่วมกับ บริษัท อินเทอร์เน็ต จำกัด เปิดตัวบริการฟรีอินเตอร์เน็ตไร้สาย ภายใต้โครงการ ใน 2 รูปแบบ เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตในสังคมเมืองผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สาย ด้วย HotSpot กว่า 20,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามในบันทึกข้อตกลงการให้บริการประชาชนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สาย (Bangkok Wi-Fi) ร่วมกับนายเจริญ ลิ่มกังวาฬมงคล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ ทรูออนไลน์ บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า)

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเล็งเห็นความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารในสังคมปัจจุบัน ซึ่งทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทุกที่ ทุกเวลา และการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงข้อมูลและรับรู้ข่าวสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองต่อการใช้ชีวิตประจำวันของชาวเมือง กรุงเทพมหานครจึงจัดทำโครงการ “Bangkok Wi-Fi” เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร รวมถึงสร้างโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างกว้างขวาง ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด ซึ่งมีศักยภาพความพร้อมในการให้บริการ และสมัครใจที่จะสร้างสรรค์ประโยชน์แก่สังคมของกรุงเทพฯ จึงขอขอบคุณบริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต จำกัด ที่ให้ความร่วมมือในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวกรุงเทพฯ ด้วยดีเสมอมา

ด้าน นายเจริญ ลิ่มกังวาฬมงคล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ ทรูออนไลน์ บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่กลุ่มทรู โดย บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด ได้บรรลุข้อตกลงกับ กรุงเทพมหานคร สานต่อการให้บริการประชาชนชาวกรุงเทพด้วยอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง ตามโครงการ Bangkok WiFi โดยกลุ่มทรูในฐานะผู้นำบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง ที่มีความโดดเด่นเรื่องโครงข่าย WiFi คุณภาพที่ใหญ่ที่สุด และจำนวนฮอตสปอตคุณภาพครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดในกรุงเทพมหานคร พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกด้านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) จำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ โดยทรูอินเทอร์เน็ตจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าติดตั้ง ค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ และค่าดำเนินการให้บริการ WiFi ตลอดจนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การจัดทำป้ายแสดงจุดให้บริการ ซึ่งโครงการ Bangkok WiFi ครั้งนี้ ได้ปรับความเร็วให้สูงขึ้น เพื่อให้ชาวกรุงเทพมหานครสามารถเลือกใช้บริการ WiFi เพื่อชีวิตอิสระของชาวกรุงเทพฯ ใน 2 รูปแบบ คือ ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 2 Mbps./512 Kbps. ฟรี 5 ชั่วโมงต่อเดือน หรือความเร็ว 256 kbps./128 Kbps. โดยไม่จำกัดชั่วโมงการใช้งาน ตามแต่ลักษณะและไลฟ์สไตล์การใช้งาน ทั้งนี้ กลุ่มทรูจะสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้ถึง 150,000 คน โดยทุก 6 เดือนผู้ใช้งานจะต้องลงทะเบียนใช้งานใหม่ ซึ่งมั่นใจว่าจะตอบโจทย์ความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สายที่มีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งรองรับความแพร่หลายในการใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อเน็ตไร้สายทั้งสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แทบเบล็ตและโน้ตบุ้ค ตามไลฟ์สไตล์ของคนกรุงเทพฯยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี ชาวกรุงเทพฯและนักท่องเที่ยวที่สนใจใช้บริการ Bangkok Wi-Fi ฟรี สามารถลงทะเบียนรับรหัสผ่าน ได้ง่ายๆ บนหน้า Log-in เมื่อเลือกโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง @TRUEWIFI จากอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือโน้ตบุ้คของตนเอง

View :1753

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นำผู้แทนองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก WMO เข้าพบรัฐมนตรีไอซีทีหารือการจัดการน้ำท่วมเชิงบูรณาการอย่างยั่งยืนในประเทศไทย

May 1st, 2012 No comments


เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 ดร.สมศรี ฮั่นตระกูล อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมด้วยผู้แทนจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ดร.วูล์ฟกัง อีริค แกรบส์ (Dr. Wolfgang Eric Grabs) ผู้อำนวยการระดับสูงด้านการพยากรณ์อุทกวิทยาและทรัพยากรน้ำขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เข้าพบเพื่อเยี่ยมคารวะและประชุมหารือกับ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (รมว.ทก.) ณ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมด้วยนาวาอากาศเอก รศ.ดร. ประสงค์ ประณีตพลกรัง ที่ปรึกษา รมว.ทก. และคณะ

สืบเนื่องจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยในปี 2554 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายแก่ชีวิต ทรัพย์สิน พื้นที่การเกษตร ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ เศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยอย่างมหาศาล ซึ่งจากความเสียหายที่เกิดขึ้น องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization : WMO) ในฐานะองค์การชำนัญพิเศษของสหประชาชาติ ซึ่งมีบทบาทในการให้บริการ พัฒนางานวิชาการ รวมทั้ง หามาตรการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ทางด้านสภาพอากาศ ภูมิอากาศ น้ำ และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ความช่วยเหลือประเทศไทย ในการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติ ในการบริหารจัดการน้ำท่วมเชิงบูรณาการ (Integrated Flood Management : IFM) สำหรับประเทศไทย ที่ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 22 มีนาคม 2555 ณ สวนสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยกรมอุตุนิยมวิทยา เป็นผู้ประสานงานกลางของประเทศและเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมีหน่วยงานต่างๆ ของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งหน่วยงานภาคการศึกษา วิจัย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ได้ร่วมส่งผู้แทนระดับตัดสินใจ เข้าร่วมประชุมระดมสมองในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การจัดการน้ำท่วมเชิงบูรณาการระดับชาติในครั้งนี้

สรุปผลที่ได้จากการประชุมดังกล่าว ได้มีการนำเสนอสู่สาธารณชนเพื่อทราบในเบื้องต้นในการ จัดสัมมนาในงานวันอุตุนิยมวิทยาโลก เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 ณ กรมอุตุนิยมวิทยา โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีเป็นประธานเปิดงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนทุกแขนง เป็นอย่างมาก

ในโอกาสที่ ดร.วูล์ฟกัง อีริค แกรบส์ ได้เดินทางมาประเทศไทย ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ อธิบดี กรมอุตุนิยมวิทยา จึงได้มีโอกาสนำผู้แทน WMO และทีมงานของกรมอุตุนิยมวิทยา เข้าเยี่ยมคารวะและประชุมหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และทีมงานที่ปรึกษา รมว.ทก. ณ กระทรวงไอซีที เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 เกี่ยวกับแนวทางในการจัดการน้ำท่วมเชิงบูรณาการ และประสบการณ์ที่ WMO ได้ดำเนินการในประเทศต่างๆ รวมทั้งการผลักดันแผนยุทธศาสตร์การจัดการน้ำท่วม เชิงบูรณาการสำหรับประเทศไทย ผลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการที่ได้จัดขึ้นเพื่อนำไปสู่ภาคปฏิบัติและใช้สนับสนุนการจัดการน้ำท่วมของประเทศไทยต่อไปในอนาคต

การหารือสนทนาได้กล่าวถึงสรุปผลของการประชุมเชิงปฏิบัติการ ซึ่งแบ่งตามประเด็นต่างๆ ได้แก่ การนำแนวคิดมาสนับสนุนแผนแม่บทของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ การมีส่วนร่วมของชุมชน การทำแผนที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม การพยากรณ์และการเตือนภัย การกำหนดหน่วยงานและผู้รับผิดชอบหลักในการพยากรณ์และเตือนภัย โดยมีรายละเอียดดังนี้

การนำแนวคิดและหลักการในการบริหารจัดการน้ำท่วมเชิงบูรณาการมาสนับสนุนแผนแม่บทของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ควรต้องนำข้อเสนอแนะจากการระดมความคิดในการประชุม เชิงปฏิบัติการไปใช้สนับสนุนหรือบูรณาการเข้ากับนโยบายและแผนแม่บทของชาติ

การมีส่วนร่วมของชุมชน ให้มีการจัดฝึกอบรมผู้แทนจากชุมชนเพื่อเป็นผู้ฝึกสอน โดยทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้จากรัฐบาลสู่ชุมชน จัดทำคู่มือการปฏิบัติและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครเพื่อจัดการกับภาวะวิกฤติ เชิญตัวแทนจากชุมชนมารับทราบมาตรการในการจัดการน้ำท่วมและผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีการจ่ายชดเชยแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างหรือการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลด้วย

การทำแผนที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ควรมีการจัดทำแผนที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ วางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน มีการเผยแพร่แผนที่เสี่ยงภัยให้แก่ชุมชน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ทั้งก่อนเกิดและระหว่างเกิดน้ำท่วม

การพยากรณ์และการเตือนภัย ทั้งด้านอุตุนิยมวิทยา อุทกวิทยา ระบบเตือนภัยล่วงหน้า และ การจัดทำโครงข่ายการปฏิบัติงาน โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจะต้องมีการปรับปรุงการพยากรณ์ปริมาณน้ำฝนระยะสั้น (1-3 ชั่วโมง) ในหน่วยมิลลิเมตร จากเรดาร์ตรวจอากาศ จัดทำคำพยากรณ์ฝนสำหรับพื้นที่ในลุ่มน้ำต่างๆ และพัฒนาการพยากรณ์น้ำท่วมฉับพลัน ปรับปรุงและพัฒนาระบบเครือข่ายการตรวจวัดข้อมูลอุทกวิทยา โดยประยุกต์ใช้ระบบการตรวจวัดฝนอัตโนมัติ (โทรมาตร) ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปรับปรุงและพัฒนาข้อมูลพื้นที่หน้าตัดของลำน้ำ (Cross section) และข้อมูลโค้งความสัมพันธ์ระหว่างระดับน้ำและปริมาณน้ำ (Rating curve) ส่วนเรื่องระบบเตือนภัยล่วงหน้า ให้มีการพัฒนาและปรับปรุงโครงข่ายระบบสื่อสารสำหรับเตือนภัย น้ำท่วม จัดทำข่าวคำเตือนภัยที่ง่ายต่อการเข้าใจและจัดทำโครงการเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงภัยธรรมชาติและภาวะวิกฤติ และในการจัดทำโครงข่ายการปฏิบัติงาน ให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการภัยพิบัติมาจัดทำข้อตกลงในการแบ่งปันข้อมูล และกำหนดข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูล โดยมอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องจัดทำ web portal เพื่อรวบรวมข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา (Meteorological data) จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรฐานเดียวกัน

นอกจากนี้ ที่ประชุมเชิงปฏิบัติการยังมีความเห็นว่าหน่วยงานและผู้รับผิดชอบหลักในการทำหน้าที่พยากรณ์และเตือนภัย กำหนดให้กรมอุตุนิยมวิทยาทำหน้าที่พยากรณ์อากาศและข้อมูลสารสนเทศภูมิอากาศ พยากรณ์น้ำท่วมฉับพลัน กรมชลประทานทำหน้าที่พยากรณ์น้ำล้นตลิ่ง กรมทรัพยากรธรณีทำหน้าที่พยากรณ์โคลนและดินถล่ม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทำหน้าที่พยากรณ์น้ำท่วมชายฝั่ง ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติทำหน้าที่เตือนภัยสึนามิ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทำหน้าที่ในการปฏิบัติการตอบสนองการเตือนภัย (Action on warning) ทั้งนี้ ในการพยากรณ์และการเตือนภัยจะต้องมีการกำหนดปริมาณ การตรวจวัดให้ชัดเจน เช่น ปริมาณฝนเป็นมิลลิเมตร ระดับน้ำ ปริมาณน้ำ ความเร็วลม ความรุนแรง ระยะเวลา และระดับการเตือนภัย นอกจากนี้จะต้องกำหนดพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบและเวลาที่คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการตอบสนอง หลังจากที่ได้มีการแจ้งข่าวพยากรณ์และการเตือนภัยออกไป

ในตอนท้าย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาและผู้แทน WMO ได้เสนอข้อมูลการเสนอแนะจากผล การประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับสิ่งที่ควรดำเนินการต่อไปในอนาคตแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีและ ที่ปรึกษาว่าควรนำผลของการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การจัดการน้ำท่วมเชิงบูรณาการครั้งนี้ ไปสนับสนุนหรือ บูรณาการเข้ากับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ควรมีการกำหนดขอบเขตความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำท่วมตามบทบาทและอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานให้ชัดเจน และควรจัดตั้งหน่วยบัญชาการเพียงหน่วยเดียวในการบริหารจัดการน้ำท่วมภายใต้โครงสร้างที่มีอยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ควรมีการกำหนดช่องทางการสื่อสารให้ชัดเจนอย่างเป็นทางการ เช่น ใครเป็นผู้รับผิดชอบในการให้ข้อมูล กับใคร เมื่อไร และในโอกาสใด ให้การสนับสนุนชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ น้ำท่วมให้มากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการเตรียมพร้อมรับมือ ส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชน (NGOs) และสถาบันการศึกษาในทุกระดับเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำท่วม พัฒนาหลักเกณฑ์การเตือนภัยระดับต่างๆ ให้เป็นมาตรฐาน รวมถึงพัฒนาทางวิชาการ ความเชี่ยวชาญในงาน ตลอดจนการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ เพื่อปรับปรุงการให้บริการของหน่วยงาน รวมถึงมุ่งมั่นพัฒนาความร่วมมือในการดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำท่วมให้ดียิ่งขึ้น

View :2093
Categories: Press/Release Tags: