Archive

Archive for June, 2012

อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ “เรื่องดีต้องบอกต่อ เรื่องท้อต้องปรึกษา”

June 10th, 2012 No comments

บมจ. ประกันชีวิต ตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอล เดินหน้ากลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยการสื่อสารผ่านแคมเปญระดับโลก “One Advice: 1 คำแนะนำดีๆ” ของกลุ่มอลิอันซ์ เยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทฯ โดยมุ่งเน้นสื่อสารกันให้ใกล้ชิดกับคนไทยมากขึ้น ล่าสุด เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ www.1advice.in.th ภายใต้แนวคิด ผ่าน 3 คำนิยามสั้นๆ GET, GIVE, SHARE นับเป็นสังคมออนไลน์แห่งแรกของไทยที่จะรวมคำแนะนำดีๆ และกำลังใจจากคนไทยเพื่อส่งต่อให้คนไทยต่อไป หวังยึดตำแหน่งผู้นำนวัตกรรมการตลาดดิจิตอล และแชมป์แบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้าตลอดไป

นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการตลาดและสื่อสารองค์กร บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต เปิดเผยว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกทำให้องค์กรต่างๆ ประสบปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะด้านความน่าเชื่อถือ องค์กรทั้งหลายเหล่านั้นจึงหันมาให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ และได้เริ่มสร้างความน่าเชื่อถือกันใหม่ และสำหรับ กลุ่มอลิอันซ์ เยอรมนี ผู้ถือหุ้นหลักของ อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ถึงแม้จะยังคงดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง แต่ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะตอกย้ำแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยผลการวิจัยของกลุ่มอลิอันซ์ ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า “การให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน” เป็นสิ่งที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นในใจผู้บริโภคได้

และด้วยประสบการณ์ทางการเงินของกลุ่มอลิอันซ์ที่มีมายาวนาน จึงได้ออกแคมเปญการสื่อสารที่เรียกว่า “One Advice: 1 คำแนะนำดีๆ” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร ด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นให้คำแนะนำ ให้ความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และเรื่องราวเกี่ยวกับบริการดีๆ ที่ลูกค้าได้รับ เพื่อสร้างความรู้สึกผูกพันและสร้างความภักดีในกลุ่มลูกค้าต่อบริษัท รวมถึงเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้สัมผัสถึงเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น ผ่านการบอกเล่าบนหน้าเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นเพื่อแคมเปญนี้โดยเฉพาะ

ล่าสุด อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ได้เปิดตัวเว็บไซต์ www.1advice.in.th เว็บไซต์น้องใหม่มาแรงที่เชิญชวนคนไทยให้เข้ามาร่วมแชร์เรื่องราวและประสบการณ์ต่าง ๆ ภายใต้แนวคิด “เรื่องดีต้องบอกต่อ เรื่องท้อต้องปรึกษา” เพื่อให้เป็นสังคมออนไลน์แห่งแรกที่จะรวบรวมทุกคำแนะนำดี ๆ จากคนไทยทั่วประเทศ ได้เข้ามาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ พร้อมขอคำปรึกษาในปัญหาที่ต้องการคำแนะนำ หรือหากต้องการกำลังใจดี ๆ ก็สามารถมอบให้แก่กันอย่างง่ายๆ ทั้งในรูปแบบของข้อความ รูปภาพ หรือคลิปวิดีโอ เพื่อสร้างแง่คิดมุมมองใหม่ๆ และแรงบันดาลใจที่ดี เพื่อให้เป็นสังคมเชิงบวกผ่าน 3 นิยามสั้น ๆ คือ 1.GET- เตรียมรับสิ่งดีๆ ที่สร้างมุมมองใหม่ๆ เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขใจ เขียนทุกเรื่องที่อยากเขียน เล่าทุกเรื่องที่อยากเล่า พร้อมรับคำแนะนำดีๆ เสริมสร้างกำลังใจการใช้ชีวิต 2.GIVE – หยิบยื่นกำลังใจ ข้อคิดดี ๆ สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ร่วมแบ่งปันคำแนะนำดีๆ ที่ข่วยสร้างแรงกำลังใจ และบันดาลใจให้แก่กัน และ 3.SHARE -เรื่องดี ๆ อย่าเก็บไว้คนเดียว ร่วมแบ่งปันความประทับใจ มอบสิ่งดี ๆ ให้แก่กัน ร่วมแบ่งปันเรื่องราวดีๆ สุดประทับใจ ให้คนอื่นได้รับรู้ เพิ่มสีสันให้ชีวิต

เว็บไซต์นี้นอกจากจะเป็นช่องทางหลักในการสื่อสารแคมเปญของบริษัทฯ และตอกย้ำความเป็นคนรุ่นใหม่ ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านการตลาดของแบรนด์ อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. แล้ว ยังถือเป็นการแบ่งปันสิ่งดีๆ คืนกลับสู่สังคม เป็นการตอบแทนให้กับสังคม และร่วมสร้างสรรค์สังคมแห่งความเอื้ออาทร กระตุ้นให้คนไทยแสดงความปรารถนาดีและแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้แก่กันและกันอีกด้วย

“นอกจากนี้ จากกลยุทธ์การสื่อสารที่เลือกใช้ช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางหลัก เรายังได้สร้าง ‘Mr.1 Advice’ ขึ้นมา เพื่อเป็นพรีเซนเตอร์ เดินสายแนะนำเว็บไซต์ ทั้งในแบบออฟไลน์ คือ การไปปรากฏตัวตามสถานที่ต่างๆ และแบบออนไลน์ คือ เดินสายเข้าเยี่ยมรายการโทรทัศน์แนววาไรตี้ที่กำลังเป็นที่นิยมในโลกออนไลน์ อย่างไรก็ตาม นอกจากสื่อออนไลน์แล้ว บริษัทฯ จะเดินหน้าแคมเปญใหม่นี้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยใช้กลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจร ผ่านช่องทางสื่อสารทุกรูปแบบ ตั้งแต่สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ วิทยุ รวมถึง social network ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในตอนนี้ เพื่อปูพรมให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

“เราหวังว่า แคมเปญการสื่อสาร “One Advice: 1 คำแนะนำดีๆ” นี้ จะสะท้อนความจริงใจ และความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และจะทำให้ อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. คงอยู่ในใจลูกค้าตลอดไป ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ว่า “อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. จะเป็นปัจจัยหลักแห่งความมั่นคงคุ้มครองทุกครอบครัวไทย” และผลักดันให้องค์กรของเราเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นางสาวพัชรา กล่าวทิ้งท้าย

View :1183

แสนสิริ เปิดเว็บไซต์เฉพาะกิจ ส่งต่อ 100 Collectable Items จากทุกมุมโลก ให้แก่นักสะสมผู้มีรสนิยม ผ่านโลกออนไลน์

June 8th, 2012 No comments

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวเว็บไซต์เฉพาะกิจ www.sansiri.com/auction เพื่อส่งต่อ Collectable Items กว่า 100 ชิ้นจากทั่วทุกมุมโลก ให้แก่เหล่านักสะสม ได้ร่วมประมูล พร้อมจัดกิจกรรม “The Auctionista Party” ในวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2555 เวลา 14.00-16.30 น. ณ แสนสิริ เลานจ์ ชั้น 3 สยามพารากอน

ในวันงานจะมีสิ่งของทั้งหมดจำนวน 16 ชิ้น ถูกเลือกมาประมูลในงาน โดยเริ่มต้นที่ราคา 0 บาท อาทิ ร่ม จากดีไซน์เนอร์ชื่อดัง Alexander Mcqueen, ผ้าพันคอ Issey Miyake, โทรทัศน์รุ่นพิเศษจากไบรอ้อนเวก้า (Brionvega Doney TV), ชุดโมเดลรถจากภาพยนตร์แอคชั่นสายลับเจมส์ บอนส์ 007 เป็นต้น และสินค้าไฮไลท์ นั่นก็คือ จักรยาน Hermés ซึ่งหาซื้อไม่ได้ในเมืองไทย โดยรายได้จากการประมูลของ 16 ชิ้นในวันงานทั้งหมดจะนำเข้าสนับสนุน มูลนิธิเสริมกล้า โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ

ส่วนใครที่ไม่สะดวกไปร่วมงานก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะแสนสิริได้เตรียมอีกกว่า 100 ไอเท็มไว้บนหน้าเว็บไซต์ให้เหล่านักสะสมตัวยงได้เลือกสรรกัน ไม่ว่าจะเป็น ซองใส่หนังสือเดินทาง สีดำ ลายหัวกระโหลกสีทอง จากAlexander McQueen, เทียนหอม Mastermind Candle เทียนหอมจากแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายชั้นนำจากญี่ปุ่น ไปจนถึง ชุดStationery ของ Smythson เป็นต้น

โดยเว็บไซต์นี้จะเปิดอย่างเป็นทางการให้ทุกท่านได้ร่วมประมูลกันตั้งแต่วันที่ 9-30 มิ.ย. 2555 โดยวิธีการประมูลนั้นไม่ยาก หากคุณสนใจของชิ้นไหนเพียงแค่คลิกและใส่จำนวนเงินที่ต้องการประมูล หรือในกรณีที่คุณอยากจะซื้อของชิ้นนั้น
เราจะมีราคา Buy now ไว้ให้คุณสามารถซื้อได้ทันที หากใครอยากเป็นเจ้าของสุดยอดไลฟ์สไตล์ไอเท็มที่คัดสรรมาแล้วจากทั่วโลก เตรียมติดตาม www.sansiri.com/auction ได้ตั้งแต่วันที่ 9-30 มิ.ย. 2555 นี้นะคะ

View :1248

ทรู อินเทอร์เน็ต พร้อมก้าวสู่ IPv6 เต็มตัว ประกาศศักยภาพความพร้อมให้บริการลูกค้าองค์กรทุกระดับ

June 6th, 2012 No comments

ทรู อินเทอร์เน็ต ขานรับ World Launch วันที่ 6 เดือน 6 ปี 2012 พร้อมกับทั่วโลก ร่วมเปลี่ยนผ่านการใช้งาน IPv4 เข้าสู่ อย่างเต็มตัว เป็นรายแรกในประเทศไทย จับมือ ซิสโก้ ซีสเต็มส์ เตรียมความพร้อมให้บริการล่วงหน้ากว่า 7 ปี มั่นใจศักยภาพรองรับการปรับเปลี่ยนสมบูรณ์แบบ ตอบสนองการขยายตัวการใช้งานเทคโนโลยีบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในอนาคต พร้อมก้าวสู่ยุค 3G 4G และยุคคลาวด์ คอมพิวติ้ง ซึ่งมีความต้องการหมายเลขไอพีแอดเดรสจำนวนมหาศาล ลงทุนงบพัฒนากว่า 100 ล้านบาท เพื่อให้บริการลูกค้าองค์กรทุกระดับ เปลี่ยนผ่านสู่ระบบใหม่ด้วยความเสถียร และปลอดภัยเต็มประสิทธิภาพสูงสุด

ธนะพล จันทวสุ รองผู้อำนวยการ สายงานโครงข่าย บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด


นายธนะพล จันทวสุ รองผู้อำนวยการ สายงานโครงข่าย บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด เปิดเผยว่า “IPv6 เป็นอีกหนึ่งพัฒนาการที่สำคัญของโลกอินเทอร์เน็ต ที่มีการปรับปรุงโครงสร้างและคุณลักษณะอื่นๆ เพื่อให้รองรับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของโลกอินเทอร์เน็ต โดยทั่วโลกกำลังเปลี่ยนผ่านระบบการใช้งานจาก IPv4 ที่ ไอพี แอดเดรสกำลังจะหมดไป เข้าสู่ IPV6 [Internet Protocol Version 6] ซึ่งมีขนาดความจุกว่า 128 บิต มีศักยภาพในการเพิ่มไอพี แอดเดรส ได้สูงสุดมากกว่าแสนล้านล้านแอดเดรส และที่สำคัญจะช่วยผลักดันการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบ peer-to-peer ที่เคยมีข้อจำกัดภายใต้ IPV 4 ซึ่งจะมีผลต่อการใช้งานทั้งในระดับองค์กร และบุคคล จึงได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลกได้ถือเอาวันที่ 6/6/2012 เป็นวัน World IPV6 Launch คือเริ่มใช้อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ทรู อินเทอร์เน็ต ได้ตระหนักถึงความสำคัญ และเตรียมความพร้อมในด้านการให้บริการมากว่า 7 ปีแล้ว โดยจับมือกับ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์(ประเทศไทย) จำกัด นำ Network Equipment อุปกรณ์โครงข่ายที่อยู่ในระดับท็อปไฮเอนด์ Nexus 7000 เข้ามาใช้ ด้วยงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าให้ความรู้กับลูกค้าในรูปแบบต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 อาทิ งานสัมมนา จัดทีมงานให้คำปรึกษาเรื่อง IPv6 โดยในปีที่ผ่านมาได้เริ่มแจก IPV6 ควบคู่ไปกับการให้บริการ IPV4 เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มองค์กรได้ทดลองใช้งาน พร้อมตั้งทีมงานให้คำปรึกษา และให้ความสะดวกในเรื่องของการติดตั้งใช้งาน

การลงทุนพัฒนาของทรู อินเทอร์เน็ต ทั้งด้านโครงข่ายในการให้บริการอินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงเส้นทางเชื่อมต่อไปยัง Internet Gateway เพื่อรองรับการใช้งาน IPV6 ตลอดจนการแจก IPV6 ควบคู่ไปกับการใช้งาน IPV4 เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มองค์กรได้ทดลองใช้งาน พร้อมส่งทีมงานให้คำปรึกษา ซึ่งนับได้ว่าเป็นผู้เปิดให้บริการใช้งานแบบครบวงจรเป็นรายแรกของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีศักยภาพพร้อมรองรับการขยายตัวของอุปกรณ์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ไร้สายที่ต้องการเลขที่ไอพีแอดเดรสแบบจำเพาะเจาะจง นอกจากนี้ ยังเสริมสร้างประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้าองค์กรในการเปลี่ยนผ่านสู่ IPv6 ได้อย่างเต็มรูปแบบ และมั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้งานในระบบ IPv6 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้ลูกค้าพร้อมในแข่งขันในระดับสากลได้ดียิ่งขึ้น”

นอกจากนี้ บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ ทรูไอดีซี ซึ่งเป็นศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ ที่ ทรู อินเทอร์เน็ต ใช้บริการฝากอุปกรณ์เครือข่ายเพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไว้ ได้เตรียมความพร้อมเข้าสู่ IPv6 แล้วเช่นกัน โดยติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายที่ศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ทั้ง 2 แห่ง คือ ศูนย์ทรูทาวเวอร์ และศูนย์เมืองทองธานี ให้สามารถรองรับการใช้งาน IPv6 โดยลูกค้าสามารถใช้งานทั้ง IPv4 และ IPv6 ได้ควบคู่กัน ก่อนที่ IPv4 จะถูกยกเลิกไปในอนาคต พร้อมกันนี้ ทรูไอดีซี ยังจัดโปรโมชั่นในโอกาสวันทดสอบการใช้งาน IPv6 อย่างเป็นทางการ หรือ World IPv6 Launch แจก IPv6 ให้ใช้บริการฟรี และเปิดให้ลูกค้าเข้าร่วมทดสอบการใช้งาน IPv6 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยลูกค้าที่สนใจใช้งาน IPv6 สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ฝ่ายขาย อีเมล์ sales@trueidc.co.th หรือ สอบถามข้อมูลทางเทคนิคเบื้องต้นได้ที่ network@trueidc.co.th โดยจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำทางเทคนิคในการใช้งาน IPv6

ดร. ธัชพล โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แนวโน้มของการเติบโตด้านการใช้งานแบนด์วิททั่วโลก มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งอุปกรณ์ด้านไอทีและเครื่องมือสื่อสารต่างๆ ก็มีความหลากหลาย ทำให้ไอพีแอดเดรสไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลถึงผู้ให้บริการและใช้งานอินเทอร์เน็ตต้องปรับตัวอย่างมาก โดยในปี 2012 คาดการณ์ว่ามีแนวโน้มการใช้งาน ไอพี แอดเดรส รวมถึงการใช้งานแบบสตรีมมิ่งมากยิ่งขึ้น ทั้งไฟล์ภาพและเสียง รวมไปถึงวิดีโอคลิปต่างๆ ด้วยเหตุนี้ คณะทำงาน IETF (The Internet Engineering Task Force) ตระหนักถึงปัญหาสำคัญดังกล่าว จึงได้พัฒนาอินเทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นใหม่ขึ้น คือ รุ่นที่หก (Internet Protocol version 6) เพื่อทดแทนอินเทอร์เน็ตโพรโตคอลรุ่นเดิม โดยมีวัตถุประสงค์ IPv6 เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของตัวโพรโตคอล ให้รองรับหมายเลขแอดเดรสจำนวนมาก และปรับปรุงคุณลักษณะอื่นๆ อีกหลายประการ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัย รองรับระบบแอพพลิเคชั่น (application) ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล (packet) ให้ดียิ่งขึ้น ทำให้สามารถตอบสนองต่อการขยายตัวและความต้องการใช้งานเทคโนโลยีบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในอนาคตได้เป็นอย่างดี

สำหรับในประเทศไทย ถือได้ว่ามีความพร้อมในการเปลี่ยนผ่านสู่ IPv6 เพราะได้มีการเตรียมการล่วงหน้ามาแล้วเป็นอย่างดี ในส่วนผลิตภัณฑ์ของซิสโก้นั้น มีการรองรับ IPv6 มาตั้งแต่ปี 2000 และได้มีการพัฒนาให้สอดคล้อง เพื่อรองรับมาตรฐานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเทคโนโลยีทางด้านความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น ในส่วนของลูกค้าองค์กร และลูกค้าทั่วไปนั้นที่ไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าอาจประสบปัญหาด้านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การเข้าถึงและการเก็บรักษาความปลอดภัยในข้อมูลต่างๆ ดังนั้น จึงควรเลือกผู้ให้บริการที่มีความพร้อมให้บริการ IPv6 ในส่วนความปลอดภัย ความเสถียรของระบบ และโอกาสเสี่ยงนั้น IPv6 ไม่ได้แตกต่างไปจาก IPv4 ดังนั้นจะต้องมีการพิจารณา ออกแบบให้เหมาะสม เช่นเดียวกับการออกแบบระบบสำหรับ IPv4 อย่างไรก็ดี การออกแบบระบบให้สามารถรองรับไดัทั้ง IPv4 และ IPv6 พร้อมๆกันนั้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจ ตลอดจนธุรกรรมต่างๆ บนโลกออนไลน์เป็นไปอย่างสะดวกราบรื่นและปลอดภัย

ผศ.ดร.โปรดปราน สิริธีรศาสตร์ ผู้อำนวยการสถาบันประมวลผลข้อมูลเพื่อการศึกษาและพัฒนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล็งเห็นความสำคัญของการใช้งาน IP เนื่องจากมีการใช้งานในอุปกรณ์และโครงข่ายภายในหลายส่วน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการวางแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนจาก IPv4 เป็น IPv6 โดยดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายแกนหลักของมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาทิ การติดตั้ง Router Core Switch ปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยสามารถใช้งานควบคู่กันทั้ง IPv4 และ IPv6 โดยใช้วิธีการใช้งานแบบ Dual Stack และได้มีการทดสอบการใช้งาน DNS IPv6 ซึ่งทางมหาวิทยาลัยถือได้ว่ามีความพร้อมในด้านการใช้งาน IPv6 ทั้งนี้เราพร้อมทั้งในส่วนของธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์และที่วิทยาเขตรังสิต ธรรมศาสตร์มีความพร้อมสำหรับ World IPv6 Launch

“ในวันที่ 6 มิถุนายน 2555 กำหนดให้เป็นวันทดสอบการใช้ IPv6 พร้อมกันทั่วโลก หรือเรียกว่า World IPv6 Launch โดยหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ของประเทศต่างๆ จะร่วมทำการทดสอบพร้อมกันทั่วโลก สำหรับประเทศไทยมีการประเมินไว้ว่าต้องใช้เวลาเตรียมพร้อมประมาณ 3 ปี โดยเบื้องต้นต้องฝึกอบรมบุคลากรในหน่วยงานไอที เพื่อให้มีความรู้เรื่อง IPv6 เพื่อให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พร้อมเข้าสู่การใช้งานได้จริงในปี 2558 ทันกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในส่วนของ ทรู อินเทอร์เน็ต ถือได้ว่ามีการพัฒนาล่วงหน้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ถือได้ว่ามีความพร้อมที่จะให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรทุกระดับ ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการอินเทอร์เน็ตอันดับหนึ่งของประเทศ” นายธนะพล กล่าวสรุป

View :1392
Categories: Internet Tags: ,

UIH เปิดตัว “UIH แอพพลิเคชัน” บนระบบ iPad และ Android

June 6th, 2012 No comments

บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด () เปิดช่องทางการสื่อสารใหม่ไปยังกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจ ด้วย “ แอพพลิเคชั่น” บน iPad และ Android tablet แสดงถึงศักยภาพด้านการสื่อสารของ ที่พร้อมก้าวล้ำ และก้าวทันโลกยุคดิจิตอลเสมอ ในคราวนี้ ส่งเครื่องมือการสื่อสารในรูปแบบสิ่งพิมพ์ดิจิตอล หวังผลให้ ได้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นด้วยการสื่อสารในรูปแบบ Interactive หรือการมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบ สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้ ไม่ดาวน์โหลด “ แอพพลิเคชั่น” ไม่ได้แล้ว

ขณะที่ทั่วโลกกำลังขับเคลื่อนเต็มที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโลกตัวหนังสือ ที่จากเดิมอยู่บนแผ่นกระดาษเท่านั้น เปลี่ยนมาเป็นตัวหนังสือบนจออิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถ ซูม ย่อ ขยาย ได้ดั่งใจนึก ทั้งยังสามารถใส่รูปภาพให้เคลื่อนไหว เลื่อนไปมาได้ตามต้องการอีกด้วย จากคุณสมบัติที่เร้าใจนี้เอง ที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับโลกตัวหนังสือ ทำให้ตัวหนังสือดูมีชีวิตและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นกระแสสื่อสิ่งพิมพ์ดิจิตอล หรือ Digital Publishing ส่งผลให้ทุกวงการต้องสั่นสะเทือน เพราะไม่อยากตกเทรนด์ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เหมือนเป็นการพลิกประวัติศาสตร์โลกตัวหนังสือเลยก็ว่าได้

ด้วยคุณสมบัติเด่นมากมายข้างต้น UIH จึงเล็งเห็นช่องทางการสื่อสารที่ทำให้ใกล้ชิดกับลูกค้าองค์กรธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศมากยิ่งขึ้นเพียงปลายนิ้วสัมผัส ทั้งยังต้องการเติมเต็มความรู้สึกในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร สินค้า และการบริการของ UIH ผ่านการอ่านในรูปแบบใหม่ UIH จึงไม่รอช้าเนรมิตข้อมูลข่าวสาร และสินค้าของ UIH ที่มีอยู่ในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์บนกระดาษ ให้กลายเป็นสื่อสิ่งพิมพ์มีชีวิต ผ่านรูปแบบการดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน เพียงแค่ค้นหาคำว่า UIH บน App Store ผ่าน iPad หรือผ่าน Google Play Store บน Android tablet จากนั้นกดดาวน์โหลด เพียงแค่นี้คุณก็สามารถเข้ามาสื่อสารกับ UIH ได้อย่างต่อเนื่อง ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าองค์กร UIH เท่านั้น เพียงคุณ

1. ดาวน์โหลด
2. ค้นหาโฆษณาให้แสดงความคิดเห็นผ่านแบบสอบถาม ที่ซ่อนอยู่ในวารสาร หรือ Catalog เล่มต่างๆ ใน shelf
3. ตอบคำถามเกี่ยวกับการใช้งาน “UIH แอพพลิเคชัน”
4. รอลุ้นรับ The New iPad ฟรี

ดาวน์โหลด “UIH แอพพลิเคชัน” แล้วรอลุ้นรับ The New iPad ได้แล้ววันนี้ – 15 กรกฎาคม 2555 นี้เท่านั้น จับรางวัลผู้โชคดีภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 ตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีในเว็บไซต์ www.uih.co.th และ http://www.facebook.com/UIHbroadband

View :1816
Categories: Application Tags:

เอไอเอส ประกาศเดินหน้าพัฒนาคุณภาพเครือข่ายต่อเนื่อง ทุ่มงบมุ่งแก้ปัญหาให้ลูกค้า

June 6th, 2012 No comments

นายวีรวัฒน์ เกียรติพงษ์ถาวร รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานปฏิบัติการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวว่า “ภาพรวมการทำงานด้านวิศวกรรมเครือข่ายของเอไอเอสยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพในทุกๆด้านอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาคุณภาพและรองรับการใช้งาน Voice และ Data ที่ปัจจุบันมีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยปีนี้ได้เตรียมงบประมาณไว้เป็นเงิน 8,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการใน 3 ด้านหลักอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย

- ปรับปรุงคุณภาพการใช้งาน ไม่ว่าจะอัตราสายหลุด , ความสำเร็จในการเชื่อมต่อ, คุณภาพความคมชัดของเสียง, ปัญหาสัญญาณในอาคารสูง, ความเร็วของ Speed ในการใช้งาน Data, ฯลฯ โดย แม้ปัจจุบันภาพรวมจะมีคุณภาพการใช้งานสูงกว่าค่ามาตรฐานที่ทาง กสทช. กำหนด แต่เอไอเอสยังคงมีการปรับปรุงให้มีคุณภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

- ขยายความครอบคลุมของเครือข่ายในพื้นที่ซึ่งมีความต้องการใหม่ๆ หรือ ขยายความครอบคลุมในอาคารสูงในลักษณะสถานีฐานย่อย โดยปัจจุบันมีจำนวนสถานีฐานที่ติดตั้งใหม่กว่า 150 สถานีต่อ 1 สัปดาห์ และยังมุ่งมั่นจะขยายอย่างต่อเนื่อง

- เพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้งานในพื้นที่ซึ่งมีปริมาณการใช้งานหนาแน่น อาทิ การเพิ่มปริมาณสถานีฐาน อันจะส่งผลให้เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการใช้งานไปในตัว

โดย ณ สิ้นสุดเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เอไอเอสมีฐานลูกค้ากว่า 34 ล้านเลขหมาย ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับปริมาณความถี่ย่าน 900 MHz ที่มีอยู่อย่างจำกัด อย่างไรก็ตามทีมวิศวกรของเอไอเอส ไม่เคยนิ่งนอนใจต่อปัญหาคุณภาพการใช้งานที่เกิดขึ้น และไม่เคยหยุดยั้งในการศึกษาเพื่อนำเทคนิคใหม่ๆเข้ามาแก้ปัญหา อาทิ การขยายสถานีฐานที่เป็นไปเพื่อเพิ่มปริมาณการใช้งาน (Capacity) แม้จะต้องทุ่มงบประมาณมากกว่าค่ายอื่นก็ตาม เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่มีคุณภาพให้แก่ลูกค้าเสมอ

นายวีรวัฒน์ กล่าวย้ำตอนท้ายว่า “อย่างไรก็ตามปัจจุบันนับเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีสู่ Wireless Broadband ก่อนที่ กสทช.จะเปิดการประมูล 3G บนคลื่น 2.1 GHz ดังนั้นแม้จะมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี แต่เอไอเอสในฐานะ Operator จะไม่หยุดพัฒนาเครือข่ายและจะมุ่งมั่นทำทุกวิถีทางในการปรับปรุงคุณภาพบริการให้ดีที่สุดเพื่อลูกค้าอย่างแน่นอน”

View :1523

โนเกียเผยโฉม Asha Touch ฟีเจอร์โฟนสุดฉลาด เร่งเครื่องสู่โมบายอินเตอร์เน็ต

June 6th, 2012 No comments

โทรศัพท์ทัชสกรีนสีสันสดใส นำผู้คนอีกพันล้านคนให้สามารถท่องเว็บ เข้าสู่สังคมออนไลน์ และสนุกกับเกมส์ได้เร็วยิ่งขึ้น

โนเกียก้าวไปอีกขั้นกับการเชื่อมต่อผู้บริโภคอีกพันล้านคนด้วยการเผยโฉมโทรศัพท์มือถือตระกูลล่าสุดของโลก Asha Touch มอบประสบการณ์โทรศัพท์มือถือระบบหน้าจอสัมผัสเต็มรูปแบบในราคาที่สัมผัสได้ ประกอบด้วย Nokia Asha 305, Nokia Asha 306, และ Nokia Asha 311 ถือเป็นการขยายโทรศัพท์มือถือตระกูล Asha ซึ่งแนะนำสู่ตลาดโลกครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2011 ทำให้วันนี้มีโทรศัพท์ตระกูล Asha จำนวน 10 รุ่นจำหน่ายใน 130 ประเทศทั่วโลก ช่วยให้ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ไม่เคยขาดการติดต่อสื่อสาร ได้เลือกโทรศัพท์ที่สอดคล้องกับไลฟสไตล์ของตน

Nokia Asha 306


โทรศัพท์ล่าสุดนี้ได้รับการออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่คล้ายกับสมาร์ทโฟนอย่างคาดไม่ถึงให้กับผู้บริโภคที่ต้องการหลุดพ้นจากค่าใช้จ่ายในการรับส่งข้อมูลจำนวนมากและแบตเตอรี่ที่หมดเร็ว Nokia Asha 305, Asha 306, และ Asha 311 นำเสนอการทำงาน (User Interface) บนหน้าจอระบบสัมผัสรูปแบบใหม่ ผสมผสานการใช้งานที่แสนง่ายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโนเกีย กับนวัตกรรมด้านดิจิตอลดีไซน์ที่เน้นการใช้งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์

Nokia Asha 311 ดีไซน์สวยงาม เป็นโทรศัพท์มือถือ 3.5G หน้าจอสัมผัสแบบ capacitive ลื่นไหลรวดเร็ว
หน่วยประมวลผล 1GHz เพื่อมอบประสบการณ์อินเตอร์เน็ตที่ยอดเยี่ยม Nokia Asha 305 โทรศัพท์สีสันสดใส ดีไซน์ล้ำ เป็นฟีเจอร์โฟนที่มอบความสนุกสนานในราคาย่อมเยา พร้อมฟังก์ชั่น Easy Swap ให้สลับซิม 2 ซิมได้อย่างง่ายดาย
Nokia Asha 306 เป็นโทรศัพท์ซิมเดียวที่รองรับ Wi-Fi ในราคาที่ถูกที่สุดของโนเกีย

มิสแมรี่ ที แมคโดเวลล์ รองประธาน กลุ่มธุรกิจโมบายโฟนส์ โนเกีย กล่าวว่า “โนเกียกำลังเร่งดำเนินการตามพันธะสัญญาของเราในการเชื่อมต่อผู้คนอีกพันล้านคนสู่อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ใหม่เหล่านี้มอบสิ่งที่ผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ให้ความสำคัญมากที่สุด โทรศัพท์มือถือที่ดูดี มอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบสนองได้รวดเร็ว ในราคาย่อมเยา เพื่อใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เพื่อนฝูง และโลกความบันเทิง แอพ และคอนเทนท์ต่างๆ”

ยอดเยี่ยมสำหรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว การใช้งานอินเตอร์เน็ตในราคาย่อมเยา และเกมส์เพื่อความบันเทิง

โทรศัพท์มือถือใหม่มอบประโยชน์ให้ผู้บริโภคด้วย Nokia Browser 2.0 ซึ่งเป็นโนเกียเบราเซอร์อัพเดตล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยี cloud ของโนเกีย เพื่อลดการใช้ข้อมูลได้สูงสุดถึง 90% หมายความว่าผู้บริโภคสามารถเพลิดเพลินกับการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่รวดเร็วและถูกลง โดยสามารถโหลดเว็บไซต์ได้เร็วขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับมือถือที่ไม่มีเทคโนโลยี cloud ทำให้ง่ายในการค้นหาและเลือกเว็บแอพที่มีมากกว่า 10,000 แอพ พร้อมมอบประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค โดยใช้ข้อมูลน้อยกว่าเบราเซอร์อื่นๆ

ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนฝูงและครอบครัวด้วยการสัมผัสปุ่มเพียงครั้งเดียว รวมถึงการแบ่งปันไฟล์และลิงค์ต่างๆ บนสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ฟีเจอร์ Download Manager ของโนเกีย จะช่วยให้ผู้บริโภคจัดการคอนเทนท์ต่างๆ ได้ง่ายดาย รวมถึงการจัดเก็บเพลง วิดีโอ และรูปภาพลงในเมมโมรี่การ์ดขณะที่ท่องเว็บ

โทรศัพท์ตระกูล Asha ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนักพัฒนาและผู้บริโภค ล่าสุด Nokia Store มียอดดาวน์โหลดทะลุ 5 พันล้านครั้ง โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายนที่ผ่านมา 42% ของคอนเทนท์ที่ดาวน์โหลดจาก Nokia Store เป็นการดาวน์โหลดลงบนโทรศัพท์ตระกูล Asha และโทรศัพท์โนเกียรุ่นอื่นๆ บนระบบ Java โดยเมื่อหนึ่งปีก่อนมีสัดส่วน
การดาวน์โหลดเพียง 10% ทั้งนี้ นักพัฒนาแอพบนโนเกียจำนวน 410 ราย ได้รับการดาวน์โหลดแอพมากกว่า 1 ล้านครั้ง บางราย เช่น India Games และ Pico Brothers มียอดดาวน์โหลดถึง 100 ล้านครั้ง

Nokia Asha 305


Nokia Asha 305 Asha 306 และ Asha 311 ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความบันเทิง และมอบประสบการณ์บนสังคมออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมในเวลาเดียวกัน ผู้ใช้งานยังจะได้รับของขวัญพิเศษ นั่นคือ เกมส์ของอิเล็กทรอนิก อาร์ท (EA) จำนวน 40 เกมส์ให้ดาวน์โหลดฟรีและเก็บไว้ได้ตลอดไป เกมส์เหล่านี้มีตั้งแต่ action, arcade และ sports อาทิ Tetris, Bejeweled, Need for Speed: The Run และ Fifa 2012 Nokia Asha 311 มากับ Agry Birds จำนวน 15 levels ที่โหลดลงบนเครื่องเรียบร้อยแล้ว เป็นการใช้ศักยภาพหน้าจอสัมผัสและหน่วยประมวลผล 1GHz อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“โนเกียกำลังก้าวไปอีกขึ้นในการเชื่อมต่อผู้บริโภคสู่อินเตอร์เน็ต โดยมุ่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นด้วย user interface ระบบหน้าจอสัมผัสใหม่ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาด mass ได้เป็นอย่างดี ซึ่งตลาด mass ถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่เชื่อว่าการยกระดับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Nokia Asha จะมอบข้อเสนอที่น่าสนใจด้วยการช่วยให้ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายน้อยลง โดยใช้ประโยชน์จากเบราเซอร์ที่สามารถบีบอัดข้อมูล และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น” มร.นีล โมวสตัน ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท Strategy Analytics บริษัทวิจัยด้านโทรศัพท์มือถือ “เรายังสนใจกลยุทธ์การโปรโมท Nokia Asha ที่เปิดตัวรุ่นต่างๆ ในตลาดสำคัญที่มีการเติบโตสูง อาทิ เอเชีย ซึ่งโนเกียสามารถทำตลาดได้ดีและได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค”

รายละเอียดผลิตภัณฑ์

Nokia Asha 311 เป็นโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสสีสันสดใส ขนาดกะทัดรัด มากับฟีเจอร์ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่สนุกสนานและใช้งานง่าย โดยมีหน้าจอกระจกแบบ capacitive ป้องกันรอยขีดข่วน หน้าจอสดใส สีสันสวยงาม พร้อมโพลาไรซ์ฟิลเตอร์ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจาก user interface ที่โดดเด่นและสวยงาม Nokia Asha 311 ยังมีกล้อง 3.2 เมกะพิกเซล Nokia Maps และเกมส์ Angry Birds จำนวน 15 levels

ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ Facebook Twitter และสังคมออนไลน์อื่นๆได้ง่ายๆ ด้วยโปรแกรมที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานในเครื่อง ในขณะที่ Nokia Browser ช่วยให้การใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือรวดเร็วขึ้นและราคาถูกลง รวมถึงมีบริการรับส่งข้อความที่เป็นที่นิยม เช่น WhatsApp “WhatsApp มีวิสัยทัศน์ในการสร้างแอพพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานข้ามแพลฟอร์มได้อย่างง่ายดายและวางใจได้ ซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ทั่วโลก” มร.ไบรอัน แอคตัน ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp Inc. กล่าว “การร่วมมือกับโนเกีย ซึ่งโทรศัพท์มือถือเป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยทำให้ WhatsApp สามารถใช้งานได้บน Asha Touch จะช่วยให้เราบรรลุวิสัยทัศน์หลักของเราได้”

Nokia Asha 311


Nokia Asha 305 เป็นโทรศัพท์มือถือสองซิม สลับซิมได้ง่ายด้วย Easy Swap มอบความสนุกและความบันเทิงในการใช้งาน ช่วยให้ผู้ใช้ได้ใช้โทรศัพท์อย่างคุ้มค่า และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ โทรศัพท์มีสีสันสดใส พร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ resistive WQVGA 3นิ้ว พร้อมบลูทูธและการเชื่อมต่อแบบ Dual Band มาพร้อมเกมส์ 40 เกมส์จากอิเล็กทรอนิก อาร์ท (EA) ให้ดาวน์โหลด นอกจากนี้ ยังมีกล้อง 2 เมกะพิกเซล Nokia Maps และ Nokia Browser ปรับปรุงใหม่ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลดข้อมูล

Nokia Asha 306 เป็นโทรศัพท์ที่รุ่นน้องของ Nokia Asha 305 โดยมีฟีเจอร์แบบเดียวกัน เช่น หน้าจอสัมผัสแบบ resistive WQVGA 3 นิ้ว สีสันสดใส มาพร้อมเกมส์จาก EA กว่า 40 เกมส์ให้ดาวน์โหลด สำหรับผู้ใช้งานโนเกียเท่านั้น Nokia Asha 306 ยังมี WLAN ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถออนไลน์ได้แม้ขณะเดินทาง นอกจากนี้ยังรองรับ video streaming ผ่าน GPRS และ WLAN ซึ่งทำให้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อได้อย่างสนุกสนาน

*มีค่าใช้จ่ายในการรับส่งข้อมูล

View :2316

คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เร่งผลักดันหน่วยงานรัฐจัดทำแนวนโยบายรักษาความปลอดภัยด้านสารสนเทศ

June 5th, 2012 No comments

นางจีราวรรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะรองประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ โดยที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแก่หน่วยงานของรัฐเพิ่มเติมอีก 1 หน่วยงาน คือ กรมสรรพากร ทำให้ขณะนี้มีนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของหน่วยงานของรัฐ ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการธุรกรรมฯ แล้ว จำนวน 30 หน่วยงาน ส่วนหน่วยงานของรัฐที่ยังไม่ได้จัดทำแนวนโยบายและแนวปฏิบัติดังกล่าว คณะกรรมการธุรกรรมฯ จะพิจารณาดำเนินการใช้มาตรการในเชิงบริหารต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมฯ ยังได้กำหนดกลไกการติดตามและผลักดันหน่วยงานของรัฐในการจัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติในเรื่องนี้ ตามประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2553 โดยให้หน่วยงานของรัฐจัดทำรายงานประเมินความเสี่ยงของตน (Self – evaluation) เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงพัฒนาระบบสารสนเทศของหน่วยงานตนเอง พร้อมทั้งให้ส่งรายงานการประเมินความเสี่ยงของตนเองแก่คณะกรรมการธุรกรรมฯ เพื่อนำผลการประเมินฯ ดังกล่าวมาพิจารณาดำเนินการประสานงานกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เพื่อพิจารณาหาแนวทางในการช่วยเหลือหน่วยงานของรัฐในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศต่อไป

โดยคณะกรรมการฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) จัดทำแผนการเข้าตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงเฉพาะหน่วยงานของรัฐที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อทำให้หน่วยงานของรัฐมีระบบสารสนเทศที่มีความมั่นคงปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานของรัฐที่มีความสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้มีการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจการให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใด หรือผ่านเครือข่าย ตามบัญชี ค (3) แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 แก่ บริษัท เพย์เพด จำกัด ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเสนอ โดยจนถึงปัจจุบันคณะกรรมการฯ ได้ออกใบอนุญาตให้กับผู้ให้บริการไปแล้ว จำนวน 76 ราย แบ่งเป็นผู้ให้บริการที่เป็นสถาบันทางการเงิน จำนวน 31 ราย และผู้ให้บริการที่มิใช่สถาบันทางการเงิน จำนวน 45 ราย รวมใบอนุญาต จำนวน 115 ฉบับ

นอกจากนั้น คณะกรรมการฯ ยังได้เห็นชอบในหลักการให้มีการกำหนดขั้นตอนการพิจารณามาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการผลักดันมาตรฐานด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อรองรับการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558 (AEC 2015) โดยจะนำเอามาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และหน่วยงานรับผิดชอบที่ต้องการให้มีผลบังคับใช้ มาเข้าสู่กระบวนการจัดทำเป็นประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป

View :1444

ฟูจิตสึเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ 3 รุ่น

June 5th, 2012 No comments

ฟูจิตสึรุกตลาดไทยต่อเนื่อง เปิดตัวไลฟ์บุ๊กใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการโน้ตบุ๊กไทย ด้วยไลฟ์บุ๊ก UH572 อัลตร้าบุ๊กในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ พร้อมสร้างความตื่นตะลึงกับโน้ตบุ๊กขนาด 13.3 นิ้ว ที่บางและเบาที่สุดในโลกกับไลฟ์บุ๊ก SH772 และ SH572 ตอกย้ำการสร้างนิยามใหม่ให้กับคอมพิวเตอร์พกพาเมดอินเจแปน


นายเชาวนะ สุนทรพฤกษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯมีการรุกตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้มีการเปิดตัว ฟูจิตสึ ไลฟ์บุ๊ก ใหม่อีก 3 รุ่น เพื่อเจาะตลาด ด้วยจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ได้แก่ Fujitsu LIFEBOOK UH572 อัลตร้าบุ๊กที่จะสร้างนิยามใหม่ในราคาที่สามารถจับต้องได้กับความลงตัวด้านประสิทธิภาพและการพกพาที่สมบูรณ์แบบ เหมาะกับผู้ใช้งานในกลุ่ม Mainstream และ ไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ 2 รุ่น คือ Fujitsu LIFEBOOK SH772 โน้ตบุ๊กขนาด 13.3 นิ้วที่บางและเบาที่สุดในโลก และ Fujitsu LIFEBOOK SH572 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น

“ฟูจิตสึยังคงสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ไลฟ์บุ๊กรุ่นใหม่จึงมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อสนองกับทุกความต้องการ สร้างความยืดหยุ่นเพื่อทุกการใช้งาน สะดวกในการพกพา ประสิทธิภาพที่ไม่เหมือนใคร ทั้งความปลอดภัยของข้อมูลระดับสูงสุด และความสวยงามที่ยึดหลักปรัชญาญี่ปุ่นทาคูมิ ในการออกแบบ” นายเชาวนะกล่าว

Fujitsu LIFEBOOK UH572


นายเชาวนะ กล่าวว่า ด้วยแรงบันดาลใจจากปรัชญา “ทาคูมิ” ฟูจิตสึจึงใส่ใจในการออกแบบไลฟ์บุ๊ก UH572 ให้เป็นอัลตร้าบุ๊กในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ ไลฟ์บุ๊ก UH572 มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ 3rd Generation Intel® Core™ และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยกับอายุแบตเตอร์รี่ที่ยาวนาน ด้วยน้ำหนักเบาเพียงแค่ 1.6 กิโลกรัม ไลฟ์บุ๊ก UH572 ยังมาพร้อมกับ Intel® HD 4000 กราฟฟิกการ์ดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใสและป้องกันการกระตุกขณะเล่นไฟล์วีดีโอ ด้วยจอแสดงผลแบบ High Definition SuperFine LCD ขนาด 13.3 นิ้ว พร้อมระบบเสียง DTS Boost™ รวมถึงนวัตกรรมล้ำยุค อย่าง Face Sense Utility ที่จะหยุดหรือเริ่มแอปพลิเคชั่นหรือกิจกรรมบนตัวเครื่อง โดยการตรวจจับใบหน้าของผู้ใช้งานเมื่ออยู่หน้าเครื่องได้ด้วยกล้องระดับHD คีย์บอร์ดแบบ isolated พร้อมฟังก์ชั่นการเลื่อนหน้าจอทั้งแนวนอนและแนวตั้งด้วย Intelligent Touch Pad

ยิ่งไปกว่านั้นนอกเหนือจากพื้นที่จัดเก็บฮาร์ดดิสก์แล้ว ไลฟ์บุ๊ก UH572 ยังมีพื้นที่จัดเก็บพิเศษขนาด 32GB ด้วย iSSD พอร์ต USB
แบบ high-speed และช่อง SDXC / MS Duo Card เพื่อการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 4.0 และ WLAN พร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากมาย ได้แก่ BIOS ล็อค, ฮาร์ดดิสก์ล็อค, สล๊อตป้องกันขโมย, และเทคโนโลยี Absolute® Data Protect เพื่อการป้องกันข้อมูลที่สำคัญอย่างสูงสุด ไลฟ์บุ๊ก UH572 มีให้เลือกทั้งสีแดงและสีเงิน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นความเป็นแฟชั่น

ไลฟ์บุ๊ก SH772 และ ไลฟ์บุ๊ก SH572 ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กนิยามใหม่ของความบางและเบาสำหรับเครื่องโน๊ตบุ๊ก Made in Japan ด้วยขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ตัวเครื่องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งคงทน โดย ไลฟ์บุ๊ก SH772 มีความหนาเพียง 16.6 มม. และมีน้ำหนัก 1.21 กิโลกรัม ซึ่งนับได้ว่าเป็นเครื่องโน๊ตบุ๊กที่บางและเบาที่สุดในโลก เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความมีสไตล์และความสมบูรณ์แบบที่มาพร้อมกับเครื่องสีดำหรูหรา สำหรับรุ่น ไลฟ์บุ๊ก SH572 มีความหนาเพียง 17.4 มม. และมีน้ำหนัก 1.42 กิโลกรัม มาพร้อมกับหลายเฉดสีให้เลือกทั้งดำประกาย ขาวประกายมุก แดงการ์เน็ต

สำหรับไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีเรือธงของฟูจิตสึในปี 2555 นี้ โดยใช้โปรเซสเซอร์อินเทลเจนเนอเรชั่น 3 ที่ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับภาพยนตร์ได้ยาวนานจากอายุแบตเตอร์รี่ที่ยาวนานขึ้น โดย ไลฟ์บุ๊ก SH772 ใช้งานได้สูงสูด 14 ชั่วโมงในโหมดการทำงานปกติ และเพิ่มขึ้นเป็น 19 ชั่วโมง สำหรับตัวเลือกแบตเตอร์รี่โมดูลล่าเบย์ ที่ใส่เพิ่มแบตเตอรี่ได้ และสำหรับ ไลฟ์บุ๊ก SH572 สามารถใช้งานได้สูงสุด 12 ชั่วโมง สำหรับการใช้งานปกติ และเพิ่มขึ้นเป็น 16 ชั่วโมง สำหรับตัวเลือกแบตเตอร์รี่โมดูลล่าเบย์ ที่ใส่เพิ่มแบตเตอรี่ได้

นายเชาวนะ กล่าวว่า ไลฟ์บุ๊กมีโมดูลล่าเบย์เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานยิ่งขึ้น เช่น การเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์เพื่อการชมภาพวีดีโอหรืองานพรีเซ็นต์ต่างๆ หรือเลือกเปลี่ยนไปใช้ไดร์ฟ Blu-ray, Dual DVD super multi writer เพื่อประหยัดน้ำหนักเครื่อง หรือเพิ่มเป็นแบตเตอรี่เพื่ออายุการใช้งานที่นานขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการขณะนั้นๆ รวมถึงพอร์ต USB Anytime Charge สามารถชาร์จเครื่องมือสื่อสารได้แม้กระทั่งขณะเครื่องปิดอยู่ รวมทั้งการออกแบบให้ไลฟ์บุ๊กมีตัวกรองฝุ่นที่สามารถถอดออกได้ ส่งผลให้เครื่องสามารถระบายความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติ Quick Start เปิดเครื่องได้รวดเร็วภายใน 8 วินาที พิเศษด้วย Fujitsu Face Sense ที่จะหยุดการเล่นวิดีโอเมื่อผู้ใช้งานไม่ได้อยู่หน้าเครื่องยิ่งกว่านั้น ไลฟ์บุ๊ก SH772 ยังมาพร้อมกับกล้องระดับ High Definition สำหรับบันทึกภาพระดับ HD และความคมชัดในการประชุมผ่าน Video conference

ไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังใช้เทคโนโลยีสีเขียวของฟูจิตสึ กับ 3-watt AC อแด็ปเตอร์ที่ลดการใช้พลังงานถึง99% เมื่อเทียบกับอแด็ปเตอร์ปกติทั่วไป และประหยัดพลังงานอีกขั้นด้วย Light Sensor ที่ตรวจจับสภาวะแสงเพื่อปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะกับสภาวะที่ใช้งานขณะนั้นๆ ด้วย พร้อมป้องกันข้อมูลด้วยเซ็นเซอร์ RF Fingerprint ที่มาพร้อมกับตัวชี้แบบ LED เพิ่มความแม่นยำให้การระบุตัวเจ้าของ และ Fujitsu 3D Shock Sensor ที่พร้อมปกป้องฮาร์ดดิกส์จากการกระแทกและการสั่นสะเทือน

ฟูจิตสึยึดมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูงให้แก่ผู้บริโภคด้วยการปฏิบัติตามกฎของ European Union’s Restriction of Hazardous Substances directive (RoHS) ที่ฟูจิตสึนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ทุกชนิด นอกจากนี้ฟูจิตสึยังได้ตั้งข้อปฏิบัติที่เกินกว่ามาตรฐานที่ RoHs กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ของลูกค้าของฟูจิตสึอย่างแท้จริง และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ฟูจิตสึได้ปฏิบัติตามแนวคิดเรื่องเทคโนโลยีสีเขียวอย่างเคร่งครัด โดยการผลิตเครื่องที่ประหยัดพลังงาน ฟูจิตสึยังได้เข้าร่วมขบวนการต่อสู้เพื่อรักษ์โลกโดยการเป็นสมาชิกของ Climate Servers อีกด้วย

View :1530
Categories: Gadgets Tags:

ทรูไลฟ์ เปิดตัว WeLoveShopping App เอาใจนักช้อปรุ่นใหม่

June 5th, 2012 No comments

โดย นางสาวมนสินี นาคปนันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด เปิดประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์รูปแบบใหม่ ผ่าน แอพพลิเคชั่นสุดล้ำ ที่ยกเว็บไซต์ WeLoveShopping อีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยยอดการเข้าชมสินค้าสูงถึงกว่า 60 ล้านหน้าต่อเดือน เอาใจนักช้อปรุ่นใหม่ให้ช้อปเพลิน กว่า 7 ล้านรายการ จาก 300,000 ร้านค้า เพิ่มอิสระในการช้อปปิ้งทุกที่ ทุกเวลา บนสมาร์ทโฟน ผ่านทรูมูฟ เอช ผู้ให้บริการ 3G+ ที่เร็วและแรงกว่า มั่นใจช้อปปลอดภัยด้วย WeTrust ระบบการจ่ายเงินออนไลน์ที่เชื่อถือได้ รับรองได้ของชัวร์ ถ้าไม่ได้ยินดีคืนเงิน พร้อมให้ ดาวน์โหลดฟรีแล้ววันนี้

WeLoveShopping App


WeLoveShopping App แอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุดจากทรูไลฟ์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักช้อปยุคดิจิตอล เลือกซื้อสินค้าได้ง่ายๆ ผ่านสมาร์ทโฟน ทั้งแพลตฟอร์ม iOS และแอนดรอยด์ อัดแน่นด้วย 4 ฟีเจอร์เด่น ดังนี้

1. Guru Picks อัพเดทเทรนด์ใหม่สุดฮิต โดยกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม แฟชั่น IT & Gadget, Home & Living DIY ไลฟ์สไตล์ผู้ชายและผู้หญิง ฯลฯ

2. Shop by location เพิ่มความสะดวกให้นักช้อปค้นหาร้านค้าที่อยู่ใกล้ได้ง่ายๆ โดยใช้เทคโนโลยี Location Based เป็นรายแรกของเว็บอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ตอบสนองความต้องการในการช้อปได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์

3. 10 Deals Everyday รวบรวมสินค้าราคาสุดพิเศษที่คัดสรรมาให้นักช้อปชาว WeLoveShopping ได้เป็นเจ้าของก่อนใคร

4. Promotion News อัพเดทข่าวโปรโมชั่นพิเศษจากทุกแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของเมืองไทยทุกวัน

WeLoveShopping App เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีได้แล้ววันนี้ ที่ App Store และ Google Play สำหรับนักช้อปออนไลน์ สามารถติดตามอัพเดทข่าวสารและกิจกรรมจาก WeLoveShopping ที่จะเติมเต็มไลฟ์สไตล์และการช้อปปิ้งอย่างต่อเนื่องได้ที่ www.weloveshopping.com, Weloveshopping Magazine, รายการ Shopping Gang ช่องทรูวิชั่นส์ 67 และ WeLoveShopping แอพพลิเคชั่น

View :1508

แพคเน็ทแต่งตั้งคุณไพศาล กวียานันท์ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย

June 5th, 2012 No comments

แพคเน็ทได้แต่งตั้งให้คุณไพศาล กวียานันท์ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการประจำประเทศของแพคเน็ท ประเทศไทย โดยเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบการเจริญเติบโตเชิงกลยุทธ์และการขยายธุรกิจของแพคเน็ทในประเทศไทย

คุณไพศาลมีประสบการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศไทยมากว่า 20 ปี เขาได้รับการยอมรับให้เป็นมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย เขามีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในธุรกิจโทรคมนาคม ทั้งทางด้านวิศวกรรม ด้านการปฏิบัติการ ตลอดทั้งด้านการขายและการตลาด

“ประเทศไทยเป็นตลาดหลักที่สำคัญในธุรกิจของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามีความยินดีที่คุณไพศาลจะมาช่วยผลักดันการดำเนินงานในประเทศไทยของเรา เรามั่นใจว่าเขาจะนำเอาความรอบรู้ในอุตสาหกรรม และประสบการณ์ด้านการจัดการของเขามาช่วยเร่งการเติบโตทางธุรกิจของแพคเน็ทในประเทศไทย” แฌก เกรอโซว์ กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแพคเน็ท กล่าว

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับแพคเน็ท คุณไพศาลเป็นที่ปรึกษาของประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจัสมินกรุ๊ป กลุ่มบริษัทที่เป็นผู้นำด้านธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคมในประเทศไทย ซึ่งเขาเป็นผู้ให้คำปรึกษาในการกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ของกลุ่มจัสมิน รวมถึงการบริหารจัดการผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยในกลุ่มอีกด้วย

ตลอดระยะเวลา 22 ปีที่คุณไพศาลได้ร่วมงานกับกลุ่มจัสมิน เขาได้ดำรงตำแหน่งระดับผู้บริหารที่สำคัญมากมาย รวมทั้งตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด และเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทในเวลาต่อมา

คุณไพศาลจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ด้านโทรคมนาคมและอิเล็กทรอนิกส์ และจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจหลักสูตรสำหรับผู้บริหาร จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเทศไทย

View :1314