Archive

Archive for December, 2012

รมว.ไอซีที มอบเงินรางวัล และโอกาสแก่ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย ในโครงการ Thai IT Tycoon 2012

December 21st, 2012 No comments


นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล โครงการนวัตกรรมวาณิชย์ (Thai IT Tycoon 2012) จัดโดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ณ โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ ถ.ราชดำริ สำหรับโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและพัฒนาให้ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย เกิดแนวคิดใหม่ในการสร้างผลิตภัณฑ์และการประกอบธุรกิจทั้งในด้านการตลาด การบริหารการเงิน การบริหารบุคลากร และการวางแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์ ด้วยการส่งแผนธุรกิจเข้าร่วมประกวดในโครงการฯ ซึ่งรางวัลสำหรับแผนธุรกิจที่ชนะเลิศทั้ง 5 แผน จะได้รับเงินรางวัลแผนธุรกิจละ 1,00,000 บาท และยังจะได้รับการสนับสนุนต่อยอดธุรกิจต่อเนื่องจนประสบผลสำเร็จ อันจะสร้างประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศไทยต่อไป

View :1131
Categories: Press/Release Tags:

ดีแทคจับมือริมจัดแพ็กเกจ BlackBerry Curve 9220 สีขาว รับปีใหม่ด้วยแคมเปญ​ “White is Colourful”

December 21st, 2012 No comments

ลูกค้าดีแทครับค่าโทรฟรีเพิ่ม 600 นาที ลูกค้าแฮปปี้รับค่าโทรฟรีรวม 920 บาท พร้อมลุ้นชมมินิคอนเสิร์ตกับศิลปิน 25 Hours แบบเอ็กซ์คลูซีฟ

ในภาพ - ปกรณ์ มโนรมย์ภัทรสาร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโพสต์เพด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ร่วมกับ ศิริภัทร ภัทรางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ประจำประเทศไทย บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น (ริม) ร่วมจับมือโปรโมตแพ็กเกจ BlackBerry® Curve™ 9220 สีขาว รับปีใหม่


21 ธันวาคม 2555 – ดีแทคและรีเสิร์ช อิน โมชั่น (ริม) จัดแคมเปญ ​ “White is Colourful” แพ็กเกจพิเศษรับเทศกาลปีใหม่เอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบสังคมโซเชียล นำ สีขาว จับคู่แพ็กเกจพิเศษ สำหรับลูกค้าดีแทคมอบค่าโทรฟรี 600 นาที เพื่อใช้โทรเบอร์ดีแทค และสำหรับลูกค้าแฮปปี้มอบฟรี แฮปปี้ BlackBerry® SIM รับฟรีแพ็กเกจ BB Me 1 สัปดาห์ พร้อมค่าโทรฟรีสูงสุด 920 บาท โดยรับทันทีค่าโทร 200 บาท นาน 30 วัน และเมื่อลูกค้าใช้งานครบ 30 วัน รับเพิ่มฟรีแฮปปี้ซูเปอร์โบนัส 60 บาทนาน 12 เดือนเพื่อใช้โทรเบอร์ดีแทค สิทธิพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่เปิดใช้บริการภายใน 31 มกราคม 2556 พร้อมสิทธิ์พิเศษผ่อน 0% นาน 6 เดือน และร่วมลุ้นไปชมมินิคอนเสิร์ต กับศิลปิน 25 Hours ฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556

BlackBerry® Curve™ 9220 สมาร์ทโฟน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Join the conversation” ด้วยคุณสมบัติใหม่ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามา อาทิ การทำงานบนระบบปฏิบัติการแบล็กเบอรี่ OS 7.1, ปุ่มลัดเข้าโปรแกรม BBM, วิทยุเอฟเอ็ม และแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุดของแบล็กเบอรี่ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://th.blackberry.com

พร้อมกันนั้นดีแทคยังแนะนำแบล็คเบอรี่ยอดนิยมรุ่นอื่น ๆ พร้อมข้อเสนอพิเศษ อาทิ นำ BlackBerry Bold 9790, BlackBerry Bold 9900 และ BlackBerry Curve 9360 ลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ที่ศูนย์บริการดีแทคทั่วประเทศ หรือที่ www..co.th

View :1532

เอชพีสร้างนิยามใหม่ ขจัดความซับซ้อนของโซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลพลิกโฉมเทคโนโลยีแห่งทศวรรษด้วยสถาปัตยกรรมเชิงเดี่ยว

December 20th, 2012 No comments

20 ธันวาคม 2555 –เอชพี เผยโฉมนวัตกรรมระบบจัดเก็บข้อมูลสุดล้ำเป็นครั้งแรกในวงการไอที ภายใต้พอร์ทโฟลิโอโซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก Converged Storage โดยใช้สถาปัตยกรรมเชิงเดี่ยว ซึ่งช่วยขจัดปัญหาความซับซ้อนและความไร้ประสิทธิภาพในการทำงาน และสามารถรองรับการใช้งานขององค์กรทุกขนาด

นายสุรชัย อรรถมงคลชัย ผู้จัดการธุรกิจเอชพีสตอเรจ กลุ่มธุรกิจ เอ็นเทอร์ไพรส์ กรุ๊ป บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด


สุดยอดนวัตกรรมล้ำสมัยดังกล่าว ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมระบบการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้า สภาพแวดล้อมแบบคลาวด์ และสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วลได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งประกอบด้วย โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล HP 3PAR StoreServ Storage โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล HP StoreAll Storage และโซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล HP StoreOnce Backup

ปัจจุบัน องค์กรต่างๆ สูญเสียค่าใช้จ่ายไปเกือบร้อยละ 70 ในการขยายสมรรถนะโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลแต่อย่างใด (1) ขณะที่ผู้ดูแลระบบจะต้องพยายามบริหารจัดการสถาปัตยกรรมจัดเก็บข้อมูลที่แตกต่างกันจำนวนมากมาย ส่งผลให้เกิดปัญหาความไร้ระเบียบของระบบโครงสร้างพื้นฐาน องค์กรส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องเลือกลดอุปกรณ์ที่มีฟีทเจอร์การทำงานที่หลากหลายเพื่อให้มีหน่วยความจำที่มากขึ้น

ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่ เพิ่มความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น
ในปี 2554 เอชพีเปิดตัวโซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก HP Converged Storage ใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการลดข้อจำกัดของระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเดิมที่เกิดจากการขยายตัวของข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล การผนวกรวมระบบโครงสร้างพื้นฐาน และการเกิดศูนย์ข้อมูลบริการไอที (IT-as-a-Service data center) ทั้งนี้ โซลูชั่น HP Converged Storage พัฒนาขึ้นภายใต้หลักการที่มุ่งเน้นความเรียบง่ายที่ยังสามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ (polymorphic simplicity) แนวคิดการจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่นี้สามารถทำงานร่วมกันได้ในหลากหลายรูปแบบ หลากหลายรุ่น และรองรับตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กไปจนถึงผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ๋ แต่ยังคงมีสมรรถนะในการให้บริการจัดเก็บข้อมูลร่วมกัน ใช้ได้กับแอพพลิเคชั่นด้านข้อมูลทั้งประเภทบล็อก ออบเจ็ค และไฟล์ นอกจากนี้ แนวคิดดังกล่าวยังช่วยให้ระบบฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) และระบบโซลิด สเตท ดิสก์ (SSD) สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ วันนี้ เอชพียังได้ขยายพอร์ทโฟลิโอโซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก HP Converged Storage โดยนำเสนอ 3 โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลใหม่ ได้แก่

· โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล HP 3PAR StoreServ 7000 Storage คือแพลทฟอร์มระบบจัดเก็บข้อมูลระดับมิดเรนจ์แบบที่มีตัวควบคุม 4 ตัว (quad-controller) ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งเดียวในวงการไอที มีความพร้อมในการจัดเก็บข้อมูลแบบ Tier 1 อัดแน่นด้วยฟีทเจอร์การให้บริการที่เปี่ยมคุณภาพในระดับราคาเริ่มต้นที่องค์กรต่างๆ สามารถซื้อหาได้ง่าย (2) สนับสนุนด้านบริการข้อมูลทั้งแบบบล็อกและไฟล์ รองรับไดรฟ์ทั้งแบบ HDD และ SSD หรือระบบ SSD ทั้งหมดที่มีสมรรถนะในการบริหารการไหลเข้าออกของข้อมูลจำนวนมากกว่า 320,000 ครั้งต่อวินาที สูงกว่าระบบจัดเก็บข้อมูลของคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกันถึง 2.4 เท่า (3)

· โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล HP StoreAll Storage คือแพลทฟอร์มระบบจัดเก็บข้อมูลที่สามารถปรับขยายได้สูง รองรับการเข้าใช้ข้อมูลทั้งประเภทออบเจ็คและไฟล์ มีสภาพแวดล้อมที่ทำงานได้ง่าย เหมาะสำหรับระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลหรือบิ๊กดาต้า และการจัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์ จึงช่วยลดจำนวนผู้ดูแลระบบหรือฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ HP Labs หรือหน่วยงานด้านวิจัยของเอชพี ยังได้พัฒนาโซลูชั่น HP StoreAll Express Query ซึ่งเป็นฐานข้อมูลแบบ metadata ช่วยให้ลูกค้าสามารถตั้งคำถามในการค้นหาได้เร็วกว่าการใช้วิธีการค้นหาระบบไฟล์แบบเดิมถึง 100,000 เท่า (4) จึงช่วยอำนวยความสะดวกในการตัดสินใจทางธุรกิจโดยใช้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมากที่สุด

นอกจากนี้ โซลูชั่น HP StoreAll Storage ยังสามารถนำไปผนวกรวมกับโซลูชั่น HP Autonomy Intelligent Data Operating Layer (IDOL) เพื่อถ่ายโอนงานประมวลผลไปยังระบบจัดเก็บข้อมูล HP StoreAll Storage ส่งผลให้การวิเคราะห์สามารถทำได้รวดเร็ว เนื่องจากใช้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมากขึ้น และใช้ระบบฮาร์ดแวร์ประมวลผลลดลง ทั้งนี้ การผนวกรวมโซลูชั่น HP StoreAll Storage และโซลูชั่น HP Autonomy Consolidated Archive เข้าไว้ด้วยกัน รวมทั้งการผนวกรวมกับแอพพลิเคชั่นของผู้จำหน่ายซอฟท์แวร์อิสระ (ISV) รายอื่นๆ จะทำให้การจัดเก็บสินทรัพย์แบบดิจิตอลสามารถทำได้อย่างปลอดภัยและจัดเก็บได้ยาวนาน

· โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล HP StoreOnce 2000 และ4000 Backup พร้อมด้วยซอฟต์แวร์ HP StoreOnce Catalyst ทำให้การโยกย้ายข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการจัดเก็บข้อมูลซ้ำซ้อน จึงช่วยประหยัดต้นทุนในการดูแลรักษาข้อมูลในศูนย์ข้อมูลและสำนักงานที่ตั้งอยู่ห่างไกล ทั้งยังมีสมรรถนะในการสำรองข้อมูลเร็วขึ้นสูงสุดถึง 3 เท่า และมีต้นทุนที่ลดลงถึงร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับระบบของคู่แข่งที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันมากที่สุด (5)

นายสุรชัย อรรถมงคลชัย ผู้จัดการธุรกิจเอชพีสตอเรจ กลุ่มธุรกิจ เอ็นเทอร์ไพรส์ กรุ๊ป บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “ผู้จำหน่ายระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเดิมจะไม่มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือลูกค้าองค์กรต่างๆ ในการจัดการปริมาณงานใหม่ๆ และไม่สามารถนำฟีทเจอร์ใหม่ๆ ไปใส่ไว้บนระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม ซึ่งงานเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่น่ากลัว ทั้งนี้ ด้วยนวัตกรรมของพอร์ทโฟลิโอโซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก HP Converged Storage จะช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารระบบโครงสร้างพื้นฐานให้มีการทำงานที่ง่ายดาย และมีต้นทุนลดลง โดยใช้สถาปัตยกรรมเดียวกันบนระบบจัดเก็บข้อมูลทุกกลุ่มและทุกประเภท”

เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนด้านข้อมูล บุคลากร และระบบโครงสร้างพื้นฐาน
นวัตกรรมสุดล้ำของโซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก HP Converged Storage ช่วยให้ลูกค้าพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูลให้ทำงานได้ง่ายดายยิ่งขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการที่ไม่คาดคิดได้ดีขึ้น ทั้งยังทำให้องค์กรต่างๆ สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนถึง 3 ด้าน ได้แก่

· ผลตอบแทนจากการลงทุนด้านข้อมูล สามารถดึงข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจทางด้านธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น การนำระบบการค้นหาและวิเคราะห์ที่ติดตั้งไว้ในโซลูชั่นดังกล่าวมาใช้สร้างมูลค่าของข้อมูลทุกประเภท

· ผลตอบแทนจากการลงทุนด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้การใช้สินทรัพย์มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการออกแบบหลากหลายดีไซน์ และใช้เทคโนโลยีที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีความต้องการสมรรถนะการทำงานลดลงถึงครึ่งหนึ่ง

· ผลตอบแทนจากการลงทุนด้านบุคลากร ด้วยการให้บริการข้อมูลเหมือนกัน และใช้ระบบบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ทั่วทุกระบบจัดเก็บข้อมูล ช่วยลดความซับซ้อนและระยะเวลาในการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี

มร. เฟรเดริค แวน ฮาเร็น ผู้อำนวยการระดับอาวุโส ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและพัฒนา นูออนซ์ คอมมิวนิเคชั่นส์ กล่าวว่า “นูออนซ์มุ่งเดินหน้าก้าวให้ตามทันการพัฒนานวัตกรรมที่มีอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยคำนึงถึงความต้องการอันเร่งด่วนในการขยายระบบโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูลทั่วทั้งบริษัท การมีโซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล HP 3PAR StoreServ Storage ทำให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานของนูออนซ์สามารถปรับเปลี่ยนให้รองรับปริมาณงานที่เปลี่ยนแปลงไป และทำให้พนักงานของนูออนซ์เดินหน้าพัฒนาโซลูชั่นด้านเสียงและภาษาออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”

นอกจากนี้ เอชพียังเปิดตัวบริการใหม่ เพื่อช่วยลูกค้าสร้างความคุ้มค่าจากการลงทุนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของตน บริการใหม่ดังกล่าว ได้แก่

· การบริการด้านเทคโนโลยี (Technology Services) ช่วยจัดการโซลูชั่น HP StoreOnce ให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และสามารถโอนย้ายจากโซลูชั่น HP Enterprise Virtual Array ไปยังโซลูชั่น HP 3PAR Storage ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

· การบริการด้านการจัดการระบบจัดเก็บข้อมูล (HP Storage Management Services) สามารถช่วยผนวกรวมโซลูชั่น HP 3PAR StoreServ โซลูชั่น HP StoreAll และโซลูชั่น HP StoreOnce Storage เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลใหม่ของเอชพีสำหรับลูกค้าระดับองค์กร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการระบบ และมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานจริง

การจัดจำหน่าย

· โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล HP StoreServ 7200 และ HP StoreServ 7400 มีจำหน่ายแล้วทั่วโลก และโซลูชั่น HP Priority Optimization จะนำออกวางตลาดในปี 2556

· โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล HP StoreAll Storage มีวางจำหน่ายแล้วทั่วโลก

· โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูล HP StoreOnce 6200 Backup systems, HP StoreOnce 2000 Backup systems และ HP StoreOnce 4000 Backup systems รวมถึงใบอนุญาตการใช้ซอฟต์แวร์ HP StoreOnce Catalyst Software licenses มีจำหน่ายแล้วทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก HP Converged Storage ใหม่ สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.hp.com/go/storage/nextera

View :1337
Categories: Technology Tags:

ทรู ดิจิตอล เตรียมเปิดตัวพลัส เกมออนไลน์ “TY Online”

December 20th, 2012 No comments


20 ธันวาคม 2555: พลัส ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำการให้บริการเกมออนไลน์ไทย เตรียมเปิดตัวเกมใหม่ต้อนรับปี 2556 “” เกมฟอร์มยักษ์ ที่คนทั้งโลกรอคอย ด้วยทุนสร้างสูงถึงกว่า 900 ล้านบาท พร้อมรับประกันคุณภาพด้วย 5 รางวัลจากเวทีระดับโลก แฟนเกมออนไลน์ชาวไทยเตรียมพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ได้ก่อนคอเกมประเทศอื่นในวันที่ 17 มกราคม 2556

นายมานะ ประภากมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู ดิจิตอล พลัส จำกัด กล่าวว่า การได้รับสิทธิ์เปิดบริการ “TY Online” เกมฟอร์มยักษ์ที่คนทั้งโลกรอคอยในไทยครั้งนี้ ยืนยันศักยภาพผู้นำการให้บริการเกมออนไลน์ ของทรู ดิจิตอล พลัส ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากค่ายเกมคุณภาพจากประเทศจีนทั้ง Playcool ผู้พัฒนาเกม และ Changyou ผู้จัดจำหน่าย คัดเลือกให้เปิดบริการเป็นครั้งแรกก่อนประเทศอื่น โดยในวันที่ 17 มกราคม 2556 ทรู ดิจิตอล พลัส จะเปิดช่วง Close Beta ให้คอเกมทดสอบความสนุกของ “TY Online” เกมแนวเก็บเลเวล หรือ MMORPG ที่ใช้ระยะเวลาพัฒนานานถึง 4 ปี เงินลงทุนกว่า 900 ล้านบาท พิสูจน์คุณภาพด้วย 5 รางวัลใหญ่จากเวทีระดับโลก อาทิ Chinajoy Golden Plume Award for Best Cute Online Game 2011 รวมทั้งได้รับตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้เล่นชาวจีนมาโดยตลอด นับจากเปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 ในชื่อ “Tao Yuan” ซึ่งแปลว่าสวนดอกท้อ

จุดเด่นของเกม อยู่ที่การใช้ภาพกราฟฟิคแบบ 3D สวยงามสดใส ด้วยเทคโนโลยี Unreal Engine 3.0 และมีระบบการต่อสู้ในเกมแบบ ATB (Active Time Battle) ซึ่งเหนือกว่าเกมที่มีระบบการต่อสู้แบบ Turn Base ที่เปิดให้บริการทั่วไป เนื่องจากมีการเพิ่มลูกเล่นให้โจมตีได้โดยไม่ต้องรอเวลานับถอยหลัง ผู้เล่นจึงสามารถใช้ไหวพริบเฉพาะตัวในการคิดวางแผน และได้รับอรรถรสความมันส์ในการเล่นมากกว่าเดิม ตัวเกมดำเนินเนื้อเรื่องจากสุดยอดนวนิยาย “สามก๊ก” ผู้เล่นจึงจะมีส่วนร่วมกับประวัติศาสตร์จีนในยุคสามก๊ก และเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ที่ไม่เคยพบมาก่อนจากการทำเควสในเกม และผู้เล่นสามารถอัญเชิญขุนพลซึ่งเป็นตัวละครเด่นจากสามก๊ก เช่น ลิโป้ กวนอู เตียวหุย เป็นต้น มาช่วยต่อสู้ อีกทั้งยังมีตัวละครให้เลือกเล่นถึง 17 สายอาชีพ และเปลี่ยนอาชีพได้อย่างอิสระโดยไม่จำเป็นต้องเริ่มเล่นใหม่ นอกจากนี้ ยังเพิ่มลูกเล่นด้วยการจับมอนสเตอร์ในเกมมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ โดยในช่วงแรกมีมอนสเตอร์กว่า 196 ชนิด และจะอัพเดทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้เล่นสามารถผสม Skill และ Stat ของสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถร่วมทดลองเล่นเกม “TY Online” ก่อนเปิดให้บริการจริง พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรม และรับของรางวัลมากมายได้ที่งาน GG Party: the World of Games ในระหว่างวันที่ 11 – 13 มกราคม 2556 ณ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ชั้น G (ถนนศรีนครินทร์)

ติดตามรายละเอียดพร้อมทั้งข่าวสารอื่นๆ ของเกมออนไลน์ “TY Online” ได้ที่ www.TY.in.th และ facebook TY Online

View :1668

โนเกียเปิดตัว Nokia Asha 205 สองซิม

December 20th, 2012 No comments

20 ธันวาคม 2555: โนเกียเปิดตัว Nokia Asha 205 โทรศัพท์สองซิมรุ่นใหม่มาพร้อมสุดยอดประสบการณ์อินเตอร์เน็ตในราคาย่อมเยา พร้อมฟีเจอร์สังคมออนไลน์ และฟีเจอร์สร้างสรรค์ที่ให้คุณแบ่งปันข้อมูลได้ทันใจ
เป็นโทรศัพท์ที่มอบทั้งดีไซน์สุดโดน และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานด้วยคุณภาพมาตรฐานโนเกีย

เปิดตัว Slam ฟีเจอร์ใหม่เพื่อการแบ่งปันข้อมูล
เป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโนเกียที่มีฟีเจอร์ Slam ให้แบ่งปันไฟล์มัลติมีเดีย เช่น รูปภาพและวิดีโอ กับเพื่อนที่อยู่ใกล้กันได้ทันใจ Slam ทำงานกับโทรศัพท์มือถือที่มีบลูทูธโดยไม่ต้องจับคู่อุปกรณ์ และโทรศัพท์เครื่องผู้รับไม่จำเป็นต้องมีฟีเจอร์ Slam เพียงแค่คลิกก็สามารถแบ่งปันข้อมูลได้เร็วกว่าการใช้บลูทูธเพียงอย่างเดียว และไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

“Nokia Asha 205 สองซิม เป็นเครื่องมือสื่อสารสำหรับผู้ชอบแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ กับเพื่อนฝูง ผ่านฟีเจอร์ใหม่สุดสร้างสรรค์อย่าง Slam พร้อมบ่งบอกคาแรคเตอร์ของตนเองผ่านดีไซน์สุดเด่น และสีสุดโดน” มร.แกรนท์ แมคบีธ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวพร้อมเสริมว่า “Nokia Asha 205 สองซิม สร้างสรรค์ด้วยคุณภาพระดับโนเกียที่ผู้บริโภคชื่นชอบ มอบประสบการณ์อินเตอร์เน็ตสุดชาญฉลาดที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

Nokia Asha 205 สองซิม: โทรศัพท์สำหรับชาวสังคมออนไลน์
Nokia Asha 205 สองซิม เป็นโทรศัพท์ดีไซน์โดดเด่นมากับแป้นพิมพ์ QWERTY พิเศษปุ่ม Facebook ที่ให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อเฟซบุ๊คได้รวดเร็ว พร้อมโปรแกรม eBuddy Chat, Twitter และสามารถใช้งานอีเมล์ยอดนิยมอย่าง Gmail
Nokia Asha 205 สองซิมได้รับการออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าสู่สังคมออนไลน์ได้ด้วยการกดเพียงไม่กี่คลิก

ฟีเจอร์หลักอื่นๆ ของ Nokia Asha 205 สองซิมได้แก่

- การแจ้งเตือน eBuddy บนหน้าจอ เพื่อให้ผู้ใช้งานติดตามบทสนทนาใหม่ๆ ได้ทันใจ

- ความบันเทิงครบครัน ฟรีเกมสุดมันส์จาก EA 50 เกม พร้อมแอพนับแสนให้คุณได้เลือกสรรจาก Nokia Store

- ฟีเจอร์สองซิม มาพร้อมเทคโนโลยี EasySwap ที่ให้เปลี่ยนซิมการ์ดได้ง่ายโดยไม่ต้องปิดเครื่อง

- สแตนด์บายได้นานถึง 25 วัน

Nokia Asha 205 ใช้แพลทฟอร์มอินเตอร์เน็ต Nokia Xpress ซึ่งใช้เทคโนโลยี Cloud ของโนเกีย เพื่อลดการใช้ข้อมูลได้สูงสุดถึง 90% ช่วยให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินกับการใช้อินเตอร์เน็ตในราคาที่ถูกลง พร้อม Nokia Nearby ซึ่งเป็นเว็บแอพที่ให้ผู้ใช้สามารถค้นหาสถานที่น่าสนใจอย่างร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้ง และตู้เอทีเอ็มที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย

Nokia Asha 205 สองซิม มีสีฟ้า ชมพู และส้ม ให้เลือก วางจำหน่ายแล้วในราคา 1,890 บาท

ชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nokia Asha 205 สองซิมได้ที่ www.nokia.co.th

View :2213

ดีแทคมุ่งสร้างโครงข่าย 3G ระดับคุณภาพบนคลื่น 2.1 GHz

December 20th, 2012 No comments

20 ธันวาคม 2555 – ดีแทคเล็งปี 2556 สานต่อกลยุทธ์ลูกค้าคือศูนย์กลาง หรือ customer centricity บนปรัชญาการทำธุรกิจ และให้ความสำคัญกับการลงทุนทั้งโครงข่าย 2G และ 3G อีกทั้งตอกย้ำในส่วนสร้างสรรค์นวัตกรรมโปรดักต์และเซอร์วิส เพื่อให้ลูกค้าดีแทคได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน

ดีแทคได้รายงานถึงการอัพเกรดยกระดับโครงข่ายทั่วประเทศทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย โดยสัญญาณใหม่ (new network) ได้เป็นพื้นฐานของโครงสร้างโครงข่ายที่สำคัญที่พร้อมจะอัพเกรดสู่เทคโนโลยีการสื่อสารแห่งอนาคตในรูปแบบอื่นๆ ได้ทันที โดยคุณภาพของสัญญาณใหม่ที่ดีแทคลงทุนได้ครอบคลุมทั่วพื้นที่โดยเป็น 2G กว่า 10,000 สถานีฐาน และเป็น 3G อีกกว่า 5,000 สถานีฐานทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ผลจากการไดร์ฟเทสต์ (drive test) แบบอิสระเพื่อออกตรวจวัดคุณภาพและมาตรฐานโครงข่ายทั้ง 2G และ 3G บนเส้นทางทั่วกรุงเทพได้แสดงชัดว่าคะแนนในความแรงและเสถียรของสัญญาณของดีแทคนำมาเป็นส่วนใหญ่ทั้งการโทรและใช้งานดาต้าบน 2G และ 3G ทำให้ดีแทคมั่นใจสู่การให้บริการ 3G บนคลื่น 2.1 GHz ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กล่าวว่าเรามั่นใจในปี 2556 จะเป็นปีที่น่าติดตามอย่างยิ่งสำหรับชาวดีแทคและลูกค้าดีแทคทุกคน เราจะสานต่อทุกทางในการที่จะนำการใช้งานในการสื่อสารที่ดีที่สุด มาสู่ประสบการณ์ลูกค้าของเราทั้งนวัตกรรมโปรดักต์และเซอร์วิส โดยการให้บริการ 3G บนคลื่น 2.1 GHz นั้นจะมีอะไรที่หลากหลายในการให้บริการและเป็นโอกาสในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ อีกมากมายเพื่อลูกค้า อีกทั้งยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจไทยอีกด้วย นี่คือที่มาที่เราจะต้องทำโครงข่ายคุณภาพที่ดีที่สุดในการเปิดให้บริการ 3G บนคลื่น 2.1 GHz

นอกจากในการอัพเกรดยกระดับโครงข่ายแล้ว ดีแทคยังได้ปรับปรุงโครงสร้างองค์กร สร้างจุดแข็งให้กับคอลล์เซ็นเตอร์ วางระบบบริหารการจัดการซัพพลายเชนของการกระจายโปรดักต์ต่างๆ ที่นำมาจำหน่าย และปรับปรุงดีแทคฮอลล์ สู่ศูนย์บริการดีแทคแนวคิดใหม่ รวมทั้งดีแทคเซ็นเตอร์และดีแทคเอ็กซ์เพรส ทั้งหมดนี้คือความมุ่งมั่นที่ใส่ใจสำหรับลูกค้าคือศูนย์กลางที่ดีแทคได้ทำทุกอย่างมาทั้งหมดเพื่อลูกค้า

“ดีแทคพร้อมแล้วที่เป็นองค์กรสำหรับอนาคต โดยในปี 2556 ลูกค้าดีแทคจะได้สัมผัสถึงคุณภาพสัญญาณโครงข่าย การครอบคลุมการใช้งานในพื้นที่ต่างๆ และยังมีนวัตกรรมโปรดักต์และเซอร์วิส ที่จะได้รับความคุ้มค่าที่มากกว่าการคาดหวังและเหนือกว่าราคา แน่นอน นี่ก็คือสิ่งที่เรามุ่งมั่นบนปรัชญา ลูกค้าคือศูนย์กลาง หรือ customer centricity รวมทั้งนี่คือ “One ” ที่กล่าวมา” นายจอนกล่าวในที่สุด

View :1297
Categories: Telecom Tags:

10 แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่โดดเด่นที่สุดในปี 2013

December 19th, 2012 No comments

· Ericsson ConsumerLab ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มของพฤติกรรมผู้บริโภคที่สำคัญที่สุดบางประการในปีที่กำลังจะมาถึง

· เทคโนโลยี Cloud ได้ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป และกลุ่มผู้หญิงเป็นแรงผลักดันหลักในตลาดมือถือสมาร์ทโฟน ถือเป็นสองแนวโน้มที่สำคัญ

· พฤติกรรมของคนรุ่นหนุ่มสาวได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม และอินเตอร์เน็ทได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบใหม่ๆ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคง

ในขณะที่ปี 2012 กำลังจะจบลง Ericsson ConsumerLab ได้พยายามค้นหาแนวโน้มของพฤติกรรมผู้บริโภคที่โดดเด่นที่สุดสำหรับปี 2013 ที่กำลังจะมาถึง ตลอดระยะเวลามากกว่า 15 ปีที่ผ่านมา ConsumerLab ได้ทำการวิจัยลักษณะและพฤติกรรมของผู้บริโภค ในการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการด้านสารสนเทศต่างๆ

คุณ Michael Björn หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ ConsumerLab กล่าวว่า “ข้อมูลการศึกษาวิจัยทั่วโลกของเรามาจากการสัมภาษณ์ผู้คนมากกว่า 100,000 คนในแต่ละปี ในจำนวนกว่า 40 ประเทศ ซึ่งอยู่ในมหานครขนาดใหญ่กว่า 15 แห่ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้สะสมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคจำนวนมหาศาล และเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”

นี่คือแนวโน้มของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เห็นเด่นชัดที่สุด:

1. ความสำเร็จของบริการ cloud ทำให้ความต้องการของผู้บริโภคบนอุปกรณ์ต่างๆเปลี่ยนไป
มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้แท็บเล็ต และมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน ในประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสวีเดน ต่างพึงพอใจในการใช้บริการ cloud เพื่อให้สามารถใช้แอ็พตัวเดียวกันและแชร์ข้อมูลต่างๆได้ บนอุปกรณ์มากกว่าหนึ่งเครื่อง อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย

2. อุปกรณ์สื่อสารเพื่อความรวดเร็วทันใจ
จากคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่ใช้ไฟล์และโฟลเดอร์ สู่อุปกรณ์พกพาที่ใช้ผ่านแอ็พและบริการ cloud ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมจากการทำงานบนโต๊ะ สู่การใช้อุปกรณ์สื่อสารยุคใหม่ที่สามารถพกพาได้สะดวก งานหลายอย่างสามารถทำได้ในช่วงเวลาอันสั้น ขณะเข้าแถวซื้อสินค้า หรือขณะที่คุยกับใครสักคนในร้านกาแฟ โดยผู้บริโภคในหลายประเทศต้องการซื้อแท็บเล็ตมากกว่าคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป และต้องการซื้อสมาร์ทโฟนมากกว่าแล็ปท็อป อีกด้วย

3. นำอุปกรณ์บรอดแบนด์ส่วนตัวมาทำงาน
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนประมาณ 57 เปอร์เซ็นต์ จะใช้สมาร์ทโฟนส่วนตัวในที่ทำงานด้วย โดยนิยมใช้เพื่อช่วยทำงาน รับส่งอีเมลล์ วางแผนการเดินทางในธุรกิจ หาข้อมูลที่อยู่ต่างๆ และอีกหลากหลายประโยชน์ใช้สอย

4. ผู้คนในเมืองใหญ่นิยมใช้อินเตอร์เน็ททุกที่ทุกเวลา
ด้วยความต้องการของผู้บริโภคที่จะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทได้ในทุกที่ทุกเวลา ได้ผลักดันให้เกิดการเติบโตของตลาดอินเตอร์เน็ทบนมือถืออย่างแท้จริง โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนมากถึง 3,300 ล้านคนภายในปี 2018 และชีวิตในเมืองจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อมีสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์มือถือคุณภาพดี ที่ครอบคลุมทั่วถึง

5. มีการนำเครื่องมือออนไลน์มาใช้ประโยชน์ในหลายภาคส่วน
เนื่องจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ผู้คนจำนวนมากเริ่มขาดความมั่นใจต่อองค์กรภาครัฐ และเอกชนบนโครงสร้างแบบดั้งเดิม จึงหันมาใช้เครื่องมือออนไลน์กันอย่างกว้างขวางเพื่อจุดประสงค์บางอย่างและเพื่อใช้เป็นที่พึ่งในยามฉุกเฉิน เช่น การรวมกลุ่มออนไลน์เพื่อสร้างสหกรณ์ออมทรัพย์แทนระบบธนาคาร การรวมกลุ่มของนักเรียนเพื่อช่วยกันทำการบ้าน การใช้สังคมออนไลน์แบบ Linked-in เพื่อช่วยในการหางานแทนบริษัทจัดหางานแบบดั้งเดิม เป็นต้น

6. กลุ่มผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดสมาร์ทโฟน
จากการศึกษาพบว่า กลุ่มผู้หญิงเป็นแรงผลักดันสำคัญในการทำให้เกิดการยอมรับสมาร์ทโฟนอย่างกว้างขวาง โดยมากกว่า 97 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพศหญิงใช้ SMS, 77 เปอร์เซ็นต์ใช้รับส่งรูปภาพ, 59 เปอร์เซ็นต์ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค, 24 เปอร์เซ็นต์ใช้เช็คอินเพื่อแสดงสถานที่ที่ตนเองอยู่, 17 เปอร์เซ็นต์ใช้ค้นหาคูปองต่างๆ เป็นต้น ในขณะที่ตัวเลขเหล่านี้สำหรับผู้ใช้เพศชายมีค่าน้อยกว่า

7. ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คเพื่อสร้างไอเดียใหม่ๆในสังคมเมือง
ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ มักมีจำนวนเพื่อนบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค มากกว่าผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณชานเมืองมาก โดย 12 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่อยู่ในเมืองกล่าวว่า เหตุผลหลักที่พวกเขาใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค ก็เพื่อติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น ซึ่งถือเป็นเหตุผลในการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสาม รองจากการใช้เพื่อติดตามเรื่องราวของกลุ่มเพื่อน และการใช้เพื่ออัพเดตข้อมูลของตนเองสู่พวกเขา

8. ประสบการณ์ช็อปปิ้งแบบผสมผสานที่เรียกว่า “In- shopping”
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจำนวน 32 เปอร์เซ็นต์ ใช้สมาร์ทโฟนในการซื้อสินค้าอยู่แล้ว และพวกเขาเริ่มช็อปปิ้งในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “In-line shopping” โดยผสมผสานข้อดีของการเลือกซื้อสินค้าในร้าน (in-store shopping) เพื่อมีโอกาสสัมผัสกับของจริง กับมีการใช้เครื่องมือออนไลน์ (online shopping) เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม เปรียบเทียบราคา รวมทั้งใช้ซื้อสินค้าเพื่อลดเวลาในการเข้าคิวรอจ่ายเงิน เป็นต้น

9. ทีวีบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค
ผู้ชมราว 62 เปอร์เซ็นต์ ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คในขณะที่ดูวีดีโอและทีวี โดย 42 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชมกลุ่มนี้จะคุยกับผู้อื่น ถึงสิ่งที่พวกเขากำลังรับชมอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง โดย 30 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชมกลุ่มนี้ มีความเต็มใจที่จะจ่ายเงินกับ content ที่พวกเขารับชมผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์คมากกว่า และการรับชมวีดีโอและทีวีบนอุปกรณ์พกพาส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่บ้าน

10. การเรียนรู้บนความเปลี่ยนแปลง
ดัวยปัจจัยภายในและภายนอกทำให้การเรียนรู้ในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เด็กหนุ่มสาวในยุคนี้มักนำอุปกรณ์ส่วนตัวของตนเองเข้าไปในห้องเรียนด้วย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งจากองค์กรภาครัฐและเอกชน เพื่อหาเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด การเชื่อมต่อสู่โลกอินเตอร์เน็ททำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำหรับเด็กๆทั่วโลก ในประเทศอินเดีย มีเด็กอายุ 9-18 ปี จำนวนประมาณ 30 ล้านคน จากทั้งหมด 69 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ มีโทรศัพท์มือถือเป็นของตนเอง

หมายเหตุ:

ลิงค์ของ รายงานเรื่อง “10 แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่โดดเด่นที่สุดในปี 2013”: http://www.ericsson.com/res/docs/2012/consumerlab/10-hot-consumer-trends-2013.pdf

View :1836

กระทรวงไอซีที เดินสายภาคใต้เปิดบริการ ICT Free WiFi by TRUE ประเดิมที่สงขลาแห่งแรก สานนโยบาย Smart Thailand

December 19th, 2012 No comments

19 ธันวาคม 2555: กระทรวงไอซีที โดย นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมกับ กลุ่มทรู โดย นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการธุรกิจโมบายล์ และนายเจริญ ลิ่มกังวาฬมงคล ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจทรูออนไลน์ ประกาศความร่วมมือเปิดให้บริการ สู่จังหวัดสงขลาเป็นแห่งแรกของภาคใต้ ตอบรับนโยบาย ของรัฐบาลส่งเสริมการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้ชาวสงขลาได้ใช้ประโยชน์สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เพื่อคุณภาพการศึกษา การเรียนรู้ ผ่านการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทุกที่ที่มีสัญลักษณ์ ICT Free WiFi by TrueMove H โดยมี นายพิรสสิญจ์ พันธุ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นเจ้าบ้านให้การต้อนรับ

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (กลาง) นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (ขวา) นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา (ซ้าย)


นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า “โครงการ ICT Free WiFi ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มทรู ที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้อย่างจริงจัง โดยเปิดพื้นที่ให้บริการ ICT free WIFI by TRUE ที่ครอบคลุมมากถึง 50,000 จุดทั่วประเทศ รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าใช้บริการได้อย่างสะดวก เพียงเลือกชื่อเครือข่าย ICT Free WIFI by TRUE เท่านั้น โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตามนโยบาย Smart Thailand ของรัฐบาลโดยกระทรวง ICT เร่งขยายโครงการ ICT Free WiFi ให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ทั่วประเทศ และจะสามารถให้บริการพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง สนับสนุนให้ประเทศไทยพร้อมก้าวไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 ทั้งนี้ มีเป้าหมายในภาพรวมของโครงการที่จะมีจุดให้บริการ ICT Free WiFi ทั้งหมดมากกว่า 300,000 จุด ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าอย่างแน่นอน”

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “กลุ่มทรู ชื่นชมเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลโดยกระทรวงไอซีทีให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีสื่อสาร โดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย ในโครงการ ICT Free WiFi อันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มโอกาสการเข้าถึง ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศมีความสามารถในการเรียนรู้ได้ทัดเทียมคนในเมืองใหญ่ กลุ่มทรู ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ WiFi ที่มีโครงข่ายใหญ่ที่สุดในประเทศ จึงยินดีและมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ความร่วมมือกับกระทรวงไอซีที อำนวยความสะดวกให้ชาวสงขลาสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านเครือข่าย WiFi by TrueMove H ได้ทุกเวลา ทุกที่ที่มีสัญลักษณ์ ICT Free WiFi by TrueMove H ในอำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งมั่นใจว่าจะร่วมสร้างประโยชน์ เพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ให้กับเยาวชน รวมทั้งมอบคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นในทุกๆ ด้านให้กับประชาชนอย่างแน่นอน”

นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “จังหวัดสงขลานับเป็นเมืองแห่งการศึกษาของภาคใต้ที่มีมหาวิทยาลัยชั้นนำอยู่หลายแห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยสงขลา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ซึ่งการที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้ความสำคัญกับเมืองสงขลา โดยนำเทคโนโลยีสื่อสารทันสมัย อย่างอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย หรือ Wi-Fi เข้ามานั้น นับเป็นเรื่องที่ดีต่อชาวจังหวัดสงขลาที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการ ICT Free WiFi by TRUE โดยเฉพาะเรื่องของการเรียนรู้ให้กับนักศึกษา และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชนได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับจังหวัดสงขลาให้เป็นเมืองที่พร้อมรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น เพิ่มศักยภาพของจังหวัดสงขลาให้เป็นที่รู้จัก ทั้งเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม เป็นมหานครแห่งการค้า และเป็นเมืองแห่งไอที ที่มีเสน่ห์ น่าอยู่ น่าท่องเที่ยว น่าลงทุนและทันสมัย พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่”

ด้วยความพร้อมของกลุ่มทรูทั้งทางด้านการให้บริการ และศักยภาพของโครงข่ายที่มีคุณภาพ และครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ จึงสามารถให้บริการ ICT Free WiFi by TRUE โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านฮอตสปอต WiFi by TrueMove H จำนวน 50,000 จุดทั่วประเทศ ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 2 Mbps ยิ่งไปกว่านั้น ทรูมูฟ เอช ได้สร้าง SSID ชื่อ ICT Free WiFi by TRUE เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สนใจเข้าใช้บริการได้ทันที โดยสามารถลงทะเบียนรับ Username และ Password เมื่อเลือกโครงข่าย ICT WiFi by TRUE เพื่อใช้งานได้วันละ 30 นาที รวม 15 ชั่วโมงต่อเดือน และสามารถลงทะเบียนใหม่เพื่อต่ออายุการใช้งานได้ทุกๆ 3 เดือน และใช้งานได้ทุกที่ที่มีสัญลักษณ์

View :1585

“เอไอเอส” ส่งสติ๊กเกอร์ Line น้องอุ่นใจ ธีมปีใหม่! เปิดดาวน์โหลดฟรี! เพียงแอด AIS LINE Official Account

December 19th, 2012 No comments


(19 ธันวาคม 2555) นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล เปิดเผยว่า “ตลอดปี 2555 ที่ผ่านมา ตลาดแอพพลิเคชั่นมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นประเภทโซเชียลเน็ตเวิร์ก และแชท ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ถือเป็นแอพพลิเคชั่นพื้นฐานที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องต้องมีติดหน้าจอไว้ โดย “ไลน์” () ขึ้นแท่นเป็นแอพพลิเคชั่นยอดฮิตติดอันดับที่มีผู้ใช้บริการมากกว่า 10 ล้านคนต่อเดือน เนื่องจากเป็นแอพพลิเคชั่นแชทที่มีเสน่ห์ ผู้ใช้มือถือในทุกระบบปฏิบัติการทั้ง iOS, Andriod และ Windows Phone สามารถส่งข้อความคุยกันได้อย่างไร้ข้อจำกัด ตลอดจนมีฟังก์ชั่นให้ส่งสติ๊กเกอร์ลวดลายต่างๆ แทนความรู้สึกได้ กลายเป็นลูกเล่นที่ผู้ใช้มือถือชื่นชอบและถูกใจเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างมากในกลุ่มลูกค้าทุกวัย ไม่เว้นแม้แต่ผู้สูงอายุ ซึ่งเอไอเอสได้เล็งเห็นเทรนด์นี้ และเป็นโอเปอร์เรเตอร์รายแรกที่จุดกระแสการสร้างสติ๊กเกอร์ Branding ให้กับตลาด ด้วยการเปิดตัวสติ๊กเกอร์ น้องอุ่นใจคอลเลคชั่นแรกไปเมื่อกรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สาวก ให้การต้อนรับอย่างล้นหลาม และเรียกร้องให้ออกคอลเลคชั่นใหม่อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข และเอาใจสาวก Line อีกครั้ง เอไอเอสจึงได้ออกสติ๊กเกอร์ Line น้องอุ่นใจ คอลเลคชั่นใหม่ ทั้ง 32 แบบ ในธีมอวยพรปีใหม่ และแอ็คชั่นน่ารักๆ ฮาๆ กวนๆ สไตล์น้องอุ่นใจ มาให้สาวก Line ได้ดาวน์โหลดฟรี! เพียงแอด LINE Official Account เป็นเพื่อน เพื่อรับข่าวสารอัพเดทสิทธิพิเศษโปรโมชั่นที่น่าสนใจจากเอไอเอส จากนั้น ก็ดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์น้องอุ่นใจ ไปส่งความสุขช่วงปีใหม่ให้กับเพื่อนๆ ได้เลย โดยสามารถดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์น้องอุ่นใจได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2555 – 19 มกราคม 2556 ซึ่งเอไอเอสหวังว่าสติ๊กเกอร์ Line น้องอุ่นใจใหม่นี้ จะช่วยสร้างสีสันในการส่งความสุขผ่านโลกออนไลน์ให้กับทุกท่าน” นายปรัธนากล่าว

View :1988

ซิป้าพร้อมหนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย แนะใช้เทคโนโลยีคลาว์ดขยายศักยภาพและโอกาส

December 19th, 2012 No comments

กรุงเทพฯ 19 ธันวาคม 2555 : สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ขานรับนโยบายรัฐพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับภาพรวมและขยายรายได้การท่องเที่ยวไทย ด้วยโครงการ Cloud Studio: Tourism Solutions โดยเดินสายแนะนำซอฟต์แวร์โซลูชั่นและเทคโนโลยีคลาว์ดแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน 9 เมืองด้านท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ เกิดมูลค่าทางธุรกิจกว่า 100 ล้านบาท นับเป็นมิติใหม่ในการรวมตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มภาคธุรกิจด้านท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญถึงการส่งเสริมการนำซอฟต์แวร์ไปใช้ขยายศักยภาพการแข่งขัน โดย Tourism เป็นหนึ่งใน 6 อุตสาหกรรมหลักที่ซิป้าส่งเสริมพัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชั่นและการให้บริการซอฟต์แวร์ (Software as a Services) อย่างเป็นระบบและเป็นรูปธรรม

นายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “ยอมรับว่าซอฟต์แวร์มีบทบาทอย่างมากกับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในปัจจุบัน โดยซิป้าได้วางเป้าหมายที่จะพัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชั่นและการให้บริการซอฟต์แวร์เพื่อรองรับ 6 อุตสาหกรรมหลัก คือ Tourism, Logistics, Food & Agriculture, Healthcare, Education และ Jewelry อันเป็นอุตสาหกรรมสำคัญที่สร้างรายได้แก่ประเทศหรือเป็นภาคส่วนที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพประชากรไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักที่นำรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ประกอบกับนโยบายรัฐบาลที่ประกาศให้ปี พ.ศ. 2554 – 2555 เป็นปี “มหัศจรรย์ไทยแลนด์” (“Miracle Thailand” Year) ซิป้าจึงร่วมกับสมาคมส่งเสริมการส่งออกอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย จัดกิจกรรม Road Show ภายในประเทศ ภายใต้ชื่อโครงการ Cloud Studio: Tourism Solutions ด้วยแนวคิด ขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยด้วยคลาว์ด” เป็นการนำซอฟต์แวร์ด้านการท่องเที่ยวที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยและให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตไปเผยแพร่และแนะนำให้เป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท บริษัททัวร์ สปา ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว รถเช่า ในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวรวม 9 เมือง ได้แก่ พัทยา เชียงใหม่ เขาใหญ่ ภูเก็ต หัวหิน เกาะสมุย กาญจนบุรี อุดรธานี และกรุงเทพฯ โดยที่จุดเด่นของการให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านคลาวด์เทคโนโลยีคือผู้ใช้ไม่ต้องจัดหาระบบซอฟต์แวร์เอง เพียงแต่ขอใช้ในลักษณะเป็นบริการและจ่ายเงินตามปริมาณการใช้งาน ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไม่ต้องลงทุนมาก ขณะนี้ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับการตอบรับอย่างดี และเกิดมูลค่าทางธุรกิจมากกว่า 100 ล้านบาท”

“กิจกรรม Road Show ภายในประเทศ Cloud Studio: Tourism Solutions เป็นหนึ่งในกิจกรรมเชิงรุกด้านการตลาดของซิป้าที่ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยการจัดงานแต่ละครั้งจะประกอบด้วยสัมมนาสำหรับผู้บริหารและด้านเทคนิค การแสดงโซลูชั่นด้านการท่องเที่ยวโดยผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย การ Networking การสาธิตการใช้ซอฟต์แวร์ (Demonstration) และการเข้าพบสมาคม หน่วยงานด้านการท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างการรับรู้ของตลาดด้านเทคโนโลยีคลาว์ดแก่ธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว ซิป้ายังมีบทบาทในการเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย และกิจกรรมนี้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเห็นความสำคัญของซอฟต์แวร์ที่สามารถเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและขยายโอกาสด้านการตลาด” นายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว กล่าวเพิ่มเติม

ดร.พีรสันต์ บุณยคุปต์ นายกสมาคมส่งเสริมการส่งออกอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย กล่าวถึงการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า “สมาคมส่งเสริมการส่งออกอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยได้ร่วมดำเนินโครงการ Cloud Studio: Tourism Solutions กับซิป้า โดยนำซอฟต์แวร์ไทยด้านการท่องเที่ยวที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยไปร่วมแสดงในการจัดงานแต่ละครั้ง และแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ Hotel Solutions, Travelling, Spa & Restaurant และ Mobility and Digital Marketing เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนในโซลูชั่นที่สนใจ โดยได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพึงพอใจ และเนื่องจากแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ความสนใจด้านโซลูชั่นและแนวทางการตลาดจึงแตกต่างกันไป กิจกรรมครั้งนี้นอกจากจะทำให้พบกับกลุ่มผู้ซื้อแล้ว ยังช่วยให้ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยได้เห็นช่องทางการตลาดและภาพรวมของพื้นที่แต่ละแห่งชัดเจนขึ้น” ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายมีลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามจะต้องติดตามในการให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ในปี 2555 ซิป้าได้นำผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยร่วมแสดงโซลูชั่นภายในงานด้านการท่องเที่ยวและด้านเทคโนโลยีคลาว์ดในต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 4 งาน ได้แก่ งาน 3rd Cloud Computing Expo ณ ประเทศญี่ปุ่น งาน Malaysian International Tourism Exchange ณ ประเทศมาเลเซีย งาน JATA Tourism Forum &Travel Showcase ณ ประเทศญี่ปุ่น และงาน ITB ณ ประเทศสิงคโปร์ และเป็นที่น่าสนใจว่าซอฟต์แวร์โซลูชั่นของไทยเป็นที่รู้จักและเกิดการยอมรับในตลาดต่างประเทศโดยเกิดมูลค่าซื้อขายทางธุรกิจ ประมาณ 328 ล้านบาท ซึ่งหากรวมกับมูลค่าส่วนตลาดในประเทศ มูลค่ารวมของตลาดของซอฟต์แวร์ด้านท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมมีมากกว่า 428 ล้านบาท

View :1585