Archive

Archive for October, 2013

มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการสาธารณสุขไทย

October 24th, 2013 No comments

โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์(องค์การมหาชน)

ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของมนุษย์ในทุกๆ ด้าน โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอำนวยความสะดวกสบาย ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็ว ซึ่งด้านการสาธารณสุขก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ โดยปัจจุบันโรงพยาบาลได้มีการปรับเปลี่ยนระบบภายในต่างๆ จากระบบในรูปแบบกระดาษมาเป็นระบบในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ตัวอย่างเช่น เวชระเบียน ซึ่งเป็นเอกสารทางการแพทย์ที่ใช้บันทึกและรวบรวมประวัติของผู้ป่วย ทั้งประวัติส่วนตัว ประวัติการรักษา และประวัติการแพ้ยา โดยโรงพยาบาลมีการจัดเก็บเอกสารเวชระเบียนให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการให้มีความสะดวก รวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาและลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย รวมไปถึงใช้ประโยชน์ในการเชื่อมต่อข้อมูลด้วยการส่งข้อมูลเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ทางออนไลน์ระหว่างโรงพยาบาลในกรณีที่มีการส่งต่อผู้ป่วยเกิดขึ้น

โรงพยาบาลในประเทศไทยมีการจัดเก็บเวชระเบียนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้นทุกปี และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต อันเนื่องมาจากความสะดวกในการค้นหา และสามารถเรียกดูเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยวิธีการออนไลน์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแนวโน้มของโรงพยาบาลในประเทศไทยจะมีการจัดเก็บเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น แต่บ่อยครั้งที่โรงพยาบาลประสบปัญหาในการรับส่งข้อมูลในกรณีที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลเกิดขึ้น เนื่องจากแต่ละโรงพยาบาลมีระบบสารสนเทศที่แตกต่างกัน ทำให้การส่งต่อข้อมูลจากโรงพยาบาลหนึ่งไปยังโรงพยาบาลที่รับการส่งต่อไม่สามารถอ่านข้อมูลที่ส่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์ได้ ทำให้โรงพยาบาลที่รับการส่งต่อต้องเสียเวลาในการแปลงข้อมูล หรือต้องติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลที่ไม่สามารถอ่านได้ ซึ่งหากปัญหานี้เกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง หรือผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้ยาอย่างรุนแรง อาจส่งผลทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตได้ เพียงเพราะโรงพยาบาลที่รับการส่งต่อไม่สามารถอ่านข้อมูลจากโรงพยาบาลที่ส่งต่อผู้ป่วย ซึ่งทำให้ไม่ทราบข้อมูลการรักษาที่ควรระวังเป็นพิเศษ

จากปัญหาดังกล่าว มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพจึงถูกพัฒนาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นมาตรฐานในการบริหารจัดการ การรับส่งข้อมูล และการเชื่อมต่อข้อมูลและเอกสารทางการแพทย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่เพื่อให้ทุกระบบในโรงพยาบาลสามารถเชื่อมโยงกันได้ ทั้งนี้ การสร้างมาตรฐานของข้อมูลไม่ได้เป็นการบังคับให้ทุกโรงพยาบาล ต้องมีระบบการเก็บข้อมูล และระบบการทำงานที่เหมือนกันทุกประการ ตรงกันข้าม การกำหนดมาตรฐานของข้อมูลให้ถือปฏิบัติเหมือนกัน เป็นการให้อิสระแก่หน่วยงานแต่ละแห่งในการทำงานภายใต้สิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน ใช้ซอฟต์แวร์ที่แตกต่างกันตามความเหมาะสม แต่ผลสุดท้าย ทุกโรงพยาบาลจะบันทึกข้อมูลด้วยรหัสที่มีความหมายอย่างเดียวกัน และจัดรวบรวมตัวแปรต่างๆ ที่กำหนดในข้อมูลชุดที่เป็นมาตรฐานเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน

Health Level Seven (HL7) เป็นมาตรฐานแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และเป็นมาตรฐานที่ไม่เฉพาะเจาะจง ถูกออกแบบมาเพื่อตีกรอบกว้าง โดยแต่ละโรงพยาบาลสามารถปรับลักษณะให้เหมาะสมกับกระบวนการทำงานของตัวเองที่ต่างกันได้ โดยสามารถกำหนดภาษา โครงสร้าง และชนิดข้อมูลที่จำเป็นในการบูรณาการ เพื่อให้ข้อมูลถูกส่งต่อจากระบบหนึ่งไปอีกระบบหนึ่งได้อย่างราบรื่น และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในงานบริหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารองค์กร (Administrative) หรือการบริหารงานด้านสุขภาพการแพทย์ (Health and Clinical) ได้

มาตรฐาน HL7 ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เรื่อยๆ จนในปัจจุบันมีเวอร์ชั่น 3 เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เรียกว่า HL7 V3 โดยมีการกำหนดรูปแบบของภาษาที่ใช้ในการสร้างวัตถุข้อมูลของ HL7 ให้ใช้ภาษา XML (Extensible Markup Language) เพื่อเพิ่มความสามารถในการปฏิบัติการระหว่างระบบหรือองค์กร (Interoperability) ให้เป็นไปได้อย่างสะดวกราบรื่น แต่เนื่องจาก HL7 มีนโยบายการพัฒนามาตรฐานที่ยืดหยุ่นได้ ดังนั้นในอนาคตถ้ามีเงื่อนไขการใช้งานอื่นๆ ก็อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของภาษาที่ใช้ในการเก็บชุดข้อมูลได้
ปัจจุบันมีประเทศที่นำมาตรฐาน HL7 ไปใช้และเข้าร่วมเป็นสมาชิกมากกว่า 55 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศหลักที่มีบทบาทในการประยุกต์ใช้และส่งเสริมเผยแพร่ HL7 ได้แก่

ประเทศแคนาดา ได้รับการสนับสนุนจาก HL7 Canadian Constituency ซึ่งอยู่ภายใต้ Canadian Health Infoway Standards Collaborative โดยการมีส่วนร่วมกับ HL7 ของแคนาดาส่วนมากอยู่ในรูปของการทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับ HL7 ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ เช่น การเป็นพันธมิตรกับองค์กร HL7 International การให้คำตอบและข้อมูลแก่ HL7 international การสนับสนุนการประชุมทั้งในระดับประเทศและนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับ HL7 การดำเนินการและจัดการ forum ที่เกี่ยวกับ HL7 เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งการประยุกต์ใช้ HL7 ที่เป็นที่รู้จักดีคือการใช้มาตรฐาน HL7 ในระบบ Prince Edward Island’s drug information system (DIS) ซึ่งเป็นระบบข้อมูลยาที่จัดเก็บภายใต้มาตรฐาน HL7

ประเทศฟินแลนด์ สำนักงานประกันสังคม (Social Insurance Institution) ร่วมกับหน่วยงานด้านสุขภาพและสวัสดิการของประเทศในการพัฒนาฐานข้อมูลด้านสุขภาพแห่งชาติ โดยยึดตามมาตรฐาน HL7 โดยให้ชื่อระบบฐานข้อมูลว่า KanTa ซึ่งระบบจะมีรายละเอียดของข้อมูลการสั่งจ่ายยาทางอิเล็กทรอนิกส์ และร้านขายยาทั้งหมดในฟินแลนด์ โดยประชาชนในประเทศสามารถล็อกอินเข้าไปในระบบผ่านอินเทอร์เน็ตและใช้ authentication service ทำการระบุตัวตนเพื่อดูข้อมูลของตัวเอง ซึ่งสามารถทำได้สองวิธี คือ

- ใช้ระบบการระบุตัวตนที่ควบคุมโดยรัฐบาล
- ใช้ระบบการระบุตัวตนเดียวกับที่ใช้กับระบบ online banking

ระบบการระบุตัวนี้เป็นการรักษาความปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากการขโมยข้อมูลของผู้ป่วย ซึ่งระบบฐานข้อมูล KanTa ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านสาธารณสุขของประเทศฟินแลนด์เป็นอย่างมาก นอกจากผู้ป่วยสามารถดูประวัติการรักษาและข้อมูลการสั่งจ่ายของแพทย์ได้แล้ว ด้วยการเชื่อมต่อฐานข้อมูลกับร้านขายยาทั้งประเทศทำให้สามารถควบคุมการซื้อยาของผู้ป่วยในประเทศ และยังสามารถใช้ควบคุมการใช้สวัสดิการการรักษาพยาบาลของประชาชนในประเทศได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมัน สเปน อิตาลี เนเธอร์แลนด์ ปากีสถาน อินเดีย เกาหลี เป็นต้น ได้มีการนำมาตรฐาน HL7 มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพของประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยน และจัดเก็บข้อมูลสุขภาพให้มีความราบรื่นและประสิทธิภาพ

สำหรับประเทศไทยนั้น สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. มีภารกิจในการสร้างความรู้ความเข้าใจ และส่งเสริมการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นรหัสยามาตรฐานไทย หรือมาตรฐาน HL7 โดยในอนาคต สพธอ. จะร่วมมือกับศูนย์พัฒนามาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพไทย (ศมสท.) และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญที่ทำการศึกษามาตรฐานข้อมูลสุขภาพ โดยเฉพาะด้าน Health Informatics และมาตรฐาน HL7 ในการสนับสนุนการจัดสร้างมาตรฐานข้อมูลสุขภาพในระดับประเทศ

ทั้งนี้การมีมาตรฐานด้านข้อมูลสุขภาพที่ใช้ได้จริงในระดับประเทศจะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ซึ่งจะต้องสร้างความตระหนักถึงความจำเป็นและความสำคัญของการมีมาตรฐานสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ซึ่ง สพธอ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชาได้รับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ รวมถึงยังเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยให้เป็น Medical Hub ในภูมิภาคอาเซียนต่อไปในอนาคต
เอกสารอ้างอิง:

View :1373

CAT รุกวางระบบสำรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ (DR-Site) พร้อมแผนบริหารความต่อเนื่องให้สหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด

October 24th, 2013 No comments

IMG_8705

วันนี้ (24 ตุลาคม 2556) เวลา 10.30 น. ณ ศูนย์บริการลูกค้า CAT ถนนแจ้งวัฒนะ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT โดย นายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (สายงานการตลาด) CAT และนายปิยะวัตร์ มหาเปารยะ ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จํากัด (สอ.กสท.) พร้อมทีมผู้บริหารของสององค์กรได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ โครงการจัดทําศูนย์รับเหตุฉุกเฉินและระบบสํารองคอมพิวเตอร์ (Disaster and Recovery Site: DR-Site) และแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจในระบบไอทีที่สำคัญ (IT Business Contingency Plan: IT-BCP) ให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด

นายปิยะวัตร์ มหาเปารยะ ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด (สอ.กสท.) เปิดเผยว่า สอ.กสท. ได้พัฒนาศูนย์รองรับเหตุฉุกเฉินและระบบสำรองคอมพิวเตอร์ (Disaster Recovery Site: DR-Site) โดยเลือก CAT เป็นผู้พัฒนาระบบสํารองและกู้คืนข้อมูลสารสนเทศ รวมทั้งแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญหรือ IT Business Management Plan ให้สามารถพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น เหตุจลาจล และภัยพิบัติ เป็นต้น รวมทั้งมีการเตรียมพร้อมในส่วนของสำนักงานชั่วคราว (Temp Office) และเคาน์เตอร์ให้บริการทางการเงินแก่สมาชิกเฉพาะกิจ เพื่อรองรับกับสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว

“สอ.กสท. เชื่อมั่นในความพร้อมของ CAT ซึ่งมีจุดแข็งในด้านโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพ ระบบสำรองและกู้คืนข้อมูลสารสนเทศที่พร้อมให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังได้กำหนดให้มีการทดสอบแผนบริหารความต่อเนื่อง ทั้งความพร้อมของระบบสำรองและกู้คืนข้อมูลสารสนเทศอย่างเต็มรูปแบบที่จำลองสถานการณ์เสมือนจริง และสม่ำเสมอ จึงมั่นใจได้ว่า สอ.กสท. สามารถรองรับการให้บริการทางด้านการเงินให้แก่สมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นการปฏิบัติตามระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ 2553 ว่าด้วยมาตรฐานขั้นต่ำในการควบคุมภายในและรักษาความปลอดภัยสำหรับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ใช้โปรแกรมระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูล รวมถึง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550”

นายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ (สายงานการตลาด) บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) เปิดเผยว่า CAT ได้ให้การบริการจัดทำศูนย์รองรับเหตุฉุกเฉินและสำรองระบบคอมพิวเตอร์ในโครงการฯ ของ สอ.กสท. อย่างครบวงจร โดยได้ทำการพัฒนาและติดตั้งระบบสํารองและกู้คืนข้อมูลสารสนเทศ (DR Site) ในระบบศูนย์สำรองที่มีมาตรฐานสากลในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ISO 27001 รวมทั้งการให้คำปรึกษาพร้อมจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่อง ที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลในการบริหารความต่อเนื่องธุรกิจ ISO 22301

นอกจากนี้ยังมีระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและมีความมั่นคงปลอดภัยสูง ที่สามารถเชื่อมโยงการสำรองข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีความเป็นปัจจุบัน ตลอด 24 ชั่วโมง โดยหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน CAT จะสามารถเตรียมระบบสำนักงานชั่วคราว (Temp Office) และพื้นที่ในการรองรับการเปิดเคาน์เตอร์การให้บริการทางการเงินเฉพาะกิจได้ทันที เพื่อตอบโจทย์การบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจของ สอ.กสท.

ทั้งนี้บริการศูนย์รองรับเหตุฉุกเฉินและระบบสำรองคอมพิวเตอร์ รวมถึงการให้คำปรึกษาและจัดทำแผนบริหารธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Management: BCM) เป็นหนึ่งในกลุ่มบริการ CAT cyfence ที่ให้บริการรักษาความปลอดภัยระบบไอทีสำหรับลูกค้าองค์กรและหน่วยงานต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร

View :1672
Categories: Press/Release Tags:

ประกาศแถลงการณ์คัดค้านการประกาศใช้ร่างพรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับใหม่

October 24th, 2013 No comments

โลโก้4องค์กร

ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (“”) ได้มีประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า ได้ทำการประชาพิจารณ์ร่างพรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปนั้น
องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสายสารสนเทศ และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายคอมพิวเตอร์ ได้พิจารณาเนื้อหาของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวแล้ว เห็นว่าเนื้อหาของร่างแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มีรายละเอียดที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคลและขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญค่อนข้างมาก อันจะเห็นได้จากร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวได้แก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องการปิดบล็อคเว็บไซต์ให้ง่ายขึ้น โดยตัดส่วนของการกลั่นกรองโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีออกไป และให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่มากขึ้นโดยปราศจากการตรวจสอบ ซึ่งทำให้การละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารถูกละเมิด รวมทั้งร่างกฎหมายฉบับนี้ยังขาดรายละเอียดและมาตรฐานของการจัดอบรมพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบันมีการอบรมพนักงานเจ้าหน้าที่เพียงแค่ 3 วัน อันขัดต่อแนวปฏิบัติและกฎกระทรวงท้ายพรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่บังคับใช้อย่างน้อย 3 เดือน ทำให้การบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายและมีการตีความในการใช้อำนาจเกินขอบเขต รวมทั้งก่อให้เกิดความหวาดกลัวในการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ดังข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นข่าว อาทิเช่น กองบังคับปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้เข้าแทรกแซงและควบคุมการติดต่อสื่อสารประเภทโซเชียลมีเดีย อันได้แก่ การกดไลค์ กดแชร์ ผ่านเฟซบุ๊ค การใช้ Line จนเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
2045
นอกจากนี้ เนื้อหาที่แก้ไขของกฎหมายฉบับนี้ ยังขัดต่อหลักโครงสร้างขั้นพื้นฐานของการติดต่อสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต และก่อให้เกิดความรับผิดแก่บรรดาผู้ประกอบการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ผู้ให้บริการมือถือ ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตทั่วไป อันจะเห็นได้จากร่างกฎหมายที่ระบุให้การทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์และการครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ลามกอนาจารที่ส่งผ่านผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและมือถือผิดกฎหมาย แม้ประมวลผลอัตโนมัติโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใช้ถ้อยคำที่กว้างและก่อให้เกิดปัญหาในการตีความในภายหลัง ซึ่งขัดต่อหลักการร่างกฎหมายอาญาที่ต้องเคร่งครัดและรัดกุมเพื่อให้การตีความและบังคับใช้กฎหมายเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนทั่วไป ฯลฯ

ดังนั้น โดยหนังสือฉบับนี้ สื่อมวลชนที่กล่าวข้างต้นจึงขอแสดงความคิดเห็นคัดค้านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวที่ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนและอาจก่อให้เกิดความสับสนในการตีความเพิ่มเติมมากกว่าเดิม โดยสื่อมวลชนขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนเนื้อหาของร่างที่ประกาศใช้พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และให้มีการประชาพิจารณ์อย่างกว้างขวางทั่วประเทศ รวมถึงการแก้ไขกฎหมายฉบับดังกล่าว และควรตั้งตัวแทนจากองค์กรสื่อสารมวลชน ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ผู้ให้บริการเชื่อมต่อบนอินเตอร์เน็ต หรือผู้ประกอบการเว็บไซต์ รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด เข้าร่วมเป็นตัวแทนในการพิจารณายกร่างดังกล่าวด้วย เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

View :1621

ดีแทคเริ่มจำหน่าย iPhone 5s และ iPhone 5c ในประเทศไทย ศุกร์ที่ 25 ตุลาคมนี้

October 24th, 2013 No comments
ราคา iPhone 5s, 5c, 4s ของดีแทค

ราคา , 5c, 4s ของดีแทค

กรุงเทพฯ – 21 ตุลาคม 2556 – ดีแทคเริ่มจำหน่าย iPhone 5s สมาร์ทโฟนที่ล้ำหน้าที่สุดในโลกและ ไอโฟนที่มีสีสันสดใสที่สุด ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 – iPhone 5s รุ่น 16 กิกะไบต์ ราคา 2,365 บาทต่อเดือน, รุ่น 32 กิกะไบต์ ราคา 2,735 บาทต่อเดือน และรุ่น 64 กิกะไบต์ ราคา 3,095 บาทต่อเดือน ทั้งหมดเป็นราคาผ่อน 0% 10 เดือน เมื่อสมัครแพ็คเกจแบบรายเดือน ส่วน รุ่น 16 กิกะไบต์ ราคา 1,990 บาทต่อเดือน และรุ่น 32 กิกะไบต์ ราคา 2,365 บาทต่อเดือน ทั้งหมดเป็นราคาผ่อน 0% 10 เดือน เมื่อสมัครแพ็คเกจแบบรายเดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ นอกจากนั้น ยังมี iPhone 4s จำหน่ายในราคา 1,450 บาท ราคาผ่อน 0% 10 เดือน เมื่อสมัครแพ็คเกจแบบรายเดือนเช่นเดียวกัน ลูกค้าดีแทคที่ซื้อ iPhone 5s และiPhone 5c จะได้สัมผัสประสบการณ์สื่อสารที่รวดเร็วกว่ากับ dtac TriNet – 3 โครงข่ายอัจฉริยะหนึ่งเดียวของไทย

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น () กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากกับการนำ iPhone 5s และ iPhone 5c มาสู่ผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งไม่ว่าลูกค้าจะเลือก iPhone 5s ตัวเครื่องโลหะเนี้ยบกริบ หรือ iPhone 5c สีสันสดใส ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์สื่อสารที่รวดเร็วและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพกว่า บน 3 โครงข่ายอัจฉริยะ dtac TriNet และดีแทคยังให้ลูกค้าได้มากกว่ากับ แพ็กเกจที่ตอบโจทย์การใช้งาน iPhone 5s และ 5c ที่ลงตัวที่สุด”
Screen Shot 2556-10-24 at 10.25.49 AM
iPhone 5s สร้างคำจำกัดความใหม่ของประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลก กับคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่น่าทึ่งอัดแน่นอยู่ภายใต้รูปลักษณ์ที่บางและน้ำหนักเบา ทั้งชิพ A7 64 บิต ของ Apple กล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลใหม่ พร้อมแฟลช True Tone และ Touch ID เทคโนโลยีในการปลดล็อคหน้าจอใหม่อย่างง่ายดายเพียงใช้นิ้วสัมผัส ส่วน iPhone 5c คือสมาร์ทโฟนดีไซน์ใหม่ที่พรั่งพร้อมด้วยคุณสมบัติที่ทุกคนรู้จักและชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอเรติน่าขนาด 4 นิ้ว ประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วทันใจด้วยชิพ A6 กล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน * ทั้ง iPhone 5s และ iPhone 5c รองรับแถบคลื่นสัญญาณ LTE ** ครอบคลุมมากกว่าสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ในโลก พร้อมกล้องความละเอียดสูงใหม่สำหรับการใช้งาน FaceTime

iPhone 5s และ iPhone 5c มาพร้อม iOS 7 ซึ่งเป็น iOS เวอร์ชั่นที่มีการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญที่สุดตั้งแต่เปิดตัว iPhone รุ่นแรก ด้วยหน้าจอการใช้งานใหม่ที่โดดเด่นสะดุดตา กับดีไซน์โฉมใหม่หมดจด การใช้สีสันอย่างมีสไตล์ การแบ่งเลเยอร์ที่ชัดเจนตามฟังก์ชั่นการใช้งาน และไอคอนที่เคลื่อนไหวได้ตามการขยับหน้าจอ ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น iOS 7 มีคุณสมบัติการใช้งานใหม่ที่น่าสนใจนับร้อยรายการ ซึ่งรวมถึง Control Center, Notification Center, ระบบมัลติทาสก์ที่เหนือชั้นกว่าเดิม, Airdrop, ภาพถ่ายคุณภาพดีกว่าเดิม, Safari, Siri และ iTunes Radio บริการวิทยุทางอินเทอร์เน็ตฟรีที่พ่วงมากับการใช้งาน iTunes ***

View :2031

เอไอเอส 3G 2100 จับมือ กรมการขนส่งทางบก ออกบริการใหม่ ให้ลูกค้าชำระค่าภาษีรถประจำปีผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยบริการเอ็มเปย์ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

October 23rd, 2013 No comments

1

โดย นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มอบอีกหนึ่งบริการดีๆ ที่เกิดจากความเข้าใจลูกค้าผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดจับมือ โดย นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดี เพิ่มทางเลือกใหม่ในการชำระค่าภาษีรถประจำปีให้แก่ลูกค้าเอไอเอส ผ่านบริการ “ชำระค่าภาษีรถประจำปีผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยบริการเอ็มเปย์” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่นำบริการเอ็มเปย์เข้าไปเป็นโซลูชั่นเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการชำระค่าภาษีรถประจำปีให้แก่ ที่นอกจากจะง่าย ประหยัดเวลา และสะดวกสบายที่สุดแล้ว ยังมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย ทำให้ลูกค้ามั่นใจทุกครั้งที่ชำระเงิน พร้อมยังมีบริการพิเศษ SMS แจ้งเตือนการชำระภาษีรถประจำปี ที่ช่วยเตือนให้ลูกค้าชำระภาษีได้ทันเวลาด้วย

โดยมีวิธีการใช้งานง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอพฯ “ชำระภาษีรถ” มาไว้บนมือถือผ่านทาง App Store หรือ Google Play จากนั้นลงทะเบียนผู้ใช้งาน , ลงทะเบียนรถที่ต้องการชำระ และเลือกวิธีชำระเงินผ่านบริการ mPAY (เอ็มเปย์) โดยมีอัตราค่าบริการครั้งละ 60 บาท (ค่าบริการ + ค่าจัดส่งป้ายทะเบียน) และจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป สำหรับมือถือระบบปฏิบัติการ Android และสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS จะเริ่มเปิดให้บริการราวปลายเดือนธันวาคม 2556 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมการขนส่งทางบก คอลล์ เซ็นเตอร์ 1584 และเอไอเอส คอลล์ เซ็นเตอร์ 1175

View :1609

โนเกียนำเสนอนวัตกรรมใหม่ด้านการออกแบบและถ่ายภาพ ด้วยหกผลิตภัณฑ์ใหม่ แอพพลิเคชั่น และประสบการณ์การใช้งาน

October 23rd, 2013 No comments

Nokia Lumia 1320

Nokia Lumia 1320


มีอะไรใหม่
• Lumia 2520 แท็บเล็ตเครื่องแรกของโนเกียบนระบบปฏิบัติการ Windows ออกแบบมาเพื่อให้คุณทำงานได้ทุกที่ สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE และ Wi-Fi พร้อมหน้าจอที่อ่านได้ชัดเจนไม่ว่ากลางแจ้งหรือในร่ม
• Lumia 1520 และ Lumia 1320 สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้ว มาในดีไซน์ Lumia ที่เคยได้รับรางวัล หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นทำให้เพิ่มแถวของ live tile ได้อีกหนึ่งแถวเพื่อความง่ายและรวดเร็วในการเข้าถึงแอพและประสบการณ์ต่างๆ
• Asha 500, Asha 502 และ Asha 503 มาในดีไซน์ใหม่สวยใสดั่งคริสตัล กล้องที่ฉลาดขึ้น พร้อมอินเตอร์เฟซที่เร็ว และตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น
• อุปกรณ์เสริมใหม่จากโนเกียตอบสนองวิถีชีวิตการสื่อสารเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ดพร้อมแบตเตอรี่ และที่ชาร์จแบตไร้สาย
• นวัตกรรมแอพจากโนเกีย ได้แก่ Nokia Storyteller, Beamer และ Video Director
• แอพพลิเคชั่นหลากหลายจากนักพัฒนาแอพ รวมถึง Instagram, WhatsApp, Papyrus, Vine

เอสปู, ฟินแลนด์ และ อาบู ดาบี้, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – 22 ตุลาคม 2556 – โนเกียเผยโฉมกองทัพอุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์เสริม และประสบการณ์ใหม่จากโนเกีย เสริมความแข็งแกร่งด้วยแอพพลิเคชั่นจากนักพัฒนาอีกคับคั่ง โดยเปิดตัว แท็บเล็ตเครื่องแรกของโนเกียบนแพลทฟอร์ม Windows พร้อมสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่อีกสองรุ่น ได้แก่ Lumia 1520 และ Lumia 1320 นอกจากนี้ ยังเปิดตัวโทรศัพท์ Asha ใหม่ 3 รุ่น รวมถึงโทรศัพท์ 3G เครื่องแรกบนแพลทฟอร์ม Asha มอบดีไซน์และสีสันใหม่ พร้อมอินเตอร์เฟซที่ตอบสนองได้ดีกว่าเดิมในราคาย่อมเยา ทั้ง Lumia และ Asha มากับนวัตกรรมการถ่ายภาพระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมมือถือ ช่วยให้ผู้คนเก็บภาพและแบ่งปันโลกรอบตัวได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน โนเกียแนะนำอุปกรณ์เสริมใหม่ช่วยให้ชีวิตง่ายและสนุกยิ่งขึ้น พร้อมประกาศแอพพลิเคชั่นใหม่จากโนเกียและนักพัฒนา เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน Asha และ Lumia ทั้งหมดนี้ปรากฎโฉมในงาน Nokia World ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองอาบู ดาบี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Nokia Lumia 2520

Nokia Lumia 2520


“ในปัจจุบัน อุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่กลายเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิตผู้บริโภค เพราะทุกคนต้องการบันทึก เก็บรวบรวม และแบ่งปันประสบการณ์ในทุกนาทีของชีวิต” มร.สตีเฟ่น อีลอป รองประธานบริหาร กลุ่มอุปกรณ์สื่อสารและบริการ โนเกีย กล่าวพร้อมเสริมว่า “วันนี้เรากำลังเชิญชวนผู้คนทั่วโลกให้เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์สื่อสารของโนเกีย ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล Lumia และ Asha เราได้นำดีไซน์และนวัตกรรมการถ่ายภาพชั้นนำมาใส่ไว้ในอุปกรณ์ที่ใหญ่ขึ้น ในราคาที่ย่อมเยาลง คุณภาพและคุณค่าของผลิตภัณฑ์โนเกียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการผนึกกำลังกับนักพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์แอพพลิเคชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lumia และ Windows Phone และชัดเจนด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 ปี 2556 คุณภาพ และคุณค่าของ Lumia และ Asha สมาร์ทโฟนสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วโลก”

Lumia 2520 แท็บเล็ตเครื่องแรกของ Nokia บนแพลทฟอร์ม Windows กับนวัตกรรมที่ครบครันของ Lumia
Lumia 2520 เป็นแท็บเล็ตเครื่องแรกบนระบบปฏิบัติการ Windows ของโนเกีย ออกแบบให้ทำงานได้ทุกที่ ด้วยหน้าจอ HD 10.1 นิ้ว ให้ภาพสวยใส อ่านได้ชัดเจนไม่ว่ากลางแจ้งหรือในร่ม Lumia 2520 รองรับสัญญาณ 4G LTE และ Wi-Fi กล้อง 6.7 ล้านพิกเซล และเป็นการนำเลนส์ Zeiss มาไว้บนแท็บเล็ตเป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้คนได้ถ่ายภาพสวยๆ แม้ในสภาวะแสงน้อย Lumia 2520 ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows RT 8.1 เพื่อประสบการณ์การใช้งานส่วนบุคคลและท่องอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย มีหลากหลายสีสันให้เลือก ชาร์จแบตได้เร็วโดยสามารถชาร์จแบตได้สูงถึง 80% ในเวลา 1 ชั่วโมง

Lumia 2520 มากับซอฟต์แวร์ที่สร้างสรรค์เพื่อตระกูล Lumia โดยเฉพาะ รวมถึง Dragon’s Adventure เกมอินเตอร์
แอคทีฟล่าสุดที่พัฒนาร่วมกับ DreamWorks Animation ผู้ผลิตภาพยนตร์การ์ตูนชั้นนำของโลก Lumia 2520 มากับ Nokia Storyteller แอพพลิเคชั่นที่โนเกียพัฒนาขึ้นเพื่อรวบรวมภาพถ่ายและวีดีโอตามลำดับเวลาผนวกกับแผนที่ จึงทำให้ผู้ใช้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ อีกครั้งได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมี Nokia Video Director ให้คุณตัดต่อวิดีโอพร้อมใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปในวิดีโอที่ถ่ายด้วย Lumia 2520 และสมาร์ทโฟน Lumia รุ่นอื่นๆ และด้วยบริการแผนที่ HERE ทำให้ Lumia 2520 เป็นแท็บเล็ตเพียงเครื่องเดียวที่มอบประสบการณ์แผนที่นำทางออฟไลน์ที่รวดเร็วและวางใจได้ นอกจากนี้ยังมี Nokia Music พร้อม Mix Radio ติดตั้งมาในเครื่อง Lumia 2520

Lumia 2520 เสริมสไตล์ที่โดดเด่นด้วยอุปกรณ์เสริมที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือ Power Keyboard แป้นพิมพ์พร้อมแบตเตอรี่สำรองให้ใช้งานได้นานขึ้นถึง 5 ชั่วโมง มาพร้อมพอร์ต USB 2 พอร์ต ช่วยให้หมดกังวลกับปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว Nokia Power Keyboard มาพร้อม cover เพื่อการปกป้อง และด้วยแป้นพิมพ์แบบเต็มพร้อม trackpad จึงมอบความรู้สึกในการใช้งานแบบเดียวกับแล็บท็อป ทั้งยังมี Microsoft Office และ Outlook ติดตั้งมาในเครื่อง ทำให้ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น

Lumia 2520 มี 4 สีให้เลือก คือ แดงและขาวในพื้นผิวแบบมัน ฟ้าและดำในพื้นผิวแบบด้าน คาดว่าจะวางจำหน่ายในไตรมาส 4 ปี 2013 ในราคา 499 เหรียญสหรัฐไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฟินแลนด์ เป็นประเทศแรกๆ ส่วน Nokia Power Keyboard จะวางจำหน่ายพร้อมกับ Lumia 2520 ในราคา 149 เหรียญสหรัฐ


บอกเล่าเรื่องราวอย่างมีชีวิตชีวากับ Lumia 1520 และ Lumia 1320
โนเกียเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง โดยเผยโฉมสมาร์ทโฟน Lumia หน้าจอใหญ่เป็นครั้งแรก
นั่นคือ Lumia 1520 และ Lumia 1320 สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้ว พร้อมซอฟต์แวร์ล่าสุดสำหรับ Windows Phone ทำให้ Lumia 1520 และ Lumia 1320 สมบูรณ์แบบทั้งเพื่อความบันเทิงและการทำงาน เพิ่ม tile แถวที่สามตามแนวตั้งบนหน้าจอหลักทำให้ผู้ใช้มองเห็นได้ชัดขึ้น และใช้งานได้ง่ายขึ้นบนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น สมาร์ทโฟนใหม่ทั้งสองรุ่นมากับการออกแบบที่โดดเด่นของ Lumia ที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย และเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถถ่ายภาพและแบ่งปันโลกรอบตัวของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

Lumia 1520 มอบนวัตกรรมการถ่ายภาพล่าสุดจากโนเกีย ประกอบด้วย กล้อง PureView 20 ล้านพิกเซล ระบบลดการสั่นไหวของภาพ OIS ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดแม้ในที่แสงน้อย พร้อมเทคโนโลยี Oversampling และระบบซูมใหม่แบบเดียวกับ Lumia 1020 นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นใหม่ ได้แก่ Nokia Camera และ Nokia Storyteller สมาร์ทโฟน Lumia 1520 มากับหน้าจอ Full HD 1080p ขนาด 6 นิ้ว มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้ง ผู้บริโภคสามารถบันทึกวิดีโอได้อย่างมีชีวิตชีวาด้วย Nokia Rich Recording ระบบบันทึกเสียงที่อัดเสียงได้อย่างแจ่มชัดด้วยไมโครโฟนมากถึง 4 ตัว ทั้งยังเสริมศักยภาพในการทำงานด้วยโปรแกรม Microsoft Office

Lumia 1320 นำหลากหลายนวัตกรรม Lumia ระดับไฮเอนด์มาไว้บนหน้าจอ 6 นิ้ว 720p พร้อมนำเสนอแอพ Nokia Camera บนอุปกรณ์สื่อสารที่มีราคาย่อมเยา Lumia 1320 มาพร้อมกับแอพด้านภาพถ่ายมากมาย และ Nokia Music ให้คุณฟังเพลงฟรีโดยไม่มีโฆษณา นอกจากนี้ยังมีแผนที่และบริการด้านโลเคชั่น HERE ผู้บริโภคจึงสามารถสัมผัสประสบการณ์ Lumia ยอดนิยมในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

Nokia Lumia 1520 มีสีเหลือง ขาว ดำ และสีแดงเคลือบมัน คาดว่าจะวางจำหน่ายภายในไตรมาส 4 ของปี 2556 ในราคา 749 เหรียญสหรัฐ ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ โดยจะวางจำหน่ายในฮ่องกง สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฟินแลนด์ และตลาดยุโรปอื่นๆ เป็นอันดับแรก

Nokia Lumia 1320 มีสีส้ม เหลือง ขาว และดำ คาดว่าจะวางจำหน่ายภายในไตรมาสหนึ่งปี 2557 ในราคา 339 เหรียญสหรัฐ ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในจีน เวียดนาม ตามด้ายตลาดอื่นๆ ในเอเชีย อินเดีย และยุโรป
Nokia Asha 500 Asha 502 และ Asha 503 ผนวกดีไซน์สวยงามกับประสบการณ์มือถือที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
อุปกรณ์สื่อสารใหม่บนแพลทฟอร์ม Asha ได้แก่ Asha 500 Asha 502 และ Asha 503 จะมาต่อยอดความสำเร็จของ Asha 501 และขยายขอบเขตนวัตกรรมสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา สมาร์ทโฟนทั้งสามมากับดีไซน์อันโดดเด่นของโนเกีย
ด้วยลุคใหม่กรอบใสเหมือนคริสตัล มองเห็นตัวเครื่องสีสันจัดจ้านภายใน เพิ่มความหรูหราและความคงทน โดย Asha 503 รองรับเครือข่าย 3G มาพร้อมกล้อง 5 ล้านพิกเซล ทั้งยังมีแบบ 2 ซิมให้เลือกอีกด้วย

Nokia Asha 500 Asha 502 และ Asha 503 มากับแพลทฟอร์ม Asha ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อการใช้งานที่ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น อินเตอร์เฟซใหม่ช่วยให้แบ่งปันภาพถ่ายบนสังคมออนไลน์ได้เร็วและง่ายยิ่งขึ้น แค่กวาดนิ้วมือ (swipe) ก็เข้าถึงฟังก์ชั่นกล้องได้ง่ายๆ และใช้เพียงสัมผัสเดียวเพื่อการโพสต์ Fastlane มอบหน้าจอรองเพื่อเข้าถึงแอพที่ใช้งานบ่อยและสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ โนเกียตระหนักถึงความต้องการใช้งานแอพรับส่งข้อความฟรี จึงเตรียมเปิด ให้บริการแอพสุดฮิตอย่าง WhatsApp บน Asha 501 เป็นรุ่นแรกก่อนที่จะขยายสู่ Asha รุ่นใหม่ๆ ต่อไป

Nokia Asha 500 Asha 502 และ Asha 503 มีสีแดงสด เขียวสด เหลือง ฟ้า ขาวและดำ จะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาส 4 ปี 2556

Nokia Asha 500 มากับหน้าจอ 2.8 นิ้ว กล้อง 2 ล้านพิกเซล มีทั้งแบบซิมเดียวและสองซิม จะวางจำหน่ายในแอฟริกา เอเชียแปซิฟิค ยุโรป ละตินอเมริกา และตะวันออกกลาง ในราคาประมาณ 69 เหรียญสหรัฐไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ

Asha 502 มากับหน้าจอ 3 นิ้ว กล้อง 5 ล้านพิกเซล แฟลช LED รองรับการใช้งานสองซิม จะวางจำหน่ายในแอฟริกา เอเชีย-แปซิฟิก ยุโรปและตะวันออกกลาง ในราคาประมาณ 89 เหรียญสหรัฐไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ

Asha 503 รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ 3.5G หน้าจอกระจก Corning Gorilla Glass 2 ขนาด 3 นิ้ว กล้อง 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED มีทั้งแบบซิมเดียวและสองซิม ราคา 99 เหรียญสหรัฐไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ โดยจะวางจำหน่ายในแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ยุโรป ละตินอเมริกา และตะวันออกกลาง

ขยายขอบข่ายนวัตกรรมผ่านแอพพลิเคชั่น
ผู้ใช้งานจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากสมาร์ทโฟน Lumia ใหม่ ผ่านแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ได้แก่
• Nokia Video Director – แอพเพื่อการสร้างสรรค์ ตัดต่อและแบ่งปันวิดีโอจาก Lumia 2520
• Nokia Beamer – แอพเพื่อการแบ่งปันประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ให้กับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานได้ง่ายๆ โดยฉายสิ่งที่อยู่บน Lumia ไปยังหน้าจอของอุปกรณ์ใดก็ได้ที่รองรับ HTML5 สามารถแสดงได้ทั้งเอกสาร แผนที่ รายละเอียดสถานที่ หรือแม้กระทั่งภาพที่กล้องจับได้
• Nokia Storyteller บอกเล่าเรื่องราวด้วยการผนวกภาพบนสมาร์ทโฟนเข้ากับข้อมูลบนแผนที่นำทาง HERE โดยเรียงตามลำดับเวลาแล้วแสดงบนแผนที่
• Dragons Adventure ประสบการณ์สุดพิเศษเฉพาะ Lumia 2520 เกมที่ให้ทั้งครอบครัวเพลิดเพลินไปพร้อมกัน
• Instagram – สังคมออนไลน์สุดฮิตเพื่อการแบ่งปันภาพถ่ายและวิดีโอ
• Papyrus และ InNote แอพสำหรับการจดบันทึกด้วยลายมือ
• Vine สังคมออนไลน์มาแรงเพื่อการแบ่งปันวิดีโอ

สำหรับระบบนิเวศน์ของแพลทฟอร์ม Asha กำลังเติบโตด้วยแอพพลิเคชั่นที่ทวีจำนวนมากขึ้น รวมทั้งแอพพลิเคชั่น
ยอดนิยมอย่าง WhatsApp, Line แอพพลิเคชั่นด้านภาพถ่ายอย่าง PicFeed และ PicTag รวมถึง ESPN Sports Hub

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนักพัฒนา รวมถึงข้อมูลแอพพลิเคชั่นมากมายที่เปิดให้บริการแก่ผู้ใช้ Lumia และ Asha คลิก developer.nokia.com และ conversation.nokia.com

อุปกรณ์ชาร์จแบตไร้สายแบบพกพา
โนเกียเปิดตัวอุปกรณ์ชาร์จแบตไร้สายใหม่แบบพกพาที่ช่วยให้คุณชาร์จแบตได้สะดวกขึ้น เร็วขึ้น และไร้สายอย่างแท้จริง ชาร์จได้ทุกที่ ทุกเวลา Nokia DC-50 รองรับมาตรฐาน Qi สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟนที่มีระบบชาร์จแบตไร้สายในตัว ได้แก่ Lumia 1520 Lumia 1020 Lumia 925 และ Lumia 920

Nokia DC-50 จะวางจำหน่ายทั่วโลกในไตรมาส 4 ในราคา 99 เหรียญสหรัฐ ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ

View :1580

สพธอ.จับมือ SANS ดันคนไทยสู่หลักสูตรสกัดภัยไซเบอร์ระดับโลก ผสานความร่วมมือ5 ข้อเพื่อไทยเป็นผู้นำไซเบอร์ระดับภูมิภาค

October 23rd, 2013 No comments

Photo Caption_ข่าวใต้ภาพ

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา : ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT) ภายใต้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) และSANS Institute (SANS) สถาบันฝึกอบรม ออกใบรับรอง และวิจัยระดับนานาชาติในด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ระดับสูงที่ได้รับความเชื่อถือและใหญ่ที่สุดในโลก จัดงานแถลงความร่วมมือและลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระดับประเทศครั้งสำคัญเพื่อเพิ่มบุคลากรไทยด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity) ซึ่งจะนำประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำทางไซเบอร์ในระดับภูมิภาค

น.อ.รศ.ดร.ประสงค์ ประณีตพลกรัง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้เกียรติเป็นประธานและสักขีพยาน ในพิธีลงนาม MOU ระหว่าง 2 หน่วยใหญ่ โดยนางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สพธอ. หน่วยงานหลักของประเทศไทยในการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้มีความน่าเชื่อถือและมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยคุกคามด้านสารสนเทศ รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรให้มีความแข็งแกร่งด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และเพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้แก่ประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมี ThaiCERT ภายใต้การกำกับดูแลของ สพธอ. เป็นกลไกหลักในภารกิจดังกล่าว และนาย Mason Brown ประธานและผู้บริหารสูงสุด (Director and CEO) ของ SANS สถาบันอบรมและออกใบรับรองด้านความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ระดับสูง (Information Security) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีหลักสูตรมากกว่า 50 หลักสูตร พร้อมใบรับรองด้าน Information Security กว่า 25 ประเภท สำหรับความร่วมมือครั้งนี้จะเพิ่มจำนวนผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ของชาติ โดยมีปัจจัยสู่ความสำเร็จ 5 ข้อคือ (1) ค้นหาผู้ที่มีความสามารถพื้นฐานและมีศักยภาพในการอบรมหลักสูตร (2) อบรมด้วยเนื้อหาที่ทันสมัย เชื่อถือได้ และผ่านการรับรองแล้ว (3) คัดเลือกผู้ฝึกอบรมที่มีความสามารถและทักษะการสอนที่ดีเลิศ (4) รับรองผู้เข้าอบรมว่าเข้าใจเนื้อหาอย่างแท้จริง โดยประเมินจากการลงมือปฏิบัติจริง และ (5) ตั้งกลุ่มผู้มีความสามารถที่จัดโปรแกรมอบรมได้ด้วยตัวเองและพัฒนาผู้ที่มีความสามารถเป็นเลิศต่อไปได้ เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน

นาย Mason Brown เผยว่า “การโจมตีทางไซเบอร์เป็นภัยคุกคามที่มีความซับซ้อนและแปลกใหม่ขึ้นทุกวัน จำเป็นที่จะต้องส่งเสริมและพัฒนาผู้ปฏิบัติงานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของไทยให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามต่างๆ น่ายินดีที่สพธอ. และ ThaiCERT ได้แสดงความทุ่มเทอย่างมากในความร่วมมือครั้งนี้

ส่วน นางสุรางคณา วายุภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การรับมือภัยคุกคามอย่างมีประสิทธิภาพ เราจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนบุคลากรและยกระดับความสามารถของพวกเขาให้ทัดเทียมกับสากล จากสถิติเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้ที่ได้รับใบรับรองของ SANS จากสิงคโปร์ถึง 375 คน ส่วนมาเลเซีย 206 คน ขณะที่มีคนไทยได้รับเพียง 38 คนเท่านั้น ความร่วมมือกับSANSอย่างเป็นรูปธรรมครั้งนี้จะนำเราไปในทิศทางที่ต้องการได้” นางสุรางคณา กล่าวปิดท้าย

View :1240
Categories: Press/Release Tags:

ทรูมูฟ เอช เปิดจำหน่าย iPhone 5s และ iPhone 5c ในไทย วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมนี้

October 21st, 2013 No comments

Screen Shot 2556-10-21 at 3.42.08 PM
ประกาศจำหน่าย สมาร์ทโฟนล้ำสมัย และ สมาร์ทโฟนสีสันสดใสอย่างเป็นทางการในไทย เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม ที่ร้านทรูช้อป ทั่วประเทศ และตัวแทนจำหน่ายทรูมูฟ เอช iPhone โดย ความจุ 16 GB ราคา 2,390 บาทต่อเดือน ความจุ 32GB ราคา 2,750 บาทต่อเดือน และความจุ 64 GB ราคา 3,090 บาทต่อเดือน สำหรับการผ่อนชำระ 10 เดือน iPhone 5c ความจุ 16 GB ราคา 1,990 บาทต่อเดือน และความจุ 32 GB ราคา 2,390 บาทต่อเดือน สำหรับการผ่อนชำระ 10 เดือน นอกจากนี้ ยังมี iPhone 4s วางจำหน่ายในราคา 1,450 บาทต่อเดือน สำหรับการผ่อนชำระ 10 เดือนอีกด้วย ลูกค้าที่ซื้อ และiPhone 5c จากทรูมูฟ เอช จะได้รับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างเต็มประสิทธิภาพ บนเครือข่ายคุณภาพความเร็วสูง ผ่าน 4G LTE, HSPA+ และ DC-HSDPA

ดร. ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการพาณิชย์ กลยุทธ์การขายและรีเทล /ทรูไลฟ์สไตล์รีเทล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ในนามทรูมูฟ เอช ผมมีความรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้นำ iPhone 5s และ iPhone 5c มาจำหน่ายให้กับลูกค้าชาวไทย ในฐานะที่ทรูมูฟ เอช เป็นผู้ให้บริการ 4G LTE รายแรกและรายเดียว ทำให้ทรูมูฟ เอชพร้อมมอบประสบการณ์การสื่อสารที่เหนือกว่า ผ่านฟีเจอร์ของ iPhone รุ่นล่าสุดให้แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง”

iPhone 5s คือ นิยามใหม่ของสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลก ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและบางเฉียบ น้ำหนักเบา เต็มประสิทธิภาพด้วยฟีเจอร์ใหม่สุดล้ำมากมาย อาทิ ชิปเซ็ต Apple A7 รองรับการประมวลผลแบบ 64-bit กล้องหลัง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมด้วยแฟลชแบบ True Tone และระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID ใช้สำหรับปลดล็อกเครื่องได้อย่างปลอดภัยและง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัสสำหรับ iPhone 5c มาในดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เสริมทัพด้วยฟีเจอร์สุดฮิต ได้แก่ หน้าจอเรตินาขนาด 4 นิ้ว ชิปเซ็ต Apple A6 เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว และกล้องหลัง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานนานขึ้น* ทั้งนี้ iPhone 5s และ iPhone 5c รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย LTE ได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในโลก รวมทั้งกล้องความละเอียดสูงสำหรับFaceTime HD

จุดเด่นที่สำคัญของ iPhone 5s และ iPhone 5c คือ ระบบปฏิบัติการ iOS 7 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่และโดดเด่นที่สุดนับตั้งแต่มี iPhone รุ่นแรกเกิดขึ้นในโลก โดยมาพร้อมกับระบบยูสเซอร์ อินเทอร์เฟซใหม่ ออกแบบทางด้านสีใหม่ทั้งหมด แสดงภาพเคลื่อนไหวได้สมจริงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ระบบปฏิบัติการ iOS 7 อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายร้อยฟีเจอร์ อาทิ ศูนย์ควบคุม (Control Center) ศูนย์การแจ้ง (Notification Center) ระบบมัลติทาสก์ (Multitasking) AirDrop ช่วยให้การแชร์รูป วิดีโอ ข้อความ ได้ง่ายดายขึ้น ทั้งยังพัฒนาความสามารถของฟังก์ชั่นต่อไปนี้ Photos, Safari และ Siri พร้อมแนะนำ iTunes Radio ฟังวิทยุบนอินเทอร์เน็ต iTunes ได้ฟรี

View :1436

เอไอเอส 3G 2100 ประกาศจำหน่าย iPhone 5s และ iPhone 5c ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2556 เป็นต้นไป

October 21st, 2013 No comments
หมายเหตุ : ราคาเครื่องข้างต้นเฉพาะลูกค้าที่ซื้อพร้อมสมัครแพ็กเกจเท่านั้น (ราคารวม VAT)

หมายเหตุ : ราคาเครื่องข้างต้นเฉพาะลูกค้าที่ซื้อพร้อมสมัครแพ็กเกจเท่านั้น (ราคารวม VAT)

ประกาศจำหน่าย สุดยอดสมาร์ทโฟนที่ล้ำหน้ามากที่สุดในโลก และ รุ่นที่มีสีสันกว่าไอโฟนรุ่นก่อนๆ ที่เคยมีมา โดยจะเริ่มเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2556 ผ่านเอไอเอสช็อป และร้านเทเลวิซที่ร่วมรายการทั่วประเทศ โดยเอไอเอสมีให้เลือกทั้ง ที่เปิดตัวด้วยราคาเครื่องพร้อมแพ็กเกจใหม่สุดคุ้ม และสิทธิพิเศษผ่อน 0% นาน 10 เดือน คือ 16GB ราคา 2,390 บาท / เดือน , 32GB ราคา 2,750 บาท / เดือน และ 64GB ราคา 3,090 บาท / เดือน และสำหรับ iPhone 5c เปิดตัวด้วยราคาเครื่องพร้อมแพ็กเกจ คือ 16GB ราคา 1,990 บาท / เดือน และ 32GB ราคา 2,390 บาท / เดือน โดยลูกค้าเอไอเอสที่ลงทะเบียนแสดงความสนใจไว้แล้ว สามารถรับสิทธิ์เลือกรุ่นและสาขาได้ผ่านเว็บไซต์ www.ais.co.th/ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 ต.ค.56 เวลา 09.00 น. นอกจากนี้เอไอเอสยังวางจำหน่าย iPhone 4s 8GB ในราคาเครื่องพร้อมแพ็กเกจที่ 1,450 บาท / เดือน ด้วย ลูกค้าเอไอเอสจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำกับ และ iPhone 5c ได้เต็มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี HSPA+ บนเครือข่ายคุณภาพของเอไอเอส 3G 2100

นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “เพราะเอไอเอสเข้าใจความต้องการของลูกค้าในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต เราจึงมีความยินดีที่ได้นำนวัตกรรมระดับโลกมามอบให้กับสาวกไอโฟนชาวไทยอีกครั้ง โดยเชื่อมั่นว่าทั้ง iPhone 5s และ iPhone 5c ซึ่งเป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนที่คนไทยรอคอย เมื่อผสานรวมกับเครือข่ายคุณภาพของเอไอเอส 3G 2100 , แพ็กเกจใหม่สุดคุ้ม , แอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย และการให้บริการที่ดีเยี่ยม จะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าในยุค 3G ได้อย่างแน่นอน”

หมายเหตุ : ราคาเครื่องข้างต้นเฉพาะลูกค้าที่ซื้อพร้อมสมัครแพ็กเกจเท่านั้น (ราคารวม VAT)

หมายเหตุ : ราคาเครื่องข้างต้นเฉพาะลูกค้าที่ซื้อพร้อมสมัครแพ็กเกจเท่านั้น (ราคารวม VAT)


iPhone 5s นิยามใหม่ของประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในโลก ที่มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ภายใต้รูปลักษณ์ที่บางและเบาอย่างน่าทึ่ง ด้วยชิปประมวลผลใหม่ล่าสุด Apple A7 แบบ 64 บิท ทำให้ศักยภาพการประมวลผลเป็นไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งกล้อง iSight คุณภาพสูง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ปรับขนาดเซ็นเซอร์รับภาพให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พร้อมไฟแฟลชแบบ LED 2 ดวง หรือ True Tone Flash และมีระบบ Touch ID ซึ่งเป็นนวัตกรรมการปลดล็อกเครื่องรูปแบบใหม่ ที่สามารถตรวจสอบลายนิ้วมือของผู้ใช้ผ่านการสแกน ส่วนคุณสมบัติของ iPhone 5c นั้น มีการออกแบบสีสันใหม่ให้เลือกมากถึง 5 สี ตัวเครื่องด้านหลังใช้วัสดุ Polycarbonate ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานที่ทุกคนคุ้นเคย ด้วยชิปประมวลผล Apple A6 จอภาพ Retina ขนาด 4 นิ้ว และกล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยทั้ง iPhone 5s และ iPhone 5c มีการปรับปรุงการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น รวมทั้งรองรับการใช้งาน FaceTime ในระดับ HD อีกด้วย

iPhone 5s และ iPhone 5c มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 7 ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของ iOS ตั้งแต่เปิดตัว iPhone มา โดยได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดด้วยการเพิ่มสีสันให้ดูโดดเด่น และมีลักษณะแตกต่างกันในแต่ละเลเยอร์ เพื่อช่วยสร้างมิติความลึก ความเป็นลำดับชั้นของการแสดงผลบนหน้าจอ และช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ iOS 7 ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามามากกว่า 100 ฟีเจอร์ อาทิเช่น Control Center หรือแผงสำหรับควบคุมและตั้งค่าต่างๆ , Notification Center เป็นส่วนที่เตือนให้ทราบว่ามีเมล์ใหม่เข้ามา หรือมีสายที่ไม่ได้รับ , การปรับปรุงการทำงานแบบ Multitasking ที่ช่วยให้สลับการใช้งานแต่ละแอพพลิเคชั่นได้อย่างรวดเร็ว , AirDrop ช่วยให้สามารถส่งไฟล์ต่างๆ ไปยังอุปกรณ์ iOS อื่นๆได้อย่างง่ายดาย , การปรับปรุงการจัดการรูปภาพ โดยการแบ่งเป็นช่วงเวลาและสถานที่ที่ถ่ายภาพ และ Safari ตัวใหม่ที่สวยกว่าและทำงานเร็วขึ้นกว่าเดิม เป็นต้น

View :1352

“เอไอเอส 3G” จับมือ พรีเซนเตอร์ “เจมส์ จิ” ปั้นแอพฯ “AIS James’ Life”

October 21st, 2013 No comments

(21 ตุลาคม 2556) : เอไอเอส 3G โชว์หมัดเด็ด มัดใจสาวกโซเชียล เดินหน้าตอกย้ำกลยุทธ์การทำงานร่วมกับ Presenter “เจมส์ จิรายุ” ก้าวไปอีกขั้น สู่การเป็น Partner จับมือกันพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ “AIS James’ Life” จัดเต็มคอนเทนต์โดนใจ ให้สาวกได้ฟินเฟ่อร์กับเจมส์ จิ ทั้งวันทั้งคืน! ทั้งสติ๊กเกอร์เวอร์ชั่นใหม่ มาเต็ม ในสไตล์ภาพจริง ครั้งแรกในเมืองไทย และโฟโต้เฟรมสุดน่ารัก ให้ควงแขนเจมส์ จิ ได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมตามติดชีวิตเจมส์ จิ ส่งตรงจากแดนกิมจิก่อนใคร! แถมยังลุ้นชิงรางวัลบินไปเที่ยวเกาหลีกับเจมส์ จิ แบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ

นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขายเอไอเอส กล่าวว่า “นอกเหนือจากการพัฒนาเครือข่าย 3G 2100 ที่ขณะนี้ ครอบคลุมหัวเมืองทั้ง 77 จังหวัด และจะขยายต่อเนื่องไม่หยุดยั้งแล้ว สิ่งที่เอไอเอสมุ่งมั่นทำงานอย่างต่อเนื่องควบคู่กัน คือการพัฒนาบริการเพื่อตอบไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคแต่ละกลุ่มได้อย่างรอบด้านและตรงใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคโซเชียลฯ ที่แอพพลิเคชั่นกลายเป็นสิ่งสามัญที่ทุกคนใช้งานกันอย่างคุ้นเคย รวมถึงดิจิตอลคอนเทนต์ที่มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันแอพฯ ที่เป็น Local Content กำลังได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 100% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพราะมีเนื้อหาและวิธีการนำเสนอที่ตรงใจผู้บริโภค ชาวไทย ซึ่งเอไอเอสเข้าใจในจุดนี้เป็นอย่างดี จึงมุ่งพัฒนาแอพฯ Local Content มอบให้กับผู้ใช้บริการมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น AIS Bookstore, AIS Movie Store, AIS Music Store ฯลฯ โดยเทรนด์ของดิจิตอลคอนเทนต์จะมีลักษณะเฉพาะ (Unique) และหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความสนใจของคนแต่ละกลุ่ม ดังเช่น เจมส์ จิ ถือเป็นเจ้าของคอนเทนต์ที่มี Value มีฐานแฟนคลับที่ชื่นชมเป็นจำนวนมาก จึงมีศักยภาพในการพัฒนาไปสู่ดิจิตอลคอนเทนต์ ในขณะเดียวกัน ก็มีบทบาทเป็นคนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นโซเชียล จึงเข้าใจถึงความต้องการของชาวโซเชียล และสามารถนำเสนอคอนเทนต์ที่จะโดนใจสาวกได้อย่างแน่นอน ดังนั้นแอพฯ AIS James’ Life จึงถือเป็นอีกสิ่งดีๆ ที่เข้าใจ ที่เอไอเอสตั้งใจสร้างสรรค์ออกมาให้ผู้ใช้บริการ”

ล่าสุด เอไอเอสจึงเดินหน้าไปอีกขั้น ด้วยการยกระดับการทำงานร่วมกับ Presenter “เจมส์ – จิรายุ ตั้งศรีสุข” ก้าวสู่การเป็น Partner ร่วมมือกัน สร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นใหม่ “AIS James’ Life” เพื่อสาวกชาวโซเชียลและขาแชท ได้สนุกกับสติ๊กเกอร์, โฟโต้เฟม และวีดิโอคลิปสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเจมส์ จิ ซึ่งนับเป็นมิติใหม่ของวงการโทรคมนาคม เป็นครั้งแรกที่ Presenter มีส่วนร่วมในการพัฒนาบริการเพื่อผู้ใช้มือถือ โดยเจมส์ จิ ได้เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกไอเดีย การผลิตชิ้นงาน การคัดสรรคอนเทนต์ ฯลฯ ทั้งนี้ ในแง่ของแบรนด์ นอกจากจะเป็นการขยายฐานในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเอไอเอส 3G ในระดับ Mass ได้มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างบรรทัดฐานในการทำงานแบบ Teamwork เพื่อเสริมซึ่งกันและกันในเชิงการตลาดอีกด้วย”

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล เอไอเอส กล่าวเสริมว่า “สำหรับเจมส์ จิ ถือเป็นดาราและพรีเซนเตอร์คนแรกของวงการ ที่ขยับมาเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมสร้างบริการกับโอเปอเรเตอร์ ภายใต้ Business Model เดียวกับ Content Partner ที่ร่วมทำธุรกิจกับเอไอเอส ซึ่งเป็นแอพฯ ที่รวบรวมดิจิตอลคอนเทนต์ยอดฮิตอันดับต้นๆ แห่งยุค ทั้งโซเชียล แชท และวีดิโอคลิป ไว้ในแอพฯ AIS James’ Life ที่นี่ที่เดียว ประกอบด้วย

1. สติ๊กเกอร์เจมส์ จิ เวอร์ชั่นใหม่ กับแอ็คติ้งสดใส ขี้เล่น ประกอบคำยอดฮิตที่คนนิยมส่งแชทหากัน เช่น รักนะ, สู้สู้, ห่วงนะ, กู้ดไนท์, OMG ฯลฯ รวมถึงธีมน่ารักตามเทศกาลต่างๆ อาทิ ฮัลโลวีน,ลอยกระทง ซึ่งเป็นสติ๊กเกอร์รูปแบบใหม่ครั้งแรกของเมืองไทย ที่เป็นภาพจริง ไม่ใช่คาแรกเตอร์การ์ตูนเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งสามารถส่งหาเพื่อนๆ ได้ทุกแชท ทั้ง LINE, Whatapps, We Chat, Facebook ฯลฯ เบื้องต้น มีกว่า 17 ลาย และจะปล่อยลายใหม่ตามออกมาเรื่อยๆ

2. โฟโต้เฟรมสุดน่ารัก ให้ลูกค้าได้ครีเอทภาพหรือสติ๊กเกอร์ที่ถ่ายคู่กับเจมส์ด้วยตัวคุณเอง ใครอยากแอ็คชั่นแบบไหน จัดเต็มได้เลย แล้วก็สามารถส่งเป็นสติ๊กเกอร์หรือแชร์ภาพสนุกๆ ให้เพื่อนบนโซเชียลได้เลย

3. ภาพและวีดิโอคลิป อัพเดทชีวิตเจมส์ จิ ทั้งในเมืองไทยและที่เกาหลีแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ก่อนใคร ในแฟนๆ ได้หายคิดถึงระหว่างที่เจมส์ จิ ไปเข้าคอร์สเรียนร้องเพลงที่ประเทศเกาหลีเป็นเวลา 6 สัปดาห์
“แอพฯ AIS James’ Life รองรับทั้งบน iOS และ Android ดาวน์โหลดง่ายๆ เพียงกด *303*3# โทรออก รอรับลิงค์เพื่อติดตั้งแอพฯ บนมือถือ ในราคาพิเศษ! เพียง 29 บาท จากปกติ 59 บาท (จ่ายค่าบริการเพียงครั้งเดียว) เฉพาะลูกค้าเอไอเอส 3G รายเดือน และเอไอเอส 3G วัน-ทู-คอล! เท่านั้น

พร้อมกันนี้ เรายังจัดกิจกรรมพิเศษตอบแทนลูกค้า ให้ลุ้นชิงรางวัลเที่ยวเกาหลีฟรี! กับเจมส์ จิ 5 วัน 3 คืน จำนวน 28 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง ร่วมสนุกง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอพ AIS James’ Life ตั้งแต่วันนี้ – 8 พ.ย. 2556 เดินทางวันที่ 27 พ.ย. – 1 ธ.ค. 2556 ซึ่งในอนาคต จะทยอยเพิ่มคอนเทนต์เจมส์ จิ ที่สดใหม่และหลากหลายเข้ามาเรื่อยๆ อย่างแน่นอน” นายปรัธนากล่าวสรุป

เจมส์ – จิรายุ ตั้งศรีสุข ในฐานะพรีเซนเตอร์ AIS 3G และ Content Partner ผู้ร่วมพัฒนาบริการ เปิดเผยว่า “สำหรับโปรเจ็กท์แอพฯ AIS James’ Life นี้ ผมรู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจมาก ที่มีโอกาสร่วมพัฒนาแอพฯ บนมือถือให้ลูกค้าเอไอเอส 3G ได้ใช้ ได้เล่นกัน ซึ่งถือเป็นการทำงานที่ก้าวไปอีกขั้นของผมกับเอไอเอส 3G เดิมเราทำงานด้วยกันในฐานะพรีเซนเตอร์ แต่วันนี้เราพัฒนามาเป็นพาร์ทเนอร์กัน ซึ่งผมได้มีส่วนร่วมในการคิด ออกไอเดีย ร่วมกันสร้างสรรค์บริการ จึงถือเป็นก้าวใหม่และก้าวที่สำคัญในชีวิตผมเลย
อย่างที่ทราบกันดีว่า ยุคนี้เป็นยุคของ 3G ยุคของโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่คนติดต่อสื่อสารกันผ่านแอพฯ บนมือถือ แม้ว่าจะอยู่ไกลกัน ก็ยังทำให้รู้สึกใกล้ชิดกันได้ตลอดเวลา สำหรับอาชีพนักแสดงอย่างผม ก็อยากจะมีช่องทางในการสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มแฟนคลับ ก็เลยมาลงตัวที่แอพฯ ที่จะทำให้แฟนๆ ได้อัพเดทชีวิตของผมได้มากยิ่งขึ้น ทั้งที่เมืองไทย และที่เกาหลี รวมถึงได้สนุกกับคอนเทนต์ ที่ผมตั้งใจทำเต็มที่จริงๆ

อย่างในส่วนของสติ๊กเกอร์ ก็เป็นครั้งแรกเลยที่เป็นรูปภาพจริงๆ ไม่ได้เป็นตัวการ์ตูนอย่างที่ผ่านมา เพราะเราอยากสื่อตัวตนของเราจริงๆ ก็เป็นแอ็คขี้เล่นๆ สไตล์ผม ส่วนโฟโต้เฟรมนี่ แฟนๆ จะได้ครีเอทภาพถ่ายน่ารักๆ ด้วยกัน เพื่อส่งเป็นสติ๊กเกอร์หรือแชร์เป็นภาพสนุกบนโซเชียลก็ได้ แล้วก็พรุ่งนี้แล้ว ที่ผมต้องไปเรียนร้องเพลงที่เกาหลีกว่า 6 สัปดาห์ ผมก็จะคอยอัพเดทชีวิตที่เกาหลีอัพขึ้นแอพฯ นี้ให้แฟนๆ ได้ติดตามชมทุกวัน เรียกว่าพิเศษสุดๆ บนแอพฯ AIS James’ Life ที่นี่ที่เดียวเลย
ที่สำคัญต้องขอบคุณเอไอเอส 3G มากๆ ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา ที่มอบโอกาสให้ผมได้ทำอะไรสนุกๆ ได้ไปเดินสายโรดโชว์พบปะลูกค้าทั่วประเทศ และวันนี้ ก็ได้จับมือเป็นพาร์ทเนอร์กัน ทำแอพฯ เพื่อแฟนๆ สาวกโซเชียล 3G”

View :1252
Categories: Application Tags: