Archive

Posts Tagged ‘ออโตเดสก์’

ออโตเดสก์เปิดตัว 4 พันธมิตรเทคโนโลยีสะอาดในสิงคโปร์

November 15th, 2012 No comments

ครบรอบ 1 ปีโครงการ ของออโตเดสก์ในสิงคโปร์

กรุงเทพฯ – 14 พฤศจิกายน 2555 – , อิงค์ (NASDAQ: ADSK) ผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์เพื่องานออกแบบด้าน 3D design งานเอ็นจิเนียร์และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ฉลองครบรอบ 1 ปีของโครงการ Clean Tech Partner Program ในประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่เปิดตัวโครงการจนถึงปัจจุบันมีบริษัทกว่า 1,000 บริษัทเข้าร่วมโครงการนี้จากทั่วโลก รวมถึงนักนวัตกรรมในประเทศสิงคโปร์ด้วย

ออโตเดสก์ Clean Tech Partner Program นำเสนอซอฟต์แวร์แบบจำลองดิจิตอล (Digital Prototyping) จากออโตเดสก์สู่บริษัทเทคโนโลยีสะอาดด้วยค่าธรรมเนียมน้อยที่สุด โดยมีเป้าหมายเร่งรัดด้านนวัตกรรมและที่อยู่บางพื้นที่ของโลกที่กำลังถูกบีบรัดด้วยความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยแรงสนับสนุนจากรัฐบาลทำให้โครงการนี้ได้รับความสนใจจากบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเทคโนโนโลยีสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, ยาพาหนะไฟฟ้า, อาคารสีเขียว, การบำบัดของเสียและน้ำเสีย และโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นจำนวนมาก

เจค ลาเยส หัวหน้าแผนกความยั่งยืนและเทคโนโลยีสะอาด ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของออโตเดสก์ กล่าวว่า “เราตื่นเต้นมากสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปีแรกของ Clean Tech Partner โปรแกรมในสิงคโปร์ และออโตเดสก์ก็ยังยินดีต้อนรับพันธมิตรใหม่ๆ เสมอ สิงคโปร์มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเราเพราะมันได้แสดงให้เห็นถึงความคิดริเริ่มที่แข็งแกร่งและการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีสะอาด ซึ่งในสิงคโปร์เราจะได้เห็นว่า เทคโนโลยีสะอาดมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมสีเขียว, โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ, เมืองอัจฉริยะ, ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการผลิตพลังงาน เป็นต้น ซึ่งเป็นความพยายามของเราคือการช่วยผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีสะอาดสร้างสรรค์โลกทียั่งยืนที่ดีกว่าด้วยโปรแกรมของออโตเดสก์”

ผู้เข้าร่วมโปรแกรม Clean Tech Partner ในสิงคโปร์

BioMachines
BioMachines เป็นผู้พัฒนาโซลูชั่นการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับสถานที่ห่างไกล เช่น ในป่าไม้และพื้นที่การเกษตร ซึ่งแพล็ตฟอร์มอัจฉริยะนี้ได้พัฒนาความถูกต้องแม่นยำและคุณภาพของข้อมูลในสถานที่ห่างไกลและสามารถช่วยให้นักวิจัยประหยัดเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศ, ดิน, พืช, สัตว์ และน้ำอีกด้วย ผู้ก่อตั้งร่วมของ BioMachines วินเซนท์ เว่ย กล่าวว่า “จากการใช้โซลูชั่นของออโตเดสก์เราสามารถออกแบบ, มองเห็นภาพและจำลองแนวคิดการค้นพบใหม่ๆ ของเราได้ ด้วยแบบจำลองดิจิตอล เราสามารถสำรวจและสื่อสารทางความคิดและทดสอบแนวคิดได้หลากหลาย เพื่อเร่งการปรับปรุงสำหรับลูกค้าของเรา เช่น Asian Plantation Capital ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำของการจัดการป่าไม้และการเพาะปลูกที่ยั่งยืนซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย เป็นต้น”
Green Building Group
Green Building Group เป็นรุ่นที่ 3 ในการพัฒนาโซลูชั่นเทคโนโลยีฟิล์มแสงอาทิตย์ หรือที่รู้จักกันว่า Building Integrated Photovoltaic (BIPV) เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมวัสดุห่อหุ้มพื้นผิวอาคาร ถือได้ว่าเป็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่สามารถผลักดันการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ “เราต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่มีความซับซ้อนในการออกแบบผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ของเราสำหรับบูรณาการใช้ร่วมกับระบบลักษณะภายนอกของตึกอาคาร เราใช้ซอฟต์แวร์ Autodesk Inventor และ AutoCAD ซึ่งเราสามารถปรับแต่งการออกแบบผลิตภัณฑ์ของเราให้ตรงกับความต้องการพิเศษของสถาปัตยกรรมนั้นๆ ได้ เรารู้สึกขอบคุณออโตเดสก์ที่รองรับตลาดเกิดใหม่และองค์ประกอบที่สำคัญของภาคพลังงานสะอาด และอนุญาตให้เรามีเครื่องมือที่สามารถพัฒนาโซลูชั่นเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ที่ทันสมัยได้” กล่าวโดย ฟิลิป กวาง กรรมการผู้จัดการของ Green Building Group

Sing Yue Technologies
Sing Yue Technologies เป็นบริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์พลังงานทดแทน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้นรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่กำลังรอจดสิทธิบัตรอย่าง การออกแบบ Compressed WindTurbine และผลิตภัณฑ์ Wind Controller ด้วย ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการพัฒนา เอกลักษณ์ของ WindTurbine คือมีเป้าหมายอยู่ที่การใช้ชีวิตในเมือง โดย ไมล์ เฉิง ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าวว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งชอง Autodesk Clean Tech โปรแกรม เราใช้ซอฟต์แวร์ Autodesk Simulation Mechanical ของออโตเดสก์และซอฟต์แวร์การจำลองที่หลายหลากของซอฟต์แวร์แบบจำลองดิจิตอล เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เราประหยัดเวลาและทรัพยากรตอนที่เราประเมินวัสดุและข้อมูลสมมุติฐานที่ต้องการ เพื่อให้เพียงพอกับข้อกำหนดในการออกแบบของเรา เรายังสามารถสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนด้วยภาพยนตร์ที่สมจริงที่สร้างขึ้นโดยใช้ซอฟต์แวร์ Autodesk Showcase ของออโตเดสก์อีกด้วย”

Greenlots
Greenlots เป็นผู้พัฒนาด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานของตารางผ่านการจัดการเรียกเก็บเงินของยานพาหนะไฟฟ้า บริษัทนำเสนอเครือข่ายคลาวด์เบสกับการชาร์จสเตชั่นฮาร์ดแวร์สำหรับธุรกิจ, ภาครัฐและระบบสาธารณูปโภคเพื่อติดตั้งเครือข่ายของตัวเอง Greenlots ขายระบบใน 13 ประเทศและได้รับประโยชน์มากมายจากการเข้าร่วม Clean Tech Partner โปรแกรมในสิงคโปร์ตั้งแต่แรกเริ่มโครงการ “เราภูมิใจมากที่ได้เป็นบริษัทแรกในสิงคโปร์ที่เข้าร่วมกับ Clean Tech Partner โปรแกรมของออโตเดสก์ โครงการนี้ช่วยเสริมความสำคัญของบริษัทออกแบบฮาร์ดแวร์เช่นเรา ผู้ที่ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบดิจิตอลที่รวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายน้อย” กล่าวโดย รอน มาฮาเบอร์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Greenlots “ซอฟต์แวร์ต้นแบบดิจิตอลของออโตเดสก์ทำให้เราเข้าถึงเทคโนโลยีออกแบบที่ดีที่สุดได้ ซึ่งช่วยให้เราสามารถเร่งนวัตกรรมและการแข่งขันระดับโลกได้”

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้เฉลิมฉลองการครบรอบ 1 ปีแรกของโครงการ Clean Tech Partner โปรแกรมในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนความพยายาม, นวัตกรรมและความก้าวหน้าทางด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บุกเบิกคลีนเทคโนโลยี ด้วยการนำเสนอและจัดหาซอฟต์แวร์ระดับโลกจากออโตเดสก์ให้กับพวกเขา คลีนเทคโนโลยีมีโอกาสเติบโตในระยะยาวและมีมูลค่าทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการในเอเชีย และเราเริ่มเห็นถึงความสนใจจากบริษัทและองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยแล้วเช่นกัน จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคในปัจจุบันมีการเรียกร้องซัสแตนเนเบิลโปรดักส์และผ่านโครงการเช่นโครงการอย่าง Clean Tech Partner โปรแกรมมากขึ้นด้วย นอกจากนี้การสนับสนุนจากภาครัฐยังเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของโครงการนี้ที่จะช่วยในการสร้างและขยายการรับรู้ไปในทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม ออโตเดสก์สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการเติบโตในของธุรกิจอย่างยั่งยืนในภูมิภาค เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการ Clean Tech Partner โปรแกรมนี้จะบรรลุภารกิจในการช่วยลูกค้าของเราสร้างโลกที่ยั่งยืนและดีกว่าในอนาคต” กล่าวโดย นายฉัตรชาญ สุทธิพิศาล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ออโตเดสก์ ประเทศไทย

เกี่ยวกับ Clean Tech Partner Program
Clean Tech Partner Program ของออโตเดสก์ สนับสนุนความพยายาม, นวัตกรรมและความก้าวหน้าด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีสะอาด, ให้บริการด้านซอฟต์แวร์ระดับโลกในการออกแบบ, สร้างภาพวิช่วลและจำลองแนวความคิดของพวกเขาด้วยต้นแบบจำลองดิจิตอล (Digital Prototyping) บริษัทเทคโนโลยีสะอาดในอเมริกาเหนือ, ยุโรป, ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ได้รับซอฟต์แวร์มูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ* ในการสมัครซึ่งจะจ่ายเพียง 50 ดอลลาร์สหรัฐ คอลเล็กชั่นซอฟต์แวร์ของออโตเดสก์ประกอบด้วย Autodesk Product Design Suite Ultimate, Autodesk Building Design Suite Ultimate, Autodesk Simulation Mechanical, Autodesk Inventor Publisher และ Autodesk Vault Professional ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์

เกี่ยวกับออโตเดสก์
ออโตเดสก์ อิงก์ เป็นผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์เพื่องานออกแบบในด้าน 3D design งานเอ็นจิเนียร์และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ มีลูกค้าในอุตสาหกรรมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการผลิต, การออกแบบและก่อสร้าง และมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ รวมไปถึง 17 อะคาเดมี่ที่ได้รางวัลชนะเลิศสำหรับสาขา Best Visual Effects ที่ใช้ซอฟต์แวร์, แอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ, คลาวด์เซอร์วิสและชุมชนออโตเดสก์ในการออกแบบ วิช่วลไลซ์ จำลองและติดต่อสื่อสารกับแนวความคิดของพวกเขา ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2525 ที่ได้เริ่มเปิดตัวซอฟต์แวร์ AutoCAD บริษัทออโตเดสก์ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆ ให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมท่านสามารถเยี่ยมชมที่ www.autodesk.com

View :1156

ออโตเดสก์เทคโนโลยี เบื้องหลังความสำเร็จการ์ตูนอะนิเมชั่นชื่อดัง “การผจญภัยของตินติน”

February 20th, 2012 No comments


เวต้า ดิจิตอล สร้างก้าวใหม่ให้วงการอะนิเมชั่นหลังคว้ารางวัลออสการ์ด้วยซอฟต์แวร์จากออโตเดสก์

, อิงค์ (NASDAQ: ADSK) ผู้นำซอฟต์แวร์เพื่องานออกแบบ 3มิติ งานวิศวกรรมและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ได้โอกาสพาการ์ตูนคลาสสิกชื่อดัง “” (The Adventures of Tintin) กลับคืนสู่จอเงิน โดยปีเตอร์ แจ็คสัน แห่งสตูดิโอเวต้า ดิจิตอล (Weta Digital) ชื่อดังที่นิวซีแลนด์เลือกใช้ออโตเดสก์ซอฟต์แวร์ Digital Entertainment Creation (DEC) ในการนำตินตินกลับมาโลดแล่นเสมือนจริงในรูปแบบงานอะนิเมชั่นเรียลไทม์ ซึ่งซอฟต์แวร์นี้เป็นซอฟท์แวร์ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่ใช้ในการเปิดตัวเรื่อง “อวาตาร” ในปี 2552

สตีเฟ่น สปีลเบิร์กสร้างตัวละครที่ประพันธ์โดยนักเขียนชาวเบลเยี่ยม Hergé ให้ติดอยู่ในบ็อกซ์ออฟฟิศได้อย่างไร้ข้อกังขาถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งทำรายได้มากกว่า 360 ล้านดอลลาร์จากบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้มาที่สุดในปี 2554 ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเอาประสบการณ์ภาพ 3มิติมาผสมผสานเข้ากับการจับภาพและการสร้างภาพยนตร์แบบเสมือนจริงสำหรับภาพยนตร์อะนิชั่น

“ความสามารถในการจับภาพแบบดิจิตอล ควมละเอียดอ่อนต่างๆ ของการแสดงของตัวละครและการย้ายข้อมูลที่เป็นดิจิตอลในช่วงระหว่างก่อนการผลิต, ขั้นตอนการผลิต และหลังการผลิตได้เปิดประสบการณ์ให้กับการสร้างภาพยนตร์เป็นอย่างมาก” กล่าวโดย โจ เลตเตอรี่ ผู้บริหารของ Weta Digital Senior VFX “เราสามารถสร้างฉากเสมือนจริงเพื่อให้ผู้กำกับภาพยนตร์สามารถวางโครงสร้างในแต่ละช็อตให้กับตัวละครในสภาพแวดล้อมต่างๆ เหมือนการจัดฉากในการแสดงจริง การจับภาพนี้ใช้สำหรับการให้แสง, การจำลองต่างๆ พื้นผิวและใช้สำหรับส่วนที่เหลือของกระบวนการหลังการผลิตทั้งหมด ในขณะที่เทคโนโลยีการสร้างคล้ายกับที่เราใช้ใน “อวาตาร” นั้นเราเข้าใจในเครื่องมือที่เราจำเป็นต้องใช้มากขึ้น และมีความสามารถในการปรับปรุงกระบวนการทำงานที่ช่วยให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการจับภาพเคลื่อนไหวจากฉากไปสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการผลิต”

กระบวนการผลิตภาพยนตร์สำหรับ “Tintin” นั้นร่วมภาพแสดงผลจากนักสร้างสรรค์จากเวต้า ดิจิตอล และการสร้างองค์ประกอบดิจิตอลของภาพยนตร์ที่มีความละเอียดต่ำใช้ Autodesk Maya สำหรับอะนิเมชั่น 3มิติและใช้ซอฟต์แวร์ visual effects และนำข้อมูลเหล่านั้นไปสู่สภาพแวดล้อมเสมือนจริง การแสดงของจริงของตัวละครในฉากนั้นถูกจับภาพโดยใช้ Autodesk MotionBuilder ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์อะนิเมชั่นสำหรับตัวละคร 3มิติแบบเรียลไทม์ ที่จัดหาแพลตฟอร์มที่สอดคล้องกันที่สามารถให้ทีมงานผู้งานผลิตเริ่มกระบวนการทำงานได้รวดเร็ว สามารถทำซ้ำ และปรับแต่งรูปลักษณ์ของภาพยนตร์ตลอดกระบวนการผลิตได้ต่อเนื่อง การประยุกต์ใช้เทคนิคการผลิตเสมือนจริงกับการสร้างภาพภาพยนตร์ด้วยระบบ CG หรือการสร้างภาพด้วยคอมพิวเตอร์แบบเต็มรูปแบบ ซึ่งหมายความเวต้า ดิจิตอล สามารถสร้างสภาพแวดล้อมและองค์ประกอบบนฉากที่เชื่อมกับกระบวนการประมวลผลภาพและทำให้สตีเฟ่น สปีลเบิร์กทำงานในแบบที่เขาทำในการแสดงของจริง เขายังสามารถใช้ทักษะเฉพาะตัวของเขาและได้ในสิ่งที่เขากำลังมองหาอยู่ในบริบททั้งหมดในโลกของ “Tintin” นอกจากนักแสดงจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ในการแสดงของจริงแล้ว พวกเขายังสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ และอาศัยอยู่ในโลกนั้นได้ทั้งร่างกายและเสียง

“เทคโนโลยีล่าสุดจากออโตเดสก์จะช่วยให้ผู้สร้างก้าวเข้าสู่โลกใหม่อันน่าทึ่งของการสร้างภาพยนตร์” กล่าวโดย มาร์ค เปติ รองประธานอาวุโสของออโตเดสก์มีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ “เครื่องมือเหล่านั้นช่วยให้เทคนิคต่างๆ เข้าถึงผู้ผลิตภาพยนตร์ในวงกว้าง สามารถแสดงความตั้งใจและความสามารถได้ชัดเจน สิ่งที่นักสร้างสรรค์และผู้คิดค้นนวัตกรรมต่างๆ จากเวต้า ดิจิตอล ได้รับจากเทคโนโลยีนี้ คือการบรรลุเป้าหมายในภาพยนตร์อะนิเมชั่นที่เต็มไปด้วยตัวละครอะนิเมชั่นที่พวกเขารักกับประสิทธิภาพการทำงานของมนุษย์ที่ทำออกมาได้งดงามสมจริง”

“การผจญภัยของตินติน” เปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้าสำหรับการผลิตภาพยนตร์เสมือนจริง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำในสาขา Best Animated Feature Film “เวต้า ดิจิตอล มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนวัตกรรมได้สู่อนาคตเพื่อต่อยอดในสิ่งที่เป็นไปได้” กล่าวโดย เซบาสเตียน ซิลแวน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโยโลยีที่เวต้า ดิจิตอล “ความต้องการต่อเทคโนโลยีของเรามีแนวโน้วที่จะซับซ้อนมากขึ้น และเราก็ทำงานร่วมกับสถาบันวิจัย, พาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมต่างๆ และผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่างออโตเดสก์ เพื่อสร้างสรรค์เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดที่เราสามารถทำได้สำหรับนักสร้างสรรค์ของเรา ในเรื่อง “การผจญภัยของตินติน” นั้น เราได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีที่สนับสนุนจากออโตเดสก์ ที่ช่วยเราให้สร้างกระบวนการแสดงผลภาพที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดได้”

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับออโตเดสก์ซอฟต์แวร์ที่เวต้า ดิจิตอล ใช้ในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “การผจญภัยของตินติน” สามารถเข้าชมได้ที่: http://area.autodesk.com/tintin

View :1868