Archive

Posts Tagged ‘BOI Fair 2011’

บูธ SiPA โชว์เทคโนโลยีดิจิตอลยุคใหม่ ฝีมือคนไทย สะท้อนแนวคิด “ซอฟต์แวร์ไทย หัวใจเศรษฐกิจ”

January 13th, 2012 No comments

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้กำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายกรอบนโยบาย ICT 2020 ไว้ว่า “ICT เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญในการนำพาคนไทย สู่ความรู้และปัญญา เศรษฐกิจไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน สังคมไทยสู่ความเสมอภาค” โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ICT ความเร็วสูงที่ประชาชนสามารถเข้าถึงโดยเท่าเทียมกัน สร้างทุนมนุษย์ที่มีคุณภาพให้เพียงพอต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่เศรษฐกิจฐานบริการและฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญได้กำหนดให้มีการเพิ่มบทบาทและความสำคัญของอุตสาหกรรม ICTต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้มีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มของอุสาหกรรม ICT (รวมอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์) ต่อ GDP ไม่น้อยกว่าร้อยละ 18

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ในการกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นหน่วยงานหลักในการวางแผนและกำหนดนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศให้สอดคล้องกับแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ สนับสนุนการค้นคว้าวิจัย การถ่ายทอดเทคโนโลยี จัดให้มีกฎ ระเบียบ มาตรการที่จำเป็นต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ส่งเสริมให้เกิดการคุ้มครองด้านทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับซอฟต์แวร์ รวมทั้งเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานและแก้ปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการทางด้านอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ให้มีบริการแบบเบ็ดเสร็จ

โดย นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวเปิดบูธโชว์ศักยภาพทางด้านซอฟต์แวร์ในงาน ว่า “การจะดำเนินกิจการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสำนักงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้และสร้างความเจริญให้กับประเทศ ผู้ประกอบการ/ผู้ขายสามารถดำเนินกิจการอยู่ได้ ผู้ซื้อมีความพึงพอใจและเชื่อมั่นในสินค้าและบริการที่เป็นซอฟต์แวร์ไทย เพื่อให้แผนยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของสำนักงานฯ สามารถสนองตอบต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม”

นอกจากนี้ ยังมี ดร. ศุภชัย ตั้งวงศ์ศานต์ ประธานกรรมการบริหาร สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวย้ำถึงนโยบายหลัก ๆ ว่า “ จะนำพาประเทศไทยสู่เวทีซอฟต์แวร์โลก

(Stage Thailand as a Global Player in Software Industry)” สำนักงานฯจึงได้เข้าร่วมจัดงานแสดงผลงานด้านซอฟต์แวร์ของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย ในงาน BOI Fair 2011 ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยทำให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย บรรลุถึงเป้าหมายที่สำคัญในหลายประการ เพื่อสร้างการยอมรับถึงศักยภาพและความสามารถของผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ไทย ให้เกิดกับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และกับประชาชนชาวไทยที่เข้าชมงานจำนวนหลายล้านคนได้ในเวลาเดียวกัน เพื่อสร้างโอกาสให้ภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ได้พบปะและเจรจาทางธุรกิจกับผู้บริหารของผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมด้านต่างๆ ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ที่ร่วมจัดงานในครั้งนี้ ตามช่วงเวลาที่กำหนดนัดหมาย และเพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ ต่อความสำเร็จของการสร้างผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ไทยกรณีต่างๆ โดยการจัดการประชุมสัมมนา ให้กับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์และผู้สนใจทั่วไป ตลอดการจัดงาน” และได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ซิป้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเข้าร่วมงาน BOI Fair 2011 ในครั้งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆที่เป็นศักยภาพของประเทศ”

โดยการแสดงในบูธนั้นได้สะท้อนแนวความคิดในการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับการใช้งาน รวมทั้งยังยกย่องนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถ ที่ได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจาก SIPA อีกด้วย นอกจากนี้ยังแสดงศักยภาพผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเทคโนโลยีทัชสกรีน อินเตอร์แรกทีฟ มัลติทัช และฮาโรแกรมเป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนา โดยฝีมือคนไทย ที่ถูกนำมาใช้ในการถ่ายทอดเนื้อหาตามจุดแสดงต่างๆ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ กว่า 50 ราย รายได้เข้าร่วมแสดง นิทรรศการภายในบริเวณงานด้วย โดยแบ่งออกเป็น 4 โซน คือ โซนเพลินใจ โซนตั้งใจ โซนภูมิใจ และโซนได้ใจ

ภายในงานยังได้จัดให้มีการเสวนาทางธุรกิจให้ความรู้จากบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงในวงการไอที ทั้งในและต่างประเทศ มาแนะแนวทางและให้ความรู้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งยังมีการจัดเจรจาทางธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และต่อยอดผลงาน การผลิตซอฟต์แวร์ ที่จะนำไปใช้กับอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ โดยการลดต้นทุนการนำเข้าซอฟต์แวร์ จากต่างประเทศ และขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต ด้วยความร่วมมือของคนไทยด้วยกันเอง

นับเป็นครั้งแรกที่ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA ได้เข้าร่วมเปิดบูธโชว์ศักยภาพทางด้านซอฟต์แวร์ในงาน BOI FAIR 2011 ระหว่างวันที่ 5-13 มกราคม 2555 ภายในอาคารชาแลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

View :2352

“เดลต้า” โชว์ศักยภาพ กรีนโซลูชั่นด้านอุตสาหรกรรม ในงาน BOI FAIR 2011 THAILAND

January 5th, 2012 No comments


“เดลต้า” ร่วมจัดงาน BOI FAIR 2011 THAILAND หวังโชว์ศักยภาพจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิด “Future For Nature” ซึ่งเน้นความสมดุลระหว่างนวัตกรรมและเทคโนโลยีของเดลต้า กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมเปิดตัวสินค้าทดแทนพลังงาน และกรีนเอนนีจี พวกโซลาร์อินเวอร์เตอร์ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่แรงดันสูง ในปี 2555 ออกสู่ตลาด พร้อมรุกคืบตลาดในเอเชีย และยุโรป หวังขยายฐานผลิต และเพิ่มยอดขาย ในผลิตภัณฑ์ใหม่อีกด้วย

คุณอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการระบบกำลังไฟฟ้า ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า เดลต้าจะร่วมงาน BOI FAIR 2011 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-13 มกราคม 2555 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ด้วยความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ที่เดลต้าออกแบบจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้นำเอานวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมด้วยเสมอ และ จากความเชี่ยวชาญที่มาจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน ทำให้เดลต้า สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ในแบบและขนาดต่างๆออกมารองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยการจัดงานในครั้งนี้ เดลต้าจะจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “Future For Nature” ที่เน้นความสมดุลระหว่างนวัตกรรมและเทคโนโลยีของเดลต้ากับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเดลต้าให้ความสำคัญตลอดมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯจนได้รับการยอมรับจากทั่วโลก

วัตถุประสงค์หลักของการร่วมงาน ครั้งนี้ เพื่อนำเสนอผลงานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของเดลต้าที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้โจทย์ของเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของเดลต้า ที่ว่า “มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า” อีกทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นกับนักลงทุนอีกครั้ง ตลอดจนต้องการเปิดเวทีเพื่อการเจรจาธุรกิจ แลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

“บูธของเดลต้า จะนำเสนอความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถ่ายทอดผ่านโรงภาพยนตร์จำลอง 3D ตลอดจนศักยภาพที่นักพัฒนาของเดลต้า ตั้งใจพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยตอบโจทย์ผู้บริโภค ได้เต็มประสิทธิภาพการใช้งาน ควบคู่ไปกับการดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน และคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 8,000 ราย” คุณ อนุสรณ์ มุทราอิศ กล่าว

สำหรับในปี 2555 บริษัทฯ จะเปิดตัว นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ซึ่งจะเป็นไฮไลท์ของบริษัทฯ ในกลุ่มสินค้าประเภททดแทนพลังงาน และกรีนเอนนิจี หรือพลังงานสะอาดเพื่ออนาคต เช่น โซล่าร์อินเวอร์เตอร์ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่แรงดันสูงอีกด้วย

กลยุทธ์การตลาดของเดลต้า คุณ อนุสรณ์ มุทราอิศ กล่าวว่า เน้นขยายการผลิต และเพิ่มยอดขายในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยจะมุ่งทำตลาดในเอเชีย และยุโรปให้มากขึ้น โดยเฉพาะประเทศอินเดีย ซึ่งมีการบริโภคขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะสามารถนำมาชดเชยตลาดที่หดหายไปได้ โดยที่ผ่านมาเดลต้าได้ทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ เช่น อเมริกา ยุโรป ประเทศในตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชีย โดยสินค้าที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของบริษัทฯ ยังเป็นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มรถยนต์ กลุ่มอุปกรณ์การแพทย์ กลุ่มอุปกรณ์อุตสาหกรรม และกลุ่มไฟฟ้าในครัวเรือน ซึ่งจากพันธกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมของเดลต้านี้เองที่ทำให้เดลต้าเป็นแบรนด์ที่สร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพ และใส่ใจสิ่งแวดล้อมในคราวเดียวกัน” คุณ อนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการบริหาร กล่าวสรุปในตอนท้าย

View :2139

เครือเจริญโภคภัณฑ์สู่การเป็น “ครัวของโลก” อย่างยั่งยืน นำเสนอนวัตกรรมเกษตรสมดุลในงานบีโอไอแฟร์

January 4th, 2012 No comments

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) พร้อมแสดงนวัตกรรมการเกษตรในงานบีโอไอแฟร์ 2011 ภายใต้แนวคิด “การผสมผสานกันอย่างกลมกลืนระหว่างอาหาร พลังงาน และสิ่งแวดล้อม” (Perfect Harmony) เตรียมเปิด “ศาลาเครือเจริญโภคภัณฑ์” () บนพื้นที่ 2,500 ตร.ม. ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ศาสตร์และศิลป์ของการทำเกษตรที่ผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงและเกิดความยั่งยืน

นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ ในฐานะประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ “ศาลาเครือเจริญโภคภัณฑ์” (CP Pavilion) เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซี.พี.ร่วมจัดแสดงนิทรรศการบีโอไอแฟร์ 2011 โดยนำเสนอนวัตกรรมการเกษตรภายใต้แนวคิด “การผสมผสานกันอย่างกลมกลืนระหว่างอาหาร พลังงาน และสิ่งแวดล้อม” หรือ “Perfect Harmony” ด้วยเพราะเชื่อมั่นในศักยภาพและโอกาสของประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านการเกษตรซึ่งประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำมันบนดินหรือสินค้าเกษตรที่สามารถเป็นได้ทั้งอาหารและพลังงานทดแทน ซึ่งหากมีการจัดการที่ดิน มีระบบชลประทานทันสมัย และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาการเกษตรเพื่อเพิ่มคุณภาพและผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งจะเป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร(Food security) และจะทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารป้อนคนทั้งโลก หรือ เป็นครัวของโลกได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ในฐานะบริษัทไทยที่ประกอบธุรกิจหลักด้านการเกษตรพร้อมที่จะตอบแทนบุญคุณแผ่นดินในการนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาภาคเกษตรไทย ซึ่งจะทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และทำให้เกษตรกรไทยมีฐานะร่ำรวย

ในการนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้สร้าง “ศาลาเครือเจริญโภคภัณฑ์” (CP Pavilion) เพื่อแสดงนวัตกรรมเกษตรที่สะท้อนให้เห็นว่าการผลิตอาหารเพื่อมาเป็นพลังงานของมนุษย์นั้นสามารถที่จะดำเนินอย่างผสมผสานไปด้วยกันได้กับการสร้างพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะแฝงอยู่ทั้งในส่วนของวิธีคิดและวิธีปฏิบัติที่จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายสุวิทย์ กล่าวว่า “รูปลักษณ์ภายนอกอาคารเกิดมาจากแนวคิดของการ คิดใหม่ทำใหม่ (Rethink) โดยสร้างการรับรู้และสะท้อนถึงศักยภาพของซีพี ตั้งแต่วิธีคิดจนถึงวิธีลงมือปฏิบัติในการสร้างอาชีพหรือผลิตภัณฑ์ทั้งหมดแบบครบวงจรโดยไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่เกิดจากการบริหารจัดการทรัพยากรและกระบวนการผลิตผสานอย่างลงตัวกับเทคโนโลยีเพื่อให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างอาหาร พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น โครงสร้างภายนอกของตัวศาลาจึงใช้วัสดุตกแต่งเป็นโครงเหล็ก ซึ่งเป็นตัวแทนของเทคโนโลยี และเนรมิตความเขียวขจีของพืชพรรณธัญญาหารด้วยการจำลองนาข้าวผสมพืชพลังงาน คือ ข้าวโพด เพื่อสื่อให้เห็นว่าหากมีการจัดการพื้นที่อย่างเป็นระบบและรู้จักใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำการเกษตรก็จะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพและผลผลิตสูงสุด ส่วนการจัดภูมิทัศน์ภายนอกเน้นแสดงให้เห็นถึงการปลูกพืชอาหาร เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ และพืชพลังงาน เช่น เช่น อ้อย ยาง ปาล์ม ข้าวโพด มันสำปะหลัง ผสมกันได้อย่างกลมกลืน โดยนิทรรศการให้ข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์ คุณลักษณะ และประโยชน์ใช้สอยอย่างละเอียด”

สำหรับแนวคิดการตกแต่งภายในอาคารเน้นนำเสนอเรื่องราวกว่า 90 ปี จากอดีตสู่ปัจจุบันของซีพีผ่านสื่อมัลติมีเดียภาพและเสียงเต็มรูปแบบเพื่อให้น่าสนใจและน่าติดตาม ภายใต้หัวข้อ “อิ่มท้องด้วยอาหาร อิ่มสมองด้วยความรู้ อิ่มใจด้วยความสนุกสนาน” โดยแบ่งนิทรรศการเป็น 7 โซน โดยโซนที่ 1 จากเมล็ดพันธุ์สู่อาหาร จากอาหารสู่ความงดงาม เป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านเทคนิคการทำภาพนิ่งให้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหว (Video Mapping) ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงอย่างทรงประสิทธิภาพ ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่เรื่องธุรกิจเมล็ดพันธุ์ ปรัชญาการดำเนินธุรกิจ “3 ประโยชน์” ของเครือซีพี นวัตกรรมการเกษตรแบบครบวงจร นวัตกรรมการเพิ่มผลผลิตมาตรฐานสูงสุด นวัตกรรมแห่งการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ระดับโลก นวัตกรรมการคัดสรรสายพันธุ์ชั้นเลิศ ไปจนถึงนวัตกรรมพัฒนาความคิด “อาหารสมอง” จากการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมภายใต้การดำเนินงานของ “ทรู” และนวัตกรรมพัฒนาคนด้วยการก่อตั้ง โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ เทคโนธุรกิจ ศูนย์การเรียนรู้ปัญญาภิวัฒน์ และสถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ เพื่อยกระดับการศึกษาของไทยและสร้างเยาวชนสู่การเป็นมืออาชีพด้านการค้าปลีก

โซนที่ 2 อิ่มโอกาส เป็นการฉายภาพยนตร์เรื่อง ประเทศไทย…ดินแดนแห่งโอกาส พร้อมเพลงประกอบจาก ยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว ศิลปินชื่อดัง โซนที่ 3 อิ่มท้อง “โลกของซีพี” นำเสนอกระบวนการผลิตและการแปรรูปอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยของเครือซีพีผ่านจอพลาสม่าขนาดยักษ์ โซนที่ 4 อิ่มเอิบ “อุโมงค์เกษตร” เป็นการจำลองบรรยากาศการเกษตรมาไว้ในงาน ไม่ว่าจะเป็นนาข้าว ไร่ข้าวโพด บ่อเลี้ยงปลา รวมทั้งฟาร์มเลี้ยงไก่ โซนที่ 5 อิ่มสมอง เป็นการนำเสนอเรื่องราวการประยุกต์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติมาสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โซนที่ 6 อิ่มเอมพระบารมี นำเสนอโครงการต่างๆ ที่ซีพีได้น้อมนำพระราชดำริและพระราชดำรัสมาดำเนินการ พร้อมจำลองต้นโพธิ์ให้ผู้เข้าชมงานร่วมถวายพระพร โซนที่ 7 อิ่มใจ ผู้เข้าชมงานจะได้สนุกไปกับเทคโนโลยีเสมือนจริงที่จะจำลองบรรยากาศการซื้อขายสินค้าทางอิเล็คทรอนิกส์ (E-commerce)ซึ่งจะพลิกโฉมหน้าการซื้อขายสินค้าในอนาคต

“ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจการเกษตรและอาหารของไทย เครือซี.พี.มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยโอกาส จึงพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของงานแสดงสุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากกลุ่มอุตสาหกรรมแถวหน้าของไทยและบริษัทชั้นนำระดับโลกที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และจะเป็นอีกแรงหนึ่งที่ช่วยสะท้อนศักยภาพด้านการส่งเสริมการลงทุนของไทยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและตัวแทนการค้าจากทั่วโลก และเชื่อว่าภาคเกษตรของไทยจะมีส่วนช่วยสนับสนุนเป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ผ่านพ้นความท้าทายต่างๆ เพื่อการเติบโตต่อไปในอนาคต” นายสุวิทย์ กล่าว

ศาลาเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Pavilion) ภายในงานบีโอไอแฟร์ 2011 () จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-20 มกราคม 2555 เวลา 10.00 – 22.00 น. ที่ เมืองทองธานี สำหรับกลุ่มคณะที่สนใจเยี่ยมชมศาลาเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Pavilion) สามารถติดต่อได้ที่คุณอาภาภรณ์ สุขสัย (เจี๊ยบ) โทร. 089-823-4367 หรือ อีเมลล์ apaporn@expolink.net

View :1822

WD พร้อมโชว์ศักยภาพผู้นำฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ในงาน BOI Fair 2011 ชู 6 มิราเคิลที่ผลักดันองค์กรสู่ความเป็นเลิศในอุตสาหกรรม

December 22nd, 2011 No comments

เวสเทิร์น ดิจิตอล เตรียมจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มคอนซูเมอร์ อิเลคทรอนิกส์
และสโตเรจในงานบีโอไอ แฟร์ 2011 มหกรรมแสดงนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5-20 มกราคม 2555 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

งานบีโอไอแฟร์ 2011 เป็นมหกรรมแสดงนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ทั้งนี้ งานบีโอไอแฟร์ 2011 ได้ถูกเลื่อนจากช่วงเดือนพฤศจิกายน 2554 เนื่องจากผลกระทบน้ำท่วม โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิดรวมพลังน้ำใจ “โลกสดใส ไทยยั่งยืน” หรือ “Going Green for the Future” มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย และให้สอดคล้องกับการกำหนดทิศทางพัฒนาของประเทศให้เจริญเติบโตทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สังคมไทยก้าวไปสู่สังคมที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยและตลาดโลกหลังจากที่ได้ผ่านพ้นอุทกภัยครั้งใหญ่

โดยภายในงานครั้งนี้ จะมีการจัดนิทรรศการกลางแจ้งและนิทรรศการภายในอาคาร รวมพื้นที่จัดงานโดยรวมประมาณ 240,000 ตารางเมตร โดยเวสเทิร์น ดิจิตอลอยู่ในกลุ่มผู้แสดงนิทรรศการภายในอาคาร บริเวณโซน ในอาคารชาเลนเจอร์ 3

ภายในบูธจัดแสดงของ WD มีคอนเซ็ปต์ว่า “The HEART Disk Drive” ที่สื่อถึงความตั้งใจของทีมงาน WD ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจของลูกค้าทุกคน อันเปรียบเสมือนหลักธรรมและรากฐานแห่งความสำเร็จของบริษัท โดย WD จะจัดแสดง สิ่งมหัศจรรย์ที่เป็นแกนสำคัญผลักดันให้ WD สามารถก้าวขึ้นสู่ความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมด้านนี้ นับตั้งแต่ได้เปิดดำเนินการในประเทศไทยมาเป็นเวลา 9 ปี ที่ประกอบไปด้วย 1) Green & Clean Technology Today & Future: ในวันนี้และวันพรุ่งนี้ นำเสนอเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัย 2) Thailand Prime Minister Best Industry Award in 2011: รางวัลแห่งเป็นเลิศที่สุดในอุตสาหกรรม 3) In-depth Collaboration: องค์กรแห่งความร่วมมือเชิงลึกทางการวิจัยและพัฒนาร่วมกับหน่วยงานของรัฐบาลและมหาวิทยาลัย 4) Happy Workplace: สถานประกอบกิจการที่อบอวลไปด้วยความสุข 5) First Product R&D in Thailand: เป็นผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดฟ์รายแรกที่มีการทำ R&D เต็มรูปแบบในประเทศไทย และ 6) Size: หน่วยการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและในประเทศไทย และครองความเป็นเจ้าตลาดของอุตสาหกรรม

จากสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อเร็วๆ นี้ WD ได้รับผลกระทบจนต้องหยุดการผลิตของโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครและบางปะอินเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ และกลับมาดำเนินการผลิตฮาร์ดไดรฟ์ตามปรกติของตึกหนึ่งในส่วนโรงงานที่บางปะอินเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ มุมแสดงนิทรรศการชื่อ “Flood Recovery Corner” ภายในบูธ WD จะแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของ WD ในการรับมือกับปัญหาน้ำท่วม การร่วมแรงร่วมใจของทีมงาน รวมทั้งการแสดงน้ำใจให้ความช่วยเหลือของพนักงาน WD จากทั่วโลก ในการร่วมกันฟื้นฟูชีวิตและชุมชนของผู้ประสบภัยน้ำท่วม

นอกจากนี้ WD จะจัดแสดงเทคโนโลยีโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลแบบกลุ่มส่วนบุคคล หรือ เพอซัลนอล คลาวด์ (PERSONAL CLOUD) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงและแบ่งปันไฟล์ข้อมูลดิจิตอลบนเครือข่ายในบ้านได้อย่างอิสระและมีความปลอดภัยสูง โดยใช้ฮาร์ดไดรฟ์เครือข่ายรุ่น My Book® Live™ เป็นตัวเชื่อมต่อกับเครือข่ายในบ้าน เพื่อสร้างพื้นที่จัดเก็บข้อมูลดิจิตอลที่ใช้งานร่วมกันได้ ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าถึงไฟล์ข้อมูลได้ทั้งจากภายในบ้านและจากนอกบ้านได้ทุกเวลา โดยผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ และผ่านโปรแกรมแอพลิเคชั่นของ WD ได้แก่ WD Photos™ และ WD 2go™

นายสัมพันธ์ ศิลปนาฎ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการหัวอ่าน-เขียน (ประเทศไทย) บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (ประเทศไทย) จำกัด แสดงความคิดเห็นว่า “บริษัทรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในงานบีโอไอแฟร์ 2011 ซึ่งเป็นนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ในรอบทศวรรษ ที่แสดงถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมของบริษัทชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศที่มาลงทุนในเมืองไทย
งานครั้งนี้จะช่วยดึงความเชื่อมั่นด้านการลงทุนและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศให้กลับคืนหลังจากที่ได้เผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่ สำหรับ WD แล้ว BOI คือมิตรรัก พันธมิตรที่ใกล้ชิด และผู้ที่มีพระคุณของเรา เรายินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งของงานและร่วมสนับสนุนให้ประสบความสำเร็จสูงสุด เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศมีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการลงทุนในประเทศไทย”

ค้นข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมออกงาน BOI Fair ที่ WD@BOI Fair คลิก http://www.facebook.com/pages/WD-BOI-Fair/125215814234004?sk=info หรือเฟซบุ๊ค แฟนเพจ WD ในประเทศไทย คลิก http://www.facebook.com/wdcthailand

View :1757