Archive

Posts Tagged ‘HP’

เอชพีตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำการให้บริการ กราฟฟิกโซลูชั่นชั้นนำแก่ธุรกิจ

October 13th, 2010 No comments

เอชพีประกาศเปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีกราฟฟิกอาร์ตชั้นนำของบริษัท ในงานแสดงนวัตกรรมเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์การพิมพ์นานาชาติของเกาหลี ประจำปี 2010 (Korea International Printing Machinery & Equipment Show) หรือ โดยโซลูชั่นต่างๆ อันล้ำสมัยที่นำมาเผยโฉมล่าสุดนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้มืออาชีพด้านกราฟฟิกอาร์ตได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนด้านการตลาดที่มากยิ่งกว่าเดิม พร้อมทั้งยังช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนลงได้อีกด้วย

จอห์น โซโลมอน รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ เอชพี เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวว่า “ อุตสาหกรรมการพิมพ์กำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงจากระบบ การพิมพ์แบบอะนาล็อกไปสู่ระบบดิจิตอลอย่างรวดเร็ว องค์กรธุรกิจต่างๆ จะต้องตักตวงประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ในตลาดปัจจุบัน เพื่อปิดประตูความเสี่ยงที่จะ เพลี่ยงพล้ำให้กับคู่แข่ง ” จากการประเมินของ Pira ในปี 2008 การพิมพ์ระบบดิจิตอลครองสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 12 ของตลาดการพิมพ์ทั้งหมด และจะเติบโตสูงสุดถึงร้อยละ 20.9 ภายในปี 2014 นั่นย่อมหมายถึงผู้ให้บริการงานพิมพ์ ( Print Service Providers : PSPs) จะสามารถสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ๆ ในด้านการพิมพ์ระบบดิจิตอล ”

ไฮไลท์สำคัญของการประกาศล่าสุดของเอชพีในงาน KIPES 2010 ได้แก่

— การประกาศผลผู้ชนะรางวัล “ Asia Pacific and Japan Digital Print Awards 2010 ครั้งที่สาม ” ของเอชพี ซึ่งรางวัลดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องความสำเร็จ และผลงานนวัตกรรมที่มีความโดดเด่นในแวดวงการการพิมพ์และการออกแบบตราผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ทั่วทั้งภูมิภาค โดยเป็นผลงานที่พิมพ์โดยแท่นพิมพ์ดิจิตอล Indigo

— เอชพีให้การสนับสนุนแก่สมาคม Digital Solutions Cooperative (Dscoop) ในการจัดการประชุมสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกราฟฟิกอาร์ตเป็นครั้งแรกในภูมิภาคที่จัดขึ้นพร้อมกันกับงาน KIPES 2010 ในปีนี้ โดยเอชพีเป็นผู้ให้การสนับสนุนหลักของการจัดงาน พร้อมทั้งประสานงานอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมการอำนวยการของสมาคม Dscoop Asia Pacific และผู้นำของ Dscoop North America รวมทั้งในด้านการรวบรวมเหล่าผู้เชียวชาญด้านอุตสาหกรรมดังกล่าวมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในงานนี้ด้วย

— ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกราฟฟิกอาร์ตจะสามารถให้บริการ โซลูชั่นด้านการพิมพ์ระบบดิจิตอลที่มีความคุ้มค่าและล้ำสมัย ให้แก่องค์กรธุรกิจ / เจ้าของแบรนด์ ผ่านการใช้ชุดผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีกราฟฟิกอาร์ตชั้นนำของแวดวงอุตสาหกรรม

— แท่นพิมพ์ดิจิตอล HP Indigo W7200 Digital Press ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในครั้งนี้ เป็นแท่นพิมพ์แบบคู่ และสามารถป้อนกระดาษได้อย่างต่อเนื่อง ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีคุณภาพดั่งระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ทและมีประสิทธิภาพการทำงานสูง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจด้วยบริการแอพพลิเคชั่นสิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่สร้างกำไร แท่นพิมพ์รุ่นนี้สามารถพิมพ์แบบสี่สีด้วยอัตราความเร็ว 240 หน้าต่อนาที และ แบบขาวดำที่อัตราความเร็ว 960 หน้าต่อนาที

— เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึงร้อยละ 10 ด้วยคุณสมบัติพิเศษ HP Indigo 7500 Digital Press Intelligent Automation เครื่องพิมพ์ HP Indigo 7500 Digital Press รุ่น ใหม่ที่ได้รับการเสริมประสิทธิภาพมากกว่าเดิมนี้จะมาพร้อมกับ เทคโนโลยี UV Coater เป็นครั้งแรกในตลาดเอเชียแปซิฟิก

— HP Indigo 3550 Digital Press เป็นแท่นพิมพ์ระดับ เริ่ม ต้นใช้งานที่อาศัยการลงทุนต่ำ โดยจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในงานนี้เช่นกัน แท่นพิมพ์รุ่นนี้จะมอบทางเลือกที่คุ้มค่าให้แก่ลูกค้าที่กำลังมองหาแท่น พิมพ์ดิจิตอลที่ให้คุณภาพในระดับเดียวกันกับระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ท รวมทั้งประโยชน์จากความสามารถในการใช้งานอเนกประสงค์ระบบดิจิตอล

— ผู้ให้บริการงานพิมพ์ที่มอบบริการเสริมมูลค่าด้านการตลาดสามารถออกแบบปกซีดี / ดีวีดี ให้แก่ลูกค้าได้ตามต้องการแบบมืออาชีพด้วย LightScribe Direct Disc Labeling

— เพิ่มมูลค่าการลงทุนในปัจจุบันของคุณให้มากที่สุดได้ง่ายๆ โดยการผสานระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ทเข้ากับเทคโนโลยี HP Thermal Inkjet (TIJ) พร้อมมอบโซลูชั่นการพิมพ์แบบอิงค์เจ็ทที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง

ตักตวงประโยชน์สูงสุดจากความชำนาญระดับแนวหน้าของเอชพีในด้านอุตสาหกรรมกราฟฟิก

เอ ชพีเดินหน้าเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้แก่ผลิตภัณฑ์ด้านการพิมพ์ระบบดิจิตอลอย่าง ต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญ และความเป็นผู้นำของบริษัทในด้านอุตสาหกรรมกราฟฟิกในการต่อยอดทางธุรกิจ

— ลูกค้าของเอชพีจะสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากองค์ความรู้ความชำนาญและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของเอชพี ดังที่ได้จะเห็นได้จากส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องพิมพ์ HP Indigo ซึ่งสูงถึงร้อยละ 76 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2010 นอกจากนี้ปริมาณหน้าที่พิมพ์ได้จากเครื่องพิมพ์ HP Indigo ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37 ในปี 2010 เมื่อเทียบกับปี 2009

— สมาคม Dscoop Asia-Pacific มอบโอกาสพิเศษให้แก่สมาชิกในแวดวงอุตสาหกรรม ในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรธุรกิจของตนเอง เพื่อให้สามารถคว้าโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจไม่ให้หลุดมือ พร้อมทั้งเปิดช่องทางการตลาดใหม่ๆ นอกจากนี้ Dscoop ยังมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าจากความร่วมมือในระดับภูมิภาคให้มากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์กับสมาชิกสมาคมในการนำข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญไปใช้ รวมทั้งโซลูชั่นการพิมพ์ระบบดิจิตอลที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทผลิตแท่นพิมพ์ชั้นนำของโลก สมาคม Dscoop ก่อตั้งโดยกลุ่มผู้ใช้งานเครื่องพิมพ์ HP Indigo และทีมงาน HP Indigo ในปี 2005 โดยเป็นสมาคมผู้ใช้งาน HP Indigo Press ที่เน้นผู้ใช้งานเป็นหลัก ( user-driven community) การประชุมของสมาคม Dscoop ที่ผ่านมา ได้เปิดโอกาสพิเศษสุดให้แก่ผู้เข้าร่วมกว่า 700 คน ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จากผู้นำในอุตสาหกรรมกราฟฟิกอาร์ตทั่วโลก ซึ่งรวมถึงเบนนี่ ลันดา ผู้ก่อตั้งเครื่องพิมพ์ Indigo ผู้บริหารของเอชพี และผู้ให้บริการโซลูชั่นการพิมพ์ชั้นนำทั่วโลก อาทิ Consolidated G raphics , RPI Communisis Datam, Wing Hung และอื่นๆ อีกหลายราย นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงโซลูชั่นของเหล่าพันธมิตรด้านการพิมพ์ Workflow และ พื้นผิว ( finishing ) กว่า 30 ราย และลูกค้าผู้ใช้งาน HP Indigo ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังสามารถขยายเครือข่ายธุรกิจพร้อมทั้งเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้

— พร้อมกันนี้ เอชพียังได้ประกาศผลผู้ชนะรางวัล Asia Pacific and Japan HP Digital Print Awards 2010 ครั้งที่สาม ในงานกาล่า รางวัลดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว ทำให้คุณภาพของผลงานที่ส่งเข้าประกวดบ่งชี้ถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ระบบดิจิตอลของเหล่า ผู้ให้บริการงานพิมพ์ โดยในปีนี้เอชพีได้รับผลงานที่ส่งมาร่วมประกวดกว่า 350 ผลงาน จาก 14 ประเทศ

ก้าวสู่ความสำเร็จก่อนใครด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นและประสิทธิผลที่เหนือกว่า

ชุดผลิตภัณฑ์โซลูชั่นด้านการพิมพ์ระบบดิจิตอลล่าสุดของเอชชีสามารถมอบแอพพลิเคชั่นอันล้ำสมัย โอกาสทางธุรกิจที่คุ้มค่า และช่วยให้ ผู้ให้บริการงานพิมพ์เดินหน้าต่อยอดธุรกิจใหม่ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ โซลูชั่นการพิมพ์ระบบดิจิตอลกราฟฟิกที่สำคัญของเอชพีที่นำมาแสดงในงาน KIPES 2010 รวมไปถึง

— เครื่องพิมพ์พิมพ์ดิจิตอล HP W7200 Digital Press ที่ผสานรวมเอาคุณภาพของระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ทอันเป็นที่ประจักษ์แล้วของ HP Indigo เข้ากับประสิทธิภาพล้ำสมัยที่จำเป็นเพื่อความเป็นเลิศในสภาพแวดล้อมการผลิตชิ้นงานอันหลากหลาย ซึ่งรวมไปถึง การพิมพ์หนังสือตามความต้องการ และมีจำนวนพิมพ์ ไม่สูง ( short-run) แคมเปญสื่อโฆษณาทางไปรษณีย์ ( Direct Mail ) ที่ออกแบบตามความต้องการและมีปริมาณพิมพ์สูง สิ่งพิมพ์ประเภททรานส์โปรโมชั่น ( Transpromotional statements ) ที่มีปริมาณพิมพ์สูง และอื่นๆ

— เครื่อง พิมพ์ดิจิตอล HP 7500 Digital Press ที่เปิดตัวในงาน KIPES จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี UV Coater ภายใน จาก GMP เครื่องพิมพ์รุ่นนี้เป็นเครื่องพิมพ์ที่สามารถทำงานได้แบบอัตโนมัติสูง ที่เข้ามายกระดับการพิมพ์ดิจิตอลระบบป้อนแผ่น ทั้งในด้านคุณภาพ ความวางใจได้ และประสิทธิภาพการทำงาน เครื่องพิมพ์รุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้แทนที่เครื่องพิมพ์ออฟเซ็ตระบบแอนะล็อกขนาดกลางและขนาดเล็ก และเพื่อจัดการกับแอพพลิเคชั่นที่มีมูลค่าสูง อาทิ สื่อทางการตลาดที่มีข้อมูลแปรผันเป็นหัวใจสำคัญ สมุดภาพ และ สื่อโฆษณาทางไปรษณีย์ ที่ปรับแต่งให้เหมาะกับผู้รับเฉพาะราย

— เครื่องพิมพ์ HP Indigo 3550 รุ่นใหม่ ให้คุณภาพของระบบการพิมพ์แบบออฟเซ็ท โดยมีการลงทุนเริ่มต้นต่ำ จึงเหมาะสำหรับลูกค้าที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจด้านแอพพลิเคชั่นการพิมพ์ดิจิตอล นอกจากนี้ เครื่องพิมพ์ HP Indigo 3550 ยังมอบประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่า สามารถใช้งานง่าย และยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยระบบการรีไซเคิลน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการพิมพ์

— ผู้ให้บริการงานพิมพ์ สามารถออกแบบปกซีดี / ดีวีดี ให้แก่ลูกค้าได้ได้ตามต้องการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้านหมึกพิมพ์และกระดาษป้ายฉลาก โดยใช้ไดร์ฟที่มีเทคโนโลยี LightScribe และสื่อที่มีซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบป้ายฉลาก นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดเทมเพลตได้ฟรี เพื่อใช้งานในทั้งในเชิงธุรกิจและส่วนตัวจากเว็บไซต์ www.lightscribe.com

— ผู้ให้บริการงานพิมพ์ สามารถ เพิ่มมูลค่าการลงทุนในปัจจุบันของตนเองได้ง่ายๆ ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยี HP Thermal Inkjet (TIJ) ที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เข้ากับระบบแท่นพิมพ์แบบออฟเซ็ตที่มีอยู่ เพื่อให้ได้โซลูชั่นการพิมพ์แบบอิงค์เจ็ทที่มีมูลค่าสูง เทคโนโลยี HP TIJ จะช่วยให้งานพิมพ์ที่ได้ความคมชัดสูงและสามารถปรับขยายขนาดการใช้งานได้ จึงนับว่าเป็นโซลูชั่นที่สามารถปรับใช้ได้ตามความต้องการและคุ้มค่า โดยมีค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของ การนำมาใช้งาน และการพิมพ์ในระดับต่ำ ไม่เพียงเท่านี้ ผู้ให้บริการงานพิมพ์ และลูกค้ายังสามารถชมโซลูชั่นอันโดนเด่นอื่นๆ ของเอชพีได้จาก HP Speciality Printing Systems (SPS) ได้ที่บูธของเอชพี ที่จัดแสดงร่วมกับพันธมิตรอื่นๆ โซลูชั่นดังกล่าวรวมไปถึง Variable Data Imprinting, Short Run Colour Label Printing, Product Identification และ LightScribe Duplicators.

เอชพีเป็นผู้นำในการพลิกโฉมหน้าการพิมพ์ระบบดิจิตอลแบบ on-demand เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการพิมพ์

เอชพีเดินหน้าต่อยอดความพยายามเพื่อความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมด้วยชุดผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ HP Indigo Digital Presses เพื่อตอบโจทย์ความต้องการโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพกำทำงานและความสามารถในการสร้างกำไรให้กับผู้ประกอบธุรกิจ เครื่องพิมพ์ HP Indigo ยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น

— เครื่องพิมพ์ดิจิตอล HP Indigo 7500 Digital Press ใช้พลังงานต่อหน้ากระดาษที่พิมพ์น้อยกว่าสูงสุดถึงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์รุ่นก่อน และยังโดดเด่นด้วยระบบการ รีไซเคิลน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการพิมพ์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อขจัดความจำเป็นในการใช้น้ำมันในการพิมพ์ภาพเพิ่มเติม

— เครื่องพิมพ์ดิจิตอล HP Indigo W7200 ใช้พลังงานต่อหน้ากระดาษที่พิมพ์น้อยกว่าสูงสุดถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์รุ่นก่อน และยังมีระบบการ รีไซเคิลน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการพิมพ์ ที่สามารถลดการใช้น้ำมันสำหรับพิมพ์ภาพได้ถึงร้อยละ 50

นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีสารตั้งต้นทางเคมี ( Substrate) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า 800 ชนิดที่สามารถใช้กับเครื่องพิมพ์ดิจิตอลตระกูล HP Indigo ได้

View :2056
Categories: Press/Release Tags: ,

เอชพีเผยผลการวิจัยใหม่ล่าสุด ทิศทางการใช้ไอทีระดับองค์กร และปัญหาการรักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่าย

October 13th, 2010 No comments

สนับสนุนธุรกิจต่างๆ ให้ตรวจสอบหาจุดอ่อนของระบบเครือข่าย กำหนดแนวทางการแก้ไข และรักษาสินทรัพย์ขององค์กร

เอชพีเผยแพร่รายงานผลการวิจัยเรื่องความเสี่ยงต่อการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ (Cyber Security Risks Report) ประจำครึ่งแรกของปี 2553 ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับทิศทางของระบบการประมวลผลระดับองค์กร และจุดอ่อนของการรักษาความปลอดภัยบนระบบเครือข่าย เพื่อสนับสนุนทีมผู้บริหารไอทีให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลในองค์กรของตน

ทั้งนี้ รายงานผลการวิจัยดังกล่าวจัดทำโดยศูนย์ปฏิบัติการวิจัย TippingPoint’s Digital Vaccine Labs (DVLabs) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้องค์กรธุรกิจต่างๆ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาการบุกรุกเจาะเข้าทำลายแอพพลิเคชั่นและระบบเครือข่ายข้อมูลขององค์กร รวมทั้งสนับสนุนให้มีการพัฒนาระบบเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาระบบเครือข่ายล่มที่ส่งผลให้องค์กรต่างๆ ต้องสิ้นเปลืองเงินทองและมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง

ปัจจุบัน พนักงานมีการใช้งานแอพพลิเคชั่นเพื่อติดต่อธุรกิจบนเว็บไซต์ และชุมชนออนไลน์ต่างๆ (social network) ผ่านเครือข่ายไอทีต่างๆ ของบริษัทซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน ถึงแม้ว่าพนักงานต้องการใช้งานโปรแกรมเหล่านี้เพื่อช่วยสร้างชื่อเสียงขององค์กรให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น รวมทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตนเอง แต่ขณะเดียวกันการใช้แอพพลิเคชั่นออนไลน์ดังกล่าวก็เป็นการเปิดช่องทางให้ระบบการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายถูกคุกคามได้ง่ายขึ้น

รายงานผลการวิจัยฉบับดังกล่าวใช้ข้อมูลจากสถานการณ์การรักษาความปลอดภัยที่เกิดขึ้นจริง เพื่อชี้ให้เห็นว่า การกระทำดังกล่าวส่งผลต่อระบบเครือข่ายขององค์กรให้มีความเสี่ยงมากน้อยเพียงไร และสนับสนุนให้ธุรกิจต่างๆ เตรียมพร้อมรับมือและจัดการปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

มร. ไมค์ ดาวซิน ผู้จัดการด้าน Advanced Security Intelligence ของ HP TippingPoint DVLabs กล่าวว่า “เพื่อขจัดความเสี่ยงต่อการรุกรานความปลอดภัยของระบบเครือข่าย องค์กรธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องมีความรอบรู้เกี่ยวกับการเจาะเข้าทำลายระบบเครือข่ายผ่านชุมชนออนไลน์และการดาวน์โหลดโปรแกรมต่างๆ บนเว็บโดยใช้เครือข่ายไอทีของบริษัท ดังนั้น เมื่อมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของระบบเครือข่ายระดับองค์กร จะทำให้องค์กรต่างๆ สามารถวางกลยุทธ์แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ธุรกิจของตน รวมทั้งข้อมูลขององค์กรมีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องสูงสุด”

หนึ่งในผลการวิจัยที่โดดเด่นจากรายงานดังกล่าว คือ มากกว่าร้อยละ 80 ของการเจาะเข้าทำลายระบบเครือข่าย มุ่งเน้นทำลายระบบหรือแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานบนเว็บ ซึ่งได้แก่ เว็บไซต์ทั่วไป และเว็บลูกข่าย นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังระบุว่า เว็บไซต์เหล่านี้มักจะเสี่ยงต่อการถูกออฟไลน์ หรือ ถูกทำลายจากการคุกคามแบบ SQL Injection, PHP File Include ตลอดจนการทำลายในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งจากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า การทำลายในลักษณะดังกล่าวมีการขยายตัวมากขึ้นเป็น 2 เท่าตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ การจู่โจมเข้าทำลายเว็บเบราเซอร์และแอพพลิเคชั่นเว็บลูกข่าย อาทิ โปรแกรม QuickTime และ Flash มีสถิติพุ่งสูงขึ้นเป็น 3 เท่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 และเป็นจุดหลักที่เปิดโอกาสให้นักจู่โจมเจาะเข้าสู่ระบบเครือข่ายได้ง่ายขึ้น

การมีความรู้ความเข้าใจถึงความถี่และ ความเสี่ยงในการบุกรุกเข้าทำลายระบบประมวลผลบนเว็บจะทำให้องค์กรต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนแนวทางการรักษาความปลอดภัยบนระบบเครือข่ายเพื่อปกป้อง รักษาสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดบนเครือข่ายของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นอกจากผลการวิจัยที่โดดเด่นข้างต้นแล้ว รายงานผลการวิจัยดังกล่าวยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจต่างๆ ดังนี้

- ขจัดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ โดยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อบกพร่องของระบบไฟล์แบบ PDF (Portable Document Format) ทั้งนี้ ข้อมูลจากรายงานดังกล่าวระบุว่า โครงสร้างของแอพพลิเคชั่นและการใช้แอพพลิเคชั่นอย่างกว้างขวางในองค์กรเป็นเป้าหมายหลักในการบุกรุกเข้าเจาะทำลาย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้องค์กรต่างๆ ดำเนินการรักษาความปลอดภัยจากการใช้ไฟล์ PDF ได้อย่างรัดกุมและเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาบนระบบเครือข่ายของตน

- ระงับการลักลอบทำลายระบบได้เร็วขึ้นโดยใช้เทคนิคใหม่ๆ ที่ล้ำสมัย โดยผลการวิจัยระบุถึงเทคนิคที่ใช้จู่โจมที่มีความซับซ้อนและลึกลับ เพื่ออำพรางการเข้าลักลอบทำลายไม่ให้เป็นที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน และด้วยความรู้ดังกล่าว ทำให้ผู้บริหารไอทีสามารถปรับปรุงแนวทางการรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันได้สูงสุด

- ป้องกันการจู่โจมที่เคยเกิดขึ้นไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีก โดยศึกษาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวอย่างรอบคอบ ซึ่งโปรแกรมบุกรุกเจาะทำลายระบบรักษาความปลอดภัยที่ผ่านมา ได้แก่ SQL Slammer, Code Red และ Conficker เป็นโปรแกรมการเจาะทำลายที่สำคัญ สำหรับโปรแกรม Slammer ที่เริ่มใช้ในปี 2547 เป็นโปรแกรมที่ทำให้เอชพีคิดค้นและพัฒนาระบบกรองและป้องกัน HP TippingPoint IPS ที่มีความสามารถในการป้องกันการทำลายมากกว่าระบบกรองและป้องกันอื่นๆ ถึง 10 เท่า ทั้งนี้ การเรียนรู้จากข้อมูลดังกล่าว และศึกษาสาเหตุที่คาดว่าจะเป็นไปได้ อาทิ การใช้ซอฟต์แวร์ที่ไม่ถูกกฎหมาย จะช่วยให้ผู้บริหารระบบสามารถปรับปรุงการเข้าใช้เครือข่ายหรือตรวจสอบความ ถูกต้องในการจัดซื้อแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการลักลอบเข้าทำลายระบบเครือข่ายโดยรวมทั้งหมด

ระเบียบวิธีการวิจัย
HP TippingPoint DVLabs คือ องค์กรวิจัยชั้นนำที่มุ่งศึกษาวิเคราะห์หาจุดอ่อนหรือช่องโหว่ที่เปิดโอกาส ให้มีการบุกรุกเข้าทำลายระบบ โดยช่วยให้ลูกค้าจัดทำมาตรการล่วงหน้าเพื่อป้องกันการเกิดช่องโหว่ให้มีการ บุกรุกทำลายระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว ทีมงานของ HP TippingPoint DVLabs ได้นำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและเทคนิคการวิเคราะห์อันเปี่ยมประสิทธิภาพมาพัฒนา ระบบรักษาความปลอดภัยที่ครบวงจร โดยมีประสิทธิภาพในการป้องกันการบุกรุกด้วยบริการ Digital Vaccine® Service

เอชพีนำโซลูชั่น HP TippingPoint Intrusion Prevention Systems (IPS) ที่มีจำนวนหลายร้อยโปรแกรมมาใช้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการบุกรุก เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาศึกษาวิเคราะห์การจู่โจม ทั้งนี้ ข้อมูลการบุกรุกดังกล่าวถูกจัดเก็บในระหว่างมีการบุกรุกระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเกิดขึ้น โดยมีโซลูชั่น HP TippingPoint IPS ทำหน้าที่ป้องกันการบุกรุกดังกล่าว

แหล่งข้อมูลที่สนับสนุนการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่
- SANS คือ องค์กรที่มุ่งให้บริการฝึกอบรมและให้ใบรับรองด้านการรักษาความปลอดภัย
- โซลูชั่น Open Source Vulnerability Database เป็นระบบฐานข้อมูลแบบเปิดและอิสระที่จัดทำขึ้นโดยชุมชนออนไลน์และเพื่อชุมชนออนไลน์ดังกล่าว
- ระบบ Qualys เป็นโซลูชั่นบริหารความเสี่ยงในการรักษาความปลอดภัยของระบบไอทีและการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ออกแบบให้ตรงตามความต้องการใช้งาน ทั้งยังทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลโดยใช้โซลูชั่นการประเมินและจัดการข้อบกพร่องที่ทำให้เกิดการบุกรุกข้อมูลบนระบบเครือข่าย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพอร์ทโฟลิโอ HP TippingPoint เข้าไปดูได้ที่ www.hp.com/go/networking ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ HP TippingPoint เป็นส่วนหนึ่งของ พอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์และบริการ HP Secure Advantage ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.hp.com/security

สำหรับรายงานผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์ เข้าไปดูได้ที่ http://dvlabs.tippingpoint.com/toprisks2010

View :1542
Categories: Press/Release Tags:

เอชพีรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์เลเซอร์สำหรับลูกค้าเอสเอ็มบี ด้วยส่วนแบ่ง 39%

September 10th, 2010 No comments

เปิดตัว “ คืนทุนทันใจ” ลุยตลาดไตรมาสสุดท้าย
มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าเอชพีเลเซอร์เจ็ทภายใน 2 เดือน

เอชพีประกาศความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์เลเซอร์สำหรับลูกค้าเอสเอ็มบีด้วยส่วนแบ่งการตลาด 39% เผยกลยุทธ์ไตรมาสสุดท้ายสำหรับเอสเอ็มบีด้วย “แคมเปญ Pays You Back คืนทุนทันใจ พร้อมเปิดตัวสายผลิตภัณฑ์ใหม่เครื่องพิมพ์ LaserJet All-in-One ตอกย้ำความคุ้มค่าด้วยการคืนทุนให้กับผู้ใช้งาน ได้ถึง 100% ภายในระยะเวลา 2 เดือน เพิ่มสัดส่วนออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง เจาะกลุ่มเอสเอ็มบีรุ่นใหม่ และอัดงบลุยแคมเปญการตลาดผ่านคู่ค้าต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นถึง 200% ตั้งเป้าการเติบโต 30% สำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มบีภายในสิ้นปีนี้

นายฐิตพล บุญประสิทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เลเซอร์เจ็ท และเอ็นเตอร์ไพรซ์โซลูชั่น บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าจากการที่เอชพีครองความเป็นผู้นำด้านงานพิมพ์ในส่วนของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มบี ด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึง 39% ในไตรมาสสองที่ผ่านมา ประกอบกับผลการศึกษาวิจัย การใช้งานและผลตอบรับของลูกค้าเอสเอ็มบีของเอชพีในประเทศจีนและประเทศสิงคโปร์ พบว่าเครื่องพิมพ์ HP LaserJet All-in-One สามารถคืนทุนให้แก่ผู้ใช้งานได้ถึง 100% ภายในระยะเวลา 2 เดือน (อาจจะมากหรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับการใช้งาน) ทำให้เอชพีกำหนดแคมเปญการตลาด Pays You Back ขึ้นมาเป็นกลยุทธ์การดำเนินงานของผลิตภัณฑ์ เครื่องพิมพ์เลเซอร์เจ็ทในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้

“แคมเปญ Pays You Back คืนทุนทันใจ ด้วยเครื่องพิมพ์ HP LaserJet All-in-One”
แคมเปญ “Pays You Back คืนทุนทันใจด้วยเครื่องพิมพ์ HP LaserJet All-in-One” ถูกกำหนดเป็นกลยุทธ์การตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้าย โดยจะมีกิจกรรมการตลาดต่างๆ ตอบรับ เพื่อสื่อสารถึงคุณสมบัติหลักๆ 5 ประการของเครื่องพิมพ์ HP LaserJet All-in-One ที่จะสามารถคืนทุนแก่เอสเอ็มบีผู้ใช้งานในด้านต่างๆ ตามผลการศึกษาวิจัยดังนี้ 1. ประหยัดพลังงาน (Electricity) 2. ลดต้นทุนด้านอุปกรณ์ด้วยคุณสมบัติครบครัน ภายในเครื่องเดียว (Fax consumables& productivity) 3. ดูแลรักษาด้วยตัวเองได้ง่ายๆ (Maintenance) 4. ประหยัดพื้นที่จัดวางด้วยขนาดเครื่องที่เล็กกะทัดรัด (Real Estate)และ 5. มีระบบสนับสนุนด้านการเงินสำหรับลูกค้าเพื่อเพิ่มความสะดวกและช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย (Financial support) ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถทำให้ลูกค้าเอสเอ็มบีสามารถคืนทุน ได้ถึง 100% ภายในระยะเวลา 2 เดือน นอกจากนี้ ยังเสริมในส่วนของโปรโมชั่นเพื่อจูงใจเอสเอ็มบี โดยเอสเอ็มบีที่ซื้อเครื่องพิมพ์ HP LaserJet All-in-One รุ่นที่ร่วมรายการจะได้รับคูปองเงินสดทันทีมูลค่าตั้งแต่ 500 -1,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่น) และยังสามารถรับคูปองเงินสดเพิ่มเติมเมื่อซื้อโทนเนอร์ครั้งต่อไปตามเงื่อนไข โดยลูกค้าเอสเอ็มบีจะศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับโปรโมชั่นคืนทุนได้ที่ www.hp.com/th/laserjet

ขับเคลื่อนแคมเปญ Pays You Back สู่ลูกค้าเอสเอ็มบีด้วย 3 ช่องทาง
เพื่อขับเคลื่อนแคมเปญดังกล่าวให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มบีได้อย่างครอบคลุม เอชพีมีกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนแคมเปญ Pays You Back ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

1. ผ่านคู่ค้าทั้งรีเทลและคอมเมอร์เชียล (Channel Development) เน้นการทำโปรแกรม กับคู่ค้า เพื่อจัดเตรียมความพร้อมทางด้าน Infrastructure และมุ่งเน้นการขายแบบเป็นระบบการพิมพ์ (printing solution) โดยเฉพาะการนำเสนอโซลูชั่นด้าน cost efficiency ภายใต้แคมเปญ Pays You Back นอกจากนี้ จะเพิ่มพื้นที่ขายหน้าร้านสำหรับตลาดรีเทล

ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมไปถึงการเพิ่มพื้นที่ขายในไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ อาทิ พาวเวอร์บาย และออฟฟิศดีโป เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าเอสเอ็มบีในปัจจุบัน มักจะจับจ่ายสินค้าไอทีในร้านค้าปลีกรูปแบบนี้เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ เอชพีวางแผนจะขยายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเพิ่มอีก 600 รายทั่วประเทศภายในปี 2554 จากเดิมมี 1,000 ราย
ใน 30 จังหวัด ในส่วนของคู่ค้าคอมเมอร์เชียลที่มุ่งจับกลุ่มเอสเอ็มบีระดับบนนั้น เอชพีจะเพิ่มเป็น 300 รายจากเดิมที่มีอยู่ 200 ราย

2. อัดงบการตลาดเพิ่มและสื่อสารสร้างความเข้าใจกับลูกค้าแบบครบวงจรทั้ง Online และ Offline ภายใต้แคมเปญ Pays You Back นี้ เอชพีได้เพิ่มการลงทุนในส่วนของ สื่อออนไลน์เพิ่มขึ้นอีก 15% และได้เพิ่มงบการตลาดสำหรับต่างจังหวัดอีก 200%
โดยสื่อออนไลน์นั้น จะเน้นการทำกิจกรรมกับเว็บไซต์ชั้นนำที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มบี รวมทั้งโซเชียลเน็ตเวิร์ค เช่น เฟซบุ๊กและเอ็มเอสเอ็น และจัดทำ microsite www.hp.com/th/laserjet เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ HP LaserJet All-in-One รายละเอียดแคมเปญและโปรโมชั่น และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมในรูปแบบ interactive ซึ่งการมุ่งเน้นทำตลาดออนไลน์นี้สืบเนื่องมาจากผลวิจัยของ AGB Nielsen Media Research ที่ระบุถึงแนวโน้มการบริโภคสื่อของผู้บริโภคว่าสื่อออนไลน์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2551 – 2553) และในบรรดาผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในต่างจังหวัด 74% จะอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 25 – 34 ปี ซึ่งคนกลุ่มนี้ คาดว่าจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มบีด้วยส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ ผลการศึกษายังระบุอีกด้วยว่าในบรรดาผู้ใช้งานเฟซบุ๊กในประเทศไทยนั้น มีสมาชิกของแฟนเพจที่เกี่ยวกับธุรกิจถึง 1.5 ล้านราย

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ HP LaserJet All-in-One เป็นตัวรุกตลาดเสริมกับแคมเปญ Pays You Back โดยภายใต้แคมเปญนี้ เอชพีจะแนะนำเครื่องพิมพ์เลเซอร์เจ็ทรุ่นล่าสุดได้แก่ เครื่องพิมพ์ HP LaserJet M1522 Series มาตอบโจทย์เรื่อง Pays You Back คืนทุนทันใจ ด้วยคุณสมบัติการใช้งานครบครันทั้ง 5 ประการคือ 1. ประหยัดพลังงาน (Electricity) 2. ลดต้นทุนด้านอุปกรณ์ด้วยคุณสมบัติครบครันภายในเครื่องเดียว (Fax consumables & productivity) 3. ดูแลรักษาด้วยตัวเอง ได้ง่ายๆ (Maintenance) 4. ประหยัดพื้นที่จัดวางด้วยขนาดเครื่องที่เล็กกะทัดรัด (Real Estate) และ 5. มีระบบสนับสนุนด้านการเงินสำหรับลูกค้าเพื่อเพิ่มความสะดวกและช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย (Financial support)

“สิ่งที่ทำให้เอชพีโดดเด่นและแตกต่างจนสามารถคงความเป็นผู้นำในตลาดการพิมพ์นั้น คือการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจและการตลาดโดยลงทุนด้านการวิจัยทั้งในแง่ของเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์ การศึกษาแนวโน้มตลาด และศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อจะสามารถ ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างถูกต้อง เช่นเดียวกับแคมเปญ Pays You Back ที่สะท้อนถึงผลการศึกษาวิจัยเรื่องการคืนทุน 100% ของเครื่องพิมพ์ HP LaserJet All-in-One ดังนั้น เอชพีจึงคาดว่าแคมเปญดังกล่าว จะทำให้เอชพีสามารถ สร้างการเติบโตของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มบีได้อีก 30% ภายในสิ้นปีนี้” นายฐิตพล กล่าว

View :1435

เอชพีร่วมกับกลุ่ม SPA จัดกิจกรรมรักษ์โลกใต้น้ำ อนุรักษ์ทรัพยากรเพื่อท้องทะเลไทย

August 3rd, 2010 No comments

นางสาวพจนารถ พงษ์เจริญ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับกลุ่ม SPA (Save Planet Association) กลุ่มนักดำน้ำอาสาสมัคร จัดกิจกรรม “รักษ์โลกใต้น้ำ ตัดอวนทำความสะอาดท้องทะเลชุมพร” ร่วมกันตัดเศษอวนที่ปกคลุมปะการังใต้น้ำ เพื่อไม่ให้ปิดกั้นแสงแดด ช่วยชีวิตปะการัง และปรับสมดุลให้กับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลโดยสามารถเก็บเศษอวนและขยะใต้ท้องทะเลได้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ดำเนินงานภายใต้โครงการ “ Planet Partners” เพื่อรณรงค์ในการปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

View :1948
Categories: Press/Release Tags:

“เอชพี” จับมือ “การ์ตูนเน็ตเวิร์ค “ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์เด็กไทยจัดกิจกรรม เอ็ดดูเทนเมนท์ Toon Creator Awards 2010

July 27th, 2010 No comments

เอชพี ร่วมกับการ์ตูนเน็ตเวิร์คเดินหน้าจัดกิจกรรมเอ็ดดูเทนเมนท์สุดสร้างสรรค์ ระเบิดพลังจินตนาการแอนิเมเตอร์รุ่นเยาว์ ในการประกวดผลงาน (www.ToonCreator Awards.com) ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพเยาวชนทั่วทั้งเอเชีย-แปซิฟิก และประเทศไทย

กิจกรรม Toon Creator Awards กลับมาอีกครั้งในปีนี้ โดยได้เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยเอชพีและการ์ตูนเน็ตเวิร์ค ขอเชิญชวนน้อง ๆ ที่อายุระหว่าง 6-14 ปี เข้าร่วมการแข่งขัน ประชันความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดการเรียนรู้ ไร้ขีดจำกัด สำหรับเยาวชนในหลากหลายประเทศ ทั้ง ออสเตรเลีย อินเดีย ไต้หวัน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ปากีสถาน และประเทศไทย

นายประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนลซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์- แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอชพี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันพัฒนาการ การเรียนรู้ของน้อง ๆ เยาวชนผ่านเทคโนโลยีที่พร้อมเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ในกิจกรรมเอ็ดดูเทนเมนท์ อย่าง Toon Creator Awards 2010 ที่เอชพีได้ร่วมมือกับการ์ตูนเน็ตเวิร์คอีกครั้ง ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก ๆ ที่จะเป็นรากฐานสำคัญของพัฒนาการในวัยเยาว์ ที่จะเป็นประตูนำไปสู่ความสำเร็จของการศึกษาในอนาคต นอกจากนี้ เอชพีหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เห็นผลงาน แอนิเมชั่นของเด็กไทยได้โลดแล่นผ่านสายตาผู้ชมนับล้านทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก พร้อมด้วยประโยชน์หลายประการจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้”

มร. เบ็นจามิน กรับบ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอินเทอร์แอคทีฟ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เทอร์เนอร์ เอนเทอร์เทนเมนท์ อินเทอร์แอคทีฟ มีเดีย กล่าวว่า “ผลตอบรับอย่างท่วมท้นจาก การจัดการแข่งขัน Toon Creator Awards ครั้งแรกในปีที่ผ่านมานั้น มีน้อง ๆ เยาวชนจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกสูงถึง 26,000 คน และมีผลงานการสร้างสรรค์จินตนาการสุดล้ำส่งเข้าร่วมมากกว่า 227,000 ชิ้น โดยในปีนี้เราได้ร่วมมือกับเอชพีในการสรรค์สร้างประสบการณ์การสร้างสรรค์การ์ตูนแอนิเมชั่นในแบบฉบับบของตนเอง ซึ่งเรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า น้อง ๆ จะได้รับประสบการณ์และความสนุก ผ่านการเรียนรู้จากกิจกรรมไปได้เป็นอย่างมาก”

กิจกรรมการประกวดผลงานแอนิเมชั่น Toon Creator Awards ในปีนี้เพิ่มความพิเศษด้วยฟังก์ชั่นการสรรค์สร้างตัวละครใหม่ไม่ซ้ำใคร ซึ่งน้อง ๆ สามารถสร้างอวาตาร์ เพื่อเป็นตัวเอกในเรื่องราว การผจญภัยในต่างแดนที่น้อง ๆ ใฝ่ฝัน หรือจินตนาการขึ้นเอง ทั้งร่วมเดินทางไปพร้อมกับ Flapjack ในการทำความสะอาดชายฝั่งเกรทแบร์ริเออร์รีฟ ประเทศออสเตรเลีย หรือไปเที่ยวประเทศไต้หวัน แล้วช่วยแก๊ง Ben 10 Alien Force ประชันความเร็วในการแข่งขันดราก้อนโบ้ทเรซซิ่ง อย่างไรก็ดี น้อง ๆ ที่เข้าร่วมประกวดผลงานแอนิเมชั่น Toon Creator Awards จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมและกิจกรรมสุดสร้างสรรค์จากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยในแต่ละฉากน้อง ๆจะได้รับไอเท็มพิเศษเพื่อเพิ่มสีสันให้แก่การสร้างสรรค์ผลงานแอนิเมชั่นในขั้นตอนสุดท้ายอีกด้วย

เยาวชนที่เข้าร่วมประกวดผลงาน จะสามารถเติมแต่งจินตนาการไร้ขีดจำกัด ผ่านตัวการ์ตูนยอดฮิตหลากหลายจากช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ค ทั้ง เบ็น เท็นนีย์สัน, เชาว์เดอร์ และพาวเวอร์พัฟฟ์ เกิลส์ โดยผลงานแอนิเมชั่นที่เสร็จสมบูรณ์สามารถโพสต์ขึ้นบนเว็บไซต์ของการ์ตูนเน็ตเวิร์ค เปิดโอกาสให้ทุกคนได้รับชม

ทั้งนี้ รางวัลสำหรับ Toon Creator Awards แบ่งออกเป็น 2 สาขา คือ รางวัลสำหรับโรงเรียนที่เข้าร่วม และรางวัลสำหรับเยาวชนที่ชนะ โดยเกณฑ์การตัดสินส่วนหนึ่งมาจากผลโหวตออนไลน์ และคณะกรรมการตัดสินที่เอชพีและการ์ตูนเน็ตเวิร์คจัดตั้งขึ้น

รางวัลชนะเลิศสำหรับเยาวชน ระดับประเทศ ได้แก่
TouchSmart PC
• รางวัลชุดพิเศษจากการ์ตูนเน็ตเวิร์ค
• มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ HP Digital Home Makeover แปลงโฉมบ้านดิจิตอลสุดทันสมัย จากการประกวดผลงานทั่วทั้งภูมิภาค

รางวัลชนะเลิศสำหรับเยาวชน ระดับภูมิภาค ได้แก่
• HP Digital Home Makeover แปลงโฉมบ้านดิจิตอลสุดทันสมัย
• จักรยาน Ben 10 Quad Bike สุดพิเศษ
• ผลงานชนะเลิศระดับภูมิภาคจะได้รับการเผยแพร่ทางช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์คสู่สายตานับล้านคู่

รางวัลสำหรับโรงเรียนที่ส่งผลงานเข้าร่วมสูงสุดพร้อมรับ
• คอมพิวเตอร์จากเอชพี จำนวน 3 ชุด

พ่อแม่ ผู้ปกครอง คุณครู และน้อง ๆ เยาวชนที่สนใจ สามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรม Toon Creator Awards เพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.ToonCreator Awards.com

พร้อมกันนี้ การ์ตูนเน็ตเวิร์คยังได้ร่วมกันสรรค์สร้างแอพพลิเคชั่นสุดพิเศษ จำนวน 4 แอพพลิเคชั่นสำหรับโฮมพีซีระบบสัมผัสสุดอัจฉริยะอย่าง HP TouchSmart PC ที่จะมีวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป โดยแอพพลิเคชั่นสุดพิเศษบน HP TouchSmart PC ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยซัพพอร์ทการทำงานระบบมัลติทัช รองการการเลื่อน การแตะ และการสัมผัสหน้าจอแบบอื่น ๆ รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นสำหรับ RSS reader โปรแกรมอ่านข่าวที่จะมา พร้อมกับลูกเล่นสนุกสนาน ช่วยให้การติดตามข่าวสารบนดลกออนไลน์เป็นไปได้อย่างมีสีสัน ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยอีก 2 แอพพลิเคชั่นที่เหลือจะมีการเปิดตัวอีกครั้งในปีนี้
www.ben10.net /
www.cartoonnetworkasia.com

View :1661