ITBiz | lekasina.com

ศาลแพ่งไม่รับฟ้องและสั่งจำหน่ายคดีการฟ้องคดีของบริษัทรูมูฟ จำกัด ทั้งต่อนางสาวสารี อ๋องสมหวัง นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา และดร.สุเมธ วงศ์พานิชเลิศ เนื่องจากเป็นการปฏิบัติหน้าที่  ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีและให้จำหน่ายคดี

จากกรณีที่ บริษัททรูมูฟ จำกัด ได้ยื่นฟ้อง นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคในฐานะกรรมการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม และนายสุเมธ วงศ์พานิชเลิศ นักวิชาการและกรรมการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมในข้อหาละเมิด และเรียกค่าเสียหาย 1,760,000 บาท เนื่องจากเผยแพร่ให้ข้อมูลความรู้กับประชาชน เรื่อง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพนั้น

วันนี้ 31 มกราคม ที่ศาลแพ่ง รัชดา ศาลได้นัดชี้สองสถานและกำหนดสืบพยานโจทก์ ทนายบริษัทได้มาศาล จำเลยและทนายจำเลยมาศาล ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ เนื่องจากเป็นการทำหน้าที่ในฐานะกรรมการและผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม(สบท.) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือการทำหน้าที่ต่อเนื่องตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จึงไม่มีอำนาจฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องฟ้องหน่วยงานของรัฐเท่านั้

ทรูยื่นฟ้อง กราวรูดคนทำงานคุ้มครองผู้บริโภคโทรคมนาคมข้อหาละเมิด เพียงแค่ให้ข้อมูลเตือน ประชาชน เรื่อง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอาจมีผลต่อสุขภาพ “สารี”ผิดหวังยันการได้รับข้อมูลเป็นสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค ผอ.สบท. ชี้ทั่วโลกยังไม่กล้ายันว่าปลอดภัย การให้ข้อมูลจึงเพื่อหาทางป้องกันเชิงนโยบาย
จากกรณีที่ บริษัททรูมูฟ จำกัด ได้ยื่นฟ้อง นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคในฐานะกรรมการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม และนายสุเมธ วงศ์พานิชเลิศ นักวิชาการและกรรมการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมในข้อหาละเมิด และเรียกค่าเสียหาย 1,760,000 บาท เนื่องจากเผยแพร่ให้ข้อมูลความรู้กับประชาชน เรื่อง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพนั้น
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกล่าวว่า ผู้ถูกฟ้องทั้งหมดดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่เพราะมีผู้ร้องเรียนเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ได้เป็นการกล่าวหาบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่เป็นการให้ข้อมูลความรู้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน การหยิบเรื่องนี้มาฟ้องคดีเสมือนเป็นการข่มขู่คนที่ทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ สบท. หรือองค์กรเอกชน และทำให้ทุกฝ่ายเสียเวลา
“ ผิดหวังมากที่ฟ้องคนทำงานคุ้มครองผู้บริโภค เพราะตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมาย ผู้บริโภคมีสิทธิได้รับข้อมูลที่เป็นความจริง สิ่งที่นำเสนอไม่ได้เป็นการกล่าวหาทรู แต่ทรูกลับเป็นบริษัทเดียวที่ดำเนินการฟ้องคดี ที่ผ่านมาจากการทำงานเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคเราไม่เคยถูกบริษัทโทรคมนาคมฟ้องคดี จึงรู้สึกผิดหวังจริงๆ เพราะสิ่งที่เผยแพร่เป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อสาธารณะในวารสารวิชาการในต่างประเทศ มีสาระสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อันเป็นจิตสำนึกตามปกติที่พึงมีต่อส่วนรวม” นางสาวสารีกล่าว
ด้านนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) กล่าวว่า การให้ข้อมูลความรู้ในกิจการโทรคมนาคมเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยสุจริตในฐานะ “เจ้าหน้าที่” ของรัฐ นอกจากนี้ข้อมูลเรื่อง “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า” มิได้ฝ่าฝืนต่อความเป็นจริง แต่เป็นข้อมูลซึ่งอ้างอิงมาจากผลการศึกษาทางวิชาการ ทางการแพทย์ในต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน และผลการศึกษาจากในประเทศไทยเอง โดยไม่เคยสรุปว่า เสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือเป็นสาเหตุของโรคใดๆ แต่จากข้อมูลทางวิชาการที่มีอยู่ สรุปได้ว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ ที่สำคัญการเผยแพร่ข้อเท็จจริงนี้มีเพื่อเสนอแนะเชิงนโยบาย ให้เกิดการทบทวนนโยบายและเกิดมาตรการป้องกันสุขภาพของประชาชน อันเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับสิทธิของประชาชนตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐
“ถึงแม้ว่าปัจจุบันยังไม่สามารถยืนยันในทางใดทางหนึ่ง แต่เนื่องจากมีผลวิจัยอันน่าเชื่อถือซึ่งพบผลกระทบต่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น หลายประเทศจึงได้ใช้หลักการป้องกันไว้ก่อน เช่น สวีเดน เบลเยี่ยม อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย แม้กระทั่งรัฐสภายุโรปในญัตติเรื่อง “ความกังวลต่อสุขภาพที่สัมพันธ์กับสนามแม่เหล็กไฟฟ้า” ได้มีมติให้มีมาตรการป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพจาก มือถือ WIFI WiMax ตลอดจนสถานีวิทยุโทรคมนาคมทุกชนิด โดยการตั้งเสาสัญญาณฯ ต้องให้โรงเรียน ศูนย์เด็กอ่อน สถานพยาบาล ปลอดจากคลื่นต่างๆและให้ประชาสัมพันธ์ความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจมี การเผยแพร่เรื่องนี้จึงเป็นการให้ข้อมูลความจริง เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและเพื่อนำไปสู่การผลักดันให้เกิดมาตรการป้องกันสุขภาพของประชาชน” ผอ.สบท.กล่าว
นายประวิทย์กล่าวต่อไปว่า แม้แต่องค์การอนามัยโลก (Who) ยังไม่อาจยืนยันได้ว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องจากพบว่าประชากรร้อยละ 3 ในโลกเป็นผู้ป่วยด้วย “โรคภูมิแพ้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า” ซึ่งประเทศสวีเดนเป็นประเทศแรกในโลกที่ประกาศขึ้นทะเบียนโรคนี้อย่างเป็นทางการ และหากมีนักเรียน หรือครู อาจารย์แม้เพียงคนเดียวที่เกิดอาการภายในโรงเรียน สถานีวิทยุคมนาคมที่ตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนจะถูกสั่งให้ถอนย้ายทันที ดังนั้นจึงยังไม่มีองค์กรใด หรือผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใดในโลกที่กล้ายืนยันว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมและให้ข้อมูลกับประชาชนในฐานะผู้ใช้บริการให้ระมัดระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
คดีนี้ศาลแพ่งนัดกำหนดแนวทางพิจารณาคดีและชี้สองสถานในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ เวลา ๙.๐๐ น.

นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการคอนเวอร์เจนซ์ กลุ่มบริษัททรู และ กรรมการผู้จัดการกลุ่มลูกค้าธุรกิจ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น จับมือ นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เอาใจนักช้อป เปิดตัวเว็บไซต์ www.mods.co.th ชวนสัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์รูปแบบใหม่ โดยทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้นำธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ และ อี-มาร์เก็ตเพลส อันดับหนึ่งของไทย เป็นผู้จัดทำระบบออนไลน์ และระบบการชำระเงินผ่านบริการทรูมันนี่ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และเชื่อถือได้ อาทิ บัตรเครดิต, เอทีเอ็ม, อินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง และทัชซิม ซิมอัจฉริยะบนมือถือทรูมูฟ ให้กับเว็บไซต์ www.mods.co.th มั่นใจ จะได้กระแสตอบรับจากหนุ่มสาวเทรนด์ดี้ในการช้อปปิ้งผ่านเว็บไซต์อย่างแน่นอน พบกับวัฒนธรรมใหม่ในการช้อปปิ้งสุดทันสมัยบนโลกออนไลน์ได้ที่ www.mods.co.th ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2553 นี้

www.mods.co.th มีสินค้าให้เลือกสรรกว่า 30,000 รายการ ใน 11 กลุ่มสินค้า ได้แก่ Beauty Hall, Woman, Accessories, Shoes & Bags Salon, Men, Sports, Kids, Betrend, Living, Power Mall และ Gourmet นอกจากนี้ยังจะได้พบกับสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ Only @ Mods พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมายสำหรับสมาชิก Mobs เท่านั้น

กลุ่มทรู สานต่อยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ ย้ำจุดยืนผู้ประกอบการไทยรายเดียวที่เป็น Quadruple play สมบูรณ์แบบในทุกรูปแบบการสื่อสาร ผ่านโครงข่ายบรอดแบนด์ เทคโนโลยีไร้สาย ทีวีและคอนเทนต์ของกลุ่มทรู มั่นใจพร้อมรุกตลาดต่อเนื่อง ทยอยเปิดนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงใหม่ล่าสุดเพิ่มศักยภาพบริการบรอดแบนด์ให้ความเร็วสูงสุดได้ถึง 100 Mbps และ HD คอนเทนต์ รองรับไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ เน้นเดินหน้าสรรหาหลากหลายทางเลือกเพื่อให้บริการ 3G พร้อมเป็น Communicator เชื่อมโยงธุรกิจ ข้อมูล สาระความรู้และความบันเทิงถึงคนไทยทั่วประเทศได้ภายในปี 2554

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทรูยังคงสานต่อยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ มุ่งพัฒนาหลากหลาย
คอนเวอร์เจนซ์แพ็กเกจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมเดินเครื่องทุกธุรกิจหลักเต็มสูบ เร่งขยายเครือข่ายทรูมูฟให้ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านเสียงและดาต้า รองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเตรียมรับลูกค้าใหม่จากการเปิดให้บริการคงสิทธิเลขหมายเร็วๆ นี้ รวมทั้งยังปรับกลยุทธ์เพิ่มฐานลูกค้าทรูมูฟแบบเติมเงิน ด้วยโปรโมชั่นโทรในโครงข่ายที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด และเน้นบริการดาต้าแพ็กเกจเพิ่มความคุ้มค่าสำหรับลูกค้าทรูมูฟแบบรายเดือนและลูกค้าสมาร์ทโฟน ทั้งไอโฟน แบล็กเบอร์รี่ และโมโตโรล่า ไมล์สโตนอีกด้วย”

“สำหรับปี 2554 กลุ่มทรูมีความเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 2553 ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจโทรคมนาคมยังคงเติบโตต่อไป บริการที่ไม่ใช่เสียง (Non-Voice) ของประเทศโดยรวมยังเติบโตอย่างมั่นคงในอัตรา 2 หลัก ความนิยมใช้สมาร์ทโฟนยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาด Non-Voice โดยเฉพาะบริการโมบาย อินเทอร์เน็ตเติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากอัตราการเข้าถึงบริการทั้ง
บรอดแบนด์และโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกทั่วประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นโอกาสของกลุ่มทรูที่จะตอบสนองความต้องการ ให้คนไทยทั่วประเทศสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สาระบันเทิงผ่านช่องทางต่างๆ ของกลุ่มทรูได้เป็นอย่างดี”

ในปี 2554 กลุ่มทรู ยังคงมุ่งมั่นนำนวัตกรรม สร้างความแตกต่าง เพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้กลุ่มทรูเป็นผู้ประกอบการไทยรายเดียวที่เป็น Quadruple play สมบูรณ์แบบเป็นรูปธรรมชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งบริการสื่อสารด้านเสียง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์พื้นฐาน โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิดีโอ ข้อมูลและมัลติมีเดียต่างๆ ทุกรูปแบบการสื่อสาร ผ่านโครงข่ายบรอดแบนด์ เทคโนโลยีไร้สาย ทีวี และคอนเทนต์ของกลุ่มทรู โดยทรูออนไลน์ ยังคงเน้นเพิ่มประสิทธิภาพและขยายบริการบรอดแบนด์ให้ครอบคลุมพื้นที่ 20 หัวเมืองหลัก พร้อมทำตลาดอัลตร้าไฮสปีดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเตรียมนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ลูกค้า สามารถออนไลน์ได้ด้วยความเร็วตั้งแต่ 20 Mbps จนสูงสุดถึง 100 Mbps ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งไปกว่านั้น ทรูจะเปิดตัวนวัตกรรมตัวใหม่ Hybrid Set Top ซึ่งจะสามารถรับชมรายการในรูปแบบ HD คอนเทนต์ ทั้งจากเคเบิ้ลทีวีและ IPTV พร้อมอำนวยความสะดวกให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ท่องเว็บไซต์ Youtube และชมวิดีโอต่างๆ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทั้งยังยกระดับมาตรฐานการรับส่งข้อมูลให้ลูกค้าดูรายการต่างๆ ของทรูวิชั่นส์ได้ทุกช่องทาง ทั้งทีวี โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค

สำหรับทรูวิชั่นส์ ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะมุ่งเน้นขยายตลาดโฆษณาเจาะเข้าสู่ตลาดใหม่ และรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่จะช่วยผลักดันทรูวิชั่นส์ให้เติบโตขึ้น นอกจากนี้ ยังเตรียมเพิ่มคอนเทนต์ตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ โดยเฉพาะ HD คอนเทนต์ ซึ่งเปลี่ยนมิติใหม่ของการรับชมทีวีในเมืองไทยที่คมชัดเสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง รวมถึงเทคโนโลยี MPEG 4 ซึ่งช่วยให้ลูกค้ารับชมรายการต่างๆ ผ่านช่องสัญญาณได้มากขึ้น

นอกจากนี้ กลุ่มทรู มีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการด้านเทคโนโลยี 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ในกรณีที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ภายหลังการบังคับใช้พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม

“กลุ่มทรู มั่นใจว่า ยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ โดยการนำนวัตกรรมการให้บริการผสมผสานกับโครงข่ายและคอนเทนต์หลากหลาย จะตอกย้ำความเป็นผู้ประกอบการไทยรายเดียวที่เป็นผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์ ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง” นายศุภชัย กล่าวสรุป