Archive

Archive for April, 2014

กสิกรไทยชูยุทธศาสตร์ Tomorrow Comes Today อัดงบลงทุนไอที 1,472 ล้านบาท พัฒนาบริการสู่ Full Digital Banking

April 3rd, 2014 No comments

ธนาคารกสิกรไทย ประกาศยุทธศาสตร์ครองดิจิตอลแบงกิ้งอันดับ 1 ต่อเนื่อง ส่งพันธกิจความเป็นเจ้านวัตกรรมบริการล้ำยุคในทุกมิติ อัดงบลงทุนพัฒนาไอทีไปแล้วกว่า 1,472 ล้านบาท มั่นใจเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่จะผลักดันให้ กสิกรไทยเป็น “Main Operating Bank”

นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากกระแสด้านการใช้งานเทคโนโลยีด้านการสื่อสารข้อมูลที่กำลังมาแรงทั่วโลก 4 ด้าน ได้แก่ 1) ความแพร่หลายของการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ 2) บทบาทของสมาร์ทโฟนที่มีประโยชน์ใช้สอยในชีวิตประจำวันหลายรูปแบบมากกว่าแค่การโทรศัพท์ 3) รูปแบบการเก็บข้อมูลที่เรียกว่า Cloud ที่จะช่วยให้ธุรกิจบริหารต้นทุนได้ 4) ปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่ธุรกิจจะสามารถนำไปประมวลผลเพื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และต่อยอดทางธุรกิจเพื่อการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

เพื่อตอบสนองแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคและธุรกิจดังกล่าว ธนาคารกสิกรไทย ได้ประกาศยุทธศาสตร์ครองความเป็นอันดับ 1 ในดิจิตอลแบงกิ้ง ด้วยพันธกิจ “Tomorrow Comes Today เรานำวันพรุ่งนี้ มาให้คุณก่อนใคร” ด้วยการออกนวัตกรรมบริการทางการเงินเพื่อธุรกิจและการใช้ชีวิตที่ล้ำสมัย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการสนับสนุนนวัตกรรมเพื่ออนาคต โดยการเข้าไปสนับสนุนองค์การหรือโครงการต่างๆ เพื่อคิดค้นนวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคต ด้วยแนวคิด K Funding the Future ซึ่งในการผลักดันให้พันธกิจให้บรรลุเป้าหมาย ธนาคารกสิกรไทยวางรากฐานโครงสร้างการบริหารงานและเป้าหมายการดำเนินงาน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่

1) การขับเคลื่อนภายในองค์กร ให้เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมเพื่ออนาคต โดยจัดตั้งฝ่ายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรมโดยเฉพาะ มีเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน ทำหน้าที่ในการวางแผนและพัฒนาบริการด้านดิจิตอล แบงกิ้งที่ล้ำสมัยให้เกิดขึ้นจริง ทีมงานด้านการตลาดบนโลกดิจิตอลเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทีมงานพัฒนาระบบเพื่อรองรับบริการใหม่ ๆ และมีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจที่ประกอบด้วยผู้บริหารและบุคคลากร ติดตามและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของแทรนด์เทคโนโลยีสารสนเทศ พฤติกรรมผู้บริโภค สภาพแวดล้อมทางธุรกิจทั้งของไทยและของโลก เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนพัฒนาบริการ

2) การพัฒนาและสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคต ธนาคารกสิกรไทยกำหนดแนวทางการพัฒนาดิจิตอลแบงกิ้งเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจใน 3 ปีข้างหน้า โดยมุ่งตอบสนองพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป เน้นการส่งมอบบริการรวดเร็ว และให้ความสำคัญแก่การพัฒนาบริการธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะเป็นช่องทางการใช้บริการธนาคารที่ได้รับความนิยมในอนาคต ให้สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยธนาคารฯ จะยกระดับบริการธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ ให้ทำธุรกรรมได้ครบวงจร แบบ contactless ทั้งการโอนเงิน ชำระบิลต่าง ๆ รวมทั้งการชำระค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะ และการซื้อสินค้าออนไลน์ ได้ง่ายดาย เบ็ดเสร็จในเครื่องเดียว เป็นธนาคารแรกในไทย

สำหรับลูกค้าธุรกิจ ธนาคารฯ จะใช้เทคโนโลยีพัฒนาบริการเสริมและต่อยอดบริการที่มีอยู่ให้ธุรกิจของลูกค้าเป็นไปอย่างคล่องตัว อาทิ ธนาคารได้พัฒนาช่องทางดิจิตอลในรูปแบบต่างๆ ที่รองรับความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจ SME โดยเฉพาะ ในรูปแบบของ On-Mobile Platform ซึ่งทำให้ลูกค้าผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการบัญชีส่วนตัวและบัญชีนิติบุคคลบนช่องทางเดียวกันได้ และ On-Cloud Platform เป็นการให้บริการที่รองรับความต้องการพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการลงทุนด้านเทคโนโลยีทำให้เริ่มต้นหรือขยับขยายธุรกิจได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างธุรกิจซับซ้อน ธนาคารจะมีการเชื่อมระบบของธนาคารเข้ากับระบบของพันธมิตรทางธุรกิจของลูกค้า เพื่อช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงวงจรธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ด้วยการประยุกต์ใช้รูปแบบและประสบการณ์ทางดิจิตอลที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง

นอกเหนือจากการพัฒนานวัตกรรมบริการ ธนาคารกสิกรไทยยังสนับสนุนโครงการนวัตกรรมแห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด K Funding the Future เพื่อสนับสนุนการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับประเทศไทยและสังคมทั่วโลก โครงการแรกคือ การสนับสนุนการแข่งขัน Microsoft Imagine Cup Thailand ที่ร่วมกับ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินการติดต่อกันมา 5 ปี และปีนี้ธนาคารกสิกรไทยจะมอบเงินสนับสนุน ทีมที่ชนะการแข่งขันและทีมที่ชนะโหวตจาก www.kfundingthefuture.com เพื่อต่อยอดให้โครงการที่เยาวชนทั้ง 2 ทีมสร้างสรรค์ สามารถนำมาใช้ได้จริง และนำไปสู่การแก้ปัญหาสำคัญระดับสังคมและระดับประเทศ

3) การบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยในการทำธุรกรรม ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญในเรื่องนี้สูงสุดมาโดยตลอด และจะคงมาตรฐานที่เข้มข้นไว้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการศึกษาภัยบนอินเทอร์เน็ตให้เท่าทันเสมอ การวางมาตรการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตกับองค์กรและลูกค้าอย่างเข้มงวด ธนาคารมีการปรับปรุงด้านไอทีเพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพตลอด มีทีมงานดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเรียกว่า ฝ่ายบริหารความเสี่ยงด้านปฏิบัติการและจัดการการทุจริต หรือ ทีม Fraud Management และมีทีม Call Center คอยให้ความช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา และรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า

ในส่วนของบริการ K-Cyber Banking ธนาคารมีการเพิ่มระดับความปลอดภัยให้เหนือกว่าการใช้งาน SMS OTP ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปโดยติดตั้งแอพลิเคชั่นเฉพาะบนโทรศัพท์มือถือเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยในการใช้งาน นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงกระบวนการต่างๆ เพื่อให้ได้รับการรับรองมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO27001 สำหรับ K-Mobile Banking Plus ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอย่างมาก โดยใช้เทคโนโลยี Tripple Lock คือ1.ล็อคการใช้งานกับโทรศัพท์มือถือเฉพาะเครื่อง 2. ล็อคหมายเลขโทรศัพท์เฉพาะที่มีการลงทะเบียนไว้เท่านั้น และ 3. ล็อคด้วยรหัส 6 หลัก ที่ผู้ใช้สามารถกำหนดได้

นายธีรนันท์ กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ตั้งเป้า 3 ปีของการดำเนินยุทธศาสตร์ภายใต้พันธกิจ “Tomorrow Comes Today เรานำวันพรุ่งนี้ มาให้คุณก่อนใคร” มั่นใจว่าจะสร้างมาตรฐานใหม่ในบริการดิจิตอล แบงกิ้ง ให้ลูกค้าจะได้รับบริการล้ำสมัยที่ตอบรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและในธุรกิจควบคู่กับความปลอดภัยสูงสุด และนำไปสู่การเป็น “Main Operating Bank” เป็นธนาคารที่ลูกค้าใช้เป็นธนาคารหลักในทุกด้านทุกเรื่องของไลฟ์สไตล์ทางการเงิน

ณ สิ้นปี 2556 ธนาคารกสิกรไทยมีส่วนแบ่งการตลาดดิจิตอลแบงกิ้ง เป็นอันดับ 1 โดยมีจำนวนลูกค้ารายย่อยที่ใช้บริการ K-Mobile Banking และ K-Cyber Banking รวมทั้งสิ้น 2.59 ล้านราย หรือคิดเป็นมาร์เก็ตแชร์ 28% เป็นลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามาใช้บริการดิจิตอล แบงกิ้ง เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ประมาณ 51% โดยมีการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต แบงกิ้ง และโมบายล์แบงกิ้ง รวมประมาณ420 ล้านรายการต่อปี คิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 2 ล้านล้านบาท โดยธุรกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 คือ ธุรกรรมโอนเงิน ซึ่งมีสัดส่วนถึง 70% รองลงมาจะเป็นการเติมเงินและจ่ายบิลตามลำดับ โดยที่ผ่านมา ธนาคารฯ ใช้งบประมาณในการพัฒนาไอทีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับบริการดิจิตอลแบงกิ้งไปแล้วกว่า 1,472 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า มูลค่าธุรกรรมการชำระเงินผ่านธนาคารบนโทรศัพท์มือถือ ณ สิ้นปี 2556 เติบโตจากปี 2555 ถึง 28% ขณะที่ลูกค้าผู้ใช้บริการ K-Mobile Banking ของธนาคารกสิกรไทย มียอดเงินหมุนเวียนในการโอนเงิน เติมเงิน จ่ายบิล สูงถึงกว่า 700,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2555 ประมาณ 70% และมีฐานลูกค้าผู้ใช้บริการขยายตัวจากปีก่อน ราว 66%

View :3433
Categories: Press/Release Tags:

ดีแทคประสบความสำเร็จ เลือกลงโฆษณาใน Facebook เพิ่มยอดลูกค้าใหม่หันมาใช้ซิมแฮปปี้พุ่ง

April 3rd, 2014 No comments

CM-016
2 เมษายน 2557 – ดีแทคประสบความสำเร็จในการลงโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย ใช้เฟซบุ๊คโฆษณาในแคมเปญแฮปปี้รีเฟรชแบรนด์ และแฮปปี้ซิมโทรฟรี 55 สตางค์ ช่วยสร้างการรับรู้ในแบรนด์แฮปปี้เพิ่มขึ้นถึง 12% ในกลุ่มลูกค้าอายุ 13-17 ปี เพิ่มยอดการใช้แฮปปี้ได้อีก 19% และยังเข้าถึงกลุ่มคนที่ไม่ใช่ลูกค้าดีแทคถึง 13 ล้านคน ดีแทคนำแนวคิด One Digital dtac เน้นวางแผนการใช้สื่อโฆษณาทางด้านออนไลน์มีเดีย และโซเชียลมีเดียมากขึ้น ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ดูสื่อผ่านอินเทอร์เน็ต ออนไลน์ผ่านทางคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ที่นอกเหนือจากสื่อเดิมๆ เช่น ทีวี วิทยุ หรือสิ่งพิมพ์

นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ ดีแทคได้ให้ความสำคัญกับการลงโฆษณาในสื่อโซเชียลมีเดียมากขึ้น และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม กับการโฆษณารีเฟรชแบรนด์แฮปปี้ และแคมเปญซิมแฮปปี้ 55 โทรฟรีทุกเครือข่ายนาทีละ 55 สตางค์ ในเฟซบุ๊ค โดยได้ผลตอบรับที่ดีมาก เป็นสื่อโฆษณาที่ทำให้ดีแทคบรรลุเป้ายอดขายได้อย่างน่าประทับใจ และยังช่วยสร้างการรับรู้และความรู้สึกผูกพันในแบรนด์ไปถึงคนจำนวนมาก และทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าดีแทคในเฟซบุ๊ค ดีแทคได้เชิญชวนให้กลุ่มคนอายุตั้งแต่ 13 – 24 ปีเข้าไปดูวีดีโอภาพยนตร์โฆษณาใน News Feed ผ่านทางจอคอมพิวเตอร์และมือถือ และยังสามารถวัดจำนวนผู้ที่เข้ามาดูวีดีโอและยอดขายของซิมแฮปปี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันการแข่งขันในยุคดิจิตอลทำให้เราต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพและการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งต่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้ลูกค้า และอยากให้ลูกค้าดีแทคทุกคนสามารถเข้าถึงประสบการณ์ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ หรือแท็บเล็ต ดีแทคได้นำแนวคิด One Digital dtac ที่มุ่งเปลี่ยนวัฒนธรรมและกระบวนการทำงานในองค์กรให้สอดคล้องกับสภาพการแข่งขันในปัจจุบันที่เปลี่ยนจากธุรกิจวอยซ์เป็นดาต้า หนึ่งในแนวคิดนี้ที่ดีแทคได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปลายปี 2556 คือการนำโซเชียลมีเดียมาใช้ประโยชน์ในธุรกิจ สู่ช่องทางขายในอนาคต เพื่อผลักดันให้ดีแทคเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบ”

ดูข้อมูลเพิ่มเติมบริษัทที่ประสบความสำเร็จจากการใช้โฆษณาทางเฟซบุ๊ค Facebook Business Success Story ได้ที่ https://www.facebook.com/business/success/dtac

View :4023
Categories: Press/Release Tags:

ดีแทคนำเสนอ อินเตอร์แอคทีฟบุ๊คน่าอ่าน “ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย” ดาวน์โหลดฟรีผ่านแอพพลิเคชั่น dtac Readever

April 3rd, 2014 No comments

IMG_8651
ดีแทคชวนดาวน์โหลดหนังสือแนวการเมืองกึ่งวิชาการ “ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย” ผ่านแอพพลิเคชั่น dtac Readever (ดีแทครีดเอฟเวอร์) อ่าน เขียน แชร์ สำหรับคนที่อยากเห็นภาพประวัติศาสตร์ไทยที่อ่านเข้าใจง่าย บอกเล่าภาพรวมของประวัติศาสตร์ผ่านมุมมองทางเศรษฐกิจ เห็นภาพตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

หนังสือเล่มนี้ ฉีกแนว เล่าเรื่องสนุก วิพากษ์สังคมไทยอย่างถึงแก่นเห็นความเคลื่อนไหวของผู้คนในสยามประเทศที่มีบทบาทและสัมพันธ์กับพลังทางสังคมของกลุ่มต่างๆที่มีส่วนสร้าง “รัฐชาติ” ที่มาของสังคมปัจจุบัน จุดแข็ง จุดอ่อน และศักยภาพสู่อนาคตในโลกที่ไร้เสถียรภาพ

“ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย” เป็นหนังสือแห่งปี จากปลายปากกาของ คริส เบเคอร์ นักประวัติศาสตร์ และผาสุก พงษ์ไพจิตร นักเศรษฐศาสตร์การเมือง ที่มีผลงานเขียนและแปลร่วมกันหลายเล่มทั้งที่เป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทยเผยแพร่สู่วงกว้างทั้งในและต่างประเทศ ก่อนที่หนังสือเล่มนี้จะมาอยู่ในมือผู้อ่านคนไทย ก็ผ่านสายตาชาวต่างชาติมาแล้วในฉบับภาษาอังกฤษที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และใช้เรียนกันในวิชาประวัติศาสตร์การเมืองของเอเชียตามมหาวิทยาลัยหลายแห่งในต่างประเทศ

ผู้อ่านจะเต็มอิ่มด้วยอรรถรสและจินตนาการถึงประวัติศาสตร์ไทย จากอินเตอร์แอ็คทีฟบุ๊ค ที่บรรจุคลิปวีดีโอภาพที่ปรากฏพร้อมเสียงเพลงประกอบที่ดังก้องกังวานผ่านภาพวาดจากศิลปินชื่อดังคุณตะวัน วัตุยา ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวจากปลายพู่กันเป็นงานจิตรกรรมสีน้ำที่ดูเปราะบาง เลือนหาย และไม่ชัดเจนจากประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศไทย ปะติดปะต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่สะท้อนความพร่าเลือน จับต้องได้ค่อนข้างลำบาก มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

พบกับหนังสือ “ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย” และโปรโมชั่นพิเศษสุดจาก dtac Readever ในงานสัปดาห์หนังสือยิ่งใหญ่ประจำปี 2557 ที่บรรดาหนอนหนังสือนักอ่านรอคอย ตั้งแต่วันนี้ ถึง 7 เมษายน 2557 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ กับบูธสำนักพิมพ์ยอดนิยม เช่น บูธศรีสยาม ให้ดาวน์โหลดหนังสือ I like, ISEE, Berry ฟรีทั้ง 3 เล่ม บูทคุณบัณฑิต Inspire Music ให้ดาวน์โหลดหนังสืออินเตอร์แอ็คทีฟฟรี 2 เล่ม คือ Leader in You และ ร้องได้ไม่อายใคร เขียนโดย แมรี่ อึ้งรังสี บน Readever และ บูธบูรพัฒน์ ให้ดาวน์โหลดฟรี หนังสือการ์ตูนมังกรหยก เล่ม 1 และ สิทธิซื้อหนังสือการ์ตูนชุด ขงเบ้ง 1 แถม 1 ระหว่างวันงาน บน Readever นอกจากนี้แอพพลิเคชั่น dtac Readever ยังมีทั้งนิตยสารและหนังสือให้ดาวน์โหลดมากมาย หลายประเภททั้งการตลาด ธุรกิจ เทคโนโลยี แฟชั่น บันเทิง แม่และเด็ก ปรัชญา สุขภาพ และอีกมากมาย สามารถดาวน์โหลด “dtac Readever” ได้ฟรีที่ app store หรือ Google Play ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.dtac.co.th

View :3920
Categories: Press/Release Tags:

อีริคสันได้รับเลือกเป็นผู้วางระบบและบริหารจัดการเครือข่ายโมบายให้ เทเลนอร์ในประเทศพม่า

April 1st, 2014 No comments

8

· อีริคสันเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งและบริหารจัดการเครือข่ายทั้งหมดให้แก่เทเลนอร์ ผู้ให้บริการเครือข่ายโมบายในประเทศพม่า

· โดยกรอบข้อตกลงเป็นการระบุถึงว่าอีริคสันจะเป็นผู้จัดเตรียมอุปกรณ์ให้กับเทเลนอร์ โดยเป็นอุปกรณ์สำหรับระบบเครือข่าย 2G และ 3G ตลอดจนอุปกรณ์เพื่อการอัพเกรดในอนาคต

· เครือข่ายของเทเลนอร์จะครอบคลุมการใช้งาน 90 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศพม่า ภายใน 5 ปี

ความก้าวหน้าของสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศพม่ามาโดยตลอดในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นจากการที่ประเทศมีการเปิดเศรษฐกิจการค้า ทั้งนี้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างคาดหวังว่าการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือนั้นจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของระบบการสื่อสารโดยรวมและนำพาเอาประโยชน์ทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจมาสู่ ภาค รัฐ ภาคธุรกิจ และประชากรโดยรวมอีกด้วย

โดยทั้งนี้ระบบเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือประเทศพม่าจะมีการพัฒนาและขยายตัวมากขึ้นโดยทางอีริคสันเองมีการประกาศถึงการทำสัญญาร่วมมือกับเทเลนอร์ในการติดตั้ง วางระบบและบริหารจัดการเครือข่ายโทรศัพท์ในประเทศพม่า เป็นเวลา 5 ปี โดยในปีที่ผ่านมา ทางเทเลนอร์ได้มีการสร้างข้อตกลงกับทางอีริคสันเป็นผู้จัดเตรียมโครงข่ายคลื่นความถี่วิทยุ (radio access network) และเข้ามาประสานในเรื่องของการบริการการวางเครือข่ายของเทเลนอร์ในประเทศ

โดยเทเลนอร์มีการคาดการณ์ว่าเครือข่ายของเทเลนอร์จะครอบคลุมการใช้งาน 90 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศพม่าที่มีจำนวนอยู่กว่า 60 ล้านคน ในอีก 5 ปีข้างหน้า

ด้วยการเตรียมการอุปกรณ์ทั้งในระบบเครือข่าย 2G และ 3G หรือที่เรียกว่าโซลูชั่น multi-standard network solution เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการคุณภาพเสียงและการเชื่อมต่ออินเทอร์เนตที่ดี ตลอดการรองรับกับอุปกรณ์เพื่อการอัพเกรดในอนาคต

นอกจากนี้ ด้วยระบบโซลูชั่น multi-standard network solution ของทางอีริคสัน จะส่งผลให้กลุ่มผู้ให้บริการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการติดตั้งระบบโครงข่ายคลื่นความถี่วิทยุ (radio access network)โดยโซลูชั่นนี้ประกอบด้วย GSM/EDGE, WCDMA/HSPA,LTE และระบบ IP-based ตลอดจนระบบ Operation support โดยทั้งหมดนี้จะเป็นการสร้างความยืดหยุ่นให้กับเครือข่ายในการที่จะรองรับกับการใช้บริการในแต่ละพื้นที่ภาคส่วน ตลอดจนการผสมผสานกับสเปกตรัมแบนใหม่ๆ

เพื่อการเตรียมความพร้อมในการติดตั้งเครือข่าย อีริคประกาศจ้างคนงานในพื้นที่ในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยตลอดในหลายเดือนที่ผ่านมา อีริคสันได้มีการลงทุนและการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคคลากรต่างๆในการดำเนินการ นอกจากนี้มีการจ้างผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่เคยมีประสบการณ์การติดตั้งระบบที่คล้ายคลึงกันจากทั่วโลกเข้ามาทำงานร่วมด้วย

นายเพตเตอร์ เฟอร์เบิร์ก ประธานของเทเลนอร์ในประเทศพม่ากล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้อีริคสันมาร่วมเป็นพารทเนอร์ ในการทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาเครือข่ายโทรคมนาคมของเทเลนอร์ในประเทศพม่า โดยการทำงานครั้งนี้จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์อันน่าจดจำสำหรับประเทศพม่า เทเลนอร์ ตลอดจนพาร์ทเนอร์อย่างอีริคสัน

นาย ยอนต์ วัตสันนีอาส ประธานบริษัทของอีริคสันประเทศพม่า กล่าวว่า “ประสบการณ์ที่เราได้รับจากการวางระบบเครือข่ายในหลากหลายประเทศที่มีเงื่อนไขในด้านของภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน ทำให้เรานั้นมีความมั่นใจในการที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดีให้กับทางเทเลนอร์ เพื่อที่ผู้คนในประเทศพม่าจะได้รับประสบการณ์ทางโทรศัพท์ที่ดี นอกจากนี้เราหวังว่าการลงทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในด้านโทรคมนาคมจะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจในประเทศ ตลอดจนสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชากร”

และด้วยสัญญาในด้านการบริหารจัดการเครือข่ายร่วมกับเทเลนอร์ในประเทศพม่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเรา ในการที่จะนำเอาประสบการณ์ในการบริหารจัดการ multi-vendor network มาใช้เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าความซับซ้อนทางเครือข่ายต่างๆ นั้นจะได้รับการจัดการที่ดี และทางเทเลนอร์จะได้รับความสนใจจากกลุ่มของลูกค้าในประเทศ

ทั้งนี้ ในปี 2012 ที่ผ่านมา อีริคสันได้ทำการวิจัยถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจอันเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการสื่อสารทางโทรศัพท์ในประเทศพม่า โดยในการวิจัยนั้นกล่าวว่าผลกระทบจากการอุตสาหกรรมนี้จะสร้างผลกระทบโดยรวมต่อค่า GDP อยู่ที่ประมาณ 1.5-9 เปอร์เซ็นต์ ใน 3 ปีแรก หลังจากที่ใบอนุญาตดำเนินการเรียบร้อย

นอกจากนี้ยังกล่าวได้อีกว่าอุตสาหกรรมนี้จะส่งผลให้เกิดการจ้างงานของพนักงานประจำในประเทศพม่า อยู่ที่ประมาณ 66,000 อัตรา ตลอดจนการประมาณการณ์ว่าจะมีงานต่างๆ เพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 24,000 งาน

View :3121
Categories: Press/Release Tags: