Archive

Archive for the ‘Tablet’ Category

สพฐ. ดัน ห้องเรียนกลับทาง ดึง มศว.ลุยพัฒนา เน้นเด็กค้นคว้าด้วยตนเองด้วยเนื้อหาดิจิตอล

February 9th, 2014 No comments

IMG_6965

สพฐ. เร่งพัฒนา “” ผนึก มศว. ประสานมิตร ดำเนินการพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้เน้นเด็กค้นคว้าด้วยตนเองด้วยเนื้อหาดิจิตอล ที่ได้มาตรฐานเพื่อเป็นการพัฒนาความรู้ความสามารถ และเปิดโลกทัศน์ให้กับเยาวชน สำหรับใช้เป็นรูปแบบการเรียนการสอนด้วยการค้นคว้าจากเนื้อหาที่หลากหลายประกอบไปด้วยภาพวีดีโอ.บทเรียน.และบททดสอบ ที่รองรับภาษาต่างๆ รวมถึงภาษาไทย ดึงตัวแทนครู อาจารย์กว่า 200 ชีวิต จาก 100 โรงเรียนทั่วประเทศ ร่วมอบรมเพื่อพัฒนาวิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับทาง หวังกระตุ้นให้เด็กไทยรู้จัก และเข้าใจ กระบวนการคิด และวิเคราะห์ ให้เป็นการพัฒนาการรับรู้แบบบูรณาการทั้ง ฟัง คิด พูด อ่าน และเขียน ให้เยาวชนไทยได้เข้าถึงบทเรียนที่มีคุณภาพเท่าเทียมกับเยาวชนในต่างประเทศ และเป็นการเติมเต็มนโยบายของรัฐบาลใน “โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย” ให้มีครบทั้งอุปกรณ์ และเนื้อหาที่สมบูรณ์

ดร.พิเชฎษ์ จับจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์สำนักงานวิชาการและมาตรฐานการศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (สพฐ.) เปิดเผยว่า จากนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยแนวคิด หลักการ และการดำเนินการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับทาง (Flipped Classroom) และการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent Study) ด้วยกระบวนการบันได 5 ขั้นของการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมาตรฐานสากล จากการศึกษาพบว่า มีความเป็นไปได้ในการใช้ระบบการเรียนการสอนด้วยสื่อดิจิตอลตามมาตรฐานสากลเพื่อให้ผู้เรียน และผู้สอนสามารถดำเนินกิจกรรมตามแนวคิดดังกล่าวได้ แต่อุปสรรคที่สำคัญคือการผลิตสื่อที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน ดังนั้นการช่วยเหลือที่สำคัญคือการให้โอกาสครู และผู้เรียนสามารถเข้าถึงสื่อดิจิตอลที่มีคุณภาพ และเรียนรู้ผ่านอินเตอร์เน็ตหรือแบบไม่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต โดยเน้นไปที่การมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อผสมที่ประกอบด้วยเนื้อหา และแบบทดสอบ ทาง สพฐ. จึงได้ร่วมกับ ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ในการทำโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียน การสอนในรูปแบบ ห้องเรียนกลับทาง และการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง และได้รับความร่วมมือจากครู อาจารย์กว่า 200 คน จาก 100 โรงเรียน มาร่วมพัฒนาหลักสูตร

โดยโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้แบบ ห้องเรียนกลับทาง และการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง จัดขึ้นเพื่อพัฒนาวิชาชีพครูโดยการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การติดตามการดำเนินงานโดยวิธีนิเทศติดตามและให้ข้อมูลย้อนกลับการดำเนินงาน โดยเริ่มจากครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และจะทำการวิจัยศึกษาผลการดำเนินงาน โดยเน้นการปฏิบัติงานของครู และการเรียนรู้ของผู้เรียนผ่านการดำเนินการเรียนการสอนด้วยเนื้อหาดิจิตอล โดยกิจกรรมในโครงการนี้ แบ่งออกเป็น 3 กิจกรรม หลัก ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการทำวิจัย ได้แก่

การอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยจะอบรมเชิงปฏิบัติการในส่วนกลาง โดยคัดเลือกโรงเรียน ในสังกัด สพฐ ที่เข้าเกณฑ์ ได้แก่ เป็นโรงเรียน World Class และมี Program EP (English Program) จำนวน 100 โรงเรียน ส่งตัวแทนเข้าร่วมอบรมโรงเรียนละ 2 คน โดยจะอบรม 3 วัน วันละ 7 ชั่วโมง รวม 21 ชั่วโมงนอกจากนี้ยังมีการอบรมเชิงปฏิบัติการ ติดตามผล ระดับภูมิภาค พร้อมติดตามผลเชิญตัวแทนจากโรงเรียน 100 โรงเรียน เข้ารับการอบรมระดับภูมิภาค โดยมีระยะเวลาอบรม 1 วัน วันละ 7 ชั่วโมง หลังจากอบรมระดับภูมิภาค ผู้ที่เข้ารับการอบรมครบทั้ง 2 ครั้ง จะได้รับใบประกาศนียบัตร จาก สพฐ เพื่อรับรองการผ่านการอบรมหลักสูตรการเรียนรู้แบบ ห้องเรียนกลับทาง (Flipped Classroom) และการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง (Independent Study) จาก discovery education และ มศว.

การประกวดแผนการสอน ซึ่งผู้ผ่านการอบรมมีสิทธิส่งแผนการสอนในรูปแบบ การเรียนรู้แบบ ห้องเรียนกลับทาง และการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองเข้าประกวด เพื่อชิงรางวัลถ้วย และโล่รางวัล จาก สพฐ โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น ระดับภูมิภาค 4 ภาค ภูมิภาคละ 3 รางวัล รวม 12 รางวัล ซึ่งการส่งผลงานเริ่มส่งได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และปิดรับผลงานสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2557 และประกาศผลในวันปิดโครงการ เดือนมีนาคม 2557 ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Fan Page ของโครงการ www.facebook.com/flippedclassroomthailand

ดร.พิเชฎษ์ จับจิตต์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังมีการนิเทศติดตาม ผู้เข้ารับการอบรมในแต่ละภูมิภาค ภาคละ 1 โรงเรียน อีกด้วย โดยจะเริ่มจาก ภาคกลางโรงเรียนบ้านท่ากลอย, โรงเรียนอนุบาลระยอง ภาคเหนือโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ และโรงเรียนพุทธิโสภณ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น และภาคใต้ โรงเรียนอนุบาลชุมพรอีกด้วย

View :1386

โนเกียนำเสนอนวัตกรรมใหม่ด้านการออกแบบและถ่ายภาพ ด้วยหกผลิตภัณฑ์ใหม่ แอพพลิเคชั่น และประสบการณ์การใช้งาน

October 23rd, 2013 No comments

Nokia Lumia 1320

Nokia Lumia 1320


มีอะไรใหม่
• Lumia 2520 แท็บเล็ตเครื่องแรกของโนเกียบนระบบปฏิบัติการ Windows ออกแบบมาเพื่อให้คุณทำงานได้ทุกที่ สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE และ Wi-Fi พร้อมหน้าจอที่อ่านได้ชัดเจนไม่ว่ากลางแจ้งหรือในร่ม
• Lumia 1520 และ Lumia 1320 สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้ว มาในดีไซน์ Lumia ที่เคยได้รับรางวัล หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นทำให้เพิ่มแถวของ live tile ได้อีกหนึ่งแถวเพื่อความง่ายและรวดเร็วในการเข้าถึงแอพและประสบการณ์ต่างๆ
• Asha 500, Asha 502 และ Asha 503 มาในดีไซน์ใหม่สวยใสดั่งคริสตัล กล้องที่ฉลาดขึ้น พร้อมอินเตอร์เฟซที่เร็ว และตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น
• อุปกรณ์เสริมใหม่จากโนเกียตอบสนองวิถีชีวิตการสื่อสารเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ดพร้อมแบตเตอรี่ และที่ชาร์จแบตไร้สาย
• นวัตกรรมแอพจากโนเกีย ได้แก่ Nokia Storyteller, Beamer และ Video Director
• แอพพลิเคชั่นหลากหลายจากนักพัฒนาแอพ รวมถึง Instagram, WhatsApp, Papyrus, Vine

เอสปู, ฟินแลนด์ และ อาบู ดาบี้, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – 22 ตุลาคม 2556 – โนเกียเผยโฉมกองทัพอุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์เสริม และประสบการณ์ใหม่จากโนเกีย เสริมความแข็งแกร่งด้วยแอพพลิเคชั่นจากนักพัฒนาอีกคับคั่ง โดยเปิดตัว แท็บเล็ตเครื่องแรกของโนเกียบนแพลทฟอร์ม Windows พร้อมสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่อีกสองรุ่น ได้แก่ Lumia 1520 และ Lumia 1320 นอกจากนี้ ยังเปิดตัวโทรศัพท์ Asha ใหม่ 3 รุ่น รวมถึงโทรศัพท์ 3G เครื่องแรกบนแพลทฟอร์ม Asha มอบดีไซน์และสีสันใหม่ พร้อมอินเตอร์เฟซที่ตอบสนองได้ดีกว่าเดิมในราคาย่อมเยา ทั้ง Lumia และ Asha มากับนวัตกรรมการถ่ายภาพระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมมือถือ ช่วยให้ผู้คนเก็บภาพและแบ่งปันโลกรอบตัวได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน โนเกียแนะนำอุปกรณ์เสริมใหม่ช่วยให้ชีวิตง่ายและสนุกยิ่งขึ้น พร้อมประกาศแอพพลิเคชั่นใหม่จากโนเกียและนักพัฒนา เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งาน Asha และ Lumia ทั้งหมดนี้ปรากฎโฉมในงาน Nokia World ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองอาบู ดาบี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Nokia Lumia 2520

Nokia Lumia 2520


“ในปัจจุบัน อุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่กลายเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิตผู้บริโภค เพราะทุกคนต้องการบันทึก เก็บรวบรวม และแบ่งปันประสบการณ์ในทุกนาทีของชีวิต” มร.สตีเฟ่น อีลอป รองประธานบริหาร กลุ่มอุปกรณ์สื่อสารและบริการ โนเกีย กล่าวพร้อมเสริมว่า “วันนี้เรากำลังเชิญชวนผู้คนทั่วโลกให้เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์สื่อสารของโนเกีย ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล Lumia และ Asha เราได้นำดีไซน์และนวัตกรรมการถ่ายภาพชั้นนำมาใส่ไว้ในอุปกรณ์ที่ใหญ่ขึ้น ในราคาที่ย่อมเยาลง คุณภาพและคุณค่าของผลิตภัณฑ์โนเกียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการผนึกกำลังกับนักพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์แอพพลิเคชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ Lumia และ Windows Phone และชัดเจนด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 ปี 2556 คุณภาพ และคุณค่าของ Lumia และ Asha สมาร์ทโฟนสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วโลก”

Lumia 2520 แท็บเล็ตเครื่องแรกของ Nokia บนแพลทฟอร์ม Windows กับนวัตกรรมที่ครบครันของ Lumia
Lumia 2520 เป็นแท็บเล็ตเครื่องแรกบนระบบปฏิบัติการ Windows ของโนเกีย ออกแบบให้ทำงานได้ทุกที่ ด้วยหน้าจอ HD 10.1 นิ้ว ให้ภาพสวยใส อ่านได้ชัดเจนไม่ว่ากลางแจ้งหรือในร่ม Lumia 2520 รองรับสัญญาณ 4G LTE และ Wi-Fi กล้อง 6.7 ล้านพิกเซล และเป็นการนำเลนส์ Zeiss มาไว้บนแท็บเล็ตเป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้คนได้ถ่ายภาพสวยๆ แม้ในสภาวะแสงน้อย Lumia 2520 ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows RT 8.1 เพื่อประสบการณ์การใช้งานส่วนบุคคลและท่องอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย มีหลากหลายสีสันให้เลือก ชาร์จแบตได้เร็วโดยสามารถชาร์จแบตได้สูงถึง 80% ในเวลา 1 ชั่วโมง

Lumia 2520 มากับซอฟต์แวร์ที่สร้างสรรค์เพื่อตระกูล Lumia โดยเฉพาะ รวมถึง Dragon’s Adventure เกมอินเตอร์
แอคทีฟล่าสุดที่พัฒนาร่วมกับ DreamWorks Animation ผู้ผลิตภาพยนตร์การ์ตูนชั้นนำของโลก Lumia 2520 มากับ Nokia Storyteller แอพพลิเคชั่นที่โนเกียพัฒนาขึ้นเพื่อรวบรวมภาพถ่ายและวีดีโอตามลำดับเวลาผนวกกับแผนที่ จึงทำให้ผู้ใช้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ อีกครั้งได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมี Nokia Video Director ให้คุณตัดต่อวิดีโอพร้อมใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปในวิดีโอที่ถ่ายด้วย Lumia 2520 และสมาร์ทโฟน Lumia รุ่นอื่นๆ และด้วยบริการแผนที่ HERE ทำให้ Lumia 2520 เป็นแท็บเล็ตเพียงเครื่องเดียวที่มอบประสบการณ์แผนที่นำทางออฟไลน์ที่รวดเร็วและวางใจได้ นอกจากนี้ยังมี Nokia Music พร้อม Mix Radio ติดตั้งมาในเครื่อง Lumia 2520

Lumia 2520 เสริมสไตล์ที่โดดเด่นด้วยอุปกรณ์เสริมที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือ Power Keyboard แป้นพิมพ์พร้อมแบตเตอรี่สำรองให้ใช้งานได้นานขึ้นถึง 5 ชั่วโมง มาพร้อมพอร์ต USB 2 พอร์ต ช่วยให้หมดกังวลกับปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว Nokia Power Keyboard มาพร้อม cover เพื่อการปกป้อง และด้วยแป้นพิมพ์แบบเต็มพร้อม trackpad จึงมอบความรู้สึกในการใช้งานแบบเดียวกับแล็บท็อป ทั้งยังมี Microsoft Office และ Outlook ติดตั้งมาในเครื่อง ทำให้ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น

Lumia 2520 มี 4 สีให้เลือก คือ แดงและขาวในพื้นผิวแบบมัน ฟ้าและดำในพื้นผิวแบบด้าน คาดว่าจะวางจำหน่ายในไตรมาส 4 ปี 2013 ในราคา 499 เหรียญสหรัฐไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฟินแลนด์ เป็นประเทศแรกๆ ส่วน Nokia Power Keyboard จะวางจำหน่ายพร้อมกับ Lumia 2520 ในราคา 149 เหรียญสหรัฐ


บอกเล่าเรื่องราวอย่างมีชีวิตชีวากับ Lumia 1520 และ Lumia 1320
โนเกียเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง โดยเผยโฉมสมาร์ทโฟน Lumia หน้าจอใหญ่เป็นครั้งแรก
นั่นคือ Lumia 1520 และ Lumia 1320 สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้ว พร้อมซอฟต์แวร์ล่าสุดสำหรับ Windows Phone ทำให้ Lumia 1520 และ Lumia 1320 สมบูรณ์แบบทั้งเพื่อความบันเทิงและการทำงาน เพิ่ม tile แถวที่สามตามแนวตั้งบนหน้าจอหลักทำให้ผู้ใช้มองเห็นได้ชัดขึ้น และใช้งานได้ง่ายขึ้นบนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น สมาร์ทโฟนใหม่ทั้งสองรุ่นมากับการออกแบบที่โดดเด่นของ Lumia ที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย และเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถถ่ายภาพและแบ่งปันโลกรอบตัวของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

Lumia 1520 มอบนวัตกรรมการถ่ายภาพล่าสุดจากโนเกีย ประกอบด้วย กล้อง PureView 20 ล้านพิกเซล ระบบลดการสั่นไหวของภาพ OIS ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดแม้ในที่แสงน้อย พร้อมเทคโนโลยี Oversampling และระบบซูมใหม่แบบเดียวกับ Lumia 1020 นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นใหม่ ได้แก่ Nokia Camera และ Nokia Storyteller สมาร์ทโฟน Lumia 1520 มากับหน้าจอ Full HD 1080p ขนาด 6 นิ้ว มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนแม้อยู่กลางแจ้ง ผู้บริโภคสามารถบันทึกวิดีโอได้อย่างมีชีวิตชีวาด้วย Nokia Rich Recording ระบบบันทึกเสียงที่อัดเสียงได้อย่างแจ่มชัดด้วยไมโครโฟนมากถึง 4 ตัว ทั้งยังเสริมศักยภาพในการทำงานด้วยโปรแกรม Microsoft Office

Lumia 1320 นำหลากหลายนวัตกรรม Lumia ระดับไฮเอนด์มาไว้บนหน้าจอ 6 นิ้ว 720p พร้อมนำเสนอแอพ Nokia Camera บนอุปกรณ์สื่อสารที่มีราคาย่อมเยา Lumia 1320 มาพร้อมกับแอพด้านภาพถ่ายมากมาย และ Nokia Music ให้คุณฟังเพลงฟรีโดยไม่มีโฆษณา นอกจากนี้ยังมีแผนที่และบริการด้านโลเคชั่น HERE ผู้บริโภคจึงสามารถสัมผัสประสบการณ์ Lumia ยอดนิยมในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

Nokia Lumia 1520 มีสีเหลือง ขาว ดำ และสีแดงเคลือบมัน คาดว่าจะวางจำหน่ายภายในไตรมาส 4 ของปี 2556 ในราคา 749 เหรียญสหรัฐ ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ โดยจะวางจำหน่ายในฮ่องกง สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฟินแลนด์ และตลาดยุโรปอื่นๆ เป็นอันดับแรก

Nokia Lumia 1320 มีสีส้ม เหลือง ขาว และดำ คาดว่าจะวางจำหน่ายภายในไตรมาสหนึ่งปี 2557 ในราคา 339 เหรียญสหรัฐ ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในจีน เวียดนาม ตามด้ายตลาดอื่นๆ ในเอเชีย อินเดีย และยุโรป
Nokia Asha 500 Asha 502 และ Asha 503 ผนวกดีไซน์สวยงามกับประสบการณ์มือถือที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
อุปกรณ์สื่อสารใหม่บนแพลทฟอร์ม Asha ได้แก่ Asha 500 Asha 502 และ Asha 503 จะมาต่อยอดความสำเร็จของ Asha 501 และขยายขอบเขตนวัตกรรมสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา สมาร์ทโฟนทั้งสามมากับดีไซน์อันโดดเด่นของโนเกีย
ด้วยลุคใหม่กรอบใสเหมือนคริสตัล มองเห็นตัวเครื่องสีสันจัดจ้านภายใน เพิ่มความหรูหราและความคงทน โดย Asha 503 รองรับเครือข่าย 3G มาพร้อมกล้อง 5 ล้านพิกเซล ทั้งยังมีแบบ 2 ซิมให้เลือกอีกด้วย

Nokia Asha 500 Asha 502 และ Asha 503 มากับแพลทฟอร์ม Asha ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น เพื่อการใช้งานที่ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น อินเตอร์เฟซใหม่ช่วยให้แบ่งปันภาพถ่ายบนสังคมออนไลน์ได้เร็วและง่ายยิ่งขึ้น แค่กวาดนิ้วมือ (swipe) ก็เข้าถึงฟังก์ชั่นกล้องได้ง่ายๆ และใช้เพียงสัมผัสเดียวเพื่อการโพสต์ Fastlane มอบหน้าจอรองเพื่อเข้าถึงแอพที่ใช้งานบ่อยและสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ โนเกียตระหนักถึงความต้องการใช้งานแอพรับส่งข้อความฟรี จึงเตรียมเปิด ให้บริการแอพสุดฮิตอย่าง WhatsApp บน Asha 501 เป็นรุ่นแรกก่อนที่จะขยายสู่ Asha รุ่นใหม่ๆ ต่อไป

Nokia Asha 500 Asha 502 และ Asha 503 มีสีแดงสด เขียวสด เหลือง ฟ้า ขาวและดำ จะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาส 4 ปี 2556

Nokia Asha 500 มากับหน้าจอ 2.8 นิ้ว กล้อง 2 ล้านพิกเซล มีทั้งแบบซิมเดียวและสองซิม จะวางจำหน่ายในแอฟริกา เอเชียแปซิฟิค ยุโรป ละตินอเมริกา และตะวันออกกลาง ในราคาประมาณ 69 เหรียญสหรัฐไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ

Asha 502 มากับหน้าจอ 3 นิ้ว กล้อง 5 ล้านพิกเซล แฟลช LED รองรับการใช้งานสองซิม จะวางจำหน่ายในแอฟริกา เอเชีย-แปซิฟิก ยุโรปและตะวันออกกลาง ในราคาประมาณ 89 เหรียญสหรัฐไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ

Asha 503 รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ 3.5G หน้าจอกระจก Corning Gorilla Glass 2 ขนาด 3 นิ้ว กล้อง 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED มีทั้งแบบซิมเดียวและสองซิม ราคา 99 เหรียญสหรัฐไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ โดยจะวางจำหน่ายในแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ยุโรป ละตินอเมริกา และตะวันออกกลาง

ขยายขอบข่ายนวัตกรรมผ่านแอพพลิเคชั่น
ผู้ใช้งานจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากสมาร์ทโฟน Lumia ใหม่ ผ่านแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ได้แก่
• Nokia Video Director – แอพเพื่อการสร้างสรรค์ ตัดต่อและแบ่งปันวิดีโอจาก Lumia 2520
• Nokia Beamer – แอพเพื่อการแบ่งปันประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ให้กับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานได้ง่ายๆ โดยฉายสิ่งที่อยู่บน Lumia ไปยังหน้าจอของอุปกรณ์ใดก็ได้ที่รองรับ HTML5 สามารถแสดงได้ทั้งเอกสาร แผนที่ รายละเอียดสถานที่ หรือแม้กระทั่งภาพที่กล้องจับได้
• Nokia Storyteller บอกเล่าเรื่องราวด้วยการผนวกภาพบนสมาร์ทโฟนเข้ากับข้อมูลบนแผนที่นำทาง HERE โดยเรียงตามลำดับเวลาแล้วแสดงบนแผนที่
• Dragons Adventure ประสบการณ์สุดพิเศษเฉพาะ Lumia 2520 เกมที่ให้ทั้งครอบครัวเพลิดเพลินไปพร้อมกัน
• Instagram – สังคมออนไลน์สุดฮิตเพื่อการแบ่งปันภาพถ่ายและวิดีโอ
• Papyrus และ InNote แอพสำหรับการจดบันทึกด้วยลายมือ
• Vine สังคมออนไลน์มาแรงเพื่อการแบ่งปันวิดีโอ

สำหรับระบบนิเวศน์ของแพลทฟอร์ม Asha กำลังเติบโตด้วยแอพพลิเคชั่นที่ทวีจำนวนมากขึ้น รวมทั้งแอพพลิเคชั่น
ยอดนิยมอย่าง WhatsApp, Line แอพพลิเคชั่นด้านภาพถ่ายอย่าง PicFeed และ PicTag รวมถึง ESPN Sports Hub

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนักพัฒนา รวมถึงข้อมูลแอพพลิเคชั่นมากมายที่เปิดให้บริการแก่ผู้ใช้ Lumia และ Asha คลิก developer.nokia.com และ conversation.nokia.com

อุปกรณ์ชาร์จแบตไร้สายแบบพกพา
โนเกียเปิดตัวอุปกรณ์ชาร์จแบตไร้สายใหม่แบบพกพาที่ช่วยให้คุณชาร์จแบตได้สะดวกขึ้น เร็วขึ้น และไร้สายอย่างแท้จริง ชาร์จได้ทุกที่ ทุกเวลา Nokia DC-50 รองรับมาตรฐาน Qi สามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟนที่มีระบบชาร์จแบตไร้สายในตัว ได้แก่ Lumia 1520 Lumia 1020 Lumia 925 และ Lumia 920

Nokia DC-50 จะวางจำหน่ายทั่วโลกในไตรมาส 4 ในราคา 99 เหรียญสหรัฐ ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ

View :1580

โซนีเปิดตัว VAIO Tap 11 วินโดวส์แท็บเล็ทพีซี ที่ใช้ Intel Core Processor ที่บางที่สุดในโลกลงตลาดไทย

September 26th, 2013 No comments

Sony_221
บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดตัว VAIO® Tap 11 วินโดวส์แท็บเล็ทพีซีที่ใช้ Intel® Core™ Processor Family ที่บางที่สุดในโลก ที่พร้อมเติมเต็มทุกความต้องการใช้งานของผู้ใช้พีซีด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง พร้อมคุณสมบัติเฉพาะตัวมากมาย พกพาใช้งานได้สะดวกทุกที่ด้วยน้ำหนักที่เบา และมีความบางเป็นพิเศษเพียง 9.9 มม เท่านั้น (ไม่รวมคีย์บอร์ด) เพื่อรองรับการใช้งานแบบแท็บเล็ท แต่ยังเสริมการใช้งานที่สะดวกสบายในแบบฉบับของของโน้ตบุคด้วย เต็มประสิทธิภาพด้วยพลังในการประมวลผลที่เหมือนกันกับคอมพิวเตอร์ปกติด้วยหน่วยประมวลผล Intel® Core™ Processor พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้สั่งจองผลิตภัณฑ์ล่วงหน้าก่อนวางจำหน่ายจริงตั้งแต่วันที่ วันที่ 13 ถึง 19 กันยายน ศกนี้ ที่ โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ร้านโซนี่ เซ็นเตอร์ และร้านไวโอ้ โปรช็อป ทุกสาขา ในราคา 39,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

VAIO® Tap 11 มาพร้อมดีไซน์ภายใต้หลักการเดียวกับสมาร์ทโฟนรุ่น Xperia™ Z ด้วยแนวคิดแบบ Minimalistic การออกแบบเน้นถึงความสมดุล และความสมมาตร มีมุมโค้งมน และพื้นผิวมันวาวที่สะท้อนในทุกด้าน ทำให้ VAIO® Tap 11 มีตัวเครื่องบางที่สุด*ในกลุ่มแท็บเล็ทพีซี

Sony VAIO Tap 11

Sony VAIO Tap 11


นอกจากนี้ VAIO® Tap 11 มาพร้อมกับคีย์บอร์ดขนาดปกติที่มีแม่เหล็กในตัว พร้อมมี Touch Pad ซึ่งสามารถใช้งานแบบไร้สายได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เต็มที่ และสะดวกเหมือนใช้ในโน้ตบุคพีซี ในทางกลับกัน การแยกส่วนของคียบอร์ดยังทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ และด้วยแม่เหล็กที่ติดอยู่ภายในช่วยให้สามารถจัดเก็บเข้ากับหน้าจอของเครื่องได้โดยง่ายเพียงประกบเข้าด้วยกัน และใช้เป็นแผ่นป้องกันหน้าจอได้ในตัวอีกด้วย

VAIO® Tap 11 เครื่องนี้ มีโปรแกรมชุด VAIO® Inspiration Suite ที่รองรับความต้องการจากความคิดสร้างสรรค์และจัดการแก้ไขต่างๆได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาปากกาและกระดาษอีกต่อไป โปรแกรมชุด VAIO® Inspiration Suite ประกอบด้วย โปรแกรม CamScanner, VAIO® Paper และ VAIO® Clip ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานเกี่ยวกับการจดบันทึกต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ เริ่มด้วยการบันทึกภาพและแก้ไขใน CamScanner แล้วใช้โปรแกรม VAIO® Clip ตัดต่อบางส่วนที่ต้องการมาใช้ แล้วเขียนข้อความด้วยปากกา Digitizer ในโปรแกรม VAIO® Paper สะดวกง่ายดายราวกับการใช้งานปากกา และกระดาษจริงๆ

VAIO® Tap 11 มาพร้อม ปากกา Digitizer ของ VAIO® ได้พัฒนาขึ้นให้มีความแม่นยำ และคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด ปากกานี้มีหัวปากกาที่เลือกได้ 2 แบบคือ แบบหัวแข็ง ที่มีความฝืดน้อยและแบบหัวนิ่มที่มีความฝืดเหมือนกับการเขียนบนกระดาษจริง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถวาดภาพลงบนหน้าจอได้อย่างแม่นยำที่สุด

หน้าจอแบบ OptiContrast™ ของ VAIO® Tap 11 ยังลดแสงสะท้อนและรองรับการมองที่คมชัด ให้ผลการแสดงภาพที่มีคุณภาพสูงสุดด้วยความสว่างและคอนทราสสูง ทำให้โน้ตบุคเครื่องนี้พร้อมใช้งานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องที่แสงจ้า ด้วยการลดช่องว่างระหว่าง Touch Panel Sensor ให้ชิดกับหน้าจอแสดงผล ทำให้การสัมผัสดีขึ้น ตอบสนองได้ฉับไว ให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่เยี่ยมยอด
13Fall_VAIOTap11_W_situ01
VAIO® Tap 11 นั้นอัดแน่นไปด้วยสุดยอดเทคโนโลยีทั้งภาพและเสียงจากโซนี่ ด้วย หน้าจอ TRILUMINOS Display for Mobile ที่ทำให้ VAIO® Tap 11 มีการแสดงสีสันที่มากกว่าหน้าจอทั่วไป ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นจากวิศวกรกลุ่มเดียวกันกับหน้าจอของทีวี BRAVIA รุ่นปี 2013 ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะสร้างภาพที่มีสันสดใส สมจริง และเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้
ด้วย ClearAudio+™ ใน VAIO® Tap 11 ยังช่วยให้เสียงเบสที่แน่น เสียงสูงที่ไม่แตกพร่าได้ง่ายๆ เพียงเปิดใช้งาน เมื่อผู้ใช้ต้องการฟังเพลงที่มีรายละเอียดของเสียงสูงหรือต่ำอย่างที่ศิลปินสร้างสรรค์มา

และในส่วนของผู้ใช้ที่ไม่ชอบรอเวลาเปิดเครื่องเพื่อใช้งาน ฟังก์ชั่น Rapid Wake + eco ของ VAIO® Tap 11 จะช่วยขจัดปัญหานี้ให้หมดไป ในขณะที่ยังช่วยทำให้ชั่วโมงการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในโหมด sleep ผู้ใช้พียงแค่ทำการเปิดฝาเครื่องเมื่อต้องการใช้งานโน้ตบุคในวันว่าง หรือวันหยุด เครื่องก็จะพร้อมกลับมาทำงานได้ในทันที

โน้ตบุคอัจฉริยะ VAIO® Tap 11 พร้อมเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่ วันที่ 13 ถึง 19 กันยายน ศกนี้ ที่ โชว์รูม โซนี่ สโตร์ ร้าน โซนี่ เซ็นเตอร์ และร้านไวโอ้ โปรช็อป พร้อมวางจำหน่ายจริงตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป ในราคา 39,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th

View :1514

ทรูมูฟ เอช ชวนสัมผัสประสบการณ์ 4G LTE บน iPhone5, iPad with Retina display และ iPad mini

June 25th, 2013 No comments

พร้อมใช้ 4G LTE ฟรี นานสูงสุด 1 ปี และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย

กรุงเทพฯ 25 มิถุนายน 2556 – ทรูมูฟ เอช ตอกย้ำความเป็นผู้นำเครือข่าย 4G LTE รายแรกและ 3G ที่ครอบคลุมมากที่สุดในไทย สัมผัสประสบการณ์ 4G LTE แรงเต็มสปีด พร้อมมอบสิทธิสุดพิเศษให้ลูกค้าที่ใช้ iPhone 5, รุ่น Wi-Fi+Cellular และ ให้ใช้ 4G LTE ฟรีสูงสุด 1 ปี พิเศษสุด! เมื่อซื้อ iPhone 5 พร้อมสมัครแพ็กเกจ Free Size, XL, XXL รับสิทธิ์ใช้ 4G LTE เพิ่มอีก 2 GB ฟรี ใช้งานนาน 30 วัน หรือนำเครื่อง iPhone รุ่นเก่ามาร่วมแคมเปญ Trade-in ได้ที่ร้านทรูช้อป ทั่วประเทศ

ดร. ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการพาณิชย์ กลยุทธ์การขายและรีเทล / ทรูไลฟ์สไตล์รีเทล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำ iPhone เข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยเป็นรายแรก ผนวกกับเป็นผู้ให้บริการ 4G LTE รายแรกของไทย ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของทรูมูฟ เอช ที่จะนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาให้คนไทยได้ใช้งานเช่นเดียวกับทั่วโลก พร้อมต้อนรับลูกค้าให้สัมผัสประสบการณ์การใช้งาน 4G LTE ได้จริง ทรูมูฟ เอช จึงมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่ใช้ iPhone 5, iPad with Retina display รุ่น Wi-Fi+Cellular และ iPad mini ใช้ 4G LTE ได้ฟรีนานสูงสุด 1 ปี ตามปริมาณการใช้งานดาต้าที่ระบุไว้ในแต่ละแพ็กเกจ ซึ่งรองรับการรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น ดาวน์โหลดเร็วกว่า 3G+ ถึง 3 เท่า อัพโหลดเร็วกว่า 3G+ ถึง 5 เท่า เร็วแรงไม่มีสะดุด รองรับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ในอนาคต โดยเฟสแรกจะใช้ได้ในพื้นที่สำคัญๆ ก่อน อาทิ สยามสแควร์ สีลม สาทร โรงพยาบาลศิริราช บางส่วนของเส้นทางรถไฟฟ้า BTS, MRT, Airport link สนามบินสุวรรณภูมิ และถนนสายสำคัญ เช่น ถ.พระราม9 ถ.เพชรบุรี ถ.สุขุมวิท ถ.พระราม4 ถ.พระราม6 พร้อมเปิดให้บริการอีกในเขตปริมณฑล ทั้งนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และภายในสิ้นปีนี้จะขยายต่อไปในหัวเมืองหลัก อีก 15 แห่ง ได้แก่ พัทยา หัวหิน ชะอำ เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย นครปฐม อยุธยา พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และสงขลา”

ทรูมูฟ เอช มอบส่วนลดค่าเครื่องเพิ่ม 500 บาท เมื่อซื้อ iPhone 5, iPad with Retina display รุ่น Wi-Fi + Cellular และ iPad mini พร้อมจดทะเบียนรายเดือนใหม่ หรือย้ายค่ายเบอร์เดิมมายังทรูมูฟ เอช พิเศษสุด ลูกค้าใหม่ที่สมัครแพ็กเกจ Free Size 599, XL 899, XXL 999 สำหรับ iPhone 5 และ Net (i) 599, Net (i) 799, Net (i) 899 สำหรับ iPad with Retina display (รุ่น Wi-Fi + Cellular) และ iPad Mini รับสิทธิ์ใช้งาน 4G LTE เพิ่มฟรีอีก 2 GB เป็นเวลา 30 วัน ของรอบบิลแรกที่เปิดใช้บริการ สมัครวันนี้ ถึง 30 กันยายน 2556

พร้อมจัดแคมเปญ “Trade-in” อำนวยความสะดวกให้ผู้เป็นเจ้าของ iPhone 4S, iPhone4 และ iPhone 3GS สามารถนำเครื่องรุ่นเก่ามาแลกซื้อ iPhone 5 โดยมอบส่วนลด ค่าบริการรายเดือน 50% นาน 6 เดือน และใช้งาน 4G LTE ฟรี เมื่อสมัครแพ็กเกจ XL 899 และ XXL 999 ที่ร้านทรูช้อป ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 15 สิงหาคมนี้

Screen Shot 2556-06-25 at 8.00.32 PM
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ใช้ iPhone 5, iPad with Retina display รุ่น Wi Fi + Cellular และ iPad mini สามารถอัพเดทซอฟท์แวร์เป็น iOS 6.1 ขึ้นไป จากนั้นเข้าไปตั้งค่าเครื่องเพื่อใช้บริการ 4G LTE โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > เกี่ยวกับ (About) และทำตามขั้นตอนจนการอัพเดทเสร็จสมบูรณ์ และสามารถอัพเกรดซิม 4G LTE ได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ที่ร้านทรูช้อป

ทรูมูฟ เอช ผู้นำเรื่องสมาร์ทโฟนในประเทศไทย พร้อม iPhone Master เป็นบุคลากรที่ได้รับการรับรองจาก Apple ซึ่งเป็นกลุ่มแรกของประเทศไทย พร้อมให้คำปรึกษาเรื่อง iPhone และ iPad ที่ร้านทรูช้อป ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและตรวจสอบพื้นที่บริการ 4G LTE ได้ที่ www.truemove-h.com

View :1382

Microsoft Surface RT and Pro headed to Thailand and a number of new countries

April 24th, 2013 No comments

Bangkok – 23 April 2013 – Microsoft Corp. today announced Surface RT and Surface Pro will be available in June in Thailand, see http://blog.surface.com/b/surface/archive/2013/04/23/expanding-surface-pro-and-surface-rt-availability.aspx

“We are eager to see people and businesses in more countries get a chance to experience this new category of devices,” said Panos Panay, corporate vice president, Microsoft Surface. “Surface is the best of a tablet and a PC.”

Surface is an extension of the Windows experience, letting customers work, play and connect with the people who matter to them. Surface lets customers transition between entertainment and creation. It offers an ultra-light, durable casing and an integrated kickstand and cover that allow customers to be productive anywhere, as well as a full-sized USB port and microSDXC card slot for adding additional storage and a 16:9 widescreen high-definition display that makes it optimal for viewing and sharing content easily.

Surface RT is best described as a tablet with some laptop capabilities that weaves productivity and mobility into one beautiful product. It is great for those people looking for all-day battery life1 and an entertainment-first experience with the ability to still get work done. Surface Pro is comparable to a full-blown Windows laptop that also boasts tablet capabilities. For the first time, customers can have a fully functional PC that looks feels and acts like a tablet. With Surface Pro, customers can do virtually everything they have ever done on a PC, ranging from using their favorite desktop applications to enjoying the protection of world-class safety and security software.

Additional details on Surface are available at http://www.Surface.com, the Surface Blog and Surface on Facebook. Those interested can follow Surface on Twitter for additional updates.

View :1458
Categories: Tablet Tags:

เทคโนโลยี ICT เพื่อการศึกษาและกิจกรรมพักผ่อน

April 22nd, 2013 No comments

อีริคสันคอนซูเมอร์แล็บ (Ericsson ConsumerLab) ได้เปิดเผยรายงานผลการศึกษาเรื่อง “การใช้เทคโนโลยี ICT เพื่อการศึกษาหรือกิจกรรมพักผ่อน” ที่ศึกษาพฤติกรรมและประโยชน์ของการนำอุปกรณ์เทคโนโลยีส่วนตัว เช่น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุก โทรศัพท์มือถือ รวมถึงแท็บเล็ต มาที่โรงเรียนของเด็กนักเรียน
figure2(2)
อีริคสันคอนซูเมอร์แล็บได้ทำการศึกษาและสำรวจออนไลน์กับเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 15 – 18 ปี จาก 5 โรงเรียนดังที่มีชื่อเสียงในด้านไอที ในประเทศเอสโตเนีย โดยจัดเป็นลักษณะการทำแบบวิเคราะห์เชิงลึกเฉพาะกลุ่ม (Focus Group)

ประเทศเอสโตเนียเป็นสังคมที่นำเทคโนโลยี ICT มาใช้อย่างจริงจัง โดยภาครัฐก็ส่งเสริมการเกิด e-Society (Electronic-Society) อย่างแพร่หลาย ซึ่งทุกครัวเรือนมีการเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต และ 98 เปอร์เซ็นต์ของโรงเรียนมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์อย่างแพร่หลาย และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อีริคสันคอนซูเมอร์แล็บสนใจที่จะศึกษาพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีของเด็กนักเรียนกลุ่มนี้นั้นเอง

นาย มารคัส เพอร์สัน หัวหน้าทีมงานการวิจัยของ อีริคสันคอนซูเมอร์แล็บในครั้งนี้ กล่าวว่า “ในการสัมภาษณ์กลุ่มเด็กนักเรียนครั้งนี้ เราพบว่าทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือต่างถูกนำมาใช้ประโยชน์ทั้งการเรียนและกิจกรรมยามว่าง ทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน”
figure1
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ดิจิตอลเครื่องแรกๆ ที่นำมาใช้ในโรงเรียนที่เอสโตเนีย แต่อย่างไรก็ตามกระแสของแท็บเล็ตที่เกิดขึ้นมา ดูเหมือนว่ามันกำลังจะเข้ามาแทนที่อุปกรณ์ดังกล่าว

แม้นักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนได้ แต่ประมาณสองในสามของนักเรียนที่จะใช้คอมพิวเตอร์ของโรงเรียน และหนึ่งในสามของของนักเรียนจะนำแท็บเล็ตส่วนตัวมาใช้ที่โรงเรียน ในขณะสัมภาษณ์เด็กนักเรียนวัยรุ่นส่วนใหญ่กล่าวว่าพวกเขาชอบใช้งานแท็บเล็บมากกว่าเพราะด้วยความน้ำหนักที่เบาและสามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้สะดวก

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สำหรับโทรศัพท์มือถือในความคิดเห็นของครูต่างๆยังมองว่าอุปกรณ์ดังกล่าวยังไม่ใช่อุปกรณ์ที่มีประโยชน์ในด้านการเรียน แต่ว่าหนึ่งในสี่ของเด็กนักเรียนที่ให้สัมภาษณ์กลับบอกว่าพวกเขาใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อการเรียน ไม่ว่าจะเป็นการจดโน้ต ถ่ายภาพต่างๆ บนกระดานไวท์บอร์ด รวมทั้งการหาข้อมูลบนอินเทอร์เนตเป็นต้น

โทรศัพท์มือถือจึงเปรียบเสมือนเป็นอุปกรณ์เสริมที่เข้ามาเติมเต็มความจำเป็นในเรื่องของการสื่อสารทั้งในทางการเรียนและกิจกรรมยามว่าง ทั้งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนและสถานที่ภายนอก
figure2(1)
นาย บัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ อีริคสันประเทศไทย ได้กล่าวเสริมว่า แม้ว่าคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือได้แสดงถึงประโยชน์มากมายที่ช่วยส่งเสริมในการเรียนการศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ความท้าทายอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนก็คือ การจัดสมดุลในการใช้งานระหว่างใช้เพื่อพักผ่อนยามว่างและใช้เพื่อการเรียนการศึกษา
ดังนั้นการฝึกและปลูกฝังเรื่องของวินัยการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสมสำหรับเด็กนักเรียนกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะตัวพวกเขาเองจะต้องเป็นคนแยกแยะและเลือกระหว่างการใช้งานเพื่อประโยชน์ในยามว่างหรือการนำมาใช้ประโยชน์ในการเรียนการศึกษา

View :1955
Categories: Tablet, Technology Tags:

เดลล์เผยโฉมแท็บเล็ตและพีซีรุ่นใหม่ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์

December 18th, 2012 No comments


· แท็บเล็ต Latitude ใหม่ พร้อมด้วยอัลตร้าบุ๊คแบบพลิกหน้าจอได้ XPS 12 ให้คุณสร้างและใช้คอนเทนต์ อย่างง่ายดาย พร้อมแล้วสำหรับระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 8

· XPS อุปกรณ์เชื่อมระหว่างการทำงานและโลกแห่งความบันเทิง

· แท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่นำหน้าทั้งด้านความปลอดภัยและการจัดการ

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, 18 ธันวาคม 2555 – เดลล์พลิกโฉมวงการคอมพิวเตอร์ด้วยกลุ่มสินค้าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล สำหรับธุรกิจและผู้บริโภคที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากระบบปฏิบัติการล่าสุดที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อใช้งาน วินโดว์ส 8 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด เดลล์ ออกแบบสินค้าชั้นเยี่ยมที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้ และทำให้การทำงานระบบสัมผัสเข้าถึงผู้บริโภคมากกว่าที่เคย วันนี้ เดลล์ขอเสนอ แท็บเล็ตรุ่น Latitude 10 และโน้ตบุ๊คแบบคอนเวอร์ททิเบิลรุ่น XPS 12

สินค้าใหม่เหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องพกพาอุปกรณ์หลายชนิดอีกต่อไป ทั้งยังทำให้ประหยัดเวลาและช่วยให้ทำงานได้มากขึ้น ผลงานการออกแบบที่สวยงามและทนทานนี้มาพร้อมกับความสามารถด้านการจัดการและระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ เป็นการเสริมศักยภาพให้ผู้ใช้ให้ก้าวเดินไปในโลกแห่งการเชื่อมต่อได้ตลอดเวลา

นายอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท จำกัด และผู้จัดการทั่วไป ภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “การผสมผสานกันระหว่างฮาร์ดแวร์ของเดลล์และซอฟต์แวร์ของ Microsoft เอื้อให้ลูกค้าสามารถสร้างและบริโภคคอนเทนต์ในรูปแบบใหม่ได้อย่างตื่นตาตื่นใจ เรากำลังเผยโฉมผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในไลน์ของ คอนซูเมอร์ที่ปรับปรุงมาอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากการใช้งานแบบหน้าระบบสัมผัสได้อย่างเต็มที่ สินค้าใหม่ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัยเหล่านี้จะมีระบบสัมผัสที่เรียบง่ายและตอบสนองดีเยี่ยม รวมถึงให้ความสามารถด้านการจัดการ และระบบรักษาความปลอดภัยที่เพียบพร้อม ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคและกลุ่มผู้บริหาร และมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ สามารถเข้าถึงข้อมูลและแอพพลิเคชันได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ”

XPS 12 อัลตร้าบุ๊คแบบพลิกหน้าจอได้…ที่รวมแท็บเล็ตและแล็ปท็อปไว้ในเครื่องเดียว

XPS 12 คืออุปกรณ์สองชิ้นในหนึ่งเดียวที่เปี่ยมด้วยพลัง และฟีเจอร์ที่ทำให้ตัวเครื่องกลายมาเป็นแท็บเล็ต ที่มีพลังในการสัมผัส พร้อมด้วยฟีเจอร์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบได้อย่างง่ายดาย บานพับของจอระบบสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ คือนวัตกรรมที่มาพร้อมกับ ความเรียบหรู ที่ช่วยให้ตัวเครื่องแล็ปท็อปปรับเปลี่ยนเป็นแทบเล็ตได้อย่างง่ายดาย เพียงการกลับด้านเท่านั้น เมื่ออยู่ในระบบแทบเล็ตโหมดหน้าจอจะทำหน้าที่รวมไปถึงคีย์บอร์ด สามารถปกป้องตัวเครื่อง ทั้งจากความสกปรก และรอยเลอะต่างๆ ตัวจอที่สว่างคมชัดด้วยความละเอียดสูงสุดมอบปริมาณความหนาแน่น ของพิกเซลที่สูงกว่ามาตรฐาน จอความละเอียดสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์เพื่อประสบการณ์การอ่าน และการมองเห็นเป็นพิเศษ เสนอขายในราคาเริ่มต้นที่ 49,990 บาท

แท็บเล็ตใหม่จากเดลล์: สร้างสรรค์เพื่อการทำงานและความบันเทิงอย่างสมบูรณ์แบบ

แท็บเล็ต Latitude 10 ขนาด 10 นิ้ว เหมาะกับสภาพการใช้งานและตอบไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบันอย่างลงตัว ทั้งยังมีคุณสมบัติเด่น ด้านมัลติมีเดียที่หลากหลาย สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ และแอพลิเคชั่นของ Windows ในปัจจุบันได้อย่างราบรื่น เหมือนกับสินค้าในไลน์แล็ปท๊อปเพื่อธุรกิจของเดลล์ตัวอื่นๆ Latitude 10 สามารถติดตั้งกับชุดควบคุมบริหารระบบที่มีอยู่แล้ว ได้อย่างง่ายดาย สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ และยังมีระบบการป้องกันเสริมที่แข็งแกร่งด้วย เช่น Dell Data Protection | Encryption สำหรับการเข้ารหัสปกป้องข้อมูลจากฮาร์ดไดรฟ์ไปยังพอร์ต USB

ด้วยความที่แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ลักษณะพกพาที่อาจจะสามารถตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นหรือสูญหายได้ แท็บเล็ตรุ่นใหม่นี้จะมี คุณสมบัติการตรวจสอบลายนิ้วมือและเครื่องอ่านสมาร์ตการ์ดสำหรับการตรวจสอบผู้ใช้ 2 ขั้นตอนให้เลือกใช้ด้วย โดยจะมี การผลิตออกมาในช่วงต้นปี 2556 แบตเตอรี่ของ Latitude 10 สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 18 ชั่วโมง และมีฐานตั้ง และปากกาสไตลัสเป็นอุปกรณ์เสริม สามารถตอบสนองการทำงานและการใช้งานที่บ้านอย่างลงตัว เสนอขายในราคาเริ่มต้นที่ 24,990 บาท

อัลตร้าบุ๊คเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร

Latitude 6430u อัลตร้าบุ๊คสำหรับธุรกิจรุ่นแรกของเดลล์ คือความลงตัวระหว่างประสิทธิภาพการใช้สอยและความงาม นอกจากจะมีรูปทรงที่บาง สวยงาม และเคลื่อนย้ายสะดวกแล้ว ยังมีระบบความปลอดภัย การจัดการ และความทนทาน ที่จำเป็นสำหรับองค์กรต่างๆ Latitude 6430u เป็นโน้ตบุ๊คที่สามารถจัดการได้อย่างงายดาย และมีความคงทนที่สุดด้วย เพราะได้ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD 810G ของสหรัฐอเมริกามามากว่าสินค้าตัวอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน รุ่นนี้ยังเป็นรุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วยเทคโนโลยี WiGig ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ต่างๆ สื่อสารกันอย่างไร้สายในระดับความเร็วหลายกิกกะบิตเพื่อใช้งานประเภทข้อมูล วิดีโอ และเสียงได้อย่างรวดเร็ว แบตเตอรี่ของ Latitude 6430u ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง สามารถทำงานได้ตลอดทั้งวันเหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ต้องเดินทางตลอดเวลา ทั้งนี้ราคาเสนอขายขึ้นอยู่กับสเปคที่ลูกค้าต้องการ

กล่าวได้ว่า เดลล์ยังให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ต่อความต้องการของลูกค้าที่ต้องการการผสมผสานอย่างสร้างสรรค์ระหว่าง สไตล์และศักยภาพ ที่ต้องรองรับการทำงานที่มีคล่องตัวแต่ก็มีการควบคุมที่ดี สินค้าใหม่ในไลน์ XPS, Latitude ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 8 จะเป็นที่ต้องการของทั้งผู้บริโภคและแผนกไอทีอย่างแน่นอน โซลูชั่นของเดลล์ถูกออกแบบมา ให้รองรับขั้นตอนการทำงานด้านความปลอดภัยและการจัดการซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อธุรกิจ และเป็นหัวใจ สำคัญของ BYOD (แนวโน้มทางเทคโนโลยีที่พนักงานนำอุปกรณ์พกพาของตัวเองมาที่ที่ทำงาน)”

View :2043

ดีแทคเปิดตัว iPad mini และ iPad with Retina display พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้

December 12th, 2012 No comments

กรุงเทพฯ – 11 ธันวาคม 2555 – ดีแทคประกาศเปิดตัว และ ในรุ่น Wi-Fi + Cellular พร้อมจำหน่ายที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทคแล้ววันนี้ นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมแพ็กเกจคุ้มค่าต้อนรับลูกค้า กับ แพ็กเกจ 3G ในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 199 บาท พร้อมเล่น wifi ได้ถึง 6 เดือน

iPad ใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ซึ่งพร้อมวางจำหน่ายที่ดีแทคแล้ววันนี้ ประกอบด้วย iPad mini และ iPad with Retina display ในรุ่น Wi-Fi + Cellular มาครบทั้งสีขาวและสีดำ ในรุ่น 16 GB, 32 GB และ 64 GB
โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ดีแทคยังได้เตรียมแพ็กเกจพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ด้วยแพ็กเกจ Aircard-Tablet 399 ลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 199 บาทต่อเดือน เล่นเน็ตไม่จำกัดพร้อมความเร็ว 3G จำนวน 1GB และสามารถใช้ dtac wifi ได้ฟรีถึง 6 เดือนอีกด้วย

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า “เนื่องจากมีลูกค้าให้ความสนใจ iPad mini เป็นจำนวนมาก ซึ่งจำนวนเครื่องในช่วงแรกนั้นมีจำนวนจำกัด ดีแทคจะทยอยจำหน่ายตามจำนวนสินค้าจริงที่มี โดยจะเริ่มจำหน่ายให้กับลูกค้าดีแทคที่ใช้นานเกินกว่า 10 ปีเป็นกลุ่มแรก และจะพร้อมจำหน่ายและให้บริการแก่ลูกค้าดีแทคทุกท่าน โดยเร็วที่สุดครับ”

คุณสมบัติตัวเครื่อง
iPad with Retina display คมชัดด้วยหน้าจอ Retina 9.7 นิ้ว ใช้ชิพ A6X ที่ Apple ออกแบบมาเป็นพิเศษ กล้องความละเอียดสูงแบบ FaceTime HD
iPad mini มาพร้อมดีไซน์ใหม่หมด บางเฉียบกว่า iPad ถึง 23% มีน้ำหนักเบากว่า iPad เจเนอเรชั่น 3 ถึง 53% รวมทั้งยังใช้หน้าจอความละเอียดสูงแบบมัลติทัชขนาด 7.9 นิ้ว กล้อง FaceTime HD และ iSight ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง*
ทั้งสองผลิตภัณฑ์ใหม่ติดตั้ง iOS6 มีคุณสมบัติการใช้งานใหม่ๆ มากถึง 200 รายการและยังเป็นระบบปฎิบัติการที่รองรับการทำงานบนเครือข่ายดีแทค 3G

ผู้สนใจสามารถซื้อ iPad mini และ iPad with Retina display ได้ที่ สำนักงานบริการลูกค้าดีแทค หรือติดตามข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th และสามารถดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ที่www.apple.com/ipad

*อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าเครื่อง การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ และผลการใช้จะแตกต่างกันไป

View :1434
Categories: Tablet Tags: ,

เอไอเอสเปิดตัว iPad mini และ iPad with Retina display รุ่นที่มาพร้อมทั้ง Wifi และ 3G

December 7th, 2012 No comments

7 ธันวาคม 2555 – เอไอเอส เปิดตัว iPad รุ่นที่ 4 “” และ ในรุ่นที่มาพร้อมทั้ง Wifi และ 3G โดย iPad ทั้ง 2 รุ่นที่เอไอเอสนำมาจัดจำหน่ายจะมาพร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มจากเครือข่ายคุณภาพ Wifi และ 3G HSPA

iPad รุ่นที่ 4 หรือที่เรียกว่า iPad with Retina display มาพร้อมกับสุดยอดคุณสมบัติ อาทิ หน้าจอ Retina ขนาด 9.7 นิ้ว , หน่วยประมวลผล Apple A6X chip รุ่นล่าสุด, กล้องหน้ารองรับการใช้งาน FaceTime HD โดยในส่วนของ iPad Mini นั้นถูกออกแบบให้มีความบางกว่า iPad รุ่นที่ 3 ถึง 23% และมีน้ำหนัก เบากว่าถึง 53% พร้อมด้วยสุดยอดหน้าจอแสดงผลแบบ Multi Touch ขนาด 7.9 นิ้ว กล้อง iSight camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและกล้องหน้ารองรับการใช้งาน FaceTime HD ความเร็วของการใช้งานไร้สายที่เพิ่มขึ้น* โดยอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยังสามารถใช้ได้นานถึง 10 ชั่วโมง ** iPad ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 6 ซึ่งเป็นสุดยอดระบบปฏิบัติการล่าสุดของโลกที่มีคุณสมบัติการใช้งานให้เลือกเพิ่มมากขึ้นกว่า 200 แบบ

เบื้องต้นลูกค้าที่สนใจสามารถซื้อ iPad Mini รุ่นใหม่ได้ที่ Shop สยามพารากอน ชั้น 4 ส่วน iPad with Retina display สามารถซื้อได้ผ่าน online Shopping www..co.th/iPadmini ในช่วงสัปดาห์แรก หลังจากนั้นลูกค้าสามารถซื้อ iPad with Retina display ได้ที่ Shop และ ร้านเทเลวิซที่ร่วมรายการ ทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่นของ รวมทั้งสินค้า iPad mini และ iPad with Retina display ได้ที่ www..co.th/iPadmini

*ความเร็วการใช้งานขึ้นอยู่กับเครือข่ายของผู้ให้บริการ
**อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าการใช้งาน, รูปแบบการใช้งานและปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

View :1896

ก.ไอซีที จัดซื้อแท็บเล็ตเพิ่มจาก เซิ่นเจิ้น สโคปฯ อีก 54,945 เครื่อง

September 23rd, 2012 No comments

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามสัญญาจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) เพิ่มเติม ภายใต้โครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์พกพา ระหว่าง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กับ บริษัท เซิ่นเจิ้น สโคป ซายเอ็นทิฟิก ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Shenzhen Scope Scientific Development Co.,Ltd) ว่า กระทรวงฯ ได้ทำการสั่งซื้อเพิ่มเติม หรือ Repeat Order โดยทำสัญญาจัดซื้อเครื่องแท็บเล็ตกับบริษัท ในส่วนที่เหลือตามสัญญาจัดซื้อลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 ที่ระบุว่า กระทรวงฯ สามารถทำ คำสั่งซื้อเพิ่มเติมสำหรับเครื่องแท็บเล็ต จำนวนไม่เกิน 1,000,000 เครื่อง โดยกระทรวงฯ ได้เคยทำสัญญา Repeat Order ครั้งแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2555 จำนวน 403,941 เครื่อง ส่วนการลงนามในสัญญาสั่งซื้อเครื่องแท็บเล็ตเพิ่มเติมในครั้งที่สองนี้ กระทรวงฯ ได้สั่งซื้อเป็นจำนวน 54,945 (ห้าหมื่นสี่พันเก้าร้อยสี่สิบห้า) เครื่อง คิดเป็นมูลค่า 4,505,490 USD (สี่ล้านห้าแสนห้าพันสี่ร้อยเก้าสิบดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณ 135,164,700 บาท (หนึ่งร้อยสามสิบห้าล้านหนึ่งแสนหกหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยบาท) โดยหากรวมเครื่องแท็บเล็ต ทั้งหมดที่กระทรวงฯ ได้ทำสัญญาสั่งซื้อนั้นมีจำนวนทั้งสิ้น 858,886 เครื่อง

สำหรับสัญญาสั่งซื้อเครื่องแท็บเล็ตเพิ่มเติมในครั้งที่สองนี้ มีนายไชยยันต์ พึ่งเกียรติไพโรจน์ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงฯ เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และนายธารธรรม อุประวงศา ผู้อำนวยการกลุ่มงานมาตรฐาน สำนักส่งเสริมและพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ลงนามเป็นพยาน ส่วนฝ่ายจีนมี Mr.Liu Jun ประธานบริษัทฯ เป็นผู้ลงนาม และตัวแทนสถานทูตประเทศจีนประจำประเทศไทย ลงนามเป็นพยาน
โดยบริษัท เซิ่นเจิ้น สโคปฯ ได้ดำเนินการจัดส่งเครื่องแท็บเล็ตตามสัญญาจัดซื้อล็อตแรก จำนวน 400,000 เครื่อง ครบแล้วเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555 ขณะที่เครื่องแท็บเล็ตที่ได้จัดซื้อเพิ่มเติม (Repeat Order) ครั้งที่ 1 จำนวน 403,941 เครื่องนั้น บริษัท เซิ่นเจิ้น สโคปฯ ได้จัดส่งมาแล้วจำนวน 141,304 เครื่อง และจะทยอยส่งมอบพร้อมกับเครื่องแท็บเล็ตที่จัดซื้อเพิ่มเติมครั้งที่สองนี้ ภายในวันครบกำหนดส่งมอบ คือ วันที่ 30 กันยายน 2555

ด้านคุณลักษณะของเครื่องแท็บเล็ตนั้น เป็นไปตามรายละเอียดที่ได้ระบุไว้ในสัญญาจัดซื้อครั้งแรกฉบับที่ 208/2555 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 คือ เป็นหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว มีหน่วยบันทึกข้อมูล 8 GB มีหน่วยประมวลผลกลางมีความเร็วสัญญาณนาฬิกา (Clock speed) 1.2 GHz มีหน่วยความจำหลัก (RAM) จำนวน 1 GB ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 แบบ Ice Cream Sandwich และใช้แบตเตอรี่ชนิด Lithium Polymer ขนาดความจุ 3600 mAh มีการรับประกันเป็นระยะเวลา 2 ปี

View :1675