Archive

Archive for September, 2011

บาคาร์ดี้พลิกโฉมเดือนแห่งฮาโลวีนเชื่อมโลกออนไลน์และปาร์ตี้เข้ากับแอพพลิเคชั่นสุดหลอน “Ghost Shutter”

September 30th, 2011 No comments

ผ่านมือถือระบบ iPhone และ Android ตลอดเดือนตุลาคม แล้วไปสนุกสุดเหวี่ยงกันในงานบาคาร์ดี้ฮาโลวีนไนท์ปาร์ตี้ 29 ตุลาคมนี้ ที่เดโม่ผับ เอกมัย

หลังจาก บริษัท (ประเทศไทย) จำกัด ได้เป็นต้นแบบการนำเอาโลกสังคมออนไลน์ หรือโซเซียลเน็ตเวิร์ค มาเชื่อมโยงเข้ากับงานปาร์ตี้กับไอเดีย Like It Live ที่เปิดตัวให้ทุกคนได้รู้จักกันไปแล้วในงาน แบทบลาส 5 (ไทยมุง) ปาร์ตี้ ล่าสุด เพื่อสานต่อกิจกรรมที่ถือได้ว่า มีทั้งออฟไลน์และออนไลน์มาอยู่ด้วยกัน กับงานปาร์ตี้ที่จะนำคุณสู่ความสนุกสุดๆยิ่งกว่าเดิมในแบบที่ไม่ซ้ำใคร จึงส่งแอพพลิเคชั่น “Ghost Shutter” บนมือถือ iphone และ Android เพิ่มความสนุกสุดหลอนแบบเต็มพิกัด ต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนปาร์ตี้ในเดือนตุลาคมนี้

แอพฯ

นายสานิต โศภิตจิรพาส ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท บาคาร์ดี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ ทุกๆปีที่ผ่านมา งานฮาโลวีนปาร์ตี้ของบาคาร์ดี้ จะจัดได้ใหญ่และสนุกที่สุดอยู่แล้ว แต่ในปีนี้ เราอยากที่จะหาประสบการณ์ใหม่ๆให้ลูกค้า โดยไม่จำกัดความสนุกเพียงแค่คืนที่มีงานปาร์ตี้เพียงอย่างเดียว แต่เรายังสามารถสัมผัสประสบการณ์ของงาน ฮาโลวีนปาร์ตี้ของบาคาร์ดี้ได้ตลอดทั้งเดือนตุลาคม กับ Ghost Shutter ผ่านทางมือถือ iPhone และ Andriod ของคุณ แล้วไปเตรียมลุ้นกันว่าใครจะได้เป็นผู้ชนะในครั้งนี้ ซึ่งจะเปิดให้เริ่มดาวน์โหลดฟรีจาก App Store และ Android ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนนี้ เป็นต้นไป ซึ่ง แอพพลิเคชั่นตัวนี้จะเชื่อมโลกออนไลน์ของคุณเข้ากับงาน ฮาโลวีนปาร์ตี้ของบาคาร์ดี้ที่จะจัดอย่างยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยเซอร์ไพลส์ ที่เดโม่ เอกมัย ในคืนวันที่ 29 ตุลาคมนี้“ สำหรับ Ghost Shutter เป็น Mobile Application ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยบาคารดี้ จากการมุ่งสานต่อนโยบายการตลาดที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้าผ่านทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสื่อที่มีศักยภาพสูงสุดในยุคนี้ ขณะเดียวกัน กลุ่มเป้าหมายของบาคาร์ดี้ ก็คือกลุ่มที่มีไลฟ์ไตล์ใช้เทคโนโลยีประเภทนี้ ด้วยเช่นกัน ดังนั้น “Ghost Shutter” จึงถือเป็นกลยุทธ์หนึ่ง ที่เราต้องการเชื่อมโยงกลุ่มคนที่ชอบเล่นapplication บนมือถือและชอบไปงานปาร์ตี้ รวมเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านงานเทศกาลสุดฮิตในกลุ่มคนทั่วไป เช่นเทศกาลฮาโลวีน ที่กำลังจะถึงนี้ โดยบาคาร์ดี้หวังว่า เราจะสร้างความสนุก และสร้างกระแสปลุกผีวันฮาโลวีน กับการเล่นเกมส์ Ghost Shutter ผ่าน Application ที่เราสร้างขึ้นให้กับทุกคน ได้สนุกกับเทศกาลฮาโลวีนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมาครับ”

View :2284

“เอไอเอส” ชวนกระทบไหล่ โดเรมอน ซุปตาร์หุ่นขี้ผึ้ง ตัวล่าสุดของโลก! ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ พร้อมรับส่วนลด 20% แล้ววันนี้

September 30th, 2011 No comments

ร่วมกับ กรุงเทพฯ มอบความบันเทิงระดับโลกให้ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ชวนแฟนคลับกระทบไหล่ “โดเรมอน” หุ่นขี้ผึ้งตัวใหม่ล่าสุดขวัญใจคนทั่วโลก พร้อมตื่นตากับหุ่นขี้ผึ้งบุคคลสำคัญจากทั่วทุกมุมโลก ในราคาสุดพิเศษ! ลูกค้าเอไอเอสรับส่วนลด 20% ค่าบัตรเข้าชม (จากราคาปกติ ผู้ใหญ่ 390 บาท เด็กและนักเรียน 280 บาท) ที่ กรุงเทพฯ สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 6 รับสิทธิ์ง่ายๆ เพียงแสดงมือถือเอไอเอส ที่จุดจำหน่ายบัตร (1 หมายเลข / 2 สิทธิ์ / 2 สัปดาห์) ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 2554 สอบถามโทร 1175

View :1929

๕ พันธมิตร ร่วมมือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์การคำนวณสมรรถนะสูงระดับชาติ

September 29th, 2011 No comments

๕ พันธมิตรประกาศความร่วมมือพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงพร้อมการเชื่อมโยงผ่านเครือข่ายกริด มุ่งหวังให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์การคำนวณสมรรถนะสูงระดับชาติ เพื่อรองรับโครงการการวิจัย e-Science ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมากๆ เช่น ข้อมูลจีโนม ข้อมูลสภาพอากาศ จนถึงข้อมูลจากเครื่องเร่งอนุภาคขององค์กรวิจัยระดับนานาชาติอย่างเซิร์น นักวิจัยสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ และแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ทำการศึกษาวิจัยสาขาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาโลกร้อน การจัดการทรัพยากรน้ำ การเกษตร นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีชีวภาพ จนไปถึงวิทยาศาสตร์พื้นฐานอย่าง ฟิสิกส์อนุภาคพลังงานสูง ความร่วมมือในครั้งนี้จะนำไปสู่การยกระดับความรู้ด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานของชาติ และ รองรับการวิจัยที่มีประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย

๕ หน่วยงานพันธมิตร ประกอบด้วย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์กรมหาชน) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์การคำนวณสมรรถภาพสูงระดับชาติ เพื่อรองรับการวิจัย e-Science หรือโครงการ

ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ประธานกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ กล่าวว่า “โครงการ e-Science เป็นโครงการตามพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีจุดเริ่มต้นจากการที่พระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้คณะนักวิทยาศาสตร์ไทยตามเสด็จฯ ไปเยือนองค์การเพื่อการวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป หรือเซิร์น ที่นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งมีการทดลองเครื่องเร่งอนุภาคที่ทำหน้าที่บังคับให้อนุภาคชนกันที่ความเร็วสูง ใกล้เคียงความเร็วแสง ซึ่งมีค่าประมาณ ๓ แสนกิโลเมตรต่อวินาที เพื่อค้นคว้าความเข้าใจทางฟิสิกส์พื้นฐานว่า สสารต่างๆ นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร และมีอันตรกิริยา (interaction) ต่อกันอย่างไร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล็งเห็นความสำคัญของงานวิจัยนี้ จึงเป็นที่มาของการลงนามความร่วมมือระหว่าง เซิร์น กับ ประเทศไทย โดยประเทศไทยได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารงานความร่วมมือระหว่างเซิร์นกับประเทศไทยขึ้น ในคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีคณะย่อยหนึ่งชุดซึ่งดำเนินงานตามพระราชดำริในการจัดตั้งกริดคอมพิวติ้ง สำหรับเชื่อมโยงกับเซิร์น โดยเรียกว่า National e-Science Infrastructure Consortium ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง ระดับชาติ”

จุดเริ่มต้นจากความร่วมมือ ๕ หน่วยงานพันธมิตร โดยใช้งบประมาณของตนเองในการลงทุนจัดตั้งระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูงของแต่ละหน่วยงาน แล้วเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกริด โครงการ National e-Science Infrastructure Consortium เพื่อเชื่อมโยงไปที่เซิร์น ในการดึงข้อมูลมาทำวิจัยทางฟิสิกส์อนุภาค และในขณะเดียวกันก็จะให้เซิร์นใช้ทรัพยากรของเราเช่นกัน นอกจากนี้หน่วยงานภายใต้ความร่วมมือนี้จะสามารถใช้ทรัพยากรในโครงการ National e-Science Infrastructure Consortium มาทำการวิจัยพัฒนาตามความต้องการของประเทศไทยด้วย อาทิ เรื่องการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ เรื่องทรัพยากรน้ำ หรือ การคำนวณอื่นใดที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย เพื่อให้โครงการ National e-Science Infrastructure Consortium ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความยั่งยืน ช่วยยกระดับการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์พื้นฐานด้านฟิสิกส์อนุภาคที่ร่วมมือกับเซิร์น ในการทำวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย ในสาขาอื่นๆ
ตัวอย่างโครงการวิจัยพัฒนาที่จะใช้ประโยชน์จากเครื่องคอมพิวเตอร์สมรถนะสูงประกอบด้วย
 worldwide LHG Computing Grid
 ระบบ AliEn GRIเครื่องตรวจหาอนุภาคที่เกิดจากการชนของไอออนหนักของเครื่องเร่งอนุภาค LHG ที่ CERN
 งานวิจัยด้านการบริหารจัดการพลังงาน วิทยาการและวิศวกรรมเชิงคำนวณด้านการออกแบบทางวิศวกรรม
 Bee-inspired algorithm for scientific applications
 งานวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
 งานวิจัยด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม

View :2507

ก.ไอซีที จับมือภาครัฐ และเอกชนบูรณาการแจ้งเตือนภัย เพื่อป้องกันภัยต่อประชาชน

September 29th, 2011 No comments

นาวาอากาศเอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยถึงการบูรณาการเพื่อการแจ้งเตือนภัย และป้องกันภัยต่อประชาชน ว่า ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยให้ความสำคัญกับการเตือนภัยและเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนในทุกพื้นที่เสี่ยงภัยได้รับทราบอย่างรวดเร็วและทั่วถึง กระทรวงฯ จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเพื่อกำหนดมาตรการในการบูรณาการเพื่อการแจ้งเตือนภัย ป้องกันภัยต่อประชาชนผ่านช่องทางสื่อสารสารสนเทศที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

“กระทรวงฯ ได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี กรมอุทกศาสตร์ กระทรวงกลาโหม กรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คือ กรมอุตุนิยมวิทยา ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม บจ.ไปรษณีย์ไทย ตลอดจนผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น และบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่นเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางการบูรณาการเพื่อการแจ้งเตือนภัย ป้องกันภัยต่อประชาชน

โดยจากการหารือสรุปว่า หน่วยงานรับผิดชอบที่มีความชำนาญในแต่ละด้าน จะเป็นผู้ทำหน้าที่แจ้งกระจายข่าวสารให้แก่ประชาชน เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในยามปกติ และขณะเดียวกันก็จะทำหน้าที่แจ้งข้อมูลข่าวสารให้แก่ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เพื่อนำไปวิเคราะห์และตัดสินใจกรณีที่จะมีภัยพิบัติกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ก่อนกระจายข้อมูลแจ้งเตือนภัยไปสู่ประชาชน หน่วยงานราชการส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย และสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยใช้ช่องทางต่างๆ อาทิ วิทยุภาคประชาชน วิทยุสื่อสาร หอกระจายข่าว สถานีถ่ายทอดสัญญาณเตือนภัย Social Network , website รวมถึงข้อความสั้น (SMS) ซึ่งเป็นช่องทางที่ทำให้ประชาชนรับทราบได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงมากที่สุด ดังนั้น กระทรวงฯ จึงได้ขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 รายให้ร่วมเป็นพันธมิตรในการช่วยเหลือสังคมด้วยการสนับสนุนการส่ง SMS แจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

สำหรับเกณฑ์การกระจายข้อมูลและข่าวสารของศูนย์เตือนภัยฯ นั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ 1.รายงาน เป็นการกระจายข่าวเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งนี้ เพื่อให้รายละเอียดของภัย ความรุนแรง ผลกระทบ เวลาที่คาดหมายว่าภัยจะเกิด คำแนะนำในการปฏิบัติเพื่อลดอันตราย ลดความสูญเสีย คำแนะนำในการช่วยเหลือกู้ภัย โดยจะรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค หน่วยช่วยเหลือและกู้ภัย ตลอดจนประชาชน 2.เฝ้าระวัง เป็นการกระจายข่าวเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ แต่ไม่มีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการตื่นตระหนกและการเข้าใจผิดของประชาชน โดยจะกระจายข่าวให้กับผู้บังคับบัญชาทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อเป็นข้อมูลในการชี้แจงกับประชาชน
3. เตือนภัย เป็นการกระจายข่าวเมื่อคาดว่าจะเกิดภัยธรรมชาติ ที่จะเป็นอันตรายมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างรุนแรงหรือครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวาง โดยจะมีการให้รายละเอียดของภัย ความรุนแรง ผลกระทบ เวลาที่คาดหมายว่าภัยจะเกิดคำแนะนำในการปฏิบัติเพื่อลดอันตราย ลดความสูญเสีย คำแนะนำในการช่วยเหลือกู้ภัย และ 4. ยกเลิก เป็นการกระจายข่าว เมื่อสถานการณ์ภัยพิบัติกลับสู่ภาวะปกติ และทำการตรวจสอบข้อมูลจากทุกๆ แหล่ง จนเป็นที่แน่ใจและเป็นไปตามเกณฑ์ยกเลิกสถานการณ์ของภัยแต่ละชนิด ทั้งนี้ เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีความปลอดภัย และให้หน่วยช่วยเหลือกู้ภัยดำเนินการบรรเทาสาธารณภัยได้ต่อไป

View :1692

โนเกียโชว์ Nokia N9 เทคโนโลยี NFC และ Symbian Belle ในงาน Mobile Expo 2011 Showcase

September 29th, 2011 No comments

โนเกียตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสื่อสารเคลี่อนที่ โดยนำสมาร์ทโฟนสุดล้ำอย่าง และ มาให้ผู้บริโภคและนักพัฒนาได้เปิดประสบการณ์ความล้ำในงาน Mobile Expo 2011 Showcase ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 29 กันยายน ถึง 2 ตุลาคมศกนี้ พร้อมจัดหนักโปรโมชั่นสำหรับสมาร์ทโฟนและโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ อีกเพียบ


เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่แสดงภายในบูธโนเกีย ประกอบด้วย Symbian Belle แพลทฟอร์ม Symbian ล่าสุด มาพร้อม เทคโนโลยี NFC ซึ่งช่วยให้คุณแบ่งปันข้อมูลและจับคู่อุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายแม้ในขณะเคลื่อนที่ โดยมีอุปกรณ์เสริม NFC อย่าง Nokia Play ลำโพง NFC พลังเสียงรอบทิศทาง มาให้ผู้บริโภคได้เปิดประสบการณ์ความล้ำก่อนใครเป็นครั้งแรก
ผู้เยี่ยมชมจะได้เพิ่มประสบการณ์ระบบแผนที่ 3D ของโนเกีย โดยสามารถเรียกดูอาคารหรือสถานที่สำคัญในรูปแบบ 3 มิติ
ที่สวยงามได้ พร้อม Nokia Store ที่นำแอพพลิเคชั่นยอดนิยมมาให้ได้ทดลองและเปิดใช้งาน นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมของโทรศัพท์มือถืออย่าง Easy Swap ในโทรศัพท์มือถือ 2ซิมพลัสมาให้ผู้บริโภคได้สัมผัสอีกด้วย


โนเกียเปิดโอกาสให้คุณได้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนสุดล้ำ Nokia N9 สมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มีหน้าจอสัมผัสทั้งหมด
ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี swipe ที่ล้ำหน้ากว่าใคร จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องมีปุ่ม Home บนหน้าจออีกต่อไป โดยสามารถจอง Nokia N9 ขนาด 16 GB ได้ภายในงาน จำนวนจำกัดเพียง 450 เครื่องเท่านั้น และจะส่งมอบของราวกลางเดือนตุลาคมนี้
ผู้สั่งจองจะได้รับ Nokia BH 505 หูฟังสเตอริโอบลูทูธมาพร้อมเทคโนโลยี NFC สุดล้ำ มูลค่า 2,250 บาท ฟรีอีกด้วย


โนเกียจัดหนักโปรโมชั่นสำหรับสมาร์ทโฟนและโทรศัพท์มือถือทุกระดับราคา ผู้ซื้อสมาร์ทโฟน Symbian Belle ได้แก่ Nokia 700, Nokia 701 และ Nokia 600 ภายในงาน จะได้รับกระเป๋า Adidas สุดคูล 1 ใบ มูลค่า 990 บาทฟรี

สำหรับผู้ซื้อ Nokia X7, E6, N8, C7, E7, C6 Touch รับฟรี บลูทูธ โนเกีย มูลค่า 850 บาท สำหรับรุ่นอื่นๆ รับฟรีเสื้อยืด Nokia Cool นอกจากนี้ ยังให้ลุ้นโชคโดยทุก 1 ใบเสร็จ รับคูปองชิงโชคโทรศัพท์มือถือโนเกีย และบัตรชมภาพยนตร์จากเครือเมเจอร์ รวมมูลค่ากว่า 150,000 บาท


สอบถามเงื่อนไขโปรโมชั่นและรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมเปิดประสบการณ์เทคโนโลยีสมาร์ทโฟนล่าสุดได้ที่บูธโนเกีย
ในงาน Mobile Expo 2011 Showcase ณ ศูนย์สิริกิติ์ฯ

View :2500

ดีแทคมอบข้อเสนอให้ลูกค้าอย่างจุใจ ที่งาน Thailand Mobile Expo 2011

September 29th, 2011 No comments

iPad 2 ระดมของกำนัลเต็มสูบ มอบซิมเสริมพร้อมแพ็กเกจเพียงเดือนละ 250 บาท บัตรกำนัล 1,000 บาท และของสมนาคุณจำนวนมาก

ดีแทคระดมข้อเสนอเต็มอัตราเพื่อมอบให้ลูกค้าที่มาเลือกซื้อสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์รองรับ 3G ที่งาน รวมสมาร์ทโฟนจากทุกระบบปฏิบัติการ พร้อมเนรมิต iPad Playground นำเสนอประสบการณ์ในการใช้งานบน iPad 2 และแนะนำบริการ iPad Tour by iBuddy ระหว่างวันที่ 29 ก.ย. – 2 ต.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ดีแทคจัดข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์รองรับ dtac 3G ของเราในงานนี้โดยเฉพาะ และสำหรับ iPad 2 ที่เปิดตัวล่าสุดนั้นเรามีโปรโมชั่นพิเศษยิ่งกว่า นอกจากข้อเสนอทางการชำระเงินที่จูงใจแล้ว ดีแทคยังใส่ใจกว่าด้วยการมอบฟรีซิมเสริมพร้อมแพ็กเกจคุ้มค่าเพียงเดือนละ 250 บาท และบริการ iPad Tour by iBuddy ให้คำปรึกษาและแนะนำแอพพลิเคชั่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และมอบบัตรกำนัลตามใจมูลค่า 1,000 บาทเพิ่มให้อีกเพื่อให้ลูกค้าได้ใช้เป็นส่วนลดค่าบริการดีแทคหรือจะเลือกใช้ซื้อสินค้าที่ iStudio และ iBeat พร้อมรับของสมนาคุณมากมาย”

“นอกจากนั้น ดีแทคยังเปิดพื้นที่ iPad Playground เพื่อเป็นพื้นที่จัด iPad Tour by iBuddy สำหรับลูกค้าที่ซื้อ iPad 2 จากดีแทค และสำหรับลูกค้าทั่วไปก็ยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและทดลองใช้แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ บน iPad 2 ได้ ภายในห้องแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์ มีการโชว์การบังคับเฮลิคอปเตอร์จากแอพพลิเคชั่น เกมต่าง ๆ โชว์การมิกซ์เพลง และการใช้งานมัลติมีเดีย รวมทั้งมีรายการภาคบันเทิงไว้รองรับลูกค้าด้วย” นายปภาพรตกล่าวปิดท้าย

ลูกค้าที่เข้ามาแวะที่บูธของดีแทคในงาน Thailand Mobile Expo 2011 จะได้พบกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สื่อสารที่รองรับ dtac 3G จากทุกระบบปฏิบัติการ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ ของแถมมากมายจากทุกแบรนด์ และรับพรีเมี่ยมดีไซน์เก๋สำหรับลูกค้าดีแทคโดยเฉพาะ ออกแบบเป็นพิเศษโดย โน้ส อุดม แต้พานิช และม.ล. จิราธร จิรประวัติ

สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สื่อสารชั้นนำที่มีจำหน่ายที่บูธดีแทคประกอบด้วย iPhone, Samsung, BlackBerry, HTC และ Nokia รวมทั้งดีแทคแอร์การ์ด และสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว อย่าง Samsung Galaxy SII สีขาว และ BlackBerry Bold 9900 พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ เลือกผ่อนชำระ 0% ได้นาน 10 เดือน และรับเงินเครดิตคืนสูงสุด 15% กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ และรับของสมนาคุณพิเศษ นอกจากนั้น ลูกค้ายังสามารถสมัครแพ็กเกจสมาร์ทโฟนสุดคุ้ม พร้อมรับส่วนลดค่าบริการรายเดือนสูงสุด 1,200 บาทได้ภายในงานด้วย

iPad 2 จากดีแทคมอบข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อเครื่องในงาน แถมฟรี ซองใส่ iPad limited edition และฟิล์มกันรอย ส่วนลด 20% สำหรับซื้อ smart cover พร้อมทั้งยังแถม “บัตรกำนัลตามใจ” มูลค่า 1,000 บาท สำหรับใช้ซื้อสินค้าที่ iStudio/iBeat หรือใช้แลกเป็นค่าโทรศัพท์ในเครือข่าย dtac ซึ่งใช้ได้ทั้งชำระค่าบริการรายเดือน หรือเติมเงินสำหรับลูกค้าแฮปปี้ และเข้าร่วมเวิร์คช็อปพิเศษจาก iPad Tour by iBuddy ที่นำทีมผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษาและแนะนำแอพพลิเคชั่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์

ดีแทคยังได้จัดแสดงพิเศษที่ iPad Playground ตลอดการจัดงาน ประกอบด้วยการโชว์มิกซ์เพลงโดยดีเจจูน และดีเจแวน แชมป์ไพโอเนียร์โปร การแสดงของวงดนตรี L.O.V.E Band ที่เล่นดนตรีโดย iPad และพบกับ มณฑล จิรา และนานา ไรบีนา ที่จะมาแชร์ประสบการณ์การใช้แอพพลิเคชั่นบน ในวันที่ 29 กันยายน เวลา 17.30 น. โดยประมาณ

ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บูธของดีแทค และ iPad Playground (Meeting Room 2) ในงาน Thailand Mobile Expo 2011 บริเวณ Plenary Hall ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 29 ก.ย. – 2 ต.ค.นี้

View :2192

โซนี่ อีริคสัน เปิดตัวสมาร์ทโฟนพร้อมกัน 4 รุ่นรวดในงาน Thailand Mobile Expo 2011

September 29th, 2011 No comments

บริษัท โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสมาร์ทโฟนพร้อมกัน 4 รุ่น ได้แก่ Xperia ray , Xperia mini , Xperia mini pro และ Mix Walkman พร้อมให้คุณได้ร่วมสัมผัสและเป็นเจ้าของได้ก่อนใคร

นายซาโตชิ เมกะตะ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับงาน Thailand Mobile Expo 2011 ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 29 กันยายน -3 ตุลาคมนี้ ในส่วนของโซนี่ อีริคสัน ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนถึง 4 รุ่นภายในงาน โดยไฮไลท์เด่นอยู่ที่ “Xperia ray” สมาร์ทโฟนดีไซน์ที่ดูโดดเด่นที่สุด จากตระกูล Xperia ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Mobile BRAVIA® Engine และ เซ็นเซอร์ Exmor-R™ รวมถึงกล้องความละเอียด 8.1 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส และ ดิจิตอลซูมที่สามารถซูมได้ถึง 16 เท่า ควงคู่มากับ “Xperia mini” สมาร์ทโฟนขนาดเล็กที่ออกมาเพื่อเอาใจผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายวีดีโอโดยเฉพาะ ด้วยหน้าจอแบบ Mobile BRAVIA® Engine กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัส และไฟ LED รองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวในระดับ HD 720p อีกทั้งชมไฟล์ วีดีโอ Youtube ด้วยความละเอียด ระดับ HD ผ่านมือถือและอัพโหลดไฟล์ผ่านมือถือได้อย่างทันท่วงที อีกรุ่นนึงที่พลาดไม่ได้กับ “Xperia mini pro” สมาร์ทโฟนเพื่อความบันเทิงขนาดเล็กที่มาพร้อมกับคีย์บอร์ดแบบสไลด์ที่รองรับการพิมพ์ภาษาไทย รวมถึงกล้องด้านหน้าสำหรับ VDO Call ปิดท้ายด้วย “Mix Walkman” วอล์คแมนโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากโซนี่ อีริคสัน ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การเป็นมือถือคาราโอเกะด้วยระบบการตัดเสียงร้องและมาพร้อมเนื้อเพลงให้คุณได้เพลิดเพลินกับการร้องเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือของคุณ พิเศษ!…ลูกค้าโซนี่ อีริคสันพบกับโปรโมชั่นสุดว้าวและของแถมสุดพิเศษได้ภายในงาน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 2 ตุลาคม 2011 ณ บูธ โซนี่ อีริคสัน ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

View :2282

เอไอเอส ก้าวเข้าสู่ปีที่ 22 เผยโลโก้ใหม่และแนวคิด “AIS ชีวิตในแบบคุณ : Your World. Your Way.”

September 29th, 2011 No comments

เอไอเอสก้าวเข้าสู่ปีที่ 22 ต่อยอดเส้นทางของแบรนด์ไปอีกขั้น สนับสนุนคนไทยให้เลือกใช้ “ – Your World. Your Way.”

ตอกย้ำความเป็น ผู้ให้บริการเทคโนโลยีไร้สายอันดับ 1 ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาและนำสิ่งที่ดีที่สุดส่งมอบให้แก่ลูกค้าและคนไทยเสมอ จากประสบการณ์และความเข้าใจในความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของคนรุ่นใหม่ทุกแง่มุม พร้อมสนับสนุนทุกความฝันและความต้องการของคนไทยจากนวัตกรรมความคิดใหม่ๆ แบบมืออาชีพของชาวเอไอเอส

AIS New Logo

นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวว่า “ตลอด 21 ปีที่ผ่านมา เป็นผู้ที่มุ่งมั่นพัฒนาบริการเพื่อลูกค้าและคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมไทยในแต่ละขั้นอย่างชัดเจน ถือได้ว่าเป็น 1 ในผู้สร้างมาตรฐานคุณภาพการให้บริการในแต่ละยุค จนถึงวันนี้ คนไทยกว่า 69 ล้านใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็น 1 ในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน , ในแต่ละเดือนมีการใช้โทรศัพท์มือถือกว่า 180 ล้านครั้งต่อวัน รวมไปถึงมีการเชื่อมต่อเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ตมากกว่าวันละ 250 ล้านครั้ง ทำให้อุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมมีส่วน Contribute รายได้ในภาพรวมมากกว่า 2% และก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 300,000 บุคลากร ซึ่งวันนี้ปรากฏการณ์ดังกล่าว ส่วนหนึ่งถือได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ส่งผลให้เราเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ซึ่งแน่นอนนำมาซึ่งการเปิดโลกที่เต็มไปด้วยโอกาสและความเป็นไปได้อย่างไร้ซึ่งข้อจำกัด”

“วันนี้เอไอเอสมองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของสังคม และวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วดังกล่าว แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนและจะยังคงเป็นเช่นเดิมเสมอคือ เอไอเอสกับความมุ่งมั่นที่จะไม่หยุดนำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อพัฒนาและส่งมอบให้แก่ลูกค้าและคนไทยจากนี้ และตลอดไป โดยวันนี้เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เราจึงมีการพัฒนาแบรนด์แพล็ทฟอร์มไปอีกขั้นจากสัญลักษณ์เดิมที่เป็นลูกโลกแห่งการสื่อสาร ซึ่งสื่อถึงยุคของการให้บริการเสียงซึ่งเอไอเอสได้สร้างมาตรฐานไว้อย่างเต็มรูปแบบ สู่สัญลักษณ์ใหม่ที่มาจาก “รอยยิ้ม” และ “สีเขียว” แทนความเป็นมิตร การสร้างสรรค์ การเติบโต และการแสดงออกทางความรู้สึกที่มุ่งมั่นและชัดเจน สอดคล้องกับการเปิดมิติใหม่ในโลกแห่งข้อมูลและออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ”

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส กล่าวเสริมว่า “แรงบันดาลใจที่สำคัญและส่งผลให้เกิดการก้าวไปข้างหน้าของเอไอเอส เพื่อจะสามารถพัฒนาบริการที่ตรงใจรอไว้ ก่อนที่ความต้องการในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น ก็คือ เสียงจากลูกค้าและคนไทย ซึ่งต่างบอกเล่าถึงความต้องการที่แตกต่างกัน ในแต่ละช่วงเวลา ในแต่ละช่วงชีวิต ดังนั้นด้วยแนวคิดจากแบรนด์แพล็ทฟอร์มใหม่ AIS “ชีวิตในแบบคุณ : Your World. Your Way.” เอไอเอสจึงพร้อมที่จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้คุณเชื่อมต่อความรู้สึกได้ในแบบของคุณ ให้คุณสร้างสัมพันธภาพที่ลึกซึ้งได้มากยิ่งขึ้น ให้คุณเลือกสร้างความสุขในแบบของคุณได้ตามต้องการ และให้คุณเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์อนาคตใหม่ในแบบของคุณอย่างไร้ซึ่งข้อจำกัดด้วยเช่นกัน”

“การที่เอไอเอสจะสามารถสนับสนุนให้ทุกคนได้เลือกใช้ชีวิตในแบบที่ตัวคุณต้องการได้นั้น จะต้องเกิดจากพลังของชาวเอไอเอสกว่า 9,000 ชีวิต ที่จะร่วมกันส่งมอบบริการ โซลูชั่นส์ และทางเลือกใหม่ๆ อันเกิดจากการเข้าใจในความต้องการอย่างลึกซึ้ง, การพร้อมมอบความช่วยเหลือตลอดเวลา, การนำความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีใหม่ๆมาพัฒนาบริการก่อนใคร และ สร้างความมั่นใจได้อย่างเต็มที่จากการเป็นมืออาชีพที่พร้อมส่งมอบบริการอย่างเที่ยงตรง โปร่งใส มีคุณภาพจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอด 21 ปีของการให้บริการ”

นายวิเชียร กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า “วันนี้เราพร้อมที่จะเดินหน้าไปอีกขั้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้การใช้ชีวิต ความฝัน ความหวังของลูกค้าและคนไทย ทุกคนประสบความสำเร็จ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะร่วมสร้างพลังให้แก่พันธมิตรจากหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงยกระดับการให้บริการอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อให้สามารถเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยสนับสนุนการใช้ชีวิตของคนไทยได้อย่างแท้จริง”

View :10547

เคทีซีรุกต่อโซเชียล มีเดีย สร้างคอมมูนิตี้ผ่านแอพพลิเคชั่น instagram ชวนสาวกไอโฟนที่ชอบถ่ายภาพร่วมติดตามและติดแท็ก “igktc” บนภาพประทับใจ

September 29th, 2011 No comments


“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์ผ่านแอพพลิเคชั่น “” (อินสตาแกรม) บนเครือข่ายโซเชียล มีเดีย ชวนสมาชิกเคทีซีกว่า 2.3 ล้านบัญชี และสาวกไอโฟนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ร่วมติดตาม (follow) “igktc” บนแอพพลิเคชั่น และโพสต์ภาพประทับใจในมุมต่างๆ แบบไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็นภาพอาหาร สถานที่ บุคคล สัตว์เลี้ยง ดอกไม้ หรือธรรมชาติ และติดแท็ก “igktc” เพื่อแบ่งปันภาพกับกลุ่มเพื่อน รวมทั้งยังสามารถติดตามภาพสวยๆ และแสดงความคิดเห็น หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับเพื่อน โดยการให้และรับ Likes เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนได้ภายในคลิ๊กเดียว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรวมกลุ่มคน ไลฟ์สไตล์เดียวกันเข้าไว้ด้วยกันในโลกออนไลน์ เพื่อความสะดวกในการจัดสรรสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมให้ตรงกับความต้องการของสมาชิกเคทีซีแต่ละไลฟ์สไตล์ในอนาคต

แอพพลิเคชั่น “instagram” ได้รับความนิยมสูงมาก บนไอโฟน 3G, 3Gs, ไอโฟน 4 เพราะมีฟิลเตอร์ตกแต่งภาพให้ผู้ใช้ได้เลือกมากมาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และยังสามารถส่งต่อให้เพื่อนได้หลายช่องทางโดยผ่านเฟซบุ๊ค / ทวิตเตอร์ / Flickr / Tumblr / foursquare และ Posterous ทำให้มีผู้ใช้งาน instagram ทั่วโลกแล้วถึงกว่า 9 ล้านคน

ผู้สนใจสามารถเข้ารวมกลุ่มได้ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “instagram” จาก App Store และค้นหา “igktc” นอกจากนี้ยังสามารถติดตามสิทธิประโยชน์ พร้อมร่วมแบ่งปันความคิดเห็น และเรื่องราวดีๆ ได้ที่ www.facebook.com/ktcrealprivilege ปัจจุบันเคทีซีมีแฟนเพจในเฟซบุ๊คแล้วกว่า 30,000 คน

View :2076

ก.ไอซีที จับมือ มศว ประสานมิตร พัฒนาความรู้ด้านไอซีทีให้บุคลากร

September 29th, 2011 No comments

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ว่า ปัจจุบันระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้มีความก้าวหน้าและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน การพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนากําลังคนให้มีคุณภาพและปริมาณที่เพียงพอ ทั้งบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และบุคลากรในศาสตร์สาขาอาชีพอื่นๆ ทุกระดับให้มีความรู้ความสามารถในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ มีวิจารณญาณ รู้เท่าทัน ควบคู่ไปกับการมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมและเศรษฐกิจฐานความรู้ รวมถึงนวัตกรรมอย่างยั่งยืนมั่นคง

ดังนั้น กระทรวงไอซีที จึงได้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพอาจารย์ บุคลากร และนิสิตของมหาวิทยาลัย รวมทั้งเพื่อวิจัยและพัฒนางานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการสื่อสารและการสร้างนวัตกรรม ตลอดจนเพื่อแลกเปลี่ยนและขยายผลงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการสื่อสาร และการสร้างนวัตกรรมของทั้งสององค์กรไปสู่ชุมชนและสังคม

สำหรับขอบเขตความร่วมมือทางวิชาการในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้มีด้วยกัน 6 เรื่อง คือ 1.ร่วมกันส่งเสริมการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรของทั้งสององค์กรให้มีความรู้ในเชิงวิชาการ และความรู้ในภาคปฏิบัติ 2.ร่วมกันพัฒนาและสนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในทุกรูปแบบ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนบุคลากรและการฝึกงาน 3.ร่วมกันสร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมที่มีคุณภาพ โดยการจัดกิจกรรม และ/หรือโครงการที่สนับสนุนการจัดทำและเผยแพร่ผลงานทางวิชาการตลอดจนการวิจัยที่มีคุณภาพ 4.ร่วมกันจัดสรรและใช้ผลงาน และ/หรือ องค์ความรู้ ทั้งที่มีอยู่เดิมและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ เพื่อให้บริการแก่ชุมชนและสังคม โดยการจัดกิจกรรม และ/หรือ โครงการที่ให้บริการและการเป็นที่ปรึกษาให้แก่หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน 5.ร่วมกันจัดสรรและใช้ทรัพยากรด้านอาคารสถานที่ ห้องประชุม ห้องปฏิบัติการ ตลอดจนอุปกรณ์เทคโนโลยีและเครือข่ายสารสนเทศของทั้งสององค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 6.ร่วมกันประเมินผลศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน ให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งบันทึกข้อตกลงฉบับนี้จะมีระยะเวลาในการดำเนินงาน 2 ปี โดยจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2556

“การลงนามในครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการที่จะส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จรวมทั้งยังเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของทั้ง 2 หน่วยงาน นิสิต/นักศึกษา และชุมชนในศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนทั่วประเทศให้มีทักษะ ความรู้ และความสามารถทางวิชาการ ที่จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่การดำรงชีวิตประจำวันและอาชีพของชุมชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นการส่งเสริมสนับสนุนความร่วมมือทางด้านงานวิชาการ งานวิจัย และนวัตกรรมที่มีคุณภาพ ระหว่างกันอีกด้วย” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

View :1873