Archive

Archive for the ‘Gadgets’ Category

บราเดอร์ ประกาศรุกตลาดสแกนเนอร์ ล่าสุดส่งสแกนเนอร์ 3 รุ่นใหม่ ปลุกกระแสครอบคลุมทุกกลุ่มกำลังซื้อ คาดตลาดพร้อมตอบรับ

November 15th, 2012 No comments


-พร้อมขายที่ ไอที ซิตี้ เป็นแห่งแรก และตัวแทนจำหน่ายที่สนใจ-

บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) ผู้นำด้านธุรกิจเครื่องพิมพ์ขยายความแกร่งสู่ตลาดสแกนเนอร์ ล่าสุดสร้างกระแสอีกครั้งด้วยการส่ง สแกนเนอร์ 3 รุ่นล่าสุด ADS-1000, DS-700D และ DS-600 ลงชิงชัยในเมืองไทย เผยมั่นใจสินค้าตอบโจทย์ตรงความต้องการ ภาพรวมตลาดสแกนเนอร์ไทยเติบโตสูงถึง 136% ในปีที่ผ่านมา เดินหน้าอัดเกมรุกพร้อมขายแล้ววันนี้เริ่มที่ ไอที ซิตี้ และจะขยายช่องทางขายให้กับตัวแทนที่สนใจทั่วไทย

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยล่าสุดว่า ตลาดสแกนเนอร์ ถือเป็นตลาดใหม่สำหรับเมืองไทย ซึ่งปัจจุบันยังมีศักยภาพในการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากเปรียบเทียบตัวเลขอัตราการเติบโตของปี 2553 กับ 2554 พบว่า มีอัตราการเติบโตสูงถึง 136% ในขณะที่มีแบรนด์ลงมาเล่นในตลาดดังกล่าวน้อย แต่กลับมีโอกาสทางการตลาดอยู่อีกมาก เป็นเหตุให้ บราเดอร์ เล็งเห็นถึงโอกาสทางการตลาดดังกล่าว และส่ง บราเดอร์ สแกนเนอร์ 3 รุ่นใหม่สู่ตลาดเมืองไทย ในราคาที่สามารถแข่งขันได้ ทั้งยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ครอบคลุมทุกกลุ่มการใช้งาน

“พฤติกรรมของผู้บริโภค ณ ปัจจุบัน เริ่มหันมาเก็บเอกสารเป็น Soft file เพิ่มขึ้น ดูตัวอย่างจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา ที่เอกสารฉบับจริงได้รับความเสียหาย ดังนั้น หากสามารถสำรองเป็น Soft File ได้ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ได้อย่างมาก และด้วยพัฒนาการในด้านดีไซน์ ทำให้วันนี้เรามีทางเลือกใหม่คือกลุ่ม Mobile scanner หรือ สแกนเนอร์แบบพกพาเข้ามาลดช่องว่างเรื่องข้อจำกัดในการใช้งานได้อย่างดี ซึ่งบราเดอร์มองว่าตลาดในกลุ่มดังกล่าวมีอัตราและทิศทางการเติบโตที่สูง จึงได้ส่งสแกนเนอร์ 3 รุ่นใหม่เจาะในกลุ่มตลาดส่วนนี้ที่ถือเป็นกลุ่มตลาดระดับกลางถึงบน ซึ่งปัจุบันการใช้งานมิได้จำกัดเพียงแค่กลุ่มธุรกิจเท่านั้น แต่ตัวเลขในส่วนกลุ่มครอบครัวก็เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งเรามั่นใจว่ากลุ่มลูกค้าในส่วนนี้จะตอบรับต่อ บราเดอร์ สแกนเนอร์ เพราะเราพัฒนาสินค้าให้ง่ายต่อการใช้งาน ทั้งยังพัฒนา Software เอกสิทธิ์เฉพาะที่ช่วยจัดการเรื่องเอกสารอีกด้วย โดยสินค้าใหม่ทั้ง 3 รุ่นนี้ จะพร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วเอเชียในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้” นายธีรวุธวิเคราะห์

ด้านนายไพโรจน์ อมตมหัทธนะ รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด กล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับภาพรวมการขายกลุ่มสินค้าสแกนเนอร์ว่า “ตลาดในกลุ่มนี้ยังต้องถูกพัฒนาเรื่องความเข้าใจแก่ผู้บริโภคชาวไทยอีกมาก และก้าวกระโดดเข้ามาปลุกตลาดของบราเดอร์ ด้วยนวัตกรรม “โมบาย สแกนเนอร์” น่าจะมีส่วนช่วยให้ตลาดเติบโตและเข้าใจในประโยชน์ของสินค้ากลุ่มสแกนเนอร์ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบัน สินค้าในกลุ่มสแกนเนอร์ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ 1. Mobile Scanner 2. Desktop Scanner และ 3. Flash base Scanner โดยเทรนด์ที่เติบโตอย่างมากจะเป็นกลุ่ม Mobile Scanner เพราะปัจจุบันกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบนเกือบทุกคนที่มี Notebook ก็จะมี Mobile Scanner ด้วยเช่นกัน และองค์กรทั่วไปเริ่มหันมาจัดเก็บเอกสารเป็น Soft File มากขึ้น”

ทั้งนี้ เครื่องโมบายสแกนเนอร์ 3 รุ่นใหม่จาก บราเดอร์ ประกอบด้วย

1. เครื่องสแกนเอกสารแบบตั้งโต๊ะ รุ่น ADS-2100 โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพในเรื่องความเร็ว การสแกน การจัดการ
และจัดระเบียบของเอกสารได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- ความเร็วในการสแกนเอกสารแบบ 2 หน้าสูงสุด 24 หน้าต่อนาที (48 หน้าต่อนาที (ipm))
- มีช่องป้อนกระดาษอัตโนมัติ รองรับกระดาษได้สูงสุด 50 แผ่น เพื่อการสแกนเอกสารแบบหลายหน้าได้อย่างคล่องตัว
- ความละเอียดในการสแกนสูงสุด 1200 dpi
- สร้างไฟล์ PDF ที่สามารถค้นหาคำได้ เพื่อการจัดเอกสารได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
- สามารถสแกนเอกสารโดยตรงไปยัง USB เพื่อการสแกนเอกสารโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์
- มาพร้อมชุด Software เอกสิทธิ์เฉพาะของ บราเดอร์ เพื่อการสแกนเอกสารอย่างมืออาชีพ

2. เครื่องสแกนเอกสารแบบพกพา DS-700D ประสิทธิภาพการทำงานแบบไร้ขีดจำกัด ทุกที่ทุกเวลา
- น้ำหนัก 603 กรัม
- การสแกนเอกสารแบบ 2 หน้าในการป้อนกระดาษครั้งเดียว
- การสแกนเอกสารเป็นไฟล์ PDF แบบค้นหาคำได้, PDF แบบมาตรฐาน JPEG และ TIFF
- เทคโนโลยีการสแกนแบบ One Touch
- Software ปฏิบัติการที่มาพร้อมกับเครื่องสำหรับ Windows และ MAC
- ความละเอียด 600X600 dpi
- จ่ายกระแสไฟฟ้าผ่านการเชื่อมต่อ USB

3. เครื่องสแกนเอกสารแบบพกพา DS-600 อีกหนึ่งประสิทธิภาพการทำงานแบบไร้ขีดจำกัด ทุกที่ทุกเวลา ด้วยขนาดกระทัดรัด
- น้ำหนัก 315 กรัม
- การสแกนเอกสารเป็นไฟล์ PDF แบบค้นหาคำได้, PDF แบบมาตรฐาน JPEG และ TIFF
- เทคโนโลยีการสแกนแบบ One Touch
- Software ปฏิบัติการที่มาพร้อมกับเครื่องสำหรับ Windows และ MAC
- ความละเอียด 600X600 dpi
- จ่ายกระแสไฟฟ้าผ่านการเชื่อมต่อ US

View :1578
Categories: Gadgets, Technology Tags:

ซัมซุงเปิดตัว Samsung Galaxy Camera

November 14th, 2012 No comments

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดตัว ให้สื่อไทย เช้าวันนี้

View :1595
Categories: Gadgets Tags:

ดีแทคประเดิมจำหน่าย Nokia Lumia 920 และ Nokia Lumia 820 ในงานคอมมาร์ตคอมเทค 2012

November 14th, 2012 No comments


ฟรี Wireless Charger มูลค่า 2,290 บาทและของสมนาคุณพิเศษมากมาย

14 พฤศจิกายน 2555 – ดีแทคจับมือโนเกียประเดิมวางจำหน่าย และ สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ในงานคอมมาร์ตคอมเทค 2012 มอบส่วนลดรายเดือนรวม 6,480 บาท พิเศษ Wireless Charger DT – 900 มูลค่า 2,290 บาท เมื่อซื้อ Nokia Lumia 920 พร้อมสิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าดีแทคโดยเฉพาะเพื่อต้อนรับการเปิดตัวครั้งแรกของ Nokia Lumia 920 และ ที่บูทดีแทคภายในงาน

สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าดีแทคเท่านั้น เมื่อซื้อ Nokia Lumia 920 และ Nokia Lumia 820 ที่บูทดีแทคภายในงานรับสิทธิ์สมัครใช้งานแพ็กเกจดีแทคสมาร์ทโฟนราคาพิเศษเพียงเดือนละ 539 บาท จาก 899 บาท นาน 18 รอบบิล รวมส่วนลดรายเดือน 6,480 บาท ลูกค้าสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตบน dtac 3G/EDGE ได้ไม่จำกัดด้วยความเร็วสูงสุดจำนวน 2GB (FUP) โทรฟรีทุกเครือข่าย 550 นาที ต่อรอบบิล และใช้งาน dtac wifi ได้ไม่จำกัด พิเศษ เมื่อซื้อ Nokia Lumia 920 รับฟรี Wireless Charger DT-900 มูลค่า 2,290 บาท และเมื่อซื้อ Nokia Lumia 820 รับฟรีกระเป๋าเป้จากโนเกีย โดยของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด

นอกจากนั้น ลูกค้าดีแทคยังสามารถใช้สิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน รับฟรีคู่มือใช้งาน Windows Phone 8 และกระเป๋าผ้า Nokia Lumia สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่บูทดีแทคในงานคอมมาร์ตคอมเทค 2012 ระหว่างวันที่ 15-18 พฤศจิกายน 2555 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

Nokia Lumia 920 และ Nokia Lumia 820 จะเริ่มวางจำหน่ายที่ศูนย์บริการดีแทคทั่วประเทศในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 เป็นต้นไป พร้อมกับข้อเสนอแพ็กเกจดีแทคสมาร์ทโฟน 539 บาทจาก 899 บาทต่อเดือน Nokia Lumia 920 ราคาเครื่องละ 21,500 บาท วางจำหน่ายในสีเหลือง แดง เทา ขาว ละ ดำ Nokia Lumia 820 ราคา16,600 บาท วางจำหน่ายในสีเหลือง แดง ขาว และ ดำ

Nokia Lumia 920 และ Nokia Lumia 820 สุดยอดสมาร์โฟนสุดยอดนวัตกรรมเพื่อการถ่ายภาพมาพร้อมกับเทคโนโลยี Pure View, Optical Image Stabilizer ระบบลดการสั่นไหวของภาพ, ระบบนำทางใหม่ล่าสุด และระบบชาร์จไฟแบบไร้สาย

ในภาพ – ปกรณ์ มโนรมย์ภัทรสาร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโพสต์เพด และ พีระพล ฉัตรอนันทเวช ผู้อำนวยการฝ่าย อุปกรณ์สื่อสาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น () พร้อมด้วย นนทวัน สินธวานนท์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด

View :1864

โซนี่เดินหน้ารุกตลาดโน้ตบุ๊คเปิดตัวไวโอ้ใหม่ พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 8

November 9th, 2012 No comments

บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ประกาศเดินหน้ารุกตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เปิดตัวไวโอ้จากโซนี่ โน้ตบุ๊คจอสัมผัส 4 ซีรี่ย์ ได้แก่ VAIO™ Duo 11 , VAIO™ Tap 20 , VAIO™ T Series 13 และ VAIO™ E Series 14P โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยผสานเข้ากับหน้าจอแบบทัชสกรีนที่มาพร้อมกับการทำงานบนระบบปฏิบัติการ เพื่อตอบสนองการใช้งานและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

มร.โทรุ ชิมิซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดเผยว่า “ครึ่งปีหลังโซนี่ยังคงเดินเกมรุกตลาดคอมพิวเตอร์พกพา โดยมองว่าตลาดคอมพิวเตอร์พกพาที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ยังคงมีอัตราเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ โซนี่ยังคงมุ่งเน้นในการออกแบบ และพัฒนาประสิทธิภาพของ VAIO ด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ และที่สำคัญคือการให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ใช้ วันนี้ โซนี่จึงพร้อมเปิดตัวไวโอ้รุ่นใหม่ ๆ ที่มาเทคโนโลยีการใช้งานแบบสัมผัสหน้าจอ (Touch) บนระบบปฏิบัติการ Windows 8 พร้อมกันถึง 4 ซีรี่ย์ ได้แก่ VAIO™ Duo 11 , VAIO™ Tap 20 , VAIO™ T Series 13 และ VAIO™ E Series 14P เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติการใช้งานครบครันทั่งเพื่อธุรกิจ และความบันเทิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “there’s more to the touch” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ใช้ไวโอ้ได้อย่างลงตัว และสนุกสนานมากยิ่งขึ้น”

คุณพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ไมโครซอฟท์มั่นใจว่านับจากนี้ ผู้บริโภคจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการใช้คอมพิวเตอร์ผ่านระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 แบบไร้ขีดจำกัด ด้วยทัพผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่จาก SONY VAIO ที่น่าตื่นเต้นและล้ำสมัย ฟังก์ชั่นระบบสัมผัสแบบทัชสกรีนในโน๊ตบุ๊ค โดยวินโดวส์ 8 จะทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานและสนุกได้ในทุกที่ที่ต้องการ พร้อมกับประสบการณ์การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและลื่นไหล ที่สำคัญวินโดวส์ 8 ยังมีแอพพลิเคชั่นมากมายที่จะมาช่วยเติมเต็มประสบการณ์การใช้งาน และนี่คือเหตุผลที่ไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับโซนี่ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆ อาทิเช่น vMUSIC by Sony ซึ่งแอพพลิเคชั่นนี้ผู้ใช้สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่วินโดวส์ สโตร์ (Windows Store) โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาด 17 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีวินโดวส์ สโตร์ เปิดพร้อมบริการ ”

ผลิตภัณฑ์ไวโอ้รุ่นใหม่จากโซนี่ประกอบไปด้วย

VAIO™ Duo 11

อัลตร้าบุ๊คแบบไฮบริด ที่เป็นการผสมผสานระหว่าง PC และ Tablet เข้ากันได้อย่างลงตัว ซึ่ง VAIO™ Duo 11 มาพร้อมจอ LCD ที่เลื่อนได้ด้วย Surf Slider จากโซนี่ ที่ให้คุณเลื่อนเป็นแบบคีย์บอร์ดสำหรับงานเอกสาร และสามารถเปลี่ยนเป็นแบบกระดานเพื่อใช้สำหรับท่องอินเตอร์เน็ตและสังคมออนไลน์ หรือสนุกไปกับแอพพลิเคชั่นต่างๆของ Windows 8 ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ VAIO™ Duo 11 ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่ล้ำสมัยเหมาะแก่การพกพาด้วยน้ำหนักเบาเพียง 1.3 กิโลกรัม และบางเพียง 11.75 มิลลิเมตร พร้อมด้วยหน่วยประมวลผล Intel® Core™ ใหม่ล่าสุด ที่ให้การประมวลผลอย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพด้วยความละเอียดของหน้าจอแบบสัมผัส Full HD 1920×1080 OptiContrast™ ขนาด 11.6 นิ้ว และรองรับกับการเขียนทุกประเภทด้วย Digitizer Stylus แบบใหม่ที่ไวต่อการกดและจะทำให้การเขียนของคุณเป็นธรรมชาติมากที่สุดอีกด้วย โดย VAIO™ Duo 11 จำหน่ายราคา 45,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

VAIO™ Tap 20

โน้ตบุ๊คแบบพกพาแนวคิดใหม่จากโซนี่ที่เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ภายในบ้านให้เป็นเครื่อง PC สำหรับครอบครัว และสามารถแบ่งปันประสบการณ์ความสนุกสนานให้กับคนที่คุณรักได้เป็นอย่างดี รวมถึงได้สนุกกับช่วงเวลาของครอบครัวในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่ 20 นิ้วแบบปรับได้ ให้ภาพที่คมชัด ด้วยมุมมองที่กว้าง ระบบสัมผัสที่สามารถสัมผัสพร้อมกันได้ถึง 10 ตำแหน่ง พร้อมแบตเตอรี่ในตัว เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนบุคคลและครอบครัว สามารถปรับได้ตามการใช้งานตามความเหมาะสม สามารถวางไว้บนโต๊ะกาแฟและให้ทุกคนในครอบครัวสนุกไปกับเกมส์บนจอ Multi – Touch Screen ขนาดใหญ่ หรือสามารถพลิกขาตั้งในตัวออกมาแล้วปรับมุมให้ได้องศาตามที่ต้องการ ก็สามารถใช้สำหรับเพื่อการชมภาพยนตร์หรือรับชมความบันเทิงอื่นๆได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นหากวาง VAIO™ Tap 20 แบบตั้งขึ้น ก็ยังเปลี่ยนเป็น PC ตั้งโต๊ะได้อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย โดย VAIO™ Tap 20 เริ่มวางจำหน่ายประมาณเดือนธันวาคม ศกนี้ ในราคา 46,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

VAIO™ T Series 13

VAIO™ T Series 13 เป็นอัลตร้าบุ๊คที่มีสไตล์ สัมผัสได้ถึงความสง่างาม ที่ทำมาจากวัสดุชั้นพรีเมี่ยม ได้แก่ แมกนีเซียม และ อลูมิเนียม ด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 13.3 นิ้ว มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel® Core™ ใหม่ล่าสุด อีกทั้งยังสามารถทำงานควบคู่ไปกับ Speedy SSD หรือ hybrid HDD/SDD Storage ที่สามารถสร้างความบันเทิงอย่างง่ายได้และเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยสามารถใช้รูปแบบการเลื่อนขึ้น-ลงอย่างอิสระ เพื่อดูเว็บเพจต่างๆ หรือดูเอกสารและสื่อต่างๆที่เก็บไว้ได้เป็นอย่างดีและสามารถแสดงผลได้อย่างยอดเยี่ยม ประกอบกับการทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 8 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบสัมผัสได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพด้วย Rapid Wake + Eco ที่ทำให้สามารถเริ่มใช้งานได้หลังจากเปิดฝาโน้ตบุ๊คภายในเลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น โดย VAIO™ T Series 13 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 34,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

VAIO™ E Series 14P

ด้วยระบบสัมผัสที่มาพร้อมกับ VAIO™ E Series 14P จะช่วยให้คุณสนุกไปกับการเล่นเกมส์และแอพพลิเคชั่นต่างๆ ด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 14 นิ้ว อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel® Core™ ใหม่ล่าสุด สามารถเก็บข้อมูลได้มากมายและรองรับงานกราฟฟิคได้เป็นอย่างดี ดีไซน์เก๋แบบมีสไตล์ด้วยการดีไซน์ของเงินหุ้มขอบ โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ของ VAIO บนฝาจออลูมิเนียม โดย VAIO™ E Series 14P วางจำหน่ายราคา 34,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

นอกจากนี้ยังเอาใจผู้ที่ชื่นชอบ Swarovski ด้วย VAIO™ E Series 14P รุ่นพิเศษที่ออกแบบลวดลาย และประดับด้วยคริสตัลสวยหรูจาก Swarovski พร้อมวางจำหน่ายในราคา 31,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ยิ่งไปกว่านั้นยังให้คุณได้สนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆบนระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่มีอยู่มากกว่า 20 แอพพลิเคชั่น ทั้งข่าวสาร บันเทิง ช็อปปิ้ง และข้อมูลสาระต่างๆ มากมาย

เท่านั้นยังไม่พอทางโซนี่ยังได้ร่วมกับ บีอีซี-เทโร มิวสิค มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่ซื้อโน้ตบุ๊คของโซนี่สามารถดาวน์โหลดเพลง MP3 และ มิวสิควีดีโอเพลงใหม่ล่าสุดจาก บีอีซี-เทโร มิวสิค แบบอันลิมิเต็ดได้ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางแอพพลิเคชั่นของ V Music บีอีซี-เทโร มิวสิค ที่มีอยู่ในเครื่องโน้ตบุ๊คของโซนี่อีกด้วย

พร้อมกันนี้ทางโซนี่ยังได้จัดกิจกรรมทางการตลาดควบคู่ไปกับการเปิดตัวโน้ตบุ๊ค 4 ซีรี่ย์ในครั้งนี้ ด้วยการจัดกิจกรรมโรดโชว์ โดยจะเริ่มที่เชียงใหม่ในระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน ศกนี้ ซึ่งภายในงานจะมีการสาธิตฟังก์ชั่นการทำงานของผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คทั้ง 4 ซีรี่ย์บนระบบปฏิบัติกร Windows 8 พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจากดารา และศิลปินที่จะไปร่วมมอบความบันเทิงภายในงานกันอย่างคับคั่ง

ไวโอ้รุ่นใหม่จะเริ่มทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ศกนี้เป็นต้นไปที่ โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ร้านโซนี่ เซ็นเตอร์ และไวโอ้ โปรช็อป ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100 หรือ www.sony.co.th

View :1503
Categories: Gadgets Tags: ,

แคนนอนเปิดตัวนวัตกรรมกล้องดิจิตอล 2 รุ่นใหม่ล่าสุด Canon EOS650D และ Canon EOS M

July 23rd, 2012 No comments

แคนนอนเสนอนวัตกรรมครั้งใหม่แห่งการถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR รุ่นใหม่ล่าสุด EOS 650D ที่มากด้วยฟังก์ชั่นเหนือใคร โดดเด่นด้วย EOS Movieให้คุณบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อม Movie AF Servo โฟกัสอัตโนมัติจะติดตามทุกการเคลื่อนไหวของวัตถุระหว่างบันทึกภาพเคลื่อนไหว ยังประสานการทำงานได้อย่างลงตัวที่สุดกับเทคโนโลยี STM (Stepping Motor)ในเลนส์รุ่นใหม่ 2 รุ่น EF-S18-135mm f3.5-5.6 IS STMและ EF 40mm f2.8 STM ปราศจากเสียงรบกวนจากเลนส์ในขณะบันทึกภาพเคลื่อนไหว ล้ำหน้าไปอีกขั้น.. ด้วยหน้าจอ LCDระบบสัมผัสแบบ Multi-Touch (Capacitive Sensing) ออกแบบมาให้สามารถใช้นิ้วมือในการสั่งงานต่างๆ ได้ง่าย และรวดเร็วเหมือนหน้าจอสมาร์ทโฟน ตอบสนองรวดเร็วทันท่วงทีทุกเหตุการณ์ด้วยจุดออโต้โฟกัสอัตโนมัติแบบ Cross-Type มากถึง 9 จุด ถ่ายภาพต่อเนื่อง 5 ภาพต่อวินาที ประกอบกับฟังก์ชั่นเพื่อการสร้างสรรภาพอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ Creative Filter สร้างคาเรคเตอร์ให้ภาพถ่ายแปลกตาด้วยเอฟเฟค Art Bold และ Water Painting

นอกจากนี้ แคนนอนก็ยังได้เปิดตัวอีกหนึ่งนวัตกรรมกล้องดิจิตอลมิลเลอร์เรส EOS M ที่มาเสริมทัพเป็นสินค้าไลน์ใหม่ล่าสุดของแคนนอน สำหรับผู้ที่กำลังมองหากล้องดิจิตอลแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ คุณภาพยอดเยี่ยม ในขนาดเล็กกะทัดรัด ดีไซน์ทันสมัย ใช้งานง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

กล้องดิจิตอลแคนนอน EOS 650D มีชุดเลนส์ให้เลือก 2 ชุด คือ พร้อมเลนส์ EF-S18-55mm f/3.5-5.6 ISIIและพร้อมเลนส์ EF-S18-135mm f/3.5-5.6 IS STM วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ณ ตัวแทนจำหน่ายแคนนอนทั่วประเทศ เช่นเดียวกับ EF40mm f/2.8 STM และ เลนส์ EF-S18-135mm f/3.5-5.6 IS STM

View :3923
Categories: Gadgets Tags: ,

อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) เปิดตัว Lifetime Map Update สำหรับ GPS GARMIN รายแรกในไทย

July 21st, 2012 No comments

อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Lifetime Map Update รายแรกสำหรับ ในประเทศไทย ชูธง GPS ติดรถยนต์ แบรนด์ GARMIN ยังครองแชมป์ผู้นำตลาดอย่างแข็งแกร่ง พร้อมข้อมูลแผนที่ NOSTRA ที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด พร้อมการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก การ์มิน คอร์ปอเรชั่น จูงมือเดินหน้าทำตลาดจีพีเอสประเภทติดรถยนต์ (Personal Navigation Device : PND)ในประเทศไทย หวังกวาดยอดขายกว่า 100,000 เครื่อง ในปี 2555 นี้

นายไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในการให้บริการเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศแบบครบวงจร และผู้แทนจำหน่ายอุปกรณ์นำทางด้วยดาวเทียม (GPS) แบรนด์ GARMIN หนึ่งในกลุ่มบริษัทซีดีจี เปิดเผยว่า ในวันนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัว Lifetime Map Update รายแรกในประเทศไทย สำหรับลูกค้าที่ซื้ออุปกรณ์นำทาง GPS GARMIN nüvi รุ่น 2465 , 2565 , 2575 , 3770 , 3790 V โดยลูกค้าสามารถ update ข้อมูลแผนที่ ได้ตลอดอายุการใช้งาน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 นอกจากนี้เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจแก่ลูกค้าที่ซื้อ จีพีเอส GARMIN nüvi ใน 5 รุ่นดังกล่าว ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา ก็จะได้รับ Lifetime Map Update โดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน

นายไกรรพ ยังได้กล่าวถึง ภาวะตลาด GPS ในประเทศไทยขณะนี้ว่า การแข่งขัน มีความคึกคักมากขึ้น ผู้บริโภคมีตัวเลือกในอุปกรณ์นำทางเพิ่มขึ้นมาก เช่น เครื่องจากจีน , เครื่องนำทางใน Smart Phone ฯลฯ แต่ GARMIN ก็ยังคงเน้นตลาดอุปกรณ์นำทาง GPSประเภทติดรถยนต์ (PND) เช่น nüvi เป็นหลัก เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด มีอัตราการเติบโตสูง เห็นได้จากยอดขายที่ผ่านมา และตลาดอุปกรณ์นำทางในประเทศ สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ก็ขยายตัวอย่างมาก รถยนต์ที่วิ่งอยู่บนถนนแทบทุกคันจะ ติดตั้งอุปกรณ์นำทาง GPS แบบ PND ในรถเสมอ

ทั้งนี้ GPS GARMIN ที่จัดจำหน่ายโดย บริษัท อีเอสอาร์ไอฯ มีจุดแข็งคือ ความสามารถของอุปกรณ์นำทาง GPS ประเภทติดรถยนต์ (PND) ที่ถูกออกแบบเพื่อการขับรถโดยเฉพาะ เน้นความปลอดภัยในการใช้งานขณะขับขี่ เหมาะสำหรับการนำทางในรถยนต์มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีจุดแข็งในเรื่องการใช้แผนที่ NOSTRA ที่มีความถูกต้องแม่นยำมากที่สุด อีกทั้งยังมีการบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพในระดับสูงมาโดยตลอด

บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของผลิตภัณฑ์จีพีเอส ยี่ห้อ GARMIN มาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2541 จนถึงปัจจุบัน นับได้ว่า บริษัท อีเอสอาร์ไอฯ ยังครองความเป็นผู้นำในตลาด GPS ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

“บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด เราทำงานกันอย่างใกล้ชิด กับ บริษัท การ์มิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งการ์มินนับเป็นอุปกรณ์ GPS คุณภาพระดับ World Class ที่มียอดขายอันดับหนึ่งทั่วโลก และการใช้ข้อมูลแผนที่ ที่มีความถูกต้องแม่นยำที่สุดจาก NOSTRA นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำตลาดของ บริษัท อีเอสอาร์ไอ ฯ สามารถครองแชมป์ความเป็นผู้นำตลาด GPS และขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด” นายไกรรพ กล่าว

ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเอสอาร์ไอ(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวด้วยว่า สำหรับในปี 2555 นี้ ตลาดอุปกรณ์นำทาง GPS ติดรถยนต์ โดยบริษัทอีเอสอาร์ไอฯมีส่วนแบ่งทางการตลาด อยู่ที่ 70 % ของมูลค่าตลาดรวม GPSติดรถยนต์ ในประเทศไทย

การ์มิน มั่นใจศักยภาพอีเอสอาร์ไอ(ประเทศไทย)
ด้วยมิตรภาพและพันธสัญญามั่นคง ส่งมอบบริการชั้นเลิศให้ผู้บริโภค

นายโทนี่ อังค์ (Mr.Tony An) ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท การ์มิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ในการเปิดตัว Lifetime Map Update ในประเทศไทยในวันนี้ นับเป็นการย้ำตลาด ว่า GPS ติดรถยนต์ แบรนด์ GARMIN โดย บริษัท การ์มิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด มีการส่งมอบคุณภาพการบริการที่มีคุณภาพในระดับสูง ให้แก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะการให้ลูกค้าสามารถ update แผนที่ได้ฟรี ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวไปแล้วในประเทศต่างๆทั่วโลก ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา, อังกฤษ , ฝรั่งเศส,อินเดีย,จีน ,สิงคโปร์,มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ทั้งนี้เพราะเชื่อว่าตลาดอุปกรณ์นำทาง GPS ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในตลาดโลก

นายโทนี่ กล่าวว่า บริษัท การ์มิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด เชื่อมั่นในศักยภาพ ของบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ในการทำตลาด GPS ติดรถยนต์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับพันธสัญญาระหว่างกันที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี และขอยืนยันว่า บริษัท การ์มินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ไม่ได้มีแผนจะสรรหาพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่เพิ่มเติมแต่อย่างใด ทั้งนี้การมีข้อมูลแผนที่ NOSTRA ที่ถูกต้องแม่นยำ นับเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งของความร่วมมือกันพัฒนาตลาด GPS ติดรถยนต์ในประเทศไทย ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นต่อไป

โกลบเทค ชี้แผนที่ NOSTRA ข้อมูลแม่นยำที่สุด ช่วยเสริมจุดแข็งการ์มิน

นายวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โกลบเทค จำกัด ผู้นำด้านการให้บริการข้อมูลแผนที่ หรือ โลเคชั่น คอนเทนต์ โพรวายเดอร์ (Location Content Provider) รายใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ นอสตร้า (NOSTRA) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับบริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด และ GARMIN ในตลาด GPS ประเภท PND และกลุ่มรถยนต์ (In-car Navigation) มาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี กล่าวว่า ในปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมใช้อุปกรณ์ GPS ในรถยนต์เพิ่มมากขึ้น ดังจะเห็นได้ว่า GPS นำทางถือเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ขับขี่จะต้องมีใช้ประจำรถ ที่สำคัญที่สุดในการใช้งาน คือ จะต้องมีข้อมูลแผนที่ที่อัพเดท เนื่องจากประเทศไทยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลสูง จำเป็นที่ข้อมูลจะต้องอัพเดทให้ทันสมัยตลอดเวลา เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปแบบการการใช้งานของผู้บริโภคในปัจจุบัน ต้องการความสะดวกสบายในการอัพเดทข้อมูลแผนที่ และไม่ต้องการกังวลกับการจ่ายเงินในแต่ละครั้งที่มีการอัพเดทข้อมูลเวอร์ชันใหม่

“ดังนั้น เมื่อ GARMIN ให้ความสำคัญและเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภคที่จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบายมากขึ้นจากการให้บริการอัพเดทข้อมูลแผนที่ตลอดอายุการใช้งาน “Lifetime Map Update” NOSTRA ก็พร้อมให้การสนับสนุนนโยบายการตลาดนี้ ในฐานะที่เป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์ เรามีความพร้อมในการให้บริการอัพเดทข้อมูล ซึ่งจะทำให้รอบเวลาการอัพเดทสั้นลง และจัดทำข้อมูลเชิงลึกที่มีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น เช่น เวลาเปิด-ปิดของสถานที่ท่องเที่ยว จุดจอดรถ เป็นต้น จะเห็นได้ว่าบริการ Lifetime Map Update เป็นทางเลือกของผู้บริโภคที่เหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับการใช้งานในระยะยาว” นายวิชัยกล่าวในตอนท้าย

View :2006
Categories: Gadgets Tags:

ทรูมูฟ เอช ปล่อยโปรฯ เด็ด “Special For You” สำหรับ The New iPad

June 16th, 2012 No comments

ผ่อนสบายๆ 0% พร้อมใช้แพ็กเกจเล่นเน็ตไม่อั้น ฟรี 6 เดือน เสริมความแรง ผนึก Jaymart เพิ่มช่องทางจัดหน่าย

จากรูป: บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย กิตติณัฐ ทีคะวรรณ (ซ้าย) รองผู้อำนวยการสายงานการตลาดเชิงพาณิชย์และบริหารงานขาย ผสานความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) โดย นาย อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย จากทรูมูฟ เอช ผ่านร้านเจมาร์ท 30 สาขาทั่วประเทศ

ผู้นำในการจัดจำหน่าย Smart Devices สุดล้ำ จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ “SPECIAL FOR YOU” ให้ทุกคนเป็นเจ้าของ The New iPad ได้ง่ายขึ้น ผ่อน 0% นาน 10 เดือน จ่ายเริ่มต้นเพียงเดือนละ 2,050 บาท ผ่านบัตรเครดิต VISA/Master Card ที่ร่วมรายการ หรือ บัตรเรดดี้เครดิตเท่านั้น พร้อมรับสิทธิ์ใช้แพ็กเกจเล่นเน็ตไม่อั้น Net(i) 899 ฟรี 6 เดือน (มูลค่า 5,394 บาท) เมื่อสมัครแพ็กเกจ Net(i) 899 นาน 12 เดือนต่อเนื่องกัน จุใจกับประสบการณ์ออนไลน์แรงเต็มสปีดผ่าน 3G+/EDGE/GPRS และ Ultra Wi-Fi ได้ไม่จำกัด นอกจากนี้ยังได้ผนึกกำลังกับ Jaymart เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย The New iPad จากทรูมูฟ เอช ในโปรโมชั่น “Special For You” ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2555 ที่ร้านทรูช็อปทุกสาขา และร้านเจมาร์ทที่ร่วมรายการ 30 สาขา โดยผู้ที่สนใจยังสามารถเลือกซื้อทรูมูฟ เอช iPhone 4S, iPhone 3GS 8GB, AIR CARD พร้อมซิมทรูมูฟเอชแบบรายเดือนและแบบเติมเงิน รวมถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษอื่นๆ ได้อีกด้วย

View :1735

โซนี่ เอาใจวัยรุ่นไทยด้วยการเปิดตัว Xperia U สมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนสีได้

June 13th, 2012 No comments


บริษัท โซนี่ โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เอาใจเด็กไทยวัยรุ่นด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด Xperia™ U ด้วยหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียด 854×480 จอแสดงผลแบบ Mobile BRAVIA® Engine อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.7 พร้อมรองรับการอัพเกรดเป็น 4.0 (Ice-Cream Sandwich) รวมถึงยังสามารถเลือกเครือข่าย 3G ได้ทั้ง 2 ค่าย คือ 850/2100 Mhz และ 900/2100 Mhz จุดเด่นกับไฟ LED ที่สามารถเป็นสีเปลื่ยนธีม ตามที่เราต้องการได้ อีกทั้งตัวเครื่องยังมาพร้อมกล้องที่มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัสและแฟลช รวมถึงกล้องหน้าที่มีความละเอียดในระดับ VGA สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวขนาด HD720p และรองรับไฟล์ AVI , MKV, MP4 ได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถถ่ายภาพแบบ 3D Sweep Panorama ได้อีกด้วย รองรับวิทยุ FM , หูฟังแบบ 3.5 มม. และช่อง MicroUSB รวมถึงให้คุณได้แชร์ภาพวีดีโอและเสียงเพลงแบบไร้สายผ่านระบบ DLNA เข้ากับทีวีได้ และยังให้คุณได้เต็มอิ่มกับทุกๆความบันเทิงหน่วยความจำภายในเครื่องถึง 4GB แรม 512MB รวมถึงให้คุณท่องโลก Social Network อาทิ Facebook™ , Twitter™, Google Talk™ , Line , Whatapp และ Skype ได้อีกด้วย

รุ่น Xperia™ U วางจำหน่ายแล้วในราคา 9,990 บาท ตัวเครื่องมี 4 สี คือสีดำ ที่จะแถม CAP สีชมพู ส่วน สีขาว แถม CAP สีเหลือง โดยผู้สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโซนี่ทั่วประเทศ ร้าน Power Buy , ร้าน TG Phone ,ร้านซินเน็ค และ ร้าน Jay Mart หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง www.facebook.com/sonymobileth

View :1863
Categories: Gadgets Tags:

โนเกียเผยโฉม Asha Touch ฟีเจอร์โฟนสุดฉลาด เร่งเครื่องสู่โมบายอินเตอร์เน็ต

June 6th, 2012 No comments

โทรศัพท์ทัชสกรีนสีสันสดใส นำผู้คนอีกพันล้านคนให้สามารถท่องเว็บ เข้าสู่สังคมออนไลน์ และสนุกกับเกมส์ได้เร็วยิ่งขึ้น

โนเกียก้าวไปอีกขั้นกับการเชื่อมต่อผู้บริโภคอีกพันล้านคนด้วยการเผยโฉมโทรศัพท์มือถือตระกูลล่าสุดของโลก Asha Touch มอบประสบการณ์โทรศัพท์มือถือระบบหน้าจอสัมผัสเต็มรูปแบบในราคาที่สัมผัสได้ ประกอบด้วย Nokia Asha 305, Nokia Asha 306, และ Nokia Asha 311 ถือเป็นการขยายโทรศัพท์มือถือตระกูล Asha ซึ่งแนะนำสู่ตลาดโลกครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2011 ทำให้วันนี้มีโทรศัพท์ตระกูล Asha จำนวน 10 รุ่นจำหน่ายใน 130 ประเทศทั่วโลก ช่วยให้ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ไม่เคยขาดการติดต่อสื่อสาร ได้เลือกโทรศัพท์ที่สอดคล้องกับไลฟสไตล์ของตน

Nokia Asha 306


โทรศัพท์ล่าสุดนี้ได้รับการออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่คล้ายกับสมาร์ทโฟนอย่างคาดไม่ถึงให้กับผู้บริโภคที่ต้องการหลุดพ้นจากค่าใช้จ่ายในการรับส่งข้อมูลจำนวนมากและแบตเตอรี่ที่หมดเร็ว Nokia Asha 305, Asha 306, และ Asha 311 นำเสนอการทำงาน (User Interface) บนหน้าจอระบบสัมผัสรูปแบบใหม่ ผสมผสานการใช้งานที่แสนง่ายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโนเกีย กับนวัตกรรมด้านดิจิตอลดีไซน์ที่เน้นการใช้งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์

Nokia Asha 311 ดีไซน์สวยงาม เป็นโทรศัพท์มือถือ 3.5G หน้าจอสัมผัสแบบ capacitive ลื่นไหลรวดเร็ว
หน่วยประมวลผล 1GHz เพื่อมอบประสบการณ์อินเตอร์เน็ตที่ยอดเยี่ยม Nokia Asha 305 โทรศัพท์สีสันสดใส ดีไซน์ล้ำ เป็นฟีเจอร์โฟนที่มอบความสนุกสนานในราคาย่อมเยา พร้อมฟังก์ชั่น Easy Swap ให้สลับซิม 2 ซิมได้อย่างง่ายดาย
Nokia Asha 306 เป็นโทรศัพท์ซิมเดียวที่รองรับ Wi-Fi ในราคาที่ถูกที่สุดของโนเกีย

มิสแมรี่ ที แมคโดเวลล์ รองประธาน กลุ่มธุรกิจโมบายโฟนส์ โนเกีย กล่าวว่า “โนเกียกำลังเร่งดำเนินการตามพันธะสัญญาของเราในการเชื่อมต่อผู้คนอีกพันล้านคนสู่อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ใหม่เหล่านี้มอบสิ่งที่ผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ให้ความสำคัญมากที่สุด โทรศัพท์มือถือที่ดูดี มอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบสนองได้รวดเร็ว ในราคาย่อมเยา เพื่อใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เพื่อนฝูง และโลกความบันเทิง แอพ และคอนเทนท์ต่างๆ”

ยอดเยี่ยมสำหรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว การใช้งานอินเตอร์เน็ตในราคาย่อมเยา และเกมส์เพื่อความบันเทิง

โทรศัพท์มือถือใหม่มอบประโยชน์ให้ผู้บริโภคด้วย Nokia Browser 2.0 ซึ่งเป็นโนเกียเบราเซอร์อัพเดตล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยี cloud ของโนเกีย เพื่อลดการใช้ข้อมูลได้สูงสุดถึง 90% หมายความว่าผู้บริโภคสามารถเพลิดเพลินกับการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่รวดเร็วและถูกลง โดยสามารถโหลดเว็บไซต์ได้เร็วขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับมือถือที่ไม่มีเทคโนโลยี cloud ทำให้ง่ายในการค้นหาและเลือกเว็บแอพที่มีมากกว่า 10,000 แอพ พร้อมมอบประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค โดยใช้ข้อมูลน้อยกว่าเบราเซอร์อื่นๆ

ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนฝูงและครอบครัวด้วยการสัมผัสปุ่มเพียงครั้งเดียว รวมถึงการแบ่งปันไฟล์และลิงค์ต่างๆ บนสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ฟีเจอร์ Download Manager ของโนเกีย จะช่วยให้ผู้บริโภคจัดการคอนเทนท์ต่างๆ ได้ง่ายดาย รวมถึงการจัดเก็บเพลง วิดีโอ และรูปภาพลงในเมมโมรี่การ์ดขณะที่ท่องเว็บ

โทรศัพท์ตระกูล Asha ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนักพัฒนาและผู้บริโภค ล่าสุด Nokia Store มียอดดาวน์โหลดทะลุ 5 พันล้านครั้ง โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายนที่ผ่านมา 42% ของคอนเทนท์ที่ดาวน์โหลดจาก Nokia Store เป็นการดาวน์โหลดลงบนโทรศัพท์ตระกูล Asha และโทรศัพท์โนเกียรุ่นอื่นๆ บนระบบ Java โดยเมื่อหนึ่งปีก่อนมีสัดส่วน
การดาวน์โหลดเพียง 10% ทั้งนี้ นักพัฒนาแอพบนโนเกียจำนวน 410 ราย ได้รับการดาวน์โหลดแอพมากกว่า 1 ล้านครั้ง บางราย เช่น India Games และ Pico Brothers มียอดดาวน์โหลดถึง 100 ล้านครั้ง

Nokia Asha 305


Nokia Asha 305 Asha 306 และ Asha 311 ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความบันเทิง และมอบประสบการณ์บนสังคมออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมในเวลาเดียวกัน ผู้ใช้งานยังจะได้รับของขวัญพิเศษ นั่นคือ เกมส์ของอิเล็กทรอนิก อาร์ท (EA) จำนวน 40 เกมส์ให้ดาวน์โหลดฟรีและเก็บไว้ได้ตลอดไป เกมส์เหล่านี้มีตั้งแต่ action, arcade และ sports อาทิ Tetris, Bejeweled, Need for Speed: The Run และ Fifa 2012 Nokia Asha 311 มากับ Agry Birds จำนวน 15 levels ที่โหลดลงบนเครื่องเรียบร้อยแล้ว เป็นการใช้ศักยภาพหน้าจอสัมผัสและหน่วยประมวลผล 1GHz อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“โนเกียกำลังก้าวไปอีกขึ้นในการเชื่อมต่อผู้บริโภคสู่อินเตอร์เน็ต โดยมุ่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นด้วย user interface ระบบหน้าจอสัมผัสใหม่ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาด mass ได้เป็นอย่างดี ซึ่งตลาด mass ถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่เชื่อว่าการยกระดับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Nokia Asha จะมอบข้อเสนอที่น่าสนใจด้วยการช่วยให้ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายน้อยลง โดยใช้ประโยชน์จากเบราเซอร์ที่สามารถบีบอัดข้อมูล และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น” มร.นีล โมวสตัน ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท Strategy Analytics บริษัทวิจัยด้านโทรศัพท์มือถือ “เรายังสนใจกลยุทธ์การโปรโมท Nokia Asha ที่เปิดตัวรุ่นต่างๆ ในตลาดสำคัญที่มีการเติบโตสูง อาทิ เอเชีย ซึ่งโนเกียสามารถทำตลาดได้ดีและได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค”

รายละเอียดผลิตภัณฑ์

Nokia Asha 311 เป็นโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสสีสันสดใส ขนาดกะทัดรัด มากับฟีเจอร์ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่สนุกสนานและใช้งานง่าย โดยมีหน้าจอกระจกแบบ capacitive ป้องกันรอยขีดข่วน หน้าจอสดใส สีสันสวยงาม พร้อมโพลาไรซ์ฟิลเตอร์ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจาก user interface ที่โดดเด่นและสวยงาม Nokia Asha 311 ยังมีกล้อง 3.2 เมกะพิกเซล Nokia Maps และเกมส์ Angry Birds จำนวน 15 levels

ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ Facebook Twitter และสังคมออนไลน์อื่นๆได้ง่ายๆ ด้วยโปรแกรมที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานในเครื่อง ในขณะที่ Nokia Browser ช่วยให้การใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือรวดเร็วขึ้นและราคาถูกลง รวมถึงมีบริการรับส่งข้อความที่เป็นที่นิยม เช่น WhatsApp “WhatsApp มีวิสัยทัศน์ในการสร้างแอพพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานข้ามแพลฟอร์มได้อย่างง่ายดายและวางใจได้ ซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ทั่วโลก” มร.ไบรอัน แอคตัน ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp Inc. กล่าว “การร่วมมือกับโนเกีย ซึ่งโทรศัพท์มือถือเป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยทำให้ WhatsApp สามารถใช้งานได้บน Asha Touch จะช่วยให้เราบรรลุวิสัยทัศน์หลักของเราได้”

Nokia Asha 311


Nokia Asha 305 เป็นโทรศัพท์มือถือสองซิม สลับซิมได้ง่ายด้วย Easy Swap มอบความสนุกและความบันเทิงในการใช้งาน ช่วยให้ผู้ใช้ได้ใช้โทรศัพท์อย่างคุ้มค่า และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ โทรศัพท์มีสีสันสดใส พร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ resistive WQVGA 3นิ้ว พร้อมบลูทูธและการเชื่อมต่อแบบ Dual Band มาพร้อมเกมส์ 40 เกมส์จากอิเล็กทรอนิก อาร์ท (EA) ให้ดาวน์โหลด นอกจากนี้ ยังมีกล้อง 2 เมกะพิกเซล Nokia Maps และ Nokia Browser ปรับปรุงใหม่ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลดข้อมูล

Nokia Asha 306 เป็นโทรศัพท์ที่รุ่นน้องของ Nokia Asha 305 โดยมีฟีเจอร์แบบเดียวกัน เช่น หน้าจอสัมผัสแบบ resistive WQVGA 3 นิ้ว สีสันสดใส มาพร้อมเกมส์จาก EA กว่า 40 เกมส์ให้ดาวน์โหลด สำหรับผู้ใช้งานโนเกียเท่านั้น Nokia Asha 306 ยังมี WLAN ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถออนไลน์ได้แม้ขณะเดินทาง นอกจากนี้ยังรองรับ video streaming ผ่าน GPRS และ WLAN ซึ่งทำให้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อได้อย่างสนุกสนาน

*มีค่าใช้จ่ายในการรับส่งข้อมูล

View :2318

ฟูจิตสึเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ 3 รุ่น

June 5th, 2012 No comments

ฟูจิตสึรุกตลาดไทยต่อเนื่อง เปิดตัวไลฟ์บุ๊กใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการโน้ตบุ๊กไทย ด้วยไลฟ์บุ๊ก UH572 อัลตร้าบุ๊กในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ พร้อมสร้างความตื่นตะลึงกับโน้ตบุ๊กขนาด 13.3 นิ้ว ที่บางและเบาที่สุดในโลกกับไลฟ์บุ๊ก SH772 และ SH572 ตอกย้ำการสร้างนิยามใหม่ให้กับคอมพิวเตอร์พกพาเมดอินเจแปน


นายเชาวนะ สุนทรพฤกษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯมีการรุกตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้มีการเปิดตัว ฟูจิตสึ ไลฟ์บุ๊ก ใหม่อีก 3 รุ่น เพื่อเจาะตลาด ด้วยจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ได้แก่ Fujitsu LIFEBOOK UH572 อัลตร้าบุ๊กที่จะสร้างนิยามใหม่ในราคาที่สามารถจับต้องได้กับความลงตัวด้านประสิทธิภาพและการพกพาที่สมบูรณ์แบบ เหมาะกับผู้ใช้งานในกลุ่ม Mainstream และ ไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ 2 รุ่น คือ Fujitsu LIFEBOOK SH772 โน้ตบุ๊กขนาด 13.3 นิ้วที่บางและเบาที่สุดในโลก และ Fujitsu LIFEBOOK SH572 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น

“ฟูจิตสึยังคงสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ไลฟ์บุ๊กรุ่นใหม่จึงมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อสนองกับทุกความต้องการ สร้างความยืดหยุ่นเพื่อทุกการใช้งาน สะดวกในการพกพา ประสิทธิภาพที่ไม่เหมือนใคร ทั้งความปลอดภัยของข้อมูลระดับสูงสุด และความสวยงามที่ยึดหลักปรัชญาญี่ปุ่นทาคูมิ ในการออกแบบ” นายเชาวนะกล่าว

Fujitsu LIFEBOOK UH572


นายเชาวนะ กล่าวว่า ด้วยแรงบันดาลใจจากปรัชญา “ทาคูมิ” ฟูจิตสึจึงใส่ใจในการออกแบบไลฟ์บุ๊ก UH572 ให้เป็นอัลตร้าบุ๊กในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ ไลฟ์บุ๊ก UH572 มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ 3rd Generation Intel® Core™ และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยกับอายุแบตเตอร์รี่ที่ยาวนาน ด้วยน้ำหนักเบาเพียงแค่ 1.6 กิโลกรัม ไลฟ์บุ๊ก UH572 ยังมาพร้อมกับ Intel® HD 4000 กราฟฟิกการ์ดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใสและป้องกันการกระตุกขณะเล่นไฟล์วีดีโอ ด้วยจอแสดงผลแบบ High Definition SuperFine LCD ขนาด 13.3 นิ้ว พร้อมระบบเสียง DTS Boost™ รวมถึงนวัตกรรมล้ำยุค อย่าง Face Sense Utility ที่จะหยุดหรือเริ่มแอปพลิเคชั่นหรือกิจกรรมบนตัวเครื่อง โดยการตรวจจับใบหน้าของผู้ใช้งานเมื่ออยู่หน้าเครื่องได้ด้วยกล้องระดับHD คีย์บอร์ดแบบ isolated พร้อมฟังก์ชั่นการเลื่อนหน้าจอทั้งแนวนอนและแนวตั้งด้วย Intelligent Touch Pad

ยิ่งไปกว่านั้นนอกเหนือจากพื้นที่จัดเก็บฮาร์ดดิสก์แล้ว ไลฟ์บุ๊ก UH572 ยังมีพื้นที่จัดเก็บพิเศษขนาด 32GB ด้วย iSSD พอร์ต USB
แบบ high-speed และช่อง SDXC / MS Duo Card เพื่อการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 4.0 และ WLAN พร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากมาย ได้แก่ BIOS ล็อค, ฮาร์ดดิสก์ล็อค, สล๊อตป้องกันขโมย, และเทคโนโลยี Absolute® Data Protect เพื่อการป้องกันข้อมูลที่สำคัญอย่างสูงสุด ไลฟ์บุ๊ก UH572 มีให้เลือกทั้งสีแดงและสีเงิน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นความเป็นแฟชั่น

ไลฟ์บุ๊ก SH772 และ ไลฟ์บุ๊ก SH572 ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กนิยามใหม่ของความบางและเบาสำหรับเครื่องโน๊ตบุ๊ก Made in Japan ด้วยขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ตัวเครื่องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งคงทน โดย ไลฟ์บุ๊ก SH772 มีความหนาเพียง 16.6 มม. และมีน้ำหนัก 1.21 กิโลกรัม ซึ่งนับได้ว่าเป็นเครื่องโน๊ตบุ๊กที่บางและเบาที่สุดในโลก เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความมีสไตล์และความสมบูรณ์แบบที่มาพร้อมกับเครื่องสีดำหรูหรา สำหรับรุ่น ไลฟ์บุ๊ก SH572 มีความหนาเพียง 17.4 มม. และมีน้ำหนัก 1.42 กิโลกรัม มาพร้อมกับหลายเฉดสีให้เลือกทั้งดำประกาย ขาวประกายมุก แดงการ์เน็ต

สำหรับไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีเรือธงของฟูจิตสึในปี 2555 นี้ โดยใช้โปรเซสเซอร์อินเทลเจนเนอเรชั่น 3 ที่ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับภาพยนตร์ได้ยาวนานจากอายุแบตเตอร์รี่ที่ยาวนานขึ้น โดย ไลฟ์บุ๊ก SH772 ใช้งานได้สูงสูด 14 ชั่วโมงในโหมดการทำงานปกติ และเพิ่มขึ้นเป็น 19 ชั่วโมง สำหรับตัวเลือกแบตเตอร์รี่โมดูลล่าเบย์ ที่ใส่เพิ่มแบตเตอรี่ได้ และสำหรับ ไลฟ์บุ๊ก SH572 สามารถใช้งานได้สูงสุด 12 ชั่วโมง สำหรับการใช้งานปกติ และเพิ่มขึ้นเป็น 16 ชั่วโมง สำหรับตัวเลือกแบตเตอร์รี่โมดูลล่าเบย์ ที่ใส่เพิ่มแบตเตอรี่ได้

นายเชาวนะ กล่าวว่า ไลฟ์บุ๊กมีโมดูลล่าเบย์เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานยิ่งขึ้น เช่น การเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์เพื่อการชมภาพวีดีโอหรืองานพรีเซ็นต์ต่างๆ หรือเลือกเปลี่ยนไปใช้ไดร์ฟ Blu-ray, Dual DVD super multi writer เพื่อประหยัดน้ำหนักเครื่อง หรือเพิ่มเป็นแบตเตอรี่เพื่ออายุการใช้งานที่นานขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการขณะนั้นๆ รวมถึงพอร์ต USB Anytime Charge สามารถชาร์จเครื่องมือสื่อสารได้แม้กระทั่งขณะเครื่องปิดอยู่ รวมทั้งการออกแบบให้ไลฟ์บุ๊กมีตัวกรองฝุ่นที่สามารถถอดออกได้ ส่งผลให้เครื่องสามารถระบายความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติ Quick Start เปิดเครื่องได้รวดเร็วภายใน 8 วินาที พิเศษด้วย Fujitsu Face Sense ที่จะหยุดการเล่นวิดีโอเมื่อผู้ใช้งานไม่ได้อยู่หน้าเครื่องยิ่งกว่านั้น ไลฟ์บุ๊ก SH772 ยังมาพร้อมกับกล้องระดับ High Definition สำหรับบันทึกภาพระดับ HD และความคมชัดในการประชุมผ่าน Video conference

ไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังใช้เทคโนโลยีสีเขียวของฟูจิตสึ กับ 3-watt AC อแด็ปเตอร์ที่ลดการใช้พลังงานถึง99% เมื่อเทียบกับอแด็ปเตอร์ปกติทั่วไป และประหยัดพลังงานอีกขั้นด้วย Light Sensor ที่ตรวจจับสภาวะแสงเพื่อปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะกับสภาวะที่ใช้งานขณะนั้นๆ ด้วย พร้อมป้องกันข้อมูลด้วยเซ็นเซอร์ RF Fingerprint ที่มาพร้อมกับตัวชี้แบบ LED เพิ่มความแม่นยำให้การระบุตัวเจ้าของ และ Fujitsu 3D Shock Sensor ที่พร้อมปกป้องฮาร์ดดิกส์จากการกระแทกและการสั่นสะเทือน

ฟูจิตสึยึดมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูงให้แก่ผู้บริโภคด้วยการปฏิบัติตามกฎของ European Union’s Restriction of Hazardous Substances directive (RoHS) ที่ฟูจิตสึนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ทุกชนิด นอกจากนี้ฟูจิตสึยังได้ตั้งข้อปฏิบัติที่เกินกว่ามาตรฐานที่ RoHs กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ของลูกค้าของฟูจิตสึอย่างแท้จริง และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ฟูจิตสึได้ปฏิบัติตามแนวคิดเรื่องเทคโนโลยีสีเขียวอย่างเคร่งครัด โดยการผลิตเครื่องที่ประหยัดพลังงาน ฟูจิตสึยังได้เข้าร่วมขบวนการต่อสู้เพื่อรักษ์โลกโดยการเป็นสมาชิกของ Climate Servers อีกด้วย

View :1532
Categories: Gadgets Tags: