Archive

Posts Tagged ‘ผู้ประสบภัยน้ำท่วม’

เอชพีประกาศนโยบายช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เปิดศูนย์บริการเครื่องพิมพ์สำหรับลูกค้าทุกเซ็กเมนต์

November 7th, 2011 No comments

เอชพีประกาศนโยบายช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เปิดศูนย์บริการเครื่องพิมพ์สำหรับลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ ครอบคลุมทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์ คอมเมอร์เชียล และเอ็นเตอร์ไพรซ์ เปิด HP Hotline สายด่วนน้ำท่วม 0-2637-5899 รับเรื่อง ตรวจสภาพเครื่องฟรี และให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างหนักขณะนี้ นอกจากส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปยังสร้างความเสียหายถึงกลุ่มองค์กรธุรกิจต่างๆ เอชพีในฐานะผู้นำด้านการพิมพ์เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือลูกค้าเอชพีที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจึงประกาศนโยบายฉุกเฉิน เพื่อเร่งความช่วยเหลือให้แก่ลูกค้าของเอชพีในทุกเซกเม็นต์ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้า ลดปัญหาด้านการซ่อมบำรุงเครื่องพิมพ์ และลดความกังวลในการใช้งานเครื่องพิมพ์ทั้งที่บ้านและเพื่อธุรกิจ จึงเปิดศูนย์บริการช่วยเหลือลูกค้า ดังนี้

ลูกค้ากลุ่มคอมเมอร์เชียล เอชพีจะมุ่งไปที่การให้บริการพิเศษสำหรับนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค นิคมอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์ นิคมอุสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดอยุธยา นิคมอุตสาหกรรม นวนคร และนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี จังหวัดปทุมธานี โดยจะเข้าไปเปิดศูนย์บริการพิเศษชั่วคราวหลังน้ำลด หรือทันทีที่สามารถเข้าไปดำเนินการได้เพื่อให้บริการตรวจสภาพและซ่อมบำรุงเครื่องพิมพ์ของลูกค้าภายในพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่ง ทั้งนี้ จะให้บริการตรวจสภาพและบำรุงรักษาเบื้องต้นฟรี แต่หากจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ เอชพีพร้อมมอบส่วนลดพิเศษค่าอะไหล่ 35% แก่ลูกค้าทุกองค์กร

ลูกค้ากลุ่มคอนซูเมอร์หรือลูกค้าทั่วไป ที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยสามารถนำเครื่องพิมพ์เอชพีอิงค์เจ็ทและเครื่องพิมพ์เลเซอร์เจ็ท ไปตรวจสภาพเบื้องต้นฟรี โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเอชพีในแต่ละพื้นที่ (ตรวจสอบรายชื่อที่ Hot Line สายด่วนน้ำท่วม โทรศัพท์ (0-2637-5899) หรือที่ออฟฟิศดีโป และไอที ซิตี้ ทุกสาขา (สาขาที่เปิดทำการทั่วประเทศ) หากพบว่าเครื่องพิมพ์เอชพีที่นำเข้ารับบริการเสียหายอันเกิดจากเหตุอุทกภัย ลูกค้าสามารถแลกซื้อเครื่องใหม่ได้ในราคาลดพิเศษสูงสุดถึง 12,000 บาท (เฉพาะรุ่นที่กำหนด) จากราคาปกติ โดยสามารถขอรับบริการได้ตั้งแต่วันนี้ – 15 ธันวาคม 2554

สำหรับลูกค้ากลุ่มเอ็นเตอร์ไพรซ์หรือองค์กรขนาดใหญ่ ลูกค้าสามารถแจ้งปัญหา และขอรับบริการได้โดยตรงที่ HP Hotline สายด่วนน้ำท่วมโทรศัพท์ 0-2637-5899 หรือติดต่อโดยตรงไปยังเจ้าหน้าที่เอชพีที่ดูแลองค์กร ของท่านเพื่อแจ้งปัญหาและขอรับบริการ

นอกจากนี้ ลูกค้าเอชพีที่ประสบอุทกภัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถติดต่อขอรับบริการและแจ้งปัญหาเครื่องพิมพ์อันเกิดจากอุกทุภัยได้ที่ HP Hotline สายด่วนน้ำท่วม โทรศัพท์ 0-2637-5899 ได้เช่นเดียวกันหรือสามารถนำเครื่องพิมพ์เอชพีที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยมารับบริการด้วยตนเองได้ที่ HP Service Center ณ อาคารอื้อจื่อเหลียง ชั้น 3ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2554

“การเปิดศูนย์บริการฉุกเฉินของเอชพีเพื่อช่วยเหลือลูกค้าของเรา ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ต้องเร่งดำเนินการเพราะเราตระหนักถึงผลกระทบที่ลูกค้าได้รับจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นซึ่งอาจส่งผลเสียหายต่อการใช้เครื่องพิมพ์เพื่อใช้งาน หรือดำเนินธุรกิจเอชพีเป็นหนึ่งบริษัทที่พร้อมให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นแก่ลูกค้าของเราในทุกๆ กลุ่ม ซึ่งเราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ ออฟฟิส ดีโป และไอที ซิติ้ ในการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว โดยบริการของเอชพีรวมถึงเครื่องพิมพ์เอชพีในกลุ่มอิงค์เจ็ทและเลเซอร์เจ็ทที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยและยังครอบคลุมเครื่องพิมพ์เอชพี ทั้งที่ยังอยู่ในระยะประกันและหมดระยะประกันด้วย เพื่อให้ความเชื่อมั่นว่าลูกค้าคือคนที่สำคัญที่สุดของเรา โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติอันเกิดจากภัยธรรมชาติเช่นนี้” นายวัตสัน กล่าวปิดท้าย

View :1451

ทรูมูฟ ขอแจ้งความคืบหน้าเรื่องโครงข่าย และมอบความช่วยเหลือแก่ลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วม [18/10/54]

October 18th, 2011 No comments

กรุงเทพฯ 18 ตุลาคม 2554 – จากเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ ขอแจ้งความคืบหน้าเรื่องโครงข่ายของทรูมูฟ ดังนี้

· สถานีฐานที่ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากน้ำท่วม มีจำนวน 17 สถานี ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน จ.อยุธยา โดยทรูมูฟจัดเตรียมทีมงานพร้อมเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาเมื่อปริมาณน้ำเริ่มลดลง

· สำหรับพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ทรูมูฟเตรียมแผนรองรับหากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ ดังนี้

- ทรูมูฟได้สำรวจสถานีฐานทั้งหมด โดยทำการยกสถานีฐานที่อยู่ในจุดเสี่ยงที่น้ำจะท่วมถึงเสร็จเรียบร้อยแล้ว
- สำหรับชุมสายหลัก ได้ทำแนวป้องกันน้ำท่วมสูง 2.5 เมตร และเตรียมเครื่องสูบน้ำ กรณีมีน้ำรั่วเข้ามา

- ทรูมูฟเตรียมเครื่องปั่นไฟสำรองไว้ กรณีมีการตัดไฟ

- ทรูมูฟจัดเตรียมศูนย์ติดตามและเฝ้าระวังน้ำท่วม (war room) ทำหน้าที่ดูแลสถานีฐานและโครงข่าย ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ทรูมูฟออกมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วม ได้แก่

· หลังจากเติมเงินทันทีหมายเลขละ 20 บาท ให้ลูกค้าที่เงินค่าโทรหมด และอยู่ในจังหวัดที่มีน้ำท่วมขั้นวิกฤต 10 จังหวัด เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2554 ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวยังสามารถโทร *937# เพื่อขอค่าโทรช่วยเหลือฉุกเฉินได้อีกสัปดาห์ละ 20 บาท เมื่อเงินค่าโทรหมด

· ลูกค้าในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมครอบคลุม 28 จังหวัด ทรูมูฟยังเพิ่มวันใช้งานทันที 30 วัน ให้ลูกค้าแบบเติมเงิน และงดเว้นการระงับสัญญาณให้ลูกค้าแบบรายเดือนที่ไม่สามารถชำระค่าบริการรายเดือนได้ตามกำหนด ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2554

· ทรูมูฟเปิดจุดบริการโทรฟรีทุกเครือข่าย ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมและศูนย์อพยพต่างๆ อาทิ ศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต, ศูนย์ดอนเมือง, มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ศูนย์อพยพ จ. ลพบุรี, อยุธยา เพื่อช่วยเหลือประชาชนและลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้สามารถติดต่อสื่อสารในช่วงภาวะฉุกเฉินและจำเป็น

· ลูกค้าทรูมูฟสามารถโทรฟรี! หมายเลขฉุกเฉิน ได้แก่

- 1111 กด 5 สำนักนายกรัฐมนตรี

- 1784 สายด่วน ปภ. (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)

- 1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ บริการแพทย์ฉุกเฉินและนำส่งโรงพยาบาลฟรี

- 1146 ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท

- 1193 ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทางน้ำท่วมได้ตลอด 24 ชั่วโมง

- 1690 การรถไฟแห่งประเทศไทย

- 1129 สายด่วน กฟภ.

- 1460 สวยด่วนกรมชลประทาน

- 1490 สายด่วน บขส.สอบถามเส้นทางเดินรถต่างจังหวัด

· ลูกค้าทรูมูฟส่ง SMS ฟรี! โดยพิมพ์ข้อความขอความช่วยเหลือส่งไปที่หมายเลข 4567892 ซึ่งทรูมูฟจะส่งข้อความไปยังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ต่อไป

· ทรูมูฟ มอบซิมให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) จำนวน 50 ซิม พร้อมค่าโทรซิมละ 10,000 บาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้ติดต่อสื่อสารช่วยเหลือประชาชน

View :1538

ทรูมูฟ ร่วมบรรเทาทุกข์ลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วม เติมเงินพร้อมเพิ่มวันใช้งานทันที ให้ลูกค้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย

October 11th, 2011 No comments

ร่วมบรรเทาทุกข์ลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วม เติมเงินพร้อมเพิ่มวันใช้งานทันที ให้ลูกค้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย

ทรูมูฟ ร่วมบรรเทาทุกข์ลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้สามารถติดต่อสื่อสารในช่วงภาวะฉุกเฉินและจำเป็น โดยมีมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน ดังนี้

สำหรับลูกค้าแบบเติมเงิน

· เพิ่มวันใช้งานทันที 30 วัน ให้ลูกค้าในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 28 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี เชียงใหม่ ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง เลย และนครราชสีมา เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2554

· เติมเงินทันทีหมายเลขละ 20 บาท ให้ลูกค้าที่เงินค่าโทรหมด ซึ่งอยู่ในจังหวัดที่มีน้ำท่วมขั้นวิกฤต 10 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา และลพบุรี เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2554 ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ากลุ่มนี้ยังสามารถโทรขอค่าโทรช่วยเหลือฉุกเฉินได้อีกสัปดาห์ละ 20 บาท เมื่อเงินค่าโทรหมด โดยทรูมูฟจะส่ง SMS แจ้งหมายเลขติดต่อให้ลูกค้าทราบตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมนี้

สำหรับลูกค้าแบบรายเดือน

· งดเว้นการระงับสัญญาณ สำหรับลูกค้าที่ไม่สามารถชำระค่าบริการรายเดือนได้ตามกำหนด ไปจนถึง
31 ตุลาคม 2554

นอกจากนี้ ทรูมูฟยังอำนวยความสะดวก เพิ่มช่องทางให้ลูกค้าแจ้งขอความช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลได้ ดังนี้

· โทรฟรี! หมายเลขฉุกเฉิน ได้แก่

1111 กด 5 สำนักนายกรัฐมนตรี
1784 สายด่วน ปภ. (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ บริการแพทย์ฉุกเฉินและนำส่งโรงพยาบาลฟรี
1146 ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท
1193 ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทางน้ำท่วมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
1690 การรถไฟแห่งประเทศไทย
1129 สายด่วน กฟภ.
1460 สายด่วนกรมชลประทาน
1490 สายด่วน บขส.สอบถามเส้นทางเดินรถต่างจังหวัด

· ส่ง SMS ฟรี! โดยพิมพ์ข้อความขอความช่วยเหลือส่งไปที่หมายเลข 4567892 ซึ่งทรูมูฟจะส่งข้อความไปยังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ต่อไป

ทั้งนี้ สถานีฐานของทรูมูฟได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ ประมาณ 50 สถานีฐาน คิดเป็น 0.5% ของสถานีฐานทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ลูกค้าไม่สามารถใช้งานได้ประมาณ 40,000 – 50,000 ราย โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งแก้ไขเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ

View :1628