Archive

Posts Tagged ‘ไซแมนเทค’

ไซแมนเทคเผยรายได้รวมไตรมาส 2 ปี 2014

October 30th, 2013 No comments

ไซแมนเทคผลประกอบการในปี 2014 แสดงให้เห็นถึงช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่กำลังดำเนินอยู่ โดยมีเป้าหมายการเติบโตในระยะยาว แม้ว่ารายได้จะลดลง แต่ไซแมนเทคสามารถสร้างผลตอบแทนในรูปของมาร์จินและรายได้ต่อหุ้นที่ดีกว่าคาด ไซแมนเทคคอร์ป (Nasdaq: SYMC) รายงานผลประกอบการไตรมาสสองของปีงบประมาณ 2014 สิ้นสุด ณ วันที่ 27 กันยายน 2013 ว่ามีรายได้รวม 1.64 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และลดลงร้อยละ 3 หลังการปรับอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว

MOUNTAIN VIEW, Calif. – October 28, 2013 : มร.สตีฟ เบนเน็ตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไซแมนเทค กล่าวว่า นับตั้งแต่มีการประกาศกลยุทธ์ของไซแมนเทคในเดือนมกราคม ไซแมนเทคได้มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจ มีการการส่งมอบงานให้กับลูกค้า และคู่ค้ามากขึ้น ได้จัดสรร ทรัพยากรเพื่อพัฒนาข้อเสนอแบบบูรณาการใหม่ๆ การแยกหน่วยงานด้านการขายออกเป็นทีม ที่ดูแลการต่ออายุผลิตภัณฑ์ของลูกค้าเก่า และทีมขายสำหรับธุรกิจใหม่ ตลอดจนทำให้โครงสร้างการจัดการของไซแมนเทคให้มีความเรียบง่ายมากขึ้น ตัวเลขการเติบโตในไตรมาสนี้เป็นไตรมาสที่ท้าทายในปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของไซแมนเทค ซึ่ง คาดหวังว่าการดำเนินธุรกิจของไซแมนเทคจะนำไปสู่การเติบโต ไซแมนเทคยังคง มุ่งมั่นที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ในปี งบประมาณ 2015- 2017 และ มั่นใจว่าจะกลับมาอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องได้อีกครั้ง

มร.ดริว เดล แมทโต รักษาการแทนหัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินของ กล่าวว่า “การปรับกลยุทธ์เป็นเรื่องที่มีความจำเป็น และจะ สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโต ในระยะยาวต่อไป รายได้ของไซแมนเทคจะลดลงในไตรมาสที่สิ้นสุดเมื่อเดือนกันยายน แต่กลับทำรายได้จากการดำเนินงาน และกำไรต่อหุ้นได้มากขึ้น เนื่องจากการรายได้ที่ลดลงในไตรมาส ที่สอง และการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของไซแมนเทค กำลังดำเนินการอยู่ ทำให้มีรายได้ในปีงบประมาณ 2014 ต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้”

ผลประกอบการไตรมาสสองปีงบประมาณ 2014 ตามมาตรฐาน GAAP
· อัตรากำไรการดำเนินงานตามมาตรฐาน GAAP อยู่ที่ร้อยละ 15.1 เทียบกับร้อยละ 17.5 ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
· กำไรสุทธิตามมาตรฐาน GAAP อยู่ที่ 241 ล้านดอลลาร์ เทียบกับกำไรสุทธิในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 189 ล้านดอลลาร์
· กำไรต่อหุ้นตามมาตรฐาน GAAP อยู่ที่ 0.34 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 26
· รายได้ล่วงหน้ามาตรฐาน GAAP ณ วันที่ 27 กันยายน 2013 อยู่ที่ 3.50 พันล้านดอลลาร์เทียบกับ3.62 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 28 กันยายน 2012 ลดลงร้อยละ 3 ต่อปี
· กระแสเงินสดจากการดำเนินงานมีมูลค่า 191 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ผลประกอบการไตรมาสสองปีงบประมาณ 2014 (non-GAAP)
· อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 27.6 เทียบกับร้อยละ 27.0 ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.60 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเท่าเดิมหลังปรับอัตราแลกเปลี่ยน
· กำไรสุทธิอยู่ที่ 355 ล้านดอลลาร์เทียบกับกำไรสุทธิของปีที่ผ่านมา 318 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
· กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.45 ดอลลาร์ต่อหุ้นเทียบกับ 0.42 ของไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา เพื่อขึ้นร้อยละ 7

ข้อมูลโดยสรุปแยกตามกลุ่มธุรกิจ และภูมิภาคในไตรมาส
เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ 4.0 ของไซแมนเทค ดังนั้นไซแมนเทคได้แยกธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มใหม่ ต่อไปนี้เป็นรายงานผลประกอบการตามส่วนงาน และภูมิภาคที่ได้แบ่งไว้

ส่วนการป้องกัน และเพิ่มผลผลิตในการทำงานของผู้ใช้ (User Productivity & Protection)
ซึ่งประกอบด้วยการรักษาความปลอดภัยและการจัดการอุปกรณ์ปลายทาง (endpoint) , การเข้ารหัส และการให้บริการแก่ผู้ใช้งานแบบโมไบล์คิดเป็นร้อยละ 44 ของรายได้รวมทั้งหมด และลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านม ร้อยละ( 2 หลังจากปรับอัตราแลกเปลี่ยน) ถึง 719 ล้านดอลลาร์

ส่วนการรักษาความปลอดภัยข้อมูล (Information Security)
ลดลงร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ( ร้อยละ 1 หลังจากปรับอัตราแลกเปลี่ยน) $ 316 ล้านดอลลาร์ ส่วนนี้คิดเป็นร้อยละ 19 ของรายได้รวม และรวมถึงความสามารถในการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ของไซแมนเทค เช่น การรักษาความปลอดภัยอีเมล์ และเว็บของเรา บริการการตรวจสอบตัวตน การรักษาความปลอดภัยศูนย์ข้อมูล บริการรักษาความปลอดภัยแบบ Managed Security Services (MSS) บริการการรักษาความปลอดภัยแบบเช่าใช้ และการป้องกันการสูญหายของข้อมูลทางธุรกิจ (DLP )

ส่วนการจัดการข้อมูล (Information Managemen)
คิดเป็นร้อยละ 37 ของรายได้รวมทั้งหมด และลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ( ละร้อย 6 หลังจากปรับอัตราแลกเปลี่ยน ) ถึง 602 ล้านดอลลาร์ ส่วนนี้จะ ประกอบไปด้วยการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการสำรอง และการกู้คืนข้อมูล ระบบข้อมูลอัจฉริยะ ซึ่งรวมถึงการเก็บรักษาข้อมูล และการค้นหาแบบอิเล็กทรอนิกส์ และความพร้อมในการใช้งานของข้อมูล ซึ่งก่อนหน้านี้ ที่ไซแมนเทค เรียกว่าการจัดการระบบจัดเก็บข้อมูล
· รายได้ในระดับนานาชาติคิดเป็นร้อยละ 52 ของรายได้รวมทั้งหมด และลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ร้อยละ( 2 หลังจากปรับอัตราแลกเปลี่ยน)
· ภูมิภาคยุโรปตะวันออกกลาง และแอฟริกา คิดเป็นร้อยละ 28 ของรายได้รวมทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ลดลงร้อยละ( 1 หลังจากปรับอัตราแลกเปลี่ยน)
· ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก / ญี่ปุ่น คิดเป็นร้อยละ 18 ของรายได้รวมทั้งหมด และลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (ร้อยละ 5 หลังจากปรับอัตราแลกเปลี่ยน)
· อเมริกา รวมทั้งสหรัฐอเมริกา , ละตินอเมริกา และแคนาดา คิดเป็นร้อยละร้อยละ 54 ของรายได้รวมทั้งหมด และลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (ร้อยละ 4 หลังจากปรับอัตราแลกเปลี่ยน)
การจัดสรรเงินทุน
ไซแมนเทคปิดไตรมาสด้วยเงินสด รายการเทียบเท่าเงินสด และเงินลงทุนระยะสั้นที่ 3.8 พันล้านดอลลาร์เทียบกับ 4 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ลดลงร้อยละ 4 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2013 ได้จ่ายเงินปันผลที่ 0.15 ดอลลาร์ต่อหุ้นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 105 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ในระหว่างไตรมาส ไซแมนเทคได้ซื้อหุ้นคืนทั้งสิ้น 5 ล้านหุ้นด้วยเงิน 125 ล้านดอลลาร์ที่ราคาเฉลี่ย 24.99 ดอลลาร์ต่อหุ้น ณ วันสิ้นสุดไตรมาสสองไซแมนเทคยังมีเงินคงเหลือ 908 ล้านดอลลาร์สำหรับการซื้อหุ้นคืนในอนาคต ซึ่งขณะนี้แผนการซื้อหุ้นคืนได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการแล้ว

คณะกรรมการของไซแมนเทคได้ประกาศจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสที่ 0.15 ดอลลาร์ต่อหุ้นสามัญที่จะจ่ายให้ในวันที่ 18 ธันวาคม 2013 แก่ผู้ถือหุ้นทั้งหมดที่ถือหุ้นไว้จนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2013 วันที่ซื้อหุ้นโดยไม่ได้รับเงินปันผลจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2013

แนวทางปีงบประมาณ 2014
เนื่องจากรายได้จากไตรมาสเดือนกันยายนลดลง และการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจสำคัญๆ ที่ไซแมนเทคกำลังผลักดันอยู่ ได้ปรับลดตัวเลขการคาดการณ์รายได้ประจำปีลง โดยไซแมนเทคคาดว่า :
· รายได้จะลดลงร้อยละ 3-4 ในอัตราแลกเปลี่ยนคงที่
· กำไรจากการดำเนินงานแบบ non-GAAP ที่จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.30 ถึง 0.60
· กำไรต่อหุ้นแบบ non-GAAP จะอยู่ระหว่างร้อยละ -1.0 และ 1.5 เมื่อเทียบกับปีงบการเงินที่ผ่านมา
แนวทางปีงบประมาณ 2014 ไตรมาสสาม
สำหรับไตรมาสสามของปีงบการเงิน 2014 ไซแมนเทคคาดว่า:
· จะมีรายได้ 1.63 ถึง 1.67 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 1.79 พันล้านในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
· จะมีกำไรจากการดำเนินงานแบบ GAAP ที่ร้อยละ 17.0 ถึง 17.6 เมื่อเทียบกับร้อยละ 17.0 ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
· จะมีกำไรจากการดำเนินงานแบบ non-GAAP ที่ร้อยละ 25.6 ถึง 26.2 เมื่อเทียบกับร้อยละ 25.9 ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
· จะมีกำไรต่อหุ้นแบบ GAAP อยู่ที่ 0.26 ถึง 0.28 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 0.31 ดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
· จะมีกำไรต่อหุ้นแบบ non-GAAP อยู่ที่ 0.41 ถึง 0.43 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 0.45 ดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

แนวทางอยู่บนสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1.35 ดอลลาร์ต่อยูโร สำหรับไตรมาสเดือนธันวาคม 2013 เทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจริงที่ 1.30 ดอลลาร์ และ ณ วันสิ้นสุดของระยะเวลาในอัตรา 1.32 ดอลลาร์ต่อยูโรสำหรับไตรมาสเดือนธันวาคม 2012 แนวทางของเราอยู่บนสมมติฐานว่าอัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 28 และรายการเทียบเท่าหุ้นสามัญทั้งหมดสำหรับไตรมาสอยู่ที่ประมาณ 707 ล้านหุ้น

View :1263

ไซแมนเทค จับมือ เรดแฮท ประกาศความร่วมมือนำเสนอโซลูชั่นเพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือ การกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติ

August 31st, 2012 No comments

30 สิงหาคม 2555 – คอร์ป (NASDAQ: SYMC) และเรดแฮท อิงค์ (NYSE: RHT) ได้ประกาศขยายความร่วมมือในการส่งมอบโซลูชันที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับใช้ไพรเวท คลาวด์และไฮบริด คลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสร้างศูนย์ข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นสูง การขยายความความร่วมมือในครั้งนี้จะครอบคลุมทั้งเรื่องวิศวกรรม การตลาด การสนับสนุน และการขายของทั้งสองบริษัท จากการใช้งานจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว โซลูชั่นใหม่นี้จะนำเอาพลังของ Red Hat Enterprise Linux และโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูล และ Availability Solutions ของไซเมนเทคมารวมเข้าด้วยกันเพื่อส่งมอบระบบที่มีความพร้อมในการใช้งานสูง และคล่องตัวมากขึ้น ในขณะเดียวกันองค์กรต่างๆ ก็สามารถปรับใช้แอพพลิเคชั่นที่สำคัญต่อธุรกิจได้อย่างมั่นใจ

คลิ๊กเพื่อทวีต: ไซแมนเทค จับมือ นำเสนอโซลูชั่นในการทำงานร่วมกับคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างยืดหยุ่น http://bit.ly/KKFfTo

หลายองค์กรได้นำลีนุกซ์มาใช้งานอย่างรวดเร็วในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มทางเลือกซึ่งพวกเขากำลังมองหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อคงความได้เปรียบด้านการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน และกำลังเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในขณะที่งบประมาณด้านไอทียังเท่าเดิม ด้วยโซลูชั่น Red Hat Enterprise Linux ที่มีความยืดหยุ่นสูง จึงเป็นแพลตฟอร์มทางเลือกเชิงกลยุทธ์สำหรับการใช้งานไพรเวทคลาวด์ ซึ่งความมั่นใจว่าระบบจะสามารถรักษาระดับของการให้บริการได้ตลอดเวลาจะมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ องค์กรใน Fortune 500 มากกว่าร้อยละ 80 ได้นำเอา Red Hat Enterprise Linux มาใช้งาน ขณะที่ไซเมนเทคในฐานะผู้นำด้านการปกป้องแอพพลิเคชันทางธุรกิจ ได้นำเอาชุดโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูล และ availability management เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานอย่างต่อเนื่อง สำหรับแอพพลิเคชันแบบหลายชั้น (multi-tier application) โดยรองรับบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ทั้งสตอเรจ, ระบบปฏิบัติการ และแพลตฟอร์มด้านการทำเวอร์ชวลไลเซชั่น ทำให้บริษัทใน Fortune 500 ถึงร้อยละ 99 ได้นำเอาโซลูชั่นโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูล และ availability management ของไซแมนเทคไปใช้งาน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากบล็อกโพสต์: Cloud and Data Center Resiliency Is No Prisoner’s Dilemma

ไซแมนเทค และเรดแฮทจะร่วมกันเสนอโอกาสที่จะช่วยในการจัดการโซลูชั่นที่มีความสำคัญ ซึ่งใช้กับคลาวด์ และที่ติดตั้งไว้ในศูนย์ข้อมูล ผ่านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบปฏิบัติการที่ยืดหยุ่นในสภาพแวลล้อมแบบเปิด โซลูชั่นที่เกิดจากความร่วมมือดังกล่าวนี้จะช่วยการกู้คืนข้อมูลจากภัยพิบัติโดยอัตโนมัติ ช่วยปรับปรุงการจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลสำหรับศูนย์ข้อมูลที่มีหลายระบบปฏิบัติการ และระบบจัดเก็บข้อมูลหลายๆ ตัว และระบบที่สามารถทำงานทดแทนกันได้เมื่อระบบหนึ่งระบบใดมีปัญหาสำหรับฐานข้อมูลของออราเคิล

การกู้คืนข้อมูลจากภัยพิบัติแบบ Off-Premise โดยอัตโนมัติ
Cluster Server ที่ทำงานบน Red Hat Enterprise Linux ให้คุณสมบัติการกู้คืนระบบจากภัยพิบัติไปยังไซต์ในระยะไกล โดยการทำ fail-over แอพพลิเคชันแบบหลายชั้น (multi-tier application) ไปยังศูนย์สำรอง นอกจากนี้คลัสเตอร์เซิร์ฟเวอร์ยังช่วยจัดการระดับชั้นการสำเนาข้อมูลระยะไกล (replication) เพิ่มความง่ายในกระบวนการทำ DR ตัวโซลูชันยังมาพร้อมกับความสามารถในการทำทดสอบ fail-over โดยไม่มีผลกระทบกับการทำงานของระบบงานหลัก เพื่อให้เรายังคงมั่นใจได้ว่า การกู้คืนจะสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสมเมื่อจำเป็น ไม่ว่าจากเหตุการณ์ ไฟดับ, ภัยธรรมชาติหรือสาเหตุอื่นๆ

เพิ่มการจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลสำหรับศูนย์ข้อมูลที่มีระบบปฏิบัติการ และระบบจัดเก็บข้อมูลหลายๆ ตัว
สำหรับองค์กรที่ซื้อและติดตั้งโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลจากผู้ค้าหลายๆราย ซึ่งโซลูชั่นเฉพาะทางแต่ละตัวก็จะทำให้สภาพแวดล้อมของระบบจัดเก็บข้อมูลมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น และมักจะส่งผลให้ขาดคุณสมบัติความต่อเนื่องในการเข้าถึงข้อมูลสำคัญที่ถูกจัดเก็บบนสตอเรจที่หลากหลาย Storage Foundation Dynamic Multi-Pathing ที่ทำงานบน Red Hat Enterprise Linux ให้โซลูชั่นที่ทำงานข้ามแพลตฟอร์มซึ่งเป็นแบบเดียวกันเพิ่มความง่ายในการบริหารจัดการในระบบระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์มสตอเรจที่หลากหลาย ด้วยโซลูชั่นดังกล่าวนี้ องค์กรต่างๆ จะมีทางเลือกในการจัดเก็บข้อมูลที่มีความคุ้มค่า และสามารถต่อรองราคาอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ได้โดยที่ระบบไม่หยุดชะงัก และไม่ต้องติดตั้งเครื่องมือเฉพาะทางตัวใหม่ผ่านแพลตฟอร์มด้านการจัดการข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จตัวเดียว

เพิ่มความคุ้มค่าให้กับระบบ Failover สำหรับฐานข้อมูลของออราเคิล
หลายองค์กรใช้ฐานข้อมูลของออราเคิลเพื่อเพิ่มผลผลิตในการทำงาน และช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น และได้รับข้อมูลในการตัดสินใจมากขึ้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากธุรกิจต้องพึ่งพาฐานข้อมูลเหล่านี้อย่างมาก เมื่อฐานข้อมูลมีปัญหาก็ส่งผลให้สูญเสียรายได้ เสื่อมเสียชื่อเสียง และอาจถึงขั้นถูกปรับในกรณีที่ไม่สามารถให้บริการตามระดับของบริการที่ตกลงกันไว้ Storage Foundation Cluster File System และ Cluster Server ที่ทำงานบน Red Hat Enterprise Linux ให้ระบบ failover สำหรับฐานข้อมูล ของออราเคิลที่ทำงานได้รวดเร็วมาก ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้อินสแตนฐานข้อมูลของออราเคิลโดยเสียค่าค่าใช้จ่ายน้อยลงในขณะที่มีระบบ failover ที่ทำงานได้ในเวลาไม่ถึงนาที นอกจากนี้ Cluster Server ยังสามารถประสานการทำ failover แอพพลิเคชั่นแบบมัลติเทียร์เพื่อให้การจัดการสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อนง่ายขึ้น และบริการทางธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่หยุกชะงักอย่างแท้จริง
เทคโนโลยี Cluster File System, Cluster Server และ Storage Foundation จากผู้นำตลาดอย่างไซแมนเทค พร้อมกับ Red Hat Enterprise Linux จะเป็นพื้นฐานสำหรับสถาปัตยกรรมร่วม นอกจากนี้ไซแมนเทคและเรดแฮทจะร่วมทีมกันเพื่อเพิ่มความร่วมมือในด้านวิศวกรรม การตลาด และการสนับสนุน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นใหม่ๆ จะมีเพิ่มเติมในภายหลัง

คำกล่าวสนับสนุน:
“Red Hat Enterprise Linux เป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตเร็วที่สุดของเราสำหรับซอฟต์แวร์ด้านการจัดการสตอเรจ และความพร้อมในการใช้งานสูง(high availability software) และมีลูกค้ามากขึ้นที่เลือกใช้งาน Linux เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและคงความสามารถในการแข่งขันก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับไซแมนเทค เรามุ่งเน้นกำลังเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเรากับเรดแฮทในประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรต่างๆ มีความมั่นใจว่าข้อมูลของพวกเขาได้รับการคุ้มครองไม่ว่าพวกเขาจะปรับปรุงศูนย์ข้อมูลให้มีความทันสมัย หรือต้องการสร้างไพรเวท คลาวด์ที่ทนทานต่อความล้มเหลวก็ตาม” นายประมุท ศรีวิเชียร ผู้จัดการประจำประเทศไทยของไซแมนเทค กล่าว

“ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เรดแฮท และไซแมนเทคได้ร่วมกันนำเสนอคุณค่าอย่างมากแก่ลูกค้าด้วยโอเพ่นซอร์สที่ปลอดภัยเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีที่ล้าหลังให้มีความทันสมัย” มร.ดาเมียน วอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เรดแฮท ภูมิภาคอาเซียน กล่าว “เรามีความยินดีที่จะขยายความร่วมมือในระยะยาวระหว่างเรากับไซแมนเทคในประเทศไทย เพื่อนำเอา Red Hat Enterprise Linux แพลตฟอร์มปฏิบัติการชั้นนำของเรา และเทคโนโลยีที่น่าสนใจของไซแมนเทคมารวมกันเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเรามีทางเลือก และมีความยืดหยุ่นสำหรับโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีของพวกเขา”

“อย่างที่เราเคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าไอดีซีเชื่อว่าลีนุกซ์จะเป็นหนึ่งในสองระบบปฏิบัติการหลักที่จะมีอิทธิพลต่อโครงสร้างพื้นฐานของไพรเวทคลาวด์” มร.เอล กิลเลน รองประธานฝ่ายซอ​​ฟต์แวร์ระบบของไอดีซี กล่าว “ไซแมนเทคและเรดแฮทกำลังรวมทีมกัน เพื่อปรับปรุงความพร้อมในการใช้งานข้อมูล และการกู้คืนข้อมูลจากภัยพิบัติในศูนย์ข้อมูล ซึ่งจะมีประโยชน์เพิ่มขึ้นสำหรับศูนย์ข้อมูลที่มีโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคลาวด์ที่ทำงานบนลีนุกซ์ และช่วยให้ลูกค้าองค์กรในปัจจุบันสามารถใช้ประโยชน์จากคลาวด์คอมพิวติ้งได้อย่างเต็มที่”

“เรามี Storage Foundation High Availability ของไซแมนเทคที่ทำงานบน Red Hat Linux และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทดสอบสถาปัตยกรรมร่วมกันว่าสามารถตอบสนองความต้องการของเราในการทำ failover ฐานข้อมูลของออราเคิล และการกู้คืนข้อมูลจากภัยพิบัติแบบ off-premise เพื่อป้องกันข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญของเราได้อย่างเต็มที่” อิสมาเอล โมรีโน ผู้จัดการฝ่ายไอทีของ SESCAM กล่าว “เราเชื่อว่าสิ่งนี้จะไม่เพียงแต่จะทำให้เราสามารถปกป้องข้อมูลและแอพพลิเคชั่นได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังป้องกันไม่ให้เราถูกผูกติดกับผู้ค้ารายใดรายหนึ่ง เราสามารถที่จะเปลี่ยนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลได้โดยไม่ทำให้ระบบหยุดชะงัก”

View :1528

ไซแมนเทคจัดงานประชุม Asia South Partner Engage Conference ที่ฮ่องกง

September 16th, 2011 No comments

ชี้คลาวด์คอมพิวติ้ง(cloud computing )เวอร์ช่วลไลเซชั่น(virtualisation) และ โมบิลิตี้(mobility) คือโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพาร์ทเนอร์ในภูมิภาคเอเชียใต้

Symantec Corp. (SYMC ใน Nasdaq:) ในวันนี้ ให้การต้อนรับผู้บริหารของพาร์ทเนอร์ 150 ราย เข้าร่วมงาน Asia South Region Partner Engage Conference 2011 ณ โรงแรม Langham Place ประเทศฮ่องกง ในงานมีคำกล่าวปราศัยที่สำคัญของผู้บริหารจากไซแมนเทค อาทิ มร.เบอร์นาร์ด ควอค รองประธานอาวุโส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น, มร.เอริค โฮ รองประธาน ประจำภูมิภาคเอเชียใต้, มร.เดวิด เดนเชียน รองประธาน ฝ่ายพาร์ทเนอร์และธุรกิจเอสเอ็มบี ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและญี่ปุ่น, มร. ฟิลิป แยพ, รองประธานฝ่ายการตลาด ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคและญี่ปุ่น และมร.เรย์มอน โก๊ะ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมระบบ ภูมิภาคเอเชียใต้

งานประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลักของงานในเรื่อง “Power Your Business” เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์ได้รับฟังกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ของไซแมนเทค พร้อมทั้งได้รับทราบทิศทางของธุรกิจที่เป็นประโยชน์ในการเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจของพาร์ทเนอร์ และยังได้มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ สร้างเครือข่าย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารของไซแมนเทค และผู้ประกอบการท่านอื่นๆในอุตสาหกรรมเดียวกันด้วย

ผู้บริหารของไซแมนเทค ถือโอกาสนี้ในการเฉลิมฉลองความสำเร็จของโปรแกรม enhanced Symantec Partner Programme ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีก และชึ้ให้เห็นว่าเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เวอร์ช่วลไลเซชั่น(virtualisation) คลาวด์ คอมพิวติ้ง (cloud computing) และ โมบิลิตี้ (mobility) สามารถจะใช้ประโยชน์จากโปรแกรมดังกล่าวเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับช่องทางในการดำเนินธุรกิจ

เปลี่ยนเทรนด์เทคโนโลยีให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ

มร. เบอร์นาร์ด ควอด รองประธานอาวุโส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น บริษัท กล่าวว่า “ภัยคุกคามมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นและมีเป้าหมายสร้างความเสียหายในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนั้น องค์กรต่างๆ ยังมีความกังวลใจในเรื่องการจัดเก็บข้อมูลที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ เทรนด์เทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง )cloud computing) เวอร์ช่วลไลเซชั่น (virtualisation) และโมบิลิตี้ (mobility) กำลังมีบทบาทในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมและส่งผลต่ออุตสาหกรรมในวงกว้าง ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ จนถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม อย่างเท่าเทียมกัน” มร.ควอด กล่าวเสริมว่า “เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความยุ่งยากกังวลใจดังกล่าว ไซแมนเทคได้พัฒนาเทคโนโลยีที่สอดคล้องและตอบสนองต่อธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มพาร์ทเนอร์เองก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถนำโอกาสจากเทรนด์เทคโนโลยีเหล่านี้ มาใช้ในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้”

มร.เอริค โฮ รองประธาน ประจำภูมิภาคเอเชียใต้ บริษัท ไซแมนเทค กล่าวเสริมว่า “การที่จะประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน องค์กรธุรกิจต้องมีกลยุทธ์ในการใช้ข้อมูลเป็นศูนย์กลาง ทั้ง Cloud Computing, virtualisation และ mobility เป็นเทรนด์หลักเพื่อการพัฒนา ในการนำมาช่วยตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในการแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัย สตอเรจและการจัดการบริหารระบบ ในขณะเดียวกัน ระบบต่างๆ ดังกล่าวยังสร้างโอกาสที่สำคัญให้พาร์ทเนอร์ของเรา เพิ่มศักยภาพด้านรายได้และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยการให้ความช่วยเหลือและแนะนำลูกค้า สามารถเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ได้โดยไม่สร้างความซับซ้อนยุ่งยากและความเสี่ยงให้เพิ่มขึ้น

ความสำเร็จของ Enhanced Symantec Partner

ไซแมนเทค ได้พัฒนาโปรแกรม Enhanced Symantec Partner และเปิดตัวโปรแกรมดังกล่าวไปเมื่อ 1 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา การพัฒนาดังกล่าวฯ เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถของพาร์ทเนอร์ โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อให้พาร์ทเนอร์สามารถคาดการณ์การเติบโตและสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจ ทั้งนี้ พาร์ทเนอร์สามารถพัฒนาสู่ผู้ให้บริการความเชี่ยวชาญพิเศษ Specialisations โดยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้พาร์ทเนอร์ได้รับความรู้ในเชิงลึกและได้ประโยชน์ในกระบวนการแก้ไขปัญหาการใช้งาน ปัจจุบันนี้ พาร์ทเนอร์กว่า 350 รายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค และญี่ปุ่น ได้พัฒนาเป็นผู้ให้บริการที่เชียวชาญในการแก้ไขปัญหา )Solution Specialisation) จากจำนวนผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญทั้งหมดกว่า 2,000 รายทั่วทั้งภูมิภาค

“ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคและญี่ปุ่น เป็นเป้าหมายแรกในเชิงภูมิศาสตร์ของเรา ในการเปลี่ยนพาร์ทเนอร์ของเราให้เข้าสู่โปรแกรมไซแมนเทค พาร์ทเนอร์ (Symantec Partner) ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดโปรแกรมนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญพิเศษและความรู้ให้แก่พาร์ทเนอร์ของเรา สามารถแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าและช่วยเพิ่มโอกาสแห่งความสำเร็จทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า” มร.เดวิด เดนเชียน รองประธาน ฝ่ายพาร์ทเนอร์และธุรกิจเอสเอ็มบี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น กล่าวและว่า “จากการเปิดตัวโปรแกรม ได้รับผลตอบรับจากพาร์ทเนอร์เป็นอย่างดี โดยพาร์ทเนอร์หลายรายสามารถบรรลุเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดได้”

นับตั้งแต่การประกาศพัฒนาโปรแกรมสำหรับพาร์ทเนอร์ดังกล่าว ในปีที่ผ่านมา พาร์ทเนอร์ของไซแมนเทค ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิคและญี่ปุ่นได้รับมอบ 9 Solution Specialisations , 1 Market Segment Specialisation, และ 8 Master Specialisations

กลยุทธ์และวิสัยทัศน์สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายของไซแมนเทค

“ไซแมนเทค เป็นบริษัทที่สร้างรายได้มหาศาลโดยผ่านเครือข่ายของพาร์ทเนอร์ทั้งหลาย วิสัยทัศน์ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายของเรานั้น คือ การสร้างความสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์ โดยให้ความช่วยเหลือในการนำเสนอ โอกาสใหม่ๆ ให้พาร์ทเนอร์เพื่อกระตุ้นการเติบโต รวมถึงการนำเสนอโซลูชั่น ที่เป็นผู้นำในตลาด ช่วยให้พาร์ทเนอร์สามารถบริหารจัดการดูแลในเรื่องความปลอดภัยและการบริหารจัดการข้อมูลของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับโครงการความเชี่ยวชาญพิเศษ Specialisations พาร์ทเนอร์สามารถเพิ่มมูลค่าให้โซลูชั่นและการบริการ สร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันในตลาด”

“สำหรับโปรแกรม Enhanced Partner เราได้นำเสนอวิสัยทัศน์เพื่อการนำไปสู่การปฏิบัติ ในการช่วยเหลือพาร์ทเนอร์ของเราได้มีความแตกต่างทางธุรกิจ เพราะระบบการบริหารจัดการในเรื่องความปลอดภัยและการบริหารจัดการระดับโลกของไซแมนเทค ครอบคลุม การจัดเก็บ การรักษาความปลอดภัย การบริหารจัดการ และการป้องกันข้อมูล ก่อให้เกิดการผลกำไรสูงสุดจากการลงทุน ยอดขายที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ขีดความสามารถทางด้านวิชาการและธุรกิจ ช่วยผลักดันผลกำไร โดยการปรับปรุงวงจรการขายของพาร์ทเนอร์ด้วยเครื่องมือทางการตลาดใหม่ๆ และทรัพยากรต่างๆ ที่สนับสนุนการขาย” มร. เดนเชียน กล่าวเสริม

เมื่อพาร์ทเนอร์ได้รู้จักและพัฒนาไปสู่โปรแกรมความเชี่ยวชาญพิเศษและความชำนาญทางธุรกิจอย่างถ่องแท้แล้ว บริษัทไซแมนเทค ยังคงเดินหน้าในการจัดเตรียมหาเครื่องมือและทรัพยากรที่ส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจใหม่ต่อไป

· “แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากการที่ต้องเร่งเสริมสร้างศักยภาพและกำลังการผลิต หลายๆ บริษัทต่างหันมาใช้เทคโนโลยีในปัจจุบัน เช่น เวอร์ช่วลไลซ์เซซั่นและคลาวด์คอมพิวติ้ง ดังนั้น โปรแกรม Symantec Partner Programmme ที่ได้นำมาใช้ไปพร้อมกับโปรแกรมความเชี่ยวชาญพิเศษ ช่วยเพิ่มความความเชี่ยวชาญและทักษะที่จำเป็นในสาขาเทคโนโลยีหลักๆ ช่วยให้เราสามารถคาดการณ์การเติบโตและผลกำไรในการเติบโตทางธุรกิจของเราได้”

-มร. ฟรานซิส ชู กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินแกรม ไมโคร เอเชีย จำกัด (Ingram Micro Asia Ltd)
· “การที่บริษัทแอกเซล ฟรอนท์ไลน์ (Accel Frontline) ได้เป็นพาร์ทเนอร์ของไซแมนเทค เหมือนกับการได้รับรางวัลนี้ จากความมุ่งมั่นของเราในโปรแกรมความเชี่ยวชาญพิเศษและผ่านการรับรองจากบริษัทไซแมนเทค ทำให้เรามีความโดดเด่นในฐานะบริษัทผู้วางระบบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสิ่อสารโทรคมนาคมอย่างครบวงจร ไซแมนเทคเป็นบริษัทที่นำเสนอโซลูชั่นที่มีศักยภาพสูงในการตอบสนองต่อความต้องการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ช่วยให้เราจัดสรรระบบที่เหมาะสมให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกระบวนการ เรามีความภูมิใจในการเป็นพาร์ทเนอร์ระดับแพลททินั่มในประเทศอินเดีย นอกจากนั้นโปรแกรมเพิ่มพูนศักยภาพพาร์ทเนอร์ของทางไซแมนเทคยังสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจของเราได้อย่างดี”

–มร.มาคบูล ฮัสสัน รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แอกเซล ฟรอนท์ไลน์ จำกัด (อินเดีย) Accel Frontline Ltd (India)
· “บริษัท เอฟพีที อินฟอร์เมชั่น คอร์ปอเรชั่น (FPT Information Corporation) จัดเป็นพาร์ทเนอร์ระดับแนวหน้าของไซแมนเทค ในประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะตลาดด้านภาครัฐ การสื่อสารโทรคมนาคม ด้านสาธารณะและอุตสาหกรรมการเงิน ตลอดระยะเวลาในการเป็นพาร์ทเนอร์ เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านการปกป้องข้อมูลโดยสามารถให้บริการโซลูชั่นจากผู้นำตลาดด้านการรักษาความปลอดภัยและโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลของบริษัทได้อย่างเป็นอย่างดี ทั้งนี้บริษัท เอฟพีที อินฟอร์เมชั่น คอร์ปอเรชั่น มีวิสัยทัศน์ในระดับสากลและในฐานะพาร์ทเนอร์ระดับแพลททินั่มของไซแมนเทค รวมถึงการเป็นผู้นำในด้านการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคมอย่างครบวงจร ในประเทศเวียดนาม การได้รับประโยชน์จากโปรแกรมความเชี่ยวชาญพิเศษจากไซแมนเทค ไปพร้อมกับการเป็นพาร์ทเนอร์อย่างเหนียวแน่น ยังทำให้เรากลายเป็นบริษัทระดับโลกและเพิ่มคุณค่าในด้านการบริการให้กับลูกค้าของเราอีกด้วย ”

–มร.ฟาร์ม เทรือ ลินห์, กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอฟพีที คอร์ปอเรชั่น สำหรับ การสื่อสารโทรคมนาคมและภาครัฐ (เวียตนาม) FPT Information for Telecom and Public Sector Services (Vietnam)
· “โปรแกรมความเชี่ยวชาญพิเศษของไซแมนเทค และการได้รับการรับรอง ทำให้บริษัท เมสินเนียกา เบอร์ฮาด (Mesiniaga Berhad) มีความแตกต่างไปจากบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรม รวมไปถึงการเพิ่มมูลค่าในการนำเสนอธุรกิจของเรา ไซแมนเทคมีขอบข่ายในการแก้ไขปัญหาอย่างกว้างขวางสามารถสร้างเสริมทักษะได้อย่างดี พร้อมยังตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าได้ การได้เป็นพาร์ทเนอร์ระดับแพลททินั่มกับทาง ไซแมนเทคช่วยให้ บริษัท เมสินเนียกา เบอร์ฮาด (Mesiniaga Berhad) นำประโยชน์และสิ่งที่มีคุณค่าที่เกี่ยวข้องส่งต่อให้ลูกค้าได้ต่อไป เรามีความยินดีที่เป็นส่วนหนึ่งในพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของไซแมนเทครุ่นแรกๆ ในประเทศมาเลเซียที่ได้รับการเปลี่ยนมาสู่โปรแกรม Enhanced Symantec Partner ”

–มร. เกง โฮ วอง ผู้อำนวยการการจัดการบริหารโครงการและโซลูชั่นทางการตลาด บริษัท เมสินเนียกา เบอร์ฮาด (มาเลเซีย) Mesiniaga Berhad (Malaysia)
· “ความแตกต่างทางธุรกิจกลายเป็นตัวแปรสำคัญเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จเมื่อการแข่งขันในตลาดเพิ่มสูงขึ้น โปรแกรม enhanced Partner พร้อมด้วยโปรแกรมความเชี่ยวชาญพิเศษของบริษัทไซแมนเทค ทำให้บริษัทเราตระหนักถึง ความชำนาญในเทคโนโลยีตัวหลักสำคัญของเรา ช่วยสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ ในอุตสาหกรรม และสำคัญที่สุดคือการทำให้ลูกค้าของเราเพิ่มความเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญและความรู้ของเราว่าเหมาะสมกับธุรกิจและเป้าหมายทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ”

–นายอรุณ ต่อเอกบัณฑิต, ประธาน บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย) Metro Systems Corporation PCL (Thailand)
· “บริษัทเอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพทางเศรษฐกิจและแนวโน้มในอนาคต โดยการลงทุนเพิ่มบุคลากรและการพัฒนาเทคโนโลยี การเป็นพาร์ทเนอร์กับทางผู้จัดจำหน่ายต่างๆ นำไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ การให้บริการที่ตรงตามความต้องการของตลาด โปรแกรมของบริษัทไซแมนเทค นี้ช่วยให้เรามีความแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ ในเครือข่ายด้านเทคโนโลยี รวมถึงช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมในการดำเนินงานให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าเพื่อแข่งขันและประสบความสำเร็จในระบบเศรษฐกิจเครือข่าย”

–นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเอฟอีซี จำกัด (มหาชน) (ประเทศไทย)MFEC Public Company Ltd (Thailand)
· “บริษัทต่างๆ และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ต้องประสบกับความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นในด้านระบบพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการป้องกันตัวเองจากความซับซ้อนและปัญหาภัยคุกคามทางคอมพิวเตอร์ที่ยุ่งยาก รวมถึงการความต้องการในการจัดเก็บข้อมูล พร้อมข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น การเป็นพาร์ทเนอร์ระดับแพลททินั่มด้าน Storage Management, Archiving & eDiscovery, Data Protection and High Availability specialised Partner (Platinum) โปรแกรม Symantec enhanced Partner เป็นเครื่องมือสร้างทักษะความชำนาญและความรู้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสามารถบอกจุดอ่อนด้อยต่างๆได้ เป็นความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมและหวังว่าจะเติบโตไปพร้อมกับทางไซแมนเทค”

–มร.วินเซนต์ โล ผู้จัดการทั่วไปด้านผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัท เอ็นซีเอส พีทีอี จำกัด (สิงคโปร์) NCS Pte Ltd (Singapore)
· “โปรแกรม Symantec enhanced Partner เพิ่มศักยภาพให้กับบริษัทเราในด้านเครือข่ายเทคโนโลยี ให้มีความแข็งแกร่งสำหรับการแข่งขันในตลาด ในฐานะพาร์ทเนอร์ระดับแพลททินั่ม เราจะรักษาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับทาง ไซแมนเทคในการนำเสนอผลงานด้านการรักษาความปลอดภัยและการจัดเก็บข้อมูลสู่ลูกค้าของเราต่อไป.”

–มร.จาฟริล เอฟเฟนดิ ประธานอำนวยการ บริษัท พีที มิตรา อินเอตร์กราสิ อินฟอร์มาติกา จำกัด (อินโดนีเซีย) PT. Mitra Integrasi Informatika (Indonesia)
· “บริษัทไซแมนเทค มีโซลูชั่นด้านจัดเก็บข้อมูลและการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลาย เราสามารถนำไปเสนอต่อลูกค้าได้ ในปีนี้ทางบริษัท ครีเอทีฟ เทคโนโลยี อิงค์ (Creative Technologies Inc.) จะทำการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีในวงการอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ การเป็นพาร์ทเนอร์กับไซแมนเทค ทำให้เราได้รับความช่วยเหลือ ทำให้บริษัทของเราเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราชื่นชมการช่วยแก้ไขตั้งแต่เริ่มต้นจนจบของบริษัท ไซแมนเทคในด้านวางระบบพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงการช่วยจัดเตรียมการป้องกันข้อมูลให้กับลูกค้า ในฐานะพาร์ทเนอร์ระดับโกลด์ เราได้ก้าวถึงความเชี่ยวชาญพิเศษ สร้างทักษะและความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ รวมทั้งยังช่วยให้เราเป็นที่ยอมรับต่อลูกค้าในด้านความชำนาญในการให้บริการและการสนับสนุน”

–มร.จาคอบ ดี รองประธานด้านการขายและการตลาด บริษัท ครีเอทีฟ เทคโนโลยี อิงค์ (ฟิลิปปินส์) Creative Technologies Inc. (Philippines)
· “ความสัมพันธ์ของเรากับทางไซแมนเทค มากกว่าทศวรรษ เราชื่นชมในโปรแกรม Symantec Partner ช่วยสร้างคุณประโยชน์และความแตกต่างในการนำเสนอต่อลูกค้า ความต้องการลดความซับซ้อนในสภาพแวดล้อมของลูกค้า ความเป็นผู้นำและความเหนือชั้นทางด้านเทคนิคที่ได้รับการพิสูจน์ของทางไซแมนเทค ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างทักษะของบริษัทเราช่วยสร้างผลประโยชน์อย่างยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าของเรา การมุ่งเน้นไปโปรแกรมความเชี่ยวชาญพิเศษ ข้อเสนอของเราเน้นที่ความแตกต่างมากขึ้นอย่างระบบป้องกันข้อมูลสูญหาย (Data Loss Prevention (DLP)) และการสำรองข้อมูล (Back up) ในด้านการบริการซึ่งเรานำเสนอควบคู่ไปกับทางไซแมนเทค”

–มร.วิคัส ศรีวัฒทาวา รองประธาน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ไวโปร จำกัด (อินเดีย) Wipro Ltd. (India)

View :1553

ไซแมนเทครายงานสถานการณ์อีเมลขยะและฟิชชิ่ง สแปมเมอร์ ลาพักร้อนช่วงปีใหม่ อีเมลขยะลดฮวบ แต่เว็บโซเชียลมีเดีย กลับฮ็อตฮิต ใช้ประเด็นอื้อฉาวอนาจารล้วงข้อมูลผู้ใช้ได้ผล

February 15th, 2011 No comments

ภาพรวมของอีเมลขยะในเดือนธันวาคม คิดเป็น 81.69% เมื่อเทียบกับข้อความอีเมลทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งนับเป็นอัตราลดลงเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอยู่ที่ 84.31% และดูจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ หรืออาจเป็นไปได้ว่าสแปมเมอร์ขอลาพักผ่อนในช่วงวันหยุด
 
นายนพชัย ตั้งไตรธรรม ที่ปรึกษาทางเทคนิคอาวุโส บริษัท คอร์ปอเรชัน เปิดเผยว่า อีเมลขยะหดตัวลงในช่วงเดือนธันวาคม และลดลงมากโดยเฉพาะในช่วงคริสต์มาส พร้อมกับตีตื้นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากลดลงถึงจุดต่ำสุดคือวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 71% และนับว่าเป็นจุดที่ต่ำสุดที่ไซแมนเทคเคยติดตามภายในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา
 
แม้ว่าจะยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้อีเมลขยะลดลง รายงานสถานการณ์อีเมลขยะและฟิชชิ่งในเดือนมกราคม 2554 ก็ได้มีการนำเสนอสถานการณ์ที่ดูมีเหตุและผลว่าอะไรเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ พร้อมกับให้ข้อมูลอัพเดทล่าสุดถึงการกลับมาของ บ็อตเน็ต รุสต็อค  (Rustock botnet) รวมถึงจำนวนบ็อตเน็ตที่เพิ่มขึ้น
 
ภาพรวมของฟิชชิ่งลดลงถึง 15% ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นการลดลงของฟิชชิ่งในทุกส่วน โดยสาเหตุหลักน่าจะมาจากการที่ฟิชชิ่งลดลงในช่วงวันหยุด เว็บไซต์ ที่สร้างมาจากชุดเครื่องมืออัตโนมัติลดลงประมาณ 10% และยูอาร์แอลที่มีลักษณะเฉพาะลดลง 18% เว็บไซต์ฟิชชิ่งที่มีไอพี โดเมน (อย่างเช่น http://255.255.255.255) ลดลงมาประมาณ 2% บริการเว็บโฮสติ้ง คิดเป็น 9% ของฟิชชิ่งทั้งหมด ซึ่งลดลง 39% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ ตัวเลขของเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษลดลง 19% และจากบรรดาเว็บที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษนั้น พบเว็บภาษาฝรั่งเศสและโปรตุเกส มากที่สุดในเดือนธันวาคม
 
ประเด็นที่น่าจับตามองในรายงานประจำเดือนมกราคม  2554 ได้แก่
 
หรือว่าสแปมเมอร์ จะลาพักในช่วงวันหยุด? ไซแมนเทคได้ติดตามการลดลงอย่างต่อเนื่องของอีเมลขยะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและยังคงลดลงจนถึงช่วงเดือนธันวาคมที่อีเมลขยะทั่วโลกมีอัตราลดลงเดือนต่อเดือนอยู่ที่ 19.98 %  จากช่วงที่เคยสูงสุดในเดือนสิงหาคม คิดเป็นอัตราลดลงถึง 65.3%
 
ตัวเลขในช่วงเดือนต่อเดือนแสดงให้เห็นอัตราการลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันคริสต์มาส เห็นได้จากชาร์ตแสดงจำนวนที่ลดลงในช่วงเดือนธันวาคม
 

 
 
อะไรคือสาเหตุของการลดลงมากขนาดนี้?  เรามีคำตอบในเรื่องนี้ จากตัวเลขของแมสเซจ แล็บส์ บ็อตเน็ต รุสต็อค ซึ่งเป็นบ็อตเน็ตตัวการสำคัญที่แพร่อีเมลขยะในปี 2553 มีจำนวนลดลงอย่างมาก และนับตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม เป็นต้นมา รุสต็อค บ็อตเน็ต ได้หายหน้าไปจากวงการ พร้อมกับอีเมลขยะที่มาจากบ็อตเน็ตดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 0.5% ของจำนวนอีเมลขยะทั่วโลก นอกจากกิจกรรมของรุสต็อก บ็อตเน็ตที่ลดลง แเมสเส็จ แล็บส์ ยังชี้ให้เห็นว่ามีบ็อตเน็ตหลักอีกสองตัวที่หายไปจากแผนภูมิ ได้แก่ เลธิก บ็อตเน็ต (Lethic Botnet)  ที่เงียบไปตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม และ ซาเวสเตอร์ บ็อตเน็ต (Xavester Botnet) ที่หายเข้ากลีบเมฆไปตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม
 
ขณะที่การลดลงของอีเมลขยะนับเป็นข่าวดีอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า อีเมลขยะจะหายหน้าหายตาไปซะหมด ในช่วงที่ข้อความอีเมลขยะเหล่านี้ลดลง คำถามคือ แล้วอีเมลขยะเหล่านี้หายไปไหนกัน ไซแมนเทคได้สังเกตุการพบว่ามีการใช้งานโดเมนเว็บที่ให้บริการฟรี และ ยูอาร์แอลแบบย่อในข้อความอีเมลขยะเพิ่มขึ้น ยูอาร์แอล .ru ยังคงได้รับความนิยมอยู่ แม้ว่าจะลดลงไปประมาณ 15% ในช่วงเดือนต่อเดือน ในขณะที่ ยูอาร์แอล .com เพิ่มขึ้นมาทดแทนส่วนของยูอาร์แอล .ru ที่ลดลงไป แต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นในปริมาณมากที่จะทำให้ยูอาร์แอล .ru หายไปซะทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าส่วนที่ยังมีเหลืออยู่ อาจเพิ่มขึ้นตามการใช้งานเว็บโดเมนที่ให้บริการฟรี รวมถึงการใช้ ยูอาร์แอล แบบย่อ
 
อย่างไรก็ตาม ช่วงวันหยุดของบรรดาสแปมเมอร์นั้นช่างสั้นนัก โดยในวันที่ 10 มกราคม ไซแมนเทคได้สังเกตุเห็นว่าอีเมลขยะมีจำนวนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับอีเมลขยะที่เป็นผลงานของ รุสต็อค บ็อตเน็ต ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงทำให้จำนวนอีเมลขยะในช่วงวันที่ 10 มกราคม เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับไม่กี่วันก่อนหน้านั้น
 
แนะวิธีแก้ปัญหาในช่วงปีใหม่
หนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาจากช่วงปีใหม่ คือการคุมน้ำหนัก มีผู้คนมากมายที่สมัครใช้บริการฟิตเนสคลับ และสถานออกกำลังกายในช่วงต้นปี เพื่อหาทางควบคุมน้ำหนัก และในการนี้ สแปมเมอร์ ก็นำเรื่องนี้มาเป็นตัวล่อเป้า พร้อมกับหยิบยื่นข้อเสนอสำหรับช่วงเทศกาลดังกล่าว  นอกจากนี้ หลังจากที่ผ่านปีใหม่ไป วันปีใหม่ของจีนก็จะมาถึงในเดือนกุมภาพันธ์นี้ สแปมเมอร์ชาวจีน ยังได้มีการนำเสนอกระเช้าของขวัญที่ใส่อาหารอีกด้วย
 
 
สิ่งล่อใจใหม่ ในเว็บฟิชชิ่งประเภทโซเชียล มีเดีย
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ไซแมนเทคได้สังเกตุเห็นเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นแบรนด์โซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยใช้วิธีการหลอกลวงแบบใหม่เพื่อล่อให้ผู้ใช้งานบอกข้อมูลส่วนตัว
 
ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็คือ เว็บ ฟิชชิ่งที่ใช้ชื่อ “ เว็บแคม” ที่จะใส่ภาพเว็บแคมไว้ในหน้าปลอมนั้น โดยหลอกว่ามีเว็บแคมเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ติดต่อสื่อสารกันผ่านเว็บแคมนี้ ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเป็นเว็บไซต์ของจริงจะไม่มีการนำเสนอเรื่องนี้
 
การยื่นข้อเสนอปลอม เกี่ยวกับภาพลามกอนาจารในการหลอกลวงผ่านเครือข่ายสังคมมีให้พบเห็นกันบ่อยขึ้นในปัจจุบัน และดูเหมือนว่าบรรดาฟิชเชอร์มักจะใช้ภาพเหล่านี้ หลอกขโมยข้อมูลเหยื่อ อีกตัวอย่างหนึ่งที่ใช้ภาพลามกอนาจารเป็นตัวล่อ คือการที่บรรดาฟิชเชอร์ จะอาศัยวิธีการที่แตกต่างกันไปเพื่อล่อให้ผู้ใช้หลงเชื่อ ซึ่งเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ว่านี้ อ้างว่ามีเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กรายใหม่ ที่จะออกเวอร์ชันใหม่สำหรับผู้ใช้ที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งจะมาพร้อมแอพพลิเคชันที่ผู้ใช้สามารถดูวิดีโอฉาวที่ได้จากการแอบถ่าย และยังอ้างว่าผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมโดยสามารถพูดคุยกับคนที่อยู่บริเวณใกล้กันได้ การหลอกลวงยังไม่จบเท่านี้ แต่ยังอ้างว่าผู้ใช้สามารถเช็คเพื่ออัพเดทเรื่องอื้อฉาวของนักแสดงที่ได้รับความนิยมนั้นๆ ทั้งนี้เว็บฟิชชิ่งดังกล่าวจะมีรูปอนาจารที่ให้ความรู้สึกเหมือนว่าสร้างมาเพื่อล่อตาล่อใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
 
ตัวอย่างที่สามนี้ คือมีการนำเสนอซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับแฮ็กข้อมูลเป็นตัวล่อ โดยจะมีการปรับเนื้อหาเพื่อช่วยให้ดูคล้ายกับเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งเป็นทางเลือก สำหรับแฮ็กเกอร์มืออาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีการอ้างถึงประโยชน์ปลอมจากการใช้เครื่องมือแฮ็กในหน้าเว็บเพจปลอมนั้น หนึ่งในนั้นก็คือการอ้างถึงประโยชน์ที่จะได้จากการเรียนรู้ยุทธวิธีใหม่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก จากการใช้ชุดเครื่องมือ ประโยชน์อีกข้อคือจะมีการนำเสนอ คุกกี้ แฮ็กเกอร์ โดยให้ดาวน์โหลด ซึ่งฟิชเชอร์ไม่ได้พูดถึงวัตถุประสงค์ของ คุกกี้ แฮ็กเกอร์ อย่างชัดเจนแต่เป็นไปได้ว่าจะใช้สำหรับแฮ็กเข้าไปยังแอคเค้าท์ของของผู้ใช้งาน ประโยชน์ข้อสุดท้ายคือผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกับแฮกเกอร์มืออาชีพ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการหาประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่บนเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์กนั่นเอง
 
ฟิชเชอร์ ยังคงใช้รูปแบบและแนวทางที่แตกต่างมาเป็นสิ่งล่อใจเพื่อประโยชน์อย่างเดียวกัน คือข้อมูลของผู้ใช้ที่กรอกในเวลาล็อกอินเข้าใช้งานบนเว็บปลอมเหล่านี้ และแน่นอนที่สุด ก็เพื่อหวังขโมยข้อมูลส่วนตัวนั่นเอง
 
การหลอกลวงผู้ใหญ่ ในงานเต้นรำสวมหน้ากาก เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊คของชาวอินโดนีเซีย
เฟซบุ๊ค กลายเป็นเรื่องที่ฮิตมากในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับการจัดอันดับว่ามีจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊คมากเป็นอันดับสาม เมื่อมีผู้ใช้เยอะขึ้น ฟิชเชอร์ในประเทศอินโดฯ ก็ดูเหมือนว่าจะให้ความสนใจในการสร้างเว็บฟิชชิ่งปลอมเพื่อหลอกชาวอินโดฯ ด้วยกันเอง เมื่อเร็วๆ นี้ ไซแมนเทคสังเกตุเห็นว่ามีการปลอมเฟชบุ๊คสำหรับผู้ใหญ่โดยมุ่งเป้าที่ผู้ใช้ชาวอินโดนีเซีย เว็บฟิชชิ่งดังกล่าวโฮสต์อยู่บนบริการเว็บโฮสต์ติ้งฟรี
 
เว็บฟิชชิ่งนี้บอกว่ามีแอพพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูวิดีโออนาจารของเซเล็บชาวอินโดฯที่ดังมากได้ โดยอ้างว่าวิดีโอนี้ ได้มาจากการแอบถ่ายผ่านกล้องที่ซ่อนไว้ในห้องโรงแรม และเมื่อผู้ใช้หลวมตัวล็อกอินก็จะเข้าไปสู่หน้าแอพพลิเคชันปลอม และเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ก็จะมีการอ้างว่าแอพพลิเคชันนี้มาจากทีมงานที่ให้บริการของเฟซบุ๊ค ซึ่งในหน้าฟิชชิ่งก็จะมีการโชว์ภาพสไลด์ของเซเล็บชาวอินโดฯที่ว่า ซึ่งภาพจะให้ความรู้สึกว่าเป็นภาพสกรีนช็อตของวิดีโออนาจารที่อยู่ในแอพพลิเคชันปลอม  โดยมีภาพเคลื่อนไหวประเภทภาพอนาจารเป็นตัวล่อให้ผู้ใช้ติดกับ ซึ่งถ้ามองอีกแง่ก็คือ เว็บไซต์เฟซบุ๊คของจริงไม่มีแอพพลิเคชันสำหรับผู้ใหญ่ประเภทดังกล่าวอยู่แล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นการจัดฉากขึ้นเพื่อหวังขโมยข้อมูลนั่นเอง
 
ไซแมนเทคก็ได้มีการแจ้งเตือนไปยังเฟซบุ๊คถึงเรื่องดังกล่าว และเฟซบุ๊คก็ได้ทำการบล็อก URL เรียบร้อยแล้ว โดยเฟซบุ๊คดำเนินการบล็อกลิงก์ที่เชื่อมไปยังไซต์ที่โดนระบุว่าเป็นไซต์หลอกลวง (เช่น เว็บฟิชชิ่ง หรือเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์อยู่) ไม่ให้มีการแชร์การใช้งานร่วมกับเว็บไซต์ดังกล่าว และร่วมกับบุคคลที่สามเพื่อเอาไซต์เหล่านี้เข้าแบล็คลิสต์ประเภทเบราเซอร์ รวมถึงเอาออกไปจากบริการเว็บโฮสต์ติ้ง

View :2006