Home > Press/Release > เอชทีซีรุกหนักตั้งแต่ต้นปี เน้นสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ชื่นชอบ พร้อมขยายช่องทางการขาย แต่งตั้งซินเน็คตัวแทนจำหน่ายรายที่สอง

เอชทีซีรุกหนักตั้งแต่ต้นปี เน้นสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ชื่นชอบ พร้อมขยายช่องทางการขาย แต่งตั้งซินเน็คตัวแทนจำหน่ายรายที่สอง

เอชทีซี ผู้นำในการออกแบบสมาร์ทโฟน เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2554 เพื่อสร้างการเติบโต โดยเน้นใน 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย 1) เร่งสร้างประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้ใช้งาน 2) ขยายช่องทางจัดจำหน่ายและบริการหลังการขาย และ 3) ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือต่างๆ  
นายเควิน โฮห์ กรรมการผู้จัดการ เอชทีซี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของเอชทีซี ในปี 2554 เน้นย้ำใน 3 เรื่อง คือ
1)       เร่งสร้างประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้ใช้งาน: โดยเอชทีซี ยังคงสานต่อในการพัฒนายูสเซอร์อินเทอร์เฟซ Sense ที่เป็นความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ในการพัฒนาโปรดักส์ให้มีความน่าใช้งานมากขึ้น
2)       ขยายช่องทางจัดจำหน่ายและบริการหลังการขาย: เอชทีซีแต่งตั้งบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้เป็นดิสทริบิวเตอร์รายที่สองในการขยายตลาดให้ครอบคลุมจังหวัดต่างๆ มากขึ้น โดยที่ผ่านมาเอชทีซี จัดจำหน่ายผ่านบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นดิสทริบิวเตอร์รายเดียว พร้อมเน้นเรื่องคุณภาพของการบริการหลังการขายด้วยบริการ HTC Delivery และการอบรมการใช้งานที่มีมาโดยตลอด
3)       ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือต่างๆ: ด้วยการนำเสนอบริการรูปแบบใหม่และกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งานเป็นหลัก
 
นายเควิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความร่วมมือกับซินเน็ค ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญอีกครั้งหนึ่งของเอชทีซี ในการขยายตลาดให้ครอบคลุมต่อความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น ซินเน็คเป็นพาร์ตเนอร์ที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องช่องทางจัดจำหน่ายมาเป็นเวลานาน และเข้าใจต่อตลาดในประเทศ เอชทีซีคาดหวังว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยสร้างการเติบโตให้เอชทีซี และที่สำคัญคือ ให้ผู้ใช้ทั่วไปมีโอกาสทดลองใช้งานเอชทีซีได้ง่ายและสะดวกขึ้น ตามจุดหน้าร้านต่างๆ”
 
นายณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า สำหรับตลาดในประเทศไทย ในปีที่ผ่านมา เอชทีซี (ไทยแลนด์) ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของรายได้ และอัตราการรับรู้แบรนด์เอชทีซี โดยจากการสำรวจการรับรู้แบรนด์ (brand awareness) ของเอชทีซีในตลาดโลก อัตราการรับรู้แบรนด์เอชทีซีเติบโตขึ้นถึง 200 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในประเทศไทย จากการสำรวจ อัตราการรับรู้ของแบรนด์เอชทีซีในประเทศไทย เพิ่มขึ้นเป็น 54 เปอร์เซ็นต์ จากการสำรวจคนในช่วงอายุ 16-54 ปี และปีนี้ เอชทีซี สานต่อในการสร้างแบรนด์เอชทีซีให้เป็นแบรนด์ที่ผู้คนชื่นชอบ
นายณัฐวัชร์ กล่าวเพิ่มเติมถึงกลยุทธ์การสร้างการเติบโตในประเทศไทย จะเน้นใน 5 เรื่องหลัก ประกอบด้วย
1)       สร้างเอชทีซีแบรนด์ให้เป็นแบรนด์ที่ชื่นชอบ (Brand Preference): ปีนี้จะเป็นปีที่เอชทีซี มุ่งเน้นในการสร้างแบรนด์ให้เป็นแบรนด์ที่ผู้คนชื่นชอบ จากการพัฒนานวัตกรรมและบริการต่างๆ
2)       เพิ่มการสร้างประสบการณ์การใช้งานสู่ผู้ใช้โดยตรง : ให้ความมั่นใจกับผู้ซื้อก่อนตัดสินใจซื้อ ด้วยผู้ขายที่เชี่ยวชาญและมีความรู้จริง และเพิ่มเครื่องทดลองใช้ตามหน้าร้านต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถทดลองใช้งานมือถือเอชทีซี ณ จุดขาย ได้มากยิ่งขึ้น
3)       เน้นจำหน่ายเฉพาะรุ่นที่เป็นไฮไลต์ในแต่ละโปรดักส์ไลน์: ในแต่ละเซ็คเม้นท์ เอชทีซี วางแผนเปิดตัวจำนวนรุ่นน้อยลง เพื่อให้ระยะเวลาการโปรโมทของโปรดักส์ไลน์ในตลาดแต่ละรุ่นนานขึ้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างการสื่อสารการตลาดในแต่ละรุ่นให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
4)       ปรับขบวนการทำงานให้ดีขึ้น : เอชทีซี มุ่งเน้นในการพัฒนา ปรับปรุง ขบวนการ และขั้นตอนในการดำเนิงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพขึ้น
5)       เพิ่มบุคลากร : เอชทีซี วางแผนเพิ่มบุคลากร เพื่อตอบรับกับตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
 
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านธุรกิจจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า ซินเน็คฯ มีศักยภาพและความพร้อมในการขยายตลาดกลุ่มสมาร์ทโฟนเป็นอย่างดี เนื่องด้วยกลุ่มบริษัทในเครือซินเน็คมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจตลาดมือถือและสมาร์ทโฟน โดยซินเน็คในประเทศภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคมีสัดส่วนการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง เช่น ซินเน็คประเทศไต้หวัน เป็นต้น ซึ่งประสบการณ์และความเชี่ยวชาญดังกล่าวจะทำให้ซินเน็คประเทศไทยสามารถขยายธุรกิจด้านสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็ว
 นอกจากนี้ซินเน็ค ประเทศไทย จะร่วมมือกับเอชทีซีในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเข้าไปในช่องทางร้านขายอุปกรณ์ไอที ซึ่งซินเน็คฯ มีลูกค้าอยู่กว่า 5,000 ราย ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงการขายผ่านร้านค้าปลีกสินค้าไอที Cnex Shop ที่กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ทำให้ เอชทีซีที่จัดจำหน่ายโดยซินเน็คฯ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขวางขึ้น และประการสำคัญ บริษัทฯ มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค ทำให้สินค้าที่จัดจำหน่ายโดยซินเน็คสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินค้า เอชทีซีได้รับการตอบรับจากลูกค้าตามเป้าหมายที่วางไว้
“เรามั่นใจว่าการเป็นผู้แทนจำหน่ายเอชทีซีอย่างเป็นทางการ จะผลักดันให้สินค้ากลุ่มนี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้า และสามารถขยายส่วนแบ่งทางการตลาดให้เพิ่มขึ้นได้ จากปัจจัยหลักความต้องการสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนที่กำลังได้รับความนิยมจากลูกค้า เรายังได้เตรียมบุคลากรเพื่อรองรับการทำตลาดสมาร์ทโฟนซึ่งพร้อมด้วยประสบการณ์และความสามารถในการรุกตลาดสมาร์ทโฟนได้ทันทีอีกกว่า 30 คน และด้วยจำนวน 23 สาขาที่กระจายอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ   ผนวกกับความแข็งแกร่งด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีของซินเน็ค จะสามารถสนับสนุนให้การขยายตลาดสมาร์ทโฟนนั้นทำได้รวดเร็วขึ้น  โดยในปีแรกของการทำตลาดคาดว่าสินค้ากลุ่ม เอชทีซีจะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท” นายสุพันธุ์กล่าว

View :1360

Related Posts

Categories: Press/Release Tags: ,
  1. No comments yet.
  1. No trackbacks yet.
You must be logged in to post a comment.