Archive

Posts Tagged ‘ICT’

ก.ไอซีที ร่วมมือกับหัวเว่ยฯให้ความรู้ด้าน ICTแก่ประชาชนไทย

January 2nd, 2013 No comments

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ระหว่างกระทรวงไอซีทีกับบริษัท หัวเว่ยเทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด(Huawei Technology) ว่า “การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสนับสนุนและยกระดับการพัฒนาการเรียนรู้ และการศึกษาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในประเทศไทยซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อ 3.6.1ที่ระบุให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศโดยเร่งรัดพัฒนาโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงให้ครอบคลุม ทั่วถึง เพียงพอ มีคุณภาพ ด้วยราคาที่เหมาะสม และการแข่งขันที่เป็นธรรม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศไปสู่สังคมแห่งความรู้ภูมิปัญญา นวัตกรรม และ ความคิดสร้างสรรค์ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างสังคมเมืองและชนบทส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูลและข่าวสาร ยกระดับคุณภาพการศึกษา เพิ่มศักยภาพในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล รวมถึงการลดการใช้พลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการจะเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป และผู้ดูแลศูนย์การเรียนรู้ ชุมชนที่มีกระจายอยู่ทุกภาคของประเทศไทย ในการแสวงหาประสบการณ์โดยตรงจากการปฏิบัติงานในสถานที่จริง ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ด้านICTทัดเทียมกับประเทศภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก

ทั้งนี้ บจ. จะให้การสนับสนุนความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารแก่กระทรวงไอซีที ในหลายมิติด้วยกัน อาทิ จัดการบรรยายทางวิชาการ ฝึกทดลองงาน ฝึกอบรม สัมมนาเชิงปฏิบัติ และกิจกรรมทางวิชาการอื่นเป็นระยะเวลารวมทั้งสิ้น 2,000 ชั่วโมงผ่านสถาบันการศึกษาหรือศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน รวมทั้งการจัดหาผู้บรรยาย เอกสารประกอบการบรรยายและสื่อการเรียนการสอน พร้อมประกาศนียบัตรให้กับนักเรียนที่สำเร็จการฝึกอบรมตามโครงการโดยกระทรวงไอซีทีจะให้ความช่วยเหลือเรื่องการประสานงานรวมถึงจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นให้กับ บจ. ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะมีระยะเวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น 4 ปี

สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว ไม่เพียงแต่ยืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันในการที่จะส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงาน ให้ประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของประเทศไทยให้มีทักษะ ความรู้ และความสามารถทางวิชาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่การยกระดับคุณภาพชีวิตอีกด้วยนาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว

View :1538

ก.ไอซีที เดินหน้าส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs ICT ไทย

November 15th, 2012 No comments


นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ปัจจุบัน GDP ของประเทศไทยส่วนใหญ่มาจากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ โดยประเทศไทยมีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กรวมแล้วกว่า 2 ล้านราย มีการจ้างแรงงานกว่า 8 ล้านคน และผู้ประกอบการไอซีทีของประเทศมีมากกว่า 3,000 ราย เป็นผู้ประกอบการไอซีทีขนาดกลางและขนาดเล็กกว่า 96%ซึ่งมูลค่าของอุตสาหกรรมไอซีทีในประเทศไทยมีมูลค่าเกือบล้านล้านบาท ส่วนใหญ่มูลค่านั้นจะเป็นอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจากผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งสิ้น แต่เมื่อมองปัญหาในปัจจุบันของอุตสาหกรรมไอซีทีที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมโทรคมนาคม ประกอบกับจากการที่กระทรวงฯ ได้มีศึกษาความต้องการของผู้ประกอบการในด้านการลงทุน และสถาบันทางการเงินในเรื่องหลักเกณฑ์และแนวทางในการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม () พบว่าผู้ประกอบการไอซีทีที่มีขนาดกลางและขนาดเล็ก ประสบปัญหาที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาอุตสาหกรรม ได้แก่ ปัญหาด้านแหล่งเงินทุนที่เป็นปัญหาสำคัญที่สุด รองลงมาเป็นเรื่องการตลาด และท้ายสุดที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ คือ ปัญหาบุคลากรที่ไม่มีคุณภาพ

นอกจากนั้น ด้านสถานภาพทางการเงิน พบว่าจำนวนผู้ประกอบการที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบยังมีไม่มาก เนื่องจากสถาบันการเงินได้มองอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ไม่มีหลักทรัพย์ในการค้ำประกันและไม่มีการรับประกันความมั่นคงของการดำเนินธุรกิจ จึงเป็นเรื่องยากมากที่สถาบันการเงินจะปล่อยสินเชื่อให้ อีกทั้งผู้ประกอบการยังขาดความรู้ด้านธุรกิจ การเขียนแผนธุรกิจ การทำการตลาดที่เป็นรูปธรรม ซึ่งกระทรวงฯ ได้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้มีการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการลงทุนและพัฒนาธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไอซีทีไทยสู่สากล กิจกรรมส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการเทคโนโลยีสารสนเทศขนาดกลางและขนาดย่อม และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 โดยกระทรวงฯ จะให้การสนับสนุนอย่างจริงจังในการพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีสารสนเทศขนาดกลางและขนาดย่อมให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้อย่างกว้างขวาง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ต่อไป

View :1222

ก.ไอซีที ร่วมประชุม ICT Summit ในงาน World Economic Forum on East Asia 2012

May 31st, 2012 No comments

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นประธานการประชุมสุดยอดด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( Summit) ภายใต้การประชุม World Economic Forum on East Asia ปี 2555 ว่า ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม World Economic Forum on East Asia (WEFEA) ปี 2555 ขึ้น ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2555 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เป็นเวทีการประชุมนานาชาติของผู้นำระดับสูงทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ และสื่อมวลชน จำนวนประมาณ 500 คน รวมทั้งให้เป็นเวทีที่มีอิทธิพลต่อการชี้นำทิศทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลก

“การประชุมฯ ครั้งนี้ได้กำหนดหัวข้อหลักเอาไว้ คือ “Shaping the Region’s Future through Connectivity” โดยในวันแรก เป็นการจัดการประชุมแบบ Private Session ใน 5 หัวข้อหลัก ได้แก่ การประชุมสุดยอดด้านการท่องเที่ยว (Tourism Summit) การประชุมสุดยอดด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT Summit) การประชุมด้านสุขภาพ (Healthcare) การประชุมด้านเกษตรกรรม (Agriculture) และการประชุมด้านพลังงาน (Energy) ซึ่งกระทรวงไอซีที มีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนของการประชุม ICT Summit” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว

สำหรับการประชุมในส่วนนี้แบ่งออกเป็น 3 Sessions คือ Session I : The Power of Data to Fuel Technological, Social and Economic Innovations Session II : Connectivity for Growth : Digital and Physical และ Session III : Partnering for Cyber Resilience : Individual Action, Collective Good โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทำหน้าที่เป็นประธานร่วม (Co-Chair) กับ Mr. Masami Yamamoto, President and Representative Director, Fujitsu, จากญี่ปุ่น โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทางด้าน ICT ซึ่งได้รับเชิญจาก World Economic Forum (WEF) เข้าร่วมการประชุม

“นอกจากการจัดประชุม World Economic Forum on East Asia ดังกล่าว ตามพันธกรณีที่ประเทศไทยมีกับ WEF แล้ว นายกรัฐมนตรี ยังได้มีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมเสริมเพื่อเพิ่มพูนผลประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ เช่น การจัดเลี้ยงผู้เข้าร่วมงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนรายสาขา/ อุตสาหกรรม การจัดทำแผ่นพับข้อมูลต่างๆ ของประเทศไทย การตั้งซุ้มข้อมูล และแพคเกจการท่องเที่ยวต่างๆ เป็นต้น โดยในส่วนของกระทรวงไอซีที ได้จัด ให้มีกิจกรรมเสริม คือ การจัดเลี้ยงอาหารค่ำ “ICT Networking Dinner” รับรองผู้เข้าร่วมงาน ในวันพุธที่ 30 พฤษภาคม 2555 ณ โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพมหานคร” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว

งาน “ICT Networking Dinner” นี้ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นประธาน โดยจัดขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการด้าน ICT ที่เข้าร่วมการประชุม ICT Summit จากต่างประเทศได้มีโอกาสพบปะและทำความรู้จักกับผู้ประกอบการด้าน ICT ไทย ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้สร้างเครือข่ายทางธุรกิจกับผู้ประกอบการ ICT ชั้นนำจากต่างประเทศ และสร้างโอกาสในด้านการลงทุน รวมทั้งสนับสนุนการท่องเที่ยว สร้างความมั่นใจ ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย

View :1585

ก.ไอซีที เดินหน้าติดตามประเมินผลงาน 279 ศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน

September 8th, 2010 No comments

นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา เชิงปฏิบัติการ Focus Group เรื่อง “กรอบแนวคิดในการประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้ ชุมชน” ภายใต้โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ชุมชน ว่า กระทรวงไอซีที ได้ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ชุมชน เพื่อติดตั้งศูนย์คอมพิวเตอร์พร้อมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงตามสถานที่ต่างๆ ในชุมชนที่มีความพร้อมและเหมาะสม ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่รัฐบาลได้วางไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้มีการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้าน รองรับการพัฒนาประเทศ

“โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนนี้ นอกจากจะมุ่งลดช่องว่างระหว่างสังคมเมือง และสังคมชนบทแล้ว ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงสารสนเทศให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น สร้างแหล่งเรียนรู้ด้าน ICT และสืบค้นสารสนเทศ พัฒนาศูนย์ฝึกอบรมด้าน ICT รวมถึงการสร้างห้องเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต พร้อมกันนี้ยังเป็นแหล่งรับบริการข้อมูลข่าวสาร และบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ ตลอดจนสร้างโอกาสทางการตลาดแก่สินค้าและอาชีพของชุมชน” นายสือ กล่าว

โดยกระทรวงฯ ได้เริ่มดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2550 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันสามารถดำเนินการจัดตั้งแล้วเสร็จ จำนวน 279 แห่ง ใน 268 อำเภอ ครบทั้ง 76 จังหวัด โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ปีงบประมาณ 2550 จัดตั้งได้ 20 ศูนย์ ปีงบประมาณ 2551 จัดตั้งได้ 40 ศูนย์ ปีงบประมาณ 2552 จัดตั้งได้อีก 219 ศูนย์ และปีงบประมาณ 2553 อยู่ระหว่างจัดตั้งเพิ่มอีก 600 ศูนย์ ให้กระจายตัวออกไปในระดับอำเภอทั่วประเทศ และเพื่อให้การดำเนินงานพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนของประเทศไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีทิศทางการดำเนินงานที่สอดคล้อง และมีรูปแบบเดียวกันในทุกศูนย์ที่ได้รับการจัดตั้ง รวมถึงมีการพัฒนารูปแบบการดำเนินโครงการฯ ไปในทิศทางที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน กระทรวงฯ จึงได้ร่วมกับสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำเนินงานติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนแต่ละศูนย์ เพื่อปรับปรุงและพัฒนากระบวนการดำเนินโครงการฯ ให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้

“การกำกับ ดูแล ติดตาม และประเมินผลการบริหารจัดการศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทบทวนสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วว่า คุ้มค่า เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติเพียงใด รวมทั้งแนวทางการพัฒนาต่อยอดให้ศูนย์ฯ สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ และสามารถพึ่งตัวเองควรเป็นอย่างไร ดังนั้น กระทรวงฯ จึงได้จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ Focus Group เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนถึงผลการดำเนินงานของศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนที่ผ่านมา ตลอดจนการเสนอแนะแนวทางการพัฒนาศูนย์ฯ การแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อประมวลข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับ มาใช้ประกอบในการจัดทำกรอบแนวความคิดในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ

โดยการจัดสัมมนาในครั้งนี้กระทรวงฯ ได้เชิญผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ศูนย์จำนวน 30 คน ผู้ใช้บริการศูนย์ 30 คน ผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง อีกประมาณ 15 คน รวมทั้งสิ้น 75 คนเข้าร่วมสัมมนา ซึ่งกระทรวงฯ หวังว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการฯ อย่างใกล้ชิดทุกคน จะได้ใช้เวทีนี้ในการแสดงความคิดเห็นและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา วิเคราะห์ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ ทั้งที่จัดตั้งแล้ว และที่กำลังจะจัดตั้งตามเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป” นายสือ กล่าว

View :1508
Categories: Press/Release Tags: ,