Archive

Author Archive

เว็ลธ์ เปิดตัว WealthMagik เว็บไซต์บริการการเงินส่วนบุคคล รับเทรนด์ใหม่ของโลกออนไลน์

April 5th, 2012 No comments

เผยนำซอฟต์แวร์หลักล้านเปิดให้ใช้ฟรี เชื่อมีคนเข้าใช้กว่าแสนในห้าปี ชูจุดเด่นเชื่อมต่อทุกสถาบันการเงินการลงทุน พร้อมระบบจำลองการลงทุน

คุณสมเกียรติ ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เว็ลธ์ แมเนจเม้นท์ ซิสเท็ม หรือ Wealth เปิดเผยว่า จากแนวโน้มใหม่ของคนไทยที่เริ่มทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้จัดทำเว็บแอพพลิเคชันที่มาช่วยบริหารจัดการด้านการเงินส่วนบุคคลสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ ทำให้ Wealth ได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำซอฟต์แวร์บริหารการเงินของสถาบันการเงินสำคัญๆ หลายที่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาสร้างเป็นเว็บไซต์ www..com ขึ้น ซึ่งถือเป็นรายแรกที่เน้นเฉพาะคนไทย และมีบริการทางด้านการเงินอย่างครบครัน

กลุ่มเป้าหมายของ WealthMagik คือ กลุ่มนักลงทุนอายุตั้งแต่ 25-55 ปี ที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการหาข้อมูลการลงทุน และลงทุนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ต่อจากนั้นจะขยายการรับรู้ไปยังกลุ่มใหม่ๆ โดยคาดว่าจะมีสมาชิกเข้ามาใช้ระบบประมาณ 1 แสนรายภายใน 5 ปี
จุดเด่นของ WealthMagik คือ การที่ Wealth ได้นำประสบการณ์ ข้อมูลและโปรแกรมการวางแผนทางด้าน Private Wealth Management ของสถาบันการเงินและหน่วยลงทุนต่างๆ มาไว้อย่างครบถ้วนถูกต้อง โดยมีการจัดระบบให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งง่ายต่อการวางแผนและทำให้ผู้เข้ามาใช้งานสามารถเข้าใจภาพรวมและกำหนดทิศทางเรื่องการวางแผนการใช้เงินและการลงทุนได้ในคราวเดียวกัน ที่สำคัญคือผู้ใช้งานสามารถจำลองการลงทุนก่อนการตัดสินใจจริงได้

“WealthMagik เป็นสิ่งที่ Wealth ต้องการมอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคม ประการแรกคือไม่มีการคิดค่าบริการ ประการที่สองคนไทยจะได้รู้เรื่องการบริหารการเงินและการลงทุนส่วนบุคคลได้ตามนโยบายของหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. ประการที่สามตอบสนองวัฒนธรรมองค์กรของ Wealth คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ซึ่งเน้นการให้ความรู้กลับคืนสู่สังคม” คุณสมเกียรติกล่าว

รูปแบบการนำเสนอของ WealthMagik จะเน้นการใช้งานที่ง่าย โดยพัฒนาในรูปแบบของ Private Wealth Online ซึ่งเน้นขั้นตอนการลงทุนที่ถูกต้องแต่เข้าใจได้ง่าย ออกแบบให้ดูสบายตาเป็นกันเอง แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยข้อมูลการลงทุนที่เป็นกลาง ด้วยระบบการทำงานเบื้องหลังจากซอฟต์แวร์ทางการเงินที่มีมูลค่าหลายสิบล้านบาท โดยในช่วงแรกภายในเว็บไซด์จะมี 4 กลุ่มหลักของการใช้งานที่จะช่วยนักลงทุนในการตัดสินใจ คือ My IOS, My Plan, My Screener และ My SimPort

สำหรับ My IOS หรือ Investment Objective Setting ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแนวคิดว่านักลงทุนแต่ละคนสามารถรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน นักลงทุนบางคนอาจรับความเสี่ยงได้มากและสามารถลงทุนได้ภายใต้ความผันผวนของตลาด แต่บางคนยอมรับความเสี่ยงได้น้อย ต้องการผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ทาง Wealth จึงได้พัฒนาระบบ My IOS เพื่อประเมินระดับการยอมรับความเสี่ยง และแนะนำสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของผู้ใช้งาน

ส่วน My Plan นั้นทาง Wealth ได้วิเคราะห์แล้วว่าคนส่วนใหญ่ต้องการความมั่นคงในชีวิต การวางแผนทางการเงินจึงมีความจำเป็น My Plan จะเป็นตัวช่วยสำคัญให้กับผู้ใช้งาน ที่ต้องการวางแผนการลงทุนด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น แผนการออมเงิน, การซื้อบ้าน, การศึกษาบุตร, เพื่อการเกษียณ รวมถึงแผนสำหรับลดหย่อนภาษี และหากแผนการลงทุนที่กำหนดไว้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ระบบ My Plan ก็จะแนะนำแผนอื่นๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบรรลุเป้าหมายได้

อีกจุดหนึ่งที่ทำให้การวางแผนด้านการเงินของผู้ใช้งานง่ายก็คือ My Screener ผู้ใช้งานที่ต้องการหากองทุนที่ตรงใจ และสอดคล้องกับเงื่อนไขที่ผู้ใชงานเป็นผู้กำหนด My Screener จะเข้ามาดูแลในส่วนนี้ ด้วยการนำเสนอรูปแบบที่เน้นความง่าย และสะดวกในการค้นหา ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไข และจัดเรียงลำดับความต้องการได้เอง อีกทั้งยังเพิ่มอำนาจการตัดสินใจให้กับผู้ใช้งานโดยสามารถคัดกรองกองทุนที่น่าสนใจด้วยเงื่อนไขที่มากกว่าเดิม และสามารถเข้าไปดูข้อมูลโดยละเอียดของกองทุนนั้นๆ ได้ทันที

ส่วนสุดท้ายคือ My SimPort หรือ Simulation Portfolio ถือเป็นจุดสำคัญของการใช้งานในระบบนี้ ผู้ใช้งานที่เป็นผู้เริ่มต้นลงทุน หรือผู้มีแผนที่จะลงทุนในอนาคต ทางระบบนี้จะจำลองพอร์ตการลงทุนให้ทดลอง ซื้อ-ขาย ตามราคาซื้อขายจริงของตลาด เพื่อเป็นการทดสอบ หรือหาแนวทางการลงทุนที่เหมาะสม และสามารถนำมาวิเคราะห์หาประสิทธิภาพในการลงทุนของตัวนักลงทุนได้
แผนงานเร่งด่วนของ WealthMagik คือการเปิดตัวแอพพลิเคชันที่ใช้งานกับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต โดยระบบโปรแกรมจะมุ่งเน้นผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยทางอิเล็กทรอนิกซ์ SSL ที่รับรองโดย VeriSign ซึ่งเป็นที่ยอมรับของธนาคารชั้นนำ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงเข้าไปสู่ธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ได้โดยทันที

ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือซอฟต์แวร์พาร์ค เปิดเผยว่า แนวโน้มด้านแอพพลิเคชันการเงินส่วนบุคคลบนอินเทอร์เน็ต ถือเป็น life style แบบใหม่ของยุคนี้ เนื่องจากคนเริ่มมั่นใจระบบว่ามีความปลอดภัยสูง และระบบนี้ให้ความสะดวกสบายในการจัดการอย่างมาก อย่างไรก็ตามผู้ที่จะสร้างแอพพลิเคชันออนไลน์เช่นนี้ต้องมีประสบการณ์และต้องนำองค์ความรู้ที่จากเดิมเคยนำเสนอองค์กรใหญ่ๆ และสร้างรายได้จำนวนมหาศาลมาปรับระบบให้กับผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้อย่างไม่คิดมูลค่า การคิดในเชิงธุรกิจต้องเปิดใจกว้างก่อนแล้วรายได้จึงจะตามเข้ามา

ในส่วนของซอฟต์แวร์พาร์คนั้นเห็นว่าโอกาสที่ซอฟต์แวร์ไทยที่ได้รับการยอมรับจากวงการการเงินการลงทุนอยู่แล้วจะเข้าสู่ระดับ Mass หรือตลาดแนวกว้างนั้น มีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่มีศักยภาพ เช่น บริษัทเว็ลธ์ แมเนจเม้นท์ ซิสเท็ม จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนามาตรฐานซอฟแวร์ CMMI ระดับ 5 และเป็นตลาดเปิดที่ต่างประเทศไม่สามารถเจาะเข้ามาได้ เนื่องจากตลาดการเงินของแต่ละประเทศก็มีระเบียบและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเงิน การคลังหรือระบบภาษี ดังนั้นซอฟต์แวร์พาร์คจึงต้องการส่งเสริมอย่างยิ่งให้มีซอฟต์แวร์ของคนไทยเพื่อมารองรับกฎระเบียบและพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยโดยเฉพาะ

View :1614

ดี-ลิงค์ รุกทำตลาดคลาวด์ เปิดตัวกล้องไอพี คลาวด์แคม สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอี

April 5th, 2012 No comments


ดี-ลิงค์ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้นำด้านเทคโนโลยีอุปกรณ์เครือข่าย เปิดตัวคลาวด์แคม (CloudCam) กล้องไอพี ที่ทำงานผ่าน “มายดีลิงค์ คลาวด์ เซอร์วิส” โซลูชั่นบนเครือข่ายคลาวด์ของดี-ลิงค์ สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กและกลาง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจดูเหตุการณ์ต่างๆ จากจุดติดตั้ง ได้อย่างง่ายดาย ทุกที่ทุกเวลา คลาวด์แคมที่เปิดตัวครั้งนี้ ได้แก่ DCS-930L กล้องไอพีพื้นฐาน ดิจิตอลซูม 4 เท่า พร้อมไมโครโฟนในตัว ราคา 2,300 บาท DCS-932L กล้องไอพีที่เพิ่ม LED อินฟราเรด สามารถดูภาพในเวลากลางคืนได้ไกลถึง 5 เมตร ราคา 3,200 บาท DCS-942L กล้องไอพีแบบ LED อินฟราเรด สามารถทำการสนทนาโต้ตอบแบบ 2 ทิศทาง และมีเซ็นเซอร์ PIR (Passive Infrared Sensor) สำหรับตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ราคา 5,000 บาท DCS-1130L กล้องบันทึกวิดีโอลงในอุปกรณ์จัดเก็บบนเครือข่าย ประเภท NAS ได้โดยตรง ราคา 4,399 บาท และ DCS-5230L กล้องไอพีติดตั้ง LED อินฟราเรด รองรับการสนทนาแบบ 2 ทิศทาง เซ็นเซอร์ PIR และยังหมุนจับภาพได้รอบทิศ ราคา 9,950 บาท

View :1669
Categories: Press/Release Tags:

“คิงส์ตัน” เปิดตัว MobileLite G3 การ์ดรีดเดอร์เทคโนโลยี USB 3.0 อุปกรณ์พกพาเพื่อการถ่ายโอนข้อมูลได้ทุกเมื่อแม้ขณะเดินทาง

April 5th, 2012 No comments

5 เมษายน 2555 – คิงส์ตัน เทคโนโลยี ผู้ผลิตและพัฒนาหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก เปิดตัว MobileLite G3(Kingstonpart number: FCR-MLG3)การ์ดรีดเดอร์แบบพกพาเจนเนอเรชั่นที่สามในซีรีส์ MobileLite โดดเด่นด้วยฟีเจอร์Plug and Play ฟังก์ชั่นจ่ายไฟในตัวโดยไม่ต้องอาศัยแหล่งพลังงานภายนอกและรองรับ USB 3.0 ภายใต้ขนาดกะทัดรัดเพื่อความคล่องตัวในการพกพาสำหรับทั้งผู้ใช้ทั่วไปและระดับมืออาชีพ ให้ผู้ใช้ถ่ายโอนข้อมูลดิจิตอล ภาพถ่าย เกมส์ เพลงและไฟล์ทุกประเภทได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการ


MobileLite G3 รองรับการ์ดหลากหลายฟอร์แมตทั้ง SD/SDHC/SDXC, microSD/SDHC/SDXC และ MSPD*ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บ ถ่ายโอนและอ่านข้อมูลต่างๆ จากแฟลชการ์ดหลากหลายรูปแบบทั้งสำหรับโทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล แท็บเลต เน็ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่น MP3 และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ด้วยการ์ดรีดเดอร์เพียงตัวเดียว โดย MobileLite G3 ใช้งานได้กับทั้ง USB 3.0 และ USB 2.0รวมถึงมาตรฐาน SDA 3.01

MobileLiteG3 รับประกันสองปีพร้อมบริการสนับสนุนด้านเทคนิคฟรี! ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่www.kingston.com/th

คุณสมบัติและข้อมูลจำเพาะของMobileLite G3
· ใช้งานได้กับ USB 3.0 และมาตรฐาน SDA 3.01
· ฟังก์ชั่นหลากหลายเพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน
· รองรับการ์ดฟอร์แมต SD/SDHC/SDXC, microSD/SDHC/SDXC และ MSPD*
· ใช้งานได้กับ USB 2.0
· ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก
· รับประกันสองปี
· ขนาด: 2.45 x 1.16 x 0.646นิ้ว (62.15 x 29.40 x 16.40มิลลิเมตร)
· อุณหภูมิในการใช้งาน: 32°F – 140°F (0°C – 60°C)
· อุณหภูมิในการจัดเก็บ: 4°F – 158°F (-20°C – 70°C)

View :2012

การประชุม 1st ASEAN CIO Forum 2012 ครั้งแรกในไทย

April 5th, 2012 No comments

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ร่วมกับ The Authority for Info-communications Technology Industry (AITI) ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และสมาคมซีไอโอ 16 (CIO16) แห่งประเทศไทย ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงาน การประชุมผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ CIO ของอาเซียนครั้งที่ 1 ประจำปี 2555 ในประเทศไทย (1st ) ระหว่างวันที่ 19 – 20 เมษายน 2555 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ

ภายในงานมีห้วข้อในการประชุมที่น่าสนใจมากมายอาทิ ระบบการประมวลผลแบบคลาวด์ และการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ การรวมระบบเครือข่าย ระบบมือถือ การสื่อสาร และผู้ให้บริการด้านเนื้อหา ระบบการรักษาความปลอดภัยสำหรับโลกไซเบอร์ การตรวจสอบพิสูจน์ทางไซเบอร์ และการสร้างมาตรฐานด้านธรรมาภิบาล ความเสี่ยง และการปฏิบัติตามระเบียบ (Governance, Risk and Compliance : GRC) สำหรับอาเซียน การเรียนรู้เพื่อปรับปรุงการใช้ ICT ช่วยจัดการวิกฤตการณ์จากสึนามิ น้ำท่วมใหญ่ในไทย และ หรือการใช้ไอซีที เพื่อความสมานฉันท์ของคนต่างเชื้อชาติภายในประเทศ เป็นต้น ตลอดจนนิทรรศการที่จัดแสดงเทคโนโลยีรวมทั้งโซลูชั่นใหม่ล่าสุด เพื่อใช้จัดการกับความท้าทายทางธุรกิจ ภัยคุกคาม และบริการต่างๆ ตามต้องการ (on demand)

พร้อมกันนี้ยังมีการอภิปรายแบบกลุ่มจากมุมมองของผู้รู้จริงในแต่ละประเทศ ที่เปิดกว้างสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุมฯ ภายใต้จุดมุ่งหมายเพื่อการสร้างความร่วมมือระหว่างกันในอาเซียน และเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเพิ่มความเชี่ยวชาญ ความปราดเปรื่อง และความคล่องแคล่วของซีไอโอหรือสิ่งที่ CIO จะต้องเป็นให้ได้ภายในปี 2558
สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ http://www.aseancioforum.com/

View :1281

ทรู ดิจิตอล พลัส ผนึก เอซุส ท้าเกมเมอร์ชาวไทย ประลองยุทธ์ออนไลน์เวที “GG E-Sports Champion League 2012 Powered By ASUS”

April 5th, 2012 No comments


ชิงรางวัลกว่า 3 ล้านบาท มุ่งยกระดับนักกีฬา E-Sport ให้พร้อมแข่งในระดับสากล

5 เมษายน 2555: ผู้นำเกมออนไลน์ของไทย จับมือ เปิดเวทีประลองยุทธ์ครั้งยิ่งใหญ่ ให้เหล่า เกมเมอร์ ประชันฝีมือใน 5 เกมออนไลน์สุดฮิต Special Force, FIFA Online 2, Magic World 2 Online, M Fighter และ Battery Online ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท พร้อมเชิญชวนเกมเมอร์ขั้นเทพทั่วประเทศตั้งสโมสรส่งทีมท้าชิง ตั้งเป้าปีแรกเกิดสโมสรใหม่กว่า 300 ค่าย มั่นใจยกระดับ E- Sport ไทยเทียบเท่าสากล

นายมานะ ประภากมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู ดิจิตอล พลัส จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มุ่งสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเหล่าเกมเมอร์ และเสริมศักยภาพนักกีฬา E-Sport ไทย ล่าสุดร่วมกับ เอซุส จัดแข่งขัน “GG E-Sports Champion League 2012 Powered By ASUS” ให้เหล่าสาวกเกมออนไลน์ได้โชว์ความสามารถ เพื่อเตรียมหาสุดยอดนักกีฬาเกมออนไลน์ตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันเกมออนไลน์ระดับสากลในอนาคตต่อไป และถือเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่ได้รวมเอาเกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมาให้ร่วมแข่งขันบนเวทีเดียวกันมากที่สุดถึง 5 เกม ได้แก่ Special Force, FIFA Online 2, Magic World 2 Online, M Fighter และ Battery Online ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท มั่นใจมีคอเกมชาวไทยสนใจร่วมชิงชัยมากถึง 300 สโมสร และมีผู้เล่นเกมออนไลน์เพิ่มอีก 300,000 ไอดี

สำหรับระยะเวลาการแข่งขันเก็บคะแนน GG E-Sports Champion League 2012 Powered By ASUS จะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 5 เมษายน ถึงเดือนตุลาคมนี้ เมื่อจบฤดูกาลแข่งขันสโมสรที่มีคะแนนรวมสูงสุดนอกจากจะได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ถ้วยเกียรติยศ เงินรางวัลในระบบออนไลน์มูลค่า 1,000,000 DE ตราเกียรติยศที่ถูกออกแบบพิเศษที่จะประทับลงบนหน้าเว็บเพจสโมสรนั้นๆ สำหรับเกมเมอร์ที่สนใจสร้างสโมสรเข้าท้าชิงสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ HTTP://ESPORT.GG.IN.TH

นายมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเฟ่นแพลทฟอร์ม บริษัท คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “เอซุส ได้ให้การสนับสนุนการแข่งขัน GG E-Sports Champion League 2012 Powered By ASUS นี้ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด อาทิ คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ ชิพกราฟิก ที่ให้พลังขับเคลื่อนที่เร็วและแรง เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับคอเกมโดยเฉพาะ ซึ่งตรงกับปณิธานของ เอซุสที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจและตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างไม่หยุดนิ่ง เชื่อมั่นว่าการร่วมมือครั้งนี้เป็นการแสดงถึงประสิทธิภาพทางเทคโนโลยีของเอซุส และระบบ GG E-Sport Club ที่จะมีส่วนทำให้รูปแบบการบริหารจัดการแข่งขัน E-Sport ของไทยพัฒนาจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนในการเล่นเกมอย่างสร้างสรรค์และก่อให้เกิดประโยชน์กับตนเองและสังคมในที่สุด”

“ทรู ดิจิตอล พลัส เชื่อมั่นว่าการแข่งขันกีฬาออนไลน์ครั้งนี้ จะสามารถพัฒนาศักยภาพนักกีฬา E-Sport ของไทยให้มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น และถือเป็นเกมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 2012 พร้อมยกระดับการแข่งขันกีฬาเกมออนไลน์ E-Sport ให้เทียบเท่าระดับสากล” นายมานะ กล่าวสรุป

View :1704

โปรแกรม I Love Library version 3.1 นวัตกรรมในการสร้าง E-book ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีได้ที่ www.ilovelibrary.com

April 5th, 2012 No comments


โปรแกรม I Love Library version 3.1 สุดยอดนวัตกรรมในการสร้าง E-book ที่ง่ายและทันสมัยที่สุดในเวลานี้ ออกแบบ และสร้างสรรค์โดย บริษัท โอเพ่นเซิร์ฟ จำกัด ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถรองรับอุปกรณ์ Tablet ที่ออกมาจากค่ายต่างๆได้ โดยเพิ่มความสะดวกจาก version เดิม ที่นอกจากจะพัฒนา E-book ได้ง่ายดายแล้ว การสร้างหนังสือ E-book เพียงครั้งเดียวยังรองรับการอ่านบนอุปกรณ์ได้หลาย Platform ไม่ว่าจะเป็น IPAD, Android, Windows โดยไม่ต้องเสียเวลาสร้างใหม่ และที่สำคัญที่สุดคือ เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจุดแข็งของโปรแกรมนี้คือ โหลดฟรี สร้างง่าย อ่านได้หลายแพลทฟอร์ม ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีได้ที่ www.ilovelibrary.com และกด Like ใน Fanpage ของ ILovelibrary ใน Facebook เพื่อนำโปรแกรมไปทำการสร้าง E-book ได้ง่ายๆด้วยตัวเองในเวลาเพียงแค่ 30 นาที

View :3063

Gview PowerSupply 80 Plus โฉมใหม่ แบรนด์แรกของไทยมาตรฐานอเมริกา

April 5th, 2012 No comments

บริษัท หัวเหลียน คอมพิวเตอร์ จำกัด ผู้จำหน่ายพีซี เคสซิ่ง พาวเวอร์ซัพพลาย และอุปกรณ์เกมเมอร์คุณภาพ ภายใต้แบรนด์ ”Gview” (จีวิว) และ “Gentec” (เจนเทค) ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ พาวเวอร์ซัพพลายโฉมใหม่ 7 รุ่น ขนาด 300 – 1,000 วัตต์ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา ตอบสนองความต้องการทุกระดับช่วยประหยัดไฟ-พลังงาน ลดความร้อนในเครื่องคอมพิวเตอร์และยังช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย โดยบรรจุอยู่ในแพ็กเกจที่ออกแบบขึ้นมาพิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งมีความหรูหรา แข็งแรงทนทานและไม่ซ้ำใคร สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที http://www.hualian.co.th

View :1996

ออโตเดสก์ให้ลิขสิทธิ์นักพัฒนาเกมใช้ Autodesk Gameware พัฒนานินเทนโดรุ่นใหม่

April 5th, 2012 No comments

ในงานสัมมนานักพัฒนาเกมออโตเดสก์ได้มอบลิขสิทธิ์ในการใช้เทคโนโลยี แก่ (Nintendo) ในการพัฒนาเครื่องเล่นนิเทนโดสำหรับแพลตฟอร์มที่รุ่นใหม่ของ Wii U และช่วยสร้างความแตกต่างให้กับเครื่องเล่นนินเทนโดรุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายในปลายปีนี้

ภายใต้ข้อตกลงนี้ออโตเดสก์มอบลิขสิทธิ์ให้นักพัฒนาเกม Wii U ใช้เทคโนโลยี Autodesk Gameware จากออโตเดสก์ถึง 3 เทคโนโลยีด้วยกันเพื่อนำมาพัฒนาเกมขั้นสุดยอดนี้ ได้แก่ Autodesk Scaleform ตัวกลางในการพัฒนายูสเซอร์อินเตอร์เฟซ, Autodesk Kynapse ตัวกลางสำหรับปัญญาประดิษฐ์ และ Autodesk HumanIK ตัวกลางสำหรับการจัดการการโต้ตอบของตัวละครแบบเคลื่อนไหวได้

สายผลิตภัณฑ์ Autodesk Gameware ของออโตเดสก์ประกอบไปด้วยโซลูชั่นโซลูชั่นพัฒนาเกมที่ใช้ทดสอบผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ทดสอบอย่างน้อย 1,000เกมส์ต่อวัน เทคโนโลยีนี้ช่วยนักพัฒนาเกมเพิ่มมูลค่าให้กับการผลิตในขณะเดียวกันลดระยะเวลาการพัฒนาให้สั้นลง ทำให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างเกมที่น่าสนใจเพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภค

“เทคโนโลยี Autodesk Gameware นี้ถูกใช้โดยทีมนักพัฒนาชั้นยอดในอุตสาหกรรมและเป็นที่ยอมรับในวงการ โดยความสัมพันธ์ของเรากับบริษัทหลักอย่าง นินเทนโดนี้เราสามารถนำโซลูชั่นของเราเข้าไปช่วยนักพัฒนาเกมได้มากขึ้น” กล่าวโดย มาร์ค เปติ ประธานอาวุโสของออโตเดสก์มีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ “การนำ Autodesk Gameware มาใช้ข่วยปรับปรุงกระบวนการผลิต ทำให้สามารถใช้ทรัพยากรต่างๆ สำหรับนวัตกรรมในด้านใหม่ๆ ได้มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงในการพัฒนานี้จะช่วยให้เราสร้างสรรค์ยุคใหม่ให้น่าสนใจกว่าสิ่งที่ผ่านๆ มา”

View :1706

“มนต์ธีร์ วุฒิรงค์” ขึ้นแท่นผู้บริหารกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์มของเอซุส พร้อมเผยผลประกอบการและกลยุทธ์ด้านการตลาดปี 2555

April 5th, 2012 No comments

บริษัท คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการผลิตและพัฒนามาเธอร์บอร์ดชั้นนำระดับโลกและผู้นำยอดขายอันดับ 1 ประกาศการเลื่อนตำแหน่งของคุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ขึ้นเป็นผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพี) โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป พร้อมแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ของกลุ่มธุรกิจโอพีในประเทศไทย ด้วยยอดขายรวมถึง 450 ล้านบาท โดยเติบโตถึงร้อยละ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ชูกลยุทธ์รุกตลาดครบวงจร 360 องศา เน้นย้ำการสร้างตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มโฮมโซลูชั่น (Home Solutions) เพื่อเติมเต็มความต้องการด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ เกมมิ่ง บันเทิง/มัลติมีเดีย และโฮมออฟฟิศ สำหรับสมาชิกทุกคนภายในบ้าน พร้อมอัดงบการตลาดกว่า 10% ของรายได้ทั้งหมด เพื่อใช้ในการสื่อสารทางการตลาดผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายเอ็นด์ยูสเซอร์ระดับพรีเมี่ยม และผู้ใช้งานอยู่เป็นประจำ เดินหน้าสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจโอพีในวงกว้างและกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง

คุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพี) บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด


คุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ อดีตผู้จัดการพัฒนาธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเพ่น แพลตฟอร์ม เข้ารับตำแหน่งใหม่ในฐานะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพี) บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป โดยคุณมนต์ธีร์จะมีหน้าที่ขับเคลื่อนองค์กรและบริหารทรัพยากรทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือองค์กรในการปรับเปลี่ยนธุรกิจโอพีในส่วนของประเทศไทยทั้งหมด คุณมนต์ธีร์จะรายงานโดยตรงต่อเอซุสสำนักงานใหญ่ ประเทศไต้หวัน เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและคล่องตัวให้กับส่วนปฏิบัติงานของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม ของเอซุสในประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ประกอบไปด้วยสายผลิตภัณฑ์อันหลากหลายและต้องการการโฟกัสด้านตลาดอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ภายใต้การนำของคุณมนต์ธีร์ กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์มของเอซุส มีเป้าหมายในการตอบสนองนโยบายของสำนักงานใหญ่ในการสร้างความเติบโตให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกลุ่มธุรกิจโอพีให้เป็นที่รู้จักและเชื่อถือในหมู่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ คือ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ความทนทาน และดีไซน์ที่สวยงามดึงดูดใจ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนและตรงจุด

คุณมนต์ธีร์ กล่าวว่า “ปัจจุบันภาพรวมของตลาดผลิตภัณฑ์โอเพ่น แพลทฟอร์ม ในประเทศมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 5,500 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นมาเธอร์บอร์ด 1,500 ล้าน วีจีเอการ์ด 900 ล้านเน็ตเวิร์คโซลูชั่น 40 ล้าน และจอแอลซีดี 3,000 ล้าน โดยผลประกอบการในปี 2554 ที่ผ่านมาของเอซุสในส่วนของผลิตภัณฑ์โอพี ซึ่งประกอบด้วย มาเธอร์บอร์ด วีจีเอการ์ด ไวเลส เน็ตเวิร์ก แอลซีดี รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ มี รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งโตขึ้นถึง 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และสำหรับผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ที่เพิ่งปิดยอดไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจโอพีมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 450 ล้านบาท คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เติบโตร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่แล้ว โดยมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมาเธอร์บอร์ดเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่สร้างรายได้สูงสุดกว่า 60% หรือประมาณ 270 ล้านบาท ตามมาด้วย วีจีเอการ์ด 25% แอลซีดี 5% อุปกรณ์เครือข่ายแบบไร้สาย 2%

“สำหรับในปี 2555 นี้บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร โดยตลอดทั้งปี เราจะเน้นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฮมโซลูชั่น (Home Solutions) อันประกอบด้วยหลากหลายผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้งานเพื่อกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มเกมมิ่ง แอท โฮม (Gaming at home) หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ สำหรับคอเกมส์ เช่น เดสก์ทอป มาเธอร์บอร์ด และวีจีเอการ์ด กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มมัลติมีเดียภายในบ้านเพื่อความบันเทิง (Multimedia at home) เช่น อุปกรณ์มัลติเพลย์เยอร์คุณภาพสูง O!Play และอุปกรณ์แปลงสัญญาณอะนาล็อกเป็นดิจิตอลอย่าง Xonar Essence One DAC ที่ช่วยให้เกิดสุนทรยภาพในการฟังเพลงในระดับไฮไฟ และกลุ่มที่สาม คือ กลุ่ม โฮมออฟฟิศ (Office at home) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการทำงานตั้งแต่ระดับทั่วไปไปจนถึงระดับไฮเอ็นด์ เช่น งานกราฟฟิค งานออกแบบ งานด้านสถาปนิก ฯลฯ โดยประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ อาทิ เดสก์ท็อป ออลอินวันพีซี และอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ โดยบริษัทฯ จะไม่สร้างการแข่งขันด้านราคา แต่จะเน้นการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยคุณภาพและดีไซน์ที่สวยงามเปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์หรือของประดับตกแต่งบ้านชิ้นหนึ่ง รวมถึงผลประโยชน์ที่เหนือกว่าสำหรับผู้บริโภค โดยวางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นเอ็นด์ยูสเซอร์ในระดับพรีเมี่ยม และผู้ที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ”

“สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทฯ จะเน้นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่าน โมเดิร์นเทรด และซูเปอร์ สโตร์ต่างๆ ทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้นอีก 70% พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรในการโปรโมทการแข่งขันเกมส์ต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเข้าถึงยิ่งขึ้น โดยล่าสุดเราได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ True Digital Plus โดยให้การสนับสนุนการแข่งขัน GG E-sport Champion League 2012 by ASUS ที่เพิ่งมีการแถลงข่าวเปิดรับสมัครแข่งขันไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยในงาน เราได้ให้การสนับสนุนเดสก์ทอปสำหรับเกมมิ่งจำนวน 60 ตัว รวมถึงผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดและวีจีเอการ์ดจากเอซุส รวมถึงการสาธิตผลิตภัณฑ์สำหรับเกมเมอร์ซีรีส์ต่างๆ ภายในงาน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของเราได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของเราอย่างใกล้ชิด และสามารถจดจำแบรนด์และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ของผลิตภัณฑ์จากเอซุส เพื่อเป็นตัวเลือกหนึ่งในการซื้อหามาใช้งานภายในบ้านส่วนตัวหรือตามร้านเกมส์ต่างๆ ต่อไป”

คุณมนต์ธีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปี 2555 นี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มงบการตลาดกว่า 10% โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจโอพีเพื่อใช้ในการสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจร 360 องศา ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการสื่อสารการตลาดทั้งแบบอะโบฟเดอะไลน์ (Above-the-line) และแบบบีโลว์เดอะไลน์ (Below-the-line) โดยในปีนี้ เราจะเน้นการทำตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์เพื่อสร้างประสบการณ์ในการใช้งานของลูกค้าให้สมบูรณ์มากที่สุด โดยเราแบ่งกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มดีลเลอร์ กลุ่มเอ็นด์ยูสเซอร์ และกลุ่มสื่อมวลชนและผู้นำทางความคิดต่างๆ โดยสำหรับกลุ่มดีลเลอร์นั้น เรามีการเข้าไปอบรมความรู้เกี่ยวกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ เทคนิคการขาย และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์และผลประโยชน์จากสินค้าต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมถึงการสาธิตผลิตภัณฑ์แบบ Life Demo ที่จะช่วยให้เห็นภาพพจน์ของการทำงานและฟังก์ชั่นต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ในส่วนของเอ็นด์ยูสเซอร์ นอกจากเราจะเข้าไปเป็นพันธมิตรกับบริษัทต่างๆ ในการจัดการแข่งขันเกมส์ หรืองานอีเว้นต์ต่างๆ แล้ว เรายังจัด Demo ไปแสดงตามงานโร้ดโชว์ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองสำคัญๆ ในต่างจังหวัดอีกด้วย โดยเรามีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสให้เอ็นด์ยูสเซอร์ได้เข้ามาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเอซุสก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะเราไม่เน้นการแข่งขันราคา เราจึงต้องการให้เอ็นด์ยูสเซอร์เล็งเห็นถึงคุณสมบัติและประโยชน์ด้านการใช้งานจากประสบการณ์จริง นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับสื่อมวลชนและผู้นำทางความคิดต่างๆ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้จะช่วยถ่ายทอดข้อมูลข่าวสาร บอกต่อ และแนะนำสินค้าของเรา เพื่อเป็นการดึงเอ็นด์ยูสเซอร์ให้เข้าสู่ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเราต่อไป”

“ในฐานะที่เราเป็นผู้ผลิตมาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก รวมถึงเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในประเทศไทยถึง 55% เราจะยังคงนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากลออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯ หวังว่าในปี 2555 นี้ เราจะสามารถมีส่วนแบ่งการตลาดจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจ โอพีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ภายในสิ้นปี และรั้งตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมในส่วนของผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ด และวีจีเอการ์ด ได้อย่างต่อเนื่อง” คุณมนต์ธีร์ กล่าวทิ้งท้าย

View :1929

คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ออกใบอนุญาตแก่ผู้ให้บริการ e-Payment เพิ่ม 1 ราย

April 5th, 2012 No comments

นางจีราวรรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะรองประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้เป็นประธานการประชุมพิจารณาออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประเภทบัญชี ค. ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2552 ซึ่งได้กำหนดให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้ควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชกฤษฎีกาฯ ธปท. จึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 12 พิจารณาการขอรับใบอนุญาตของผู้ให้บริการตามประเภทบัญชี ค. ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว และนำเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้พิจารณาออกใบอนุญาต

โดยปัจจุบันคณะกรรมการธุรกรรมฯ ได้ออกใบอนุญาตให้กับผู้ให้บริการไปแล้ว 74 ราย แบ่งเป็นผู้ให้บริการที่เป็นสถาบันการเงินจำนวน 31 ราย และผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงินอีก 43 ราย รวมเป็นใบอนุญาตจำนวน 113 ฉบับ และในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมฯ ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประเภทบัญชี ค. เพิ่มเติมอีก 1 ราย คือ บริษัท เทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ยื่นขอรับใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจตามบัญชี ค. (3) คือ การให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือผ่านทางเครือข่าย

ธปท.ได้มีการพิจารณาการขอรับใบอนุญาตฯ ของผู้ประกอบการรายดังกล่าวแล้ว เห็นว่าผู้ให้บริการได้ยื่นเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง รวมทั้งมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนมีความพร้อมในการให้บริการและมีแนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ จึงเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมฯ เพื่อให้พิจารณาออกใบอนุญาตแก่ผู้ให้บริการที่ยื่นขออนุญาตไว้ ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมฯ ได้พิจารณาอนุมัติออกใบอนุญาตดังกล่าว ภายใต้เงื่อนไขที่ผู้ให้บริการจะต้องเปิดให้บริการตามที่ได้รับอนุญาตภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งต้องทำหนังสือแจ้ง ธปท. ให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนเริ่มการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการขออนุญาตโดยไม่ประกอบธุรกิจบริการ

สำหรับการจัดแบ่งประเภทบัญชีของผู้ให้บริการตามพระราชกฤษฎีกาฯ นั้น ธปท. ได้พิจารณาจากความเหมาะสมในการป้องกันความเสียหายตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่อาจเกิดจากการประกอบธุรกิจเอาไว้ 3 บัญชี เพื่อให้ผู้ให้บริการได้ทราบว่าธุรกิจของตนจะต้องดำเนินการในลักษณะใด โดยประเภทแรก คือ บัญชี ก เป็นธุรกิจที่ต้องแจ้งให้ทราบ ซึ่งได้แก่ การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการจากผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ยกเว้น การให้บริการที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคโดยมิได้แสวงหาผลกำไร เช่น บัตรแลกซื้ออาหารในศูนย์อาหาร เป็นต้น ประเภทที่สอง คือ บัญชี ข เป็นธุรกิจบริการที่ต้องขอขึ้นทะเบียน ซึ่งได้แก่ บริการเครือข่ายบัตรเครดิต บริการเครือข่ายอีดีซี (EDC) บริการสวิตช์ชิ่งในการชำระเงินระบบใดระบบหนึ่ง และการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ให้บริการหลายราย ณ สถานที่ที่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายและการให้บริการรายเดียวกัน เช่น บัตรเติมน้ำมันของบริษัทน้ำมัน เป็นต้น

และประเภทที่สาม คือ บัญชี ค เป็นบัญชีที่ต้องขอรับใบอนุญาต ซึ่งได้แก่ บริการสวิตช์ชิ่งในการชำระเงินหลายระบบ บริการหักบัญชีบริการชำระดุล บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือผ่านเครือข่าย บริการรับชำระเงินแทน และการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ให้บริการหลายราย โดยไม่จำกัดสถานที่และไม่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายและการให้บริการเดียวกัน เช่น บัตรเงินสดของร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น

View :1653