Archive

Posts Tagged ‘dtac’

ดีแทคเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2556 รายได้จากการให้บริการโตต่อเนื่อง ยอดขายสมาร์ทโฟนพุ่ง สวนกระแสเศรษฐกิจซบเซา

February 13th, 2014 No comments

12 กุมภาพันธ์ 2557 – บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เผยผลประกอบการไตรมาส 4 รายได้รวมเติบโตร้อยละ 2.5 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) เนื่องมาจากผลบวกของรายได้บริการ ไม่รวมไอซี ที่เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 5.8 (YoY) และรายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 47.6 (YoY) แม้จะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองและการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น EBITDA เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงร้อยละ 17.7 (YoY) จากต้นทุนที่ลดลงโดยเฉพาะต้นทุนจากส่วนแบ่งรายได้ อันเป็นผลมาจากการที่ลูกค้าย้ายจากดีแทคมาเป็นลูกค้าดีแทค ไตรเน็ตเป็นจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้มีต้นทุนส่วนแบ่งรายได้ปรับตัวลดลง ณ สิ้นปี 2556 ไตรเน็ต มีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 12 ล้านราย มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ จากการโอนย้ายเข้ามาของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทคาดว่าจะโอนย้ายลูกค้าเกือบทั้งหมดในสิ้นปี 2557 นี้

จุดเด่นในไตรมาสที่ 4 ยังคงเป็นรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวม IC) เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 5.8 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย รายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 47.6 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY)

ในส่วนผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนต่อผู้ใช้บริการทั้งหมดของดีแทคเพิ่มขึ้นสู่ร้อยละ 32.7 ในไตรมาส 4 ของปี 2556 จากการทำตลาดดีแทค ไตรเน็ต โฟน และ ราคาสมาร์ทโฟนที่ลดลงในตลาด การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนส่งผลดีให้ดีแทคในการเติบโตของรายได้บริการอินเทอร์เน็ตและความต้องการของลูกค้าปัจจุบันที่มีความประสงค์โอนย้ายสู่ระบบ 3G 2.1GHz

รายได้จากบริการเสริมยังคงเติบโตต่อเนื่อง ถึงร้อยละ 41.8 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) และร้อยละ 6.0 จากไตรมาสก่อน (QoQ) อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท แรงขับเคลื่อนหลักของรายได้จากบริการเสริมยังคงเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องร้อยละ 63.9 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน (YoY) และร้อยละ 7.8 จากไตรมาสก่อน (QoQ) ซึ่งเป็นผลจากความนิยมในสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ที่ยังคงมีสูงต่อเนื่อง และการขยายพื้นที่ให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการได้ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศของดีแทค

EBITDA สำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2556 เท่ากับ 8.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.7 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน จากการเติบโตของรายได้และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิผล EBITDA margin เพิ่มขึ้นจาก 27.7% จากไตรมาส 4 ปี 2555 เป็น 32.1% เนื่องจากการปรับลดลงของส่วนแบ่งรายได้

อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทประสบความสำเร็จในการโอนย้ายลูกค้า มาใช้ดีแทค ไตรเน็ต ส่งผลให้รายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินลดน้อยลงเมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สินที่มีอยู่ทางบัญชีของดีแทค และตามมาตรฐานการบัญชี บริษัทต้องมีการบันทึกส่วนต่างรายการบัญชี ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำไรสะสมของดีแทคในไตรมาส 4 ทำให้ บริษัทมีความจำเป็นที่จะเว้นการจ่ายเงินปันผลในไตรมาสที่ 4 ของปี 2556 อย่างไรก็ดีบริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับมาดำเนินนโยบายการจ่ายเงินปันผลในไตรมาส 1 ของปี 2557 ได้ตามปกติ และคาดว่าค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของดีแทคจะปรับตัวลดลงจากการรับรู้ผลต่างของรายได้เทียบกับมูลค่าทรัพย์สินทางบัญชี ส่งผลให้ดีแทคจะมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลได้ในจำนวนที่สูงขึ้นตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “รายได้การให้บริการที่เติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการใช้งานโมบายล์อินเทอร์เน็ต และสมาร์ทโฟนที่เติบโตมากขึ้น และความสำเร็จจากการจัดแคมเปญต่อเนื่องเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเครือข่ายอื่นย้ายเข้ามาใช้ดีแทค ไตรเน็ต และแคมเปญยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจใช้บริการกับดีแทคตลอดมา

ปัจจุบันดีแทค และ ดีแทค ไตรเน็ต มีสถานีฐานรวมกันแล้วประมาณ 20,000 สถานีฐาน ซึ่งจะครอบคลุมประชากรร้อยละ 80 ได้ภายในสิ้นปี 2557 และจะยังคงขยายพัฒนาสถานีฐานต่อไป สร้างความพึงพอใจในการใช้บริการให้ลูกค้าดีแทคอย่างต่อเนื่อง

View :1397
Categories: Telecom Tags: ,

ดีแทคจัดทัพสมาร์ทโฟนใหม่ บุกงาน Thailand Mobile Expo 2013 Showcase

October 3rd, 2013 No comments

DTAC_TME02

3 ตุลาคม 2556 – ดีแทคนำสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ทุกระบบปฏิบัติการ มามอบส่วนลดและแพ็กเกจสมาร์ทโฟนสูงสุดกว่า 50% ไฮไลท์ Samsung Galaxy Note 3 และ Sony Xperia Z1 พร้อมของสมนาคุณสุดพิเศษ

ดีแทคนำสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุด ร่วมงานมหกรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศปลายปี “ ” วันที่ 3-6 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมจัดข้อเสนอพิเศษมอบส่วนลดแพ็กเกจสมาร์ทโฟนสูงสุด 50% (เฉพาะรุ่น) พร้อมของของสมนาคุณสุดพิเศษ พร้อมเปิดตัว สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากดีแทค Samsung Galaxy Note 3 ราคาเพียง 23,500 บาท และ Sony Xperia Z1 ราคา 20,990 บาท พร้อมผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ และพิเศษกับดีแทค TriNet Phone รุ่น Mousey ราคา 1,290 บาท รับฟรี กระเป๋าผ้า Smartphone (สีดำ) มูลค่า 290 บาท , รุ่น Joey ราคา 2,590 บาท รับฟรี Case Joey มูลค่า 490 บาท และรุ่น Cheetah ราคา 4,590 บาท รับฟรี Case Cheetah มูลค่า 590 บาท

สมาร์ทโฟนลดสูงสุดกว่า 50% เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ

• Nokia Lumia 820 ราคาปกติ 12,900 บาท ราคาพิเศษ 7,000 บาท รับฟรี Yoobao Powerbank 5200 mAh มูลค่า 890 บาท

• Nokia Lumia 920 ราคาปกติ 16,900 บาท ราคาพิเศษ 9,200 บาท ฟรี Nokia Wireless Charger มูลค่า 2,990 บาท

• Nokia Asha 311 ราคาปกติ 3,480 บาท ราคาพิเศษ 3,000 บาท ผ่อน 0% นาน 6 เดือน

• Sony Eperia E ราคาปกติ 4,990 บาท ราคาพิเศษ 3,500 บาท รับฟรี Sony Xperia Bag มูลค่า 1,290 บาท (50%)

• Sony Eperia ion ราคาปกติ 13,990 บาท ราคาพิเศษ 6,995 บาท ร่ม Sony (สีดำ) มูลค่า 890 บาท (ลด 50%)

• Black Berry Q10 ราคาปกติ 22,990 บาท ราคาพิเศษ 17,700 บาท ฟรี ลำโพง-Jabra Soulmate มูลค่า 5,990 บาท

• Black Berry Z10 จากปกติ 16,990 บาท ราคาพิเศษ 9,900 บาท ผ่อน 0% นาน 10 เดือน

• Black Berry 9220 จากปกติ 5,390 บาท ราคาพิเศษ 3,669 บาท

ลูกค้าดีแทค รับข้อเสนอพิเศษมากมาย อาทิ

• ฟรีบัตรกำนัลมูลค่า 2,000 บาท และติดฟิล์มกันรอยจาก Focus

• สมาร์ทโฟนลดสูงสุด 50%

• รับ Cash back จากบัตรเครดิดที่ร่วมรายการ

• เมื่อสมัครแพ็กเกจจากดีแทคมูลค่า 500 บาท ขึ้นไปรับฟรี กระเป๋าผ้าสุดเก๋

พร้อมกันนี้ เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนจากดีแทคทุกรุ่นรับแพ็กเกจสุดพิเศษ Smartphone SmartSet 555 จ่ายเพียงเดือนละ 555 บาท รับโทรฟรี 700 นาที ใช้อินเทอร์เน็ตและ WiFi ไม่จำกัดนาน 2 ปี สิทธิพิเศษนี้ เฉพาะงานนี้เท่านั้น พบกับ สมาร์ทโฟนอีกมากมายจากดีแทคพร้อมโปรโมชั่นดีๆได้ที่บู๊ทของดีแทคในงาน Thailand Mobile Expo 2013 Showcase ในวันที่ 3-6 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

View :1586

ดีแทคเผยมาตรการช่วยลูกค้าประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมและการรับมือสถานการณ์ป้องกันสถานีฐาน

October 2nd, 2013 No comments

27 กันยายน 2556 – ดีแทคได้เตรียมมาตรการในการช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมตลอดจนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลืออื่นๆ พร้อมทั้งป้องกันสถานีชุมสายและสถานีฐาน รองรับกรณีฉุกเฉินที่อาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการของดีแทคในพื้นที่ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ได้มีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่น้ำท่วมในอำเภอต่างๆ ของ 7 จังหวัดที่ประสบอุทกภัยในขณะนี้ ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว อุบลราชธานี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และนครนายก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นโดยมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทาง SMS ให้กับลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวโดยตรง เพื่อให้สามารถใช้งานโทรศัพท์ติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายละเอียดดังนี้

สำหรับลูกค้าดีแทค หรือแบบรายเดือน
1. ขยายกำหนดวันชำระค่าบริการ ให้เพิ่มอีก 7 วัน สำหรับลูกค้าที่มีค่าใช้จ่ายคงค้างและใกล้วันครบกำหนดชำระค่าบริการ (ระบบดำเนินการให้สิทธิ์อัตโนมัติ)
2. เพิ่มเครดิตวงเงินในการใช้งานให้อีก จำนวน 500 บาท สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินการใช้งานล่าสุดน้อยกว่า 500 บาท (ระบบดำเนินการให้สิทธิ์อัตโนมัติ)

สำหรับลูกค้าแฮปปี้ หรือแบบเติมเงิน
1. สำหรับลูกค้าในรายที่มีวันในการใช้งานคงเหลืออยู่น้อยกว่า 15 วัน จะได้รับเพิ่มจำนวนวันสำหรับการใช้งานต่ออีก 15 วัน (ระบบดำเนินการให้สิทธิ์อัตโนมัติ)
2. สำหรับลูกค้าในรายที่มีเงินคงเหลืออยู่ในบัญชีน้อยกว่า 30 บาท จะได้รับสิทธิ์การโทรฟรีในเครือข่ายดีแทค 60 นาที ระยะเวลา 3 วัน (ยืนยันรับสิทธิ์กด *222*13*# โทรออก ได้ตั้งแต่ 28-30 ก.ย. 2556)

สำหรับการเตรียมพร้อมต่อการป้องกันสถานีชุมสายและสถานีฐาน เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินในวิกฤตน้ำท่วมที่อาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการของดีแทค มีดังนี้
1. ดีแทคจัดเตรียมรถโมบายล์เคลื่อนที่พร้อมเครื่องปั่นไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่ (mobile generator) เพื่อให้บริการโครงข่ายสื่อสารในพื้นที่ในกรณีฉุกเฉินจากสถานการณ์น้ำท่วม
2. จัดเตรียมยานพาหนะ เช่น รถขับเคลื่อน 4 ล้อ และเรือสำหรับการเดินทางเข้า-ออกในพื้นที่สถานีชุมสายหลักได้ทุกพื้นที่
3. จัดเตรียมทีมวิศวกรคอยตรวจสอบ และดูแลโครงข่ายตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานภายใน และภายนอกเพื่อควบคุมคุณภาพของการให้บริการ และมีการปรับแผนเรื่องกำลังคนเป็นระยะให้เหมาะสมต่อสถานการณ์
4. บริหารจัดการการใช้กระแสไฟฟ้าในสถานีฐานอย่างเหมาะสมและเป็นการลดกำลังการใช้งานเพื่อให้พลังงานที่มีอยู่ได้ใช้อย่างคุ้มค่าและยาวนานในกรณีฉุกเฉิน
5. มีการประสานงานตลอดเวลากับการไฟฟ้าต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้มีการจ่ายไฟฟ้าให้กับชุมสายอย่างต่อเนื่องในกรณีที่ต้องมีการตัดกระแสไฟฟ้าบางส่วนในบริเวณพื้นที่น้ำท่วม
6. สำหรับกรณีฉุกเฉิน ได้มีการเตรียมน้ำมันสำรองไว้ในกรณีที่มีการตัดกระแสไฟฟ้า โดยสถานีจะสามารถดำเนินการเพื่อให้บริการโครงข่ายสื่อสารได้อย่างต่อเนื่องหลังจากที่มีการตัดกระแสไฟฟ้า

ทั้งนี้ ดีแทคยังคงติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยมุ่งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยได้บรรเทาความเดือดร้อน ทั้งการสนับสนุนมาตรการเพื่อการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของลูกค้าในพื้นที่ ตลอดจนเตรียมทีมเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ที่พร้อมจะเข้าไปแก้ไขปัญหาสถานีชุมสายและสถานีฐานในทันที

หมายเหตุ : รายชื่อจังหวัดและอำเภอที่อยู่ในมาตรการช่วยเหลือในขณะนี้ ได้แก่
1) ปราจีนบุรี 5 อำเภอ (เมือง ศรีมหาโพธิ์ม กบินทร์บุรี นาดี และประจันตคาม)
2) สระแก้ว 1 อำเภอ (อรัญประเทศ)
3) นครนายก 1 อำเภอ (บ้านนา)
4) พระนครศรีอยุธยา 2 อำเภอ (บางบาล และเสนา)
5) อ่างทอง 2 อำเภอ (ป่าโมก และไชโย)
6) ลพบุรี 2 อำเภอ (บ้านหมี่ และโคกสำโรง)
7) อุบลราชธานี 1 อำเภอ (วารินชำราบ)
dtacFlooding_fDD
บรรยายภาพ : ทีมวิศวกรและดูแลโครงข่ายตลอด 24 ชั่วโมงของดีแทคเข้ายกระดับอุปกรณ์สถานีฐานในพื้นที่ประสบภัยเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อให้พ้นจากภัยน้ำท่วมและตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ตามมาตรการฉุกเฉิน

View :1362
Categories: Telecom Tags:

ดีแทคเปิดโครงการ 1 ล้านชั่วโมงเพื่อเด็กไทย – Internet for All

September 26th, 2013 No comments

dtac_5556
ตั้งเป้า 86 โรงเรียนปีนี้ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 86 พรรษา

26 กันยายน 2556 – ตอกย้ำนโยบายให้คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ภายใน 3 ปีด้วยสัญญาณคุณภาพ 3G อินเทอร์เน็ต พร้อมเดินหน้าโครงการ 1 ล้านชั่วโมงเพื่อเด็กไทย – กระจายอินเทอร์เน็ตสู่โรงเรียนครบ 200 แห่งหรือคิดเป็นจำนวนนักเรียนประมาณ 80,000 คนในปีหน้า เชื่อมต่อช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Divide) มั่นใจนำสู่จุดเปลี่ยนระบบการเรียนการสอนเพื่อความเท่าเทียมกัน ยกระดับการแข่งขันต่างประเทศ รับเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนรวมถึงเป็นการใช้ทรัพยากรคลื่น 3G เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ พร้อมแนะนำ “Digital Responsibility” ให้ความรู้การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ “Internet for All” ของดีแทคที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการให้คนไทยทั่วประเทศสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ภายใน 3 ปี เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันโดยรวมให้กับประเทศ ทั้งนี้สำหรับภาคการศึกษา ดีแทคเชื่อว่าการให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านโครงข่าย 3G อินเทอร์เน็ตของดีแทค ไตรเน็ตที่มีคลื่นความถี่มากที่สุดบนแบนด์วิธที่กว้างที่สุด จะช่วยในการเข้าถึงพื้นที่โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการใช้งานของอินเทอร์เน็ต และยังเป็นการปลูกฝังการเรียนรู้อย่างยั่งยืนในระยะยาว และนี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป

ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปริมาณที่ต่ำอยู่ มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 26.5 ล้านราย หรือคิดเป็นประมาณ 30% ของประชากรทั้งหมด โดยเป็นอันดับที่ 131 จาก 150 ประเทศ (ข้อมูลจากเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม 2013) เท่ากับว่ายังมีประชากรอีกจำนวนไม่น้อยยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งดูจากอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์ประมาณ 10% ขณะที่อัตราเข้าถึงการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของคนไทยคิดเป็น 136% ของประชากร แสดงให้เห็นว่าโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถช่วยให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นได้

สำหรับโอกาสนี้ ดีแทค ได้เปิดโครงการ “1 ล้านชั่วโมงเพื่อเด็กไทย – Internet For All” อย่างเป็นทางการ เพื่อมอบแอร์การ์ดและซิมการ์ด จำนวน 600 ชุด และแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตฟรี 5 กิกะไบต์ต่อเดือน ให้กับโรงเรียนจำนวน 200 แห่ง หรือจำนวนนักเรียนประมาณ 80,000 คน ภายในปี 2557 โดยแบ่งเป็นโรงเรียนละ 3 ชุดหรือมากกว่า รวมเป็น 1 ล้านชั่วโมง โดยจะตั้งเป้าขยายออกไปอีก 3 ปี เพื่อให้เข้าถึงโรงเรียนได้มากกว่า 2,000 แห่ง หรือนักเรียนจำนวนประมาณ 1 ล้านคน โดยโครงการนี้ได้ร่วมมือกับสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สทร. สพฐ) ภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ คัดเลือกโรงเรียนเพื่อพิจารณาเข้าร่วมโครงการ โดยในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 86 พรรษา ทางโครงการตั้งเป้าในการขยายโอกาสสู่โรงเรียนให้ได้ 86 โรงเรียนภายในปี 2556 นี้

“ดีแทคต้องการที่จะเชื่อมต่อช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Divide) โดยได้ทำการสำรวจพบว่าโรงเรียนต่างๆ ในชนบทมีปัญหาการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต หรือมีอินเทอร์เน็ตใช้งานแต่ยังไม่พอเพียงและความเร็วจำกัด โดยบางแห่งยังพบว่าขาดแคลนเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งาน ซึ่งกลายเป็นข้อจำกัดทางการศึกษาตามมา ขณะที่บางแห่งต้องการสัญญาณอินเทอร์เน็ตคุณภาพดี โดยมีสัญญาณคุณภาพ 3G อินเทอร์เน็ตของดีแทคที่สามารถเข้าถึงและใช้บริการได้ จึงเป็นจุดสำคัญที่จะนำมาใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอน ยิ่งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี กำลังใกล้เข้ามา การพัฒนาการศึกษาของไทยให้มีความเท่าเทียมกันทั่วประเทศ ยังเป็นการเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของประเทศอีกด้วย” นายจอน กล่าว

โครงการ Digital Responsibility
ในโลกออนไลน์เด็กและเยาวชนควรได้รับการแนะนำถึงโอกาสในการการเข้าถึงข้อดี และข้อเสียของการใช้งานและรู้จักวิธีที่จะจัดการถึงความเสี่ยง เพื่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ดีแทคเห็นความสำคัญในส่วนนี้จึงเปิดตัวโครงการ Digital Responsibility โดยได้จัดทีมดีแทคอาสาทำดี ( Volunteer) ภายใต้โครงการดีแทคทำดีทุกวันไปให้ข้อมูลในโรงเรียนต่างๆ ในหัวข้อ 1. การสอนใช้งานอินเทอร์เน็ตเบื้องต้นอย่างถูกต้อง 2. การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ 3. การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการใช้งานที่ไม่เหมาะสม

โครงการ ICT Free WiFi by dtac
นอกจากนี้ ภายใต้วิสัยทัศน์ Internet for All ดีแทคยังได้มีโครงการ ICT Free WiFi by dtac ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่จะนำ WiFi ไปบริการฟรีในพื้นที่โรงพยาบาลของรัฐบาลจำนวน 12 แห่ง ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินงานอีกด้วย ในส่วนนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยนอกและญาติที่รอตรวจ รวมถึงแพทย์ประจำโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ต่างๆ สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและใช้ประโยชน์ออนไลน์ได้ฟรี โดยคาดว่าจะมีปริมาณคนที่อยู่ในพื้นที่ใช้งานในโรงพยาบาลต่อแห่งต่อวันสูงสุดประมาณ 33,000 คน ดังนั้นจึงคาดว่าเมื่อเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 12 แห่งจะสามารถรองรับได้สูงสุดประมาณ 400,000 คนต่อวัน สำหรับการความคืบหน้าในโครงการทางดีแทคจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง

View :1342
Categories: 3G Tags: ,

ดีแทคมอบเงินสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้แก่น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ หลังคว้าแชมป์โลกแบดมินตัน 2013

August 24th, 2013 No comments

dtac_153

23 สิงหาคม 2556 – ดร. ดามพ์ สุคนธทรัพย์ (แถวหน้า ที่ 3 จากขวา) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค มอบเงินรางวัล 250,000 บาท พร้อมดีแทค ไตรเน็ตโฟน รุ่นชีต้าห์ จำนวน 8 เครื่อง ให้แก่ น.ส. หรือน้องเมย์ และสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจในโอกาสสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการแบดมินตันหญิงของไทยที่สามารถคว้าเอาแชมป์โลกกลับมาให้คนไทยเป็นผลสำเร็จ โดยมี ฯพณฯ องคมนตรี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข (แถวหน้า ที่ 3 จากซ้าย) ประธานคณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล (แถวหน้า ที่ 4 จากซ้าย) นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยานในโอกาสงานเลี้ยงแสดงความยินดีซึ่งจัดโดยสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่โรงแรมอโนมาเมื่อเร็วๆ นี้

View :1413

กทค. ชี้ DTAC ผิด เก็บค่าโทรเกิน 99 สตางค์ สั่งคืนเงินส่วนเกินให้ผู้บริโภคพร้อมดอกเบี้ย

August 19th, 2013 No comments

() พิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีเก็บค่าโทรมือถือเกิน 99 สตางค์รายแรกแล้ว สั่ง ต้องคืนเงินส่วนที่เก็บเกินให้ผู้บริโภคพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 แต่ยังไม่ยอมให้มีมาตรการเยียวยาเป็นการทั่วไป ส่งผลให้ผู้บริโภคที่ประสบปัญหายังต้องร้องเรียน จึงจะได้เงินคืน

นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ () ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน เปิดเผยถึงผลการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภคโดยที่ประชุม กทค. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมได้วางบรรทัดฐานต่อกรณีการคิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 2G ในอัตราที่เกินกว่า 99 สตางค์ แล้วว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย นั่นคือประกาศ เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555 ดังนั้นจึงมีมติให้ผู้ให้บริการต้องคืนเงินส่วนที่เก็บเกินไปนั้นให้แก่ผู้บริโภคที่ร้องเรียน โดยจะต้องจ่ายดอกเบี้ยของเงินส่วนเกินนั้นด้วย ในอัตราร้อยละ 15 ตามอัตราที่บริษัทเรียกเก็บจากผู้บริโภคในกรณีที่ชำระค่าบริการล่าช้า

“มตินี้เป็นการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้ร้องเพียงรายเดียว ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการของดีแทค แต่จากกรณีเดียวนี้ก็เป็นบรรทัดฐานว่า ผู้ให้บริการทุกรายที่มีหน้าที่ตามประกาศเรื่องอัตราขั้นสูงนั้น หากมีการเรียกเก็บเงินเกินกว่าอัตราที่ประกาศกำหนด แล้วผู้บริโภคมีการร้องเรียนเข้ามา ก็จะต้องถูกสั่งให้คืนเงินที่เก็บเกินไปนั้นพร้อมดอกเบี้ยเช่นเดียวกันทุกๆ ราย”

นายประวิทย์กล่าวต่อไปด้วยว่า เป็นที่น่าเสียดายที่ กทค. ไม่ยอมมีมติสั่งเป็นการทั่วไปในเรื่องดังกล่าว ทั้งๆ ที่ทางผู้ร้องเรียนรายนี้ก็มีคำร้องขอในประเด็นดังกล่าวด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคที่ประสบปัญหาไม่จำเป็นต้องมาร้องเรียนกันทุกคน และ กทค. ก็ไม่ต้องพิจารณาเรื่องร้องเรียนเป็นกรณีๆ ไป โดยถ้า กทค. มีมติออกมา สำนักงาน กสทช. ก็จะสามารถสั่งการให้บริษัทที่คิดค่าบริการเกินดำเนินการคืนเงินแก่ผู้ใช้บริการทั้งหมด

นอกจากนี้ยังปรากฏด้วยว่า สำนักงาน กสทช. มีการเสนออีกวาระหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกันให้ กทค. พิจารณา นั่นคือ เรื่องมาตรการเยียวยาผู้ร้องเรียนกรณีถูกคิดค่าบริการเกินอัตราขั้นสูงฯ ซึ่งมีข้อเสนอประกอบด้วยหลักเกณฑ์ที่สำคัญ 2 ประการคือ 1)ให้ผู้ร้องเรียนมีสิทธิชำระค่าบริการเฉพาะส่วนที่เห็นว่าไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด (99 สตางค์) ได้ 2) เมื่อมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้ว หากพบว่าไม่เป็นการเรียกเก็บเกินอัตรา ก็ให้มีสิทธิเก็บเงินต่อไปได้ แต่ถ้าเป็นการเรียกเก็บเกิน ก็ต้องคืนเงินส่วนต่างพร้อมดอกเบี้ยให้แก่ผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม กทค. ไม่ได้พิจารณาวาระดังกล่าว เนื่องจากทางส่วนงานเจ้าของเรื่องได้ขอถอนข้อเสนอออกไปเพื่อปรับปรุงใหม่ หลังจากพบว่า ในการแสดงความเห็นชั้นกลั่นกรองเรื่องก่อนบรรจุวาระ กทค. ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการที่เสนอ

“มีผมที่เห็นด้วยกับข้อเสนอของสำนักงาน โดยเฉพาะหลักเกณฑ์ข้อ 1) เพราะรู้ว่าเรื่องการไม่ยอมรับชำระเงินบางจำนวนนั้นเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะทำให้ผู้บริโภคถูกต้อนเข้าตาจนในที่สุด กล่าวคือ เมื่อมีปัญหาการโต้แย้งเรื่องค่าบริการบางส่วน โดยทั่วไปแล้วผู้บริโภคเพียงไม่อยากจ่ายค่าบริการส่วนที่ยังมีข้อติดใจหรือข้องใจ และพร้อมจ่ายค่าบริการส่วนที่ไม่มีปัญหา แต่ที่ผ่านมาก็ทำไม่ได้ เพราะผู้ให้บริการหรือบริษัทจะยอมรับชำระยอดเต็มเท่านั้น ผู้บริโภคจึงเลือกไม่ชำระ และพอครบสองรอบบิล บริษัทก็ใช้สิทธิตามกฎหมายระงับหรือตัดบริการของผู้บริโภค เท่ากับบังคับผู้บริโภคให้เลิกโต้แย้งโดยปริยาย เพื่อแลกกับการได้ใช้บริการ ดังนั้นข้อเสนอของสำนักงาน กสทช. ในข้อแรกจึงนับว่ามาถูกทาง ส่วนข้อ 2) ก็เป็นหลักที่ถูกต้อง ซึ่งผมเสนอด้วยซ้ำว่า ควรกำหนดเป็นมาตรการทั่วไป ไม่ใช่ใช้กับคนที่มาร้องเรียนเท่านั้น แต่เนื่องจาก กทค. ท่านอื่นๆ เห็นว่าการพิจารณาเรื่องร้องเรียนนั้นจำเป็นต้องดูเป็นกรณีๆ ไป เพราะข้อเท็จจริงแต่ละกรณีมีความแตกต่างกัน ความจริงเหตุผลนี้ผมก็ไม่เถียง แต่ก็เห็นว่ามาตรการที่เสนอนั้นก็มีเงื่อนไขเฉพาะ ไม่ได้ครอบคลุมจนกว้างไปหมด ก็เลยเสียดายที่ยังต้องให้ผู้บริโภคเป็นฝ่ายเริ่มต้นร้องเรียนเข้ามา ซึ่งผมก็อยากชักชวนนะครับ เพื่อที่จะได้รับการคุ้มครองในบรรทัดฐานเดียวกันกับกรณีที่ กทค. พิจารณาแล้ว ขณะเดียวกันผมก็แจ้งให้สำนักงานเร่งรัดเสนอเรื่องร้องเรียนกรณีค่าบริการเกิน 99 สตางค์รายอื่นๆ เข้ามาด้วย เพราะทราบว่ามีอีกเกือบ 130 เรื่อง” กสทช. ประวิทย์กล่าวในที่สุด

View :1319

ดีแทคชูวิสัยทัศน์ “Internet for all” ยกระดับเข้าถึงโมบายล์อินเตอร์เน็ตด้วย TriNet ทุกพื้นที่ทั่วไทย พร้อมทดสอบสัญญาณการใช้งาน 77 จังหวัดสร้างความมั่นใจ ประเดิมอีสานภาคแรก

May 21st, 2013 No comments

dtac77_2783rz_77

ดีแทคพร้อมลุยโครงการ 77/77 อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริป (77/77 Road Trip) หลังเปิดตัว TriNet สามโครงข่ายอัจฉริยะหนึ่งเดียวในไทย พร้อมผลักดันความเท่าเทียมในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทุกพื้นที่ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรทั่วประเทศ สร้างมิติใหม่ใช้ภาคโทรคมนาคมช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ ลุยประเดิมไดร์ฟเทสต์อีสานภาคแรกทดสอบสัญญาณเพื่อสร้างความมั่นใจ เชื่อการใช้งานอีสานยังเติบโตได้อีกมาก

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวว่าโครงการ 77/77 อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริป (77/77 Internet For All Road Trip) เป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ของ “Internet for all” ที่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของดีแทคที่ต้องการให้คนไทยทุกคนทั่วประเทศสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ภายใน 3 ปี เพื่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและโอกาสต่าง ๆ ที่เท่าเทียมกัน และส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในที่สุดด้วยการครอบคลุมของสัญญาณคุณภาพ TriNet จากดีแทคที่เป็นโครงข่ายอัจฉริยะหนึ่งเดียวของไทยที่มีคลื่นความถี่มากที่สุด บนแบนด์วิธที่กว้างที่สุด

“การใช้งานอินเทอร์เน็ตในภาคอีสานยังสามารถเติบโตได้อีกมาก เพราะที่ผ่านมาประสบปัญหาการเข้าถึงโครงข่ายอินเทอร์เน็ตแบบเดิมที่มาตามสาย ทำให้มีอุปสรรคในการเข้าถึงของแต่ละพื้นที่ แต่ปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี 3G จะทำให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นไปอย่างเท่าเทียมและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ถ้าเทียบกับทุกภาคแล้วอัตราการเข้าถึงบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile penetration rate) ของภาคอีสานยังต่ำกว่าภาคอื่นคือ 64.12% ของจำนวนประชากรในภูมิภาค ในขณะที่กรุงเทพมีอัตราการเข้าถึงบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สูงสุดอยู่ที่ 84% ของประชากรในภูมิภาค นอกจากนั้น ภาคอีสานยังมีอัตราการเข้าถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อสารและมีการใช้งานเพียง 21.5% ต่ำกว่ากรุงเทพซึ่งสูงถึง 44.4% ของจำนวนประชากรในภูมิภาค แนวโน้มที่น่าสนใจคือภาคอีสานกลับมีอัตราการเติบโตการใช้ดาต้าสูงสุดกว่าทุกภูมิภาคในประเทศไทย คือ จาก 8% เป็น 13% ภายใน 6 เดือน” นายจอนกล่าว
dtac77_3156
ภาคอีสานมีประชากรมากที่สุดคิดเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ หรือคิดเป็นจำนวนประชากรประมาณกว่า 23 ล้านคน ดีแทคจึงให้ความสำคัญแก่ภาคอีสานไม่ต่างจากพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย โดยเดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงข่ายการใช้งานครอบคลุมทั้ง 850 MHz, 1800MHz และ 2100 MHz ซึ่งก็คือโครงข่ายอัจฉริยะ TriNet นั่นเอง และเร็วๆ นี้ดีแทคจะเปิดตัวมือถือโออีเอ็มที่ผลิตขึ้นมาสำหรับดีแทคโดยเฉพาะเพื่อรองรับการใช้งานทั้ง 3 โครงข่ายในเครื่องเดียวทั้งแบบฟีเจอร์โฟน และสมาร์ทโฟนมาทำตลาดในราคาที่คุ้มค่าสำหรับลูกค้าดีแทค ทั้งนี้ ดีแทคยังมีแนวคิด More Choice เกิดจากกลยุทธ์การมุ่งให้ความสำคัญกับลูกค้า Customer Centricity ด้วยการศึกษาความต้องการของลูกค้าอย่างจริงจังเพื่อนำมาสร้างสรรค์แพ็กเกจบริการ และผลิตภัณฑ์อุปกรณ์สื่อสารที่หลากหลายยิ่งขึ้น พร้อมระดับราคาที่มีความเหมาะสม คุ้มค่าที่สุด เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มทั่วประเทศ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าสามารถเลือกจับคู่แพ็กเกจการใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตได้ตามการใช้งานจริงด้วยตัวเองอย่างแท้จริง

นอกจากนั้น ดีแทคยังได้ปรับเปลี่ยนศูนย์บริการดีแทคและลงทุนครั้งใหญ่เป็นการลงทุนกว่า 150 ล้านบาทในภาคอีสาน โดยนำความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมาเป็นโจทย์ในการออกแบบบริการต่างๆ ตามแนวคิด Customer Centricity แนวคิดใหม่ที่มีคุณภาพเป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งสุดท้ายดีแทคได้จัดรูปแบบร้านเป็น 3 รูปแบบคือ ดีแทคฮอลล์ ดีแทคเซ็นเตอร์ และดีแทคเอ็กซ์เพรส เพื่อตอบสนองการขายและบริการแบบครบวงจร (Sales & Service Integration) ซึ่งมีมุมที่ลูกค้าจะได้ทดลองใช้งานและเลือกซื้อสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่าง ๆ มีบริการแนะนำการใช้งานเครื่องและเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสม

ผลการศึกษาระบุว่าการเพิ่มขึ้นของบริการ 3G จะส่งผลที่เป็นประโยชน์ต่อระดับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ โดยตรง และการเพิ่มขึ้นทุก 10% ของการใช้งานจาก 2G เป็น 3G จะทำให้รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี (GDP per captita) สูงขึ้นประมาณ 0.15% และจะช่วยเร่งกระตุ้นภาคเศรษฐกิจให้เกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ Internet for All ดีแทคกำลังผลักดันหลายโครงการให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมกับสังคมไทย อาทิ โครงการ Best Start ซึ่งสืบเนื่องมาจากผลการศึกษา ที่พบว่า ในแต่ละปี มีเด็กทารกแรกเกิดกว่า 5 หมื่นคนไม่ได้จดทะเบียนเกิด นำมาซึ่งปัญหาการเข้าถึงบริการสาธารณสุขและการเข้ารับการรักษา ทำให้ไม่ได้รับการรักษาและดูแลสุขภาพและการพัฒนาการทางร่างกายอย่างเหมาะสม รวมไปถึง หญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ได้เข้ารับการดูแลฝากครรภ์กับแพทย์ ดีแทคจึงได้ร่วมมือกับกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ UNICEF เปิดการบริการ Mother and Child Information Service Center ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับแม่และเด็ก เพื่อการพัฒนาอนาคตของชาติที่ยั่งยืน และทางด่วนข้อมูลการเกษตร ที่เปิดช่องทางให้เกษตรกรไทยสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางด้านการเกษตรและการทำตลาดผ่านโครงข่ายมือถือดีแทค

ทั้งนี้ โครงการ 77/77 อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริป (77/77 Internet For All Road Trip) ดีแทคยังได้นำทีมทดสอบสัญญาณไดร์ฟเทสต์ (drive test) ไปทุกจังหวัดทั่วไทย ซึ่งเริ่มที่ภาคอีสานเป็นภาคแรก และยังมีภาคอื่นๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการนี้จะตอกย้ำความสำเร็จจากการเปิดตัว TriNet จากดีแทค หรือ โครงข่ายอัจฉริยะที่รวมคลื่น 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ คลื่น 850 เมกะเฮิร์ตซ์ และคลื่น 2100 เมกะเฮิร์ตซ์ เข้าไว้ด้วยกัน และเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมหนึ่งเดียวของไทยที่มีคลื่นความถี่มากที่สุด บนแบนด์วิธที่กว้างที่สุด เพื่อมุ่งสู่ธุรกิจโมบายอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบอีกด้วย

View :1970
Categories: 3G Tags:

แฮปปี้จัดแคมเปญแฮปปี้เฮลุ้นโชคสนับสนุนช่องทางเติมเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดการผลิตกระดาษ ช่วยลดโลกร้อน

March 6th, 2013 No comments

มอบซัมซุง กาแล็กซี่ แกรนด์ ตอบแทนลูกค้าทุกวัน

4 มีนาคม 2556 – แฮปปี้จัดแคมเปญ แฮปปี้เฮลุ้นโชค มอบรางวัลซัมซุง กาแล็กซี่ แกรนด์ มูลค่า 11,900 บาททุกวันตลอดเดือนมีนาคม ตอบแทนลูกค้าเติมเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการลดการผิตกระดาษและลดโลกร้อน พร้อมกับโปรโมตช่องทางเติมเงินใหม่ ๆ ที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น () กล่าวว่า ปัจจุบันแฮปปี้มีช่องทางเติมเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ความสะดวกแก่ลูกค้าหลายช่องทาง ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีสัดส่วนถึง 72% ของการเติมเงินทั่วประเทศ หรือเติบโตจากปี 2555 ถึง 11% ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาดีแทคก็ได้เปิดช่องทางใหม่ล่าสุดผ่านบริการ iRefill บนเว็บไซต์ของดีแทค ซึ่งใช้งานง่ายและสามารถเติมเงินได้ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 50 บาท ช่วยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ดังนั้น เดือนมีนาคมนี้จึงจัดแคมเปญพิเศษเพื่อตอบแทนลูกค้าพร้อมทั้งโปรโมตช่องทางเติมเงินอิเล็กทรอนิกส์ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้นในเวลาเดียวกัน โดยจัดมอบรางวัลสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นใหม่ให้กับลูกค้าที่เติมเงินผ่านช่องทางนี้ทุกวันวันละ 1 รางวัลตลอดทั้งเดือน คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเช่นเดียวกับแคมเปญอื่น ๆ ที่เคยจัดมา

“ดีแทคให้ความสำคัญกับช่องทางอิเล็กทรอนิกส์และพัฒนาเป็นช่องทางหลักของการเติมเงินเพื่อมีส่วนร่วมลดการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตกระดาษ และลดโลกร้อน โดยเราปรับแผนการผลิตบัตรเติมเงินใหม่ทุกระยะเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณการใช้งาน ขณะเดียวกันก็โปรโมตให้ลูกค้าได้ทดลองใช้บริการเติมเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีให้เลือกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสะดวกกว่า รวดเร็วกว่า พร้อมทั้งมีความปลอดภัยสูงด้วย” ปกรณ์ สรุป

ลูกค้าแฮปปี้ที่เติมเงินทุก 50 บาทผ่านทางคนขายแฮปปี้ออนไลน์ทั่วประเทศและ E-Channels เช่น บริการผ่านธนาคาร และเคาน์เตอร์บริการ รวมทั้ง iRefill บนเว็บไซต์ดีแทค ตั้งแต่วันที่ 1-31มีนาคม 2556 สามารถมีสิทธิ์เข้าร่วมรับรางวัลได้โดยไม่ต้องสมัคร การเติมเงินเพียง 50 บาท 1 ครั้งถือเป็น 1 สิทธิ์ โดยสิทธิ์จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนเงินที่เติมต่อครั้ง เช่น ลูกค้าที่เติมเงิน 200 บาทต่อครั้งจะได้รับ 4 สิทธิ์ บริษัทฯ จะจับฉลากมอบรางวัล Samsung Galaxy GRAND มูลค่า 11,900 บาททุกวัน รวม 31 รางวัลแก่ผู้โชคดีรวมมูลค่า368,900 บาท ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและการประกาศผลรางวัลได้ที่ www..co.th

View :1451

ดีแทคแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศของสำนักงาน กสทช.

January 31st, 2013 No comments

: ความคืบหน้าการปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และ ประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

กรุงเทพฯ — 30 มกราคม 2556 – ดีแทคแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศของสำนักงาน ใน 3 เรื่องสำคัญ ดังนี้

1. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ.2555

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2556 บริษัทฯ ได้มีหนังสือชี้แจงถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีเนื้อหาระบุว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่ชัดเจนในการปฏิบัติตามกฏหมาย และกฏระเบียบต่างๆ ของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้บริโภค โดยไม่มีการละเลยหรือเพิกเฉยแต่อย่างใด ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พยายามปฎิบัติตามประกาศ สำนักงาน กสทช.เรื่องอัตราขั้นสูงดังกล่าวอย่างที่สุด โดยนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 เป็นต้นมา บริษัทฯ ได้นำเสนอรายการส่งเสริมการขายใหม่ (package) หลายรายการ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการในประกาศฯ ของสำนักงาน กสทช. และเพื่อเป็นการนำเสนอทางเลือกให้กับผู้บริโภค อาทิ ซิม 2499 – วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 ซิม 15-16 ใหม่ – วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 ซิม ปาท่องโก๋ – วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555
ในส่วนของรายการส่งเสริมการขายจำนวน 33 รายการ ตามที่สำนักงาน กสทช.ได้แจ้งมานั้น บริษัทฯ ได้พิจารณาแล้ว และยินดีที่จะให้ความร่วมมือเพิ่มเติม ด้วยการการเปลี่ยนแปลงให้มีอัตราค่าบริการไม่เกินกว่าที่สำนักงาน กสทช.กำหนด จำนวน 11 รายการ อีกจำนวน 5 รายการ ซึ่งได้วางจำหน่าย และเปิดให้บริการมาเป็นเวลานานมากแล้ว บริษัทฯ จะยุติรายการต่างๆ ดังกล่าว ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 17 รายการ นั้น บริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าทั้ง 17 รายการดังกล่าว หากทำการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ หรือเงื่อนไขในการให้บริการ หรือยุติรายการต่างๆ ดังกล่าวในทันที ก็จะมีผลกระทบต่อการใช้บริการของลูกค้าของบริษัทฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรายการต่างๆ ดังกล่าว เป็นการนำเสนอบริการในลักษณะ Bundle ทั้งในระบบเสียง การรับส่งข้อความ (sms) การรับส่งข้อมูล (data) และการใช้งานอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอัตราค่าบริการในระบบเสียงต่อนาทีไม่เกินกว่าที่สำนักงาน กสทช.กำหนดอยู่แล้ว ซึ่งในกรณีนี้ บริษัทฯ จึงขอให้ กสทช. พิจารณาผ่อนปรนให้บริษัทฯ สามารถให้บริการตามรูปแบบและอัตราค่าบริการเดิมตามข้อตกลงที่มีอยู่เดิมกับลูกค้า ไปจนกว่ารายการส่งเสริมการขายนั้นๆ จะสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้บริการที่ใช้บริการจากทั้ง 17 รายการดังกล่าว มีความประสงค์จะเปลี่ยนแปลงรายการส่งเสริมการขาย ผู้ใช้บริการนั้นๆ ก็จะสามารถทำการเปลี่ยนรายการได้ด้วยตนเองผ่านทาง IVR *1003 ศูนย์รวมโปรโมชั่น หรือสามารถแจ้งความประสงค์ไปยังหมายเลข 1678 เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงรายการได้

2. เรื่องการปฎิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรรและบริหารเลขหมายโทรคมนาคม พ.ศ.2551 (“ประกาศ กทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรรและบริหารเลขหมายโทรคมนาคม”) หรือ การลงทะเบียนหมายเลข ในรูปแบบเติมเงิน (prepaid)

บริษัทฯ สนับสนุนและยินดีปฎิบัติตามแนวทางที่สำนักงาน กสทช.ได้กำหนด โดยบริษัทฯ ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Prepaid ในส่วนข้อมูลเลขบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 13 หลัก เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2556 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าซื้อซิมการ์ด Prepaid บริษัทฯ ได้ดำเนินการลงทะเบียนและจัดเก็บข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Prepaid เพียงเลขบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 13 หลักทันที ผ่านช่องทาง Center และที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้จัดทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ค้าส่งและและกระจายสินค้า คู่ค้า และผู้ค้าปลีกผ่านผู้กระจายสินค้ารายใหญ่
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ พบว่า มีอุปสรรคอย่างยิ่งในการดำเนินการ เนื่องจากผู้ใช้บริการบางส่วนเท่านั้นที่ยินยอมให้บริษัทจัดเก็บสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ใช้บริการ ส่งผลให้การดำเนินการของบริษัทในส่วนนี้ไม่สามารถดำเนินการได้สมบูรณ์ครบถ้วน

ในเรื่องนี้ บริษัทฯ ใคร่ขอให้สำนักงาน กสทช. ทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภค ได้ทราบอย่างทั่วถึง เกี่ยวกับประกาศของสำนักงาน กสทช. ในเรื่องนี้ เพื่อที่ผู้บริโภคจะได้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของประกาศ และเพื่อผู้บริโภคจะได้นำบัตรประชาชนติดตัวมาด้วย สำหรับการจดทะเบียน ซื้อซิมการ์ด แบบ prepaid

3. เรื่องการปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 (“ประกาศ กทช. เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม”) หรือ การไม่ให้มีวันหมดอายุสำหรับ หมายเลขโทรศัพท์ ประเภทบัตรเติมเงิน

บริษัทฯ ได้มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงาน กสทช.ว่าบริษัทฯ มีนโยบายที่ชัดเจนที่จะปฎิบัติตามกฎหมายและทั้งยินดีให้ความร่วมมือทุกประการที่พึงกระทำได้ บริษัทฯ จะให้ความร่วมมือกับสำนักงาน กสทช.โดยการจัดให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลักษณะที่เรียกเก็บค่าบริการเป็นการล่วงหน้า (prepaid) หรือแบบเติมเงินตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2556 เป็นต้นไปจะได้รับระยะเวลาใช้งานจำนวน 30 วันต่อการเติมเงินทุกมูลค่า

ล่าสุด วันที่ 30 มกราคม 2556 บริษัทฯ ได้มีหนังสือที่นำเสนอเงื่อนไขการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ประเภทพรีเพด โดยมีเนื้อหาสำคัญว่า บริษัทฯ จะจัดให้ผู้ใช้บริการได้รับระยะเวลาใช้งานจำนวนไม่น้อยกว่า 30 วัน ต่อการเติมเงินทุกมูลค่า จนกว่า กทค.จะได้พิจารณาให้ความเห็นชอบในข้อเสนอและเงื่อนไขของบริษัทฯ และในการเติมเงินเข้าสู่ระบบทุกครั้ง บริษัทฯ จะนับระยะเวลาการใช้งานที่ผู้ใช้บริการได้รับ รวมกับระยะเวลาที่เหลืออยู่ รวมระยะเวลาสูงสุดได้ 365 วัน สำหรับเงื่อนไขอื่นๆ ในการรักษาหมายเลขโทรศัพท์ นั้น บริษัทฯ จะได้ปรึกษาหารือกับสำนักงาน กสทช. ต่อไป

ทั้งนี้ การปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว อาจะทำให้บริษัทฯ และผู้ประกอบการอื่นๆ ต้องประสบปัญหาขาดแคลนเลขหมายที่จะนำมาให้บริการ เนื่องจากในภาพรวมของภาคธุรกิจโทรคมนาคม มีหมายเลขโทรศัพท์ที่ผู้ใช้บริการไม่ได้ใช้บริการใดๆ ประมาณวันละ 100,000 เลขหมาย หรือ ประมาณปีละ 36.5 ล้านหมายเลข ดังนั้น ในหนังสือชี้แจง บริษัทฯ จึงได้ขอให้ กสทช. ได้พิจารณาจัดสรรเลขหมายเพิ่มเติมให้แก่บริษัทฯ และผู้ประกอบการรายอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษด้วย

View :1489

ดีแทครายงานยอดส่งความสุขปี 2556 ดาต้าฮิตโตกว่า 200% ตามกระแสสมาร์ทโฟนบูมรับ 3G

January 2nd, 2013 No comments

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น () เปิดเผยว่าสถิติการส่งความสุขในช่วงเคาท์ดาวน์และอวยพรปีใหม่ 2556 ของลูกค้าดีแทคฮิตส่งผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กมากเป็นประวัติการณ์ตามกระแสสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตบูมในช่วงปีที่ผ่านมา โดยยอดการใช้งานดาต้าของลูกค้าดีแทคผ่านเครือข่าย 3Gเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 200% โดยนิยมอวยพรปีใหม่ผ่าน Facebook, Twitter, Google+, Instagram, EyeEm, LINE และ WhatsApp เป็นต้น โดยมีพฤติกรรมการใช้งานหนาแน่นสูงสุดในช่วงเวลาประมาณ 22.00-22.15 น. เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ของเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ โดยมียอดสูงสุด ณ ช่วงเวลาหนึ่งสูงสุดถึง 1.3 ล้านราย (concurrent users) ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น และวัยเริ่มต้นทำงาน

“สำหรับการอวยพรผ่าน MMS ในปีนี้มียอดประมาณ 8 แสนข้อความ โดยเติบโตกว่าปีก่อนเล็กน้อยซึ่งพฤติกรรมการใช้งานได้ปรับเปลี่ยนสู่ยุค 3G ที่นิยมส่งผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตต่างๆ สำหรับ SMS มียอดอวยพรในช่วงนี้ประมาณ 40 ล้านข้อความ โดยมีการใช้งานหนาแน่นสูงสุดในช่วงเวลาประมาณ 00.00-01.00 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 2556 (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ม.ค. 2556 เวลา 8.00 น.) โดยทิศทางผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในยุค 3G จะเริ่มปรับพฤติกรรมการส่งอวยพรปีใหม่ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กมากกว่า ซึ่งปรับตัวเป็นไปตามทิศทางของผู้ใช้งานทั่วโลกที่ใช้ SMS บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และนอกจากนั้นผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนจากดีแทคยังมีการใช้งานแพ็กเก็จที่คุ้มค่าอยู่แล้ว” นายปกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เมื่อ 25 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา มียอดการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมียอดการใช้งานเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% และ MMS เพิ่มขึ้นกว่า 4.5% หรือกว่า 2 แสนข้อความ สำหรับยอดการส่ง SMSยังเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย หรือมียอดกว่า 10 ล้านข้อความ

ดีแทคได้อัพเกรดยกระดับโครงข่ายทั่วประเทศทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยเพื่อรองรับการใช้งานต่างๆ โดยสัญญาณใหม่ (new network) ของดีแทคได้เป็นพื้นฐานของโครงสร้างโครงข่ายที่สำคัญที่พร้อมจะอัพเกรดสู่เทคโนโลยีการสื่อสารแห่งอนาคตในรูปแบบอื่นๆ ได้ทันที โดยคุณภาพของสัญญาณใหม่ที่ดีแทคลงทุนได้ครอบคลุมทั่วพื้นที่โดยเป็น 2G กว่า 10,000 สถานีฐาน และเป็น 3G อีกกว่า 5,000 สถานีฐานทั่วประเทศอีกด้วย.

View :1481