Archive

Archive for February, 2011

  ทิศทางใหม่ SIPA ปี 2554 “ Beyond ICT New Landscape ” พร้อมลุยสร้างคน สร้างงาน สร้างเงิน

February 10th, 2011 No comments

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า เปิดแถลงข่าวโชว์ทิศทางใหม่ ปี 2554 และพร้อมเปิดตัว 4 โครงการใหญ่ เน้นการสร้างคน สร้างงาน และสร้างเงิน สร้างรากฐานซอฟต์แวร์ไทย พร้อมก้าวไกลสู่ระดับสากล

ดร. ศุภชัย ตั้งวงศ์ศานต์ ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า ซิป้าได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ในการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยว่า “ซิป้า จะนำพาประเทศไทย สู่เวทีซอฟต์แวร์โลก” (Stage Thailand as a Global Player in Software Industry) โดยมีแนวนโยบายเร่งด่วนคือ การสร้างคน สร้างงาน และสร้างเงินใน 3 เดือนแรกของ ยุคใหม่ กลยุทธ์ที่สำคัญคือการสร้างคนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะการสร้างคนในภูมิภาค การรับฟังปัญหาและความต้องการของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกลุ่มต่างๆ และการส่งเสริมผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ให้มีเงินทุนในการพัฒนา ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้เกิดการผลิตซอฟต์แวร์ที่ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่ Tourism, Health Care, Food, Education, Logistics และ Jewelry
         
          “ภาครัฐต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพบุคลากรเพื่อป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมและให้ทุนสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจจนขยายตัวเติบโตได้  นอกจากนี้ยังต้องส่งเสริมให้ภาครัฐใช้ซอฟต์แวร์ที่ผลิตขึ้นโดยคนไทย   ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการซอฟต์แวร์เองก็ต้องมีความพร้อมทั้งศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทักษะทางด้านการบริหารจัดการทางธุรกิจ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ความรู้ด้านการตลาดจึงจะทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้”
 
ในส่วนของการดำเนินโครงการต่างๆ ในปีนี้ซิป้า ได้เริ่มดำเนินโครงการสำคัญเร่งด่วน 4 โครงการที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น โดยใน 4 โครงการนี้ ได้แก่ ๘๔ โครงการ ๘๔ พรรษา มหาราชันย์ โครงการพัฒนาบุคลากรด้านซอฟต์แวร์เพื่อป้อนสู่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยในทุกภูมิภาค โครงการ SoftEx@SIPA  และการส่งเสริมให้ภาครัฐใช้ซอฟต์แวร์ที่ผลิตขึ้นโดยคนไทย 
 
นายสันติ  สุรรัตน์ รักษาการผู้อำนวยการซิป้า กล่าวว่า “สำหรับ ๘๔ โครงการ ๘๔ พรรษา มหาราชันย์นี้ ซิป้าได้ริเริ่มขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา  ๗  รอบ  ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔  ซึ่งเป็นโครงการที่ให้ทุนสำหรับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก และผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ขนาดกลางเพื่อนำไปพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่หรือนำไปต่อยอดซอฟต์แวร์ที่มีอยู่เดิม โดยใช้ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะ และประสบการณ์ทางเทคโนโลยีหรือการจัดการมาพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงขึ้น มีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้น ซึ่งในขณะนี้ซิป้ากำลังเร่งดำเนินการเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ และจะเริ่มประชาสัมพันธ์เปิดรับสมัครขอรับทุนในเร็วๆ นี้

 โครงการพัฒนาบุคลากรด้านซอฟต์แวร์เพื่อป้อนสู่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยในทุกภูมิภาค ซิป้าได้มีการติดต่อประสานงานไปยังภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งผลคาดว่าจะได้นิสิต นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการและสำเร็จพร้อมเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม 1,200 ราย ประเมินเป็นมูลค่างาน ประมาณ 18 ล้านบาท  อันเป็นผลสืบเนื่องจากผู้อบรมได้รับรายได้ในช่วงการทำงานเดือนแรก (เงินเดือนสูงกว่ามาตรฐาน) 10-20%

สำหรับจำนวนบุคลากรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เบื้องต้นพบว่าภาคการศึกษาจะส่งบุคลากรเข้าร่วม จำนวน 1,350 คน ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในภูมิภาคมีสนใจร่วมโครงการโดยมีความต้องการ จ้างงานและ Outsource งานให้กับบุคลากรที่ผ่านการอบรมจากโครงการนี้จำนวน 405 ตำแหน่ง ซึ่งแสดงถึงผลการตอบรับอย่างดีในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังรอข้อมูลความต้องการจากภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในกรุงเทพฯ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ ตลอดจนภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ก็ยังมีความสนใจในการส่งบุคลากรเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง

การจัดกิจกรรม SoftEx@SIPA เป็นการสร้างเครือข่ายในการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อสำรวจความต้องการใช้ซอฟต์แวร์ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวน 6 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ Tourism, Health Care, Food, Education, Logistics และ Jewelry ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศสูง  นอกจากนี้ยังสำรวจความต้องการการใช้งานเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์นำไปพัฒนาเพื่อตอบสนองให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละอุตสาหกรรมให้มากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพบริการของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม สำหรับการดำเนินโครงการ SoftEx@SIPA นั้น ได้ดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ทั้งสิ้น 5 Cluster ได้แก่ Logistics, Health Care, Food, Tourism และ Education ซึ่งได้รับความสนใจอย่างดีทั้งจากตัวแทนในภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการซอฟต์แวร์         โดยมีกำหนดการจัดงาน SoftEx  สำหรับอุตสาหกรรม Jewelry ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้

          นอกจากนี้ซิป้ายังมีโครงการสนับสนุนส่งเสริมผู้ประกอบการทางด้านการตลาดต่างประเทศ  โครงการ ร่วมกับ SME Bank ในการปล่อยสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย และความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีและสนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้ในการพัฒนาผลงานซอฟต์แวร์ผ่านทาง TDCC หรือ Thailand   Digital Content Center อีกด้วย

View :1649
Categories: Press/Release Tags:

เทเลนอร์ประกาศผลการดำเนินงานแข็งแกร่งในปี 2553

February 10th, 2011 No comments


ข้อมูลทางตัวเลขที่สำคัญ
ตารางด้านล่างรวบรวมรายละเอียดข้อมูลทางตัวเลขหลักๆ ในไตรมาสที่สี่ของปี 2553 รวมทั้งข้อมูลรวมทั้งปี เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า

ผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของเทเลนอร์ กรุ๊ป ยังคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยรายได้ 24,900 ล้านโครนนอร์เวย์ (132,647 ล้านบาท) โดยเติบโตจากเดิมร้อยละ 8 ทั้งยังมีผลกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 7,200 ล้านโครนนอร์เวย์ ( 38,355 ล้านบาท) และมีอัตราการทำกำไร (EBITDA margin) ร้อยละ 29 โดยมีกระแสเงินสดอยู่ที่ร้อยละ 14 ในส่วนของผลประกอบการโดยรวมของปี 2553 กรุ๊ป มีรายได้รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 94,800 ล้านโครนนอร์เวย์ (505,018 ล้านบาท) มีอัตราการทำกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมคิดเป็นร้อยละ 31 พร้อมทั้งมีกระแสเงินสดคิดเป็นร้อยละ 19 นอกจากนี้ เทเลนอร์ยังมียอดผู้ลงทะเบียนใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 ถึง 8 ล้านคน และเพิ่มขึ้นถึง 23 ล้านคนระหว่างปี 2553

“เทเลนอร์ ตอกย้ำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงานของบริษัทฯ ในฐานะหนึ่งในบริษัททางด้านโทรคมนาคมที่เติบโตเร็วที่สุด ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8 กอปรกับการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ โดยในปี 2553 เทเลนอร์ กรุ๊ป มีกระแสเงินสดหมุนเวียนถึง 18,000 ล้านโครนนอร์เวย์ (95,889 ล้านบาท) เสริมด้วยรายได้ก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมที่แข็งแกร่ง” มร. จอน เฟรดริค บัคซอส ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป กล่าว

ค่าตอบแทนผู้ถือหุ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
“การซื้อคืนหุ้นในปี 2553 เสร็จสิ้นลงในไตรมาสที่ 4 โดยการจ่ายเงินปันผลในเดือนพฤษภาคมปี 2553 ส่งผลให้เกิดการจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นสูงสุดในประวัติศาสตร์เป็นเงิน 9,000 ล้านโครนนอร์เวย์ (47,944 ล้านบาท) และด้วยผลการดำเนินงานที่เข้มแข็ง คณะผู้บริหารและคณะกรรมการบริหารจึงเสนอให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 3.80 โครนนอร์เวย์ต่อหุ้น โดยนับเป็นอัตราส่วนการจ่ายเงินปันผลในสัดส่วนที่สูงมาก” บัคซอส กล่าวเสริม

มุ่งเน้นผลปฏิบัติการที่เป็นเลิศ
“โปรแกรมการสร้างการปฏิบัติการที่เป็นเลิศของบริษัทฯ ยังคงคืบหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่เราประกาศไว้ในปี 2553 เราคาดหวังที่จะได้เห็นผลลัพธ์ในระยะยาวจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาระบบเครือข่าย โดยเป้าหมายสูงสุดของเราคือการเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าผู้ใช้งานด้วยการบริการที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ” บัคซอสกล่าว

การดำเนินงานในเอเชียเติบโตขึ้นอีกร้อยละ 13 ขณะที่ผลการดำเนินงานในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียและยุโรปตะวันออกและยุโรปกลางอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ
บัคซอส กล่าวว่า “รายได้จากการดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียเติบโตขึ้นร้อยละ 13 ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2553 ในขณะที่มีกระแสเงินสดมากกว่า 10,000 ล้านโครนนอร์เวย์ (53,272 ล้านบาท) โดยบริษัท ยูนินอร์ ในประเทศอินเดีย มียอดผู้ลงทะเบียนใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นกว่าสี่ล้านคนในไตรมาสสุดท้ายของปี นอกจากนี้ ผมยังยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับทราบว่าแผนการทำตลาดของเรานั้นยังคงพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยตลาดอินเดียนับเป็นตลาดที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ผนวกกับสภาพแวดล้อมที่ต้องเกี่ยวข้องกับกฎข้อบังคับเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้ เรากำลังมุ่งมั่นผลักดันให้ยูนินอร์เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ต้นทุนต่ำ”

“ผมรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างยิ่งต่อผลการดำเนินงานของเทเลนอร์ กรุ๊ป ในภูมิภาคเอเชียประจำปี 2553 ตลอดปีที่ผ่านมา ฐานลูกค้าของเทเลนอร์ กรุ๊ป ในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นกว่า 23 ล้านคน โดยนอกเหนือไปจากการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานแล้ว ภูมิภาคเอเชียยังมีกระแสเงินสดมากกว่า 10,000 ล้าน
โครนนอร์เวย์ (53,272 ล้านบาท) นั่นทำให้ปี 2553 เป็นหนึ่งในปีที่ดีที่สุดของเทเลนอร์ตลอดการดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียมากว่า 15 ปี” มร. ซิคเว่ เบรกเก้ รองประธานบริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ เอเชีย

วิมเพิลคอม
“เดือนมกราคม ปี 2553 คณะกรรมการกำกับดูแลของวิมเพิลคอมได้อนุมัติการควบรวมบริษัท วินด์ เทเลคอม โดยคณะผู้บริหารได้เตรียมจัดการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการออกหุ้นใหม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เทเลนอร์ได้ตัดสินใจคัดค้านการดำเนินงานดังกล่าว เนื่องด้วยจากมุมมองของเทเลนอร์ การควบรวมดังกล่าวไม่ได้ส่งผลดีต่อวิมเพิลคอมไม่ว่าจะในแง่ของกลยุทธ์หรือการเงิน และเทเลนอร์เชื่อว่าวิมเพิลคอมควรให้ความสำคัญต่อการทำตลาดในรัสเซียมากกว่า เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2554 เทเลนอร์จึงได้ใช้อนุญาโตตุลาการต่อวิมเพิลคอมและอัลติโมเพื่อรักษาสิทธิ์ของเทเลนอร์ไว้ และเพื่อป้องกันการแทรกแซงบริษัทหากข้อตกลงทางธุรกิจดังกล่าวบรรลุผล” บัคซอสอธิบาย

View :1457

ก.ไอซีที ลงนามสัญญาเดินหน้าตั้งศูนย์ฯ ICT ชุมชนเพื่อ พ่ อหลวง 1,000 แห่งทั่วประเทศ

February 9th, 2011 No comments

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามสัญญา ซื้อขายครุภัณฑ์และวัสดุสำนักงาน “ โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน เพื่อพ่อหลวง จำนวน 1,000 ศูนย์ ” ว่า เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษามหาราชา และ 80 พรรษามหาราชินี ที่เวียนมาบรรจบในปี 2554 นี้ กระทรวงฯ จึงได้ร่วมเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ด้วยการจัดทำโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน เพื่อพ่อหลวง จำนวน 1 , 000 ศูนย์ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สารของประชาชน ส่งเสริมให้มีการพัฒนาสังคมอย่างเท่าเทียม รวมทั้งเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สารในด้านต่างๆ ของชุมชน ตลอดจนการเข้าถึงบริการภาครัฐ (e-Service) และการ แลกเปลี่ยนความรู้แบ่งปันประสบการณ์ระหว่างชุมชนได้โดยทั่วกัน

“การจัดทำโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชนเพื่อพ่อหลวง นี้ นอกจากจะเป็นการร่วมเทิดพระเกียรติฯ เนื่องในปีมหามงคลแล้ว ยังเป็นการสนองนโยบายของ รัฐบาลที่ ต้องการ ผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมแห่งภูมิปัญญา และการเรียนรู้ ( Knowledge Based Society) ตลอด จนเพื่อให้เป็นไปตามสังคมโลกที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อ สารอย่างแพร่หลาย ดังนั้น กระทรวงฯ ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีภารกิจในการผลักดันสังคมไทยเข้าสู่ยุคสังคมแห่ง ภูมิปัญญาและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจึงได้ดำเนินโครงการดังกล่าวขึ้นใน บริเวณชุมชนและศาสนสถาน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดกิจกรรมหลากหลาย อันเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของเด็ก เยาวชน และประชาชนในชุมชน ให้สามารถแสวงหาความรู้ด้วยตนเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต” นางจีราวรรณ กล่าว

โดยภายหลังจากที่กระทรวงฯ ได้ประกวดราคาการจัดซื้อครุภัณฑ์และวัสดุสำนักงานในโครงการฯ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Auction) แล้ว ปรากฏว่า บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคาทั้ง 3 กลุ่ม ในวงเงินประมาณ 356 ล้านบาท ทำให้กระทรวงฯ สามารถประหยัดวงเงินงบประมาณได้กว่า 102 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 22.24 % และในวันนี้ (9 ก.พ.) กระทรวงฯ จึงได้จัดพิธีลงนามสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์และวัสดุสำนักงานโครงการดังกล่าว ร่วมกับบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่นฯ เพื่อให้ดำเนินการสร้าง ศูนย์คอมพิวเตอร์ให้แก่ชุมชนในภาคส่วนต่างๆ ณ สถานที่ที่เหมาะสม จำนวน 1 , 000 ศูนย์ โดยจะแบ่งพื้นที่การดำเนินงานออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ดำเนินการในพื้นที่เขตจังหวัดภาคเหนือทั้งหมดและภาคกลางบางส่วน จำนวน 320 ศูนย์ กลุ่มที่ 2 ดำเนินการในพื้นที่เขตจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด จำนวน 330 ศูนย์ และกลุ่มที่ 3 ดำเนินการในพื้นที่เขตจังหวัดภาคใต้ทั้งหมดและภาคกลางบางส่วน จำนวน 350 ศูนย์

และกระทรวงฯ จะได้มีการคัดเลือกชุมชนขนาดใหญ่ เพื่อจัดตั้งศูนย์ฯ ขนาด L พร้อม ติดตั้งไมโครคอมพิวเตอร์ประมวลผลทั่วไป เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ ตลับหมึกสำรอง ระบบเครือข่ายและอุปกรณ์ Web Camera พร้อม Stereo Headset เครื่อง ไฟฟ้าสำรอง โต๊ะวางคอมพิวเตอร์ เก้าอี้ ป้ายชื่อศูนย์ อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รวมถึงการติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ให้พร้อมสำหรับการใช้งาน เป็นต้น ซึ่งตามสัญญาจ้างกำหนดให้บริษัทฯ ส่งมอบและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน หลังการลงนามสัญญา

“ในการดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน นี้ กระทรวงฯ มุ่งหวังที่จะขยายช่องทางการใช้ระบบบริการภาครัฐไปสู่ ส่วนท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพการให้บริการอินเทอร์เน็ตทั้งทางด้านข้อมูลข่าวสารและ เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งการลดช่องว่างในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ และให้ประชาชนในท้องถิ่นมีการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกระทรวงฯ ได้เริ่มดำเนินโครงการฯ มาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2550 โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ปีงบประมาณ 2550 จัดตั้งได้ 20 ศูนย์ ปีงบประมาณ 2551 จัดตั้งได้ 40 ศูนย์ ปีงบประมาณ 2552 จัดตั้งได้อีก 219 ศูนย์ และปีงบประมาณ 2553 จัดตั้งเพิ่มอีก 600 ศูนย์ ให้กระจายตัวออกไปในระดับอำเภอทั่วประเทศ” นางจีราวรรณ กล่าว

View :1405
Categories: Press/Release Tags: ,

ก.ไอซีที ลงนามสัญญาฯ จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน เพื่อพ่อหลวง 1,000 ศูนย์

February 9th, 2011 No comments

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทร วงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานพิธีลงนามสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์และวัสดุสำนักงาน “ โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน เพื่อพ่อหลวง จำนวน 1,000 ศูนย์” ระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ณ ห้องประชุม 803 ชั้น 8 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ โดยกระทรวงฯ ได้ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน เพื่อพ่อหลวง จำนวน 1 , 000 ศูนย์ เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษามหาราชา และ 80 พรรษามหาราชินี ที่เวียนมาบรรจบในปี 2554 นี้ ซึ่งได้จัดให้มีการประกวดราคาการจัดซื้อครุภัณฑ์และวัสดุสำนักงานในโครงการ ดังกล่าว ด้วยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Auction) และปรากฏว่า บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคาในวงเงิน ประมาณ 356 ล้านบาท ทำให้กระทรวงฯ สามารถประหยัดวงเงินงบประมาณได้กว่า 102 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 22.24 %

View :1441
Categories: Press/Release Tags: ,

เอซุส  ปลื้มยอดขายโตสวนกระแส เปิดกลยุทธ์เชิงรุกปี 2554 เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด มั่นใจขึ้นแท่นอันดับ 2 ตลาดโน้ตบุ๊ก ภายใน 2 ปี

February 9th, 2011 No comments

ยักษ์ใหญ่ “เอซุส” ยึดตำแหน่งผู้นำยอดขายอันดับ 1 ตลาดมาเธอร์บอร์ด แบบไร้คู่แข่ง พร้อมชิงส่วนแบ่งยอดขายอันดับ 2 ตลาดโน้ตบุ๊กในประเทศไทยมาครองได้สำเร็จ ในไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา “บอสใหญ่” เผย ช่องทางตลาดเอซุสยังโตได้อีก ตั้งเป้าปี 2554 เพิ่มส่วนแบ่งของตลาดคอมเมอร์เชียล และตลาดต่างจังหวัดเท่าตัว มั่นใจในกลยุทธ์ที่วางไว้ สามารถขึ้นอันดับ 2 ตลาดโน้ตบุ๊กภายใน 2 ปี
 
นายพรเทพ  วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ผลประกอบการในปี 2553 ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ สวนกระแสจากผลกระทบของปัญหาทางการเมืองในช่วงไตรมาส 2 ที่มีผลต่อตลาดไอทีที่ซบเซา โดยมียอดจำหน่ายรวมตลอดทั้งปี ประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊กที่มียอดขายรวมกันในไตรมาส 3 สูงจนสามารถมีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 2 ของตลาดโน้ตบุ๊กในไทย อีกทั้งมาเธอร์บอร์ดก็ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 55%”
 
 “สัดส่วนรายได้แต่ละกลุ่มธุรกิจในปี 2553 นายพรเทพกล่าวว่า “กลุ่ม System Business Unit ประกอบด้วยโน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊ก มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 65% ของรายได้รวม รองลงมาคือกลุ่ม Open Platform Business Unit ประกอบด้วย มาเธอร์บอร์ด วีจีเอ การ์ด จอแอลซีดี อุปกรณ์ไร้สาย และอุปกรณ์เครือข่าย สัดส่วนรายได้ประมาณ 33% ส่วนกลุ่มสุดท้ายเป็นกลุ่ม Handheld Business Unit มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 2% จากรายได้รวมของเอซุสในปี 2553”
 
สำหรับปี 2554 วางเป้าหมายเติบโตไว้ที่ 60% โดยในกลุ่ม System Business Unit วางแผนเติบโตขึ้น 85% ส่วน Open Platform Business Unit คาดว่ายอดขายจะสามารถเพิ่มขึ้นอีก 25%
 
“ส่วนโรดแม็พสินค้าในกลุ่มโน้ตบุ๊กและอีพีซีในช่วงครึ่งปีแรก เราจะเน้นทำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ N, G, และ U ซีรี่ส์ พร้อมทั้งเน้นการดีไซน์ให้มีสีสันมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์อีแพ็ดเข้ามาแข่งขันในตลาดแท็บเล็ตประเทศไทยอีก 2 รุ่น คือ อีแพ็ด-ทรานส์ฟอเมอร์ และ อีแพ็ด-สไลเดอร์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมไฮไลท์ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลก หลังจากเปิดตัวในงาน CES 2011 ที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกามาแล้ว และคาดว่าแฟนๆในไทยก็ตั้งตารอการมาของนวัตกรรมนี้อยู่เช่นเดียวกัน”
 
“ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดในปีนี้ จะมาพร้อมเทคโนโลยี Dual Intelligent Processors 2 เพื่อควบคุมการใช้พลังงานและประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้นกว่ามาเธอร์บอร์ดทั่วไป และยังผสานเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะจากเอซุสอีกมากมาย นอกจากนี้ เอซุสยังได้พัฒนามาเธอร์บอร์ดรุ่นใหม่ที่ใช้ P67 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตใหม่ล่าสุดอีกหลากหลายรุ่น อาทิ Republic of Gamers (ROG), Maximus IV Extreme, TUF Series SABERTOOTH P67 และ P8P67 WS Revolution ซึ่งล้วนนำเสนอประสิทธิภาพแห่งนวัตกรรมเพื่อเป็นคำตอบแรกและคำตอบสุดท้ายสำหรับผู้ใช้ที่มองหาประสิทธิภาพและ ความเสถียรภาพที่เชื่อถือได้โดยเฉพาะ” นายพรเทพกล่าว
 
“ในปีนี้ เอซุสโน้ตบุ๊กเน้นทำตลาดคอร์ปอร์เรทอย่างจริงจัง ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากเดิมที่มีอยู่ประมาณให้เป็น 15% ในปีนี้ พร้อมทั้งเปิด เอซุส คอร์เนอร์ ช็อป เพิ่มมากขึ้นทั้งในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด” นายพรเทพ กล่าวเสริมในช่วงท้าย

View :1284
Categories: Press/Release Tags:

รมว.ไอซีที นำทีมมอบรถเข็นและอุปกรณ์การแพทย์ช่วยเหลือคนพิการ

February 8th, 2011 No comments

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานมอบรถเข็นและอุปกรณ์การแพทย์ให้คนพิการด้านความเคลื่อนไหว ณ ทรัพย์ไพรวัลย์ แกรนด์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดพิษณุโลก กิจกรรม การมอบรถเข็นและอุปกรณ์การแพทย์ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงไอซีที บมจ.กสท โทรคมนาคม และกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เพื่อร่วมกันช่วยเหลือคนพิการในให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิพัฒนาการเด็ก ราชนครินทร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มูลนิธิคนพิการของประเทศสหรัฐอเมริกา อาสาสมัครจากประเทศเบลเยี่ยม เยอรมัน และเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังมี นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ กรรมการบริหาร บมจ.กสทฯ ผู้แทนจากกรมสุขภาพจิต และผู้แทนหน่วยงานองค์กรเอกชนจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย สำหรับอุปกรณ์การแพทย์ที่มอบให้คนพิการครั้งนี้ ได้แก่ รถเข็น วอรค์เกอร์นำทางเดิน เก้าอี้อาบน้ำคนพิการ ไม้ยันรักแร้ เก้าอี้สุขภัณฑ์ รวมมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท

View :1417

เอ็นซี ทรู ผนึก เรดบูลเอ็กซ์ตร้า ลุยตลาด E-Sport เฟ้นหาเกมเมอร์แข่งทัวร์นาเมนต์ระดับโลก ชิงเงินรางวัลกว่าล้านบาท

February 8th, 2011 No comments

ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ Point Blank สุดยอดเกม FPS อันดับ 1 ของไทย จับมือ เรดบูลเอ็กซ์ตร้า ระเบิดทัวร์นาเมนท์ฟอร์มยักษ์ “PB Thailand Tournament 2011 presented by Red Bull Extra” เฟ้นหาเกมเมอร์ แนว First Person Shooting (FPS) ตัวแทนเกมเมอร์ไทยแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ระดับโลก ชิงเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท มุ่งผลักดันเกมเมอร์ไทยก้าวสู่นักกีฬา E – SPORT เต็มตัว

นายปิยดรุณ กัลยาณมิตร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท เอ็นซี ทรู จำกัด เปิดเผยว่า “เอ็นซี ทรู ตอกย้ำผู้นำตลาดเกมออนไลน์ของประเทศไทย ร่วมกับ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเรดบูลเอ็กซ์ตร้า จัดการแข่งขันกีฬาเกมออนไลน์ประเภท First Person Shooting (FPS) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี “PB Thailand Tournament 2011 presented by Red Bull Extra” เฟ้นหาสุดยอดทีมนักกีฬาเกมออนไลน์จาก 5 ทัวร์นาเม้นท์ ชิงเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท พร้อมโอกาสเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ระดับโลก โดยการแข่งขันในปีนี้ มีการเพิ่มทัวร์นาเมนต์ใหม่ Junior Cup 2011 เข้าเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์หลัก เพื่อเป็นเวทีให้เกมเมอร์มือใหม่ที่ต้องการผันตัวเองเข้าสู่การแข่งขันกีฬา E-Sport มีโอกาสแสดงความสามารถ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีเกมเมอร์ทั่วประเทศเข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้กว่าหมื่นคน ”

นายสานิต หวังวิชา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเรดบูลเอ็กซ์ตร้า กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มเรดบูลเอ็กซ์ตร้า ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักในการแข่งขัน “PB Thailand Tournament 2011 presented by Red Bull Extra” เพื่อผลักดันเกมเมอร์ให้ก้าวสู่การเป็นนักกีฬาเกมออนไลน์เต็มรูปแบบ ซึ่งการแข่งขันดังกล่าวเปิดโอกาสให้นักกีฬาเกมออนไลน์แนว FPS ทั่วประเทศ ได้แสดงความสามารถในการวางแผนกลยุทธ์และใช้ทักษะแบบมืออาชีพ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางให้ผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มเรดบูลเอ็กซ์ตร้า เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ในตลาด E-Sport อีกด้วย ”

“นอกจากนี้ เอ็นซี ทรู และ เรดบูลเอ็กซ์ตร้า ยังผสานความร่วมมือกับ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ยักษ์ใหญ่แห่งธุรกิจไลฟ์สไตล์บันเทิงสำหรับชีวิตคนรุ่นใหม่ วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “เรดบูลเอ็กซ์ตร้า” รูปโฉมใหม่ลายเกม Point Blank ผ่านโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และ อีจีวี ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อส่งต่อความมันส์สู่เหล่าเกมเมอร์และร่วมกันขับเคลื่อนวงการ E-Sport ของไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล” นายปิยดรุณ กล่าวเสริม

สำหรับกติกาการแข่งขัน “PB Thailand Tournament 2011 presented by Red Bull Extra” นั้น จะเปิดให้แชมป์และรองแชมป์จากการแข่งขัน 5 ทัวร์นาเม้นท์ที่เปิดรับสมัครจากทั่วประเทศมาประชันฝีมือและความสามารถเพื่อคัดเลือกสุดยอดทีมแกร่ง โดยแบ่งทัวร์นาเมนท์ทั่วประเทศ ดังนี้

· PB King Cobra Cup 2011 presented by Red Bull Extra การแข่งขัน Death Match ศึกชิงราชาแห่งคมเขี้ยว เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 9-15 กุมภาพันธ์ 2554

· PB Café Striker 2011 presented by Red Bull Extra การแข่งขันชิงเจ้าแห่งการรบแบบ Mission ของนักรบร้านเน็ต เปิดรับสมัครครั้งแรก โดยเริ่มจากเขตภาคกลางและกรุงเทพฯ ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554

· PB Junior Cup 2011 presented by Red Bull Extra การแข่งขัน Death Match ของดาวรุ่งและนักกีฬาหน้าใหม่ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2554

· PB Devil War 2011 presented by Red Bull Extra การแข่งขัน Death Match เหล่าจอมปีศาจนักรบ PB เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2554

· PB Campus Cup 2011 presented by Red Bull Extra การแข่งขัน Death Match ของนักกีฬายุวชน เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2554

“สำหรับภาพรวมตลาดเกมออนไลน์ในปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 15-20% โดยมีมูลค่าตลาดกว่า 3,000 ล้านบาท และมีจำนวนผู้เล่นเกมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอัตราค่าบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่ลดลง ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ และอินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูงขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตขึ้น 10-15 % และในปีนี้บริษัทฯได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้ที่ 15-20 % ทั้งนี้ เอ็นซี ทรู มั่นใจว่า การแข่งขันในครั้งนี้จะช่วยเป็นโอกาสให้เกมเมอร์ได้พัฒนาความสามารถเพื่อก้าวสู่เส้นทางนักกีฬา E – SPORT อย่างแท้จริง” นายปิยดรุณ กล่าวสรุป

View :1367

TCS ควงสกอ.เฟ้นหาเยาวชนคุณภาพเก่ง Network Security อย่างมีจรรยาบรรณ

February 7th, 2011 No comments

สกอ. & TCS ผนึกกำลังเฟ้นหาเยาวชนระดับอุดมศึกษาฝีมือเยี่ยมด้าน Network Security เปิดเวทีประลองของแบบไม่จำกัดสาขาและคณะแห่งเดียวในเมืองไทย ครั้งที่ 5 พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกด้านการดูแลระบบเครือข่ายอย่างมีจรรยาบรรณ เผยโฉมทีมเด็กเก่งคว้ารางวัลทุนการศึกษา 5 หมื่นบาท

นายไพบูลย์ ชีวินศิริวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เดอะ คอมมูนิเคชั่น โซลูชั่น จำกัด (TCS) เปิดเผยว่า โครงการ Network Security Contest ซึ่งริเริ่มโดย TCS ร่วมกับสำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นอีกโครงการหนึ่งที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปีนี้นับเป็นปีที่ 5 แล้ว โดยมุ่งหวังส่งเสริม สนับสนุนและสร้างโอกาสให้กับเยาวชนในการแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระบบเครือข่ายนอกเหนือจากตำราเรียน เพื่อร่วมกันพัฒนาความรู้ความสามารถ ให้โอกาส และเปิดพื้นที่ให้แสดงออกในทางสร้างสรรค์ บนสนามประลองความสามารถด้านไอทีสำหรับเยาวชนระดับประเทศ โดยต้องคำนึงถึงเรื่องจรรยาบรรณเป็นสำคัญ

“Network Security หรือการป้องกันรักษาความปลอดภัยให้กับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปมีบทบาทหนึ่งที่สำคัญยิ่งต่อทุกองค์กร การพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีความเชี่ยวชาญและมีคุณภาพทาง ด้าน Network Security จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะบุคลากรเหล่านี้จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาวงการเทคโนโลยีสารสนเทศเครือข่ายให้ก้าวหน้าต่อไป” นายไพบูลย์ กล่าว

ทั้งนี้ Network Security Contest ครั้งที่ 5 ได้ขยายโครงการออกไปครอบคลุมทั่วประเทศในชื่อ ‘ Thailand’s Network Security Contest ครั้งที่ 5 ‘ และได้จัดการแข่งขัน พร้อมประกาศผลและมอบรางวัลเป็นทุนการศึกษาไปเมื่อเร็วๆ นี้

โดยโครงการ Thailand’s Network Security Contest ครั้งที่ 5 นี้ มีนิสิตนักศึกษาสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งสิ้น จำนวน 132 ทีม โดยคัดเหลือ 12 ทีมเพื่อเข้ามาชิงความเป็นหนึ่งด้าน Network Security ซึ่งมีทีมที่ได้รับรางวัลดังต่อไปนี้

รางวัลชนะเลิศ ทุนการศึกษา 50,000 บาท ได้แก่ ทีม Permanent ประกอบไปด้วย นายนรันต์ จรรยาวิลาส นายรุ่งโรจน์ จินตเมธาสวัสดิ์ และ นายณฐพล เหลืองสุวรรณ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ทุนการศึกษา 40,000 ได้แก่ ทีม Unyx ประกอบไปด้วย นายธนานนทร์ ศาลากิจ นายพัชร์พล อัศวชีวันธรกุล และ นายอัครเดช เติมเลิศมนัสวงษ์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทุนการศึกษา 30,000 ได้แก่ ทีม Anonymous ประกอบไปด้วย นายเสฏฐวุฒิ แสนนาม นายธนวัฒน์ ตั้งตระกูล และ นายปรัชญา บั้งทอง จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น

รางวัลชมเชย ทุนการศึกษา 5,000 บาท ได้แก่ ทีม ไหน ประกอบไปด้วย นายศราวุธ รุ่งเจริญกิจ นายพงษ์พิสิฐ์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ และ นายอามีน เจะเลาะ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

รางวัลชมเชย ทุนการศึกษา 5,000 บาท ได้แก่ ทีม มช.2 ประกอบไปด้วย นายปฏิพล มั่งคั่งคุณ นายพิชญ์มรรค สารีรัตน์ และนายภูวดล ตันนิติไพศาล จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

รางวัลชมเชย ทุนการศึกษา 5,000 บาท ได้แก่ ทีม Speed ประกอบไปด้วย นายจงสวัสดิ์ สายอร่าม นายวิศัลย์ ประสงค์สุข และนายวิวัฏฏะ มงคลจิตร จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น

สปิริตยอดเยี่ยม ได้แก่ ทีม Minimize ประกอบไปด้วย นายอิสระ รุ่งวิทยกุล นายณัฐิวุฒิ ตติยานุพันธ์วงศ์ และนายพงศกร เลิศเกียรติมงคล จากมหาวิทยาลัยมหิดล

สปิริตยอดเยี่ยม ได้แก่ ทีม Paor yoma ประกอบไปด้วย นายวรภณ ปรีชาสุนทรรัตน์ นายสันติภาพ อัมพวันวงศ์ และนายสมยาพร ยิ่งเจริญ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

สปิริตยอดเยี่ยม ได้แก่ ทีม Extra Ordinary#2 ประกอบไปด้วย นายณัฐกณฑ์ ชมพูพัทธิพงศ์ นายณัฐพล อภินันทน์ และนายฐานุตร์ ปิ่มหทัยวุฒิ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

สปิริตยอดเยี่ยม ได้แก่ ทีม Little Snail Bank ประกอบไปด้วย นายเกียรติศักดิ์ บรรเลงจิต นางสาวณัฐรุจา สุวรรณพรรค และนางสาวพนิดา ฉายารจิตพงศ์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

สปิริตยอดเยี่ยม ได้แก่ ทีม TSUBASA ประกอบไปด้วย นายสรัชา ทองคำพันธุ์ นางสาวนรัชญ์ธร อัศวศรีวรกุล และนายวรพล ตั้งก่อเกียรติกุล จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

สปิริตยอดเยี่ยม ได้แก่ ทีม Super User ประกอบไปด้วย นายวัลลภ สังข์แก้ว นายพันเลิศ ภัทรอนุวงศ์ และนายนูรุดดีน มะนอ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

การแข่งขัน Thailand’s Network Security Contest ครั้งที่ 5 นี้สำเร็จลงได้เพราะได้รับความกรุณาจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทุกท่านที่ได้สละเวลาอันมีค่าและทุ่มเทในการตัดสินอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อให้ได้ทีมที่เหมาะสมที่สุดกับรางวัลในครั้งนี้

สำหรับคณะกรรมการตัดสิน ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในวงการ Network ได้แก่ ผศ.วิชาญ เลิศวิภาตระกูล ผู้อำนวยการสำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา สำนักงานคณะ กรรมการการอุดมศึกษา ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ รศ.ดร.วีระศักดิ์ คุรุธัช คณบดีคณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหานคร รศ.สุรศักดิ์ สงวนพงษ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ผศ.ดร.ปานใจ ธารทัศนวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ผศ.ดร.นิษฐิดา เอลซ์ รองหัวหน้าภาค ฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา ภาควิชาวิทยาการคอมฯ คณะวิทยาการคอมฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รศ. ดร.วิเชียร เปรมชัยสวัสดิ์ ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยสยาม รศ. ดร. สินชัย กมลภิวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ผศ. พ.อ.นพ.พันธุดิศ ทองอุปการ ที่ปรึกษาอาวุโสศูนย์คอมพิวเตอร์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นายทวี ศรีบุศย์ดี หัวหน้าฝ่ายบริหารเครือข่าย สำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา นายเกรียงศักดิ์ กิจกาญจนไพบูลย์ Security Department Manager และ นายไพสิฐ ธรรมสาคร Security Consultant บริษัท เดอะ คอมมูนิเคชั่น โซลูชั่น จำกัด

“ท้ายที่สุดนี้ บริษัท เดอะ คอมมูนิเคชั่น โซลูชั่น จำกัด และ สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หวังว่า โครงการ Thailand’s Network Security Contest ครั้งที่ 5 จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดัน และส่งเสริมให้เยาวชนของชาติได้มีเวทีแสดงความสามารถเพื่อนำความสามารถนั้นมาพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต และขอแสดงความยินดีกับ นิสิต นักศึกษาทุกท่านที่ได้รับรางวัลในโครงการนี้” นายไพบูลย์กล่าวในตอนท้าย

View :2209

สปายแวร์ 2.0 – คอนเซ็ปท์ล่าสุดของอาชญากรรมทางไซเบอร์แห่งปี2011 ที่คุณควรจับตามอง

February 7th, 2011 No comments

– คอนเซ็ปท์ล่าสุดของอาชญากรรมทางไซเบอร์แห่งปี2011
ที่คุณควรจับตามอง

กรุงเทพฯ – 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554- แคสเปอร์สกี้ แลป ผู้นำด้านการพัฒนาความปลอดภัยเพื่อคอนเท้นท์ และโซลูชั่นเพื่อการบริการจัดการภัยคุกคาม ส่งรายงานผลวิเคราะห์ทิศทางระบบความปลอดภัย Outcomes for 2010 and Predictions for 2011 จัดทำโดย หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านระบบความปลอดภัย (Chief Security Expert) อเล็กซานเดอร์ กอสเตฟ โดยใจความสำคัญเน้นทิศทางของ ปี2011 ว่าจะเป็นปีที่มัลแวร์และโปรแกรมไม่พึงประสงค์เฟื่องฟูแข็งแกร่งพรั่งพร้อมด้วยฟังก์ชั่นลูกเล่นเพื่อการทำลายล้าง และเป็นไปได้ว่าทิศทางเช่นนี้จะก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวในกลุ่มผู้อาชญากรครั้งใหญ่ ด้วยหัวคิดในการวางแผนแยบยลกว่าเดิมพร้อมช่องทางเข้าก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ที่แนบเนียน เป้าประสงค์รวมทั้งวิธีการจู่โจมจะเปลี่ยนไปและซับซ้อนมากขึ้น

ปัจจุบัน เราทุกคนต้องเผชิญกับโปรแกรมสปายแวร์ที่ปรับตัวมาในรูปแบบต่างๆ ที่ผลัดหน้ากันมา เป้าประสงค์ของอาชญากรรมเช่นนี้มีง่ายๆ คือ ขโมยทุกอย่างที่ขวางหน้า อาชญากรคอยซุ่มรวบรวมข้อมูลทุกประเภทเกี่ยวกับยูสเซอร์เท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสุขภาพ สีผมสีตา แอบดูเอกสารทุกชิ้นที่เก็บไว้บนคอมพิวเตอร์ ที่สำคัญอัตราการจารกรรมข้อมูลจากภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐก็ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การโจมตีแบบมีเป้าหมายเจาะจงจะค่อยๆ ลดลง อาชญากรไซเบอร์จะเริ่มต้นเป้าหมายการโจมตีแบบปูพรมไปยังองค์กรประเภทต่างๆ โดยไม่เจาะจงอยู่ที่ธนาคารออนไลน์หรือระบบธุรกรรมการเงินอิเล็กทรอนิกส์อีกต่อไปแล้ว ปัจจุบัน เป้าหมายหลักของบรรดาคนเขียนไวรัสและกลุ่มลูกค้าของพวกเขากลับเบนมาที่โปรไฟล์หรือข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ของบุคคล หรือสิ่งที่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตี มิใช่การหาเงินด่วนด้วยการขโมยข้อมูลเครดิตการ์ดหรือแพร่กระจายสแปมเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครงสร้างกลุ่มคนเขียนไวรัสมัลแวร์ดังที่กล่าวมาแล้วนั้น น่าจะส่งผลต่อทิศทางของภัยคุกคามไซเบอร์ในปี2011 อย่างแน่นอน สิ่งที่เราได้ประสบจากหนอนร้าย Stuxnet ในปีที่ผ่านมา มีความซับซ้อนสมบูรณ์ทางเทคนิคอย่างมากได้เข้าจู่โจมโปรแกรมควบคุมลอจิกการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดความอกสั่นขวัญแขวนตื่นตระหนกทั่วโลกถึงความร้ายกาจและศักยภาพของเหล่าอาชญากรไซเบอร์ที่สามารถกระทำได้ การคุกคามในครั้งนั้นเป็นสัญญานเตือนภัยอย่างดีของอุตสาหกรรมระบบความปลอดภัยไอที ถึงความยากซับซ้อนที่จะรับมือกับอาชญากรที่ได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ที่สำคัญ เราไม่ควรตัดความเป็นไปได้ที่องค์กรใหญ่ๆ หรือภาครัฐบางแห่งอาจอาศัยประโยชน์จากโปรแกรมที่มีรูปแบบคล้าย Stuxnet เพื่อสนองความต้องการส่วนตน

อเล็กซานเดอร์ กอสเตฟได้ฝากข้อคิดแก่ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัยไอทีว่า “เป็นไปได้ว่าสิ่งที่เราเห็นในขณะนี้ จะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มของการบุกโจมตีในปี2011 เท่านั้น ส่วนอัตราความรุนแรงร้ายกาจจริงๆ นั้นน่าจะได้เห็นฤทธิ์เดชชัดเจนในปีต่อๆ ไป อย่างไรก็ดี เจเนเรชั่นใหม่ของอาชญากรไซเบอร์ที่ก้าวเข้ามามีบทบาทในทิศทางใหม่ ได้สำแดงให้ประจักษ์กันถึงศักยภาพในการทำลายล้าง และแน่นอนว่าภาระหนักย่อมตกอยู่กับผู้ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้รับมือกับภัยคุกคามระดับนั้น จำเป็นอย่างมากที่จะต้องรู้จักปรับตัว เรียนรู้ เพื่อการรับมือและรู้ทันอาชญากรไซเบอร์ยุคใหม่”

วิธีการเบื้องต้นของการบุกรุกคุกคามของมัลแวร์และแฮกเกอร์นั้นคือจะอาศัยช่องโหว่ที่มีอยู่ในซอฟท์แวร์ที่ถูกกฎหมายและใช้งานเป็นที่แพร่หลาย และจากนั้นจะใช้บราวเซอร์เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแพร่กระจายมัลแวร์โปรแกรมไม่พึงประสงค์อย่างต่อเนื่อง และรูปแบบที่จะได้พบเห็นมากขึ้นในอนาคต ได้แก่ การคุกคามที่รุกคืบมายัง 64-บิตแพลตฟอร์ม การจู่โจมอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ ระบบปฏิบัติการโมบายล์ และยูสเซอร์บนสังคมเครือข่ายออนไลน์ ส่วนการคุกคามแบบ DDoS จะยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่จะยังเกาะกินอินเตอร์เน็ตอยู่ต่อไป

ท่านสามารถอ่าน Outcomes for 2010 and Predictions for 2011 ฉบับเต็มได้จาก http://www.securelist.com

View :1272

วาเลนไทน์นี้ สแปมเมอร์ เตรียมมอบความรักเคลือบยาพิษ ไว้ต้อนรับคนพิเศษเช่นคุณ

February 7th, 2011 No comments

วาเลนไทน์นี้ สแปมเมอร์ เตรียมมอบความรักเคลือบยาพิษ ไว้ต้อนรับคนพิเศษเช่นคุณ

วันวาเลนไทน์ ไม่ได้เป็นเพียงการฉลองความรักและความผูกพันระหว่างคนที่รักกันเท่านั้น แต่ยังเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับสแปมเมอร์ ที่ใช้หลอกเอารายละเอียดส่วนตัวของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี  

 

สแปมเมอร์ ใช้วันวาเลนไทน์ล่อเป้า โดยนำเสนออีเมลขยะเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบัตรของขวัญ การ์ดที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเทศกาล รวมถึงอีเมลขยะด้านการเงิน ไซแมนเทคได้สังเกตุพบอีเมลขยะที่เกี่ยวข้องกับวันแห่งความรักเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม เป็นต้นมา โดยเฉพาะ อีเมลขยะที่ขายผลิตภัณฑ์สำหรับเทศกาลอันพิเศษนี้ โดยตัวอย่างหัวข้ออีเมลขยะที่เกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์ เช่น “ของขวัญพิเศษเฉพาะสำหรับคุณในวาเลนไทน์” “ของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับวาเลนไทน์” และ “นาฬิกาที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชั้นนำ” เป็นต้น
 
สแปมเมอร์ จะโปรโมทผลิตภัณฑ์ปลอม โดยเสนอลดราคา ซึ่ง URL ดังที่เห็นข้างล่างนี้ ก็จะนำผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บอีเมลขยะ พร้อมทั้งขอให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลส่วนตัว
 
http://www..com/connect/imagebrowser/view/image/1639611/_original
 
 http://www.symantec.com/connect/imagebrowser/view/image/1639621/_original
 
 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่
 
http://www.symantec.com/connect/blogs/spammers-set--s-day
 
ทั้งนี้ ไซแมนเทคแนะนำให้ผู้ใช้งานเพิ่มความระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ได้รับอีเมลแปลกหน้า ข้อปฏิบัติที่ดีที่สุดที่ควรทำคือ การอัพเดทโปรแกรมป้องกันอีเมลขยะเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวต้องตกอยู่ในความเสี่ยง
 

View :1330
Categories: Press/Release Tags: , ,