Archive

Archive for April, 2012

ทรู ดิจิตอล พลัส ผนึก เอซุส ท้าเกมเมอร์ชาวไทย ประลองยุทธ์ออนไลน์เวที “GG E-Sports Champion League 2012 Powered By ASUS”

April 5th, 2012 No comments


ชิงรางวัลกว่า 3 ล้านบาท มุ่งยกระดับนักกีฬา E-Sport ให้พร้อมแข่งในระดับสากล

5 เมษายน 2555: ผู้นำเกมออนไลน์ของไทย จับมือ เปิดเวทีประลองยุทธ์ครั้งยิ่งใหญ่ ให้เหล่า เกมเมอร์ ประชันฝีมือใน 5 เกมออนไลน์สุดฮิต Special Force, FIFA Online 2, Magic World 2 Online, M Fighter และ Battery Online ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท พร้อมเชิญชวนเกมเมอร์ขั้นเทพทั่วประเทศตั้งสโมสรส่งทีมท้าชิง ตั้งเป้าปีแรกเกิดสโมสรใหม่กว่า 300 ค่าย มั่นใจยกระดับ E- Sport ไทยเทียบเท่าสากล

นายมานะ ประภากมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู ดิจิตอล พลัส จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มุ่งสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเหล่าเกมเมอร์ และเสริมศักยภาพนักกีฬา E-Sport ไทย ล่าสุดร่วมกับ เอซุส จัดแข่งขัน “GG E-Sports Champion League 2012 Powered By ASUS” ให้เหล่าสาวกเกมออนไลน์ได้โชว์ความสามารถ เพื่อเตรียมหาสุดยอดนักกีฬาเกมออนไลน์ตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันเกมออนไลน์ระดับสากลในอนาคตต่อไป และถือเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่ได้รวมเอาเกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมาให้ร่วมแข่งขันบนเวทีเดียวกันมากที่สุดถึง 5 เกม ได้แก่ Special Force, FIFA Online 2, Magic World 2 Online, M Fighter และ Battery Online ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท มั่นใจมีคอเกมชาวไทยสนใจร่วมชิงชัยมากถึง 300 สโมสร และมีผู้เล่นเกมออนไลน์เพิ่มอีก 300,000 ไอดี

สำหรับระยะเวลาการแข่งขันเก็บคะแนน GG E-Sports Champion League 2012 Powered By ASUS จะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 5 เมษายน ถึงเดือนตุลาคมนี้ เมื่อจบฤดูกาลแข่งขันสโมสรที่มีคะแนนรวมสูงสุดนอกจากจะได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ถ้วยเกียรติยศ เงินรางวัลในระบบออนไลน์มูลค่า 1,000,000 DE ตราเกียรติยศที่ถูกออกแบบพิเศษที่จะประทับลงบนหน้าเว็บเพจสโมสรนั้นๆ สำหรับเกมเมอร์ที่สนใจสร้างสโมสรเข้าท้าชิงสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ HTTP://ESPORT.GG.IN.TH

นายมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเฟ่นแพลทฟอร์ม บริษัท คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “เอซุส ได้ให้การสนับสนุนการแข่งขัน GG E-Sports Champion League 2012 Powered By ASUS นี้ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด อาทิ คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ ชิพกราฟิก ที่ให้พลังขับเคลื่อนที่เร็วและแรง เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับคอเกมโดยเฉพาะ ซึ่งตรงกับปณิธานของ เอซุสที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจและตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างไม่หยุดนิ่ง เชื่อมั่นว่าการร่วมมือครั้งนี้เป็นการแสดงถึงประสิทธิภาพทางเทคโนโลยีของเอซุส และระบบ GG E-Sport Club ที่จะมีส่วนทำให้รูปแบบการบริหารจัดการแข่งขัน E-Sport ของไทยพัฒนาจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนในการเล่นเกมอย่างสร้างสรรค์และก่อให้เกิดประโยชน์กับตนเองและสังคมในที่สุด”

“ทรู ดิจิตอล พลัส เชื่อมั่นว่าการแข่งขันกีฬาออนไลน์ครั้งนี้ จะสามารถพัฒนาศักยภาพนักกีฬา E-Sport ของไทยให้มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น และถือเป็นเกมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 2012 พร้อมยกระดับการแข่งขันกีฬาเกมออนไลน์ E-Sport ให้เทียบเท่าระดับสากล” นายมานะ กล่าวสรุป

View :1704

โปรแกรม I Love Library version 3.1 นวัตกรรมในการสร้าง E-book ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีได้ที่ www.ilovelibrary.com

April 5th, 2012 No comments


โปรแกรม I Love Library version 3.1 สุดยอดนวัตกรรมในการสร้าง E-book ที่ง่ายและทันสมัยที่สุดในเวลานี้ ออกแบบ และสร้างสรรค์โดย บริษัท โอเพ่นเซิร์ฟ จำกัด ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถรองรับอุปกรณ์ Tablet ที่ออกมาจากค่ายต่างๆได้ โดยเพิ่มความสะดวกจาก version เดิม ที่นอกจากจะพัฒนา E-book ได้ง่ายดายแล้ว การสร้างหนังสือ E-book เพียงครั้งเดียวยังรองรับการอ่านบนอุปกรณ์ได้หลาย Platform ไม่ว่าจะเป็น IPAD, Android, Windows โดยไม่ต้องเสียเวลาสร้างใหม่ และที่สำคัญที่สุดคือ เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจุดแข็งของโปรแกรมนี้คือ โหลดฟรี สร้างง่าย อ่านได้หลายแพลทฟอร์ม ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีได้ที่ www.ilovelibrary.com และกด Like ใน Fanpage ของ ILovelibrary ใน Facebook เพื่อนำโปรแกรมไปทำการสร้าง E-book ได้ง่ายๆด้วยตัวเองในเวลาเพียงแค่ 30 นาที

View :3064

Gview PowerSupply 80 Plus โฉมใหม่ แบรนด์แรกของไทยมาตรฐานอเมริกา

April 5th, 2012 No comments

บริษัท หัวเหลียน คอมพิวเตอร์ จำกัด ผู้จำหน่ายพีซี เคสซิ่ง พาวเวอร์ซัพพลาย และอุปกรณ์เกมเมอร์คุณภาพ ภายใต้แบรนด์ ”Gview” (จีวิว) และ “Gentec” (เจนเทค) ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ พาวเวอร์ซัพพลายโฉมใหม่ 7 รุ่น ขนาด 300 – 1,000 วัตต์ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา ตอบสนองความต้องการทุกระดับช่วยประหยัดไฟ-พลังงาน ลดความร้อนในเครื่องคอมพิวเตอร์และยังช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย โดยบรรจุอยู่ในแพ็กเกจที่ออกแบบขึ้นมาพิเศษโดยเฉพาะ ซึ่งมีความหรูหรา แข็งแรงทนทานและไม่ซ้ำใคร สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที http://www.hualian.co.th

View :1998

ออโตเดสก์ให้ลิขสิทธิ์นักพัฒนาเกมใช้ Autodesk Gameware พัฒนานินเทนโดรุ่นใหม่

April 5th, 2012 No comments

ในงานสัมมนานักพัฒนาเกมออโตเดสก์ได้มอบลิขสิทธิ์ในการใช้เทคโนโลยี แก่ (Nintendo) ในการพัฒนาเครื่องเล่นนิเทนโดสำหรับแพลตฟอร์มที่รุ่นใหม่ของ Wii U และช่วยสร้างความแตกต่างให้กับเครื่องเล่นนินเทนโดรุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายในปลายปีนี้

ภายใต้ข้อตกลงนี้ออโตเดสก์มอบลิขสิทธิ์ให้นักพัฒนาเกม Wii U ใช้เทคโนโลยี Autodesk Gameware จากออโตเดสก์ถึง 3 เทคโนโลยีด้วยกันเพื่อนำมาพัฒนาเกมขั้นสุดยอดนี้ ได้แก่ Autodesk Scaleform ตัวกลางในการพัฒนายูสเซอร์อินเตอร์เฟซ, Autodesk Kynapse ตัวกลางสำหรับปัญญาประดิษฐ์ และ Autodesk HumanIK ตัวกลางสำหรับการจัดการการโต้ตอบของตัวละครแบบเคลื่อนไหวได้

สายผลิตภัณฑ์ Autodesk Gameware ของออโตเดสก์ประกอบไปด้วยโซลูชั่นโซลูชั่นพัฒนาเกมที่ใช้ทดสอบผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ทดสอบอย่างน้อย 1,000เกมส์ต่อวัน เทคโนโลยีนี้ช่วยนักพัฒนาเกมเพิ่มมูลค่าให้กับการผลิตในขณะเดียวกันลดระยะเวลาการพัฒนาให้สั้นลง ทำให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างเกมที่น่าสนใจเพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภค

“เทคโนโลยี Autodesk Gameware นี้ถูกใช้โดยทีมนักพัฒนาชั้นยอดในอุตสาหกรรมและเป็นที่ยอมรับในวงการ โดยความสัมพันธ์ของเรากับบริษัทหลักอย่าง นินเทนโดนี้เราสามารถนำโซลูชั่นของเราเข้าไปช่วยนักพัฒนาเกมได้มากขึ้น” กล่าวโดย มาร์ค เปติ ประธานอาวุโสของออโตเดสก์มีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ “การนำ Autodesk Gameware มาใช้ข่วยปรับปรุงกระบวนการผลิต ทำให้สามารถใช้ทรัพยากรต่างๆ สำหรับนวัตกรรมในด้านใหม่ๆ ได้มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงในการพัฒนานี้จะช่วยให้เราสร้างสรรค์ยุคใหม่ให้น่าสนใจกว่าสิ่งที่ผ่านๆ มา”

View :1706

“มนต์ธีร์ วุฒิรงค์” ขึ้นแท่นผู้บริหารกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์มของเอซุส พร้อมเผยผลประกอบการและกลยุทธ์ด้านการตลาดปี 2555

April 5th, 2012 No comments

บริษัท คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการผลิตและพัฒนามาเธอร์บอร์ดชั้นนำระดับโลกและผู้นำยอดขายอันดับ 1 ประกาศการเลื่อนตำแหน่งของคุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ขึ้นเป็นผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพี) โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป พร้อมแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ของกลุ่มธุรกิจโอพีในประเทศไทย ด้วยยอดขายรวมถึง 450 ล้านบาท โดยเติบโตถึงร้อยละ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ชูกลยุทธ์รุกตลาดครบวงจร 360 องศา เน้นย้ำการสร้างตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มโฮมโซลูชั่น (Home Solutions) เพื่อเติมเต็มความต้องการด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ เกมมิ่ง บันเทิง/มัลติมีเดีย และโฮมออฟฟิศ สำหรับสมาชิกทุกคนภายในบ้าน พร้อมอัดงบการตลาดกว่า 10% ของรายได้ทั้งหมด เพื่อใช้ในการสื่อสารทางการตลาดผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ที่เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายเอ็นด์ยูสเซอร์ระดับพรีเมี่ยม และผู้ใช้งานอยู่เป็นประจำ เดินหน้าสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจโอพีในวงกว้างและกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง

คุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพี) บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด


คุณมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ อดีตผู้จัดการพัฒนาธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเพ่น แพลตฟอร์ม เข้ารับตำแหน่งใหม่ในฐานะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม (โอพี) บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป โดยคุณมนต์ธีร์จะมีหน้าที่ขับเคลื่อนองค์กรและบริหารทรัพยากรทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือองค์กรในการปรับเปลี่ยนธุรกิจโอพีในส่วนของประเทศไทยทั้งหมด คุณมนต์ธีร์จะรายงานโดยตรงต่อเอซุสสำนักงานใหญ่ ประเทศไต้หวัน เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและคล่องตัวให้กับส่วนปฏิบัติงานของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม ของเอซุสในประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ประกอบไปด้วยสายผลิตภัณฑ์อันหลากหลายและต้องการการโฟกัสด้านตลาดอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ภายใต้การนำของคุณมนต์ธีร์ กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์มของเอซุส มีเป้าหมายในการตอบสนองนโยบายของสำนักงานใหญ่ในการสร้างความเติบโตให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกลุ่มธุรกิจโอพีให้เป็นที่รู้จักและเชื่อถือในหมู่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ คือ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ความทนทาน และดีไซน์ที่สวยงามดึงดูดใจ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนและตรงจุด

คุณมนต์ธีร์ กล่าวว่า “ปัจจุบันภาพรวมของตลาดผลิตภัณฑ์โอเพ่น แพลทฟอร์ม ในประเทศมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 5,500 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นมาเธอร์บอร์ด 1,500 ล้าน วีจีเอการ์ด 900 ล้านเน็ตเวิร์คโซลูชั่น 40 ล้าน และจอแอลซีดี 3,000 ล้าน โดยผลประกอบการในปี 2554 ที่ผ่านมาของเอซุสในส่วนของผลิตภัณฑ์โอพี ซึ่งประกอบด้วย มาเธอร์บอร์ด วีจีเอการ์ด ไวเลส เน็ตเวิร์ก แอลซีดี รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ มี รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งโตขึ้นถึง 12% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และสำหรับผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ที่เพิ่งปิดยอดไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจโอพีมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 450 ล้านบาท คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เติบโตร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่แล้ว โดยมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมาเธอร์บอร์ดเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่สร้างรายได้สูงสุดกว่า 60% หรือประมาณ 270 ล้านบาท ตามมาด้วย วีจีเอการ์ด 25% แอลซีดี 5% อุปกรณ์เครือข่ายแบบไร้สาย 2%

“สำหรับในปี 2555 นี้บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร โดยตลอดทั้งปี เราจะเน้นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฮมโซลูชั่น (Home Solutions) อันประกอบด้วยหลากหลายผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้งานเพื่อกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้าน โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ กลุ่มเกมมิ่ง แอท โฮม (Gaming at home) หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ สำหรับคอเกมส์ เช่น เดสก์ทอป มาเธอร์บอร์ด และวีจีเอการ์ด กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มมัลติมีเดียภายในบ้านเพื่อความบันเทิง (Multimedia at home) เช่น อุปกรณ์มัลติเพลย์เยอร์คุณภาพสูง O!Play และอุปกรณ์แปลงสัญญาณอะนาล็อกเป็นดิจิตอลอย่าง Xonar Essence One DAC ที่ช่วยให้เกิดสุนทรยภาพในการฟังเพลงในระดับไฮไฟ และกลุ่มที่สาม คือ กลุ่ม โฮมออฟฟิศ (Office at home) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการทำงานตั้งแต่ระดับทั่วไปไปจนถึงระดับไฮเอ็นด์ เช่น งานกราฟฟิค งานออกแบบ งานด้านสถาปนิก ฯลฯ โดยประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ อาทิ เดสก์ท็อป ออลอินวันพีซี และอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ โดยบริษัทฯ จะไม่สร้างการแข่งขันด้านราคา แต่จะเน้นการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยคุณภาพและดีไซน์ที่สวยงามเปรียบเสมือนเฟอร์นิเจอร์หรือของประดับตกแต่งบ้านชิ้นหนึ่ง รวมถึงผลประโยชน์ที่เหนือกว่าสำหรับผู้บริโภค โดยวางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นเอ็นด์ยูสเซอร์ในระดับพรีเมี่ยม และผู้ที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ”

“สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทฯ จะเน้นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่าน โมเดิร์นเทรด และซูเปอร์ สโตร์ต่างๆ ทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้นอีก 70% พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรในการโปรโมทการแข่งขันเกมส์ต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเข้าถึงยิ่งขึ้น โดยล่าสุดเราได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ True Digital Plus โดยให้การสนับสนุนการแข่งขัน GG E-sport Champion League 2012 by ASUS ที่เพิ่งมีการแถลงข่าวเปิดรับสมัครแข่งขันไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยในงาน เราได้ให้การสนับสนุนเดสก์ทอปสำหรับเกมมิ่งจำนวน 60 ตัว รวมถึงผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดและวีจีเอการ์ดจากเอซุส รวมถึงการสาธิตผลิตภัณฑ์สำหรับเกมเมอร์ซีรีส์ต่างๆ ภายในงาน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของเราได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของเราอย่างใกล้ชิด และสามารถจดจำแบรนด์และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ของผลิตภัณฑ์จากเอซุส เพื่อเป็นตัวเลือกหนึ่งในการซื้อหามาใช้งานภายในบ้านส่วนตัวหรือตามร้านเกมส์ต่างๆ ต่อไป”

คุณมนต์ธีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปี 2555 นี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มงบการตลาดกว่า 10% โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจโอพีเพื่อใช้ในการสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจร 360 องศา ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการสื่อสารการตลาดทั้งแบบอะโบฟเดอะไลน์ (Above-the-line) และแบบบีโลว์เดอะไลน์ (Below-the-line) โดยในปีนี้ เราจะเน้นการทำตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์เพื่อสร้างประสบการณ์ในการใช้งานของลูกค้าให้สมบูรณ์มากที่สุด โดยเราแบ่งกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มดีลเลอร์ กลุ่มเอ็นด์ยูสเซอร์ และกลุ่มสื่อมวลชนและผู้นำทางความคิดต่างๆ โดยสำหรับกลุ่มดีลเลอร์นั้น เรามีการเข้าไปอบรมความรู้เกี่ยวกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ เทคนิคการขาย และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์และผลประโยชน์จากสินค้าต่างๆ อย่างใกล้ชิด รวมถึงการสาธิตผลิตภัณฑ์แบบ Life Demo ที่จะช่วยให้เห็นภาพพจน์ของการทำงานและฟังก์ชั่นต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ในส่วนของเอ็นด์ยูสเซอร์ นอกจากเราจะเข้าไปเป็นพันธมิตรกับบริษัทต่างๆ ในการจัดการแข่งขันเกมส์ หรืองานอีเว้นต์ต่างๆ แล้ว เรายังจัด Demo ไปแสดงตามงานโร้ดโชว์ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองสำคัญๆ ในต่างจังหวัดอีกด้วย โดยเรามีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสให้เอ็นด์ยูสเซอร์ได้เข้ามาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเอซุสก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะเราไม่เน้นการแข่งขันราคา เราจึงต้องการให้เอ็นด์ยูสเซอร์เล็งเห็นถึงคุณสมบัติและประโยชน์ด้านการใช้งานจากประสบการณ์จริง นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับสื่อมวลชนและผู้นำทางความคิดต่างๆ เนื่องจากบุคคลเหล่านี้จะช่วยถ่ายทอดข้อมูลข่าวสาร บอกต่อ และแนะนำสินค้าของเรา เพื่อเป็นการดึงเอ็นด์ยูสเซอร์ให้เข้าสู่ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเราต่อไป”

“ในฐานะที่เราเป็นผู้ผลิตมาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก รวมถึงเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในประเทศไทยถึง 55% เราจะยังคงนำเสนอสุดยอดเทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสากลออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯ หวังว่าในปี 2555 นี้ เราจะสามารถมีส่วนแบ่งการตลาดจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจ โอพีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ภายในสิ้นปี และรั้งตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมในส่วนของผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ด และวีจีเอการ์ด ได้อย่างต่อเนื่อง” คุณมนต์ธีร์ กล่าวทิ้งท้าย

View :1930

คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ออกใบอนุญาตแก่ผู้ให้บริการ e-Payment เพิ่ม 1 ราย

April 5th, 2012 No comments

นางจีราวรรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะรองประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้เป็นประธานการประชุมพิจารณาออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประเภทบัญชี ค. ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2552 ซึ่งได้กำหนดให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้ควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชกฤษฎีกาฯ ธปท. จึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 12 พิจารณาการขอรับใบอนุญาตของผู้ให้บริการตามประเภทบัญชี ค. ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว และนำเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้พิจารณาออกใบอนุญาต

โดยปัจจุบันคณะกรรมการธุรกรรมฯ ได้ออกใบอนุญาตให้กับผู้ให้บริการไปแล้ว 74 ราย แบ่งเป็นผู้ให้บริการที่เป็นสถาบันการเงินจำนวน 31 ราย และผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงินอีก 43 ราย รวมเป็นใบอนุญาตจำนวน 113 ฉบับ และในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมฯ ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประเภทบัญชี ค. เพิ่มเติมอีก 1 ราย คือ บริษัท เทเลอินโฟ มีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ยื่นขอรับใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจตามบัญชี ค. (3) คือ การให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือผ่านทางเครือข่าย

ธปท.ได้มีการพิจารณาการขอรับใบอนุญาตฯ ของผู้ประกอบการรายดังกล่าวแล้ว เห็นว่าผู้ให้บริการได้ยื่นเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง รวมทั้งมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนมีความพร้อมในการให้บริการและมีแนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางระบบสารสนเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ จึงเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมฯ เพื่อให้พิจารณาออกใบอนุญาตแก่ผู้ให้บริการที่ยื่นขออนุญาตไว้ ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมฯ ได้พิจารณาอนุมัติออกใบอนุญาตดังกล่าว ภายใต้เงื่อนไขที่ผู้ให้บริการจะต้องเปิดให้บริการตามที่ได้รับอนุญาตภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต รวมทั้งต้องทำหนังสือแจ้ง ธปท. ให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนเริ่มการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการขออนุญาตโดยไม่ประกอบธุรกิจบริการ

สำหรับการจัดแบ่งประเภทบัญชีของผู้ให้บริการตามพระราชกฤษฎีกาฯ นั้น ธปท. ได้พิจารณาจากความเหมาะสมในการป้องกันความเสียหายตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่อาจเกิดจากการประกอบธุรกิจเอาไว้ 3 บัญชี เพื่อให้ผู้ให้บริการได้ทราบว่าธุรกิจของตนจะต้องดำเนินการในลักษณะใด โดยประเภทแรก คือ บัญชี ก เป็นธุรกิจที่ต้องแจ้งให้ทราบ ซึ่งได้แก่ การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการจากผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ยกเว้น การให้บริการที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคโดยมิได้แสวงหาผลกำไร เช่น บัตรแลกซื้ออาหารในศูนย์อาหาร เป็นต้น ประเภทที่สอง คือ บัญชี ข เป็นธุรกิจบริการที่ต้องขอขึ้นทะเบียน ซึ่งได้แก่ บริการเครือข่ายบัตรเครดิต บริการเครือข่ายอีดีซี (EDC) บริการสวิตช์ชิ่งในการชำระเงินระบบใดระบบหนึ่ง และการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ให้บริการหลายราย ณ สถานที่ที่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายและการให้บริการรายเดียวกัน เช่น บัตรเติมน้ำมันของบริษัทน้ำมัน เป็นต้น

และประเภทที่สาม คือ บัญชี ค เป็นบัญชีที่ต้องขอรับใบอนุญาต ซึ่งได้แก่ บริการสวิตช์ชิ่งในการชำระเงินหลายระบบ บริการหักบัญชีบริการชำระดุล บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือผ่านเครือข่าย บริการรับชำระเงินแทน และการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่ใช้ซื้อบริการเฉพาะอย่างตามรายการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าจากผู้ให้บริการหลายราย โดยไม่จำกัดสถานที่และไม่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่ายและการให้บริการเดียวกัน เช่น บัตรเงินสดของร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น

View :1653

ก.ไอซีที เปิดตัวโครงการกระทรวง ICT ห่วงใยเที่ยวสงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย

April 5th, 2012 No comments

กระทรวงไอซีที ผนึกกำลังหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้บริการข้อมูลข่าวสารแบบ One Stop Service อำนวยความสะดวก แก่ประชาชนในช่วงสงกรานต์ โดยประสานความร่วมมือกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กรมการขนส่ง ทางบก และกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กองบังคับการตำรวจทางหลวง และกองบังคับการตำรวจจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันการเงิน และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รวมทั้งหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานสถิติแห่งชาติ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม บจ.ไปรษณีย์ไทย สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ฯ เพื่อบูรณาการข้อมูลข่าวสารด้านต่างๆ และให้บริการแก่ประชาชน

นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยในการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ ห่วงใยเที่ยวสงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย” ว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปีจะมีประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรและอุบัติเหตุ อันนำมาซึ่งความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน นายกรัฐมนตรี จึงได้มีนโยบายในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนด้วยการบริการแบบจุดเดียว (One Stop Service) ผ่านช่องทางระบบออนไลน์และระบบ Call Center โดยการเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารการบริการภาครัฐเพื่อให้เกิดบริการแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพในช่วงสงกรานต์ และได้มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ ดำเนินการวางระบบการสื่อสารสารสนเทศเพื่อบริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์

กระทรวงไอซีที จึงได้จัดทำโครงการ “กระทรวง ICT ห่วงใยเที่ยวสงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการข้อมูลในด้านต่างๆ แก่ประชาชนสำหรับใช้ประโยชน์ในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาทิ ข้อมูลแผนที่ เส้นทางการจราจร สถานีตำรวจ โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน/แก๊ส ตู้เอทีเอ็ม เป็นต้น รวมทั้งเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเพื่อให้ประชาชนเกิดการรับรู้ เข้าถึง และใช้ประโยชน์จากข้อมูลบริการต่างๆ ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ในการดำเนินโครงการดังกล่าว กระทรวงไอซีที ได้พัฒนาระบบและเว็บไซต์ www.ictcare.or.th สำหรับบริการประชาชนขึ้น โดยมีรูปแบบเป็นการบูรณาการข้อมูลการจราจรจากระบบต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงมีการสร้างช่องทางใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการรายงานอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งผู้พบเห็นเหตุการณ์สามารถรายงานข้อมูลข่าวสาร โดยการถ่ายภาพจากเหตุการณ์จริงด้วยโทรศัพท์มือถือแล้วส่งเข้าสู่ระบบและรายงาน ควบคู่ไปกับข้อมูลด้านการจราจรที่เกิดขึ้นในขณะใดขณะหนึ่ง อันเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์และถูกต้อง แม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังมีการบูรณาการกับระบบของหน่วยงานภาครัฐ องค์กร และมูลนิธิต่างๆ เพื่อแจ้งปัญหา ขอความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งระบบดังกล่าวจะทำงานภายใต้ระบบ Government Cloud Service ของสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ซึ่งมีความพร้อมในการรองรับการใช้งานจำนวนมากในคราวเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“สำหรับเข้าถึงระบบบริการข้อมูลของกระทรวงไอซีทีนั้น ประชาชนสามารถเข้าถึงได้จากหลายช่องทางไม่ว่าจะผ่านทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ระบบโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และพอร์ทัลเว็บ ซึ่งกระทรวงฯ ได้มีการพัฒนา Application “ICT Care” ที่รองรับระบบ iOS ตั้งแต่เวอร์ชั่น 5.0 ขึ้นไป โดยสามารถเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลเส้นทางการจราจรแบบ Realtime iOS ข้อมูลกล้องวงจรปิดเพื่อแสดงผลในโทรศัพท์มือถือระบบ iOS การสร้างระบบรายงานอุบัติเหตุจากภาคประชาชนเพื่อส่งภาพเข้าสู่ศูนย์กลางรับเรื่องแล้วส่งต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ และมีการร่วมมือในการแจ้งข่าวสารผ่านสถานีโทรทัศน์ การจัดทำเมนูเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน คัดกรองข้อมูลก่อนแสดงผล เป็นต้น พร้อมกันนี้ ประชาชนยังสามารถเข้าถึงข้อมูลทางระบบ Call Center ผ่านหมายเลข 1111 และ 192 เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการจราจร ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่จัดกิจกรรมในช่วงสงกรานต์ สถานที่พัก สถานีตำรวจ รวมถึงแจ้งเหตุฉุกเฉินต่างๆ โดยหากเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์สามารถแจ้งเหตุได้ที่หมายเลข 1669

นอกจากนั้น กระทรวงฯ ยังได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉินของกระทรวงไอซีทีขึ้น เพื่อประสานงานกับหน่วยงาน ในสังกัด ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานสถิติแห่งชาติ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ บมจ.ทีโอที บมจ.กสท โทรคมนาคม บจ.ไปรษณีย์ไทย สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทุกกระทรวง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น ตลอดจนเครือข่ายวิทยุชุมชนภาคประชาชน ในการบูรณาการรวบรวมข้อมูลข่าวสารด้านต่างๆ และบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลจากระบบบริการข้อมูลได้ครบเพียงแหล่งเดียว หรือ One Stop Service ตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายไว้” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

View :1378

ทรูมูฟ เอช มอบโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อซื้อมือถือ HTC รุ่น One X หรือ One V วันนี้

April 5th, 2012 No comments


ลุ้นรับบัตรคอนเสิร์ต Lady Gaga, The Born This Way Ball Live in Bangkok 2012 ฟรี!

โดย นายกิตติณัฐ ทีคะวรรณ (ซ้าย) รองผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานการตลาดเชิงพาณิชย์และบริหารงานขาย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ นายณัฐวัชร์ วรนพกุล (ขวา) ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด จัดโปรโมชั่นพิเศษเอาใจเหล่าสาวกเลดี้กาก้า ซื้อโทรศัพท์มือถือ HTC รุ่น หรือ สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากเอชทีซีที่มีระบบประมวลผลควอทคอร์ทั้งแรงและเร็วตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมสมัครแพ็กเกจทรูมูฟ เอช แพ็กเกจใดก็ได้ที่ร้านทรู ช้อปที่ร่วมรายการ รับสิทธิ์ลุ้นบัตรคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ทุกคนรอคอย “Lady Gaga, The Born This Way Ball Live in Bangkok 2012” จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง มูลค่าที่นั่งละ 1,500 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 15,000 บาท โดยพิมพ์หมายเลขโทรศัพท์ทรูมูฟ เอชที่ลูกค้าได้สมัครใหม่และส่ง SMS มาที่เบอร์ 4890011 (ค่าบริการครั้งละ 3 บาท) ระหว่างวันที่ 18 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2555 โดยจะจับรางวัลรายชื่อผู้โชคดี วันที่ 16 พฤษภาคม และประกาศผลทาง www.truemove-h.com

View :1992

ไอบีเอ็มเผยรายงานเอ็กซ์-ฟอร์ซ ปี 54 พบการต่อต้านภัยคุกคาม ออนไลน์ มุ่งเป้าไปที่เครือข่ายสังคมออนไลน์และโทรศัพท์มือถือ

April 5th, 2012 No comments

ไอบีเอ็มเผยรายงานแนวโน้มและความเสี่ยง จากเอ็กซ์-ฟอร์ซ ประจำปี 2554 พบว่าการรักษาความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตมีการพัฒนาที่ดีขึ้นในหลายด้าน เช่น การลดลงของช่องโหว่ในการรักษาความปลอดภัยบนแอพลิเคชั่น การใช้คำสั่งโจมตีช่องโหว่ และสแปม จากผลดังกล่าวพบว่าบรรดาอาชญากรไซเบอร์กำลังถูกบังคับให้ต้องคิดถึงกลยุทธ์ใหม่ๆในการโจมตี จึงต้องเบนเข็มตั้งเป้าหมายไปที่ช่องโหว่ที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น และมุ่งไปที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์และอุปกรณ์มือถือมากขึ้น

รายงานแนวโน้มและความเสี่ยง เอ็กซ์-ฟอร์ซ ของไอบีเอ็ม เป็นรายงานประเมินภาพรวมประจำปีต่อเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความปลอดภัยต่อภัยคุกคามทางออนไลน์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานระบบต่างๆ เข้าใจในความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยของระบบดียิ่งขึ้น และสามารถอยู่เหนือการคุกคามความปลอดภัยเหล่านี้ได้ รายงานเป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงจากแหล่งข้อมูลอัจฉริยะมากมาย ประกอบไปด้วย ฐานข้อมูลด้านช่องโหว่ระบบรักษาความปลอดภัยกว่า 50,000 รายการ การเก็บข้อมูลด้วยโปรแกรมขนาดเล็กไปตามเว็บต่างๆ และรวบรวมรายการสแปมจากทั่วโลก และจากการคอยเฝ้าระวังเหตุการณ์ต่างๆ กว่า 13 พันล้านรายการในแต่ละวันจากลูกค้าเกือบ 4,000 รายในกว่า 130 ประเทศแบบเรียลไทม์ ซึ่งมีเหตุการณ์กว่า 13 พันล้านรายการที่เฝ้าระวังดังกล่าวนี้ – มีมากกว่า 150,000 รายการต่อวินาที – เป็นผลมาจากการทำงานในศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยระดับโลกทั้ง 9 แห่งของไอบีเอ็ม ซึ่งเป็นศูนย์ที่ให้บริการจัดการการรักษาความปลอดภัยระบบให้กับลูกค้า

รายงานแนวโน้มและความเสี่ยง เอ็กซ์-ฟอร์ซ ประจำปี 2554 เปิดเผยว่า อีเมล์สแปมลดลง 50% เมื่อเทียบกับปี 2553 โดยพบว่าซอฟต์แวร์ค่ายต่างๆ สามารถเข้าไปตรวจจับได้มากขึ้น โดยยังคงเหลือช่องโหว่บนซอฟต์แวร์ต่างๆ เพียง 36% ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในปี 2554 เปรียบเทียบกับปี 2553 ที่มีช่องโหว่บนซอฟต์แวร์เหลืออยู่ถึง 43% และจากการพัฒนาซอฟต์แวร์แอพลิเคชั่นที่มีคุณภาพมากขึ้น ทำให้การโจมตีเว็บแอพลิเคชั่นที่เรียกว่า cross site scripting ลดลงเหลือจำนวนครึ่งหนึ่งของที่เคยพบในซอฟต์แวร์ของลูกค้าเมื่อ 4 ปีก่อน

ไอบีเอ็มเอ็กซ์-ฟอร์ซ รายงานว่า อาชญากรไซเบอร์พัฒนาเทคนิคในปี 2554 มีการคุกคามเพิ่มขึ้นใน 3 ด้านหลักคือ

1. การโจมตีช่องโหว่ของระบบผ่านทางเชลล์ คอมมานด์มากขึ้นกว่าสองเท่า –ปัจจุบันแฮกเกอร์บางรายได้เริ่มตั้งเป้าการโจมตีใหม่มาที่เชลล์ คอมมานด์แทน การโจมตีผ่านช่องโหว่นี้จะทำใหม่แฮกเกอร์สามารถเข้าใช้คำสั่งได้โดยตรงบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ การโจมตีช่องโหว่ผ่านทางเชลล์ คอมมานด์นี้เกิดขึ้น 2 ถึง 3 เท่าในช่วงปี 2011 ที่ผ่านมา ผู้พัฒนาเว็บแอพลิเคชั่นจึงควรให้ความใส่ใจในทิศทางการโจมตีที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นนี้อย่างใกล้ชิด

2. การเดารหัสผ่านแบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว – นโยบายในการตั้งรหัสผ่านและรหัสผ่านที่ไม่แข็งแรงพอเป็นตัวการหลักของตัวเลขการจู่โจมที่สูงลิ่วนี้ในระหว่างปี 2011 ยังคงมีการโจมตีแบบอัตโนมัติบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้การสแกนหาระบบที่ใช้พาสเวิร์ดที่อ่อนแอในการล็อกอินเข้าระบบ

3. การโจมตีแบบฟิชชิ่งโดยการหลอกลวงว่าเป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์และบริการพัสดุไปรษณีย์ –อีเมล์หลอกลวงเหล่านี้เลียนแบบว่าเป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์และบริการพัสดุไปรษณีย์ชื่อดัง ล่อลวงให้เหยื่อคลิกลิงค์ไปสู่หน้าเว็บที่พยายามจะส่งโปรแกรมประเภทมัลแวร์มายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ บางครั้งการกระทำดังกล่าวยังอาจเป็นการโกงคลิกโฆษณา ซึ่งผู้ส่งสแปมจะใช้อีเมล์ที่ไม่มีหัวเรื่องในการเพิ่มทราฟฟิกให้กับเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าต่างๆ

เทคโนโลยีใหม่ๆเช่น อุปกรณ์มือถือ และคลาวด์ คอมพิวติ้ง ยังคงสร้างความท้าทายต่อระบบรักษาความปลอดภัยในองค์กร ทำให้เกิดวิธีการโจมตีแบบใหม่

รายงานการโจมตีอุปกรณ์มือถือเพิ่มขึ้น 19% ในปี 2554 มีอุปกรณ์มือถือจำนวนมากในมือของผู้บริโภคที่ไม่ได้รับการติดตั้งการปิดช่องโหว่ของระบบจากการถูกโจมตี ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้กับอาชญากรไซเบอร์ทั้งหลาย ตลอดจนการนำอุปกรณ์มือถือเหล่านี้มาใช้ภายในองค์กร ซึ่งผู้บริหารด้านไอทีควรเตรียมตัวรับมือให้ดีกับความเสี่ยงที่กำลังเพิ่มขึ้นนี้

การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับสื่อสังคมออนไลน์เพิ่มจำนวนขึ้น อาชญากรไซเบอร์มีความเชี่ยวชาญและทันต่อกระแสโลกมากขึ้น ผู้คนในยุคสื่อสารข้อมูลจำนวนมากที่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวและวิถีการใช้ชีวิตบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งนั่นเป็นการเริ่มต้นให้ข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญต่ออาชญากรไซเบอร์ทั้งหลายก่อนที่จะเริ่มโจมตีหรือแทรกซึมเข้าไปในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง สร้างความท้าทายใหม่ การจัดการระบบรักษาความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอาจจะเป็นการทำข้อตกลงระดับบริการ (Service Level Agreements – SLAs) เพราะจำกัดผลกระทบเอาไว้ ซึ่งองค์กรธุรกิจสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้ใกล้เคียงความจริงในการให้บริการบนระบบคลาวด์ ดังนั้นจึงควรพิจารณาอย่างระมัดระวังในเรื่องสิทธิการครอบครอง การจัดการการเข้าถึงระบบ การกำกับดูแลและการยกเลิกสิทธิ์เมื่อเกิดการละเมิด SLAs รายงานไอบีเอ็ม เอ็กซ์-ฟอร์ซช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้ระบบคลาวด์มองที่วงจรชีวิตของการติดตั้งระบบคลาวด์เพื่อใช้งาน และพิจารณาอย่างรอบคอบเรื่องผลกระทบที่มีต่อภาพรวมของทัศนคติด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

ไอบีเอ็มยังคงทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะยกระดับความปลอดภัยของระบบต่อปัญหานี้ คำแนะนำสำหรับการช่วยลูกค้าพัฒนาความปลอดภัยระบบของหน่วยงานด้านไอทีให้ดียิ่งขึ้นตามภัยคุกคามใหม่ๆเหล่านี้ประกอบด้วย: ทำการประเมินความสามารถของระบบรักษาความปลอดภัยอยู่เป็นประจำ แยกส่วนของระบบที่มีความอ่อนไหวและข้อมูลออกจากกัน อบรมผู้ใช้ระบบเกี่ยวกับเรื่องการหลอกลวงในรูปแบบฟิชชิ่งและการฟิชชิ่งแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงหมั่นอบรมหลักการด้านความปลอดภัยทั่วไปบนระบบคอมพิวเตอร์ และสุดท้ายคือตรวจสอบนโยบายของพันธมิตรทางธุรกิจ

ดูรายงานแนวโน้มและความเสี่ยงเอ็กซ์-ฟอร์ซ ฉบับเต็มของปี 2011 และรับชมวีดิโอเรื่องเด่นได้ที่www.ibm.com/security/xforce

เกี่ยวกับระบบการรักษาความปลอดภัยของไอบีเอ็ม (IBM Security) ด้วยพัฒนาการและนวัตกรรมด้านการรักษาความปลอดภัยระบบมานานกว่า 40 ปี ไอบีเอ็มจึงเปี่ยมไปด้วยความรอบรู้และความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในด้านการวิจัย การบริการ และการให้คำปรึกษาในด้านการรักษาความปลอดภัยระบบ ไอบีเอ็มมีศูนย์วิจัยนวัตกรรมเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยทั่วโลก 9 แห่ง และศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยอีก 9 แห่งกระจายอยู่ทั่วโลก เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีทัศนคติด้านความปลอดภัยที่ถูกต้อง สำหรับบริการจัดการการรักษาความปลอดภัยของไอบีเอ็มมีทั้งความเชี่ยวชาญ เครื่องมือ และโครงสร้างพื้นฐานตามที่ลูกค้าต้องการ เพื่อช่วยให้ข้อมูลที่มีค่าของพวกเขาปลอดภัยจากการจู่โจมทางอินเทอร์เน็ตที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยมักจะมีค่าใช้จ่ายที่คิดเป็นส่วนน้อยของค่าใช้จ่ายเรื่องทรัพยากรด้านความปลอดภัยภายในองค์กร ทั้งนี้ สถาบันการรักษาความปลอดภัยระบบขั้นก้าวหน้าเป็นการริเริ่มของไอบีเอ็มในระดับโลกที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ มีความเข้าใจและตอบสนองต่อภัยคุกคามในธุรกิจของพวกเขาได้ดีขึ้น เข้าเยี่ยมชมชุมชนออนไลน์ของสถาบันนี้ได้ที่ www.instituteforadvancedsecurity.com

View :1468

ทรู ปลูกความรู้คู่คุณธรรม ส่งธรรมะวัยใส ขึ้นจอทรูวิชั่นส์ แกะกล่องรายการใหม่ “สามเณร ปลูกปัญญาธรรม”

April 4th, 2012 No comments


ถ่ายทอดสดเรื่องราวจริง 9 สามเณรน้อย ตลอด 1 เดือนเต็มเริ่ม 20 เมษายนนี้ ทรูวิชั่นส์ช่อง 60

กลุ่มทรู เปิดตัวรายการใหม่ “” ผ่านทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดเรื่องราวการใช้ชีวิตจริงของ 9 เยาวชนวัย 9-12 ปีที่ตั้งใจบรรพชาเป็นสามเณรภาคฤดูร้อน ตลอด 1 เดือน ณ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก นำเสนอกิจวัตรประจำวันของเหล่าสามเณรน้อยทั้งการเรียนรู้ การปฏิบัติธรรม การทดสอบความอดทนและสมาธิ รวมทั้งความสามารถแสดงธรรมเทศน์ โดยมุ่งหวังให้เยาวชนสนใจศึกษาธรรมะ ปลูกความรู้คู่คุณธรรมผ่านประสบการณ์ตรง และเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนผู้ชมคิดดี ทำดี ปฏิบัติตนตามแนวทางพุทธศาสนิกชน ร่วมชื่นชมกับความตั้งใจของเยาวชนที่มุ่งมั่นปฏิบัติธรรม และเป็นกำลังใจให้กับเหล่าสามเณรทั้ง 9 รูป ตั้งแต่ 20 เมษายน – 20 พฤษภาคม 2555 ทางทรูวิชั่นส์ช่อง 60 และทรูวิชั่นส์ HD ช่อง 120 หรือชมออนไลน์ผ่าน www.trueplookpanya.com/truelittlemonk

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “รายการ สามเณร ปลูกปัญญาธรรม เป็นการสานต่อความตั้งใจของกลุ่มทรู ที่จะนำสื่อภายในกลุ่มทรู ร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย โดยเฉพาะการเรียนรู้เรื่องของคุณธรรม ตามแนวทางพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาหลักของคนไทย และมีหลักธรรมหลายประการที่เป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิต ควรค่าเป็นอย่างยิ่งที่จะปลูกฝังและส่งเสริมให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสเรียนรู้ จึงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของกลุ่มทรู ที่จะสร้างสรรค์รายการ สามเณร ปลูกปัญญาธรรม ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยทรูวิชั่นส์จะถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของสามเณรทั้ง 9 รูป ขณะปฏิบัติธรรมบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งเยาวชนทั้ง 9 คนที่มีความตั้งใจจริงที่จะบวชเป็นสามเณร จะได้เรียนรู้คุณธรรมจริยธรรมในทุกๆ ด้าน ได้แก่ ความอดทน การว่านอนสอนง่าย ใฝ่ศึกษา ความขยันหมั่นเพียร และกตัญญูกตเวที อันจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่สังคมแล้ว ยังเป็นรายการที่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ที่จะได้ข้อคิด คติธรรมสอนใจ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต รวมถึงได้รับความสุขใจในการติดตามชมความสดใส น่ารัก และจิตใจที่มุ่งมั่นของเหล่าสามเณรน้อยทั้ง 9 รูปอีกด้วย”

“นับเป็นเกียรติอย่างสูงของบริษัทและทีมงานผู้จัดทำรายการ สามเณร ปลูกปัญญาธรรม ที่ได้รับความกรุณาอนุเคราะห์เป็นอย่างดียิ่งจากหน่วยงานพระพุทธศาสนาหลายแห่ง และผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่านร่วมเป็นคณะ
ที่ปรึกษารายการ อาทิ พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ท่านเจ้าคุณพระราชญาณกวี (ปิยโสภณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และพระพรพล ปสันโน พระเลขานุการเจ้าอาวาส วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก, พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี), พระพยอม, พระมหาสมปอง ซึ่งบริษัทต้องกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ที่ทุกท่านได้ร่วมให้คำแนะนำมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่แนวคิด รูปแบบการนำเสนอ และการคัดเลือกเยาวชน ซึ่งเยาวชนทั้ง 9 คนที่จะเข้าร่วมบรรพชาเป็นสามเณรในครั้งนี้ ได้รับการคัดเลือกจากพระอาจารย์ที่สอนพระพุทธศาสนาในโรงเรียนเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลหลายแห่ง โดยคัดเลือกจากเด็กที่ต้องการบวชเป็นสามเณรภาคฤดูร้อน และมีความมุ่งมั่นที่จะศึกษาปฏิบัติธรรมตามแนวทางพุทธศาสนิกชน“

“สามเณร ปลูกปัญญาธรรม เป็นรายการที่ออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทรูวิชั่นส์ช่อง 60 และทรูวิชั่นส์ HD ช่อง 120 เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน – 20 พฤษภาคม 2555 โดยจะถ่ายทอดเรื่องราวการฝึกอบรมสามเณรทั้ง 9 รูป ตั้งแต่วันแรกของการบรรพชา จนถึงวันลาสิกขาบท ซึ่งตลอดระยะเวลา 31 วัน สามเณรทั้ง 9 รูป จะได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติธรรมอย่างมีลำดับขั้นตอน ตั้งแต่ การเตรียมความพร้อมก่อนบวช ซ้อมสวด ซ้อมบวช และซ้อมห่มจีวร, การเรียนรู้ที่จะต้องอดทน อดกลั้น การปฏิบัติตน ตั้งใจศึกษาพระธรรม การฝึกสติ สมาธิและการอยู่ร่วมกัน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การปรับกายและใจ จนถึงวันสุดท้ายของการบรรพชาที่สามเณรทุกรูปจะได้ขึ้นเทศน์โปรดโยมพ่อ โยมแม่ ซึ่งทรูวิชั่นส์จะถ่ายทอดสดกิจวัตรประจำวันและการปฏิบัติธรรมของสามเณร ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 5.00 – 21.00 น. หรือผู้ที่พลาดชมการดำเนินชีวิตของสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ระหว่างวัน สามารถรับชม ช่วงไฮไลท์ประจำวัน (Daily Highlight) เวลา 21.00 – 22.00 น. ซึ่งผลิตโดยบริษัทเจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด โดยจะประมวลเหตุการณ์และเรื่องเด่นในแต่ละวัน และเวลา 22.00 – 05.00 น. นำเสนอรายการธรรมะต่างๆ ได้แก่ พุทธสุภาษิต คติธรรม บรรยายธรรม นิทานธรรม เพลงธรรม พร้อมฉายช่วงไฮไลท์ประจำวันซ้ำ (Rerun) นอกจากนี้ ยังเพิ่มช่องทางให้ผู้ชมสามารถติดตามรายการแบบออนไลน์ได้ที่ www.trueplookpanya.com/truelittlemonk” นายศุภชัย กล่าว

View :1707