Archive

Archive for July, 2012

ทรูคอฟฟี่ เสิร์ฟ WiFi by TrueMove H ฟรีทันที

July 2nd, 2012 No comments

อร่อยกับเครื่องดื่มคุณภาพ พร้อมออนไลน์เพลินกับเน็ตแรง ที่ร้านทรูคอฟฟี่ กว่า 60 สาขาทั่วประเทศ

ทรูคอฟฟี่ โดย นางสาววิชชุดา สุขีวัฒนมงคล (ซ้าย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานการตลาด ทรู ไลฟ์สไตล์ รีเทล ช้อป และ โดย นางจามรี นิตยวรรณ (ขวา) รองผู้อำนวยการ สายงานการตลาดบรอดแบนด์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมประกาศความเป็นผู้นำ เพื่อสร้างประสบการณ์ประทับใจให้ลูกค้าทรูคอฟฟี่ เพลิดเพลินกับการท่องเน็ตฟรี ผ่านบริการ ที่ร้านทรูคอฟฟี่ กว่า 60 สาขา ทั่วประเทศ

พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าทรูคอฟฟี่ให้สามารถซื้อแพ็กเกจ WiFi by TrueMove H ความเร็วสูงสุด 100 Mbps ในราคาเพียง 150 บาทต่อเดือน ท่องโลกออนไลน์อิสระได้ไม่จำกัดชั่วโมงการใช้งานด้วยประสิทธิภาพโครงข่ายคุณภาพที่ใหญ่ที่สุด ผ่านฮอตสปอตกว่า 100,000 จุดทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม นี้เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านทรูคอฟฟี่ทุกสาขา

View :2577
Categories: Internet Tags:

โนเกียเปิดตัว Nokia 808 PureView เปิดยุคใหม่ของการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟน

July 2nd, 2012 No comments

โนเกียเปิดตัว สมาร์ทโฟนล่าสุดที่มาพร้อมเทคโนโลยี PureView
เอกสิทธิเฉพาะโนเกีย ถือเป็นนวัตกรรมที่พลิกโฉมการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟน ด้วยการผสานเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงถึง 41 เมกะพิกเซลกับเลนส์ Carl Zeiss และเทคโนโลยี pixel oversampling ซึ่งพัฒนาโดยโนเกีย เพื่อให้สามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างคมชัดที่สุดพร้อมรายละเอียดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนบนสมาร์ทโฟน

Nokia 808 PureView


“โนเกียปฏิวัติการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนและวางมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมมือถือด้วย Nokia 808 PureView
ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มีเทคโนโลยีถ่ายภาพขั้นสูง Nokia PureView ซึ่งจะนำมาใส่ในผลิตภัณฑ์รุ่นต่อๆ ไปในอนาคตของโนเกีย” มร.แกรนท์ แมคบีธ กรรมการผู้จัดการ โนเกีย ประเทศไทย และตลาดเอเชียเกิดใหม่ กล่าว “นอกจากจะถ่ายภาพและวิดีโอได้ละเอียด คมชัดแล้ว Nokia 808 PureView ยังช่วยให้คุณถ่ายทอดและแบ่งปันประสบการณ์จากภาพถ่ายหรือวิดีโอบนNokia 808 PureView สู่สังคมออนไลน์และโฮมเธียร์เตอร์ที่บ้านได้อย่างง่ายดาย”

Nokia 808 PureView ผสานเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ความละเอียดสูงถึง 41 megapixel เลนส์ Carl Zeiss และเทคโนโลยี pixel-over-sampling ที่พัฒนาขึ้นโดยโนเกีย ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ละเอียด คมชัด แม้ภายใต้สภาพแสงน้อย คุณสามารถซูม crop ภาพใหม่ หรือปรับขนาดภาพ เพื่อเปิดสู่รายละเอียดใหม่ๆ ที่ไม่เคยสังเกตมาก่อน ด้วยเทคโนโลยี image processing ของโนเกีย จึงสามารถจัดเก็บภาพขนาดใหญ่เป็นไฟล์ขนาดเล็กเพื่อส่งอีเมล์ MMS หรือแบ่งปันบนสังคมออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ยังสามารถรักษารายละเอียดของภาพไว้ได้

Nokia 808 PureView ใช้ซูมรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า สไลด์ซูม ซึ่งทำงานได้เร็ว ตรง และแม่นยำ ทำให้ได้กรอบในการถ่ายภาพที่ต้องการโดยไม่ต้องปรับไปมาหลายครั้ง สิ่งที่คุณต้องทำคือการเคลื่อนนิ้วของคุณขึ้นลงเพื่อสั่งการ และไม่ต้องปรับ User Interface อื่นๆ อีก ที่สำคัญ ซูมของ Nokia 808 PureView ทำงานเงียบสนิท ทำให้คุณถ่ายวิดีโอซึ่งต้องใช้ทั้งภาพและเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมฟังก์ชั่นจับภาพใบหน้า (Face Detection) โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ และแฟลชซีนอน

Nokia 808 PureView มีฟังก์ชั่น Nokia Rich Recording สำหรับการอัดเสียงคุณภาพระดับ CD รวมถึงการอัดวิดีโอ

Nokia 808 PureView


Full HD 1080p และระบบเล่นย้อนกลับ (playback) รวมถึงเทคโนโลยีหูฟัง Dolby ที่ช่วยสร้างเสียงกระหึ่มรอบทิศทางบนหูฟัง และเทคโนโลยี Dolby Digital Plus 5.1 สร้างเสียงกระหึ่มรอบทิศทางผ่านทีวีและระบบเครื่องเสียงที่รองรับ

เพิ่มความเป็นมือโปรด้วยอุปกรณ์เสริมอย่างขาตั้งกล้อง (Nokia Tripod Mouth HH-23) ฝาครอบกล้อง (Nokia Hard Cover CC-3046) สายเชื่อมต่อ HDMI (Nokia Macro HDMI Cable CA-198) เชื่อมต่อผ่านสาย HDMI หรือแบบ DLNA ไร้สาย เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านแอพ Big Screen จาก Nokia 808 PureView สู่หน้าจอทีวีทั้งภาพและเสียงระดับ Blu-ray Nokia 808 PureView ยังจัดเต็มด้วยหน้าจอกระจก Amoled ClearBlack 4 นิ้ว เทคโนโลยี NFC หน่วยความจำภายใน 16 GB ซึ่งสามารถขยายเป็น 48 GB ได้ด้วย MicroSD

Nokia 808 PureView วางจำหน่ายแล้วในราคา 18,900 บาท พร้อมรับสิทธิสมัครแพ็กเกจ iSmart จากเอไอเอส เพียงเดือนละ 399 บาท ให้คุณได้ใช้งาน AIS 3G/EDGE+ ไม่จำกัดและรับสิทธิ์โทร 200 นาทีต่อเดือน ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ Nokia Care Line โทร 02 255 2111 หรือ www.nokia.co.th/

View :1808

แซส เปิดตัวระบบการตรวจสอบการทุจริต (SAS Fraud Management) แบบเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับและการป้องกัน

July 2nd, 2012 No comments

ธนาคารชั้นนำระดับโลกสามารถลดการทุจริตได้อย่างมากด้วยแซสเป็นจำนวนเงินมูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อชื่อเสียงขององค์กร และความสัมพันธ์ของลูกค้าอันมีค่าต้องตกอยู่ในภาวะเสี่ยง การเอาชนะผู้ทุจริตให้ได้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธนาคารต่างๆ และการใช้ SAS Fraud Management ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการการทุจริตในองค์กรโดยใช้การวิเคราะห์ที่ครอบคลุม ประกอบไปด้วยระบบการให้คะแนนบัญชี แบบเรียลไทม์ รวมถึงการซื้อ การชำระเงิน และการทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเงิน จะช่วยให้ธนาคารสามารถตรวจหา ป้องกัน และจัดการการทุจริตในผลิตภัณฑ์ สายธุรกิจ และช่องทางต่างๆ ได้หลากหลาย

AS Fraud Management ล่าสุดจากบริษัท แซส ผู้นำด้านซอฟต์แวร์และบริการการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ ให้ความสามารถในการตรวจจับการทุจริตที่เกิดขึ้นกับองค์กรได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุม และแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพอีกหลากหลาย รวมถึง Application Programming Interface (API) แบบผสมผสาน การกำหนดค่าการจัดการด้วยกฎขั้นสูง เพิ่มการจัดการเชิงปฏิบัติการ และการให้คะแนนการทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์ได้อย่างแท้จริง ซึ่งทำงานบนระบบการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงของแซสที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว( Advanced SAS Analytics)

“การตรวจสอบพฤติกรรมและการทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของการป้องกันการทุจริตทางอินเทอร์เน็ต เนื่องจากความสามารถที่เพิ่มขึ้นของผู้ทุจริตที่สามารถหลบหลีกขั้นตอนการรับรองความถูกต้องได้อย่างไม่น่าเชื่อ” นายจอร์ช ทิวบิน ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการวิจัยบริษัท ทาวเวอร์กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารองค์กร กล่าว และว่า “สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยขณะนี้สถาบันการเงินต่างๆ ได้เตรียมพร้อมเพื่อรอการปรับปรุงแนวทางการรับรองความถูกต้องของสภาการตรวจสอบสถาบันการเงินแห่งรัฐบาลสหรัฐฯ (Federal Financial Institutions Examination Council: FFIEC)”
ธนาคารเอชเอสบีซีลดจำนวนการทุจริต

“SAS Fraud Management รุ่นใหม่กำลังถูกนำไปใช้ในฝ่ายปฏิบัติงานของเราภายในภูมิภาคเอเชีย และเรามั่นใจว่าแซสจะช่วยให้เราสามารถสร้างโมเดลป้องกันการทุจริตที่ดีที่สุดเท่าที่ตลาด ในขณะนี้จะสามารถนำเสนอได้” นายดีเรก ไวลด์ หัวหน้ากลุ่มความเสี่ยงด้านการฉ้อโกงและการรักษาความปลอดภัยส่วนกลางของเอชเอสบีซี (HSBC) กล่าว “เห็นได้จากจำนวนการทุจริตที่เราตรวจพบ ซึ่งมีอัตราการตรวจพบเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ผลบวกลวง (false-positive) ลดน้อยลง และเป็นไปตามเป้าหมาย ที่เราวางไว้”

ด้วยทรัพย์สินประมาณ 2.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้บริษัท เอชเอสบีซี โฮลดิ้ง พีแอลซี ถือเป็นหนึ่งในองค์กรผู้ให้บริการทางการเงินและการธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยขณะนี้สามารถให้บริการลูกค้ากว่า 95 ล้านรายผ่านสำนักงาน 7,500 แห่งใน 87 ประเทศต่างๆ ทั้งนี้ เอชเอสบีซีได้เข้าร่วมเป็นคู่ค้าการพัฒนากับบริษัท แซส ตั้งแต่ปี 2550 และได้ใช้ SAS Fraud Management เป็นระบบพื้นฐานสำหรับการตรวจหาการทุจริตแบบเรียลไทม์และการจัดการการทุจริตอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทั้งเครือข่ายทั่วโลกของบริษัท โดยบริษัท แซส ได้ช่วยให้เอชเอสบีซีสามารถลดการสูญเสียทั่วโลกจากการทำธุรกรรมที่ทุจริตและภัยคุกคามที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะนี้เอชเอสบีซีได้ปรับใช้ SAS Fraud Management แล้วในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ซึ่งสามารถป้องกันการทำธุรกรรมของบัตรเครดิตได้ 100% ในเวลาเรียลไทม์ และกำลังจะขยายให้ครอบคลุมการทุจริตทั้งหมดข้ามสายธุรกิจที่หลากหลายและช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

“เราได้รับผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมอย่างมากเหนือกว่าระบบก่อนหน้านี้ที่เราเคยใช้มาก่อน” นายไวลด์ กล่าว “บริษัท แซส มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจได้ว่าเอชเอสบีซีจะยังคงมีโซลูชั่นป้องกันการทุจริตระดับแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง เรามีความยินดีอย่างยิ่งกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น การวิเคราะห์การทุจริตสามารถนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่สำคัญมากมาย และนั่นเป็นประสบการณ์ของเราที่มีร่วมกับแซสซึ่งเป็นคู่ค้าของเราและซอฟต์แวร์ SAS Fraud Management”
API ใหม่และฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่อสู้กับภัยการทุจริต

ระบบการบริหารจัดการการทุจริตของแซส (SAS Fraud Management) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของระบบแฟรมเวิร์กด้านอาชญากรรมทางการเงินสำหรับธนาคารของแซส (SAS Enterprise Financial Crimes Framework for Banking) ด้วย API แบบผสมผสาน ทำให้ SAS Fraud Management เพิ่มขีดความสามารถการประมวลผลแบบเรียลไทม์เพื่อแจ้งเตือนสำหรับผลิตภัณฑ์และช่องทางที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยธุรกิจที่เกิดใหม่ เช่น สำนักหักบัญชีอัตโนมัติ (ACH) การธนาคารแบบผ่านระบบสาย ระบบโทรศัพท์ และระบบอินเทอร์เน็ต รวมทั้งการตรวจสอบบริษัทนายหน้าต่างๆ โดยบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินสามารถติดตามตรวจสอบและตรวจหาภัยด้านการทุจริตได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้ ไม่ว่าจะมาจากช่องทางจำหน่ายเดียว หรือช่องทางจำหน่ายที่หลากหลายโดยมีเป้าหมายเพื่อขโมยเงินมูลค่านับล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตัวอย่างเช่น การโจมตีในรูปแบบ “การหาผู้ทำหน้าที่โอนเงินแทน” (money mule) และ “โทรจัน Zeus” ทางอินเทอร์เน็ตที่สามารถขโมยข้อมูลประจำตัวเกี่ยวกับบัญชีธนาคารของผู้ใช้ได้ โดยเป็นไวรัสมัลแวร์ที่สามารถแพร่ระบาดไปยังระบบคอมพิวเตอร์ของสถาบันการเงินกว่า 2,000 ระบบ และ พีซีมากกว่า 3 ล้านเครื่องในสหรัฐฯ โดยผู้ทุจริตจะติดต่อคอลล์เซ็นเตอร์เพื่อเข้าใช้และเปิดบัญชี จากนั้นจะโอนเงินข้ามประเทศหรือโอนไปยังบัญชีอื่นๆ ภายในประเทศ รูปแบบการทุจริตนี้มีมูลค่าไม่มากนักเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตเว้นแต่องค์กรจะมีระบบตรวจสอบบัญชีเชิงรุกที่ครอบคลุมประเภทช่องทางการชำระเงินต่างๆ ได้ทั้งหมด
เทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรและการให้คะแนนแบบเรียลไทม์เพื่อความแม่นยำและประสิทธิภาพ

บริษัท แซส ได้รับการอนุมัติสิทธิบัตรสำหรับ “Computer-Implemented Data Storage Systems and Methods for Use with Predictive Model Systems” (ระบบและวิธีการจัดเก็บข้อมูลที่ใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการใช้กับระบบสร้างโมเดลเชิงพยากรณ์) (US patent 7,912,773 B1) สำหรับเทคโนโลยีการวิเคราะห์ใน SAS Fraud Management รุ่นใหม่แล้ว โดยซอฟต์แวร์นี้สามารถจัดเก็บข้อมูลดิบที่ชาญฉลาดในรูปลายเซ็น ซึ่งจะบันทึกประวัติของส่วนย่อยต่างๆ ในธุรกิจ (เช่น รหัสบัตร รหัสบัญชี รหัสลูกค้า รหัสเทอร์มินอล หรือที่อยู่ IP) ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม การเพิ่มความแม่นยำในการตรวจหาพฤติกรรมลูกค้าที่อยู่ภายนอกบรรทัดฐานในระหว่างการทำธุรกรรม ณ จุดขาย โดยข้อมูลนี้สามารถนำไปปรับใช้กับโมเดลเชิงพยากรณ์จำนวนมากเพื่อช่วยในการตรวจหาการทุจริจและการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตโดยเฉพาะ

เทคโนโลยีการวิเคราะห์นี้และวิธีการสร้างโมเดลเครือข่ายประสาทที่มีประสิทธิภาพและได้รับการ จดสิทธิบัตรแล้ว ของบริษัท แซส อยู่เบื้องหลังโมเดลการทุจริตที่มีประสิทธิภาพของแซส ซึ่งสามารถให้การป้องกันขั้นสูงต่อลูกค้าและผู้ให้บริการออกบัตรเครดิตได้

“ความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลดิบอย่างชาญฉลาดสำหรับหน่วยงานที่หลากหลายเป็นสิ่งสำคัญต่อการจัดการปัญหาด้านความเสี่ยงและการทุจริตจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟต์แวร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “นวัตกรรมของแซส เป็น สิ่งที่น่าตื่นเต้นอย่างมากไม่เพียงแต่แง่มุม ด้านเทคโนโลยี แต่ยังครอบคลุมถึงผลประโยชน์ที่มีต่ออุตสาหกรรมทางการเงินด้วย”

ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่นี้ยังจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าการจัดการกฎขั้นสูงเพื่อตรวจสอบและติดตามรูปแบบพฤติกรรมในอดีตของหน่วยธุรกิจต่างๆ ตามความต้องการทางธุรกิจ โดยการกำหนดค่าดังกล่าวให้กับองค์กรจำนวนมากจะช่วยให้สถาบันทางการเงินสามารถปรับใช้และจัดการโซลูชั่นองค์กรในลักษณะที่แยกส่วนกันได้อย่างละเอียด และเมื่อมีการจับคู่เข้ากับการวิเคราะห์ขั้นสูงที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วของแซส ทำให้ SAS Fraud Management สามารถลดจำนวนผลบวกลวง (false positive) ได้อย่างมาก บริการลูกค้าจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการลดการทำธุรกรรมที่ล่าช้าลง รวมทั้งยังทำให้พนักงานได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการจัดการที่ดีกว่าเดิม องค์กรต่างๆ จึงสามารถรับรู้ประสิทธิภาพด้านการปฏิบัติงานที่ดียิ่งขึ้นได้ในขณะที่มีผลบวกลวงน้อยลง ประหยัดเวลา และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างสูงสุด

View :1827

หัวเว่ยแจ้งเกิดในงาน Thailand International Mobile Show 2012 ลูกค้าตอบรับสมาร์ทดีไวซ์ท่วมท้น

July 2nd, 2012 No comments

หัวเว่ยไอดีออส เอ็กซ์ 5 ยอดขายและยอดจอง 4 วันสูงเป็นประวัติการณ์ แถมหัวเว่ยไอดีออส เอ็กซ์ 3 รวมถึง MrdiaPad ได้รับการตอบรับด้วยเช่นกัน ระบุเป็นคนไทยเริ่มเปิดใจยอมรับแบรนด์หัวเว่ยติดล่าสุดก้าวเป็น 10 อันดับ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มียอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนสูงสุดในตลาดโลก พร้อมทั้งใช้กลยุทธปรับราคาให้ผู้บริโภคเข้าถึงง่ายขึ้น

นายสุวิทย์ ชัยกิจพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลเทคกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในงาน ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2555 –1ก.ค. 2555 ณ. ศูนย์แสดงสินค้าไบเทคบางนา สมาร์ทดีไวซ์แบรนด์หัวเว่ยได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคสินค้าไอทีที่เดินทางเข้าร่วมงานเป็นอย่างมากแตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างชัดเจน เรียกได้ว่างานนี้หัวเว่ยสามารถแจ้งเกิดในตลาดไทยได้เต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ในงานดังกล่าวเวลเทคกรุ๊ปได้นำสินค้า สมาร์ทโฟนหัวเว่ยไอดีออส เอ็กซ์ 5 (Huawei IDEOS X5 ) ร่วมจัดโปรโมชั่นราคา 4,790 บาท พร้อมของแถมฟิลม์กันรอยพร้อม SD Card 4 GB และ หัวเว่ยไอดีออส เอ็กซ์ 3 ราคา 3,990 บาทแถมฟิล์มกันรอย SD Card 4 GB ซึ่งจัดจำหน่ายผ่าน บริษัท ทีทีดีจี จำกัด (TTDG) ภายในงาน หัวเว่ยไอดีออส เอ็กซ์ 5 (Huawei IDEOS X5 ) ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าเยี่ยมชมงานเป็นอย่างมากโดยระยะเวลาเพียง 4 วัน มียอดซื้อ และยอดจองสูงสุดในกลุ่มสมาร์ทดีไวซ์แบรนด์หัวเว่ยและนับเป็นการทำยอดขายสูงสุดตั้งแต่ทำตลาดมาเกือบ 1 ปี ในขณะเดียวกันสามาร์ทดีไวซ์ ทั้ง สมาร์ทโฟนหัวเว่ยไอดีออส เอ็กซ์ 3 และ MediaPad ก็ได้รับการตอบรับและมียอดขายสูงด้วยเช่นกัน

“ในงาน Thailand International Mobile Show 2012 เป็นงานที่ผู้ผลิต และตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทุกแบรนด์ นำสินค้าไปวางทำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกันอย่างคับคั้ง ตั้งแต่แบรนด์ที่มีมาร์เกตแชร์สูงที่สุดในตลาดไทยและแบรนด์ได้รับการยอมรับในตลาดไทยครบทุกแบรนด์ แต่งานนี้นับว่า สมาร์ทดีไวซ์แบรนด์หัวเว่ยสามารถแจ้งเกิดในตลาดไทยได้สมความตั้งใจที่รอคอยมากว่า 1 ปี โดยเฉพาะหัวเว่ยไอดีออส เอ็กซ์ 5 ที่มียอดขายและยอดจองเป็นจำนวนมาก”นายสุวิทย์กล่าว

นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่สามารถส่งผลให้หัวเว่ยแจ้งเกิดได้ในงาน Thailand International Mobile Show 2012 ครั้งนี้น่าจะมาจาก 2 ปัจจัย สนับสนุน 1.ตลาดไทยเริ่มยอมรับในคุณภาพของแบรนด์หัวเว่ยเนื่องจากปัจจุบันได้ก้าวขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มียอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนสูงสุดในตลาดโลกในช่วง 3 เดือนแรกของปี มียอดจัดส่งราว 6.8 ล้านเครื่อง โดยผลสำรวจของเอบีไอรีเสิร์ช (ABI Research) บริษัทวิจัยตลาดเทคโนโลยี 2.การปรับลดราคาให้สามารถแข่งขันในออุตสาหกรรมมาร์ทโฟนที่ดุเดือดในประเทศไทยได้ เพื่อหวังจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณาซื้อ

View :1420

Thailand International Mobile Show 2012 ประเดิมครั้งแรกอย่างสวยงาม ยอดเงินสะพัดตามคาด

July 2nd, 2012 No comments

บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด รวมพลทั้งภาครัฐและพันธมิตรโทรศัพท์มือถือกว่า 40 แบรนด์ดังชั้นนำ จัดงาน “” ที่สุดแห่งมหกรรมมือถือและแท็บเล็ต ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา
นาย โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของการจัดงาน “Thailand International Mobile Show 2012” ที่สุดแห่งมหกรรมมือถือและแท็บเล็ต ด้วยจำนวนผู้เข้าชมงานประมาณ 3.8 แสนคน ต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อย แต่มียอดเงินสะพัดภายในงานประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากมีผู้สนใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตเพิ่มมากขึ้น โดยสมาร์ทโฟนในกลุ่ม Hi End ได้รับความนิยมมากที่สุด ตามมาด้วยสมาร์ทโฟนในกลุ่ม Mid End ในขณะที่แท็บเล็ตก็ยังคงมีการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อ สืบเนื่องมาจากโครงการแจกแท็บเล็ตของรัฐบาล อีกทั้งผู้เข้าชมงานยังสนใจเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมต่างๆ ทำให้จำนวนยอดเงินสะพัดภายในงานเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้


นาย โอภาส กล่าวต่อว่า เนื่องจากสถานที่ในการจัดงานครั้งนี้สามารถรองรับผู้เข้าชมได้มากขึ้น ที่จอดรถกว้างขวาง ทำให้ผู้เข้าชมงานเดินทางสะดวก ผู้เข้าชมจึงนิยมเดินทางมากันเป็นครอบครัว รวมถึงมีเวทีเสวนาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ Mobile Application ทำให้มีอัตราการซื้อที่หลากหลาย จากเดิมที่ซื้อเพียงเครื่องเดียว ก็เพิ่มจำนวนการซื้อมากขึ้นกว่า 50% ทำให้มีกำลังซื้อสินค้าในหลายกลุ่มทั้งสมาร์ทโฟนในกลุ่ม Mid End และ Low End โดยเหตุปัจจัยที่ทำให้มีการเลือกซื้อสินค้าภายในงาน นอกจากโปรโมชั่นบัตรเครดิต ส่วนลดพิเศษต่างๆ และการซื้อเครื่องพร้อมแพคเกจแล้ว ก็ยังมีในส่วนของการปรับลดระดับราคาสมาร์ทโฟนภายในงานลงอีกครั้ง ทำให้สมาร์ทโฟนระดับ Hi-End นั้นอยู่ในช่วงราคาเพียงแค่ 16,000 –22,000 บาท และทางด้านของตลาดสมาร์ทโฟนระดับ Mid-End ซึ่งมีราคาอยู่ในช่วง11,000 – 15,900 บาท ก็เป็นอีกแรงดึงดูดที่น่าสนใจ เนื่องจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในราคาระดับนี้ต่างทยอยกันออกสู่ตลาดหลายต่อหลายรุ่น และแต่ละรุ่นก็มาพร้อมฟังก์ชั่นที่ครบครันในราคาที่เหมาะสม ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันซึ่งมองไปที่ความคุ้มค่าในการใช้งานเป็นปัจจัยหลักสำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 3G ก็มีความชัดเจนและครอบคลุมมากยิ่งขึ้นกระตุ้นให้เกิดความต้องการเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายกว่าฟีเจอร์โฟนแทบทุกด้าน โดยแอนดรอยด์ก็ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนที่มาแรงเหมือนเช่นเคย ด้วยยอดจำหน่ายสูงถึง 80% ของโทรศัพท์มือถือทั้งหมดที่จำหน่ายภายในงาน

View :1421