Archive

Posts Tagged ‘ก.ไอซีที’

ก.ไอซีที รับมอบนโยบายรัฐบาลแก้ปัญหาเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม

February 25th, 2011 No comments

นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังการประชุม “ งานรับมอบนโยบายการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม ” ว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม ซึ่งได้กลายเป็นปัญหาสังคมที่จำเป็นต้องมีการป้องกันและแก้ไข ดังนั้น ในการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบนโยบายการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและ เยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อมให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 7 หน่วยงาน คือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการแก้ปัญหาดังกล่าวร่วมกัน

“กระทรวง ไอซีที เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับมอบภารกิจครั้งนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้กระทรวงฯ ปฏิบัติภารกิจในด้านการป้องกัน เนื่องจากปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทำให้เด็ก และเยาวชนได้รับการกระตุ้นจากสื่อลามกอนาจารทุกรูปแบบได้ง่ายโดยเฉพาะผ่าน ทางสื่ออินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งภายหลังรับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็จะมีการรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อใช้กำหนดเป็นนโยบายและมอบให้แก่หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงไอซีทีนำไปดำเนินการ

โดย ที่ผ่านมา กระทรวงไอซีทีได้มีการดำเนินนโยบายในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ผ่านโครงการต่างๆ หลายโครงการ ซึ่งสอดรับกับนโยบายฯ ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ โดยโครงการสำคัญโครงการหนึ่งก็คือ โครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงไอซีที ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือของ 3 กระทรวง ในการสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง รวมถึงป้องกันการกระทำผิดฯ และแจ้งเบาะแสมายังสายด่วน 1212 เพื่อ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ที่ได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งการเฝ้าระวังและป้องปรามการเผยแพร่ สื่อ ลามกอนาจารนั้น ก็เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของโครงการนี้เช่นกัน ส่วนการดำเนินงานที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้มีการประสานความร่วมมือกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP ในประเทศเพื่อปิดกั้นสื่อลามกต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ยังติดปัญหาในการประสานงานกับ ISP จากต่างประเทศอยู่บ้าง ” นางสาวมัลลิกา กล่าว

นอก จากนี้ กระทรวงไอซีที ยังดำเนินการพัฒนาโปรแกรม ไอซีที เฮ้าส์คีปเปอร์ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยในการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งสามารถขอรับโปรแกรมดังกล่าวได้ฟรีที่สำนักงานปลัดกระทรวงฯ พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ยังมีนโยบายที่จะจัดค่ายเยาวชนในลักษณะ ICT Summer Camp เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างเท่าทัน รวมถึงจะมีการร่วมมือกับ 4 หน่วย งาน คือ กระทรวงไอซีที กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อวางแผนการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และพัฒนาหลักสูตรที่มุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้เท่าทันความก้าวหน้า และรู้จักการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการใช้คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ อย่างถูกต้อง

นาง สาวมัลลิกาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ ก็เป็นอีกนโยบายของกระทรวงฯ ที่สอดรับกับนโยบายการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและ เยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม เนื่องจากต้นเหตุของปัญหาคือการขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศ ศึกษาในเด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ดังนั้น การขยายโอกาสทางการศึกษาผ่านโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะขยายออกไปให้ครอบคลุมพื้นที่ 80 % ของประเทศภายในปี 2558 จึง เป็นการกระจายความรู้ที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนกลุ่ม เสี่ยงในพื้นที่ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยกระทรวงฯ จะได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินนโยบายในการกระจายรู้ ควบคู่ไปกับนโยบายในการป้องกัน เพื่อให้นโยบายการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชน ตั้งครรภ์ไม่พร้อมของรัฐบาลบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้”

View :1497

ก.ไอซีที เปิดเว็บ e-Biz ให้ผู้ประกอบการไอซีทีไทยใช้ฟรี ส่งเสริมการแข่งขันในระดับสากล

February 10th, 2011 No comments

นายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจ (National e-Business Registry : ) ว่า ภายหลังจากกระทรวงฯ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจ ตั้งแต่ปี 2552 นั้น ขณะนี้ กระทรวงฯ ได้พัฒนาระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจดังกล่าวแล้วเสร็จ พร้อมเปิดบริการให้ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทย(ไอซีที) ได้เข้าไปลงทะเบียน และใช้งานระบบต่างๆ อย่างสมบูรณ์แล้ว
“ในการใช้งานระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจนี้ ผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย อาทิ การประชาสัมพันธ์ข่าวสาร กิจกรรมต่างๆ และสินค้าของผู้ประกอบการ รวมทั้งได้พื้นที่เว็บเพจฟรี เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูลของผู้ประกอบการไอซีทีไทย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการฯ สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล สำหรับผู้ประกอบการไอซีทีไทยที่มีความสนใจติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางดังกล่าวสามารถเข้ามาลงทะเบียนใช้บริการได้ฟรีที่เว็บไซต์ http://ebiz.mict.go.th” นายวรพัฒน์ กล่าว
ระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจ หรือ e-Biz นี้ เป็นระบบสารสนเทศและฐานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมและตลาดไอซีที สำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่เก็บรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับการผลิตสินค้า และการให้บริการของผู้ประกอบการไปสู่ผู้บริโภคผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต โดยระบบดังกล่าว ประกอบด้วยระบบงานย่อย 10 ระบบ คือ 1.ระบบลงทะเบียนผู้ประกอบการธุรกิจ ไอซีที 2.ระบบจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์/บริการ 3.ระบบจัดการข้อมูลข่าวประชาสัมพันธ์ 4.ระบบจัดการข้อมูลการฝึกอบรมและสัมมนา 5.ระบบจัดการข้อมูลโครงร่างของเว็บไซต์ 6.ระบบจัดการข้อมูลการซื้อขาย 7.ระบบจัดการข้อมูลการจ่ายเงิน 8.ระบบจัดการข้อมูลพื้นฐาน 9.ระบบจัดการข้อความประกาศ และ10.ระบบรายงาน
สำหรับผู้ประกอบการที่ได้ลงทะเบียนในระบบ e-Biz จะได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การเผยแพร่ข่าวสารเพื่อประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการในหน้าเว็บไซต์ การเพิ่มข้อมูลผลิตภัณฑ์/บริการของผู้ประกอบการ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถสั่งซื้อสินค้าระหว่างกันในระบบได้ และยังจะได้รับพื้นที่สำหรับสร้างหน้าเว็บเพจของผู้ประกอบการได้ฟรี นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์/บริการของผู้ประกอบการที่มีมาตรฐานรับรอง และเป็นไปตามเกณฑ์ราคาพื้นฐานของกระทรวงฯ จะได้รับการประชาสัมพันธ์อยู่บนเว็บไซต์ทะเบียนกลางทางธุรกิจด้วย
“ในอนาคต กระทรวงฯ มีแนวทางที่จะพัฒนาให้ระบบ e-Biz ให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้งานทั่วไป รวมถึงสร้างระบบสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจในด้านต่างๆ ให้มากขึ้น เช่น การพัฒนาระบบให้สามารถทำธุรกรรมการจ่ายเงิน และติดตามการขนส่ง ผ่านระบบได้ โดยระยะต่อไปจะนำระบบ e-Biz เชื่อมต่อกับระบบ e-Market Place เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนไว้ในระบบ e-Biz เข้าสู่ระบบ e-Market Place ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการในตลาด ASEAN รวมทั้งจะมีการนำระบบ e-Biz เชื่อมต่อกับระบบ e-Government Procurement หรือ e-GP ของกรมบัญชีกลาง โดยเชื่อมต่อส่วนการลงทะเบียน ผู้ประกอบการระบบ e-Biz ให้สามารถที่จะใช้งานในระบบ e-GP ร่วมกันได้” นายวรพัฒน์ กล่าว
 

View :1379