Archive

Author Archive

“คิงส์ตัน” เปิดตัวอัพเดทสำหรับ Wi-Drive App พร้อมฟังก์ชั่นถ่ายโอนไฟล์แบบไร้สาย

October 28th, 2011 No comments


บริษัท คิงส์ตัน เทคโนโลยี ประเทศไทย ผู้ผลิตและพัฒนาหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก เปิดตัวอัพเดทสำหรับ สำหรับดาวน์โหลด โดยมีคุณสมบัติเพิ่มเติมดังต่อไปนี้

· ฟังก์ชั่นโหลดและลบไฟล์แบบไร้สาย ให้ผู้ใช้สามารถถ่ายโอนไฟล์จากอุปกรณ์ Wi-Drive ไปยัง Wi-Drive App หรือกลับกันได้ในแบบไร้สายผ่านระบบ Wi-Fi
· ตัวเลือก Open In เพื่อการใช้งานอุปกรณ์ Apple ตัวเลือก Open In ให้ผู้ใช้สามารถเลือก App ที่ใช้เปิดและคัดลอกไฟล์เอกสารได้
· ฟังก์ชั่นเสริมเพื่อการเลือกไฟล์และการส่งอีเมล์ ผู้ใช้สามารถเลือกและแนบไฟล์เพลง ภาพถ่าย วิดีโอหรือเอกสารลงในอีเมล์ได้ (ขนาดไม่เกิน 10MB)
· สามารถแก้ไขความผิดพลาดในระบบปลีกย่อยต่างๆ ได้

ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดอัพเดทสำหรับ Wi-Drive App ได้จาก App Store หรือ iTunes Store ที่เว็บไซต์ http://www.apple.com/asia/itunes/

Kingston Wi-Drive รับประกัน 1 ปีพร้อมบริการช่วยเหลือด้านเทคนิคฟรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.kingston.com/thailand

View :1469

แคนนอนเสริม Wi-Fi Full Range เพิ่มศักยภาพ มัลติฟังก์ชั่น เลเซอร์ พรินเตอร์ในตระกูล ImageCLASS

October 28th, 2011 No comments

บริษัท จำกัด ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์พรินเตอร์ในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยี Wi-Fi เปิดตัว ด้วยกันถึง 6 รุ่นใหม่ขยายขอบเขตความสามารถในการพิมพ์ครอบคลุมทุกตารางนิ้ว ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงาน ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนก็สามารถสั่งพิมพ์ได้ไม่มีสะดุด

นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า “จากความสำเร็จในการเปิดตัวเทคโนโลยี PIXMA Wi-Fi Printer เมื่อปีที่ผ่านมา แคนนอนได้สร้างมิติใหม่ให้กับวงการการพิมพ์โดยตอบสนองไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนรุ่นใหม่ ทำให้การพิมพ์เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi ที่เชื่อมต่อทุกความต้องการเบ็ดเสร็จภายในเครื่องพรินเตอร์ของแคนนอน ปีนี้แคนนอนพร้อมประกาศความยิ่งใหญ่อีกครั้งกับการชูความแข็งแกร่งเทคโนโลยี Wi-Fi ของแคนนอน ในการนำเสนอ มัลติฟังก์ชั่น เลเซอร์ พรินเตอร์ แบบ Wi-Fi Full Range เชื่อมต่อทุกพื้นที่การทำงานให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความคล่องตัวให้กับการทำงาน ผู้ใช้จึงสามารถสั่งพริ้นท์โดยเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องอาศัยระบบ LAN ที่ยุ่งยาก และยังสามารถสั่งพริ้นท์จากจุดใดก็ได้ในออฟฟิศ”

MF8380Cdw


มัลติฟังก์ชั่น เลเซอร์ พริ้นเตอร์ แบบ Wi-Fi ที่เปิดตัวในครั้งนี้มีมากถึง 6 รุ่น ที่แคนนอนนำเสนอครอบคลุมพรินเตอร์ตั้งแต่รุ่นเล็กจนถึงรุ่นใหญ่ ประกอบด้วย เครื่องมัลติฟังก์ชั่นเลเซอร์พรินเตอร์สี 2 รุ่น คือ MF8380Cdw, MF8080w และเครื่องมัลติฟังก์ชั่นเลเซอร์พรินเตอร์ขาวดำ 4 รุ่น คือ MF5980dw, MF4580dw, MF4570dw, MF4420w ทุกรุ่นรองรับสัญญาณ Wi-Fi

สำหรับ One-Touch Solution key ที่อยู่ในมัลติฟังก์ชั่นเลเซอร์พรินเตอร์สีทุกรุ่นเป็นฟังก์ชั่นเด่นที่ทำงานได้หลากหลายความสามารถ
1. ตั้งการสแกนผ่านเข้าเครื่อง PC เครื่องเดียวกันได้ แม้จะมีการตั้งค่า setting ที่ต่างกัน โดยสามารถตั้ง Fix ไว้ได้ 2 โหมด ทั้งยังไม่ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่สั่งสแกน (ซึ่งจะสามารถใช้กับการเชื่อมต่อผ่าน USB เท่านั้น)
2. มีปุ่ม Paper Save Copy เป็นปุ่มลัดที่สามารถกดเข้าไปเพื่อเลือกโหมดการ Copy ได้เลย ไม่ต้องผ่านการกดเข้า Menu ที่ซับซ้อนและยุ่งยาก
3. ฟังก์ชั่น Secure Print มีเฉพาะ ในรุ่น MF5980dw และ MF8380Cdw เป็นระบบป้องกันการพิมพ์เอกสารสำคัญที่ไม่ต้องการให้ใครทราบหรือหยิบผิด ซึ่งเมื่อสั่งพิมพ์จะต้องเลือก Secure Print และกรอก Password ที่สามารถตั้งเลขได้สูงสุดถึง 7 ดิจิต หลังจากนั้นจึงสั่งพรินท์ที่ตัวเครื่องพรินเตอร์ โดยกดปุ่ม Secure print และกรอกPassword อีกครั้งเพื่อพิมพ์เอกสารสำคัญนั้นออกมา นอกจากเป็นการป้องกันข้อมูลสำคัญ ฟังก์ชั่นนี้ยังช่วยประหยัดกระดาษในการพิมพ์และป้องกันความผิดพลาดในการพริ้น โดยสามารถล็อกไฟล์เพื่อเลือกพริ้นจากหน้าจอของเครื่องพริ้นเตอร์ได้เอง สำหรับรุ่นที่เป็นไฮท์ไลท์เด่น คือ MF5980dw และ MF8380d ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น security print ยังมี feature เด่นๆ อีกมากมาย เช่น USB Direct Print การพรินต์งานผ่าน USB Flash Drive ซึ่งรองรับทั้งไฟล์ที่เป็น JPEG, TIFF และ PDF (เฉพาะรุ่น MF8380Cdw เท่านั้น) นอกจากนี้ยังมี Department ID Management เป็นการตั้งรหัสผ่านเมื่อต้องการควบคุมการใช้งาน และ SEND Technology การตั้งค่าการสแกนแบบกระจายทีเดียวเป็นกลุ่มผ่าน share folder หรือส่วนตัวผ่าน mail box

“ด้วยแนวโน้มการเลือกซื้อพรินเตอร์ของผู้บริโภคในปัจจุบันเริ่มเบนมาทางการซื้อ มัลติฟังก์ชั่น พรินเตอร์ มากขึ้น และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก การที่แคนนอนแนะนำ มัลติฟังก์ชั่น เลเซอร์ พรินเตอร์ 6 รุ่น จึงถือเป็นการตอบสนองตลาดทุกขนาดของกลุ่มผู้ใช้ มัลติฟังก์ชั่น พรินเตอร์ ทั้งนี้เราเชื่อว่าด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยีอันเหนือชั้น และฟังก์ชั่นที่ใช้งานง่าย ทั้งยังประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของพริ้นเตอร์ของแคนนอนจะรองรับการเติบโตของธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ พร้อมเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้กับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น”
นายวรินทร์ กล่าวปิดท้าย

View :1495

โนเกียเปิดตัว Nokia Lumia 800 และ Nokia Lumia 710 สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone พร้อมบริการและอุปกรณ์เสริมล่าสุดในงาน Nokia World

October 27th, 2011 No comments

ในงานโนเกีย เวิลด์ ซึ่งเป็นงานประจำปีสำหรับลูกค้า พันธมิตร และนักพัฒนา โนเกียแสดงความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามกลยุทธ์ เผยโฉมนวัตกรรมโทรศัพท์มือถือ บริการ และอุปกรณ์เสริม นำทัพโดย Nokia Lumia สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ รุ่นแรก ประกอบด้วย มาในดีไซน์โดดเด่น มอบประสบการณ์สังคมออนไลน์และอินเตอร์เน็ตที่ดีที่สุด พร้อมฟีเจอร์หลักของโนเกีย เช่นความสามารถด้านการถ่ายภาพ และประสบการณ์การใช้งานใหม่ๆ สมาร์ทโฟนสีสันสดใสราคาย่อมเยา มอบประสบการณ์ใหม่สู่ผู้คนทั่วโลก

โนเกียยังได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือดีไซน์เก๋ มาพร้อมเทคโนโลยี location-aware และประสบการณ์สังคมออนไลน์ที่ยอดเยี่ยม ประกอบด้วย Nokia Asha 300, Nokia Asha 303, Nokia Asha 200, และ Nokia Asha 201 ผสานประสบการณ์สมาร์ทโฟนลงในโทรศัพท์มือถือ ในรูปแบบของคีย์บอร์ด QWERTY และหน้าจอสัมผัส เชื่อมต่ออินเตอร์ได้รวดเร็วและง่ายดาย พร้อมเข้าถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์ ระบบรับส่งข้อความ และแอพพลิเคชั่นดีๆจากโนเกีย สโตร์

“เมื่อ 8 เดือนก่อน เราได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่ และวันนี้ เรากำลังแสดงความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามกลยุทธ์ เรานำนวัตกรรมมาสู่ทุกผลิตภัณฑ์ของเรา ตั้งแต่สมาร์ทโฟนใหม่ จนถึงโทรศัพท์มือถือที่ชาญฉลาดขึ้นกว่าเดิม” มร. สตีเฟ่น อีลอป ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โนเกีย กล่าว พร้อมเสริมว่า “จาก Nokia Lumia 800 ถึง Nokia Asha 201 เรานำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ผมภูมิใจในผลิตภัณฑ์ และชาวโนเกียทุกคนที่ร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เหล่านี้”

มร. พีท คันนิ่งแฮม หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท คานาลิส กล่าวว่า “นับตั้งแต่โนเกียปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เมื่อ 8 เดือนก่อน เราได้พบพลังใหม่ๆ ซึ่งช่วยพัฒนาระบบปฏิบัติการ Symbian ให้ดีขึ้น สร้างความแตกต่างให้กับ Windows Phone และสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ โนเกียกำลังทำตามคำมั่นสัญญา และแสดงถึงเส้นทางสู่ความสำเร็จในอนาคต”

สมาร์ทโฟน Nokia Lumia

สมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 2 รุ่นแรกนำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่ออกแบบให้ทุกวันของคุณเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ยิ่งขึ้น

Nokia Lumia 800

Nokia Lumia 800 ดีไซน์โดดเด่นในเฉดสีสุดโดน (ฟ้า ชมพู ดำ) ทรงประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานสังคมออนไลน์ และอินเตอร์เน็ต สามารถเข้าสู่สังคมออนไลน์ได้ง่ายเพียงสัมผัสเดียว จัดกลุ่มรายชื่อ contacts ได้ง่าย พรั่งพร้อมด้วยระบบสื่อสารที่ดีเยี่ยม และ Internet Explorer 9 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ClearBlack 3.7 นิ้ว ซึ่งเชื่อมต่อกับตัวเครื่องได้อย่างสวยงามเพรียวบาง และ processor 1.4 GHz มาพร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฮาร์ดแวร์ ระบบประมวลผลให้ทำงานได้เร็วขึ้น Nokia Lumia 800 มอบประสบการณ์การถ่ายภาพและแชร์ภาพทันทีที่ยอดเยี่ยมด้วย เลนส์ Carl Zeiss , วีดีโอคุณภาพ HD หน่วยความจำภายใน 16GB และฟรี SkyDrive หน่วยความจำออนไลน์ขนาด 25 GB เพื่อเก็บรูปภาพและเพลงโปรด Nokia Lumia จะวางจำหน่ายในราคาประมาณ 420 ยูโร ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ

Nokia Lumia 710

Nokia Lumia 710 เป็นโทรศัพท์ที่สร้างสร้างขึ้นโดยให้ความสำคัญกับการใช้งานในรูปแบบที่ปรับแต่งได้ตามใจผู้ใช้ ฝาหลังเปลี่ยนได้พร้อมแอพพลิเคชั่นนับพัน มอบประสบการณ์การใช้งานใหม่ๆ ให้กับผู้คนทั่วโลก Nokia Lumia 710 ออกแบบเพื่อการใช้งานสังคมออนไลน์ และแชร์รูปภาพทันที ท่องเว็บว่องไวด้วย IE9 มาในสีขาวและดำ พร้อมฝาหลังสีดำ ขาว ฟ้า ชมพู และเหลือง processor 1.4 GHz พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฮาร์ดแวร์ ระบบประมวลผลให้ทำงานได้เร็วขึ้น Nokia Lumai 710 มอบการทำงานทรงประสิทธิภาพในราคาย่อมเยา คาดว่าจะวางจำหน่ายในราคาประมาณ 270 ยูโร ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ

สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นรวมประสบการณ์การใช้งานโนเกียอันเป็นเอกลักษณ์ เข้ากับระบบปฏิบัติการ Windows Phone ได้แก่ Nokia Drive ซึ่งเป็นระบบนำทางส่วนตัว แบบเลี้ยวต่อเลี้ยวพร้อมระบบการใช้งานภายในรถยนต์ นอกจากนี้ยังมี Nokia Music ได้แก่ MixRadio แอพพลิเคชั่นในการฟังเพลงที่มีมากกว่า 100 ช่อง ในระยะเวลาอันใกล้ผู้ใช้สามารถสร้างช่องส่วนตัวจากคลังเพลงกว่าล้านเพลงทั่วโลก Nokia Music ยังมี Gigfinder ที่ช่วยหาสถานที่แสดงดนตรีสด พร้อมสามารถแบ่งปันสิ่งใหม่ๆ บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ และยังจะสามารถซื้อตั๋วคอนเสิร์ตผ่านโปรแกรม Nokia Music ซึ่งจะเปิดให้อัพเดตภายในปีนี้

เพื่อความสมบูรณ์ในการฟังเพลงโนเกียเปิดตัว Nokia Purity HD Stereo Headset by Monster
และ in-ear Nokia Purity Stereo Headset by Monster ซึ่งออกแบบและพัฒนาร่วมกับ มอนสเตอร์ (Monster) ผู้นำด้านระบบเสียงประสิทธิภาพสูง มอบประสบการณ์การพังเพลงที่สดใหม่ ถือเป็นผลงานแรกจากความร่วมมือระยะยาวระหว่างโนเกีย และมอนสเตอร์ เพื่อนำเสนออุปกรณ์เสริมด้านระบบเสียงชั้นสูง เพื่อสะท้อนคุณภาพและสไตล์โดดเด่นของ Lumia

Nokia Lumia 800 เปิดให้สั่งจองแล้วในบางประเทศบนเว็บไซต์ www.nokia.com และคาดว่าจะวางจำหน่ายที่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน และสหราชอาณาจักรภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดจากผู้ให้บริการเครือข่ายและร้านค้าปลีกชั้นนำ 31 แห่งใน 6 ประเทศดังกล่าว จะวางจำหน่ายในฮ่องกง อินเดีย รัสเซีย สิงคโปร์ และไต้หวัน ภายในสิ้นปีนี้ และจะวางจำหน่ายในประเทศอื่นๆ ในต้นปี 2012

Nokia Lumia 710 จะวางจำหน่ายครั้งแรกในฮ่องกง อินเดีย รัสเซีย สิงคโปร์ และไต้หวัน ภายในสิ้นปี และจะวางจำหน่ายในประเทศอื่นๆ ในต้นปี 2012

โนเกียยังประกาศแผนวางจำหน่ายโทรศัพท์รุ่นใหม่ในสหรัฐอเมริกาภายในต้นปี 2012 และจีนภายในครึ่งปีแรกของ 2012 นอกจากผลิตภัณฑ์สำหรับคลื่น WCDMA และ HSPA แล้ว โนเกียยังวางแผนออกผลิตภัณฑ์สำหรับคลื่น LTE และ CDMA เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของบางประเทศ

Asha: โทรศัพท์มือถือที่ชาญฉลาดขึ้นกว่าเดิม
โนเกียส่งมอบโทรศัพท์มือถือคุณภาพสูง ดีไซน์สวย เพื่อเชื่อมต่อสังคมออนไลน์ อินเตอร์เน็ต และข้อมูลข่าวสาร
พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดและความคุ้มค่าให้กับผู้คนกว่าพันล้านคนอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคเหล่านี้ต้องการเข้าถึงนวัตกรรม เช่น โทรศัพท์มือถือ 2 ซิมที่ใช้งานง่าย มีบริการและเนื้อหาเกี่ยวกับท้องถิ่น แอพจากนักพัฒนา และประสบการณ์การใช้งานชั้นยอด

โทรศัพท์มือถือในตระกูล Asha ซึ่งแปลว่า “ความหวัง” ในภาษาฮินดู มุ่งเน้นมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดี และเชื่อมต่อผู้คนนับล้านไปยังโอกาสใหม่ๆ ได้ดั่งฝัน โทรศัพท์ในตระกูล Asha ประกอบด้วย

Nokia Asha 303

Nokia Asha 303


Nokia Asha 303 เป็นโทรศัพท์ดีไซน์โดดเด่นด้วยวัสดุเคลือบเมทัลลิคชั้นเยี่ยม ผสมผสานหน้าจอสัมผัสขนาด 2.6 นิ้วกับแป้นพิมพ์ QWERTY เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ตและสังคมออนไลน์ได้ง่าย

Nokia Asha 303 เปี่ยมพลังด้วย processor 1Ghz รองรับ 3G และ WLAN เพื่อมอบประสบการณ์อินเตอร์เน็ตที่รวดเร็ว เครือข่ายสังคมออนไลน์ อีเมล์ และข้อความส่วนตัวสามารถเข้าใช้งานได้ง่ายดายจากหน้าจอหลัก โนเกียเบราว์เซอร์สามารถบีบอัดเว็บได้ถึง 90% ช่วยให้อินเตอร์เน็ตเร็วขึ้นและประหยัดขึ้น

แอพและความบันเทิงยังเป็นส่วนสำคัญของ Nokia Asha 303 ไม่ว่าจะเป็น Angry Birds Lite เกมส์ยอดนิยมที่ติดตั้งมาให้ในเครื่อง Facebook Chat และ Whatsapp รวมถึง Nokia Maps สำหรับ Series 40 สำหรับในบางประเทศ คาดว่าจะวางจำหน่ายในราคาประมาณ 115 ยูโร ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ โดยราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละตลาดและผู้ให้บริการ โดยคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสที่สี่ของปี 2011

Nokia Asha 300

Nokia Asha 300


Nokia Asha 300 เป็นโทรศัพท์มือถือจอสัมผัสดีไซน์สวยพร้อมแป้นกด เปี่ยมพลังด้วย processor 1GHz และ 3G เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานอินเตอร์เน็ตและสังคมออนไลน์ที่เร็วขึ้น เบราเซอร์ของโนเกียยังช่วยให้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้เร็วขึ้นในราคาที่ถูกลงโดยบีบอัดเว็บได้ถึง 90%

ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานรับส่งข้อความ อีเมล์ และข้อความส่วนตัวได้จากหน้าจอหลัก และสามารถวาดนิ้ว (swipe) เพื่อเข้าถึงแอพ เพลง หรือเกมส์ จากโนเกีย สโตร์ Nokia Asha 300 มาพร้อมเกมส์ Angry Birds Lite กล้อง 5 megapixel เครื่องเล่นเพลง วิทยุเอฟเอ็ม บลูทูธ และรองรับการ์ดความจำสูงถึง 32 GB ราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละตลาดและผู้ให้บริการ คาดว่าจะวางจำหน่ายในราคาประมาณ 85 ยูโร ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสสี่ของปี 2011

Nokia Asha 200

Nokia Asha 200


Nokia Asha 200 เป็นโทรศัพท์มือถือ 2 ซิมรุ่นล่าสุด มาพร้อมฟังก์ชั่น Easy Swap ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนซิมได้ง่ายโดยไม่ต้องปิดเครื่อง เป็นโทรศัพท์ QWERTY สีสันสดใสที่ออกแบบมาสำหรับวัยรุ่นผู้ต้องการติดต่อสื่อสารตลอดเวลา Nokia Asha 200 สามารถเชื่อมต่อสังคมออนไลน์ อีเมล์ และข้อความส่วนตัว พร้อมรองรับการใช้งาน RenRen, Orkut และ Flickr
สามารถบันทึกเพลงนับพันด้วยการ์ดความจำสูงถึง 32GB แบตเตอรี่สามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้นานถึง 52 ชั่วโมง ราคาจำหน่ายจะแตกต่างกันไปในแต่ละตลาดและ
ผู้ให้บริการ Nokia Asha 200 จะวางจำหน่ายภายในไตรมาสสี่ของปี 2011 ในราคาประมาณ 60 ยูโร ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ

Nokia Asha 201
Nokia Asha 201 คือ Nokia Asha 200 ซิมเดียว ราคาประหยัด เหมาะกับวัยรุ่นที่ชอบฟังเพลงและต้องการเชื่อมต่อสังคมออนไลน์ตลอดเวลา Nokia Asha 201 มีฟีเจอร์ทางดนตรีที่ดีเยี่ยม ประกอบด้วย ลำโพงคุณภาพสูง วิทยุเอฟเอ็มสเตริโอ และสามารถปรับแต่งริงโทนได้ ด้วยเบราเซอร์โนเกีย คุณสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้เร็วขึ้น ในราคาประหยัดลง พร้อมรองรับการ์ดความจำสูงถึง 32 GB แบตเตอรี่เล่นเพลงต่อเนื่องได้นาน 52 ชั่วโมง รองรับ push email และ Whatspp ราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด และผู้ให้บริการ Nokia Asha 201 จะวางจำหน่ายในราคาประมาณ 60 ยูโร ไม่รวมภาษีและ ค่าธรรมเนียมอื่นๆ ภายในไตรมาสแรกของปี 2012

แผนที่โนเกีย: บริการเกี่ยวกับสถานที่ออกแบบเพื่อให้ทุกวันดีขึ้น
เพื่อนำเสนอบริการ location-based ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โนเกียเปิดตัว แผนที่โนเกียล่าสุด และ Nokia Drive บนระบบปฏิบัติการ Windows Phone ช่วยทำให้แผนที่โนเกียเหมาะสมกับผู้เดินทาง และสามารถค้นหาสถานที่น่าสนใจในเมืองที่อาศัยอยู่ เพิ่มเติมจากระบบนำทางสำหรับการเดินเท้าและขับรถฟรีใน 100 ประเทศทั่วโลก โนเกียแนะนำแอพ Nokia Public Transport ที่ช่วยค้นหาระบบขนส่งมวลชนบนอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ใน 430 เมืองทั่วโลก และตารางรถโดยสารและรถไฟใน 45 เมือง นอกจากนี้ยังมี Nokia Pulse ซึ่งช่วยให้สามารถอัพเดตสถานที่และรูปภาพในกลุ่มส่วนตัว พร้อมการระบุตำแหน่งในกลุ่มเพื่อนสนิท

Nokia Live View จะเปลี่ยนจอมองภาพของกล้องให้เป็นอุปกรณ์ reality โดยเพียงหันกล้องโทรศัพท์ไปที่ตึก หรือถนน จากนั้น ชื่อของสถานที่นั้นๆ จะปรากฎขึ้น เพียงคลิกเดียวคุณก็สามารถเข้าถึงรายละเอียดสถานที่ ธุรกิจ ร้านอาหาร หรือสถานที่น่าสนใจ แอพต่างๆ เหล่านี้สามารถดาวน์โหลดได้ที่ betalabs.nokia.com

นอกจากนี้ โนเกียประกาศ
•แผนที่โนเกียโดย Yahoo! Maps จะเริ่มให้บริการที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดา
•ข้อตกลงกับระบบขนส่งมวลชนนิวยอร์ก เพื่อพัฒนาระบบตั๋ว NFC เพื่อเป็นโครงการนำร่องสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟ ในนิวยอร์ค โดยจะเริ่มภายในสิ้นปี 2011

View :2134

ยูดีพร้อมขาย Media Pad หัวเว่ย มั่นใจกระแสดีรับตลาดโตต่อเนื่อง

October 26th, 2011 No comments

ยูดีเซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายแท็บเล็ตหัวเว่ย เผยช่วยเติมเต็มไลน์สินค้าตอบโจทย์ผู้บริโภค กางแผนรุกขยายตลาด Media Pad ส่งตามหัวเมืองใหญ่ เจาะลูกค้าวัยทำงาน มั่นใจกระแสตอบรับดี

นายพงษกร เบญจรงคกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด ดิสทริบิวชั่น บิซซิเนส จำกัด (ยูดี)ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารและโทรศัพท์เคลื่อนที่ เปิดเผยว่า ยูดีได้ร่วมลงนามในการเป็นตัวแทนจำหน่ายแท็บเลต ของ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย)ทั้งนี้การเข้าร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายแท็บเล็ตในครั้งนี้เนื่องจากบริษัทมีความเชื่อมั่นในหัวเว่ยซึ่งเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญด้านโครงข่ายโทรคมนาคมมาอย่างยาวนาน โดยการรุกเข้ามาทำตลาดดีไวซ์ในไทยในครั้งนี้ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญอีกครั้งของหัวเว่ย

อย่างไรก็ดีด้วยกระบวนการผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมของหัวเว่ยที่มีฐานการผลิตเครื่องลูกข่ายโทรคมนาคมของตนเอง และมีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) อุปกรณ์โทรคมนาคมเพื่อให้รองรับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด และหัวเว่ยยังผลิตทั้งแอร์การ์ด และโทรศัพท์มือถือให้กับผู้ให้บริการโครงข่าย (Operator) รายใหญ่ๆชั้นนำของโลกอีกด้วย ส่งผลให้ยูดีมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายแท็บเล็ตของหัวเว่ยจะช่วยไลน์สินค้าของยูดีให้ครอบคลุมและตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้ามากยิ่งขึ้น แต่จะไม่ซ้ำกับไลน์สินค้าเดิมที่บริษัทฯได้ลงนามเพื่อเป็นผู้แทนจำหน่ายด้วยเช่นกัน

“ทิศทางตลาดแท็บเล็ตปี 55 มีแนวโน้มเติบโตอย่างแน่นอน ซึ่งยูดีมีแผนจะเข้ามาจัดจำหน่ายแท็บเล็ต ของหัวเว่ยมานานแล้ว การร่วมมือในครั้งนี้เปรียบเสมือนการจับมือกันเดิน ก่อนจะลงมือวิ่ง” นายพงษกรกล่าว

ส่วนแผนการจัดจำหน่าย Media Pad แท็บเล็ตตัวแรกในประเทศไทยของหัวเว่ยนั้น ยูดีจะใช้ช่องทางจัดจัดหน่ายที่มีครอบคลุมทั่วประเทศในการกระจายสินค้าเน้นทำตลาดที่อยู่ในหัวเมืองใหญ่ โดยจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มวัยทำงาน ซึ่งการเข้าไปทำตลาดในครั้งนี้คาดว่าจะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีศักยภาพในการทำงานที่สูง ราคาสมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด มั่นใจว่าแท็บเล็ตรุ่น มีเดียแพ็ด ของหัวเว่ย นี้น่าจะมาแรงแห่งยุค

View :1925

สถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) มุ่งผลักดันศักยภาพบุคลากรไทยในเทคโนโลยีบาร์โค้ด

October 26th, 2011 No comments

ต่อยอดภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจไทยให้ก้าวหน้า สู่การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในอนาคต

สถาบันรหัสสากล เดินเครื่องเต็มสูบสนับสนุน ผลักดันให้เกิดบุคลากรไทยที่มีศักยภาพ เปิดเวทีความคิดสร้างสรรค์ด้านเทคโนโลยีบาร์โค้ด เตรียมต่อยอดพัฒนาในเชิงธุรกิจในอนาคต พร้อมส่งเสริมสู่การพัฒนาในระดับสากลสร้างความมั่นใจสู่ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ กับเวทีพัฒนาด้านบุคลากรไทยที่มีศักยภาพ ภายใต้โครงการประกวดออกแบบบาร์โค้ดบนบรรจุภัณฑ์ ครั้งที่ 2 ปี 2554

สถาบันรหัสสากล หรือ เดินหน้าหาบุคลากรที่มีคุณภาพด้านการออกแบบการประกวดออกแบบบาร์โค้ด เพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์จากการประกวด และนำผลงานไปใช้ประโยชน์ได้จริงในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในอนาคต รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ในตลาด อีกทั้งยังถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสทางความคิดให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทั้งในกลุ่มของนักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่มีแนวความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลงานมาเข้าร่วมประกวดออกแบบบาร์โค้ดบนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นโอกาสครั้งสำคัญในส่วนของภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ ที่จะมีส่วนในพัฒนาการใช้บาร์โค้ดระบบมาตรฐานสากลกับกลุ่มธุรกิจต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสวยงาม พร้อมทั้งภาคการศึกษาที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของสัญลักษณ์บาร์โค้ด จึงให้การตอบรับโครงการออกแบบบาร์โค้ดเป็นอย่างดี ในหลายมหาวิทยาลัยได้กำหนดให้ผลงานที่ส่งประกวดเป็น Project หนึ่ง ในวิชาการเรียนการสอน

View :1390
Categories: Press/Release Tags:

โตชิบา “ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และ คืนกำไร สู่สังคม” ด้วยการ “ตรวจเช็คเครื่องโน้ตบุ๊ก ฟรี !!”

October 26th, 2011 No comments

เนื่องจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ได้สร้างความเสียหายให้กับ ลูกค้าทั่วไป รวมถึง ลูกค้าองค์กร จนไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้
ซึ่งทาง โตชิบาตระหนัก และเข้าใจ ถึงความสูญเสียครั้งนี้ ที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงขอคืนกำไรสู่สังคม ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้
โดยให้บริการตรวจเช็ค เครื่องโน้ตบุ๊ก , ผลิตภัณฑ์สินค้าไอที รวมถึง ส่วนลดอะไหล่สูงสุด 50% ทั้งเครื่องในประกันทุกรุ่น และนอกระยะประกัน (เฉพาะรุ่น)

สำหรับลูกค้าองค์กร และ หน่วยงานต่างๆ ทางโตชิบา จะจัดทีม Service เข้าไปบริการ Onsite ทันทีหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วม ได้ผ่านพ้นไป
ระยะเวลาการให้บริการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2554 จนถึงสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งเครื่อง ได้จากศูนย์บริการที่เข้าร่วมโครงการ หรือ สอบถามที่ โตชิบา สำนักงานใหญ่ เบอร์ 02-511-7777

View :1916
Categories: Press/Release Tags:

ทรูมูฟ ทรูมูฟ เอช และฮัทช์ ประกาศขยายเขตความช่วยเหลือเพิ่มเติม แก่ลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ปทุมธานี นนทบุรี รวมถึงกรุงเทพฯ 9 เขตเสี่ยง

October 26th, 2011 No comments

กรุงเทพฯ 26 ตุลาคม 2554 – และฮัทช์ ขยายเขตความช่วยเหลือลูกค้า ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร 9 เขตเสี่ยง (ตามประกาศ ศปภ. ฉบับที่ 9 / 2554 เรื่องขอให้ประชาชนเฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมตัวอพยพ) ได้แก่ เขตหลักสี่ ดอนเมือง สายไหม หนองจอก มีนบุรี คันนายาว ลาดกระบัง บางพลัด และทวีวัฒนา ให้สามารถติดต่อสื่อสารในช่วงภาวะฉุกเฉินและจำเป็น โดยมีมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

สำหรับลูกค้าทรูมูฟ และฮัทช์ แบบเติมเงิน

· เพิ่มวันใช้งานทันที 30 วัน ให้ลูกค้า เริ่มตั้งแต่ 25 ตุลาคม 2554
· เติมเงินทันทีหมายเลขละ 20 บาท ให้ลูกค้าที่เงินค่าโทรหมดหรือค่าโทรเหลือต่ำกว่า 5 บาท นอกจากนี้ ลูกค้าทรูมูฟกลุ่มดังกล่าวยังสามารถโทร *937# เพื่อขอค่าโทรช่วยเหลือฉุกเฉินได้อีกสัปดาห์ละ
20 บาท เมื่อเงินค่าโทรหมด

สำหรับลูกค้าทรูมูฟ ทรูมูฟ เอช และฮัทช์ แบบรายเดือน
· งดเว้นการระงับสัญญาณ สำหรับลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ไม่สามารถชำระค่าบริการรายเดือนได้ตามกำหนด ไปจนถึง 30 พฤศจิกายน 2554 ลูกค้าในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 28 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร ตาก ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี รวมถึงกรุงเทพฯ 9 เขตเสี่ยง ได้แก่ เขตหลักสี่ ดอนเมือง สายไหม หนองจอก มีนบุรี คันนายาว ลาดกระบัง บางพลัด และทวีวัฒนา

นอกจากนี้ ทรูมูฟ ทรูมูฟ เอช และฮัทช์ ยังอำนวยความสะดวกเพิ่มช่องทางให้ลูกค้าแจ้งขอความช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลได้ ดังนี้
· โทรฟรี! หมายเลขฉุกเฉิน ได้แก่
1111 กด 5 สำนักนายกรัฐมนตรี
1784 สายด่วน ปภ. (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย)
1669 สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ บริการแพทย์ฉุกเฉินและนำส่งโรงพยาบาลฟรี
1146 ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท
1193 ตำรวจทางหลวง สอบถามเส้นทางน้ำท่วมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
1690 การรถไฟแห่งประเทศไทย
1129 สายด่วน กฟภ.
1460 สายด่วนกรมชลประทาน
1490 สายด่วน บขส.สอบถามเส้นทางเดินรถต่างจังหวัด

· ส่ง SMS ฟรี! โดยพิมพ์ข้อความขอความช่วยเหลือส่งไปที่หมายเลข 4567892 ซึ่งข้อความจะส่งไปยังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ต่อไป

· ทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช เปิดจุดให้บริการโทรฟรีทุกเครือข่าย ใช้อินเทอร์เน็ตฟรี และเติมเงินให้ลูกค้าทรูมูฟฟรี พร้อมเติมวันใช้งาน 60 วัน ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมและศูนย์อพยพต่างๆ อาทิ ท่าอากาศยานดอนเมือง อาคาร 2 และ อาคาร 3, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, ศูนย์อพยพ จ.อยุธยา ลพบุรี สระบุรี และค่ายอดิศร เพื่อช่วยเหลือประชาชนและลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้สามารถติดต่อสื่อสารในช่วงภาวะฉุกเฉินและจำเป็น

View :1606

โซนี่ อีริคสัน เปิดตัว Xperia pro สมาร์ทโฟนที่เหมาะกับนักธุรกิจและความบันเทิง

October 26th, 2011 No comments


บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว สมาร์ทโฟนที่เหมาะกับนักธุรกิจและความบันเทิงเข้าด้วยกัน ที่มาพร้อมกับคีย์บอร์ดแบบสไลด์ที่รองรับการพิมพ์ภาษาไทย และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 เวอร์ชั่นล่าสุดและหน้าจอแสดงผลแบบ Mobile BRAVIA® Engine ที่ให้ภาพคมชัดสีสันสดใสเสมือนจริง นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ Exmor-R™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการถ่ายภาพในที่ๆมีแสงน้อย อีกทั้งยังสามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างยอดเยี่ยมพร้อมให้คุณสนุกไปกับความบันเทิงที่หลากหลายด้วยหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.7 นิ้ว รวมถึงฟังก์ชั่นการถ่ายภาพด้วยกล้องความละเอียด 8.1 ล้านพิกเซล พร้อมไฟ LED และกล้องด้านหน้ารองรับ VDO Call และรองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวในระดับ HD 720p อีกทั้งชมไฟล์ วีดีโอ Youtube ด้วยความละเอียด ระดับ HD ผ่านมือถือและอัพโหลดไฟล์ผ่านมือถือได้อย่างทันท่วงที ผ่าน 3G 900/2100 MHz ความเร็ว 7.2 Mbps รวมถึงรองรับเครื่องเล่น MP3 และ วิทยุ FM ตัวเครื่อง WIFI Bluetooth และ A-GPS สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างขณะสนทนาได้เป็นอย่างดี คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงเต็มรูปแบบกับ Micro HDMI ที่สามารถต่อเข้ากับทีวีที่บ้านของคุณได้ทันที รวมถึงช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และช่อง Micro USB รองรับภาษาไทยและภาษาอื่นๆกว่า 50 ภาษา โดย Sony Ericsson วางจำหน่ายแล้วในราคาเพียง 12,990 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน และ สีดำ ผู้สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโซนี่อีริคสันทั่วประเทศ ร้าน TG Phone , ร้าน Jay Mart และ ร้าน Power Buy หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง www.facebook.com/sethailand

View :1510

ดีแทคชี้แจงความคืบหน้าเกี่ยวกับการรับมือและช่วยเหลืออุทกภัย 2554

October 26th, 2011 No comments

ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2544

ดีแทคได้ให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศ ทั้งลูกค้า คู่ค้า และประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งการให้ความช่วยเหลือโดยตรงและการสนับสนุนร่วมมือกับภาครัฐ ตลอดจนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลืออื่น ๆ โดยที่ผ่านมามีมาตรการดังต่อไปนี้
มาตรการป้องกันและแก้ไขโครงข่ายดีแทค

ได้เตรียมมาตรการในการป้องกันสถานีชุมสาย และสถานีฐาน รวมทั้งเตรียมแผนรองรับกรณีฉุกเฉินในกรณีที่วิกฤตน้ำท่วมอาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการของดีแทค ดังนี้

1. ป้องกันสถานีชุมสายหลักในเขตกรุงเทพฯ ด้วยผนังคอนกรีตกั้นน้ำ พร้อมกระสอบทราย และปั๊มน้ำกำลังสูง เพื่อให้โครงข่ายยังคงสามารถทำงานได้แม้จะมีน้ำท่วมในบริเวณนั้น
2. มีการประสานงานตลอดเวลากับการไฟฟ้าต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้มีการจ่ายไฟฟ้าให้กับชุมสายอย่างต่อเนื่องในกรณีที่ต้องมีการตัดกระแสไฟฟ้าบางส่วนในบริเวณพื้นที่น้ำท่วม
3. สำหรับกรณีฉุกเฉิน ได้มีการเตรียมน้ำมันสำรองไว้ประมาณ 4,000 – 10,000 ลิตร ต่อสถานีสำหรับในกรณีที่มีการตัดกระแสไฟฟ้า โดยสถานีจะสามารถดำเนินการเพื่อให้บริการโครงข่ายสื่อสารต่อเนื่องได้หลังจากที่มีการตัดกระแสไฟฟ้า
4. มีทีมวิศวกรคอยตรวจสอบ และดูแลโครงข่ายตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานภายใน และภายนอกเพื่อควบคุมคุณภาพของการให้บริการ
5. ดีแทคจัดเตรียมรถโมบายล์เคลื่อนที่พร้อมเครื่องปั่นไฟ เพื่อให้บริการโครงข่ายสื่อสารในกรณีฉุกเฉิน
มาตรการช่วยเหลือลูกค้าและประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยน้ำท่วม
1. ดีแทคได้เติมเงินให้ลูกค้าแฮปปี้รายละ 30 บาท รวม 840,000 ราย ใน 7 จังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมคิดเป็นมูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท
2. ดีแทคได้นำทีมพนักงานเดินทางไปยังศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดอยุธยาเพื่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โทรฟรี เติมเงิน ชาร์จแบตเตอรี่ให้ประชาชน และให้ความช่วยเหลือในกิจกรรมบรรเทาทุกข์ เช่น การลงทะเบียนผู้ประสบภัย ดูแลการแจกจ่ายสิ่งของ และจัดเตรียมถุงยังชีพมอบให้แก่ผู้ประสบภัยทีมพนักงานดีแทค โดยได้ร่วมกับทีมงานของสถานีวิทยุ “ร่วมด้วยช่วยกัน” ลงพื้นที่เพื่อนำถุงยังชีพไปมอบให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน ตลอดจนให้บริการเติมเงินแก่ลูกค้าในจุดที่ประสบภัยหลาย ๆ จุดในจังหวัด

3. ดีแทคบริการใจดีให้ยืม *100 ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยน้ำท่วมช่องทางฉุกเฉินอีกช่องทางสำหรับลูกค้าแบบเติมเงินหรือแฮปปี้ สามารถยืมค่าโทรไปใช้ก่อนได้เมื่อค่าโทรหมดในสถานการณ์ฉุกเฉินผ่านทางบริการใจดีให้ยืม *100 ที่ใช้บริการจากมือถือได้ทันที โดยลูกค้าที่ใช้บริการตั้งแต่ 12.00 น. วันที่ 9 ต.ค. จนถึง 31 ต.ค.นี้แฮปปี้จะยกเว้นค่าธรรมเนียมบริการให้ทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างต่อเนื่อง
4. ดีแทคยืดระยะเวลาชำระค่าบริการรายเดือนสำหรับลูกค้าดีแทคประเภทรายเดือนออกไป
5. ดีแทคยังคงมุ่งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนมาตรการเพื่อการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ ตลอดจนพร้อมร่วมสนับสนุนมาตรการการเยียวยาและพื้นฟูต่างๆ หลังน้ำลด หรือการหาแนวทางในการป้องกันน้ำท่วมในระยะยาวต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ดีแทคยังได้เข้าร่วมกับ บมจ. ทีโอที และผู้ประกอบการอื่นๆ ในการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องจากผู้ประสบภัย 1111 กด 5 ของ ศปภ. เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคนป่วยและคนชรา ซึ่งในแต่ละวันมีผู้ใช้บริการของศูนย์แห่งนี้มากกว่า 2 แสนราย ในส่วนของดีแทคเองก็ได้ร่วมกับมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อใช้ประโยชน์จากสายด่วน 1678 ที่มีอยู่แล้วในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรับข้อมูลจากผู้ประสบภัยและส่งต่อข้อมูลให้กับภาครัฐต่อไป

มาตรการช่วยเหลือพนักงานและครอบครัว

1. กรณีน้ำเข้าบ้าน มีทรัพย์สินเสียหาย สามารถแจ้งเพื่อเคลมประกันภัยได้

2. พนักงานหรือครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบอย่างกะทันหัน และไม่สามารถออกจากพื้นที่น้ำท่วมได้ สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ โดยเจ้าหน้าที่สายด่วนจะประสานไปยังหน่วยงานสาธารณภัยในพื้นที่ และจะคอยติดตามความคืบหน้าจนกว่าผู้ประสบภัยจะได้รับความช่วยเหลือ

3. กรณีที่ได้รับแจ้งจากพนักงานที่ต้องอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม อันเนื่องจากมีเหตุผลจำเป็นที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ บริษัทฯ จะพยายามส่งน้ำ อาหาร และสิ่งของจำเป็นเข้าไปให้กับพนักงาน แต่ทั้งนี้ การเข้าไปในพื้นที่จะต้องขึ้นกับคำสั่งและความเห็นของเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมพื้นที่นั้นๆ

4. พนักงานและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หากไม่มีที่พักอื่น สามารถเข้าพักได้ในสำนักงานของบริษัทฯ คือ ดีแทคเฮ้าส์ จามจุรีสแควร์, รังสิตคลอง 5 และศรีนครินทร์ โดยบริษัทฯ ได้เตรียมเครื่องนอน อาหาร และน้ำไว้จำนวนหนึ่ง

5. พนักงานสามารถใช้สิทธิ์ลากิจ ในกรณีลาหยุดเนื่องจากน้ำท่วมได้ โดยแจ้งหัวหน้างานให้รับทราบล่วงหน้า ยกเว้นพนักงานที่สามารถทำงานที่บ้านได้ในระหว่างนั้น

View :1502

ผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมไทยคว้ารางวัลชนะเลิศการประกวด E-idea โดยบริติช เคานซิล และ LRQA ที่จัดขึ้นในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก

October 25th, 2011 No comments

ผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมชาวไทย 6 คนสามารถเอาชนะผู้สมัครทั้งหมด 45 คนในการแข่งขันโครงการ ประเทศไทย และคว้าเงินรางวัลมูลค่ากว่า 200,000 บาท ซึ่งจะเป็นเงินทุนในการจัดทำโครงการ นอกจากนี้พวกเขาจะได้เข้าร่วมการอบรมในระดับนานาชาติเพื่อพัฒนาโครงการที่มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน

รางวัลแบ่งออกเป็นรางวัลสำหรับโครงการประเภท “โครงการใหม่” 3 รางวัล และโครงการประเภท “โครงการต่อยอด” อีก 3 รางวัลซึ่งมอบให้กับโครงการที่ริเริ่มไปแล้วแต่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดได้ พิธีมอบรางวัลได้จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน 2554 โดยประธานในพิธีคือ เซอร์ เวอร์นอน เอลลิส ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และ มร. ราจ กันการาม ผู้จัดการโครงการ E-idea จาก Lloyds Register Quality Assurance () ในฐานะตัวแทนของสององค์กรจากสหราชอาณาจักรผู้จัดโครงการประกวด E-idea ในประเทศไทยและอีก 6 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก

คณาเดช ธรรมนูญรักษ์ ผู้ชนะประเภท “โครงการใหม่” จากกรุงเทพฯ กล่าวว่า “การได้เข้าร่วมการอบรม ได้เปิดรับไอเดียใหม่ๆ รวมทั้งโอกาสในสร้างเครือข่ายผ่านโครงการ E-idea จะช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการทำงานและสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่ช่วยสนับสนุนและทำให้โครงการของเราประสบความสำเร็จ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทีมผู้ชนะทีมอื่นๆ”

โครงการ “Urbie Urban Farming” ของคณาเดช หวังจะเปลี่ยนพื้นผิวคอนกรีตของสังคมเมืองให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว โดยการปลูกพืชผักในพื้นที่ที่จำกัดหรือพื้นที่ที่ยังไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ โดยมีเป้าหมายระยะยาวที่จะผลักดันให้ชุมชนแออัดในกรุงเทพฯหันมาปลูกผักอย่างน้อย 50 ชุมชน ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้เสริมที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับคนในชุมชน และสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองต้นแบบของการปลูกพืชผักในเมือง

“โครงการใหม่” อื่นๆ ที่ได้รับรางวัลได้แก่โครงการ “Easy to be Green” ที่มีเป้าหมายพัฒนา ผลิต และส่งเสริม “ถังย่อยขยะอินทรีย์” เพื่อกำจัดขยะอินทรีย์ในรูปแบบที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งไปที่การจัดการและกำจัดขยะอินทรีย์ในระดับครัวเรือน และโครงการ “Waste Separation and Biowaste Recycling” ที่จะผลักดันอำเภอปายให้เป็นต้นแบบเมืองท่องเที่ยวสีเขียวที่มีจุดเด่นเรื่องการจัดการขยะ เน้นการทำงานร่วมกันระหว่างเทศบาล โรงเรียน ชุมชน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ รวมทั้งรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวตระหนักถึงการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม

“โครงการต่อยอด” ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศคือโครงการของแสงอาภา ศรีโสภาภรณ์ ร่วมกับบริษัทโคโคบอร์ดเจ้าของบริษัทผลิตวัสดุทดแทนไม้จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ที่ต้องการพัฒนาพลังงานทางเลือกเพื่อใช้ในการผลิต เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง; ขวัญข้าว สิงห์เสนี เจ้าของโครงการลดหมอกควันจากการเผาขยะในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีแนวคิดผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากขยะดังกล่าว; และสุดารัตน์ ชมรุ่ง ผู้นำเชื้อราปฏิปักษ์ในรูปอัดเม็ดมาเพิ่มระบบรากและใบแก่พืชป่าชายเลน เพื่อช่วยกระบวนการผลิตก๊าซอ๊อกซิเจนและการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ

คณะกรรมการตัดสินรางวัลประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม, นักออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผู้จัดการด้านบรรษัทบริบาลจาก LRQA, บริติชเคานซิล และพันธมิตรในประเทศ อันได้แก่สถานทูตอังกฤษ กรุงเทพ, สำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ, นิตยสาร a Day, องค์กรสร้างสรรค์สังคม iCARE และบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น

ทีมผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยที่ได้คัดเลือกจะได้รับรางวัลเป็นเงินทุนจำนวน 200,000 บาทในการจัดทำโครงการ นอกจากนี้จะได้รับการอบรมจากผู้เชี่ยวชาญและได้เข้าร่วมเครือข่ายธุรกิจของ LRQA ที่มีลูกค้ากระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 50,000 ราย ได้อบรมพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ การบริหารธุรกิจ การจัดการโครงการ ทักษะด้านเทคนิค การระดมทุน และการตลาด เพื่อให้โครงการ E-ideas ของพวกเขาประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ผู้ชนะยังได้รับโอกาสเผยแพร่โครงการผ่านแผนการประชาสัมพันธ์กับสื่อมวลชนทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และสหราชอาณาจักร ซึ่งสนับสนุนโดยบริติชเคานซิลและ LRQA

ทั้งนี้ ทีมผู้ชนะจะได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการในเว็บไซต์ระดับภูมิภาค www.e-idea.org ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลและแหล่งรวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการของพวกเขา รวมทั้งยังสามารถนำเสนอข่าวสารข้อมูลใหม่ๆ โดยเว็บไซต์นี้และ “E-idealists Projects” ใน Facebook จัดทำขึ้นมาเพื่อสร้างเครือข่ายระดับภูมิภาคที่ผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมทั้งรุ่นใหม่และมืออาชีพสามารถใช้เป็นช่องทางแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นำเสนอรูปภาพและเรื่องราวระหว่างกัน และยังสามารถเผยแพร่ข้อมูลไปสู่สาธารณชนได้อีกด้วย

ผู้ชนะทุกคนจะได้เข้าร่วมการอบรมระดับภูมิภาคและร่วมกิจกรรมพบปะสังสรรค์สร้างเครือข่าย ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซียระหว่างวันที่ 3 – 5 ตุลาคม โดยพวกเขาจะเข้าร่วมการอบรมกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเป็นเวลาสองวัน และออกงานเพื่อนำเสนอโครงการ E-ideas และแนวคิดของพวกเขาแก่บุคคลทั่วไป และในช่วงต้นปีหน้า ตัวแทนหนึ่งคนจากแต่ละประเทศจะได้เดินทางไปดูงานที่สหราชอาณาจักรเพื่อทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นกับผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมของสหราชอาณาจักรและกลุ่มองค์กรระดับชุมชน กิจกรรมสุดท้ายจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2555 ซึ่งผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดจากทุกประเทศจะมารวมตัวกันเพื่อนำเสนอความสำเร็จของโครงการ E-idea ในแต่ละประเทศ

ฮิว โอลิฟานท์ ผู้จัดการโครงการ E-idea ระดับภูมิภาคของบริติชเคานซิล กล่าวว่า “บริติชเคานซิลยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับ LRQA ในการสนับสนุนผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เราตระหนักดีถึงบทบาทอันสำคัญของผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมในการเป็น ‘ผู้นำความเปลี่ยนแปลง’ ในการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ ด้วยการเป็นต้นแบบและนำเสนอโอกาสทางธุรกิจของระบบเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บทบาทในการเผยแพร่แนวทางการอนุรักษ์ที่ยั่งยืนภายในชุมชน รวมทั้งเป็นตัวเชื่อมในการทำงานร่วมกับชุมชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งในระดับชุมชน ระดับชาติ และนานาชาติ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นในการร่วมกันต่อสู้แก้ไขปัญหาสภาพแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง”

ไซมอน แบตเตอส์ ผู้อำนวยการโครงการประกวด E-idea ของ LRQA กล่าวว่า “เรายินดีมากที่ผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมจำนวนมากให้ความสนใจโครงการนี้ ผู้สมัครทุกคนล้วนแล้วแต่มีแนวคิดที่สร้างสรรค์และหลากหลายในการพัฒนาสภาพแวดล้อมในแต่ละชุมชน การแข่งขันเป็นไปอย่างสูสีและคณะกรรมการต้องใช้เวลานานมากในการคัดเลือกผู้ชนะ!”

ชลธิรา ทิพย์อักษร เจ้าของโครงการ “Easy to be Green” กล่าวว่า “โครงการ E-idea เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการนำแนวคิดของเราไปสร้างให้เกิดเป็นจริงขึ้นมา พร้อมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผู้ได้คัดเลือกเข้าร่วมโครงการจะได้รับการฝึกฝนทักษะการบริหารจัดการโครงการ ได้เข้าร่วมการอบรมกับผู้เชี่ยวชาญ ได้รับประสบการณ์ที่จะช่วยสร้างเสริมความมั่นใจ และเข้าร่วมเครือข่ายระดับนานาชาติ

ขวัญข้าว สิงหเสนีแห่งเครือข่ายเชียงใหม่ เขียว สวย หอม กล่าวว่า “โครงการ E-idea สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในกลุ่มผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมรุ่นใหม่ นอกจากนี้การให้ความสนับสนุนและพัฒนาทักษะโดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการสื่อสารและบริหารจัดการโครงการจะช่วยยกระดับความสำเร็จของโครงการ E-idea และช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืน”

โรเบิร์ต ฮานเซอร์ หัวหน้าฝ่ายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและบรรษัทบริบาลของ LRQA ในเอเชียกล่าวว่า “การสนับสนุนผู้ประกอบการคลื่นลูกใหม่ของเอเชียที่มองเห็นว่าการดำเนินธุรกิจและการให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมสามารถอยู่ควบคู่กันได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ LRQA โครงการ E-idea เป็นจุดเริ่มต้นที่จะเชื่อมโยงส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันและมอบสิ่งที่ผู้ประกอบด้านสิ่งแวดล้อมรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ต้องการ นั่นคือให้ความสำคัญและเงินทุนในการเริ่มต้นกับพวกเขา ผมแน่ใจว่าผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ในการดำเนินตามพวกเขา“

ฮิว โอลิฟานท์ ผู้จัดการโครงการ E-idea ระดับภูมิภาคของบริติชเคานซิล กล่าวว่า “ในฐานะองค์กรของสหราชอาณาจักรที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกและมีนโยบายในการทำงานร่วมกับองค์กรอื่น บริติชเคานซิลและ LRQA ได้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของสหราชอาณาจักรในการร่วมมือสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนบนโลกใบนี้ ตามที่ ฯพณฯ วิลเลี่ยม เฮก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวระหว่างพิธีแถลงข่าวเปิดโครงการประกวด E-idea ว่า ‘เราเชื่อมั่นว่าการตอบโต้ที่มีประสิทธิภาพต่อปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากต่ออนาคตของเรา เราเชื่อว่าระบอบเศรษฐกิจที่จะประสบความเร็จที่สุดในอนาคตคือระบอบเศรษฐกิจที่คำนึงถึงการลดปริมาณการใช้ก๊าซคาร์บอน […] สิ่งที่ท้าทายคือการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส’ โครงการ E-idea เป็นคำตอบของความท้าทายระดับโลกนี้”

เกี่ยวกับโครงการประกวด E-idea

E-idea เป็นโครงการประกวดรูปแบบใหม่ที่มอบทั้งเงินรางวัลและจัดการอบรมให้กับผู้ประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมรุ่นใหม่ ซึ่งจัดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย, จีน, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ ไทย และเวียดนาม โครงการประกวด E-idea เป็นโครงการระดับภูมิภาคที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างบริติชเคานซิลและกลุ่มบริษัท Lloyd’s Register Quality Assurance (LRQA) โดย LRQA ได้ให้การสนับสนุนโครงการซึ่งจะเกิดขึ้นใน 7 ประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกเป็นเงินจำนวน 260,000 ปอนด์

ผู้สมัครเข้าร่วมการประกวดต้องถือสัญชาติของประเทศนั้น ๆ ที่จัดการประกวดและมีอายุระหว่าง 18-35 ปี โดยผู้สมัครจะต้องส่งเอกสารนำเสนอโครงการเกี่ยวกับประเด็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่หนึ่งประเด็นขึ้นไป อันได้แก่ การขนส่ง การลดปริมาณขยะ การลดการใช้พลังงานและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การออกแบบอย่างยั่งยืน แนวคิดริเริ่มด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และแผนการรณรงค์ด้านการสื่อสารเชิงบวก

ในแต่ละประเทศ คณะกรรมการซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศและการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนจะคัดเลือกโครงการซึ่งแบ่งออกเป็นสองประเภทได้แก่ “โครงการใหม่” และ “โครงการต่อยอด” ที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โครงการจะถูกวัดจากความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย การให้ความสำคัญกับชุมชนใดชุมชนหนึ่งหรืออุตสาหกรรมด้านใดด้านหนึ่ง ความสามารถในการนำไปดัดแปลงหรือขยายต่อ แผนการสื่อสารที่ชัดเจน และแนวโน้มในการได้รับการสนับสนุนด้านการเงินในอนาคต

การแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับโครงการประกวดในระดับภูมิภาคได้จัดขึ้นที่ซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ เมื่อเดือนมกราคม 2554 โดย ฯพณฯ วิลเลี่ยม เฮก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหราชอาณาจักร ซึ่งได้กล่าวตอนหนึ่งว่า “ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ โดยเฉพาะบริติชเคานซิลและ LRQA” และกล่าวว่า E-idea “เป็นโครงการที่หยิบยกประเด็นปัญหาที่สำคัญที่สุดปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อคนทั่วโลก และเป็นโครงการที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการบริหารจัดการโครงการ ผมหวังว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการนี้เป็นจำนวนมาก”

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ E-idea และรายละเอียดโครงการที่ได้รับรางวัล กรุณาเข้าไปที่ www.e-idea.org

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ E-idea ในประเทศไทย กรุณาเข้าไปที่ http://th.e-idea.org/
แฟนเพจ: http://www.facebook.com/EideaThailand

View :2170