Archive

Author Archive

โนเกียเผยโฉม Asha Touch ฟีเจอร์โฟนสุดฉลาด เร่งเครื่องสู่โมบายอินเตอร์เน็ต

June 6th, 2012 No comments

โทรศัพท์ทัชสกรีนสีสันสดใส นำผู้คนอีกพันล้านคนให้สามารถท่องเว็บ เข้าสู่สังคมออนไลน์ และสนุกกับเกมส์ได้เร็วยิ่งขึ้น

โนเกียก้าวไปอีกขั้นกับการเชื่อมต่อผู้บริโภคอีกพันล้านคนด้วยการเผยโฉมโทรศัพท์มือถือตระกูลล่าสุดของโลก Asha Touch มอบประสบการณ์โทรศัพท์มือถือระบบหน้าจอสัมผัสเต็มรูปแบบในราคาที่สัมผัสได้ ประกอบด้วย Nokia Asha 305, Nokia Asha 306, และ Nokia Asha 311 ถือเป็นการขยายโทรศัพท์มือถือตระกูล Asha ซึ่งแนะนำสู่ตลาดโลกครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2011 ทำให้วันนี้มีโทรศัพท์ตระกูล Asha จำนวน 10 รุ่นจำหน่ายใน 130 ประเทศทั่วโลก ช่วยให้ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ไม่เคยขาดการติดต่อสื่อสาร ได้เลือกโทรศัพท์ที่สอดคล้องกับไลฟสไตล์ของตน

Nokia Asha 306


โทรศัพท์ล่าสุดนี้ได้รับการออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่คล้ายกับสมาร์ทโฟนอย่างคาดไม่ถึงให้กับผู้บริโภคที่ต้องการหลุดพ้นจากค่าใช้จ่ายในการรับส่งข้อมูลจำนวนมากและแบตเตอรี่ที่หมดเร็ว Nokia Asha 305, Asha 306, และ Asha 311 นำเสนอการทำงาน (User Interface) บนหน้าจอระบบสัมผัสรูปแบบใหม่ ผสมผสานการใช้งานที่แสนง่ายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโนเกีย กับนวัตกรรมด้านดิจิตอลดีไซน์ที่เน้นการใช้งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์

Nokia Asha 311 ดีไซน์สวยงาม เป็นโทรศัพท์มือถือ 3.5G หน้าจอสัมผัสแบบ capacitive ลื่นไหลรวดเร็ว
หน่วยประมวลผล 1GHz เพื่อมอบประสบการณ์อินเตอร์เน็ตที่ยอดเยี่ยม Nokia Asha 305 โทรศัพท์สีสันสดใส ดีไซน์ล้ำ เป็นฟีเจอร์โฟนที่มอบความสนุกสนานในราคาย่อมเยา พร้อมฟังก์ชั่น Easy Swap ให้สลับซิม 2 ซิมได้อย่างง่ายดาย
Nokia Asha 306 เป็นโทรศัพท์ซิมเดียวที่รองรับ Wi-Fi ในราคาที่ถูกที่สุดของโนเกีย

มิสแมรี่ ที แมคโดเวลล์ รองประธาน กลุ่มธุรกิจโมบายโฟนส์ โนเกีย กล่าวว่า “โนเกียกำลังเร่งดำเนินการตามพันธะสัญญาของเราในการเชื่อมต่อผู้คนอีกพันล้านคนสู่อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ใหม่เหล่านี้มอบสิ่งที่ผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ให้ความสำคัญมากที่สุด โทรศัพท์มือถือที่ดูดี มอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบสนองได้รวดเร็ว ในราคาย่อมเยา เพื่อใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เพื่อนฝูง และโลกความบันเทิง แอพ และคอนเทนท์ต่างๆ”

ยอดเยี่ยมสำหรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว การใช้งานอินเตอร์เน็ตในราคาย่อมเยา และเกมส์เพื่อความบันเทิง

โทรศัพท์มือถือใหม่มอบประโยชน์ให้ผู้บริโภคด้วย Nokia Browser 2.0 ซึ่งเป็นโนเกียเบราเซอร์อัพเดตล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยี cloud ของโนเกีย เพื่อลดการใช้ข้อมูลได้สูงสุดถึง 90% หมายความว่าผู้บริโภคสามารถเพลิดเพลินกับการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่รวดเร็วและถูกลง โดยสามารถโหลดเว็บไซต์ได้เร็วขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับมือถือที่ไม่มีเทคโนโลยี cloud ทำให้ง่ายในการค้นหาและเลือกเว็บแอพที่มีมากกว่า 10,000 แอพ พร้อมมอบประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค โดยใช้ข้อมูลน้อยกว่าเบราเซอร์อื่นๆ

ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนฝูงและครอบครัวด้วยการสัมผัสปุ่มเพียงครั้งเดียว รวมถึงการแบ่งปันไฟล์และลิงค์ต่างๆ บนสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ฟีเจอร์ Download Manager ของโนเกีย จะช่วยให้ผู้บริโภคจัดการคอนเทนท์ต่างๆ ได้ง่ายดาย รวมถึงการจัดเก็บเพลง วิดีโอ และรูปภาพลงในเมมโมรี่การ์ดขณะที่ท่องเว็บ

โทรศัพท์ตระกูล Asha ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนักพัฒนาและผู้บริโภค ล่าสุด Nokia Store มียอดดาวน์โหลดทะลุ 5 พันล้านครั้ง โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายนที่ผ่านมา 42% ของคอนเทนท์ที่ดาวน์โหลดจาก Nokia Store เป็นการดาวน์โหลดลงบนโทรศัพท์ตระกูล Asha และโทรศัพท์โนเกียรุ่นอื่นๆ บนระบบ Java โดยเมื่อหนึ่งปีก่อนมีสัดส่วน
การดาวน์โหลดเพียง 10% ทั้งนี้ นักพัฒนาแอพบนโนเกียจำนวน 410 ราย ได้รับการดาวน์โหลดแอพมากกว่า 1 ล้านครั้ง บางราย เช่น India Games และ Pico Brothers มียอดดาวน์โหลดถึง 100 ล้านครั้ง

Nokia Asha 305


Nokia Asha 305 Asha 306 และ Asha 311 ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความบันเทิง และมอบประสบการณ์บนสังคมออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมในเวลาเดียวกัน ผู้ใช้งานยังจะได้รับของขวัญพิเศษ นั่นคือ เกมส์ของอิเล็กทรอนิก อาร์ท (EA) จำนวน 40 เกมส์ให้ดาวน์โหลดฟรีและเก็บไว้ได้ตลอดไป เกมส์เหล่านี้มีตั้งแต่ action, arcade และ sports อาทิ Tetris, Bejeweled, Need for Speed: The Run และ Fifa 2012 Nokia Asha 311 มากับ Agry Birds จำนวน 15 levels ที่โหลดลงบนเครื่องเรียบร้อยแล้ว เป็นการใช้ศักยภาพหน้าจอสัมผัสและหน่วยประมวลผล 1GHz อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“โนเกียกำลังก้าวไปอีกขึ้นในการเชื่อมต่อผู้บริโภคสู่อินเตอร์เน็ต โดยมุ่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นด้วย user interface ระบบหน้าจอสัมผัสใหม่ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาด mass ได้เป็นอย่างดี ซึ่งตลาด mass ถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่เชื่อว่าการยกระดับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Nokia Asha จะมอบข้อเสนอที่น่าสนใจด้วยการช่วยให้ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายน้อยลง โดยใช้ประโยชน์จากเบราเซอร์ที่สามารถบีบอัดข้อมูล และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น” มร.นีล โมวสตัน ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท Strategy Analytics บริษัทวิจัยด้านโทรศัพท์มือถือ “เรายังสนใจกลยุทธ์การโปรโมท Nokia Asha ที่เปิดตัวรุ่นต่างๆ ในตลาดสำคัญที่มีการเติบโตสูง อาทิ เอเชีย ซึ่งโนเกียสามารถทำตลาดได้ดีและได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค”

รายละเอียดผลิตภัณฑ์

Nokia Asha 311 เป็นโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสสีสันสดใส ขนาดกะทัดรัด มากับฟีเจอร์ที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่สนุกสนานและใช้งานง่าย โดยมีหน้าจอกระจกแบบ capacitive ป้องกันรอยขีดข่วน หน้าจอสดใส สีสันสวยงาม พร้อมโพลาไรซ์ฟิลเตอร์ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจาก user interface ที่โดดเด่นและสวยงาม Nokia Asha 311 ยังมีกล้อง 3.2 เมกะพิกเซล Nokia Maps และเกมส์ Angry Birds จำนวน 15 levels

ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ Facebook Twitter และสังคมออนไลน์อื่นๆได้ง่ายๆ ด้วยโปรแกรมที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานในเครื่อง ในขณะที่ Nokia Browser ช่วยให้การใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือรวดเร็วขึ้นและราคาถูกลง รวมถึงมีบริการรับส่งข้อความที่เป็นที่นิยม เช่น WhatsApp “WhatsApp มีวิสัยทัศน์ในการสร้างแอพพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานข้ามแพลฟอร์มได้อย่างง่ายดายและวางใจได้ ซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ทั่วโลก” มร.ไบรอัน แอคตัน ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp Inc. กล่าว “การร่วมมือกับโนเกีย ซึ่งโทรศัพท์มือถือเป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยทำให้ WhatsApp สามารถใช้งานได้บน Asha Touch จะช่วยให้เราบรรลุวิสัยทัศน์หลักของเราได้”

Nokia Asha 311


Nokia Asha 305 เป็นโทรศัพท์มือถือสองซิม สลับซิมได้ง่ายด้วย Easy Swap มอบความสนุกและความบันเทิงในการใช้งาน ช่วยให้ผู้ใช้ได้ใช้โทรศัพท์อย่างคุ้มค่า และควบคุมค่าใช้จ่ายได้ โทรศัพท์มีสีสันสดใส พร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ resistive WQVGA 3นิ้ว พร้อมบลูทูธและการเชื่อมต่อแบบ Dual Band มาพร้อมเกมส์ 40 เกมส์จากอิเล็กทรอนิก อาร์ท (EA) ให้ดาวน์โหลด นอกจากนี้ ยังมีกล้อง 2 เมกะพิกเซล Nokia Maps และ Nokia Browser ปรับปรุงใหม่ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดาวน์โหลดข้อมูล

Nokia Asha 306 เป็นโทรศัพท์ที่รุ่นน้องของ Nokia Asha 305 โดยมีฟีเจอร์แบบเดียวกัน เช่น หน้าจอสัมผัสแบบ resistive WQVGA 3 นิ้ว สีสันสดใส มาพร้อมเกมส์จาก EA กว่า 40 เกมส์ให้ดาวน์โหลด สำหรับผู้ใช้งานโนเกียเท่านั้น Nokia Asha 306 ยังมี WLAN ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถออนไลน์ได้แม้ขณะเดินทาง นอกจากนี้ยังรองรับ video streaming ผ่าน GPRS และ WLAN ซึ่งทำให้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อได้อย่างสนุกสนาน

*มีค่าใช้จ่ายในการรับส่งข้อมูล

View :2319

คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เร่งผลักดันหน่วยงานรัฐจัดทำแนวนโยบายรักษาความปลอดภัยด้านสารสนเทศ

June 5th, 2012 No comments

นางจีราวรรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะรองประธานกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ โดยที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแก่หน่วยงานของรัฐเพิ่มเติมอีก 1 หน่วยงาน คือ กรมสรรพากร ทำให้ขณะนี้มีนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของหน่วยงานของรัฐ ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการธุรกรรมฯ แล้ว จำนวน 30 หน่วยงาน ส่วนหน่วยงานของรัฐที่ยังไม่ได้จัดทำแนวนโยบายและแนวปฏิบัติดังกล่าว คณะกรรมการธุรกรรมฯ จะพิจารณาดำเนินการใช้มาตรการในเชิงบริหารต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมฯ ยังได้กำหนดกลไกการติดตามและผลักดันหน่วยงานของรัฐในการจัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติในเรื่องนี้ ตามประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2553 โดยให้หน่วยงานของรัฐจัดทำรายงานประเมินความเสี่ยงของตน (Self – evaluation) เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงพัฒนาระบบสารสนเทศของหน่วยงานตนเอง พร้อมทั้งให้ส่งรายงานการประเมินความเสี่ยงของตนเองแก่คณะกรรมการธุรกรรมฯ เพื่อนำผลการประเมินฯ ดังกล่าวมาพิจารณาดำเนินการประสานงานกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เพื่อพิจารณาหาแนวทางในการช่วยเหลือหน่วยงานของรัฐในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศต่อไป

โดยคณะกรรมการฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) จัดทำแผนการเข้าตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงเฉพาะหน่วยงานของรัฐที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อทำให้หน่วยงานของรัฐมีระบบสารสนเทศที่มีความมั่นคงปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานของรัฐที่มีความสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้มีการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจการให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใด หรือผ่านเครือข่าย ตามบัญชี ค (3) แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 แก่ บริษัท เพย์เพด จำกัด ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเสนอ โดยจนถึงปัจจุบันคณะกรรมการฯ ได้ออกใบอนุญาตให้กับผู้ให้บริการไปแล้ว จำนวน 76 ราย แบ่งเป็นผู้ให้บริการที่เป็นสถาบันทางการเงิน จำนวน 31 ราย และผู้ให้บริการที่มิใช่สถาบันทางการเงิน จำนวน 45 ราย รวมใบอนุญาต จำนวน 115 ฉบับ

นอกจากนั้น คณะกรรมการฯ ยังได้เห็นชอบในหลักการให้มีการกำหนดขั้นตอนการพิจารณามาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการผลักดันมาตรฐานด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อรองรับการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558 (AEC 2015) โดยจะนำเอามาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และหน่วยงานรับผิดชอบที่ต้องการให้มีผลบังคับใช้ มาเข้าสู่กระบวนการจัดทำเป็นประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป

View :1444

ฟูจิตสึเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ 3 รุ่น

June 5th, 2012 No comments

ฟูจิตสึรุกตลาดไทยต่อเนื่อง เปิดตัวไลฟ์บุ๊กใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการโน้ตบุ๊กไทย ด้วยไลฟ์บุ๊ก UH572 อัลตร้าบุ๊กในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ พร้อมสร้างความตื่นตะลึงกับโน้ตบุ๊กขนาด 13.3 นิ้ว ที่บางและเบาที่สุดในโลกกับไลฟ์บุ๊ก SH772 และ SH572 ตอกย้ำการสร้างนิยามใหม่ให้กับคอมพิวเตอร์พกพาเมดอินเจแปน


นายเชาวนะ สุนทรพฤกษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯมีการรุกตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้มีการเปิดตัว ฟูจิตสึ ไลฟ์บุ๊ก ใหม่อีก 3 รุ่น เพื่อเจาะตลาด ด้วยจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ได้แก่ Fujitsu LIFEBOOK UH572 อัลตร้าบุ๊กที่จะสร้างนิยามใหม่ในราคาที่สามารถจับต้องได้กับความลงตัวด้านประสิทธิภาพและการพกพาที่สมบูรณ์แบบ เหมาะกับผู้ใช้งานในกลุ่ม Mainstream และ ไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ 2 รุ่น คือ Fujitsu LIFEBOOK SH772 โน้ตบุ๊กขนาด 13.3 นิ้วที่บางและเบาที่สุดในโลก และ Fujitsu LIFEBOOK SH572 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น

“ฟูจิตสึยังคงสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ไลฟ์บุ๊กรุ่นใหม่จึงมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อสนองกับทุกความต้องการ สร้างความยืดหยุ่นเพื่อทุกการใช้งาน สะดวกในการพกพา ประสิทธิภาพที่ไม่เหมือนใคร ทั้งความปลอดภัยของข้อมูลระดับสูงสุด และความสวยงามที่ยึดหลักปรัชญาญี่ปุ่นทาคูมิ ในการออกแบบ” นายเชาวนะกล่าว

Fujitsu LIFEBOOK UH572


นายเชาวนะ กล่าวว่า ด้วยแรงบันดาลใจจากปรัชญา “ทาคูมิ” ฟูจิตสึจึงใส่ใจในการออกแบบไลฟ์บุ๊ก UH572 ให้เป็นอัลตร้าบุ๊กในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ ไลฟ์บุ๊ก UH572 มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ 3rd Generation Intel® Core™ และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยกับอายุแบตเตอร์รี่ที่ยาวนาน ด้วยน้ำหนักเบาเพียงแค่ 1.6 กิโลกรัม ไลฟ์บุ๊ก UH572 ยังมาพร้อมกับ Intel® HD 4000 กราฟฟิกการ์ดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใสและป้องกันการกระตุกขณะเล่นไฟล์วีดีโอ ด้วยจอแสดงผลแบบ High Definition SuperFine LCD ขนาด 13.3 นิ้ว พร้อมระบบเสียง DTS Boost™ รวมถึงนวัตกรรมล้ำยุค อย่าง Face Sense Utility ที่จะหยุดหรือเริ่มแอปพลิเคชั่นหรือกิจกรรมบนตัวเครื่อง โดยการตรวจจับใบหน้าของผู้ใช้งานเมื่ออยู่หน้าเครื่องได้ด้วยกล้องระดับHD คีย์บอร์ดแบบ isolated พร้อมฟังก์ชั่นการเลื่อนหน้าจอทั้งแนวนอนและแนวตั้งด้วย Intelligent Touch Pad

ยิ่งไปกว่านั้นนอกเหนือจากพื้นที่จัดเก็บฮาร์ดดิสก์แล้ว ไลฟ์บุ๊ก UH572 ยังมีพื้นที่จัดเก็บพิเศษขนาด 32GB ด้วย iSSD พอร์ต USB
แบบ high-speed และช่อง SDXC / MS Duo Card เพื่อการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 4.0 และ WLAN พร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากมาย ได้แก่ BIOS ล็อค, ฮาร์ดดิสก์ล็อค, สล๊อตป้องกันขโมย, และเทคโนโลยี Absolute® Data Protect เพื่อการป้องกันข้อมูลที่สำคัญอย่างสูงสุด ไลฟ์บุ๊ก UH572 มีให้เลือกทั้งสีแดงและสีเงิน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นความเป็นแฟชั่น

ไลฟ์บุ๊ก SH772 และ ไลฟ์บุ๊ก SH572 ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กนิยามใหม่ของความบางและเบาสำหรับเครื่องโน๊ตบุ๊ก Made in Japan ด้วยขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ตัวเครื่องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งคงทน โดย ไลฟ์บุ๊ก SH772 มีความหนาเพียง 16.6 มม. และมีน้ำหนัก 1.21 กิโลกรัม ซึ่งนับได้ว่าเป็นเครื่องโน๊ตบุ๊กที่บางและเบาที่สุดในโลก เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความมีสไตล์และความสมบูรณ์แบบที่มาพร้อมกับเครื่องสีดำหรูหรา สำหรับรุ่น ไลฟ์บุ๊ก SH572 มีความหนาเพียง 17.4 มม. และมีน้ำหนัก 1.42 กิโลกรัม มาพร้อมกับหลายเฉดสีให้เลือกทั้งดำประกาย ขาวประกายมุก แดงการ์เน็ต

สำหรับไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีเรือธงของฟูจิตสึในปี 2555 นี้ โดยใช้โปรเซสเซอร์อินเทลเจนเนอเรชั่น 3 ที่ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับภาพยนตร์ได้ยาวนานจากอายุแบตเตอร์รี่ที่ยาวนานขึ้น โดย ไลฟ์บุ๊ก SH772 ใช้งานได้สูงสูด 14 ชั่วโมงในโหมดการทำงานปกติ และเพิ่มขึ้นเป็น 19 ชั่วโมง สำหรับตัวเลือกแบตเตอร์รี่โมดูลล่าเบย์ ที่ใส่เพิ่มแบตเตอรี่ได้ และสำหรับ ไลฟ์บุ๊ก SH572 สามารถใช้งานได้สูงสุด 12 ชั่วโมง สำหรับการใช้งานปกติ และเพิ่มขึ้นเป็น 16 ชั่วโมง สำหรับตัวเลือกแบตเตอร์รี่โมดูลล่าเบย์ ที่ใส่เพิ่มแบตเตอรี่ได้

นายเชาวนะ กล่าวว่า ไลฟ์บุ๊กมีโมดูลล่าเบย์เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานยิ่งขึ้น เช่น การเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์เพื่อการชมภาพวีดีโอหรืองานพรีเซ็นต์ต่างๆ หรือเลือกเปลี่ยนไปใช้ไดร์ฟ Blu-ray, Dual DVD super multi writer เพื่อประหยัดน้ำหนักเครื่อง หรือเพิ่มเป็นแบตเตอรี่เพื่ออายุการใช้งานที่นานขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการขณะนั้นๆ รวมถึงพอร์ต USB Anytime Charge สามารถชาร์จเครื่องมือสื่อสารได้แม้กระทั่งขณะเครื่องปิดอยู่ รวมทั้งการออกแบบให้ไลฟ์บุ๊กมีตัวกรองฝุ่นที่สามารถถอดออกได้ ส่งผลให้เครื่องสามารถระบายความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติ Quick Start เปิดเครื่องได้รวดเร็วภายใน 8 วินาที พิเศษด้วย Fujitsu Face Sense ที่จะหยุดการเล่นวิดีโอเมื่อผู้ใช้งานไม่ได้อยู่หน้าเครื่องยิ่งกว่านั้น ไลฟ์บุ๊ก SH772 ยังมาพร้อมกับกล้องระดับ High Definition สำหรับบันทึกภาพระดับ HD และความคมชัดในการประชุมผ่าน Video conference

ไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังใช้เทคโนโลยีสีเขียวของฟูจิตสึ กับ 3-watt AC อแด็ปเตอร์ที่ลดการใช้พลังงานถึง99% เมื่อเทียบกับอแด็ปเตอร์ปกติทั่วไป และประหยัดพลังงานอีกขั้นด้วย Light Sensor ที่ตรวจจับสภาวะแสงเพื่อปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะกับสภาวะที่ใช้งานขณะนั้นๆ ด้วย พร้อมป้องกันข้อมูลด้วยเซ็นเซอร์ RF Fingerprint ที่มาพร้อมกับตัวชี้แบบ LED เพิ่มความแม่นยำให้การระบุตัวเจ้าของ และ Fujitsu 3D Shock Sensor ที่พร้อมปกป้องฮาร์ดดิกส์จากการกระแทกและการสั่นสะเทือน

ฟูจิตสึยึดมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูงให้แก่ผู้บริโภคด้วยการปฏิบัติตามกฎของ European Union’s Restriction of Hazardous Substances directive (RoHS) ที่ฟูจิตสึนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ทุกชนิด นอกจากนี้ฟูจิตสึยังได้ตั้งข้อปฏิบัติที่เกินกว่ามาตรฐานที่ RoHs กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ของลูกค้าของฟูจิตสึอย่างแท้จริง และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ฟูจิตสึได้ปฏิบัติตามแนวคิดเรื่องเทคโนโลยีสีเขียวอย่างเคร่งครัด โดยการผลิตเครื่องที่ประหยัดพลังงาน ฟูจิตสึยังได้เข้าร่วมขบวนการต่อสู้เพื่อรักษ์โลกโดยการเป็นสมาชิกของ Climate Servers อีกด้วย

View :1532
Categories: Gadgets Tags:

ทรูไลฟ์ เปิดตัว WeLoveShopping App เอาใจนักช้อปรุ่นใหม่

June 5th, 2012 No comments

โดย นางสาวมนสินี นาคปนันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด เปิดประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์รูปแบบใหม่ ผ่าน แอพพลิเคชั่นสุดล้ำ ที่ยกเว็บไซต์ WeLoveShopping อีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยยอดการเข้าชมสินค้าสูงถึงกว่า 60 ล้านหน้าต่อเดือน เอาใจนักช้อปรุ่นใหม่ให้ช้อปเพลิน กว่า 7 ล้านรายการ จาก 300,000 ร้านค้า เพิ่มอิสระในการช้อปปิ้งทุกที่ ทุกเวลา บนสมาร์ทโฟน ผ่านทรูมูฟ เอช ผู้ให้บริการ 3G+ ที่เร็วและแรงกว่า มั่นใจช้อปปลอดภัยด้วย WeTrust ระบบการจ่ายเงินออนไลน์ที่เชื่อถือได้ รับรองได้ของชัวร์ ถ้าไม่ได้ยินดีคืนเงิน พร้อมให้ ดาวน์โหลดฟรีแล้ววันนี้

WeLoveShopping App


WeLoveShopping App แอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุดจากทรูไลฟ์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักช้อปยุคดิจิตอล เลือกซื้อสินค้าได้ง่ายๆ ผ่านสมาร์ทโฟน ทั้งแพลตฟอร์ม iOS และแอนดรอยด์ อัดแน่นด้วย 4 ฟีเจอร์เด่น ดังนี้

1. Guru Picks อัพเดทเทรนด์ใหม่สุดฮิต โดยกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม แฟชั่น IT & Gadget, Home & Living DIY ไลฟ์สไตล์ผู้ชายและผู้หญิง ฯลฯ

2. Shop by location เพิ่มความสะดวกให้นักช้อปค้นหาร้านค้าที่อยู่ใกล้ได้ง่ายๆ โดยใช้เทคโนโลยี Location Based เป็นรายแรกของเว็บอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ตอบสนองความต้องการในการช้อปได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์

3. 10 Deals Everyday รวบรวมสินค้าราคาสุดพิเศษที่คัดสรรมาให้นักช้อปชาว WeLoveShopping ได้เป็นเจ้าของก่อนใคร

4. Promotion News อัพเดทข่าวโปรโมชั่นพิเศษจากทุกแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของเมืองไทยทุกวัน

WeLoveShopping App เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีได้แล้ววันนี้ ที่ App Store และ Google Play สำหรับนักช้อปออนไลน์ สามารถติดตามอัพเดทข่าวสารและกิจกรรมจาก WeLoveShopping ที่จะเติมเต็มไลฟ์สไตล์และการช้อปปิ้งอย่างต่อเนื่องได้ที่ www.weloveshopping.com, Weloveshopping Magazine, รายการ Shopping Gang ช่องทรูวิชั่นส์ 67 และ WeLoveShopping แอพพลิเคชั่น

View :1509

แพคเน็ทแต่งตั้งคุณไพศาล กวียานันท์ ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย

June 5th, 2012 No comments

แพคเน็ทได้แต่งตั้งให้คุณไพศาล กวียานันท์ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการประจำประเทศของแพคเน็ท ประเทศไทย โดยเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบการเจริญเติบโตเชิงกลยุทธ์และการขยายธุรกิจของแพคเน็ทในประเทศไทย

คุณไพศาลมีประสบการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศไทยมากว่า 20 ปี เขาได้รับการยอมรับให้เป็นมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย เขามีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในธุรกิจโทรคมนาคม ทั้งทางด้านวิศวกรรม ด้านการปฏิบัติการ ตลอดทั้งด้านการขายและการตลาด

“ประเทศไทยเป็นตลาดหลักที่สำคัญในธุรกิจของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามีความยินดีที่คุณไพศาลจะมาช่วยผลักดันการดำเนินงานในประเทศไทยของเรา เรามั่นใจว่าเขาจะนำเอาความรอบรู้ในอุตสาหกรรม และประสบการณ์ด้านการจัดการของเขามาช่วยเร่งการเติบโตทางธุรกิจของแพคเน็ทในประเทศไทย” แฌก เกรอโซว์ กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแพคเน็ท กล่าว

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับแพคเน็ท คุณไพศาลเป็นที่ปรึกษาของประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจัสมินกรุ๊ป กลุ่มบริษัทที่เป็นผู้นำด้านธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคมในประเทศไทย ซึ่งเขาเป็นผู้ให้คำปรึกษาในการกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ของกลุ่มจัสมิน รวมถึงการบริหารจัดการผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยในกลุ่มอีกด้วย

ตลอดระยะเวลา 22 ปีที่คุณไพศาลได้ร่วมงานกับกลุ่มจัสมิน เขาได้ดำรงตำแหน่งระดับผู้บริหารที่สำคัญมากมาย รวมทั้งตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด และเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทในเวลาต่อมา

คุณไพศาลจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า ด้านโทรคมนาคมและอิเล็กทรอนิกส์ และจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจหลักสูตรสำหรับผู้บริหาร จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเทศไทย

View :1314

ทรูมูฟ เอช จับมือ ซัมซุง ฉลองยอดจอง “ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 3” ทะลุเป้า ลูกค้าที่จองล็อตแรกรับเครื่องก่อนใคร 3 มิ.ย. นี้

June 1st, 2012 No comments

ทรูมูฟ เอช ผู้นำบริการ 3G และผู้นำด้านสมาร์ทโฟน ร่วมกับซัมซุง ผู้ผลิตมือถืออันดับ 1 ของโลก ประกาศความสำเร็จในการเปิดจอง “ซัมซุง เอส 3” สุดยอดแอนดรอยด์โฟนแห่งยุค เผยยอดจองล้นหลามเกินความคาดหมาย ตอกย้ำความมั่นใจของลูกค้าในการใช้งานบนเครือข่าย 3G+ และแอพพลิเคชั่นเด็ดโดนใจไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ รวมถึงความนิยมของโทรศัพท์มือถือซัมซุงที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าที่จองซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 3 ล็อตแรก เตรียมรับเครื่องไปใช้ก่อนใคร ในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.ที่ทรูมูฟ สแควร์ สยามสแควร์ ซอย 2

นายกิตติณัฐ ทีคะวรรณ รองผู้อำนวยการสายงานการตลาดเชิงพาณิชย์และบริหารงานขาย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทรูมูฟ เอช และซัมซุงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันมายาวนาน ล่าสุดร่วมกันเปิดตัวซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 3 สุดยอดแอนดรอยด์โฟนที่ทุกคนรอคอยและได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ด้วยยอดจองมากเกินคาด ภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่เปิดจอง ซึ่งเป็นผลมาจากความนิยมของซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 3 ผนวกกับความแข็งแกร่งของทรูมูฟ เอช ในฐานะผู้ให้บริการ 3G+ บนเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ความเร็วสูงสุด 42 Mbps* ครอบคลุมครบ 77 จังหวัด 843 อำเภอ 5,158 ตำบล และจะครบ 928 อำเภอ 7,235 ตำบล 71,567 หมู่บ้าน ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงบริการ WiFi ความเร็วสูงสุด 100 Mbps* ครอบคลุม 100,000 จุด ในไทยกลางปีนี้ และมากกว่า 200,000 จุดในต่างประเทศ พร้อมให้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานและความบันเทิงที่แตกต่างและเหนือกว่า กับคอนเทนต์คุณภาพระดับโลกครบครัน”

นายกิตติณัฐ กล่าวเสริมว่า “ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2011 เติบโตจากปี 2010 ถึง 120% คิดเป็นจำนวนกว่า 2.1 ล้านเครื่อง และในปี 2012 นี้ คาดว่าจะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 100% หรือไม่ต่ำกว่า 4.5 ล้านเครื่อง ซึ่งแอนดรอยด์โฟนมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด นับเป็นตัวสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับตลาดสมาร์ทโฟน มีผู้ใช้ถึง 47% ของตลาดรวม และมีแอพพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดได้มากกว่า 500,000 แอพพลิเคชั่น ทั้งนี้ทรูมูฟ เอช ในฐานะผู้นำในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนหลากหลายแพลตฟอร์ม จะมุ่งมั่นเลือกสรรสมาร์ทโฟนต่างๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของลูกค้า”

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุงสร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการสมาร์ทโฟนทั่วโลกอีกครั้ง ด้วยการแนะนำ “ (Samsung Galaxy S III)” สุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งอนาคต ที่จะทำให้ชีวิตผู้บริโภคสะดวกสบายยิ่งขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน มาพร้อมความสามารถที่ตอบสนองทุกประสาทสัมผัสของผู้ใช้ ภายใต้แนวคิด ดีไซน์ฟอร์ ฮิวแมน (Designed for Humans) มอบประสบการณ์ใหม่ในการติดต่อสื่อสาร แบ่งปันเรื่องราว ความบันเทิง ง่ายยิ่งกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดที่เคยมีมา โดดเด่นล้ำหน้าเกินใครด้วย 3 ฟังก์ชั่น Smart Stay (สมาร์ท สเตย์) Best Photo (เบสท์ โฟโต้) และ S Beam (เอส บี ม) ซึ่งซัมซุงมั่นใจว่าการปรากฏตัวของกาแล็คซี่ เอส 3 ในครั้งนี้จะเข้ามาแต่งแต้มสีสันและเปลี่ยนรูปแบบการติดต่อสื่อสารจากที่เคยมี”

นายวิชัย กล่าวเสริม “ความร่วมมือระหว่างทรูมูฟ เอช ผู้นำเครือข่าย 3G+ กับซัมซุงผู้นำสมาร์ทโฟนระดับโลก มอบแพ็คเกจสุดพิเศษสำหรับสมาร์ทโฟนสุดล้ำอย่าง ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 3 ให้ลูกค้าได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์อัจฉริยะอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งซัมซุงมองว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่จะมอบประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคชาวไทย”

ลูกค้าที่สนใจ สามารถซื้อซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 3 ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ที่ร้านทรูช้อปทุกสาขา พร้อมรับสิทธิ์สมัครแพ็คเกจ Smart 899 บาท นาน 12 เดือน ใช้ฟรี 6 เดือน หรือลูกค้าที่มีเครื่องเปล่า สามารถสมัครแพ็คเกจ Smart 899 บาท รับส่วนลด 50% นาน 2 เดือน พร้อมสัมผัสประสบการณ์การใช้งานและความบันเทิงที่แตกต่างและเหนือกว่ากับคอนเทนต์ระดับโลกคุณภาพระดับ HD ทั้ง H-Music เพิ่มอิสระให้เต็มอิ่มกับดิจิตอลคอนเทนต์ทางดนตรีครบทุกรูปแบบ และ H-TV เอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์จากทรูวิชั่นส์และช่องสาระบันเทิงอื่นๆ สูงสุด 91 ช่องผ่าน H TV นาน 1 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้า โทร 1331 ร้านทรูช็อป หรือ www.truemove-h.com

View :1672

ก.ไอซีที ส่งมอบหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานของไทยให้ ก.ศึกษาธิการ

June 1st, 2012 No comments

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีส่งมอบหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานของประเทศไทย ว่า กระทรวงไอซีที ได้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานให้เหมาะสมกับประเทศไทย ตามนโยบายหลักของกระทรวงฯ ที่มุ่งหวังให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ สามารถแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ โดยกระทรวงฯ ได้จัดทำหลักสูตรดังกล่าวแล้วเสร็จ และพร้อมทำการเผยแพร่หลักสูตรฯ นี้ให้ทั่วถึงในวงกว้าง เพื่อใช้ยกระดับความรู้และพัฒนาการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีในอาเซียนอีกทางหนึ่ง

ดังนั้น เพื่อให้การเผยแพร่หลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานของประเทศไทยที่ได้พัฒนาในครั้งนี้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กระทรวงฯ จึงได้จัดให้มีพิธีส่งมอบหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานของประเทศไทย ให้กับหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อช่วยกันเผยแพร่หลักสูตรที่ได้ดำเนินการพัฒนาแล้วออกไปสู่ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป

ด้าน นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า การพัฒนามาตรฐานหลักสูตรการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตนี้ เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญในการดำเนินการเป็นอย่างยิ่ง เพื่อยกระดับการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล รวมทั้งยังสามารถต่อยอดการเรียนรู้ได้อย่างไม่รู้จบ โดยสามารถนำไปใช้ได้ทั้งกับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย

“ในการพัฒนาหลักสูตรฯ ครั้งนี้ ได้มีการศึกษาหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำมาเปรียบเทียบและปรับปรุงให้เหมาะสมกับสังคมไทย โดยได้รับการอนุเคราะห์จากบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิ ในการวิพากษ์เนื้อหาหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต เพื่อให้เหมาะสมกับสังคมไทย ได้แก่ 1. รองศาสตราจารย์ ดร. ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ 2. รองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ 3. รองศาสตราจารย์ ดร.มนต์ชัย เทียนทอง คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 4. รองศาสตราจารย์ ดร.พูลพงษ์ บุญพราหมณ์ คณบดีสำนักวิชาสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปานใจ ธารทัศนวงศ์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร 6. ดร.ยรรยง เต็งอำนวย ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 7. น.ส.นารี วงศ์สิโรจน์กุล ที่ปรึกษาผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 8. ดร.ประสบโชค ประมงกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) 9. นายอริยะ พนมพยงค์ ผู้จัดการบริษัท Google ประจำประเทศไทย และนายพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล อาจารย์โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย และเว็บมาสเตอร์ www.thaigoodview.com” นายสมบูรณ์ กล่าว

View :1623
Categories: ebook, Tablet Tags:

ทรู อินเทอร์เน็ต ขานรับ World IPv6 Launch 6/6/2012

June 1st, 2012 No comments

บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด ขานรับ 6/6/2012 พร้อมกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งกำหนดให้เป็นวันเปลี่ยนผ่านการใช้งาน IPv4 เข้าสู่ IPv6 อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการแสดงศักยภาพความพร้อม ทรู อินเทอร์เน็ต จะจัดงานแถลงข่าว “ความพร้อมการใช้งาน IPv 6 ร่วมกับสังคมโลกอย่างเต็มศักยภาพความสมบูรณ์แบบ” ร่วมกับ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันพุธที่ 6 มิถุนายน 2555 นี้ เวลา 10.30 น. ณ ทรู สเตเดี่ยม ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

View :1411
Categories: Internet Tags:

UIH ก้าวข้ามพรมแดนขยายตลาดสู่ลาว จีน เวียดนาม

May 31st, 2012 No comments

คุณทยาวัต อุนนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายInternational Broadband Solutionนำทีมคณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด () เดินทางไปเยือนเวียงจันทร์ สาธารณประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเจรจาธุรกิจสำหรับเส้นทางเชื่อมต่อโครงข่ายของ ชูจุดยืนความมีเสถียรภาพโครงข่าย จากภายในประเทศไทยสู่ประเทศเพื่อนบ้านผ่านพันธมิตร 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมในประเทศลาว อาทิ ETL, UNITEL, LAO Telecom และ Beeline เพื่อเป็นการเตรียมโครงข่ายสำหรับรองรับการขยายธุรกิจขององค์กรลูกค้า และพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน หรือ AEC ในปี 2015 ที่กำลังจะมาถึง สำหรับการเยือนเวียงจันทร์ของผู้บริหาร ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มความมั่นใจแก่องค์กรลูกค้าในเรื่องศักยภาพด้านเสถียรภาพ และความแข็งแกร่งของโครงข่าย ที่พร้อมเชื่อมโยงสู่ประเทศต่างๆทั่วโลก พร้อมทั้งขยายรูปแบบการบริการเพื่อตอบสนองการสื่อสารหลากหลายรูปแบบขององค์กรลูกค้าที่มากขึ้น ทั้งยังช่วยให้การสื่อสารขององค์กรลูกค้าสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างสะดวกรวดเร็วอีกด้วย

View :1793
Categories: Press/Release Tags:

เอไอเอส จับมือ จีเอ็มเอ็ม แซท ออกแพ็กเกจใหม่ “เอไอเอส – จีเอ็มเอ็ม แซท สปอร์ต”

May 31st, 2012 No comments


ครั้งแรกที่ให้ลูกค้าชมถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร ทุกแมทช์ตลอดทัวร์นาเม้นท์ บนมือถือ

ร่วมกับ แซท ผู้ได้รับสิทธิ์จาก แกรมมี่ ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ในประเทศไทย เตรียมเอาใจคอบอลเปิดปฐมบทแห่งความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ด้วยแพ็กเกจใหม่ “ – จีเอ็มเอ็ม ” สร้างปรากฏการณ์ที่แตกต่างให้ลูกค้าเอไอเอสสามารถชมถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร ได้ทุกแมทช์ตลอดทัวร์นาเม้นท์ บนมือถือเป็นรายแรกและรายเดียว สมัครง่ายๆได้แล้ววันนี้ เพียงกด *841# แล้วโทรออก

นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอสดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความต้องการและประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นหลักมาโดยตลอด และเนื่องจากลูกค้ามีความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ทุกพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง เอไอเอสจึงมีนโยบายหลักในการทำตลาดภายใต้แนวคิด Quality DNAs ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพในทุกมิติของการบริการ โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ สร้างสรรค์บริการในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อมอบ Content ที่ดีและมีคุณภาพ รวมทั้งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่แตกต่างให้กับลูกค้าเอไอเอสมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับวันนี้ด้วยกระแสฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ในระหว่างวันที่ 8 มิ.ย. – 2 ก.ค./55 ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลแมทช์สำคัญที่คนทั่วโลกรอคอย รวมทั้งพี่น้องชาวไทยด้วย ดังนั้นเพื่อมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้าเอไอเอส ผู้ให้บริการมือถือบนเครือข่ายคุณภาพ จึงจับมือกับ จีเอ็มเอ็ม แซท ผู้ดำเนินธุรกิจกล่องทีวีดาวเทียมจากแกรมมี่ โดยได้รับสิทธิ์จาก จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร ในประเทศไทย โดยร่วมกันออกแพ็กเกจใหม่ “เอไอเอส – จีเอ็มเอ็ม แซท สปอร์ต” ขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเอไอเอสสามารถชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร ได้ทุกแมทช์ตลอดทัวร์นาเม้นท์ บนมือถือ เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย”

ทางด้านนายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจกล่องจีเอ็ม เอ็ม แซท กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “จีเอ็มเอ็ม แซท รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเอไอเอส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับหนึ่งและมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย มอบสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าเอไอเอสที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล สามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร ในรูปแบบต่างๆ ได้ ถือเป็นการเพิ่มอีกหนึ่งช่องทางการรับชมฟุตบอลยูโรจากเดิมรับชมผ่านกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท ครบทุกนัด ชัดทุกแมทช์ ซึ่งมั่นใจว่าการให้บริการดังกล่าวจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เพราะการแข่งขันฟุตบอลยูโร ถือเป็น Content กีฬาระดับโลกที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจติดตามรับชม โดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์คุ้นเคยกับการรับชมทีวีออนโมบายอยู่แล้ว ถือเป็นการร่วมมือสร้างปรากฎการณ์ดูฟุตบอลยูโรผ่านมือถือเป็นครั้งแรกในเมืองไทย”

โดยแพ็กเกจ “เอไอเอส – จีเอ็มเอ็ม แซท สปอร์ต” มีให้ลูกค้าเลือกรับชมบนมือถือได้อย่างเต็มอิ่มในหลากหลายรูปแบบตลอดทั้งทัวร์นาเม้นท์
· Live Match ชมการถ่ายทอดสดครบทุกแมทช์ (31 แมทช์)
· Highlight Clip ชมคลิปไฮไลท์การแข่งขันคู่เด็ดๆ
· Road to Euro วิเคราะห์เจาะลึกการแข่งขันแบบคู่ต่อคู่ จากกูรูฟุตบอลชื่อดัง
· Euro Talk รายการข่าวสารที่พูดคุยเกี่ยวกับฟุตบอลยูโรแบบเจาะลึก
· Euro Update เกาะติดตารางการแข่งขันทุกคู่ และรายการผลการแข่งขัน
แบบรวดเร็วทันใจ

ลูกค้าที่สนใจสมัครได้ง่ายๆ ทางมือถือ เพียงกด *841# แล้วโทรออก จากนั้นรอรับลิงค์ แล้วกดเข้าสู่บริการ “เอไอเอส-จีเอ็มเอ็ม แซท สปอร์ต” โดยมีอัตราค่าบริการเพียง 39 บาท ตลอดทัวร์นาเม้นท์

นอกจากเอไอเอสและจีเอ็มเอ็ม แซท จะร่วมกันออกแพ็กเกจใหม่ เพื่อให้ลูกค้าเอไอเอสได้รับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในการชมการแข่งขันฟุตบอลยูโรบนมือถือทุกที่ ทุกเวลาแล้ว ลูกค้าเอไอเอสยังสามารถชมบอลยูโร ผ่านกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยตนเองผ่านมือถือ เพียงกด *841*0* ตามด้วยหมายเลข Serial Number 16 หลักด้านหลังกล่อง # แล้วโทรออก เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.55 หรือหากต้องการชมในระบบ HD (High – Definition) ก็สามารถชมได้ผ่านกล่อง HDTV
และในเร็วๆ นี้ ลูกค้าเอไอเอสที่ใช้บริการกล่อง จีเอ็มอ็ม แซท ยังสามารถชำระค่าบริการเพย์ทีวีซึ่งเป็นรายการของจีเอ็มเอ็ม แซท ผ่านบริการ mPAY ทางมือถือ ได้ด้วย

“เราเชื่อมั่นว่าด้วยเครือข่ายคุณภาพของเอไอเอส เมื่อผสานรวมกับ Content ที่ดีและมีคุณภาพของจีเอ็มเอ็ม แซท จะทำให้ลูกค้าเอไอเอสที่เป็นคอบอลสามารถเกาะติดการแข่งขันฟุตบอลยูโร ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแบบคุณได้อย่างแท้จริง” นายฐิติพงศ์ และนายธนา ร่วมกันกล่าวสรุปในตอนท้าย

View :1811