Archive

Author Archive

บราเดอร์ เผยโฉม “Plug in and Label” ครั้งแรกในเครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch)

May 10th, 2012 No comments

บราเดอร์ฯ ผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ของโลก นำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อตอบสนองความสะดวกสบาย ในการพิมพ์อย่างสมบูรณ์แบบเพื่อการใช้งานของออฟฟิศในยุคปัจจุบัน ด้วยการแนะนำเครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่นล่าสุด QL-700 ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ทั้งนี้ QL-700 ถือเป็นเครื่องพิมพ์ฉลากเครื่องแรกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุด “Plug in and Label” ที่ช่วยลดขั้นตอนการดาวน์โหลดโปรแกรมที่ซับซ้อน ง่ายในการติดตั้งและใช้งาน โดยการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์

“Plug in and Label” ครั้งแรกในเครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700 ผู้ช่วยอัจฉริยะของพนักงานออฟฟิศยุคไฮเทค


โดยการใช้งานของ (P-Touch) รุ่น QL-700 มีขั้นตอนง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ผู้ใช้ก็จะได้งานพิมพ์ฉลากคุณภาพภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยเริ่มจากการเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์ฉลากโดยใช้สาย USB เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้นผู้ใช้งานสามารถออกแบบรูปแบบ ข้อความต่างๆตามต้องการและสั่งพิมพ์ เพียงเท่านี้ ก็จะได้ฉลากที่พิมพ์ที่มีคุณภาพความละเอียดสูง ในผลงานระดับมืออาชีพ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์องค์กร

นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพราะบราเดอร์ทราบและเข้าใจถึงความต้องการของพนักงานในยุคปัจจุบันที่ต้องการ ความคล่องตัวและความรวดเร็วในการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เราจึงอาศัยประสบการณ์กว่า 20 ปีในธุรกิจ การพิมพ์คุณภาพระดับโลกมาพัฒนาเทคโนโลยี “Plug in and Label” ขึ้นและเปิดตัวครั้งแรกในเครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700 เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้งาน

“เทคโนโลยี “Plug in and Label” เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะบราเดอร์ ช่วยทำให้เครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700 สามารถเคลื่อนย้ายไปเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องภายในสำนักงานได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมการใช้งานให้ยุ่งยาก ง่ายๆ แค่เชื่อมต่อและออกแบบฉลากตามความต้องการและสั่งพิมพ์ ผู้ใช้ก็จะได้ฉลากที่ต้องการในเวลาที่รวดเร็ว ทั้งยังมีความละเอียดสูงถึง 300 x 600dpi. ได้ตัวอักษรและงานที่คมชัด ความเร็วในการพิมพ์สูงสุดถึง 93 ฉลากต่อนาที ซึ่งนับเป็นเครื่องพิมพ์ฉลากที่มีอัตราความเร็วในการพิมพ์สูงสุด ณ ปัจจุบัน เหมาะแก่การเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะของพนักงาน, เลขานุการ, ฝ่ายธุรการ, ธุรกิจกการจัดส่งสินค้า และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดย บราเดอร์ ได้พัฒนาเทคโนโยลีล่าสุดนี้เพื่อตอบความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง โดยยึดหลัก “ความต้องการของลูกค้า” คือ ศูนย์การแห่งพลังขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาสินค้าอย่างไร้ขีดจำกัด และวันนี้เราได้สร้างความภาคภูมิใจล่าสุด นั่นก็คือผู้ช่วยอัจฉริยะด้านการพิมพ์ฉลากกับบราเดอร์ เครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700 ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอนก็ได้ผลงานการพิมพ์ฉลากระดับคุณภาพ ทั้งยังได้เครื่องพิมพ์ฉลาก ขนาดกระทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก และที่สำคัญยังมีรูปแบบที่สวยงามและทันสมัยอีกด้วย” นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กล่าว

ทั้งนี้ เครื่องพิมพ์ฉลาก(P-Touch) รุ่น QL-700 จะมาพร้อมกับม้วนฉลากที่ให้มากับตัวเครื่องครั้งแรก (Starter Roll), สายเชื่อมต่อ USB, แผ่น CD-ROM Software P-Touch Editor V5.0 พร้อมคำแนะนำในการใช้งาน

ข้อมูลเครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700:

• มีศักยภาพการพิมพ์ด้วยความละเอียดสูงถึง 300 x 600dpi. ได้ตัวอักษรที่ชัดเจนแลtคมชัด
• สามารถพิมพ์ได้สูงสุดถึง 93 ฉลากต่อนาที ซึ่งนับเป็นเครื่องพิมพ์ฉลากที่มีอัตราความเร็ว ในการพิมพ์สูงสุด ณ ปัจจุบัน
• สามารถสั่งพิมพ์ฉลากได้ขนาดสูงสุดกว้าง 62 มิลลิเมตร และยาว 1 เมตร
• สามารถติดตั้งได้อัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี Plug in and Label
• โดดเด่นด้วยระบบตรวจสอบขนาดม้วนฉลากอัตโนมัติ เพื่อให้ใช้ขนาดฉลากให้เหมาะต่อ ขนาดข้อความที่จะพิมพ์
• เครื่องพิมพ์ฉลาก (P-Touch) รุ่น QL-700 จะมาพร้อมกับ ม้วนฉลากที่ให้มากับตัวเครื่องครั้งแรก (Starter Roll), สายเชื่อมต่อ USB, แผ่น CD-ROM Software P-Touch Editor V5.0 พร้อมคำแนะนำในการใช้งาน

View :1696

Digital Agenda Thailand กับสัมมนาครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “มองมุมใหม่… ทีวีดาวเทียมและโมบายล์ทีวี”

May 10th, 2012 No comments

‘อะไร คือ ความเท่าเทียมกันทางสังคมในยุคดิจิตอล อะไร คือ ผลประโยชน์ของประชาชน อะไร คือ โอกาสของประเทศไทย’ พบคำตอบได้ที่งานสัมมนา “มองมุมใหม่… ทีวีดาวเทียมและโมบายล์ทีวี” ในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 08.30–15.30 น. ณ ห้องบอลรูม ชั้น 4 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

รศ.สุธรรม อยู่ในธรรม คณบดี คณะนิติศาสตร์ และ ประธานสถาบันวิชาการนโยบายสาธารณกับธุรกิจ และการกำกับดูแล (APaR) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า Digital Agenda Thailand เป็นโครงการหรือ Mission ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สถาบันนโยบายสังคมและเศรษฐกิจ (ISEP) และ เอ๊ซ (ACE) ในฐานะผู้จัดงาน ได้ริเริ่มจัดขึ้นโดยมีเป้าประสงค์ในการเป็นตัวกลางที่รวบรวม ค้นหา และส่งผ่านความรู้ ประสบการณ์ และผลกระทบในทุกแง่มุมที่เกี่ยวกับด้าน Digital จากทั่วโลกมาสู่คนไทย โดยถ่ายทอดผ่านกิจกรรมหลักคือการจัดสัมมนาให้ความรู้เชิงวิชาการและข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเทคโนโยลีดิจิทัลที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทต่อประเทศไทยในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการสื่อสารและโทรคมนาคมของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการพลิกโฉมประเทศไทยให้เกิดการพัฒนาทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และการศึกษา เช่นเดียวกับที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกได้นำเรื่องของเทคโนโลยีระบบดิจิทัลมาเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศมาแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรปและอีกหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย

นอกจากนี้ ผลสืบเนื่องมาจาก พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบและมีการแต่งตั้งสำนักงานคณะกรรมการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งอำนาจหน้าที่มิได้มีเพียงการจัดสรรคลื่นความถี่ การออกใบอนุญาตประกอบกิจการหรือการประมูลคลื่นความถี่ 3G เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ทั้งระบบอีกด้วย โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐบาลที่เป็นผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่จะต้องคืนคลื่นความถี่และสัญญาสัมปทานแล้วมาร่วมประมูลกันใหม่ ซึ่งผู้ประกอบการตลอดจนประชาชนทั่วไปควรรับทราบและศึกษาให้ถี่ถ้วน

ที่ผ่านมา ผู้ริเริ่มโครงการ Digital Agenda Thailand ได้จัดการสัมมนาผ่านมาแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ “ทิศทางและโอกาสของธุรกิจวิทยุและโทรทัศน์ยุคใหม่” เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555 และครั้งที่สอง เรื่อง “มาตรฐานโทรทัศน์ระบบดิจิทัลสำหรับประเทศไทย” เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับจากสื่อมวลชนหลายแขนง ภาครัฐบาล นักธุรกิจ หน่วยงานจากต่างประเทศ รวมถึงประชาชานทั่วไปเป็นอย่างดี

อนึ่งทางคณะจัดงานได้เล็งเห็นถึง Satellite TV และ Mobile TV จะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญมากและถึงขั้นจะเป็นเครื่องมือหลักในวงการการสื่อสาร เพราะภายในห้าปีต่อจากนี้ เทคโนโลยีระบบดิจิทัลจะต้องเข้ามามีบทบาทต่อประเทศไทย ทำให้การส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร และสามารถรับสัญญาณวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ระบบดิจิทัลได้อย่างทั่วถึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก นอกจากนี้การเปิดให้มีการแข่งขันอย่างเสรีของเทคโนโลยียังเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยมีโอกาสเรียนรู้ ต่อยอดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมถึงยังเป็นส่วนผลักดันให้เกิดการส่งเสริม สนับสนุน และการวิจัยและพัฒนาถึงความเป็นเลิศของเทคโนโลยี กลไกตลาดที่จะเปลี่ยนไป ตลอดจนปัจจัยแวดล้อมของประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย จึงได้ร่วมกันจัดสัมมนาครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “มองมุมใหม่… ทีวีดาวเทียมและโมบายล์ทีวี” ขึ้น โดยมี International Telecommunication Union (ITU) ร่วมเป็นวิทยากรหลักด้วยอีกครั้ง

ในงานสัมมนาครั้งนี้ ท่านจะได้รับทราบถึงความรู้เชิงวิชาการและข้อเท็จจริงอันจะเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบของเทคโนโลยีระบบดิจิทัลที่จะเข้ามามีบทบาทต่อประเทศไทย และเหตุผลที่ทำไม Satellite TV และ Mobile TV อาจจะมีเบทบาทเป็นตัวกลางในการสื่อสารและการเข้าถึงของข้อมูลมากที่สุดก็ว่าได้ ทั้งนี้ทาง ITU ก็จะมาเล่าถึงกรณีศึกษาต่างๆ ที่เกระทบกับความเท่าเทียมกันทางสังคมในยุค TV Digital ในหลายๆ ประเทศ ซึ่ง กสทช. ก็จะมาให้ความกระจ่างในเรื่องของบทบาทขององค์กรกำกับดูแลในมิติทางสังคม การจัดสรรคลื่นความถี่ใบอนุญาตและการส่งเสริม และยังรวมไปถึงวิทยากรชั้นนำที่เป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ และผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการ Satellite TV และ Mobile TV ยังมาร่วมถกถึงการมองมุมใหม่ หนทางในอนาคน กลยุทธ์ รูปแบบธุรกิจ และรูปแบบของการสื่อสารแนวใหม่ บนเวทีเดียวกัน ในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 08.30–16.00 น. ณ ห้องบอลรูม ชั้น 4 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เอ๊ช(ACE) โทร. 02-254-8282-3 โทรสาร 02-254-8284 หรือ อีเมล์ info.acethailand@gmail.com

View :1728
Categories: Press/Release Tags:

“โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย” เขย่าวงการออนไลน์ เปิดเว็ปไซต์ “HereiLike.com” ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ

May 10th, 2012 No comments

บริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด เขย่าวงการออนไลน์เมืองไทย เปิดตัว HereiLike.com (เฮียร์ไอไลค์ดอทคอม) ด้วยคอนเซ็ปต์ “ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ” ศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งที่รวบรวมข้อมูลแฟชั่น ร้านอาหาร การศึกษา ความงาม รวมถึง Gadget เทคโนโลยีต่างๆ และข่าวสารบันเทิงที่นำเทรนด์ก่อนใครในรูปแบบ เทรนดี้ไลฟ์สไตล์ หวังเจาะตลาดธุรกิจออนไลน์ให้อยู่หมัด
พร้อมอัพเดทเทรนด์สุดฮิตใน HereiLike Magazine ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจที่เจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นประเดิม “สยาม” แหล่งช้อปปิ้งสุดชิค ตลอดกาลของวัยรุ่นเป็นแห่งแรก

คุณรุจิรพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ www.hereilike.com หรือ เฮียร์ไอไลค์ดอทคอม เปิดเผยว่า บริษัท โซเชียล ซินเนอจี มีเดีย จำกัด เป็นบริษัทฯภายใต้การบริหารงานของทายาทบริษัท ไทย ซัมมิท กรุ๊ป และเป็นบริษัทคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่จะมาเจาะตลาดและเอาใจวัยรุ่นสุดชิคด้วยการเปิด HereiLike.com “ที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ โปรโมชั่นโดนๆ” แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัย เน้นไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น ร้านอาหาร การศึกษา ความงาม รวมถึง Gadget เทคโนโลยีต่างๆ และข่าวสารความบันเทิงที่นำเทรนด์ก่อนใคร พร้อมด้วยกิจกรรมเกมสนุกๆ และโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิก ที่จะตอบสนองการสื่อสารแบบ Multi Communication โดยเน้นการสร้างสังคม Online ผ่าน Social Network ซึ่งช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร กิจกรรม และโปรโมชั่นต่างๆ ระหว่างสมาชิก

โดยกลุ่มเป้าหมายของเว็ปไซต์ “HereiLike” จะเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นที่มีไลฟ์สไตล์สะท้อนถึงตัวตนที่มีความทันสมัย รักอิสระ มั่นใจในตัวเอง และชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมออย่างไม่หยุดนิ่ง และหวังว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์จะได้รับความรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความสนุกสนาน พร้อมอัพเดททุกเรื่องราวผ่านโลกออนไลน์ เสมือนเดินช้อปปิ้งอยู่ ณ สถานที่จริง

“HereiLike” ยังเป็นช่องทางและตัวกลางในการสื่อสาร ที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การโปรโมท รวมถึงการมอบบริการต่างๆ ให้แก่เจ้าของธุรกิจ ให้สามารถเชื่อมถึงกลุ่มเป้าหมายในแหล่งสุดโปรดนั้นๆ แบบโดนใจวัยรุ่นได้อย่างง่ายดายผ่านเนื้อหาที่เข้าถึงเทรนดี้ไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น และกิจกรรมต่างๆ ที่ทางบริษัทฯจัดทำขึ้น โดยมีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษา แนะนำและบริการอย่างใกล้ชิด ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจุดแข็งของธุรกิจ

คุณรุจิรพรรณ กล่าวเสริมว่า นอกจากเราจะมีเว็ปไซต์ HereiLike ที่เป็นสื่อออนไลน์แล้ว บริษัทฯยังได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารโดยจัดทำนิตยสาร (Free Magazine) ราย 2 เดือน ภายใต้ชื่อ HereiLike Magazine วางกระจายตามแหล่งสุดฮิป สามารถส่งมอบข้อมูล ข่าวสาร โปรโมชั่นของเจ้าของธุรกิจต่างๆ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นหน้าที่และพันธกิจหลักของบริษัทฯ”

“การเปิดตัวเฮียร์ไอไลค์ดอทคอม (www.hereilike.com) ในครั้งนี้ทางบริษัทฯได้ตั้งใจทำการตลาดทั้ง Above the line และ Below the line ด้วยหวังสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ได้ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งมองว่าการแข่งขันทางการตลาดค่อนข้างมีความเข้มข้น แต่เราก็หวังว่า HereiLike จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการค้นหาที่ที่ใช่ เทรนด์ที่ชอบ และโปรโมชั่นโดนๆ ที่เข้ากับยุคสมัยนี้มากที่สุด” คุณรุจิรพรรณ กล่าวสรุปในตอนท้าย

View :1705

ทรูมูฟ เอช ส่ง The New iPad ล็อตใหม่ เข้าทรูช็อปทั่วประเทศ

May 10th, 2012 No comments

ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ หัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ การขาย และรีเทล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น

ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ หัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ การขาย และรีเทล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ ประกาศความสำเร็จจากงานจำหน่าย รายแรกในไทย ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ ก่อนใคร และจำหน่ายหมดล็อตแรกตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมานั้น เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในการจัดจำหน่าย Gadget สุดล้ำจาก Apple ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจเลือกใช้ บนเครือข่ายทรูมูฟ เอช 3G+ ที่ใช้ได้จริงแล้ววันนี้ ทั่วประเทศ รวมถึงความโดดเด่นในเรื่องบริการหลังการขาย ด้วยทีมพิเศษ IT Friends ที่จะให้คำปรึกษา คำแนะนำ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนต่างๆ และในวันนี้ ล็อตใหม่พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าที่สั่งจองไว้ รวมถึงลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อซื้อได้ที่ทรูช็อปทั่วประเทศ ไม่ต้องรอคอยอีกต่อไป”

ลูกค้าที่สั่งจอง The New iPad แล้ว สามารถรับเครื่องได้ตามสาขาที่เลือกไว้ ผู้สนใจหาซื้อได้ที่ทรูช็อปทั่วประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove-h.com

View :1735

ก.ไอซีที แถลงผลสำเร็จโปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ ดาวน์โหลดใช้งานแล้วมากกว่า 300,000 ราย

May 10th, 2012 No comments

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยในการแถลงข่าว ผลการดำเนินการจัดสัมมนาและประชาสัมพันธ์โปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ ภายใต้โครงการจัดการดูแลและเฝ้าระวังภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสม ว่า ในปี พ.ศ. 2554 ที่ผ่านมา ทวีปเอเชียมีการขยายตัวของการใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดในโลก หรือคิดเป็น 44% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก สำหรับประเทศไทยนั้น มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 18 ล้านคน จัดอยู่ในลำดับที่ 9 ของทวีปเอเชีย ซึ่ง 52% เป็นเด็กและเยาวชน จากการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางส่งผ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ อาจทำให้เยาวชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นโทษจากเว็บไซต์อันตรายได้ เช่น เว็บลามกอนาจาร เว็บการพนันออนไลน์ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลให้เยาวชนมีการแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง การเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม การถูกล่อลวงหรือการชักชวนในทางเสื่อมเสีย รวมถึงการเสพสิ่งเสพติดได้ โดยผลสำรวจทางสถิติพบว่าเยาวชนไทยติดการเล่นเกมคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 14.4 ในปี 2553 และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

“ปัญหาที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์อย่างไม่เหมาะสมนี้ นอกจากจะมีผลต่อเยาวชนแล้ว ยังมีผลต่อครอบครัว สังคม และสภาพเศรษฐกิจของประเทศด้วย โดยเฉพาะเรื่องเว็บไซต์ลามกอนาจารนั้นเป็นปัญหาที่ประชาชนมีความห่วงใยเป็นอย่างมาก ซึ่งจากผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า มีครัวเรือนถึง 46% ต้องการให้ภาครัฐควบคุมดูแลเว็บไซต์ลามกอนาจาร ดังนั้นกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงได้ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ดำเนินโครงการจัดการดูแลและเฝ้าระวังภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสม พร้อมกับพัฒนาและเผยแพร่โปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ เพื่อช่วยให้ประชาชนมีเครื่องมือในการป้องกันและดูแลเยาวชนให้ปลอดภัยจากเว็บอันตราย และยังสามารถควบคุมเวลาการใช้งานอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย” นางจีราวรรณ กล่าว

สำหรับคุณสมบัติหลักของโปรแกรมฯ นี้ คือ สามารถปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน ซึ่งผู้ปกครองสามารถเพิ่มรายชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการปิดกั้นเองได้ รวมทั้งสามารถจำกัดเวลา กำหนดประเภท และลักษณะการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้ เช่น การกำหนดเวลาในการเข้าเว็บไซต์ การกำหนดเวลาการใช้งานคอมพิวเตอร์ และการกำหนดเวลาการใช้งานอินเทอร์เน็ต พร้อมกันนี้ยังสามารถปิดกั้นและกำหนดประเภทหรือโปรแกรมที่อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ใช้งาน กำหนดเวลาการใช้งานโปรแกรมต่างๆ เช่น กำหนดเวลาเล่นเกม เป็นต้น รวมทั้งมีการจัดทำอัพเดทฐานข้อมูลเว็บที่ไม่เหมาะสมจากกระทรวงไอซีทีตลอดเวลา และมีโปรแกรมรายงานการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ทำให้ผู้ปกครองสามารถตรวจดูพฤติกรรมของเยาวชนได้อีกด้วย

“ในการดำเนินโครงการฯ ได้มีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และเผยแพร่โปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์สู่ประชาชน ด้วยการจัดสัมมนา “การป้องกันภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ และเกมคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน” ไปยังสถานศึกษา ร้านอินเทอร์เน็ต นักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครองที่สนใจ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ถึงภัยจากเว็บและเกมที่ไม่เหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริมสถาบันครอบครัวและสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ให้มีการประยุกต์นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตไปใช้อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย

โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน องค์กรต่างๆ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม หน่วยงานท้องถิ่น เทศบาลนครหาดใหญ่ และเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เช่น จัดสัมมนาแก่โรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2 (กรุงเทพมหานคร) เขต 12 (นครศรีธรรมราช-พัทลุง) เขต 16 (สงขลา-สตูล) เขต 18 (ชลบุรี-ระยอง) เขต 24 (กาฬสินธุ์) เขต 35 (ลำปาง-ลำพูน) เขต 39 (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์) และเขต 42 (นครสวรรค์-อุทัยธานี) ซึ่งมีประชาชนสนใจเข้าร่วมการสัมมนาทั่วประเทศกว่า 10, คน มากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ถึง 157% และผู้เข้าร่วมการสัมมนากว่า 90% มีระดับความพึงพอใจ

“มากและมากที่สุด” ในเรื่องได้รับเนื้อหาความรู้ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งการนำข้อมูลและโปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ ไปประยุกต์ใช้ในครอบครัวพร้อมกันนี้ กระทรวงฯ ยังมีการแจกจ่ายโปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ให้แก่สถานศึกษาและประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมของเยาวชน ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีการดาวน์โหลดโปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ไปใช้งานแล้วมากกว่า 300,000 ราย โดยประชาชนผู้ใช้งานโปรแกรมกว่าร้อยละ 90 ต่างมีความพึงพอใจในระดับ “มากที่สุด”

โดยเฉพาะในการนำโปรแกรมไปประยุกต์ใช้งาน กระทรวงฯ จึงขอเชิญชวนผู้ปกครองติดตั้งโปรแกรมไอซีทีเฮ้าส์คีปเปอร์ เพื่อดูแลบุตรหลานเยาวชนให้ตระหนักและรู้เท่าทันภัยแฝงที่มาจากอินเทอร์เน็ต พร้อมทั้งร่วมปกป้องเยาวชนไทยจากเว็บร้าย เพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไป” นางจีราวรรณ กล่าว

View :1824

ก.ไอซีที ลงนามจัดซื้อแท็บเล็ต 1,000,000 เครื่อง จาก เสิ่นเจิ้น สโคปฯ

May 10th, 2012 No comments


นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยในการแถลงข่าว ภายหลังพิธีลงนามสัญญาจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ภายใต้โครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์พกพาระหว่างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กับ บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลอปเมนต์ จำกัด (Shenzhen Scope Scientific Development Co.,Ltd) ว่า รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยความร่วมมือเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมถึงการพัฒนาการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรบุคคลในประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทผ่านการส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอุปกรณ์การศึกษาที่ทันสมัย เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต)

ขณะเดียวกันรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ 23 สิงหาคม 2554 โดยมีนโยบายหนึ่งที่จะเริ่มดำเนินการอย่างเร่งด่วนในปีแรก คือ การจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน โดยเริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่องสำหรับระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา พ.ศ. 2555 ควบคู่กับการเร่งพัฒนาเนื้อหาที่เหมาะสม ตามหลักสูตรบรรจุลงในคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต รวมทั้งจัดทำระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายตามมาตรฐานการให้บริการในสถานศึกษาที่กำหนดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงมติเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นผู้ดำเนินการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จัดวางระบบเครือข่าย Wi – Fi จัดทำระบบบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ และการวางระบบความปลอดภัยในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) โดยมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตร สื่อการเรียนการสอน การพัฒนาบุคลากร และสร้างความเข้าใจ เพื่อการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต)

และภายหลังการดำเนินการจัดหา กระทรวงไอซีที ได้นำเสนอแนวทางการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 อนุมัติการจัดซื้อจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน บนพื้นฐานของบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนดังกล่าวข้างต้น โดยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้แนะนำบริษัทผู้ส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ที่มีคุณภาพของประเทศจีน เพื่อให้ผู้ซื้อเลือกหนึ่งบริษัทจากกลุ่มบริษัทเหล่านี้ในการจัดหาและการส่งมอบเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต)มายัง ประเทศไทย

“กระทรวงไอซีที ได้ตกลงที่จะจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จากบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลอปเมนต์ จำกัด ซึ่งเป็น 1 ใน 4 บริษัทที่รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนแนะนำ ซึ่งการลงนามครั้งนี้มีเงื่อนไขที่จะสั่งซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จำนวนทั้งสิ้น 400, ( สี่แสน) เครื่อง มูลค่าทั้งหมดจำนวน USD 32,800, (สามสิบสองล้านแปดแสนดอลลาร์สหรัฐ) มีกำหนดให้ส่งมอบภายใน 60 วัน และจะมีการซื้อเพิ่มเติม (Repeat order) โดยทำคำสั่งซื้อเพิ่มเติมสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) อีกจำนวนไม่เกิน 1,,000 (หนึ่งล้าน) เครื่องต่อไป” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว

สำหรับคุณลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ที่ บริษัท เสนอมานั้น คือ มีหน่วยประมวลผลกลางมีความเร็วสัญญาณนาฬิกา (Clock speed) 1.2 GHz มีหน่วยความจำหลัก (RAM) จำนวน 1 GB ใช้แบตเตอรี่ชนิด Lithium Polymer ขนาดความจุ 3600 mAh มีการรับประกันเป็นระยะเวลา 2 ปี

View :1796

โลจิเทคส่งอุปกรณ์เสริมสำหรับ New iPad ลุยตลาด

May 9th, 2012 No comments

Solar Keyboard Folio และ Ultrathin Keyboard Cover ให้คุณได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์ในการใช้งาน iPad

โลจิเทค บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ชั้นนำ วันนี้ประกาศเปิดตัวอุปกรณ์เสริมสองตัวใหม่ Logitech® Solar Keyboard Folio และ Logitech® Ultrathin Keyboard Cover คีย์บอร์ดคู่แท้สำหรับใช้กับ New iPad และ iPad 2 มอบความล้ำหน้าเหนือชั้นกว่าอุปกรณ์เสริมแบบเดิมๆ ด้วยการออกแบบที่ชาญฉลาดและให้การปกป้องเครื่อง iPad ที่ดีกว่า พร้อมปุ่มฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้ชั้นยอดแบบเต็มพิกัด


“iPad เจเนอเรชั่นใหม่และแอพพลิเคชันต่างๆ ของ iPad ได้รับการออกแบบเพื่อให้คุณสามารถควบคุมและสร้างสรรค์ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขตัดต่อภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหว สร้างสรรค์เพลงหรือแม้กระทั่งเขียนนิยาย” อเล็กซิส ริชาร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของโลจิเทคกล่าว พร้อมเสริมว่า “และเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์นี้ เคสพร้อมคีย์บอร์ดในตัวแบบใหม่ของโลจิเทคจึงได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาด และมาพร้อมกับรูปทรงที่เพรียวบาง แถมยังมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคีย์บอร์ดที่ยาวนานขึ้น จึงมอบความสะดวกเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลิน ปกป้องหน้าจอ และทำสิ่งอื่นๆ ได้อีกสารพันกับเครื่อง iPad ของคุณ”

เคสพร้อมคีย์บอร์ดในตัวแบบใหม่ทั้งสองรุ่นสำหรับเครื่อง iPad นี้เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงชื่อเสียงที่ยาวนานของโลจิเทคในเรื่องของความมีคุณภาพระดับสูง ความน่าเชื่อถือ และการออกแบบรูปทรงที่เพรียวบาง จึงช่วยให้บริษัทคงความเป็นผู้ผลิตคีย์บอร์ดชั้นนำระดับโลกต่อไปได้

Logitech Solar Keyboard Folio หนึ่งในเคสพร้อมคีย์บอร์ดในตัวที่บางเฉียบที่สุดที่มีวางจำหน่ายอยู่ในตลาดในปัจจุบัน ให้การปกป้องเครื่อง iPad ทั้งด้านหน้าและด้านหลังอย่างมีสไตล์ และยังเพิ่มความสมบูรณ์แบบด้วยการเป็นคีย์บอร์ดบลูทูธในตัวซึ่งทำงานโดยอาศัยพลังแสง ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย หรือแสงจากโคมไฟ ในร่มหรือกลางแจ้ง คีย์บอร์ดจะใช้แผงโซลาร์ในตัวเพื่อชาร์จไฟ แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานสูงสุดถึงสองปี1 แม้ในสภาพแวดล้อมที่มืดสนิท พร้อมดีไซน์ที่บางมากเป็นพิเศษ

ไม่ว่าคุณจะต้องการพิมพ์อีเมลหรือดูวิดีโอ เคสพร้อมคีย์บอร์ดในตัวรุ่นนี้สามารถวางตั้งได้สองตำแหน่ง โดยจะทำหน้าที่ยึด iPad ไว้แทนตัวคุณในมุมที่เหมาะสมที่สุด วาง iPad ไว้ที่ตำแหน่งแรก จากนั้นคุณก็สามารถที่จะเพลิดเพลินกับการใช้งานคีย์บอร์ดได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อคุณเริ่มลงมือพิมพ์ วาง iPad ไว้ที่ตำแหน่งที่สอง จากนั้นแถวที่หนึ่งของคีย์บอร์ดก็จะทำหน้าที่เป็นเสมือนเครื่องเล่นสื่อและตัวควบคุมระดับเสียงของคุณ


Logitech Ultrathin Keyboard Cover คู่แท้ที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับ iPad ของคุณจะคอยปกป้องหน้าจอ iPad ด้วยฝาอลูมิเนียมที่บางเฉียบและมีน้ำหนักเบา และยังทำหน้าที่เป็นคีย์บอร์ดในตัวที่จะเชื่อมต่อกับ iPad ของคุณ
ผ่านบลูทูธ คีย์บอร์ดรุ่นนี้คุณสมบัติคล้ายกับ Smart Cover โดยจะสามารถต่อเข้ากับ iPad ของคุณได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงด้วยคลิปแม่เหล็ก ไม่ว่าคุณจะกำลังพิมพ์อีเมลหรือดูภาพเคลื่อนไหวอยู่ ฐานในตัวของคีย์บอร์ดตัวนี้ก็จะยึด iPad ของคุณไว้ในมุมที่ดีที่สุด ขณะที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคีย์บอร์ดตัวนี้ก็ยาวนานถึง 6 เดือน1 คุณจึงหมดห่วงและวางใจได้และยังมีเวลาในการพิมพ์เพิ่มมากขึ้น ฝาคีย์บอร์ดที่บางเฉียบมากเป็นพิเศษยังมีคุณสมบัติเปิด/ปิดทันที โดยจะปลุกเครื่อง iPad ของคุณโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเปิดฝา และทำให้ iPad อยู่ในโหมดสแตนด์บายเมื่อคุณพับฝา

โลจิเทคยังยืนยันว่า Logitech Keyboard Case สำหรับ iPad 2 และ Logitech Tablet Keyboard สำหรับ iPad จากกลุ่มอุปกรณ์เสริมแท็บเล็ตปัจจุบันสามารถทำงานร่วมกับทั้ง iPad 2 และ New iPad ที่กำลังจะออกใหม่

Logitech Solar Keyboard Folio คาดว่าจะพร้อมจัดจำหน่ายในประเทศไทยประมาณเดือนมิถุนายน ศกนี้ ราคาแนะนำ 3,900 บาท ส่วน Logitech Ultrathin Keyboard Cover คาดว่าจะจัดจำหน่ายในประเทศไทยประมาณเดือนพฤษภาคม ศกนี้ ราคาแนะนำที่ 2,950 บาท ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เชิญแวะชมที่ www.logitech.com

* 1 หากใช้งานคีย์บอร์ดไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน

View :1342

คิงส์ตันเปิดตัวอัพเดทใหม่ล่าสุดสำหรับ Wi-Drive ให้ผู้ใช้เข้าถึงเว็บบราวเซอร์ได้จากอุปกรณ์Wi-Fi ทุกชนิด

May 9th, 2012 No comments

บริษัท คิงส์ตัน เทคโนโลยี ประเทศไทย ผู้ผลิตและพัฒนาหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก เปิดตัวอัพเดทสำหรับ เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ Wi-Fi ทุกชนิดในแบบไร้สายผ่านเว็บบราวเซอร์โดยผู้ใช้ ในปัจจุบันสามารถดาวน์โหลดอัพเดทนี้มาใช้ได้ทันที ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวจะรวมอยู่ใน ที่จะวางจำหน่ายนับจากนี้เป็นต้นไปอีกด้วยอัพเดทล่าสุดนี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ชนิดต่างๆสามารถเข้าถึงและแบ่งปันคอนเทนต์บน ได้อย่างสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากคิงส์ตันยังมาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อ Wi-Fiในตัว แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมง และความจุสูงสุดถึง 64GB ภายใต้ขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก ให้ผู้ใช้สามารถแบ่งปันไฟล์กับอุปกรณ์ Wi-Fi ได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น Apple iPad, iPhone, iPod touch, Android และ Kindle Fire เป็นต้น

Wi Drive

นอกเหนือจากฟังก์ชั่นการเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บบราวเซอร์คิงส์ตันยังนำเสนอ App ล่าสุดพร้อมฟีเจอร์พิเศษอย่างWi-Drive App1สำหรับอุปกรณ์ Androidเพื่อการเข้าถึงและแบ่งปันข้อมูลได้อย่างหลากหลายและคล่องตัวยิ่งขึ้นอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการปรับปรุงและแก้ไข App สำหรับอุปกรณ์ Apple และ Kindle Fire ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนอัพเดทแก่ผู้ใช้ Wi-Drive App สำหรับอุปกรณ์ดังกล่าวโดยอัตโนมัติอีกด้วย

ทั้งนี้ Wi-Drive App สำหรับ Android มีให้ดาวน์โหลดฟรีแล้วที่Google Play(https://play.google.com/store)และสำหรับอุปกรณ์ Kindle Fire และ Apple สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Amazon Appstore for Android และ App Store ตามลำดับ

View :1383
Categories: Gadgets, Press/Release Tags:

โซนี่ ชวนสัมผัสและเป็นเจ้าของรุ่น Xperia S

May 9th, 2012 No comments

บริษัท โซนี่ โมบายล์ คอมมิวนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสุดยอดสมาร์ทโฟนสุดฮอตแห่งปี 2012 กับ รุ่น Xperia S ความลงตัวที่สมบูรณ์แบบ ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 4.3 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 ระดับ HD และจอแสดงผลแบบ Mobile BRAVIA® Engine ที่ทำให้คุณประทับใจกับภาพสีสวยสด คมชัดทุกรายละเอียด และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.7 พร้อมรองรับการอัพเกรดเป็น 4.0 (Ice-Cream Sandwich) รวมถึงรองรับกับเครือข่าย 3G ได้ทั้ง 2 ค่ายคือ 850/900/2100 Mhz


ด้วยความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม โซนี่ จึงให้ความสำคัญในการนำเสนอสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ กับฟังก์ชั่นการถ่ายภาพเคลื่อนไหวด้วยกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัสและแฟลช ผสมผสานกับเทคโนโลยี Exmor-R™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใช้ในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย อีกทั้งยังสามารถเก็บรายละเอียดของภาพในที่มืดได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ Xperia™ S ยังมาพร้อมกล้องหน้าที่มีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล รวมถึงรองรับการแชร์ภาพ วีดีโอและ เสียงเพลงแบบไร้สายผ่านระบบ DLNA เข้ากับทีวี ได้ และยังให้คุณได้เต็มอิ่มกับทุกๆความบันเทิงแบบเต็มอิ่มด้วยหน่วยความจำภายในเครื่องถึง 32GB รวมถึงให้คุณท่องโลก Social Network อาทิ Facebook™ , Twitter™, Google Talk™ , และ Skype ได้อีกด้วย

สิทธิพิเศษ…สำหรับลูกค้าโซนี่ สามารถดาวน์โหลดและสตรีมมิ่งคอนเทนต์จากโซนี่มิวสิค ผ่านทางเว็บแอพพลิเคชั่น “ไอ-ฮัม มิวสิค สโตร์” (I-humm music store) ได้ฟรีทันที! ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2555

รุ่น Xperia™ S วางจำหน่ายแล้วในราคา 17,990 บาท ตัวเครื่องมี 2 สี คือสีดำ และ สีขาว โดยผู้สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือโซนี่ทั่วประเทศ ร้าน Power Buy , ร้าน TG Phone ,ร้านซินเน็ค และ ร้าน Jay Mart ร้าน DTAC shop หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง www.facebook.com/sonymobileth

View :1730

ไอบีเอ็มควบกิจการเวิร์คไลท์ ต่อยอดซอฟต์แวร์และบริการรองรับสมาร์ทโฟนและแทบเล็ตเพิ่มแพลทฟอร์มชั้นนำ เติมเต็มผลิตภัณฑ์ด้านอุปกรณ์พกพาครบวงจร

May 9th, 2012 No comments

ไอบีเอ็มประกาศควบกิจการของบริษัท เวิร์คไลท์ (Worklight) ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอิสราเอล ที่ให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ช่วยเพิ่มความสามารถด้านการสนับสนุนอุปกรณ์พกพาสำหรับองค์กรขนาดใหญ่เพื่อให้บริการแก่ลูกค้า การเข้าควบกิจการในครั้งนี้จะทำให้บริการสนับสนุนอุปกรณ์พกพาของไอบีเอ็มขยายการพัฒนา การบูรณาการ และการบริหารจัดการแอพลิเคชั่นบนอุปกรณ์มือถือได้ครบวงจร เวิร์คไลท์จะมาเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ด้านการสนับสนุนอุปกรณ์พกพาของไอบีเอ็มให้กับลูกค้าบนแพลทฟอร์มแบบเปิด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการทำให้แอพลิเคชั่นบนอุปกรณ์มือถือที่มีอยู่แล้วและแอพลิเคชั่นใหม่สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์หลากหลายประเภท และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเชื่อมต่อระหว่างแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเข้ากับระบบไอทีขององค์กร

นางเจษฎา ไกรสิงขร กรรมการ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เวิร์คไลท์ทำให้ไอบีเอ็มมีผลิตภัณฑ์และบริการสนับสนุนอุปกรณ์พกพาอย่างครบวงจรได้เร็วขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์และบริการนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรระดับโลกรับมือกับจำนวนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ ตั้งแต่อุปกรณ์แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน ไปจนถึงแท็บเล็ต ผลที่ได้คือ ไอบีเอ็มสามารถนำเสนอซอฟต์แวร์และบริการที่สมบูรณ์แบบที่จะนำความพร้อมด้านอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับองค์กรธุรกิจส่งมอบให้กับลูกค้าได้ ตั้งแต่ระบบไอทีไปจนถึงอุปกรณ์มือถือ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากความเข้าใจความต้องการของลูกค้าและฝ่ายไอทีอย่างลึกซึ้งของไอบีเอ็มที่ได้พัฒนามาตลอดในหลายสิบปีที่ผ่านมา ในวันนี้ ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารชั้นนำของโลก 20 แห่งใช้เทคโนโลยีของไอบีเอ็มในการรองรับการทำงานของแอพลิเคชั่น และมีโทรศัพท์มือถือมากกว่าหนึ่งพันล้านเครื่องต่อวันที่ใช้ซอฟต์แวร์ของไอบีเอ็ม ด้วยการเข้าควบรวมกิจการของเวิร์คไลท์ ทำให้ไอบีเอ็มมีจุดยืนที่ดี ที่จะช่วยให้ลูกค้าองค์กรธุรกิจที่ใช้อุปกรณ์พกพา สามารถทำธุรกิจ และมีโอกาสในการทำตลาดได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น”

เวิร์คไลท์รองรับการทำงานของแอพลิเคชั่นเพื่อพนักงานและแอพลิเคชั่นเพื่อผู้บริโภคในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจบริการทางการเงิน ค้าปลีก ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ ตัวอย่างเช่น ธนาคารสามารถสร้างแอพลิเคชั่นเพียงหนึ่งเดียวที่มีฟีเจอร์ ซึ่งทำให้ลูกค้าเชื่อมต่อเข้ากับบัญชี รวมถึงจ่ายบิล และจัดการการลงทุนได้อย่างปลอดภัยด้วยอุปกรณ์พกพาของเขาเอง เช่นเดียวกันกับโรงพยาบาลที่สามารถใช้เทคโนโลยีของเวิร์คไลท์มาขยายระบบไอทีที่มีอยู่เดิมให้ผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการโรงพยาบาลสามารถใส่ข้อมูลประวัติสุขภาพ ประวัติการแพ้ยา และการสั่งยาโดยตรงได้ด้วยตนเองโดยใช้แทบเล็ต

การเชื่อมต่อเครือข่ายได้ทุกที่ทำให้ธุรกิจได้รับโอกาสที่แตกต่างในการเชื่อมต่อเข้ากับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ภายนอกและพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการขับเคลื่อนตลาด และการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้รับข่าวสารใหม่ๆ กลยุทธ์ของไอบีเอ็มคือการให้บริการและนำเสนอซอฟต์แวร์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบตามความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำอุปกรณ์พกพามาใช้ในกระบวนการทางธุรกิจของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของอุปกรณ์มือถือทำให้องค์กรธุรกิจต้องแบ่งส่วนงานออกมาเพื่อรองรับเรื่องนี้ และบ่อยครั้งที่มักจะมีงบประมาณที่จำกัดและขาดทักษะด้านนี้โดยตรง เครื่องมือสำหรับพัฒนาและบูรณาการระบบของไอบีเอ็ม ซึ่งถูกเติมเต็มด้วยโซลูชั่นของเวิร์คไลท์ จะช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาแอพลิเคชั่นและโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการทำงานในหลากหลายแพลทฟอร์ม – ประกอบด้วย แอปเปิล ไอโอเอส (Apple iOS) และ กูเกิล แอนดรอยด์ (Google Android) – ได้ด้วยการทำงานเพียงครั้งเดียว โดยเพิ่มความปลอดภัยในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบไอทีหลักขององค์กรในขณะเดียวกัน

การนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้และเชื่อมต่อกับเครือข่ายองค์กรได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น หน่วยงานด้านไอทีต่างๆ จึงกำลังมองหาหนทางที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ที่จะทำให้พนักงานในองค์กรสามารถนำอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ของตัวเองมาใช้ในงานได้ แทนที่จะติดตั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานใหม่แยกต่างหากเพื่อรองรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ ไอบีเอ็มได้ช่วยเหลือลูกค้าโดยนำเสนอโซลูชั่นที่รวมการทำงานทั้งหมดเข้าด้วยกันบนโซลูชั่นเดียว ซึ่งสามาถบริหารจัดการและให้การรักษาความปลอดภัยกับเครื่องปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการรวมศูนย์เข้าเป็นหนึ่งเดียวในขณะนี้ขยายจากการรองรับเพียงเซิร์ฟเวอร์และแล็ปท็อป ไปสู่สมาร์ทโฟนและแทบเล็ต

การใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรธุรกิจต้องขยายความสามารถให้รองรับการทำงานของอุปกรณ์พกพา และใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ที่อุปกรณ์มือถือเหล่านี้มีให้ได้ ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์ บริการ และกรอบงานอุตสาหกรรมของไอบีเอ็มทำให้ลูกค้าใช้อุปกรณ์มือถือในการสร้างความผูกพันกับลูกค้า รอบๆ โอกาสทางธุรกิจที่เติบโตขึ้น เช่น แอพลิเคชั่นสำหรับการวิเคราะห์ แอพลิเคชั่นสำหรับการพาณิชย์ และแอพลิเคชั่นสำหรับสร้างสังคมทางธุรกิจ

View :1448
Categories: Corporate IT, Press/Release, Technology Tags: