Archive

Archive for the ‘Press/Release’ Category

ไอดีซีระบุตลาดจีนและอินเดียช่วยกระตุ้นให้ยอดขายพีซีในเอเชียแปซิฟิกให้เติบโต 2 หลักในไตรมาสที่ 3 ปีนี้

October 25th, 2011 No comments

ผลการวิจัยเบื้องต้นของไอดีซีชี้ให้เห็นว่าตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) ในไตรมาสที่ 3 ของปี้นี้ได้เติบโตขึ้น 6% จากไตรมาสที่ 2 และขยายตัวถึง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมียอดจำหน่ายทั้งหมดกว่า 31.9 ล้านเครื่อง ซึ่งถือว่าเติบโตเกินกว่าที่ไอดีซีคาดการณ์ไว้ 2%

ผู้บริโภคในประเทศจีนได้หันกลับมาจับจ่ายซื้อสินค้าพีซีอีกครั้งหลังจากที่กระแสของมีเดีย แท็บเล็ทได้เริ่มอ่อนตัวลง ในขณะเดียวกันภาคธุรกิจเองก็มีการลงทุนซื้อพีซีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือ จากนี้ตลาดอินเดียเองก็ขยายตัวขึ้น อันเนื่องมาจากการที่อุปสงค์ในฝั่งของผู้บริโภคนั้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ซบเซามาตลอดในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าการลงทุนของภาคเอกชนจะอยู่ในระดับต่ำอันเป็นผลมาจากความกังวลในเรื่องของวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกก็ตาม

นายไบรอัน มา รองประธานฝ่ายงานวิจัยตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วงประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของไอดีซีเผยว่า “ถึงแม้ว่าจะเป็นการดีที่เราได้เห็นยักษ์ใหญ่อย่างอินเดียและจีนช่วยขับเคลื่อนตลาดในภูมิภาค แต่บทบาทของประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ เช่นประเทศไทยก็เริ่มเพิ่มความสำคัญมากขึ้นเช่นกัน ถึงแม้ ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะยังคงไม่แน่นอน แต่การบริโภคก็ยังถือว่าคงตัวอยู่ในระดับสูง ซึ่งถ้าหากผลกระทบจากน้ำท่วมในประเทศไทยนั้นไม่ได้ขยายตัวเป็นวงกว้าง ไอดีซีเชื่อว่าภาพรวมของตลาดทั้งภูมิภาคน่าจะดีกว่าที่ไอดีซีได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งก็คือโตเกินกว่า 12% นั่นเอง”

เลอโนโวยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดในประเทศจีน และยังคงขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำทั้งในตลาดประเทศจีนและตลาดโลก ขณะเดียวกันอัสซุสที่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องของสินค้าคงคลังได้สำเร็จก็ทำผลงานได้ดีในประเทศจีนทั้งในเมืองใหญ่และจังหวัดต่างๆ และถึงแม้ ว่าผลงานของเดลล์จะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 แต่ผู้ผลิตรายนี้ก็ยังคงลงทุนต่อเนื่องในการขยายส่วนแบ่งตลาดในประเทศจีน และรักษาส่วนแบ่งตลาดที่มากที่สุดในประเทศอินเดียได้สำเร็จ

View :1577

เอไอเอสพร้อมป้องกันเครือข่ายจากอุทกภัยน้ำท่วม

October 21st, 2011 No comments

นายวิเชียร  เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวถึงแผนการดูแลเครือข่ายใน สภาวะอุทกภัยว่า “ในยามเกิดภัยพิบัติ ไม่ว่าจากภัยธรรมชาติ หรือ จากเหตุอื่นๆ สิ่งที่ตามมาคือ ความต้องการสื่อสาร เพื่อขอความช่วยเหลือ และแจ้งข่าวระหว่างกัน   โครง ข่ายสื่อสารที่มีความเสถียร และพร้อมที่จะเป็นสื่อกลางเสมอ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังเช่นในเหตุอุทกภัยครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นบททดสอบสำคัญถึงความมุ่งมั่นของผู้ให้บริการที่จะพิสูจน์ ให้เห็นถึงความพร้อมดังกล่าว”

“เครือข่ายและเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายได้กลายมาเป็นโครงข่ายสื่อสารหลักสำหรับ ประชาชน และหน่วยงานที่ส่งมอบความช่วยเหลือ  เพราะสะดวก รวดเร็วต่อการใช้งาน เคลื่อนที่ได้ และสามารถเข้าถึงพื้นที่ภัยพิบัติได้อย่างไร้ข้อจำกัดที่สำคัญตอบสนองต่อการสื่อสารผ่าน Social Network ได้ดีที่สุด ดังจะเห็นถึงปริมาณการใช้งานทั้ง Voice และ Data ที่สูงขึ้นถึง 70% เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภัยพิบัติ”

นายวิเชียรกล่าว ย้ำว่า “เอไอเอส แม้จะเป็นผู้ให้บริการเอกชน  แต่ตระหนักถึง ความสำคัญของระบบสื่อสารในท่ามกลางสถานการณ์  จึง ได้ทุ่มเททุกสรรพกำลังอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นกำลังคนและ Solutions ต่างๆ เพื่อให้สามารถเป็นช่องทางส่งมอบความช่วยเหลือและบริหารจัดการปัญหาอุทกภัยในครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันเครือข่ายและเตรียมการรองรับกรณีหากอุทกภัยส่งผลกระทบกับชุมสายและสถานีฐาน ซึ่งมีมาตรการหลัก ประกอบด้วย

1. เตรียมการป้องกันสถานีฐานและชุมสายที่มีความเสี่ยงน้ำท่วม โดยการยกระดับความสูงของอุปกรณ์ ตู้คอนเทนเนอร์ การวางแนวกระสอบทรายและกำแพงกันน้ำ

2. เตรียมระบบไฟสำรอง น้ำมันและการส่งกำลังบำรุง เพื่อให้ชุมสายยังคงให้บริการ ได้ตามปกติ ในกรณีที่มีการตัดไฟจากการไฟฟ้า

3. เตรียมแผน Business Continuity Planning ในการปรับ traffic การสื่อสารไปยังชุมสายอื่นๆให้สามารถรองรับและใช้งานแทนได้ทันที กรณีหากชุมสายแห่งนั้นไม่สามารถป้องกันน้ำเข้าในพื้นที่ได้

4. เตรียมสถานที่สำรองในกรณีเข้าปฏิบัติงานที่ศูนย์กลางการบริหารเครือข่าย ส่วนกลางไม่ได้ เพื่อให้วิศวกรสามารถดูแลเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไม่ติดขัด รวมถึงประสานกับ Supplier ผู้ผลิตอุปกรณ์ Stand by อุปกรณ์และ Spare Part เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที

            โดยแผนงานดังกล่าวเป็นแผนรองรับกรณีฉุกเฉิน ซึ่งได้มีการซักซ้อมอย่างสม่ำเสมอและนำมาปฏิบัติจริงแล้วในช่วงเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงตั้งแต่เหตุอุทกภัยครั้งนี้ได้เริ่มส่งผลกระทบในพื้นที่ต่าง จังหวัด ไม่ว่าจะเป็นที่ จังหวัดอุตรดิตถ์, ลพบุรี, อยุธยา เรื่อยมา ซึ่งผลกระทบหลักๆต่อเครือข่ายมือถือในกรณีน้ำท่วมจะเกิดจากสาเหตุ หลักเพียงประการเดียวคือ การตัดกระแสไฟจากการไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตรายแก่ประชาชน  ส่วนความเสียหายของอุปกรณ์อันเกิดจากน้ำท่วม หรือ ปัญหาขัดข้องของเครือข่ายถือเป็นส่วนน้อยมาก อย่างไรก็ตามแม้ % ของเครือข่ายที่มีปัญหาจะน้อยมาก แต่เอไอเอสก็ไม่เคยละเลยที่จะแก้ปัญหา ดังนั้นการเตรียมระบบไฟฟ้าสำรองและการบริหาร Traffic ของเครือข่ายข้างเคียงให้สามารถ ส่งกำลังเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเติมเต็ม Coverage ส่วนที่หายไป รวมถึงการรักษา Coverage ในพื้นที่ยุทธศาสตร์จึงเป็นเรื่องหลักของการป้องกันเครือข่ายในสถานการณ์นี้

            “ส่วนการนำ Solutions ไร้สายเข้าไปสนับสนุนในเหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้ ประกอบด้วย

1. การเข้าไปในพื้นที่ศูนย์อพยพหลักๆ โดยตั้งจุดให้บริการโทรฟรี เติมเงินเคลื่อนที่ รวมถึงนำรถสถานีฐานเคลื่อนที่เข้าไปขยายความสามารถ ในการรองรับการใช้งาน

2. สนับสนุนการจัดตั้ง Call Center ให้แก่ภาครัฐเพื่อเป็นช่องทางรับเรื่อง ร้องทุกข์

3. นำ Solutions Mobile Wall Board เข้ามาประยุกต์ใช้ โดยให้อาสาสมัครใช้มือถือถ่ายวีดีโอคลิปจุดต่างๆและ เขียนข้อมูลประกอบ จากนั้นส่งผ่านเครือข่าย Data มายังศูนย์กลาง เพื่อประมวลข้อมูลและส่งต่อความช่วยเหลือ

4. สนับสนุน Data ให้แก่ Google เพื่อใช้เป็นช่อง ทางในการส่งข้อมูลจาก Application ของ Google ที่มีทั้งการแสดงข้อมูลจุดน้ำท่วม การขอความช่วยเหลือ

5. ติดตั้งเทคโนโลยี Wireless High Speed จาก Airnet ของเอไอเอส ให้แก่จุดสำคัญต่างๆที่เป็นศูนย์ ประสานงาน เช่น อยุธยาปาร์ค หรือที่อาคาร บบส. ทำให้เจ้าหน้าที่ประสานความช่วยเหลือผ่าน Wifi ทั้งบน เครือข่ายอินเตอร์เน็ตการโทรฟรีผ่าน VoIP

6. พัฒนาเมนู   Flood Relief  บน โมบายไลฟ์ พอร์ทัล  เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสา มารถเกาะติดสถานการณ์ข่าวสารความเคลื่อนไหวเรื่องน้ำท่วมอย่าง โดย ข้อมูลดังกล่าวประกอบด้วยความเคลื่อนไหวของสถานการณ์น้ำที่อัพ เดทล่าสุด จากทุกแหล่งข่าว, สายด่วน&รวมเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน, สถานที่จอดรถฟรี,  ภาพวีดีโอคลิป,ข้อ มูลที่เป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อม, ฯลฯ

7. นำ Solutions “mPABX” หรือ Mobile Public Automatic Switching Board  ที่เป็นเสมือนตู้สาขาอัตโนมัติ ทำให้ เบอร์โทรศัพท์มือถือเพียง 1 เบอร์สามารถมีคู่ สายรองรับได้ตั้งแต่ 20 คู่สายขึ้นไปเข้ามาสนับสนุนหน่วยงานที่มีความต้องการใช้คู่สายโทรศัพท์จำนวนมากอย่างเร่งด่วน   ดังเช่นกรณีการนำเข้าไปใช้กับรายการ โทรทัศน์ในเครือ JSL ที่จัดรายการสดและเปิดให้ประชาชน โทรเข้ามาบริจาค

“นอกจากนี้การดูแลเครือข่ายและนำ Solutions เข้ามาใช้ในการบริหารจัดการ เครือข่ายเพื่อให้สามารถเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารและแก้ปัญหา ในสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้แล้ว เอไอเอสยังร่วมช่วยเหลือประชาชน ผ่านทางการบริจาคเงินมากกว่า 35 ล้านให้แก่ รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ, ส่งมอบถุงยังชีพ, กระสอบทราย, น้ำดื่ม, เรือ , จัดตั้งโรงครัวเอไอเอสที่มีพนักงานอาสาสมัครทำอาหารกล่องให้บริการ ประชาชน, สนับสนุนซิมการ์ดพร้อมค่าโทรและตัวเครื่องโทรศัพท์ให้แก่ หน่วยงานอาสาสมัครต่างๆ รวมไปถึงการดูแลลูกค้า อาทิ การเติมเงินอัตโนมัติและ เติมวันให้แก่ลูกค้าพรีเพดด้วยงบประมาณเบื้องต้นมากกว่า 30 ล้านบาท, การขยายระยะเวลาตัดสัญญาณให้แก่ลูกค้าโพสต์เพด , การช่วยเหลือระบบสื่อสารให้แก่ลูกค้าองค์กร และการสนับสนุนพาร์ทเนอร์อย่างช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งนี้เพื่อให้ทุกๆส่วนสามารถก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน อย่างดีที่สุด” นายวิเชียร กล่าวในตอนท้าย

View :1605

แคนนอนเปิดตัว eMaintenance บริการเลขาส่วนตัวออนไลน์

October 20th, 2011 No comments

จัดการทุกปัญหาเครื่องถ่ายเอกสารด้วยบริการข้ามโลก พร้อมบริการซ่อมบำรุงถึงที่ทันใจผ่านระบบเตือนอัตโนมัติ

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) ผู้นำในตลาดอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน สำหรับธุรกิจ SME และองค์กรขนาดใหญ่ของประเทศไทย สร้างความแตกต่างในการให้บริการเครื่องถ่ายเอกสาร นำเสนอบริการรูปแบบใหม่สำหรับลูกค้าผู้ใช้เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นของแคนนอน ภายใต้บริการชื่อ eMaintenanceที่จะให้บริการเหมือนเลขาส่วนตัว ในการแจ้งเตือนข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้เครื่องถ่ายเอกสาร และช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างอิสระไร้ขีดจำกัด เพื่อให้การบริหารงานเอกสารจำนวนมากมีประสิทธิภาพ และข้อมูลได้รับการป้องกันให้มีความปลอดภัยสูงสุด

ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคลผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น กรุ๊ป บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวถึงบริการใหม่ล่าสุดของแคนนอนว่า “ เป็นคอปเซ็ปต์ใหม่ในการให้บริการลูกค้าจากแคนนอน โดยให้บริการผ่านระบบ RDS (Remote Diagnostic System) ซึ่งเป็นระบบจัดการและตรวจสอบการทำงานของเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นแต่ละเครื่องของแคนนอนจากทางไกลโดยศูนย์บริการลูกค้าที่ญี่ปุ่น ด้วยบริการที่สามารถควบคุมและตรวจสอบการทำงานทั้งหมดของเครื่องได้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดเหตุขัดข้องกับตัวเครื่องถ่ายเอกสารทางศูนย์จะได้รับการแจ้งเตือนอัตโนมัติ จึงทำให้สามารถแก้ปัญหาหรือเรียกฝ่ายซ่อมบำรุงเข้ามาจัดการได้ในทันที โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องยุ่งยาก นอกจากนี้บริการ ยังช่วยตรวจเช็คการใช้งานเครื่องรวมถึงปริมาณหมึกที่เหลือภายในเครื่อง พร้อมส่งรายงานให้กับผู้ใช้ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้สูงสุด”

ทั้งนี้บริการ eMaintenanceประกอบด้วยบริการหลัก 3 บริการ ได้แก่

eMeter Reading บริการตรวจสอบปริมาณการใช้งานของเครื่องอัตโนมัติ ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ช่วยให้คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารเอกสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

eToner Service บริการตรวจสอบการใช้งานหมึกและปริมาณหมึกคงเหลือในสต็อกและในเครื่องแบบอัตโนมัติผ่านอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่ในการจัดเก็บสต็อกหมึกและปัญหาหมึกหมดอีกต่อไป

eProactive Support บริการนี้เป็นบริการตรวจสอบการทำงานและสถานะของเครื่อง รวมไปถึงอะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเต็มร้อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่อง เนื่องจากมีการตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา

บริการeMaintenance จากแคนนอน เป็นบริการเหนือระดับที่มุ่งสร้างความแตกต่างในการให้บริการ เพื่อช่วยให้กลุ่มลูกค้าผู้ใช้เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นของแคนนอนทั่วโลกได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า ทั้งในแง่การประหยัดเวลาในการทำงาน ลดต้นทุนการผลิต และร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
บริการ e-Maintenanceของแคนนอนได้ให้บริการแล้ว สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.canon.co.thหรือที่เบอร์ 02 – 344-9888

View :1606

AIS เปิดช่องทางบนมือถือ ให้ข้อมูล “น้ำท่วม”ล่าสุดจากทุกแหล่งข่าว

October 20th, 2011 No comments

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริการ เอไอเอส เปิดเผยว่า “ด้วยสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ สิ่งที่ประชาชนต้องการเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากการเตรียมความพร้อมรับมือป้องกันในทุกๆ ด้านแล้ว คือการเกาะติดสถานการณ์ข่าวสารความเคลื่อนไหวเรื่องน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด เอไอเอสจึงได้เปิดอีกช่องทางบนมือถือให้ข้อมูลน้ำท่วม ผ่านทางเมนู “ Flood Relief” บนโมบายไลฟ์ พอร์ทัล ที่อ่านได้บนโทรศัพท์มือถือทุกรุ่น ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้แก่ ข้อมูลข่าวความเคลื่อนไหวที่อัพเดทล่าสุด จากทุกแหล่งข่าว, สายด่วน&รวมเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน, รวมสถานที่จอดรถฟรี, ภาพวีดีโอคลิป และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อม เป็นต้น”
ผู้ใช้มือถือเอไอเอสสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลน้ำท่วม ได้ที่เมนู “AIS Flood Relief” บนโมบายไลฟ์ พอร์ทัล หรือกด *900 แล้วโทรออก รอรับลิงค์ เพื่อเข้าสู่หน้าโมบายไลฟ์ พอร์ทัล

View :1420

หัวเว่ยจับมือเวลเทคกรุ๊ปเดินหน้าลุยตลาดดีไวซ์ไทย การันตีคุณภาพคับแก้วเทียบชั้นแบรนด์ระดับโลก

October 20th, 2011 No comments

หัวเว่ยได้ฤกษ์เดินหน้าลุยทำตลาดดีไวซ์ในไทย ล่าสุดแต่งตั้งเวลเทคกรุ๊ปตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีระดับแนวหน้าของไทยกระจายสินค้าส่งดีลเลอร์ชั้นนำทั่วประเทศมั่นใจคุณภาพระดับโลกแถมราคาจับต้องได้ ฟันธง…..ตลาดไทยตอบรับคาดกลางปีชื่อติดตลาด

นายถู หมิง ผู้อำนวยการ ฝ่ายธุรกิจดีไวซ์ (Device Business) บริษัท เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2554 ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงให้ บริษัท จำกัด(WTG) เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย หัวเว่ยสมาร์ทดีไวซ์ในประเทศไทย(Huawei Smart Device Distributor) โดย ถือเป็นผู้แทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์ด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีมากว่า 25 ปี และเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีอันดับแนวหน้าของไทย

อย่างไรก็ดีสาเหตุที่หัวเว่ยเข้ามาทำตลาดดีไวซ์ในประเทศไทยครั้งนี้เนื่องจากเล็งเห็นว่าตลาดดีไวซ์ไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญและมีการเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่อง หลังจากหัวเว่ยเข้ามาทำตลาดอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคมในประเทศไทยมากว่า 10 ปี

ทั้งนี้หัวเว่ยพร้อมที่จะรับฟังความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เพื่อพัฒนาและนำเสนอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตคุณภาพสูง รวมทั้งแอพพลิเคชั่นใหม่ให้ตรงกับความต้องการของตลาดภายใต้สโลแกน “ Let’s Simply Share”

นายสุวิทย์ ชัยกิจพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลเทคกรุ๊ป จำกัด ( WTG) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีเชื่อมั่นในแบรนด์ของหัวเว่ย เนื่องจากเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมที่อยู่เบื้องหลังผู้ประกอบการโทรคมนาคมระดับโลก โดยเครือข่ายโทรคมนาคมในโลก 1 ใน 3 เป็นอุปกรณ์ที่ผลิตจากหัวเว่ย ปีที่ผ่านมาหัวเว่ยรายได้ถึง 10 ล้านล้านเหรียญฯ และปัจจุบันหัวเว่ยได้ก้าวสู่ผู้ผลิตดีไวซ์อันดับ 5 ของโลก ซึ่งเป็นหลักประกันคุณภาพและความน่าเชื่อถือในระดับสากลของหัวเว่ย

อย่างไรก็ดีเบื้องต้น เวลเทคกรุ๊ปจะเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบรนด์หัวเว่ยนำร่องจำนวน 3 รุ่น คือGAGA, IDEOS X3 และ IDEOS X5 ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 และราคาจับต้องได้ทั้งหมด พร้อมทั้งแท็บเลต 1 รุ่น

ทั้งนี้เวลเทคกรุ๊ปจะกระจายดีไวซ์แบรนด์หัวเว่ยทั้ง 4 รุ่นไปยังดีลเลอร์จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และไอที ในสังกัดทั่วประเทศจำนวนกว่า 1,700 แห่ง ประกอบด้วย ดีลเลอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำอาทิ เจมาร์ท ทีจี บิสเทล และดีเลอร์ไอทีชั้นนำ อาทิ บานาน่า และ คอมเซเว่น เป็นต้น ปัจจุบัน WTG มียอดขายสินค้าแบรนด์ต่างๆประมาณ 2-3 หมื่นเครื่องต่อเดือน

“เรามั่นใจว่าสินค้าแบรนด์หัวเว่ยจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพียงแต่ช่วงเริ่มต้นจะต้องให้ผู้บริโภค และดีลเลอร์ได้สัมผัสสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับแบรนด์ แต่เชื่อใช้ระยะเวลาไม่นานนักเพราะสินค้าในแบรนด์หัวเว่ย มีคุณภาพ การใช้งานเสถียร และอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบทำจากวัสดุคุณภาพสูง ที่สำคัญราคายังสามารถจับต้องได้ เพราะกำหนดราคาตามกำลังซื้อของคนไทย”นายสุวิทย์กล่าว

นายสุวิทย์กล่าวต่อว่าแม้ปัจจุบันตลาดดีไวซ์ในไทยจะมีการแข่งขันสูงแต่กับมีผู้ผลิตอุปกรณ์ดีไวซ์เพียงไม่กี่รายในตลาด ซึ่งหัวเว่ยมีโอกาสที่จะขยับมาอยู่อันดับแถวหน้าได้ไม่ยากเพราะมีความโดดเด่นด้านคุณภาพและยังสามารถควบคุมราคาได้เป็นอย่างดีเพราะมีต้นทุนในการผลิตต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่นซึ่งส่วนใหญ่ผลิตและใช้ชิ้นส่วนของหัวเว่ยด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเชื่อได้ว่ากลางปีหน้าชื่อเสียงของหัวเว่ยดีไวซ์จะเป็นที่รู้จักอย่างแน่นอน

View :1587

ESRI จับมือ Globetech และกระทรวงคมนาคม ดันระบบตรวจสอบน้ำท่วมด้วยตัวเองผ่านเว็ปไซต์ ARC GIS

October 20th, 2011 No comments

บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในการให้บริการระบบภูมิสารสนเทศ (GIS) หนึ่งในกลุ่มบริษัทซีดีจี ออกระบบรายงานสถานการณ์น้ำท่วมบนเว็บไซต์ http://203.150.230.27/FloodMap/index.html ให้บริการประชาชนตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมด้วยตัวเอง โดยเชื่อมต่อข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมและข้อมูลจาก GISTDA โดยตรงและรายงาน ผ่านเว็บไซต์ http://www.mot.go.th/ แบบวันต่อวัน ซึ่งระบบสามารถระบุตำแหน่ง จุดอพยพ, จุดจอดรถ, เส้นทางที่, เส้นทางแนะนำ, แนวป้องกันน้ำท่วมและ พื้นที่ เพื่อรับมือและวิเคราะห์สถานการณ์ล่วงหน้าได้อย่างทันท่วงที

วิธีการใช้งานเบื้องต้น
• กล่อง “บริการข้อมูล” ด้านซ้ายมือ เลือก เปิด-ปิด เพื่อแสดงผลข้อมูลบนแผนที่ได้ตามต้องการ
• กล่อง “Social Media” ด้านซ้ายมือ สามารถเลือกติดตามได้ทั้ง YouTube, Twitter, Flickr
• แถบย่อ-ขยายแผนที่ ข้างขวามือของกล่องบริการข้อมูล คลิกลูกศรด้านบน = ขยาย คลิกลูกศรด้านล่าง = ย่อ
• กล่อง “สัญลักษณ์” ด้านขวามือ อธิบายสัญลักษณ์ต่างๆ ที่แสดงบนแผนที่
• เลือกดูแผนที่ลายเส้น คลิก “NOSTRA”, เลือกดูแผนที่ดาวเทียม คลิก “Bing”

หมายเหตุ : ระยะเวลาการอัพเดทข้อมูลขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการข้อมูลนั้นๆ โดย user สามารถดูวันที่ของข้อมูลได้โดยการชี้ cursor ไปที่ตัวเลือกข้อมูล ทั้งนี้ ทาง ESRI (Thailand) ติดตามอัพเดทข้อมูลบนเว็บในทุกวัน
ตัวอย่าง

วิธีใช้เว็บบริการข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมในการดูเส้นทางแนะนำ ให้เลือกที่ช่องว่างหน้าตัวเลือก “เส้นทางแนะนำจากกระทรวงคมนาคม” ในกล่องบริการข้อมูล
วิธีใช้เว็บบริการข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมในการดูเส้นทางที่รถผ่านได้-ไม่ได้ ให้เลือกที่ช่องว่างหน้าตัวเลือก “เส้นทางที่น้ำท่วมจากกระทรวงคมนาคม” ในกล่องบริการข้อมูล

วิธีใช้เว็บบริการข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมในการดูจุดจอดรถในกทม. และแนวกั้นน้ำ ให้เลือกที่ช่องว่างหน้าตัวเลือก “แนวป้องกันน้ำท่วม” และ “จุดจอดรถตามประกาศจากบก.จร.” ในกล่องบริการข้อมูล

View :3129

Smartphone ในกลุ่มตลาดล่างกำลังกินส่วนแบ่งตลาด Feature Phone

October 19th, 2011 No comments

จากรายงานการสำรวจรายไตรมาสของไอดีซี ภายใต้ชื่อ IDC’s Asia/Pacific Quarterly Mobile Phone Tracker 2Q 2011 พบว่า ยอดจำหน่าย smartphone ในไตรมาสที่สองประเทศไทยมีอัตราการเติบโตร้อยละ 19 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่แล้ว โดย smartphone กลุ่มตลาดล่าง ได้เลือก Symbian และ Android ซึ่งเป็นราคาที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ยังคงรุกเข้ามากินตลาด feature phone ย่างต่อเนื่อง การระมัดระวังเรื่องการใชจ่ายของผู้บริโภค นั้นเริ่มปรากฏเด่นชัดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาด feature phone โดยที่ยอดจำหน่ายของตลาดนี้มีอัตราการเติบโตที่ลดลงถึงร้อยละ 8 ในไตรมาส 2 นี้ จึงเป็นเหตุให้ยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในภาพรวมของประเทศไทยในไตรมาส 2 ของปีนี้ มีอัตราเติบโตลดลงร้อยละ 4 เมื่อเปรียบกับไตรมาสที่แล้ว

นอกจากนี้ ยังพบว่า พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไป จากที่เคยนิยมซื้อ โทรศัพท์มือถือที่มีราคาปานกลาง ตั้งแต่ 100-350 เหรียญสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนไปนิยมซื้อกลุ่มราคาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นราคาสูง ตั้งแต่ 350-600 เหรียญสหรัฐฯ หรือ ราคาต่ำ ที่ต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ “ในขณะที่บริการ 3G ที่กำลังเปิดให้บริการอยู่ในบ้านเราขณะนี้จะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการซื้อโทรศัพท์กลุ่มราคาสูงแต่ทว่า เรากำลังพบว่ายอดจำหน่ายโทรศัพท์ที่มีราคาต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ ก็ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับผลมาจากโทรศัพท์สัญชาติไทยได้ขยายตลาดด้วยการกระจายสินค้าไปยังต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น” กล่าวโดยนายนพรัตน์ พรหมอินทร์ นักวิเคราะห์ตลาด ด้านโทรคมนาคม ประจำไอดีซี ประเทศไทย

ความต้องการของตลาดโทรศัพท์มือถือทั้ง smartphone และ feature phone คาดว่าจะกลับมาสูงขึ้นอีกครั้งในราวไตรมาส 4 ของปีนี้ เนื่องจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากผู้ผลิตทั้งหลาย การเปิดให้บริการ 3G ในเชิงพาณิชย์จากค่าย True Move H และการเปิดทดลองให้บริการในบางพื้นที่ของ และ DTAC ที่จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบต่อไปและจุดชนวนความต้องการสำหรับการบริการด้านข้อมูล ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ตลาด smartphone มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานบริการด้านข้อมูลอย่างมากอย่าง iOS และ Android” นพรัตน์ กล่าวเสริม

View :1770

ดีแทคจับมือซัมซุง พร้อมจำหน่าย “ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ 8.9” เป็นทางการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

October 19th, 2011 No comments

พร้อมแถมซิมเติมเงินที่มาพร้อมโปรโมชั่นใช้งาน data ฟรี 1 เดือนให้กับลูกค้าแบบเติมเงิน

ดีแทคจับมือซัมซุงเปิดจำหน่าย ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็ป 8.9 สมาร์ทแท็บเล็ตที่บางที่สุด เบาที่สุด และเร็วที่สุด ที่ดีแทคอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ให้ลูกค้าใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพบน dtac 3G ที่ความเร็วสูงสุด 42 Mbps พร้อมแถมซิมเติมเงินที่มาพร้อมโปรโมชั่นใช้งาน data ฟรี 1 เดือน โดยจะเริ่มในวันที่ 1 พฤศจิกายน


พิเศษเมื่อซื้อซัมซุง กาแล็คซี่ แท็ป 8.9 ที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทคและดีแทคเซ็นเตอร์รับสิทธิพิเศษผ่อน 0% นาน 10 เดือน จ่ายเพียงเดือนละ 1,790 บาท พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% และรับฟรีอุปกรณ์เสริม USB Connector มูลค่า 590 บาท เมื่อซื้อพร้อมเปิดใช้บริการซิมดีแทคใหม่แพ็คเกจ Aircard Tablet หรือเปิดบริการซิมเสริม (Multi SIM) โดยแพ็กเก็จอินเทอร์เน็ตหลักที่มีค่าบริการมากกว่า 349 บาทต่อเดือนขึ้นไป ถึงวันที่ 30 พ.ย. 54 (ของแถมมีจำนวนจำกัด) สำหรับลูกค้าดีแทคที่มีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบไม่จำกัดอยู่แล้ว สามารถสมัครซิมเสริม (Multi SIM) เล่นเน็ตไม่จำกัดเริ่มเต้นเพียงเดือนละ 250 บาท

สำหรับลูกค้าแบบเติมเงิน รับสิทธิใช้งาน happy internet ฟรี 30 วัน โดยลูกค้าสามารถรับสิทธินี้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ซิมเติมเงินที่มีโปรโมชั่นนี้มีจำนวนจำกัด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th หรือ www.samsung.com/th/galaxytab89

View :1982

ดีแทคเปิดตัว iPhone 4 8GB ราคาสบาย ๆ เพียงเดือนละ 1,790บาท พร้อมรับเครื่องทันที ไม่ต้องจอง

October 18th, 2011 No comments

ดีแทคเตรียมจำหน่าย dtac iPhone 4 8GBใหม่ล่าสุด ในวันที่ 18ตุลาคม 2554โดยลูกค้าสามารถรับเครื่องได้ทันที มอบประสบการณ์สื่อสารที่เหนือกว่าผ่านเครือข่าย dtac 3G ให้ผู้บริโภคเป็นเจ้าของกันได้ง่ายขึ้นด้วยราคาเครื่องเปล่าเพียง 18,500 บาท และราคาเครื่องพร้อมแพ็กเกจเพียง 17,900 บาท

ลูกค้าที่ซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจยังได้รับข้อเสนอพิเศษสุดคุ้ม ผ่อน 0% นาน 10 เดือน เพียงเดือนละ 1,790 บาท พร้อมรับเงินคืนสูงสุด 15% จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ คือ บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรี, บัตรเซ็นทรัลเครดิตคาร์ด, บัตรโรบินสัน วีซ่า, บัตรเครดิตธนาคารกรุงไทย, บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย, บัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์, บัตรเครดิตธนาคาร UOB และบัตรเครดิตกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ และรับสิทธิ์โปรโมชั่นค่าบริการสุดคุ้ม ใช้บริการฟรี 3 รอบบิลเมื่อสมัครแพ็กเกจ iPhone S และใช้ฟรี 6 รอบบิลเมื่อสมัครแพ็กเกจ iPhone M และ L พิเศษเฉพาะในวันซื้อเครื่องเท่านั้น

dtac วางจำหน่ายที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทค และดีแทคเซ็นเตอร์ทั่วประเทศ พร้อมบริการที่ใส่ใจกว่าใคร จากทีม iPhone Buddy ที่คอยให้คำปรึกษา และแนะนำในการใช้งาน

สอบถามรายละเอียดร้านค้าที่จัดจำหน่าย และข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมได้ที่ dtac call center 1678 หรือที่เว็บไซต์ www.dtac.co.th/iphone

View :1460

*333 แฮปปี้ได้ไม่อั้น ชวนดาวน์โหลดเพลง

October 18th, 2011 No comments

ลุ้นชมคอนเสิร์ต CALORIES DA DA เฉพาะลูกค้าแฮปปี้และดีแทค

ลูกค้าดีแทคและแฮปปี้ที่ชื่นชอบการดาวน์โหลดเพลง สามารถร่วมลุ้นรางวัลบัตรชมคอนเสิร์ต CALORIES DA DA จากนักร้องเสียงดีมีเอกลักษณ์แห่งปี ดา เอ็นโดรฟิน และแคลอรีส์ บลาห์ บลาห์ ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษได้ เพียงสมัครใช้บริการหรือใช้บริการดาวน์โหลดเพลงจาก *333 แฮปปี้ได้ไม่อั้น บริการโหลดเพลงยกค่ายแกรมมี่ ผ่านทางช่องทางทั้ง 3 ช่องทาง คือ กด *333 จากมือถือ, GMM happy Application บน iPhone และผ่านทาง www.333gmmhappy.com โดยมูลค่าของรางวัล 4,000 บาท รางวัลละ 2 ที่นั่ง จำนวน 120 รางวัล รวมมูลค่าของรางวัล 480,000 บาท ระยะเวลาแคมเปญตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 13 ธันวาคม 2554 ประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 15 ธันวาคม 2554 ที่เว็บไซต์ www.333gmmhappy.com และ www.happy.co.th

View :1365