Archive

Archive for the ‘Tablet’ Category

วิจัยอีริคสันเผยตลาดอุปกรณ์สมาร์ทโมบายล์โตอย่างมาก

September 6th, 2012 No comments

จำนวนผู้ใช้แท็บเล็ตในประเทศไทย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงสี่เท่าตัว (จาก 2% เป็น 8%) ในระยะเวลาหกเดือนข้างหน้า และจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% #

ปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟน คือ เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ททั่วไป เพื่อเข้าถึงบริการด้านการบันเทิง และเพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างทันท่วงที

จากการวิจัยพบว่า การใช้งานด้านการสื่อสาร (เช่น โทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ท, อีเมล, โซเชียลเน็ทเวิร์ค, การส่งข้อความ, และ VoIP เป็นต้น) รายการทีวี และวีดีโอ น่าจะเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนการใช้งานด้านอื่น เช่น การโทรศัพท์แบบเห็นหน้า (video calling), push to talk, การแปลงเสียงเป็นข้อความ (speech-to-text), อีเมล, และการใช้งานอินเตอร์เน็ททั่วไป ถือได้ว่ามีการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนี้น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องและนักพัฒนาโมบายล์แอ็พพลิเคชั่นต่างๆ

ผลจากการวิจัยนี้ ถือเป็นการตอกย้ำว่าผู้ให้บริการจำเป็นต้องพัฒนาเครือข่ายของตน ให้พร้อมรองรับสมาร์ทโฟน ขยายพื้นที่ครอบคลุมให้ทั่วถึง เพื่อเพิ่มคุณภาพสัญญาณ ความเร็วในการรับส่งข้อมูล ความเสถียรของระบบ รวมทั้งความพร้อมเพื่อรับมือกับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของการสื่อสารข้อมูลบนมือถือ ซึ่งถูกผลักดันโดยบริการประเภท non-voice ต่างๆ

# ตามข้อมูลที่ผู้ตอบแบบสอบถามแสดงความสนใจ

ผลการสำรวจโดย Ericsson ConsumerLab พบว่าผู้บริโภคในประเทศไทยให้ความสนใจกับอุปกรณ์มือถือมากขึ้น รวมทั้งมีการใช้งานบางประเภทที่ได้รับความนิยมสูงสุด

“ปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อแท็บเล็ต คือ เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ททั่วไป เพราะขนาดที่เหมาะแก่การพกพา และซื้อเพื่อใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค ในขณะที่ปัจจัยหลักในการใช้ คือ เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ททั่วไป เพื่อเข้าถึงบริการด้านการบันเทิง และเพื่อรับข้อมูลอย่างทันต่อเหตุการณ์” นาย Afrizal Abdul Rahim หัวหน้าศูนย์ ConsumerLab แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกลุ่มประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก กล่าว

ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยให้ข้อมูลว่า ในปัจจุบันพวกเขาใช้สมาร์ทโฟนเพื่อใช้บริการ voice, SMS, และอินเตอร์เน็ททั่วไป เป็นส่วนใหญ่ แต่การใช้งานประเภทอื่นๆ เช่น การโทรศัพท์แบบเห็นหน้า (video calling), push to talk และ การแปลงเสียงเป็นข้อความ (speech-to-text) เป็นสิ่งที่น่าสนใจ และน่าจะเติบโตได้ดีที่สุดในอนาคต

สำหรับแอ็พพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด และสร้างแรงผลักดันให้ตลาดสื่อสารข้อมูลบนมือถือ ได้แก่ ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ตามด้วยเกมส์ และการค้นหาข้อมูลทั่วไป

และเมื่อถูกถามว่าพวกเขาใช้แอ็พพลิเคชั่นบ่อยแค่ไหน ผู้ตอบแบบสอบถาม 15 เปอร์เซ็นต์ ให้ข้อมูลว่าพวกเขาใช้หลายครั้งต่อวัน, 14 เปอร์เซ็นต์ใช้อย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อวัน, และ 29 เปอร์เซ็นต์ใช้วันละหนึ่งครั้ง

เมื่อศึกษาถึงแอ็พพลิเคชั่นและการดาวน์โหลดที่น่าจะเป็นที่นิยมในอนาคต พบว่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารยังคงเป็นที่นิยมสูงสุด ตามด้วยรายการทีวี และวีดีโอที่ขึ้นมาอยู่เป็นอันดับสาม

การแสดงความสนใจในแอ็พพลิเคชั่นเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวไทยยังคงให้ความสำคัญกับบริการด้านการสื่อสารและเอ็นเตอร์เทนเมนท์เป็นหลัก ซึ่งผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า ผู้ให้บริการเครือข่ายและผู้ให้บริการด้านการบันเทิง ควรให้ความสำคัญและเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้มากขึ้น

“สำหรับผู้ให้บริการเครือข่าย ผลการสำรวจนี้ถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการวางแผนพัฒนาโครงข่าย ซึ่งต้องรองรับการเจริญเติบโตของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต รวมทั้งแสดงให้เห็นประเภทของการใช้งานและบริการอันเป็นที่นิยมสำหรับการสื่อสารข้อมูลบนมือถือ และสำหรับผู้ค้าปลีก ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นถึงเหตุผลหลักในการตัดสินใจซื้ออุปกรณ์สื่อสารต่างๆอีกด้วย” นาย Afrizal กล่าว

เป็นที่คาดการณ์กันว่าโปรโมชั่นแบบเติมเงิน จะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการใช้งานสมาร์ทโฟนในประเทศไทยให้สูงขึ้น “ความคุ้มค่าของบริการถือเป็นสิ่งที่ลูกค้าในตลาดเติมเงินให้ความสำคัญมาก ดังนั้นโปรโมชั่นที่เหมาะสมจึงควรเป็นแพ็คเกจขนาดเล็ก กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในตลาดเติมเงินที่มี ARPU ต่ำนั้น คือการเสนอแพ็คเกจที่หลากหลาย ตรงกับลักษณะการใช้งานของลูกค้าให้มากที่สุด และในขณะเดียวกันต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสามารถควบคุมการใช้จ่ายของตนเองได้ การแบ่งกลุ่มลูกค้าอย่างเหมาะสม และการสร้างพันธมิตรกับ content provider ถือเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนให้มีการใช้อินเตอร์เน็ทบนมือถือเพิ่มมากยิ่งขึ้น” นาย Afrizal กล่าว

นาย Joacim Damgard ประธานอีริคสันประเทศไทย กล่าวด้วยว่า “ผลการวิจัยนี้ยังแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของตลาดในอนาคตจะถูกผลักดันโดยการใช้อินเตอร์เน็ทบนมือถือ และเหล่าผู้ให้บริการจะเตรียมพร้อมรับมือกับตลาดที่เติบโตรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร”

“ผู้ให้บริการต้องพร้อมพัฒนาเครือข่ายให้เหมาะสมกับการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน ขยายพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณอย่างเพียงพอ เพื่อให้บริการได้ด้วยความเร็วสูงและมีเสถียรภาพ รวมทั้งต้องสามารถรองรับการเติบโตที่รวดเร็วของการใช้งานอินเตอร์เน็ทบนมือถือ ซึ่งถูกผลักดันด้วยบริการแบบ non-voice ประเภทต่างๆ” นาย Joacim กล่าว

หมายเหตุ

Ericsson ConsumerLab ได้ทำการศึกษาแบบตัวต่อตัวกับกลุ่มตัวอย่างในประเทศไทย อายุ 16-60 ปี ซึ่งถือเป็นตัวแทนของประชากรจำนวน 16.8 ล้านคนในทางสถิติ นี่เป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจโดย TNS ในกว่า 58 ประเทศ กับกลุ่มตัวอย่างรวมทั้งหมดถึง 47,577 คน Ericsson ConsumerLab มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ในการศึกษาพฤติกรรมและการให้คุณค่า รวมไปถึงวิธีการแสดงออกและความคิดของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการ ICT ประเภทต่างๆ Ericsson ConsumerLab ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและผู้บริโภคอีกด้วย

Ericsson ConsumerLab ได้รับความรู้จากการศึกษาผู้บริโภคทั่วโลก โดยการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างกว่า 100, คน ในกว่า 40 ประเทศ และในมหานครกว่า 15 แห่ง ในแต่ละปี ซึ่งถือเป็นตัวแทนประชากรกว่า 1.1 พันล้านคนในเชิงสถิติ มีการศึกษาทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ และได้ใช้เวลานับร้อยๆชั่วโมงในการสัมภาษณ์ใกล้ชิดกับผู้บริโภคจากหลากหลายวัฒนธรรม

และเพื่อให้เรามีความใกล้ชิดกับตลาดและผู้บริโภค Ericsson ConsumerLab จึงมีนักวิเคราะห์ในเกือบทุกภูมิภาคที่มีอีริคสันอยู่ ซึ่งทำให้เรามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดและโมเดลของธุรกิจ ICT ทั่วโลก

View :1484

สถาบันดูแลสายตา ดิ ออฟโต เผย สมาร์ท โฟน แท็ปเลต คอมพิวเตอร์ ทำเด็กไทยมีปัญหาสายตาเพิ่ม 30 %

August 30th, 2012 No comments

สถาบันดูแลสายตา ดิ ออฟโต เผย ทำเด็กไทยมีปัญหาสายตาเพิ่ม 30 % แนะผู้ปกครองควรแนะนำและจำกัดเวลาการใช้งาน พร้อมเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ OK Lens คอนแทคเลนส์แก้ไขค่าสายตาขณะหลับ เมื่อถอดออกสามารถใช้สายตาปกติได้ โดยไม่ต้องใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ครั้งแรกของเมืองไทย

สถาบันดูแลสายตา ดิ ออฟโต เตือนผู้ปกครองควรดูแลการใช้งาน สมาร์ท โฟน แท็ปเลต คอมพิวเตอร์ ของเด็กและเยาวชนหลังพบเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรค คอมพิวเตอร์ วิชั่น ซินโดรม (Computer Vision Syndrome) ทำให้มีปัญหาด้านสายตาเพิ่ม 30% โดยเฉพาะในกลุ่ม 10-15 ปี จากใช้งานไม่ถูกวิธีและใช้งานนานเกินไป ล่าสุดสถาบันดูแลสายตา ดิ ออฟโต เปิดเทคโนโลยีการรักษาแบบใหม่ด้วย โอเค เลนส์ (OK Lens) คอนแทคเลนส์แก้ไขค่าสายตาขณะหลับครั้งแรกของเมืองไทย ซึ่งเมื่อถอดออกตอนตื่นนอนจะทำให้ผู้มีปัญหาด้านสายตาสามารถใช้ชีวิตปกติได้โดยไม่ต้องใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์

ดร. ชุลีพร ชมพัฒน์ นักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาจาก สถาบันสุขภาพด้านสายตา ดิ ออฟโต เปิดเผยถึงปัญหาเด็กและเยาวชนมีปัญหาด้านสายตาเพิ่มขึ้นว่า ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปมีการใช้งานอุปกรณ์ที่ต้องใช้สายตามากขึ้น ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ท โฟน แท็ปเลต และคอมพิวเตอร์ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้หากมีการใช้งานนานหรือมากเกินไป จะส่งผลกระทบต่อระบบของการกลอกตา ระบบกล้ามเนื้อและประสาท ทำให้เกิดอาการดวงตาล้า ดวงตาตึงเครียด ตาช้ำ ตาแดง แสบ นอกจากนั้นผู้ที่ใช้อุปกรณ์เหล่านี้นานๆ มักเกิดการลืมกระพริบตาโดยไม่รู้ตัว จากปกติคนเรากระพริบตา 12-15 ครั้งต่อนาที จะลดลงเหลือ 7-8 ครั้งต่อนาที ซึ่งการที่กระพริบตาน้อยลงอาจทำให้เกิดอาการตาแห้งจนเยื่อตาฉีกขาด เนื่องจากสารหล่อลื่นที่ช่วยปกป้องพื้นผิวของตาทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ปัจจุบันพบว่ากลุ่มเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรค คอมพิวเตอร์ วิชั่น ซินโดรม ทำให้เกิดปัญหาด้านสายตาเพิ่มขึ้นถึง 30 % โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 10-15 ปี ซึ่งทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ท โฟน แท็ปเลต และคอมพิวเตอร์ แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน เสริมสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชนที่นับวันจะมีความสำคัญและใช้กันแพร่หลายมากขึ้น แต่ผู้ปกครองและครูก็ควรมีการจำกัดระยะเวลาการใช้และให้ความรู้ในการใช้งานอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพสายตาของเด็กและเยาวชน

สำหรับความก้าวหน้าในการรักษาผู้มีปัญหาด้านสายตาปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก โดยล่าสุดสถาบันสุขภาพด้านสายตา ดิ ออฟโต ได้นำเทคโนโลยีใหม่ของโลกเข้ามาให้การรักษาแก่ผู้มีปัญหาด้านสายตา เทคโนโลยีใหม่นี้มีชื่อว่า โอเค เลนส์ (OK Leans) เป็นคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษที่สามารถปรับโค้งตาในขณะที่ผู้มีปัญหาด้านสายตานอนหลับ และ ถอดออกหลังตื่นนอนจะทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนไม่ต้องใช้คอนแทคเลนส์ หรือ แว่นตาหลังจากตื่นนอนอีก โดยผู้ที่ต้องการแก้ไขค่าสายตาด้วยวิธีนี้จะต้องได้รับการตรวจจากนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญของสถาบันฯ ก่อน จากนั้นจะต้องทำการตรวจวิเคราะห์ค่าสายตาอย่างละเอียด เพื่อที่นักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญจะได้เลือก โอเค เลนส์ ที่มีความเหมาะสมให้แก่ผู้เข้ารับการรักษานำกลับไปใช้งาน

ซึ่งการแก้ไขค่าสายตาด้วย โอเค เลนส์ นั้น ถือว่าเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูงและสะดวก เนื่องจากระบบเส้นประสาทรับความรู้สึกจะไม่ถูกทำลายด้วยเลเซอร์และไม่ทำให้กระจกตาบางลงเหมือนการรักษาบางชนิด ทั้งยังไม่มีข้อจำกัดด้านอายุของผู้ที่ต้องการแก้ไขค่าสายตา รวมถึงค่าใช้จ่ายของการรักษาด้วย โอเค เลนส์ ยังมีราคาถูกว่าการทำเลสิกถึง 3 เท่า ดังนั้นเทคโนโลยีการแก้ไขค่าสายตา ด้วย โอเค เลนส์ จึงเป็นวิธีการใหม่ในการแก้ไขค่าสายตาที่ปลอดภัยพและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาว่า เป็นวิธีการรักษาปัญหาด้านสายตาโดยไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทำให้เกิดอาการตาแห้งจากการใส่คอนแทคเลนส์ สามารถช่วยหยุดหรือชะลอสายตาสั้นเพิ่มขึ้นได้ สำหรับกลุ่มที่เหมาะสมกับการใช้วิธีรักษาด้วย โอเค เลนส์ นั้นจะเป็นกลุ่ม

- กลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ที่มีปัญหาด้านสายตาและไม่สะดวกในการใส่แว่นตา หรือ คอนแทคเลนส์

- กลุ่มผู้อยู่ในอาชีพที่ไม่เหมาะกับการใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ อาทิ นักบิน ทหาร ตำรวจ แอร์โอสเตส นักผจญเพลิง ฯลฯ

- กลุ่มผู้มีกิจกรรมที่ไม่สะดวกในการใส่แวนตาหรือคอนแทคเลนส์ อาทิ นักกีฬาชนิดต่างๆ เช่น ฟุตบอล รับบี้ บาสเกตบอล ยิงปืน ว่ายน้ำ มวย ฯลฯ

- ผู้ที่มีสายตา สั้น ยาว หรือ เอียง ที่ไม่ต้องการใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ในเวลากลางวัน

- กลุ่มผู้ที่เลิกใส่คอนแทคเลนส์จากปัญหาตาแห้งหรือไม่สบายตา และ กลุ่มผู้ที่มีสายตาสั้นเพิ่มขึ้นทุกปี

- กลุ่มผู้ต้องการทำเลสิก แต่จักษุแพทน์แนะนำว่ายังไม่ควรทำ เช่น ผู้ที่มีค่าสายตายังไม่คงที่ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ผู้ที่มีค่าสายตาน้อย หรือ ในกรณีอื่นๆ

View :1566

เอไอเอส เปิดให้จอง Samsung Galaxy Note 10.1 ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป ทาง www.ais.co.th/onlineshopping

August 22nd, 2012 No comments


นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ อาวุโส สายงานการตลาด และ การขาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวถึงกระแสของ Smart Device ที่กำลังมาแรงว่า “ในครึ่งปีหลังคาดว่ากระแสของ Smart Device และ Smart Phone จะยังคงแรงต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาราว 55% ทั้งนี้นโยบายของเอไอเอส คือ มอบบริการที่ดีที่สุดภายใต้แนวคิด Quality DNAs ที่ตอบโจทย์อย่างชัดเจนมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความต้องการ Device คุณภาพที่มาพร้อมสุดยอด Content – Application และ Package ที่มาพร้อมบริการหลังการขายที่ช่วยทำให้ไม่ต้องกังวลกับการใช้งาน Smart Device หลายเครื่อง”

ล่าสุดจากความสำเร็จของการเปิดตลาด Tablet ในประเทศไทย ที่เอไอเอส ได้ร่วมกับ Samsung เป็นรายแรกในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา รวมถึงความสำเร็จของ Samsung Galaxy Note รุ่นแรก เราจึงพร้อมที่จะเปิดให้ลูกค้าเอไอเอสสัมผัสพร้อมจอง ที่เหล่าสาวกชาวไทยเฝ้ารอคอยได้ก่อนใคร โดยรับเงื่อนไขสุดพิเศษ ดังนี้

1. เมื่อสมัครแพ็คเกจดาต้า Samsung Galaxy Note 10.1 ทั้งโปรโมชั่นหลักและแพ็ค เสริม 399 บาท ใช้บริการ AIS 3G/EDGE+ 3GB นาน 12 เดือน พร้อม
- รับฟรี Application AIS Guide & Go แผนที่นำทางอัจฉริยะที่เชื่อมต่อ Social Network ครั้งแรกของโลก นาน 12 เดือน
- รับฟรี e-magazine และ e-newspaper จาก AIS BookStore นาน 6 เดือน รวม 876 เล่ม มูลค่า 23, บาท

2. สมัคร Multi SIM บริการ 1 เบอร์ หลายซิม เพียงเดือนละ 200 บาท (จากปกติ 300 บาท) นาน 6 เดือน พร้อมใช้งาน 3G เพิ่ม 1 GB พิเศษ สำหรับลูกค้าที่ใช้ iSmart Package (Pack data Unlimited)

สาวก Smart Device เตรียมจองเพื่อรับความพิเศษจากเอไอเอส ที่มาพร้อมสุดยอด Smart Device ระดับโลก อย่าง Samsung Galaxy Note 10.1 ได้ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป ทาง www.ais.co.th/onlineshopping

View :1684

ซินเน็คฯ ชูสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต บุกตลาดครึ่งปีหลังรับเทรนด์ใหม่ลูกค้าหันใช้สินค้าไฮเทคเพิ่มขึ้น

August 15th, 2012 No comments

“สุพันธุ์ มงคลสุธี” เผยครึ่งปีหลัง เตรียมใช้สินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ ในกลุ่มสมาร์ทโฟน ช่วยขยายตลาด หลังพบลูกค้าเปลี่ยนเทรนด์หันมาใช้สินค้าไฮเทคเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มโน้ตบุ๊คได้ Windows 8 ช่วยกระตุ้นมั่นใจยอดขายโตได้ต่อเนื่อง คาดทั้งปีรายได้ยังโตกว่าอุตสาหกรรม

สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ระบบสารสนเทศและอุปกรณ์ไอที รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่าในครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะหันมาขยายตลาดอุปกรณ์ไอทีในกลุ่มสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เพิ่มมากขึ้น หลังจากพบว่าปัจจุบันลูกค้าหันมาใช้สินค้าไฮเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ด้วยการเพิ่มความหลากหลายให้กับตัวสินค้า โดยเฉพาะสินค้าใหม่ ๆ ที่พัฒนาตามเทคโนโลยีที่สูงขึ้น เพื่อรองรับให้ทันกับทุกความต้องการของลูกค้า
“ปัจจุบันเทรนด์การใช้สินค้าและอุปกรณ์ไอทีได้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยพบว่าลูกค้าหันมานิยมใช้สินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น และส่งผลต่อเนื่องให้ตลาดโน้ตบุ๊คชะลอตัวลง ซินเน็คฯ จึงได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการหันมาทำตลาดสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตเพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกันเทรนด์ของลูกค้า แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามกระตุ้นความต้องการของลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตลาดเติบโตควบคู่ไปกับกลุ่มสินค้าไฮเทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้ซอฟต์แวร์ล่าสุดอย่าง Windows 8 จะออกมาทำตลาดเพิ่มคาดว่าจะกระตุ้นอุตสาหกรรมไอทีให้กลับมาคึกคักได้ โดยเฉพาะตลาดโน้ตบุ๊ค”
นายสุพันธุ์กล่าวอีกว่า การปรับตัวให้สอดคล้องกันสถานการณ์อย่างต่อเนื่องของซินเน็คฯ มั่นใจว่าจะสามารถผลักดันผลประกอบการในครึ่งปีหลังนี้ให้กลับมาเติบโตได้สูงกว่าครึ่งปีแรกได้สำเร็จ และจะผลักดันให้ผลประกอบการทั้งปีเติบโตกว่าปี 2554 ได้เช่นเดียวกัน โดยในปี 2554 ที่ผ่านมา ซินเน็คฯ มีรายได้รวม 20,268.55 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 376.98 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน คาดว่าจะยังรักษาการเติบโตในอัตราที่สูงกว่าอุตสาหกรรมไอทีทั้งระบบเอาไว้ได้ หลังจากพบว่าภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีในปีนี้จะชะลอตัวลง ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และผลกระทบจากภาครัฐชะลอการใช้งบประมาณเกี่ยวกับไอที เนื่องจากรัฐบาลต้องเร่งใส่งบประมาณไปสู่การฟื้นฟูหลังอุทกภัยครั้งใหญ่เป็นกรณีเร่งด่วนก่อน จึงคาดว่าปีนี้ภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีจะเติบโตลดลงประมาณ 1-2% จากเดิมที่คาดว่าจะโตในอัตรา 12%

ทั้งนี้ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำงวด 3 เดือน (เมษายน-มิถุนายน 2555) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 80.15 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2554 ที่ทำได้ 107.64 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมไอที ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการขยายตัวลดลงของกลุ่มสินค้าโน้ตบุ๊ค

View :1399

ก.ไอซีที ส่งมอบหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานของไทยให้ ก.ศึกษาธิการ

June 1st, 2012 No comments

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีส่งมอบหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานของประเทศไทย ว่า กระทรวงไอซีที ได้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานให้เหมาะสมกับประเทศไทย ตามนโยบายหลักของกระทรวงฯ ที่มุ่งหวังให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ สามารถแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ โดยกระทรวงฯ ได้จัดทำหลักสูตรดังกล่าวแล้วเสร็จ และพร้อมทำการเผยแพร่หลักสูตรฯ นี้ให้ทั่วถึงในวงกว้าง เพื่อใช้ยกระดับความรู้และพัฒนาการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีในอาเซียนอีกทางหนึ่ง

ดังนั้น เพื่อให้การเผยแพร่หลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานของประเทศไทยที่ได้พัฒนาในครั้งนี้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กระทรวงฯ จึงได้จัดให้มีพิธีส่งมอบหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตขั้นพื้นฐานของประเทศไทย ให้กับหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อช่วยกันเผยแพร่หลักสูตรที่ได้ดำเนินการพัฒนาแล้วออกไปสู่ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป

ด้าน นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า การพัฒนามาตรฐานหลักสูตรการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตนี้ เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญในการดำเนินการเป็นอย่างยิ่ง เพื่อยกระดับการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล รวมทั้งยังสามารถต่อยอดการเรียนรู้ได้อย่างไม่รู้จบ โดยสามารถนำไปใช้ได้ทั้งกับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย

“ในการพัฒนาหลักสูตรฯ ครั้งนี้ ได้มีการศึกษาหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำมาเปรียบเทียบและปรับปรุงให้เหมาะสมกับสังคมไทย โดยได้รับการอนุเคราะห์จากบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิ ในการวิพากษ์เนื้อหาหลักสูตรคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต เพื่อให้เหมาะสมกับสังคมไทย ได้แก่ 1. รองศาสตราจารย์ ดร. ครรชิต มาลัยวงศ์ ราชบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ 2. รองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ 3. รองศาสตราจารย์ ดร.มนต์ชัย เทียนทอง คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 4. รองศาสตราจารย์ ดร.พูลพงษ์ บุญพราหมณ์ คณบดีสำนักวิชาสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปานใจ ธารทัศนวงศ์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร 6. ดร.ยรรยง เต็งอำนวย ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 7. น.ส.นารี วงศ์สิโรจน์กุล ที่ปรึกษาผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) 8. ดร.ประสบโชค ประมงกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) 9. นายอริยะ พนมพยงค์ ผู้จัดการบริษัท Google ประจำประเทศไทย และนายพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล อาจารย์โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย และเว็บมาสเตอร์ www.thaigoodview.com” นายสมบูรณ์ กล่าว

View :1623
Categories: ebook, Tablet Tags:

ดีแทคตอกย้ำความแรงของ The New iPad ขยายจุดจำหน่ายเพิ่มอีก 170 แห่งทั่วประเทศ

May 31st, 2012 No comments

ดีแทคจัดทีมจำหน่าย ใหม่ ขยายเคาน์เตอร์ตอบรับกระแสความต้องการใช้งานของลูกค้า เดินหน้าขยายจุดจำหน่ายออกไปอีก 170 แห่งทั่วประเทศ เผยเพิ่มจุดขายให้ลูกค้าทุกภาคสามารถซื้อ พร้อมโปรโมชั่น 0% 10 เดือน และใช้งาน 3G และ wifi แบบไม่จำกัดนาน 1 ปี ได้

นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า The New iPad จากดีแทคได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่ช่วงการเปิดจองโดยดีแทคได้จัดส่งเครื่องให้ลูกค้าครบถ้วนไปแล้วก่อนหน้านี้ วันนี้เรามีความพร้อมมากยิ่งขึ้นที่จะบริการลูกค้าให้กว้างขวางออกไปทั่วประเทศทั้งในด้านของสินค้าและทีมงาน เราจึงเปิดจุดจำหน่าย The New iPad เพิ่มอีกเป็น 170 แห่งให้ลูกค้าในหลายจังหวัดมีโอกาสได้ทดลองใช้แท็บเล็ตยอดนิยมและเป็นเจ้าของได้สะดวกขึ้น ลูกค้าจะได้รับข้อมูลการใช้งานจากทีมงานที่คอยให้คำแนะนำประจำในสาขาต่าง ๆ เป็นอย่างดี รวมทั้งเรายังคงข้อเสนอพิเศษผ่อน 0% นาน 10 เดือนไว้ให้บริการแก่ลูกค้าด้วย

ลูกค้าที่สนใจ The New iPad จากดีแทค สามารถซื้อสินค้าได้แล้วที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทค และดีแทคเซ็นเตอร์ทั้ง 170 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเลือกแพ็กเกจได้ตามลักษณะการใช้งาน ประกอบด้วย บริการซิมเสริมที่ให้ลูกค้าใช้งาน dtac 3G และ dtac wifi ได้ไม่จำกัดนานสูงสุด 1 ปี หรือเปิดซิมใหม่ด้วยแพ็กเกจ iPad 550 Unlimited สำหรับลูกค้าที่ใช้งานน้อย สามารถเลือกแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่อื่นๆ มีค่าบริการเริ่มต้นเพียง199 บาทต่อเดือน พร้อมรับ dtac wifi ฟรี 6 เดือน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จุดจำหน่าย The New iPad ของดีแทคทั่วประเทศ หรือที่ www.dtac.co.th

View :1592
Categories: Gadgets, Tablet Tags: ,

ภาพรมว.ไอซีทีนำชมขั้นตอนการทดสอบแท็บเล็ต

May 25th, 2012 No comments
View :1346

ทรูมูฟ เอช ส่ง The New iPad ล็อตใหม่ เข้าทรูช็อปทั่วประเทศ

May 10th, 2012 No comments

ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ หัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ การขาย และรีเทล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น

ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ หัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ การขาย และรีเทล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ ประกาศความสำเร็จจากงานจำหน่าย รายแรกในไทย ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ ก่อนใคร และจำหน่ายหมดล็อตแรกตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมานั้น เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในการจัดจำหน่าย Gadget สุดล้ำจาก Apple ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจเลือกใช้ บนเครือข่ายทรูมูฟ เอช 3G+ ที่ใช้ได้จริงแล้ววันนี้ ทั่วประเทศ รวมถึงความโดดเด่นในเรื่องบริการหลังการขาย ด้วยทีมพิเศษ IT Friends ที่จะให้คำปรึกษา คำแนะนำ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนต่างๆ และในวันนี้ ล็อตใหม่พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าที่สั่งจองไว้ รวมถึงลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อซื้อได้ที่ทรูช็อปทั่วประเทศ ไม่ต้องรอคอยอีกต่อไป”

ลูกค้าที่สั่งจอง The New iPad แล้ว สามารถรับเครื่องได้ตามสาขาที่เลือกไว้ ผู้สนใจหาซื้อได้ที่ทรูช็อปทั่วประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove-h.com

View :1733

ก.ไอซีที ลงนามจัดซื้อแท็บเล็ต 1,000,000 เครื่อง จาก เสิ่นเจิ้น สโคปฯ

May 10th, 2012 No comments


นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยในการแถลงข่าว ภายหลังพิธีลงนามสัญญาจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา () ภายใต้โครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์พกพาระหว่างกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กับ บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลอปเมนต์ จำกัด (Shenzhen Scope Scientific Development Co.,Ltd) ว่า รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยความร่วมมือเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมถึงการพัฒนาการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรบุคคลในประเทศไทยโดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทผ่านการส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอุปกรณ์การศึกษาที่ทันสมัย เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา ()

ขณะเดียวกันรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ 23 สิงหาคม 2554 โดยมีนโยบายหนึ่งที่จะเริ่มดำเนินการอย่างเร่งด่วนในปีแรก คือ การจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่โรงเรียน โดยเริ่มทดลองดำเนินการในโรงเรียนนำร่องสำหรับระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา พ.ศ. 2555 ควบคู่กับการเร่งพัฒนาเนื้อหาที่เหมาะสม ตามหลักสูตรบรรจุลงในคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต รวมทั้งจัดทำระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายตามมาตรฐานการให้บริการในสถานศึกษาที่กำหนดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ดังนั้น คณะรัฐมนตรีจึงมติเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นผู้ดำเนินการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จัดวางระบบเครือข่าย Wi – Fi จัดทำระบบบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ และการวางระบบความปลอดภัยในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) โดยมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตร สื่อการเรียนการสอน การพัฒนาบุคลากร และสร้างความเข้าใจ เพื่อการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต)

และภายหลังการดำเนินการจัดหา กระทรวงไอซีที ได้นำเสนอแนวทางการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 อนุมัติการจัดซื้อจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน บนพื้นฐานของบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนดังกล่าวข้างต้น โดยรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนได้แนะนำบริษัทผู้ส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ที่มีคุณภาพของประเทศจีน เพื่อให้ผู้ซื้อเลือกหนึ่งบริษัทจากกลุ่มบริษัทเหล่านี้ในการจัดหาและการส่งมอบเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต)มายัง ประเทศไทย

“กระทรวงไอซีที ได้ตกลงที่จะจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จากบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลอปเมนต์ จำกัด ซึ่งเป็น 1 ใน 4 บริษัทที่รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนแนะนำ ซึ่งการลงนามครั้งนี้มีเงื่อนไขที่จะสั่งซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) จำนวนทั้งสิ้น 400, ( สี่แสน) เครื่อง มูลค่าทั้งหมดจำนวน USD 32,800, (สามสิบสองล้านแปดแสนดอลลาร์สหรัฐ) มีกำหนดให้ส่งมอบภายใน 60 วัน และจะมีการซื้อเพิ่มเติม (Repeat order) โดยทำคำสั่งซื้อเพิ่มเติมสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) อีกจำนวนไม่เกิน 1,,000 (หนึ่งล้าน) เครื่องต่อไป” นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ กล่าว

สำหรับคุณลักษณะของเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ที่ บริษัท เสนอมานั้น คือ มีหน่วยประมวลผลกลางมีความเร็วสัญญาณนาฬิกา (Clock speed) 1.2 GHz มีหน่วยความจำหลัก (RAM) จำนวน 1 GB ใช้แบตเตอรี่ชนิด Lithium Polymer ขนาดความจุ 3600 mAh มีการรับประกันเป็นระยะเวลา 2 ปี

View :1795

ทรูมูฟ เอช เปิดจำหน่าย The New iPad ในไทย เวลา 0.00 น. 27 เมษายน

April 27th, 2012 No comments

นำโดย นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมคณะผู้บริหาร ประกาศศักดาผู้นำบริการ 3G และผู้จำหน่าย Gadget สุดล้ำของ Apple ตัวจริงเสียงจริง จัดงานจำหน่าย ในไทยอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง มอบอิสระตามสไตล์ FreeYou ที่เหนือกว่าทั้งคุณภาพเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย HSPA+ ด้วยความเร็วสูงสุด 42 Mbps* เต็มอิ่มกับหลากหลายเอ็กซ์คลูซีฟไลฟ์สไตล์คอนเทนต์ระดับโลกคุณภาพระดับ HD และโปรโมชั่นแรงสุดๆ เฉพาะลูกค้าทรูมูฟ เอช เท่านั้น โดยมีสาวก iPad เข้าคิวรอเป็นเจ้าของ กันอย่างล้นหลาม โดยทรูมูฟ เอช เปิดจำหน่ายล็อตแรกในเวลา 0.00 น. วันที่ 27 เมษายน ณ ทรู สเตเดี้ยม สยามพารากอน

ทรูมูฟ เอช ชู 3 จุดเด่น คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับ The New iPad ดังนี้

1. คุณภาพเครือข่าย 3G+ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย HSPA+ ที่เร็วและแรงกว่า ด้วยความเร็วสูงสุด
42 Mbps* ที่ใช้ได้จริงวันนี้ ครอบคลุมครบ 77 จังหวัด 843 อำเภอ 5,158 ตำบล และจะครบ 928 อำเภอ 7,235 ตำบล 71,567 หมู่บ้าน ภายในสิ้นปีนี้ และบริการ WiFi ความเร็วสูงสุด 100 Mbps* ครอบคลุม 100, จุด ในไทยกลางปีนี้ และมากกว่า 200, จุด ในต่างประเทศ

2. ความครบครันของเอ็กซ์คลูซีฟไลฟ์สไตล์คอนเทนต์ระดับโลก โดนใจคนรุ่นใหม่ ทั้งคอนเทนต์ทีวีคุณภาพระดับ HD จาก H TV คอนเทนต์เพลง จาก H MUSIC รวมถึง เกม ช้อปปิ้ง อี-บุ๊ค และอื่นๆ

3. โปรโมชั่นแรง! พิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนสั่งซื้อเครื่อง The New iPad จากทรูมูฟ เอช และรับเครื่องในงาน รับสิทธิ์เลือกซื้อ

· The New iPad รุ่น WiFi + 4G ความจุ 64 GB เฉพาะ 300 คนแรก ในราคาเพียง 50% พร้อมผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงค์ หรือผ่อน 0% นาน 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ เมื่อซื้อเครื่องพร้อมจดทะเบียนรายเดือนเบอร์ใหม่ แพ็กเกจ Net(i) 899 บาท พร้อมจ่ายค่าบริการรายเดือนล่วงหน้า 7 เดือน และใช้บริการนาน 18 เดือนต่อเนื่องกัน

· รับส่วนลดค่าเครื่องทันที 2,000 บาท พร้อมผ่อน 0% นาน 10 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือผ่อนสบายๆ นาน 24 เดือน ผ่านบัตรซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต เมื่อซื้อเครื่องพร้อมจดทะเบียนรายเดือนเบอร์ใหม่ หรือทำการย้ายค่ายมาเป็นทรูมูฟ เอช สำเร็จแล้ว พร้อมสมัครแพ็กเกจ iPad หรือ Net(i) ใดๆ ก็ได้ พิเศษรับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นาน 4 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจ Net (i) 899 บาท

· สำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องเปล่า สามารถผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือนผ่านบัตรซิตี้แบงค์ หรือผ่อน 0% นาน 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

· สำหรับลูกค้าทุกคนที่ผ่อน 0% กับบัตรซิตี้แบงค์ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20%

นอกจากนี้ ทรูมูฟ เอช ยังมอบสิทธิพิเศษให้เป็นเจ้าของ The New iPad ได้ที่ร้านทรูช็อป ทั่วประเทศ ดังนี้

· สำหรับผู้ถือบัตรทรูการ์ด รับส่วนลดค่าเครื่อง 2,000 บาท พร้อมผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือผ่อนสบายๆ นานสูงสุด 24 เดือน ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต เมื่อซื้อเครื่องพร้อมจดทะเบียนรายเดือนเบอร์ใหม่และสมัครแพ็กเกจ iPad หรือ Net(i) แพ็กเกจใดก็ได้ และใช้บริการนาน 3 เดือนต่อเนื่องกัน และพิเศษ! รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นาน 4 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจ Net(i) 899

· สำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็กเกจ iPad หรือ Net(i) รับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ หรือผ่อนสบายๆ นาน 24 เดือน ผ่านบัตรซิตี้แบงค์เรดดี้เครดิต และพิเศษ! รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% นาน 4 เดือน เมื่อสมัครแพ็กเกจ Net(i) 899

· สำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องเปล่า รับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตซิตี้แบงค์ หรือผ่อน 0% นาน 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

ผู้สนใจสามารถซื้อ The New iPad พร้อมรับสิทธิพิเศษจากทรูมูฟ เอช ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2555 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove-h.com

* ความเร็วในการใช้บริการ 3G+ ด้วยเทคโนโลยี HSPA+ ขึ้นอยู่กับปริมาณผู้ใช้งาน ณ จุดที่ใช้งานและอุปกรณ์ที่รองรับ

** ความยาวนานในการใช้งานแบตเตอรี่จะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าอุปกรณ์ การใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ

*** 4G LTE ให้บริการบนเครือข่าย AT&T และ Verizon ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงเครือข่าย Bell, Rogers และ Telus ในแคนาดา แพ็กเกจดาต้าจำหน่ายแยกต่างหาก

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad สามารถค้นหาได้ที่ www.apple.com/ipad

View :1612